• 433 ปี ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย ศึกแห่งเกียรติยศขององค์ดำ-องค์ขาว 🇹🇭🐘

    ย้อนไปเมื่อ 433 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ไทย ต้องจารึกไว้ด้วยความภาคภูมิใจ นั่นคือเหตุการณ์ “ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย” ที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พระองค์ดำ) และสมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว) ในการต่อสู้กับทัพพม่า ณ ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    สงครามครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้ เพื่ออาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึง ศักดิ์ศรีของพระมหากษัตริย์ไทย ผู้ยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และประชาชนชาวไทย การยุทธหัตถีครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่ยังคงมีการเล่าขาน และรำลึกถึงจนถึงทุกวันนี้

    สงครามบนหลังช้างที่สะท้อนศักดิ์ศรี
    ยุทธหัตถี หมายถึง การทำสงครามบนหลังช้าง โดยผู้บัญชาการสูงสุด ของกองทัพทั้งสองฝ่าย จะเผชิญหน้ากันบนหลังช้างศึก เป็นการต่อสู้ ที่ต้องอาศัยทั้งความสามารถ การฝึกฝน ความกล้าหาญของกษัตริย์ และช้างศึก การชนช้างนี้ถือว่า เป็นการทำศึกที่มีเกียรติยศ และเป็นที่ยอมรับ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย พม่า และกัมพูชา

    ในยุคโบราณ ช้างถือว่าเป็นสัตว์คู่บารมี ของพระมหากษัตริย์ และเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ การทำยุทธหัตถี จึงไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ เพื่อชัยชนะทางการทหารเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความกล้าหาญและความสามารถของผู้ปกครอง ที่นำทัพด้วยตัวเอง

    สงครามยุทธหัตถีในปี พ.ศ. 2135 มีต้นเหตุจากการที่กรุงหงสาวดี (พม่า) มีความต้องการ จะยึดครองกรุงศรีอยุธยา พระเจ้านันทบุเรง ผู้ปกครองหงสาวดีในเวลานั้น จึงส่งกองทัพใหญ่กว่า 240,000 นาย นำโดย พระมหาอุปราชา (มังสามเกียด) และมางจาชโร เจ้าเมืองจาปะโร เข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยา

    พระองค์ดำทรงทราบถึง การเคลื่อนทัพของพม่า จึงทรงระดมกำลังพลหนึ่งแสนนาย และเตรียมการป้องกันเมือง พร้อมกับทรงออกคำประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ในปี พ.ศ. 2127 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการต่อต้านการปกครองของพม่า อย่างเต็มตัว

    เมื่อกองทัพของมังสามเกียด เคลื่อนมาถึงสุพรรณบุรี พระองค์ดำทรงนำทัพหลวงไปตั้งค่าย ที่ตำบลหนองสาหร่าย พร้อมกับพระองค์ขาว

    เช้าวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง องค์ดำและองค์ขาว ทรงเครื่องพิชัยยุทธเต็มยศ พร้อมด้วยช้างศึกทรง 2 เชือก คือ

    เจ้าพระยาไชยานุภาพ (พลายภูเขาทอง) ช้างทรงของพระองค์ดำ
    เจ้าพระยาปราบไตรจักร (พลายบุญเรือง) ช้างทรงของพระองค์ขาว

    ทั้งสองพระองค์ทรงนำช้างศึกเข้าสู่สนามรบ แต่ระหว่างที่เคลื่อนทัพเกิดความวุ่นวาย ทำให้ช้างทรงของทั้งสองพระองค์ หลุดเข้าไปในวงล้อมของทัพพม่า และเผชิญหน้ากับมังสามเกียด และมางจาชโร โดยตรง

    เผชิญหน้าบนหลังช้าง
    พระองค์ดำทรงเรียกท้ามังสามเกียด ซึ่งสนิทสนมกันตั้งแต่วัยพระเยาว์ เมื่อครั้งองค์ดำ ทรงเป็นองค์ประกัน อยู่ที่กรุงหงสาวดี ให้มาทำยุทธหัตถี ด้วยพระดำรัส ที่แสดงถึงความองอาจว่า

    “พระเจ้าพี่เรา จะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด”

    มังสามเกียดจึงไสช้าง เข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพ เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด เมื่อถึงจังหวะสำคัญ พระองค์ดำทรงใช้พระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ฟันเข้าที่พระอังสะขวา ของมังสามเกียด จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง

    ในขณะเดียวกัน พระองค์ขาวทรงฟันมางจาชโร จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้างเช่นกัน เป็นการปิดฉาก ศึกยุทธหัตถีอันยิ่งใหญ่

    ชัยชนะของพระองค์ดำ ในยุทธหัตถีครั้งนี้ ทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราชไว้ได้ และสร้างความเกรงขามให้แก่กรุงหงสาวดี จนไม่มีการรุกรานอีก เป็นเวลาหลายปี

    หลังสงคราม พระเจ้านันทบุเรงทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ที่ต้องสูญเสียพระราชโอรสไป ในศึกครั้งนี้ และกรุงศรีอยุธยาก็ได้สร้าง พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันสำคัญนี้

    ความสำคัญของยุทธหัตถี ในประวัติศาสตร์ไทย
    สัญลักษณ์ของเอกราช ยุทธหัตถีครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึง ความสามัคคีและการต่อสู้ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ

    พระปรีชาสามารถของกษัตริย์ไทย สมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถในการนำทัพ

    มรดกทางวัฒนธรรม การยุทธหัตถีได้กลายเป็นตำนาน ที่มีการเล่าขาน และเป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะ วรรณกรรม และภาพยนตร์

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยุทธหัตถี
    1. ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ไหน?
    ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    2. ช้างศึกคืออะไร?
    ช้างศึกคือช้างที่ได้รับการฝึกฝน เพื่อใช้ในการทำสงคราม มีลักษณะเด่นตามตำราคชลักษณ์

    3. ทำไมยุทธหัตถีถึงมีเกียรติ?
    เพราะเป็นการต่อสู้ ระหว่างกษัตริย์ทั้งสองฝ่าย อย่างตรงไปตรงมา และแสดงถึงความกล้าหาญ

    ยุทธหัตถีหนองสาหร่ายในปี พ.ศ. 2135 เป็นสงครามที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราช และศักดิ์ศรีของชาติไว้ได้

    เหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนไทย ในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และรักษาเกียรติภูมิของตน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180833 ม.ค. 2568

    #สมเด็จพระนเรศวร #ยุทธหัตถี #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามชนช้าง #กรุงศรีอยุธยา #ดอนเจดีย์ #หงสาวดี #ชาติไทย #วีรกรรมไทย #สงครามไทย

    🎉
    433 ปี ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย ศึกแห่งเกียรติยศขององค์ดำ-องค์ขาว 🇹🇭🐘 ย้อนไปเมื่อ 433 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ไทย ต้องจารึกไว้ด้วยความภาคภูมิใจ นั่นคือเหตุการณ์ “ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย” ที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พระองค์ดำ) และสมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว) ในการต่อสู้กับทัพพม่า ณ ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี สงครามครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้ เพื่ออาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึง ศักดิ์ศรีของพระมหากษัตริย์ไทย ผู้ยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และประชาชนชาวไทย การยุทธหัตถีครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่ยังคงมีการเล่าขาน และรำลึกถึงจนถึงทุกวันนี้ สงครามบนหลังช้างที่สะท้อนศักดิ์ศรี ยุทธหัตถี หมายถึง การทำสงครามบนหลังช้าง โดยผู้บัญชาการสูงสุด ของกองทัพทั้งสองฝ่าย จะเผชิญหน้ากันบนหลังช้างศึก เป็นการต่อสู้ ที่ต้องอาศัยทั้งความสามารถ การฝึกฝน ความกล้าหาญของกษัตริย์ และช้างศึก การชนช้างนี้ถือว่า เป็นการทำศึกที่มีเกียรติยศ และเป็นที่ยอมรับ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย พม่า และกัมพูชา ในยุคโบราณ ช้างถือว่าเป็นสัตว์คู่บารมี ของพระมหากษัตริย์ และเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ การทำยุทธหัตถี จึงไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ เพื่อชัยชนะทางการทหารเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความกล้าหาญและความสามารถของผู้ปกครอง ที่นำทัพด้วยตัวเอง สงครามยุทธหัตถีในปี พ.ศ. 2135 มีต้นเหตุจากการที่กรุงหงสาวดี (พม่า) มีความต้องการ จะยึดครองกรุงศรีอยุธยา พระเจ้านันทบุเรง ผู้ปกครองหงสาวดีในเวลานั้น จึงส่งกองทัพใหญ่กว่า 240,000 นาย นำโดย พระมหาอุปราชา (มังสามเกียด) และมางจาชโร เจ้าเมืองจาปะโร เข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยา พระองค์ดำทรงทราบถึง การเคลื่อนทัพของพม่า จึงทรงระดมกำลังพลหนึ่งแสนนาย และเตรียมการป้องกันเมือง พร้อมกับทรงออกคำประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ในปี พ.ศ. 2127 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการต่อต้านการปกครองของพม่า อย่างเต็มตัว เมื่อกองทัพของมังสามเกียด เคลื่อนมาถึงสุพรรณบุรี พระองค์ดำทรงนำทัพหลวงไปตั้งค่าย ที่ตำบลหนองสาหร่าย พร้อมกับพระองค์ขาว เช้าวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง องค์ดำและองค์ขาว ทรงเครื่องพิชัยยุทธเต็มยศ พร้อมด้วยช้างศึกทรง 2 เชือก คือ เจ้าพระยาไชยานุภาพ (พลายภูเขาทอง) ช้างทรงของพระองค์ดำ เจ้าพระยาปราบไตรจักร (พลายบุญเรือง) ช้างทรงของพระองค์ขาว ทั้งสองพระองค์ทรงนำช้างศึกเข้าสู่สนามรบ แต่ระหว่างที่เคลื่อนทัพเกิดความวุ่นวาย ทำให้ช้างทรงของทั้งสองพระองค์ หลุดเข้าไปในวงล้อมของทัพพม่า และเผชิญหน้ากับมังสามเกียด และมางจาชโร โดยตรง เผชิญหน้าบนหลังช้าง พระองค์ดำทรงเรียกท้ามังสามเกียด ซึ่งสนิทสนมกันตั้งแต่วัยพระเยาว์ เมื่อครั้งองค์ดำ ทรงเป็นองค์ประกัน อยู่ที่กรุงหงสาวดี ให้มาทำยุทธหัตถี ด้วยพระดำรัส ที่แสดงถึงความองอาจว่า “พระเจ้าพี่เรา จะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด” มังสามเกียดจึงไสช้าง เข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพ เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด เมื่อถึงจังหวะสำคัญ พระองค์ดำทรงใช้พระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ฟันเข้าที่พระอังสะขวา ของมังสามเกียด จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง ในขณะเดียวกัน พระองค์ขาวทรงฟันมางจาชโร จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้างเช่นกัน เป็นการปิดฉาก ศึกยุทธหัตถีอันยิ่งใหญ่ ชัยชนะของพระองค์ดำ ในยุทธหัตถีครั้งนี้ ทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราชไว้ได้ และสร้างความเกรงขามให้แก่กรุงหงสาวดี จนไม่มีการรุกรานอีก เป็นเวลาหลายปี หลังสงคราม พระเจ้านันทบุเรงทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ที่ต้องสูญเสียพระราชโอรสไป ในศึกครั้งนี้ และกรุงศรีอยุธยาก็ได้สร้าง พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันสำคัญนี้ ความสำคัญของยุทธหัตถี ในประวัติศาสตร์ไทย สัญลักษณ์ของเอกราช ยุทธหัตถีครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึง ความสามัคคีและการต่อสู้ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ พระปรีชาสามารถของกษัตริย์ไทย สมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถในการนำทัพ มรดกทางวัฒนธรรม การยุทธหัตถีได้กลายเป็นตำนาน ที่มีการเล่าขาน และเป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะ วรรณกรรม และภาพยนตร์ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยุทธหัตถี 1. ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ไหน? ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี 2. ช้างศึกคืออะไร? ช้างศึกคือช้างที่ได้รับการฝึกฝน เพื่อใช้ในการทำสงคราม มีลักษณะเด่นตามตำราคชลักษณ์ 3. ทำไมยุทธหัตถีถึงมีเกียรติ? เพราะเป็นการต่อสู้ ระหว่างกษัตริย์ทั้งสองฝ่าย อย่างตรงไปตรงมา และแสดงถึงความกล้าหาญ ยุทธหัตถีหนองสาหร่ายในปี พ.ศ. 2135 เป็นสงครามที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราช และศักดิ์ศรีของชาติไว้ได้ เหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนไทย ในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และรักษาเกียรติภูมิของตน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180833 ม.ค. 2568 #สมเด็จพระนเรศวร #ยุทธหัตถี #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามชนช้าง #กรุงศรีอยุธยา #ดอนเจดีย์ #หงสาวดี #ชาติไทย #วีรกรรมไทย #สงครามไทย 🎉
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • 04-04-62/14 : หมี CNN / ระบอบกษัตริย์ชาติอื่นเป็นยังไง? กูไม่รู้ กูไม่สนใจ? แต่ระบบกษัตริย์ไทย หล่อมว๊าก! หัวใจล้วนๆ เทใจให้ราษฎรแบบที่ไหนในโลกก็ไม่มี? อย่าคิดว่าเหี้ยโปรยเศษเงินมาให้ แล้วพวกมรึงคิดจะล้มล้างสถาบัน ตราบใดที่ยังมีคนไทยหัวใจหล่อมว๊ากอยู่อีกมหาศาลเกลื่อนแผ่นดิน?

    พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว
    พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม
    พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก
    พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น
    พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง
    พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว
    พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน
    พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา
    พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย
    พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน
    พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้
    พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า
    พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย
    พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน
    พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง
    พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง
    พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
    พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ
    พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย
    พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก
    พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง
    พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้
    พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ
    พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย
    พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น

    มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย!

    หมี CNN(ด้วยจิตสำนึกรักพ่อ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์)
    04 เม.ย. 62
    16.53 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    Jeerachart Jongsomchai / “ปฏิวัติฝรั่งเศส ของใคร โดยใคร เพื่อใคร ?”

    ... “สาเหตุของการปฏิวัติฝรั่งเศส” มีหลายแนวคิดหลักๆคือ

    ... มูลเหตุของการปฏิวัติมีความซับซ้อนและยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เช่นปัจจัยภายในต่าง ๆ ของระบอบเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงความหิวโหยและทุพโภชนาการในประชากรกลุ่มที่ยากแค้นที่สุด ซึ่งบางส่วนเกิดจากสภาพอากาศผิดปกติจาก “สภาพอากาศ” ความหนาวเย็นผิดฤดู ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟที่ลากีและกริมสวอทน์

    ... ใน ค.ศ. 1783-1784 ประกอบกับ “ราคาอาหารที่สูงขึ้น” และ “ระบบการขนส่งที่ไม่เพียงพอ” ซึ่งขัดขวาง “การส่งสินค้าอาหารปริมาณมากจากพื้นที่ชนบทไปยังศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่” ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้สังคมฝรั่งเศสขาดเสถียรภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างยิ่ง

    ... สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ “ภาวะใกล้จะล้มละลายของรัฐบาลจากค่าใช้จ่ายในสงครามที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมรบจำนวนมหาศาล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามเจ็ดปี (1756 จนถึง 1763 หรือ “สงครามโลกครั้งที่ศูนย์” โดยเกี่ยวข้องกับทุกประเทศมหาอำนาจในยุโรป มีการสู้รบเกิดขึ้นในห้าทวีป สงครามเจ็ดปีเป็นสงครามระหว่างสองข้างด้วยกัน ข้างหนึ่งนำโดยบริเตนใหญ่ พร้อมด้วยปรัสเซียและกลุ่มนครรัฐเล็กในเยอรมัน กับอีกข้างหนึ่งที่นำด้วยฝรั่งเศส พร้อมด้วยออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และซัคเซิน โดยรัสเซียเปลี่ยนข้างอยู่ระยะหนึ่งในช่วงปลายของสงคราม ) และ “สงครามปฏิวัติอเมริกา” สงครามใหญ่เหล่านี้ก่อหนี้จำนวนมหาศาลให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการสูญเสียการครอบครองพื้นที่อาณานิคมของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และการครอบงำทางพาณิชย์ของ “บริเตนใหญ่”ที่เพิ่มขึ้น ทั้ง “ระบบการเงิน” ที่ไม่มีประสิทธิภาพและล้าสมัยของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถจัดการกับหนี้สาธารณะได้ ทางรัฐบาลพยายามจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม

    … การที่ฝรั่งเศส ช่วย “อเมริกา” รบกับ “อังกฤษ” นั้น ไม่ได้ต้องการให้เอกราช กับอเมริกาแต่เพราะต้องการตัดกำลังของอังกฤษคู่แข่งอาณานิคมของตัวเอง ( เหมือนตอนที่ อเมริกา หลังได้เอกราช ก็ได้ช่วย “ฟิลิปปินส์” กับ “คิวบา” เป็นเอกราชจากสเปนนั้น ไม่ได้ต้องการให้ทั้งสองชาติสัมผัสกับอิสรภาพ หรือตัวเองซาบซึ้งกับระบอบปประชาธิปไตย แต่ต้องการจะเป็นเจ้าอาณานิคมแทนเจ้าเดิม )

    ... หลังการปฏิวัติมีการ ยกเลิกระบบศักดินา ยุบมณฑลต่าง ๆ แบ่งประเทศออกเป็น 83 จังหวัด มีการพยายาม “รวมศูนย์อำนาจ” เข้าสู่ศูนย์เดียวที่ปารีส ไม่ยินยอมให้เป็นเอกเทศ จึงมีการต่อต้านขัดขืน

    ... กระแสความตื่นตัวและอารมณ์ของประชาชนได้เปลี่ยนทิศทางของการปฏิวัติจนลึกลงไปถึงรากฐาน ซึ่งปูทางให้กับการขึ้นสู่อำนาจของ “มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์” ที่เป็นนักกฎหมาย นักการเมือง และ “กลุ่มฌากอแบ็ง” และกลายมาเป็น “เผด็จการโดยแท้” ภายใต้ “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ในระหว่างปี ค.ศ. 1793 ถึง 1794 มีผู้ต่อต้านพวกเขาถูกสังหารถึงระหว่าง 16,000 ถึง 40,000 คน ( ในตอนนั้นมันคือการเปลี่ยนจาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช” ไปสู่ระบอบ “เผด็จการ” )

    ... สโมสรฌากอแบ็ง Club des Jacobins เป็นสโมสรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อตั้งในช่วงการประชุมสภาฐานันดร ค.ศ. 1789 จากการรวมกลุ่มของ “พวกผู้แทน” จากแคว้น “ดัชชีเบรอตาญ” ที่เป็นแคว้นศักดินาแห่งหนึ่งนัฝรั่งเศส ที่เน้นการ “ต่อต้านราชวงศ์” หรือ “ล้มเจ้า” อันเป็นพวกต่อต้านระบอบกษัตริย์ เริ่มแรกมีสมาชิกไม่กี่คนและเป็นการรวมตัวอย่างลับ ๆ ก่อนที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นขบวนการระดับชาติที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้จัดตั้งสาธารณรัฐซึ่งมีสมาชิกมากกว่าครึ่งล้านคน อย่างไรก็ตาม หลังจากโค่นล้มระบบกษัตริย์สำเร็จและจัดตั&#3657
    04-04-62/14 : หมี CNN / ระบอบกษัตริย์ชาติอื่นเป็นยังไง? กูไม่รู้ กูไม่สนใจ? แต่ระบบกษัตริย์ไทย หล่อมว๊าก! หัวใจล้วนๆ เทใจให้ราษฎรแบบที่ไหนในโลกก็ไม่มี? อย่าคิดว่าเหี้ยโปรยเศษเงินมาให้ แล้วพวกมรึงคิดจะล้มล้างสถาบัน ตราบใดที่ยังมีคนไทยหัวใจหล่อมว๊ากอยู่อีกมหาศาลเกลื่อนแผ่นดิน? พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้ พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย! หมี CNN(ด้วยจิตสำนึกรักพ่อ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์) 04 เม.ย. 62 16.53 น. ------------------------------------------------------------------------— Jeerachart Jongsomchai / “ปฏิวัติฝรั่งเศส ของใคร โดยใคร เพื่อใคร ?” ... “สาเหตุของการปฏิวัติฝรั่งเศส” มีหลายแนวคิดหลักๆคือ ... มูลเหตุของการปฏิวัติมีความซับซ้อนและยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เช่นปัจจัยภายในต่าง ๆ ของระบอบเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงความหิวโหยและทุพโภชนาการในประชากรกลุ่มที่ยากแค้นที่สุด ซึ่งบางส่วนเกิดจากสภาพอากาศผิดปกติจาก “สภาพอากาศ” ความหนาวเย็นผิดฤดู ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟที่ลากีและกริมสวอทน์ ... ใน ค.ศ. 1783-1784 ประกอบกับ “ราคาอาหารที่สูงขึ้น” และ “ระบบการขนส่งที่ไม่เพียงพอ” ซึ่งขัดขวาง “การส่งสินค้าอาหารปริมาณมากจากพื้นที่ชนบทไปยังศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่” ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้สังคมฝรั่งเศสขาดเสถียรภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างยิ่ง ... สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ “ภาวะใกล้จะล้มละลายของรัฐบาลจากค่าใช้จ่ายในสงครามที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมรบจำนวนมหาศาล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามเจ็ดปี (1756 จนถึง 1763 หรือ “สงครามโลกครั้งที่ศูนย์” โดยเกี่ยวข้องกับทุกประเทศมหาอำนาจในยุโรป มีการสู้รบเกิดขึ้นในห้าทวีป สงครามเจ็ดปีเป็นสงครามระหว่างสองข้างด้วยกัน ข้างหนึ่งนำโดยบริเตนใหญ่ พร้อมด้วยปรัสเซียและกลุ่มนครรัฐเล็กในเยอรมัน กับอีกข้างหนึ่งที่นำด้วยฝรั่งเศส พร้อมด้วยออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และซัคเซิน โดยรัสเซียเปลี่ยนข้างอยู่ระยะหนึ่งในช่วงปลายของสงคราม ) และ “สงครามปฏิวัติอเมริกา” สงครามใหญ่เหล่านี้ก่อหนี้จำนวนมหาศาลให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการสูญเสียการครอบครองพื้นที่อาณานิคมของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และการครอบงำทางพาณิชย์ของ “บริเตนใหญ่”ที่เพิ่มขึ้น ทั้ง “ระบบการเงิน” ที่ไม่มีประสิทธิภาพและล้าสมัยของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถจัดการกับหนี้สาธารณะได้ ทางรัฐบาลพยายามจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม … การที่ฝรั่งเศส ช่วย “อเมริกา” รบกับ “อังกฤษ” นั้น ไม่ได้ต้องการให้เอกราช กับอเมริกาแต่เพราะต้องการตัดกำลังของอังกฤษคู่แข่งอาณานิคมของตัวเอง ( เหมือนตอนที่ อเมริกา หลังได้เอกราช ก็ได้ช่วย “ฟิลิปปินส์” กับ “คิวบา” เป็นเอกราชจากสเปนนั้น ไม่ได้ต้องการให้ทั้งสองชาติสัมผัสกับอิสรภาพ หรือตัวเองซาบซึ้งกับระบอบปประชาธิปไตย แต่ต้องการจะเป็นเจ้าอาณานิคมแทนเจ้าเดิม ) ... หลังการปฏิวัติมีการ ยกเลิกระบบศักดินา ยุบมณฑลต่าง ๆ แบ่งประเทศออกเป็น 83 จังหวัด มีการพยายาม “รวมศูนย์อำนาจ” เข้าสู่ศูนย์เดียวที่ปารีส ไม่ยินยอมให้เป็นเอกเทศ จึงมีการต่อต้านขัดขืน ... กระแสความตื่นตัวและอารมณ์ของประชาชนได้เปลี่ยนทิศทางของการปฏิวัติจนลึกลงไปถึงรากฐาน ซึ่งปูทางให้กับการขึ้นสู่อำนาจของ “มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์” ที่เป็นนักกฎหมาย นักการเมือง และ “กลุ่มฌากอแบ็ง” และกลายมาเป็น “เผด็จการโดยแท้” ภายใต้ “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ในระหว่างปี ค.ศ. 1793 ถึง 1794 มีผู้ต่อต้านพวกเขาถูกสังหารถึงระหว่าง 16,000 ถึง 40,000 คน ( ในตอนนั้นมันคือการเปลี่ยนจาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช” ไปสู่ระบอบ “เผด็จการ” ) ... สโมสรฌากอแบ็ง Club des Jacobins เป็นสโมสรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อตั้งในช่วงการประชุมสภาฐานันดร ค.ศ. 1789 จากการรวมกลุ่มของ “พวกผู้แทน” จากแคว้น “ดัชชีเบรอตาญ” ที่เป็นแคว้นศักดินาแห่งหนึ่งนัฝรั่งเศส ที่เน้นการ “ต่อต้านราชวงศ์” หรือ “ล้มเจ้า” อันเป็นพวกต่อต้านระบอบกษัตริย์ เริ่มแรกมีสมาชิกไม่กี่คนและเป็นการรวมตัวอย่างลับ ๆ ก่อนที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นขบวนการระดับชาติที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้จัดตั้งสาธารณรัฐซึ่งมีสมาชิกมากกว่าครึ่งล้านคน อย่างไรก็ตาม หลังจากโค่นล้มระบบกษัตริย์สำเร็จและจัดตั&#3657
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฐานะทางการเงินและบารมีในชีวิต

    1. ทานและศีล: กำลังหนุนจากกรรมเก่า

    การทำทานและรักษาศีลในอดีตชาติ เป็น “หัวรถจักร” ที่ส่งผลต่อพื้นฐานของชีวิตในปัจจุบัน

    แต่ในปัจจุบัน ทานที่ทำใหม่มักมาในรูปแบบ “กำลังหนุน” ไม่ได้เปลี่ยนแปลงฐานะทันตาเห็น

    ดังนั้น การทำบุญในชาตินี้คือการสะสมบารมีเพื่ออนาคต ขณะเดียวกันต้องพึ่งพากรรมดีในอดีตและความพยายามในปัจจุบัน


    2. ความฉลาดในปัจจุบัน: ตัวพลิกสถานการณ์

    ผลของกรรมเก่าให้ “ความน่าจะเป็น” หรือโอกาส แต่การใช้โอกาสเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับการใช้ปัญญาและความพยายาม

    หากกรรมเก่าไม่สนับสนุน ต้องเริ่มสร้างหัวรถจักรใหม่ด้วยการฝึกฝนตนเองให้มีทักษะและมุมมองที่เหมาะสม



    ---

    การสร้างบารมีของเจ้านาย: ไม่ได้เกิดจากโชค แต่เกิดจากความเพียร

    3. คุณสมบัติของผู้ที่เตรียมตัวเป็นเจ้านาย

    “เต็มใจ” ทำงานหนัก: ไม่มองงานเป็นภาระ แต่มองเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพิสูจน์ตนเอง

    “มีหัวคิด” ก้าวหน้า: คิดหาทางปรับปรุงงานให้ดีขึ้น และมองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น

    “ไม่ยอมอยู่ที่เดิม”: มีแรงขับในตัวเองที่จะพัฒนาไปสู่บทบาทที่สูงขึ้น


    4. ความเป็นเจ้านายเกิดจากอะไร?

    ความเป็นเจ้านายไม่ได้มาจากการบังคับบัญชา แต่เกิดจากความสามารถในการนำและการเสียสละ

    ผู้ที่เคยเป็นลูกจ้างที่ดี ย่อมเข้าใจความลำบากของลูกจ้าง และใช้ความเข้าใจนี้สร้างบารมีในการเป็นผู้นำ



    ---

    5. การใช้ชีวิตในปัจจุบัน: กุญแจสำคัญในการสร้างฐานะ

    กรรมเก่า: เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการกำหนดโอกาส

    วิธีใช้ชีวิตในปัจจุบัน: เป็นตัวกำหนดว่าจะใช้โอกาสนั้นอย่างไรให้เกิดผลดี

    การขยันอดทน มีวินัย ใช้ทรัพยากรและโอกาสที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้


    6. สรุป: กรรมใหม่สร้างอนาคต

    ถ้าพื้นฐานชีวิตปัจจุบันยังไม่ดีพอ ให้เริ่มสร้างบารมีใหม่ด้วยความตั้งใจดี

    ไม่มีใครถูกกำหนดให้ติดอยู่ในฐานะเดิม หากลงมือเปลี่ยนแปลงด้วยความเพียรและปัญญา

    การเปลี่ยนฐานะและบารมี เริ่มต้นจากความคิดและการกระทำในวันนี้เอง.


    ฐานะทางการเงินและบารมีในชีวิต 1. ทานและศีล: กำลังหนุนจากกรรมเก่า การทำทานและรักษาศีลในอดีตชาติ เป็น “หัวรถจักร” ที่ส่งผลต่อพื้นฐานของชีวิตในปัจจุบัน แต่ในปัจจุบัน ทานที่ทำใหม่มักมาในรูปแบบ “กำลังหนุน” ไม่ได้เปลี่ยนแปลงฐานะทันตาเห็น ดังนั้น การทำบุญในชาตินี้คือการสะสมบารมีเพื่ออนาคต ขณะเดียวกันต้องพึ่งพากรรมดีในอดีตและความพยายามในปัจจุบัน 2. ความฉลาดในปัจจุบัน: ตัวพลิกสถานการณ์ ผลของกรรมเก่าให้ “ความน่าจะเป็น” หรือโอกาส แต่การใช้โอกาสเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับการใช้ปัญญาและความพยายาม หากกรรมเก่าไม่สนับสนุน ต้องเริ่มสร้างหัวรถจักรใหม่ด้วยการฝึกฝนตนเองให้มีทักษะและมุมมองที่เหมาะสม --- การสร้างบารมีของเจ้านาย: ไม่ได้เกิดจากโชค แต่เกิดจากความเพียร 3. คุณสมบัติของผู้ที่เตรียมตัวเป็นเจ้านาย “เต็มใจ” ทำงานหนัก: ไม่มองงานเป็นภาระ แต่มองเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพิสูจน์ตนเอง “มีหัวคิด” ก้าวหน้า: คิดหาทางปรับปรุงงานให้ดีขึ้น และมองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น “ไม่ยอมอยู่ที่เดิม”: มีแรงขับในตัวเองที่จะพัฒนาไปสู่บทบาทที่สูงขึ้น 4. ความเป็นเจ้านายเกิดจากอะไร? ความเป็นเจ้านายไม่ได้มาจากการบังคับบัญชา แต่เกิดจากความสามารถในการนำและการเสียสละ ผู้ที่เคยเป็นลูกจ้างที่ดี ย่อมเข้าใจความลำบากของลูกจ้าง และใช้ความเข้าใจนี้สร้างบารมีในการเป็นผู้นำ --- 5. การใช้ชีวิตในปัจจุบัน: กุญแจสำคัญในการสร้างฐานะ กรรมเก่า: เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการกำหนดโอกาส วิธีใช้ชีวิตในปัจจุบัน: เป็นตัวกำหนดว่าจะใช้โอกาสนั้นอย่างไรให้เกิดผลดี การขยันอดทน มีวินัย ใช้ทรัพยากรและโอกาสที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ 6. สรุป: กรรมใหม่สร้างอนาคต ถ้าพื้นฐานชีวิตปัจจุบันยังไม่ดีพอ ให้เริ่มสร้างบารมีใหม่ด้วยความตั้งใจดี ไม่มีใครถูกกำหนดให้ติดอยู่ในฐานะเดิม หากลงมือเปลี่ยนแปลงด้วยความเพียรและปัญญา การเปลี่ยนฐานะและบารมี เริ่มต้นจากความคิดและการกระทำในวันนี้เอง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เปิดข้อความนิดาจัดฉาก
    เรื่องวุ่นๆของคนเลยวัยทองก็ประมาณนี้
    อ้างว่าทุกอย่างช่างบังเอิญ บังเอิญ PONG เมิงสิ
    วันที่อิผ.แฝดพี่โทรหาโอม อิแฝดน้องก็ดักฟังอยู่ด้วย
    โดยการประสานของนางนิดา นางสกุลคุ๊กกี้
    และแฝดผ.พี่ ก็ทักผัวเก่า ขออโหสิกรรม
    และให้ผัวเก่าเลิกช่วยเหลือ ผสห
    แต่ผัวเก่ายืนหยัดบนความถูกต้อง
    ส่วนนางนิดา นางสกุลคุ๊กกี้ก็รับไม้ต่อ
    เอาขึ้นห้องไลฟ์โดยอ้างว่าไม่รู้เรื่องมาก่อน
    ความแหล๋ไม่ธรรมดา ทั้งๆที่ได้ติดต่อ
    โอมไปตั้งแต่ 30 ธค. 67 และตามต่อที่ 31 ธค 67
    หลังจากนั้นที่ขึ้นไลฟ์ หวังว่าจะได้บารมีชื่อเสียง
    ว่าเคลียได้ ก็ให้แฝดผ.พี่ติดต่อไปที่โอม
    ขอโทรคุย และอ้างความเป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงลูก
    สร้างดราม่าสารพัด หวังสาลิกาลิ้นทองจะช่วยได้
    ให้โอม ทิ้ง ผสห ไว้ข้างหลัง แต่โอมจิตมันแข็ง
    แค่นี้ทำอะไรไม่ได้
    ดังนั้น ทุกอย่างมันมีขบวนการ มีการจัดฉาก
    หวังฟอกขาว รวมไปถึงเป็นการวุ่นวายสร้างความยุ่งเหยิง
    ให้กับ KADEE และกระบวนการช่วยเหลือ ผสห
    นี่คือสาเหตุ ที่พี่คิงส์ ถือว่านางสาวนิดา นามสกุลคุ๊กกี้
    คือศ้ตตรู ความซั่วไม่น้อยไปกว่าสองแฝดมิ๊จฉ๋าชีพ
    อิแฝดพี่ผ. และอิแม่ไผ่ของทุยเลย
    แผนเยอะนัก อินิดา นางสกุลคุ๊กกี้
    นิดา-แฝดพี่-อิแม่ไผ่ของทุย-ผจก ฆวยยกแก๊๊ง
    อิsus
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เปิดข้อความนิดาจัดฉาก เรื่องวุ่นๆของคนเลยวัยทองก็ประมาณนี้ อ้างว่าทุกอย่างช่างบังเอิญ บังเอิญ PONG เมิงสิ วันที่อิผ.แฝดพี่โทรหาโอม อิแฝดน้องก็ดักฟังอยู่ด้วย โดยการประสานของนางนิดา นางสกุลคุ๊กกี้ และแฝดผ.พี่ ก็ทักผัวเก่า ขออโหสิกรรม และให้ผัวเก่าเลิกช่วยเหลือ ผสห แต่ผัวเก่ายืนหยัดบนความถูกต้อง ส่วนนางนิดา นางสกุลคุ๊กกี้ก็รับไม้ต่อ เอาขึ้นห้องไลฟ์โดยอ้างว่าไม่รู้เรื่องมาก่อน ความแหล๋ไม่ธรรมดา ทั้งๆที่ได้ติดต่อ โอมไปตั้งแต่ 30 ธค. 67 และตามต่อที่ 31 ธค 67 หลังจากนั้นที่ขึ้นไลฟ์ หวังว่าจะได้บารมีชื่อเสียง ว่าเคลียได้ ก็ให้แฝดผ.พี่ติดต่อไปที่โอม ขอโทรคุย และอ้างความเป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงลูก สร้างดราม่าสารพัด หวังสาลิกาลิ้นทองจะช่วยได้ ให้โอม ทิ้ง ผสห ไว้ข้างหลัง แต่โอมจิตมันแข็ง แค่นี้ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้น ทุกอย่างมันมีขบวนการ มีการจัดฉาก หวังฟอกขาว รวมไปถึงเป็นการวุ่นวายสร้างความยุ่งเหยิง ให้กับ KADEE และกระบวนการช่วยเหลือ ผสห นี่คือสาเหตุ ที่พี่คิงส์ ถือว่านางสาวนิดา นามสกุลคุ๊กกี้ คือศ้ตตรู ความซั่วไม่น้อยไปกว่าสองแฝดมิ๊จฉ๋าชีพ อิแฝดพี่ผ. และอิแม่ไผ่ของทุยเลย แผนเยอะนัก อินิดา นางสกุลคุ๊กกี้ นิดา-แฝดพี่-อิแม่ไผ่ของทุย-ผจก ฆวยยกแก๊๊ง อิsus #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • พุทธานุภาพกราบน้อมนำเถิดคุณธรรมบังเกิดเลิศผลไพบูลย์ความดีสุขจริงยิ่งทำเพิ่มพูนเป็นธรรมสมบูรณ์พูนผลทวีเมตตาการุณบุญสงเคราะห์ดีมุทิตามีดีอุเบกขาพรพระเทวามาร่วมบุญพาเกิดวาสนาบารมีธรรมชำนาญการงานกาลดีตอกย้ำเหมาะควรดื่มด่ำสำเร็จด้วยดี
    พุทธานุภาพกราบน้อมนำเถิดคุณธรรมบังเกิดเลิศผลไพบูลย์ความดีสุขจริงยิ่งทำเพิ่มพูนเป็นธรรมสมบูรณ์พูนผลทวีเมตตาการุณบุญสงเคราะห์ดีมุทิตามีดีอุเบกขาพรพระเทวามาร่วมบุญพาเกิดวาสนาบารมีธรรมชำนาญการงานกาลดีตอกย้ำเหมาะควรดื่มด่ำสำเร็จด้วยดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • บารมี บุญกุศล ความดีงามต่างๆ อยู่ที่จิตใจเราทำเอาสร้าง ไม่ใช่ไปตระเวณหาครูบาอาจารย์ของบารมีจากท่าน มักง่ายแบบนี้ ท่านก็ทำมาแทบตายกว่าจะได้..
    บารมี บุญกุศล ความดีงามต่างๆ อยู่ที่จิตใจเราทำเอาสร้าง ไม่ใช่ไปตระเวณหาครูบาอาจารย์ของบารมีจากท่าน มักง่ายแบบนี้ ท่านก็ทำมาแทบตายกว่าจะได้..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีแต่แห่กันชมบารมีพระสงฆ์เถระกัน แต่ไม่พากันสร้างบุญบารมีเอง มีแต่ไปขอเอาทางลัดกัน..อยากมีบุญก็ทำเอาเอง สร้างเอาเอง พุทโธ ท่องกันบ้าง
    มีแต่แห่กันชมบารมีพระสงฆ์เถระกัน แต่ไม่พากันสร้างบุญบารมีเอง มีแต่ไปขอเอาทางลัดกัน..อยากมีบุญก็ทำเอาเอง สร้างเอาเอง พุทโธ ท่องกันบ้าง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดม้ามืดปราจีน รอบนี้วางแผนมาดีเกินกว่าจะปราชัย
    สนามเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรีกำลังเป็นที่จับตา ใครจะมาวิน แม้ ส.จ.จอย ในสีเสื้อพรรคเพื่อไทย และเป็นทายาทการเมืองของ “ส.จ.โต้ง” สามีผู้ล่วงลับ จะเป็นข่าวครึมโครมกว่าผู้สมัครรายอื่น แต่คนปราจีนฯ กลับให้น้ำหนักของคู่แข่งที่ชื่อ “กำนันศักดิ์” มากกว่า ส.จ.จอย
    หลังที่เมืองปราจีนเกิดสุญญากาศอำนาจ ส.จ.โต้ง ถูกล้อมฆ่า ส่วน “โกทร” ตกเป็นผู้ต้องหา ต้องอยู่ในคุกระหว่างสู้คดี นาทีนี้ “บ้านใหญ่” แห่งเมืองปราจีนไม่มีใครใหญ่กว่า “กำนันศักดิ์แห่งบ้านคลองรั้ง” อีกแล้ว
    กำนันศักดิ์มาครบทั้งบารมีทางการเมือง และฐานะทางการเงินที่แน่นปึ้ก ร่ำรวยเป็นพันๆ ล้าน สามารถลุยสนามเลือกตั้งได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งเงินใคร ต่างจาก ส.จ.จอย ซึ่งไม่มีเงินมากพอจะสู้ศึกเลือกตั้ง เพียงแต่ได้น้ำเลี้ยงจากพรรคเพื่อไทย และก็บรรดานักการเมืองขาใหญ่หลายคนที่ประกาศพร้อมช่วย
    ไม่ว่าจะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และ เสี่ยเฮ้ง แต่กำนันศักดิ์ก็ใช่จะ “ข้ามาคนเดียว” ถึงจะลงสมัครในนามอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมืองใดๆ ก็ตาม
    แต่จริงๆ แล้ว กำนันศักดิ์นี่แหละคือตัวตายตัวแทนของโกทร ซึ่งพรรคภูมิใจไทยหนุนหลังอยู่ การไม่ใช้ชื่อพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นกลยุทธ์หาเสียง และการประสานความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ ได้ดีกว่า จะช่วยให้กำนันศักดิ์ได้คะแนนเสียง มากกว่าลงในนามพรรค เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยคุมพื้นที่ปราจีนบุรีมานาน ผ่านเครือข่ายบ้านใหญ่อย่างโกทร พอเกิดคดีสังหาร ส.จ.โต้งขึ้นมา พรรคภูมิใจไทยจึงพบว่าเวลานี้ ไม่เหลือคนในตระกูลวิลาวัลย์ ที่จะส่งลงเป็นตัวแทนของพรรคอีกแล้ว
    เพราะลูกสาวก็ถูกตัดสิทธิทางการเมือง น้องสาวก็โดนคดีทุจริตคาอยู่ใน ป.ป.ช.ถึง 15 คดี กำนันศักดิ์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งต้องการรักษาฐานอำนาจในพื้นที่ปราจีนบุรีไว้ตามเดิม
    งานนี้ไม่ต้องสงสัย แม้จะเป็นผู้สมัครอิสระ แต่กำนันศักดิ์มีพรรคภูมิใจไทยเป็นกองหนุนแน่นอน ในการตรึงป้อมค่ายเมืองปราจีนไม่ให้ถูกพรรคเพื่อไทยตีแตกอย่างแน่นอน ติดตาม
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    เปิดม้ามืดปราจีน รอบนี้วางแผนมาดีเกินกว่าจะปราชัย สนามเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรีกำลังเป็นที่จับตา ใครจะมาวิน แม้ ส.จ.จอย ในสีเสื้อพรรคเพื่อไทย และเป็นทายาทการเมืองของ “ส.จ.โต้ง” สามีผู้ล่วงลับ จะเป็นข่าวครึมโครมกว่าผู้สมัครรายอื่น แต่คนปราจีนฯ กลับให้น้ำหนักของคู่แข่งที่ชื่อ “กำนันศักดิ์” มากกว่า ส.จ.จอย หลังที่เมืองปราจีนเกิดสุญญากาศอำนาจ ส.จ.โต้ง ถูกล้อมฆ่า ส่วน “โกทร” ตกเป็นผู้ต้องหา ต้องอยู่ในคุกระหว่างสู้คดี นาทีนี้ “บ้านใหญ่” แห่งเมืองปราจีนไม่มีใครใหญ่กว่า “กำนันศักดิ์แห่งบ้านคลองรั้ง” อีกแล้ว กำนันศักดิ์มาครบทั้งบารมีทางการเมือง และฐานะทางการเงินที่แน่นปึ้ก ร่ำรวยเป็นพันๆ ล้าน สามารถลุยสนามเลือกตั้งได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งเงินใคร ต่างจาก ส.จ.จอย ซึ่งไม่มีเงินมากพอจะสู้ศึกเลือกตั้ง เพียงแต่ได้น้ำเลี้ยงจากพรรคเพื่อไทย และก็บรรดานักการเมืองขาใหญ่หลายคนที่ประกาศพร้อมช่วย ไม่ว่าจะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และ เสี่ยเฮ้ง แต่กำนันศักดิ์ก็ใช่จะ “ข้ามาคนเดียว” ถึงจะลงสมัครในนามอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมืองใดๆ ก็ตาม แต่จริงๆ แล้ว กำนันศักดิ์นี่แหละคือตัวตายตัวแทนของโกทร ซึ่งพรรคภูมิใจไทยหนุนหลังอยู่ การไม่ใช้ชื่อพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นกลยุทธ์หาเสียง และการประสานความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ ได้ดีกว่า จะช่วยให้กำนันศักดิ์ได้คะแนนเสียง มากกว่าลงในนามพรรค เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยคุมพื้นที่ปราจีนบุรีมานาน ผ่านเครือข่ายบ้านใหญ่อย่างโกทร พอเกิดคดีสังหาร ส.จ.โต้งขึ้นมา พรรคภูมิใจไทยจึงพบว่าเวลานี้ ไม่เหลือคนในตระกูลวิลาวัลย์ ที่จะส่งลงเป็นตัวแทนของพรรคอีกแล้ว เพราะลูกสาวก็ถูกตัดสิทธิทางการเมือง น้องสาวก็โดนคดีทุจริตคาอยู่ใน ป.ป.ช.ถึง 15 คดี กำนันศักดิ์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งต้องการรักษาฐานอำนาจในพื้นที่ปราจีนบุรีไว้ตามเดิม งานนี้ไม่ต้องสงสัย แม้จะเป็นผู้สมัครอิสระ แต่กำนันศักดิ์มีพรรคภูมิใจไทยเป็นกองหนุนแน่นอน ในการตรึงป้อมค่ายเมืองปราจีนไม่ให้ถูกพรรคเพื่อไทยตีแตกอย่างแน่นอน ติดตาม ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ เมื่อถึงวันไร้แบ็กอัพ ก็ต้องพ้นจากวงจรอำนาจวาสนาเป็นธรรมดา เมื่อไม่มีลุง ก็ไม่มีหวานใจ เมื่อลุงไร้อำนาจบารมี ชลรัศมีก็ต้องบอกลา
    #7ดอกจิก
    ♣ เมื่อถึงวันไร้แบ็กอัพ ก็ต้องพ้นจากวงจรอำนาจวาสนาเป็นธรรมดา เมื่อไม่มีลุง ก็ไม่มีหวานใจ เมื่อลุงไร้อำนาจบารมี ชลรัศมีก็ต้องบอกลา #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี

    "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา

    มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย

    ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา

    มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย

    หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน”

    แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา

    ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

    #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้

    พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย

    แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า

    คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย

    แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ

    เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย

    เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย

    ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย"

    สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้

    พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

    เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย

    การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น

    ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน

    แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน

    ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง”

    หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว

    เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด”

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ
    แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว”

    พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน

    เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว”

    หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส

    ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้

    มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง

    เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง

    เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว

    สวดคาถาว่า...

    เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา

    ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด

    ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้

    ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ

    หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่

    คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    หลวงปู่โง่น โสรโย
    จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน” แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้ พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย" สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้ พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง” หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด” พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว” พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว” หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้ มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว สวดคาถาว่า... เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้ ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่ คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ หลวงปู่โง่น โสรโย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี

    "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา

    มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย

    ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา

    มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย

    หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน”

    แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา

    ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

    #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้

    พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย

    แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า

    คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย

    แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ

    เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย

    เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย

    ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย"

    สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้

    พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

    เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย

    การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น

    ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน

    แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน

    ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง”

    หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว

    เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด”

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ
    แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว”

    พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน

    เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว”

    หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส

    ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้

    มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง

    เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง

    เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว

    สวดคาถาว่า...

    เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา

    ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด

    ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้

    ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ

    หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่

    คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    หลวงปู่โง่น โสรโย
    จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน” แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้ พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย" สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้ พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง” หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด” พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว” พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว” หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้ มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว สวดคาถาว่า... เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้ ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่ คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ หลวงปู่โง่น โสรโย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • นามธรรมรู้ยากไซร้
    ได้พยานงานรูปธรรม
    จึ่งตื่นรู้น้อมนำ
    ธรรมศรัทธาพาเบิกบาน

    มีความเพียรขวนขวาย
    ให้เจริญเดินการงาน
    สติทันเหตุการณ์
    สมานพาสมาธิ

    นิ่งได้จิตตั้งมั่น
    ปัญญาธรรมนำเป็นมิตร
    สนิทสนมจิต
    สถิตเด่นเป็นหนึ่งเดียว

    ธรรมดีมีสุขแท้
    แก้ทุกข์ได้ไม่โดดเดี่ยว
    อบอุ่นไม่ปล่าวเปลี่ยว
    เทียวไปมาพาร่มเย็น

    เมตตาภาวนา
    พาธรรมได้ให้บำเพ็ญ
    บุญวาสนาเด่น
    เป็นฤทธาบารมี
    นามธรรมรู้ยากไซร้ ได้พยานงานรูปธรรม จึ่งตื่นรู้น้อมนำ ธรรมศรัทธาพาเบิกบาน มีความเพียรขวนขวาย ให้เจริญเดินการงาน สติทันเหตุการณ์ สมานพาสมาธิ นิ่งได้จิตตั้งมั่น ปัญญาธรรมนำเป็นมิตร สนิทสนมจิต สถิตเด่นเป็นหนึ่งเดียว ธรรมดีมีสุขแท้ แก้ทุกข์ได้ไม่โดดเดี่ยว อบอุ่นไม่ปล่าวเปลี่ยว เทียวไปมาพาร่มเย็น เมตตาภาวนา พาธรรมได้ให้บำเพ็ญ บุญวาสนาเด่น เป็นฤทธาบารมี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญหวังผล จัดเป็นทานบารมีไหม?

    การทำบุญหวังผลนั้นสามารถจัดเป็น ทานบารมี ได้ แต่มีความแตกต่างใน ระดับของบารมี และ ความละเอียดของจิต ที่แฝงอยู่ในขณะทำทาน ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดังนี้:


    ---

    1. ทำบุญหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิ

    ใจเลื่อมใสว่าทานมีผล: เชื่อว่าการทำความดี การให้ทานจะนำมาซึ่งผลดีในอนาคต เช่น ความสุข ความเจริญ หรือการเกิดในภพภูมิที่ดี

    จิตประกอบด้วยศรัทธาและเจตนาในทางกุศล: แม้มีความหวังผล แต่ยังคงเป็นความหวังในลักษณะสัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)

    นับเป็นทานบารมีระดับต้นถึงกลาง: บุญที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างบารมีในระดับที่นำพาไปสู่ความดี ความสุข และความเจริญทางจิตใจและชีวิต แต่ยังไม่ถึงความละเอียดสูงสุด



    ---

    2. ทำบุญหวังผลแบบเจาะจง (จิตคับแคบ)

    ทำบุญโดยมุ่งเน้นผลตอบแทนเฉพาะเจาะจง เช่น "ฉันทำบุญนี้เพื่อให้ได้ลาภสักการะ หรือเพื่อได้สวรรค์ชั้นนั้น ชั้นนี้"

    จิตประกอบด้วยความละโมบแบบนักลงทุน: ขาดความประณีตและความเปิดกว้างในการให้ อานิสงส์ที่ได้รับจึงถูกจำกัดอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า เช่น สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งยังคงอยู่ในขอบเขตของความเป็นปุถุชน



    ---

    3. ทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทน

    จิตบริสุทธิ์ เบิกบาน ไม่เลือกหน้า: ให้ด้วยความเมตตา ปรารถนาเพียงความสุขของผู้รับ โดยไม่หวังผลตอบแทน

    เกิดปีติสุขจากการทำทันที: ไม่ต้องรอผลในอนาคต เพราะจิตได้สัมผัสถึงความสุขจากการให้ตั้งแต่ขณะนั้น

    นับเป็นทานบารมีระดับสูง: อานิสงส์ของทานเช่นนี้จะส่งผลให้เกิดความสุข ความผ่องใส ทั้งในชาตินี้และชาติต่อไป และอาจนำไปสู่การเข้าถึงความละเอียดของจิตที่สูงขึ้น เช่น สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หรือสูงกว่านั้น



    ---

    สรุป: ทำบุญหวังผลเป็นทานบารมีหรือไม่?

    หากหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิและไม่ละโมบจนเกินไป การทำบุญหวังผลยังคงเป็น ทานบารมี แต่ผลที่ได้รับจะคับแคบตามความคาดหวังนั้น

    หากไม่หวังผลตอบแทน จิตใจเปิดกว้าง เบิกบาน การทำบุญนั้นจะเป็น ทานบารมีระดับสูงสุด ที่ก่อให้เกิดอานิสงส์ยิ่งใหญ่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต.


    ทำบุญหวังผล จัดเป็นทานบารมีไหม? การทำบุญหวังผลนั้นสามารถจัดเป็น ทานบารมี ได้ แต่มีความแตกต่างใน ระดับของบารมี และ ความละเอียดของจิต ที่แฝงอยู่ในขณะทำทาน ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดังนี้: --- 1. ทำบุญหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิ ใจเลื่อมใสว่าทานมีผล: เชื่อว่าการทำความดี การให้ทานจะนำมาซึ่งผลดีในอนาคต เช่น ความสุข ความเจริญ หรือการเกิดในภพภูมิที่ดี จิตประกอบด้วยศรัทธาและเจตนาในทางกุศล: แม้มีความหวังผล แต่ยังคงเป็นความหวังในลักษณะสัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) นับเป็นทานบารมีระดับต้นถึงกลาง: บุญที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างบารมีในระดับที่นำพาไปสู่ความดี ความสุข และความเจริญทางจิตใจและชีวิต แต่ยังไม่ถึงความละเอียดสูงสุด --- 2. ทำบุญหวังผลแบบเจาะจง (จิตคับแคบ) ทำบุญโดยมุ่งเน้นผลตอบแทนเฉพาะเจาะจง เช่น "ฉันทำบุญนี้เพื่อให้ได้ลาภสักการะ หรือเพื่อได้สวรรค์ชั้นนั้น ชั้นนี้" จิตประกอบด้วยความละโมบแบบนักลงทุน: ขาดความประณีตและความเปิดกว้างในการให้ อานิสงส์ที่ได้รับจึงถูกจำกัดอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า เช่น สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งยังคงอยู่ในขอบเขตของความเป็นปุถุชน --- 3. ทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทน จิตบริสุทธิ์ เบิกบาน ไม่เลือกหน้า: ให้ด้วยความเมตตา ปรารถนาเพียงความสุขของผู้รับ โดยไม่หวังผลตอบแทน เกิดปีติสุขจากการทำทันที: ไม่ต้องรอผลในอนาคต เพราะจิตได้สัมผัสถึงความสุขจากการให้ตั้งแต่ขณะนั้น นับเป็นทานบารมีระดับสูง: อานิสงส์ของทานเช่นนี้จะส่งผลให้เกิดความสุข ความผ่องใส ทั้งในชาตินี้และชาติต่อไป และอาจนำไปสู่การเข้าถึงความละเอียดของจิตที่สูงขึ้น เช่น สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หรือสูงกว่านั้น --- สรุป: ทำบุญหวังผลเป็นทานบารมีหรือไม่? หากหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิและไม่ละโมบจนเกินไป การทำบุญหวังผลยังคงเป็น ทานบารมี แต่ผลที่ได้รับจะคับแคบตามความคาดหวังนั้น หากไม่หวังผลตอบแทน จิตใจเปิดกว้าง เบิกบาน การทำบุญนั้นจะเป็น ทานบารมีระดับสูงสุด ที่ก่อให้เกิดอานิสงส์ยิ่งใหญ่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมดบารมี ประชาธิปปัตย์ นับถอยหลังปิดตำนาน
    นับถอยหลัง เหลืออีกไม่กี่เดือน จะถึงวันหยอดบัตรเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศในวันเสาร์ที่1 กุมภาพันธ์จํานวน 47 จังหวัด ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้จะรวมทั้งการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาจังหวัดด้วย
    ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นของประเทศไทยนั้นมีบรรยากาศความเข้มข้นแตกต่างจากการเลือกตั้งระดับประเทศอย่างสิ้นเชิง การเลือกตั้งส.ส.ระดับประเทศแม้จะเป็นการช่วงชิงอํานาจในการบริหารประเทศ แต่มุมหนึ่งก็ไม่ได้มีการวางเดิมพันที่สูงเหมือนกับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น
    โดยการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความเข้มข้น เพราะนั่นหมายถึงการควบคุมทรัพยากรของรัฐที่เป็นเอกเทศจากฝ่ายบริหารส่วนกลาง จึงไม่แปลกที่จะมีเหตุการณ์ไข้โป้งและเหตุการณ์ความรุนแรงให้เห็นเป็นระยะหนึ่งในสนามที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างคาดไม่ถึงคือจังหวัดตรัง ซึ่งเวลานี้ ภูมิรัฐศาสตร์ทางการเมืองของจังหวัดตรัง มีโฉมหน้าแตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง โดยในอดีตเป็นฐานที่มั่นสําคัญของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากหลายทศวรรษพรรคประชาธิปัตย์สามารถครองเก้าอี้ส.ส.ของจังหวัดนี้ได้มาตลอด แต่ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนแปลงจนถึงฐานราก
    วันนี้จังหวัดตรังไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยอิทธิพลของพรรคประชาธิปัตย์แบบเด็ดขาดเหมือนในอดีต ภายหลังพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติสามารถเข้ามาคล้องเก้าอี้ส.ส.ระบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดตรังไปได้บางส่วน
    หรือแม้แต่คะแนนส สบัญชีรายชื่อเฉพาะตรังก็พบว่าประชาธิปัตย์อยู่อันดับที่3ตามหลังพรรคอันดับหนึ่งอย่างพรรคก้าวไกล
    ที่ปัจจุบันเป็นพรรคประชาชนเกือบ100 000 คะแนนประกอบกับสถานการณ์ภายในพรรคประชาธิปัตย์ก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือภายหลังเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
    ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าชวนหลีกภัยไม่ได้มีความหมายต่อพรรคประชาธิปัตย์แบบอดีตอีกแล้วเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนแปลง จึงทําให้สมรภูมิเลือกตั้งท้องถิ่นตรังเปลี่ยนไปด้วยระดับประเทศครั้งต่อไป
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    หมดบารมี ประชาธิปปัตย์ นับถอยหลังปิดตำนาน นับถอยหลัง เหลืออีกไม่กี่เดือน จะถึงวันหยอดบัตรเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศในวันเสาร์ที่1 กุมภาพันธ์จํานวน 47 จังหวัด ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้จะรวมทั้งการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาจังหวัดด้วย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นของประเทศไทยนั้นมีบรรยากาศความเข้มข้นแตกต่างจากการเลือกตั้งระดับประเทศอย่างสิ้นเชิง การเลือกตั้งส.ส.ระดับประเทศแม้จะเป็นการช่วงชิงอํานาจในการบริหารประเทศ แต่มุมหนึ่งก็ไม่ได้มีการวางเดิมพันที่สูงเหมือนกับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น โดยการเลือกตั้งท้องถิ่นมีความเข้มข้น เพราะนั่นหมายถึงการควบคุมทรัพยากรของรัฐที่เป็นเอกเทศจากฝ่ายบริหารส่วนกลาง จึงไม่แปลกที่จะมีเหตุการณ์ไข้โป้งและเหตุการณ์ความรุนแรงให้เห็นเป็นระยะหนึ่งในสนามที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างคาดไม่ถึงคือจังหวัดตรัง ซึ่งเวลานี้ ภูมิรัฐศาสตร์ทางการเมืองของจังหวัดตรัง มีโฉมหน้าแตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง โดยในอดีตเป็นฐานที่มั่นสําคัญของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากหลายทศวรรษพรรคประชาธิปัตย์สามารถครองเก้าอี้ส.ส.ของจังหวัดนี้ได้มาตลอด แต่ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนแปลงจนถึงฐานราก วันนี้จังหวัดตรังไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยอิทธิพลของพรรคประชาธิปัตย์แบบเด็ดขาดเหมือนในอดีต ภายหลังพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติสามารถเข้ามาคล้องเก้าอี้ส.ส.ระบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดตรังไปได้บางส่วน หรือแม้แต่คะแนนส สบัญชีรายชื่อเฉพาะตรังก็พบว่าประชาธิปัตย์อยู่อันดับที่3ตามหลังพรรคอันดับหนึ่งอย่างพรรคก้าวไกล ที่ปัจจุบันเป็นพรรคประชาชนเกือบ100 000 คะแนนประกอบกับสถานการณ์ภายในพรรคประชาธิปัตย์ก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือภายหลังเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าชวนหลีกภัยไม่ได้มีความหมายต่อพรรคประชาธิปัตย์แบบอดีตอีกแล้วเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนแปลง จึงทําให้สมรภูมิเลือกตั้งท้องถิ่นตรังเปลี่ยนไปด้วยระดับประเทศครั้งต่อไป ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมดบารมีประชาธิปัตย์ นับถอยหลังปิดตำนาน
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    หมดบารมีประชาธิปัตย์ นับถอยหลังปิดตำนาน #คิงส์โพธิ์ดำ
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 491 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • #รู้แหละมีคนรอโพสนี้เยอะมาก
    เอ้า มา
    แฟนคลับพี่หลายคนรอลุ้น บวกสงสัย ทำไมพี่คิงส์ไม่หยิบเรื่องนี้มาตอบโต้อะไรเลย ดูเงียบผิดปกติ
    เอาหละ จะบอกว่าพี่คิงส์ เป็นคนแรกที่เปิดเรื่องปูเป็นหนอน
    ซึ่งในหลายๆเรื่อง แม้แต่ CL เอง ก็ยังไม่รู้ นั่นก็เพราะพี่มีสายทั้งสองฝั่ง
    ที่อยู่ฝั่งสาว ก็มิน้อยเช่นกัน และสาเหตุที่พี่นิ่งๆไปสองวันกับเรื่องนี้
    ก็เพราะช่วงที่พี่เปิดเรื่องปูเป็นหนอน อิดาอิแก่ไร้มโนสำนึก มันออกตัวป้องอิปูตั้งแต่ตอนนั้น พาสาวกรุมกร่นด่าพี่คิงส์ทางตต. ลามมายันเพจพี่ พูดง่ายๆ ป้องสุดลิ่มทิ่มประตู ตอนนั้นยังสงสัยว่า อิดานี่มันจั๊ดง่าว หรือมันมีผลประโยชน์อะไรแฝงกับอิปู หรือเพราะมันสนิทแอบคุยหลังบ้านกัน ณ เวลานั้น ตั้งสมมุติฐานไว้ประมาณนี้ แต่ก็ต้องยอมรับแหละ แฟนคลับ CL นี่แหละ ที่ออกมาแสดงความไม่น่ารักกับพี่เยอะมาก ยกเว้นคนที่เป็นแฟนพันธิ์แท้ของพี่ ที่รู้เสมอว่าพี่มักมาก่อนกาลแน่นอน
    ดังนั้น พี่ชลอเรื่องนี้ เพราะอยากให้คนที่เคยมาด่าพี่ ได้อิ่มเอมกับการแสดงของปูเป็นหนอนให้ฉ่ำก่อน ให้อิ่มก่อน อาจมีคนรู้สึกสำนึกกับสิ่งที่ปฏิบัติกับกรู ที่เชื่อคนอย่างอิดาคุ๊กกี้ ก็แค่นั้นแหละ ไม่มีอะไรมาก
    สำหรับโพสนี้ พี่จะไล่เรียงเป็นตัวละครไปละกัน
    1. อิดา อินิดาคุ๊กกี้
    2. อิป้า คืออิป้าศรีธัญญ่าข้างบ้านพี่
    3. ผจก ปู ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านพี่เอง
    4. 4 ป้ามหาแก่ อันนี้อยู่อยู่ข้างบ้านพี่เช่นกัน
    5. มดดำ พิธีกรทีวี
    6. CL แน๊ก ชาลี
    เชื่อว่ามีคำถามคาใจกันประเด็นหลักๆดังนี้
    คำถามที่ 1 ทำไม มดดำ ถึงอ่านข้อมูลที่ตรงกับที่ ปูเป็นหนอนพิมพ์เป๊ะ มดดำไม่รักชาลีเหรอ มดดำร่วมรุมทึ้งชาลีเหรอ
    อะเคร พี่คิงส์จะเจาะเรื่องนี้ให้นะ
    สำหรับพี่คิงส์ ไม่เคยที่จะสงสัยในความรักของมดดำ ที่มีต่อ CL แม้กระทั่งวินาทีนี้ ความผูกพันธ์ของมดดำ ที่มีต่อ CL มันอบอุ่นยิ่งกว่าคนรู้จัก เหมือนพี่น้อง หรือเหมือนพ่อกับลูกเลยก็ว่าได้
    คำถามว่า ทำไม มดดำถึงอ่านข้อมูลแบบนั้น
    เราต้องเข้าใจกระบวนการการทำงานรายการก่อนว่า
    ไม่ว่าจะเป็นรายการแฉ หรือรายการใส่ไข่อะไรนั่นก็ตาม
    มดดำ หรือพิธีกร ทุกคนจะได้บีฟเพียงพอต่อการทำงาน
    แต่จะมีสคริปให้อ่าน ไม่ได้มาจากความคิดของพิธีกร แม้ว่าจะมีการใส่ความคิดเห็นลงไปบ้าง แต่แกนของเนื้อหา ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ บก.รายการ หรือโปรดิวส์เซอร์ เป็นผู้จัดมาให้แบบครบแล้ว
    ดังนั้น พี่คิงส์มั่นใจว่า เนื้อหาในคริป คนที่นำมา จะเป็นบกรายการ หรือโปรดิวส์เซอร์ ที่ได้ข้อมูลที่หยิบยื่นจากอิปูเป็นหนอน จะด้วยความรู้จักส่วนตัวเอาเนื้อหามาแทรกเนียนๆ หรือจะเพียงแค่เห็นว่า เป็นเรื่องที่เอามาเล่นแล้วดังแน่ โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความเสียหายกับใครอย่างไร
    ส่วนมดดำเองก็ทำหน้าที่เป็นพิธีกร ดำเนินรายการ ดังนั้นมีหน้าที่คือ อ่านในสิ่งที่ถูกเสริฟมาให้แน่นอน ซึ่งอาจจะมีการพูดคุยกันระหว่างมดดำ กับCL กันเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้ แค่จะออกสื่อหรือไม่ ก็ต้องมาบวกลบคุณหารแค่นั้นเอง แต่ถึงอย่างไรพี่คิงส์จากข้อมูลที่มี ยืนยันว่า มดดำ คือพี่ที่รักแน๊กมากที่สุดในโลกคนหนึ่งไม่มีตัวเฮี้ยที่ไหนมาเปลี่ยนความจริงเรื่องนี้ไปได้
    .............................................
    คำถามที่ 2 สื่อทำไมยำ CL
    คือแบบนี้ ถ้าเราจำกันได้ จะมี 2 รอบใหญ่ๆ
    ที่อิป้าศรีธัญญา ได้ใช้บริการสื่อบางสื่อ
    ครั้งแรก ตอนแถลง ครั้งที่สองตอน 4 ป้า
    อิป้าบ่นแค่วันเดียวมั๊ง ว่าทำไมเรื่อง 4 ป้า ไม่เป็นข่าวซักที
    แล้วก็มีคนเอาข่าวไปลงจริงๆ
    คืองี้ครับ สำหรับสื่อมวลชน มีรูปแบบการทำงานหลายแบบ
    1. นำเสนอข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง + ดราม่า ถ้าข่าวสำนักนึงลง ถ้าตัวเองไม่ลง อันนี้ ผอ. หรือบก เล่นนักข่าวแน่นอน จึงต้องลงเพราะช่องอื่น หรือเพจอื่นเค้ามี ไม่มีไม่ได้
    2. สื่อที่ต้องอยู่ได้ด้วยงบประมาณ ซึ่งเศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่อำนวยต่อการรักษาอุดมการณ์ เพราะมันกินไม่ได้ จึงต้องมีการสอดแทรกด้วยการรับงบประมาณจากบุคคล หรือเอกชน มาเพื่อโปรโมทบางอย่างเสมอ รวมถึงการสร้างข่าวตามออเดอร์ แนบมาด้วยเนื้อข่าวที่อิป้าก็สำนวนเต็มๆในนั้น
    3. ช่องไม่รู้เห็น แต่ บก หรือนักข่าว แอบรับใต้โต้ แบบนี้ก็มี
    4. สื่อที่เจ้าของหรือ บก.เป็นด้อมสาวเสียเอง
    ดังนั้น อันนี้ คือ 4 กลุ่มใหญ่ๆนะ ที่พี่จะอธิบายให้เข้าใจ
    ดังนั้นแปลว่า ถ้าอิป้า ส่งข่าวให้ กลุ่มที่ 3 กับกลุ่มที่ 4 แน่นอน กลุ่มที่ 1 กับสื่อกลุ่มที่ 2 ก็ต้องออกด้วย โดยที่อิป้าไม่ต้องลงทุนด้วยเงิน
    อาการเลยประมาณที่เห็น เหมือนรุมยำCL แต่จริงๆ มันไม่ใช่ทั้งหมด
    แต่ทั้งนี้ จากอิป้าได้ใช้บริการ อ้อ ตอนสร้างเทรนทิพย์ แบนนแน๊กชาลี โดยที่ไปดูยูซเป็นเวียดนาม ยูซผีไปปั่นอะนะ ตอนนั้นต้องยอมรับ สื่อใหญ่ แต่ไม่ทันเทคโนโลยี ยังไม่รู้ว่าไอ่เทรนที่มันปั่นได้ ก็ลงกันไป แต่มันมาโป๊ะตรงที่ คอมเม้นของคนจริงในแอฟฟ้า กลับสวนทางดิ ช่องหลักๆโดนทัวร์ลง
    ซึ่งอิป้า ก็ได้ปรับกลยุทธ์ เรียบร้อย คือ พอรู้จากบกข่าว ว่าจะลงกี่โมง อิป้าจะพากองร๊บ แบบที่มันเปิดรับเพิ่มตอนนี้แหละ แล้วเอายูซผี จำนวนที่พี่คิงส์นับได้ ก็ประมาณ 100-120 ตัว ไปคอมเม้นดักไว้ก่อน ให้เป็นคอมเม้นแรกๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือว่า CL มีคนไม่ชอบเยอะจริงๆ
    ..............................................
    ดังนั้น ที่พี่คิงส์ชิลๆ เพราะกระบวนการทั้งหมด มันไม่ได้เกิดขึ้น เพราะความรักหรือความชังแบบธรรมชาติ แต่มันคือการบิดเบือนความจริง ด้วยความพยามของอิป้าศรีธัญญา ที่คิดว่าตัวเองมีอำนาจ กุมทุกอย่างไว้ในกำมือ
    นี่แหละ พี่คิงส์ถึงบอกว่า อย่าไปดิ้น เวลาที่มีสื่อหลายช่องเค้าทำข่าวกัน นิ่งไว้ และพอคนเห็นไอ่ร้อยกว่าคอมเม้นแรก ด่าแน๊กรัวๆ ก็ยิ่งร้อนไปใหญ่ เออ นั่นแหละ ซอมบี้ที่อิป้าทำ ยิ่งไอ่แผนฟินิกส์ที่มันเปิดอะนะ อันนี้ ยิ่งเป็นการคอนเฟิร์มในข้อมูลที่พี่แจ้งนี้เป๊ะเลย
    เป็นไง กรรู มาก่อนกาลมั๊ยล่ะ
    เอา รู้ว่ากำลังมันส์ มาต่อเลย
    คำถามต่อมา อุ๊ย CL เจอคอมเม้นแบบนี้ จะเป็นเหมือนคุณอิ๊ดขายสบู่มั๊ย
    คือแบบนี้นะ พี่คิงส์จะบอกให้ ไอ่คำถามนี้ ส่วนใหญ่ เป็นคำถามที่อิป้าเป็นคนให้พวกสมุนมาพิมพ์ คือ มันหวังแบบคนปังยาอ่อน ว่าCL มาเห็นคอมเม้นแบบนี้แล้วจะชี้นำ คืออันนี้บอกเลย ฟรายมาก ที่ประเมิน CL ต่ำไป
    คือ พอCLขยับ ว่าจะฟ๊องพวกแม๋ง คือดิ้นกันไง เพราะที่ผ่านมา CL อดทนเพราะแม่สั่งมาตลอด และอยากให้ทุกคนมีความสุข
    แต่ดราม่า และการให้ร้ายที่ต่อเนื่อง มันเริ่มทำให้แฟนคลับไม่มีความสุขแล้วนี่ดิ ทำให้ CLเอง ก็ต้องทำให้สถานการณ์เรื่องเฮี้ยๆพวกนี้มันจบ ซึ่งมันหาทางอื่นไม่ได้ นั่นคือต้องใช้กฎม๋าย เช็ดดดเขร้ ไอ่พวกเฮี้ย อิป้า แต่ละตัว ดันมั่นอกมั่นใจมากตลอดว่า พวกกรูทำเฮี้ยไรได้หมด เพราะไอ่ CL มันไม่ฟ๊อง มันเลยทิ้งร่องรอยหลักฐ๋าน ดิจิม่อนฟรุ๊ตตี้ไว้เพียบ ดังน้น อิป้าจึงต้องหาคนมาเป็นนักร๊บนั่นแหละ ที่บอกว่า อยากหาคนมาถอดเทปอะ จริงๆ หาคนมากวาดลบคลิป และโพสต่างๆที่อาจหลงเหลือเป็นหลักฐ๋านที่จะโดนดำเนิน KADEE และก็เอาไว้เป็นทาส ดูมีบารมีดี ตามแบบฉบับคนติดดราม่าจนต้องเข้าพบหม๋อจิตอะนะ
    คำถามสุดท้าย เอาจริงๆ CL จะเสียใจมั๊ย รับได้ไหม กับข่าว
    คือ ก็ตอบไปแล้วแหละบางส่วน แต่พี่คิงส์จะอธิบายแบบนี้นะ แล้วจะเข้าใจ
    ที่ผ่านมา CL โดนมากี่เรื่อง สิ่งที่พี่คิงส์เปิด ที่ตีแผ่ แล้วทุกคนบอกสงสาร ต้องไม่ลืมว่า ที่พี่เปิดอะ น้องมันเจอมาตลอดนะ แล้วรับรู้คนเดียวด้วย ยังทนได้เลย แล้วตอนนี้กับเรื่องแค่นี้ ทำไมทุกคนถึงประเมินน้องต่ำเกิ๊น
    พี่คิงส์วิเคราะห์แบบฟันธงเลยนะ ณ เวลานี้CL ไม่ได้มีอารมณ์ทางลบกับตัวเอง แต่กลับมีพลังเหมือนเสือที่ถูกมัดไว้ด้วยความกตัญญู แต่ตอนนี้ เหมือนทุกอย่างถูกปลดปล่อย แค่มดปลวกจะทำให้เสือสะดุ้งได้ยังไง เอาว่า ใครที่ทำเฮี้ยอะไรเอาไว้ พวกเมิงรอดูร่างแท้ของ CL ก็แล้วกัน
    ไอ่ฉัด!
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ปล. ฝากถึงอิดาคุ๊กกี้จอมกลับกลอกว่า เมิงกับกรู ไม่จบนะ กรูยังมีจัดให้เมิงอีกเยอะ ก็เมิงพูดเอง ว่าให้กรูจัดเมิงเต็มที่ ดังนั้น อยู่นิ่งๆ อย่าดิ้นเยอะ ยิ่งดิ้น ยิ่งเจ็บ อิsus
    #รู้แหละมีคนรอโพสนี้เยอะมาก เอ้า มา แฟนคลับพี่หลายคนรอลุ้น บวกสงสัย ทำไมพี่คิงส์ไม่หยิบเรื่องนี้มาตอบโต้อะไรเลย ดูเงียบผิดปกติ เอาหละ จะบอกว่าพี่คิงส์ เป็นคนแรกที่เปิดเรื่องปูเป็นหนอน ซึ่งในหลายๆเรื่อง แม้แต่ CL เอง ก็ยังไม่รู้ นั่นก็เพราะพี่มีสายทั้งสองฝั่ง ที่อยู่ฝั่งสาว ก็มิน้อยเช่นกัน และสาเหตุที่พี่นิ่งๆไปสองวันกับเรื่องนี้ ก็เพราะช่วงที่พี่เปิดเรื่องปูเป็นหนอน อิดาอิแก่ไร้มโนสำนึก มันออกตัวป้องอิปูตั้งแต่ตอนนั้น พาสาวกรุมกร่นด่าพี่คิงส์ทางตต. ลามมายันเพจพี่ พูดง่ายๆ ป้องสุดลิ่มทิ่มประตู ตอนนั้นยังสงสัยว่า อิดานี่มันจั๊ดง่าว หรือมันมีผลประโยชน์อะไรแฝงกับอิปู หรือเพราะมันสนิทแอบคุยหลังบ้านกัน ณ เวลานั้น ตั้งสมมุติฐานไว้ประมาณนี้ แต่ก็ต้องยอมรับแหละ แฟนคลับ CL นี่แหละ ที่ออกมาแสดงความไม่น่ารักกับพี่เยอะมาก ยกเว้นคนที่เป็นแฟนพันธิ์แท้ของพี่ ที่รู้เสมอว่าพี่มักมาก่อนกาลแน่นอน ดังนั้น พี่ชลอเรื่องนี้ เพราะอยากให้คนที่เคยมาด่าพี่ ได้อิ่มเอมกับการแสดงของปูเป็นหนอนให้ฉ่ำก่อน ให้อิ่มก่อน อาจมีคนรู้สึกสำนึกกับสิ่งที่ปฏิบัติกับกรู ที่เชื่อคนอย่างอิดาคุ๊กกี้ ก็แค่นั้นแหละ ไม่มีอะไรมาก สำหรับโพสนี้ พี่จะไล่เรียงเป็นตัวละครไปละกัน 1. อิดา อินิดาคุ๊กกี้ 2. อิป้า คืออิป้าศรีธัญญ่าข้างบ้านพี่ 3. ผจก ปู ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านพี่เอง 4. 4 ป้ามหาแก่ อันนี้อยู่อยู่ข้างบ้านพี่เช่นกัน 5. มดดำ พิธีกรทีวี 6. CL แน๊ก ชาลี เชื่อว่ามีคำถามคาใจกันประเด็นหลักๆดังนี้ คำถามที่ 1 ทำไม มดดำ ถึงอ่านข้อมูลที่ตรงกับที่ ปูเป็นหนอนพิมพ์เป๊ะ มดดำไม่รักชาลีเหรอ มดดำร่วมรุมทึ้งชาลีเหรอ อะเคร พี่คิงส์จะเจาะเรื่องนี้ให้นะ สำหรับพี่คิงส์ ไม่เคยที่จะสงสัยในความรักของมดดำ ที่มีต่อ CL แม้กระทั่งวินาทีนี้ ความผูกพันธ์ของมดดำ ที่มีต่อ CL มันอบอุ่นยิ่งกว่าคนรู้จัก เหมือนพี่น้อง หรือเหมือนพ่อกับลูกเลยก็ว่าได้ คำถามว่า ทำไม มดดำถึงอ่านข้อมูลแบบนั้น เราต้องเข้าใจกระบวนการการทำงานรายการก่อนว่า ไม่ว่าจะเป็นรายการแฉ หรือรายการใส่ไข่อะไรนั่นก็ตาม มดดำ หรือพิธีกร ทุกคนจะได้บีฟเพียงพอต่อการทำงาน แต่จะมีสคริปให้อ่าน ไม่ได้มาจากความคิดของพิธีกร แม้ว่าจะมีการใส่ความคิดเห็นลงไปบ้าง แต่แกนของเนื้อหา ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ บก.รายการ หรือโปรดิวส์เซอร์ เป็นผู้จัดมาให้แบบครบแล้ว ดังนั้น พี่คิงส์มั่นใจว่า เนื้อหาในคริป คนที่นำมา จะเป็นบกรายการ หรือโปรดิวส์เซอร์ ที่ได้ข้อมูลที่หยิบยื่นจากอิปูเป็นหนอน จะด้วยความรู้จักส่วนตัวเอาเนื้อหามาแทรกเนียนๆ หรือจะเพียงแค่เห็นว่า เป็นเรื่องที่เอามาเล่นแล้วดังแน่ โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความเสียหายกับใครอย่างไร ส่วนมดดำเองก็ทำหน้าที่เป็นพิธีกร ดำเนินรายการ ดังนั้นมีหน้าที่คือ อ่านในสิ่งที่ถูกเสริฟมาให้แน่นอน ซึ่งอาจจะมีการพูดคุยกันระหว่างมดดำ กับCL กันเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้ แค่จะออกสื่อหรือไม่ ก็ต้องมาบวกลบคุณหารแค่นั้นเอง แต่ถึงอย่างไรพี่คิงส์จากข้อมูลที่มี ยืนยันว่า มดดำ คือพี่ที่รักแน๊กมากที่สุดในโลกคนหนึ่งไม่มีตัวเฮี้ยที่ไหนมาเปลี่ยนความจริงเรื่องนี้ไปได้ ............................................. คำถามที่ 2 สื่อทำไมยำ CL คือแบบนี้ ถ้าเราจำกันได้ จะมี 2 รอบใหญ่ๆ ที่อิป้าศรีธัญญา ได้ใช้บริการสื่อบางสื่อ ครั้งแรก ตอนแถลง ครั้งที่สองตอน 4 ป้า อิป้าบ่นแค่วันเดียวมั๊ง ว่าทำไมเรื่อง 4 ป้า ไม่เป็นข่าวซักที แล้วก็มีคนเอาข่าวไปลงจริงๆ คืองี้ครับ สำหรับสื่อมวลชน มีรูปแบบการทำงานหลายแบบ 1. นำเสนอข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง + ดราม่า ถ้าข่าวสำนักนึงลง ถ้าตัวเองไม่ลง อันนี้ ผอ. หรือบก เล่นนักข่าวแน่นอน จึงต้องลงเพราะช่องอื่น หรือเพจอื่นเค้ามี ไม่มีไม่ได้ 2. สื่อที่ต้องอยู่ได้ด้วยงบประมาณ ซึ่งเศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่อำนวยต่อการรักษาอุดมการณ์ เพราะมันกินไม่ได้ จึงต้องมีการสอดแทรกด้วยการรับงบประมาณจากบุคคล หรือเอกชน มาเพื่อโปรโมทบางอย่างเสมอ รวมถึงการสร้างข่าวตามออเดอร์ แนบมาด้วยเนื้อข่าวที่อิป้าก็สำนวนเต็มๆในนั้น 3. ช่องไม่รู้เห็น แต่ บก หรือนักข่าว แอบรับใต้โต้ แบบนี้ก็มี 4. สื่อที่เจ้าของหรือ บก.เป็นด้อมสาวเสียเอง ดังนั้น อันนี้ คือ 4 กลุ่มใหญ่ๆนะ ที่พี่จะอธิบายให้เข้าใจ ดังนั้นแปลว่า ถ้าอิป้า ส่งข่าวให้ กลุ่มที่ 3 กับกลุ่มที่ 4 แน่นอน กลุ่มที่ 1 กับสื่อกลุ่มที่ 2 ก็ต้องออกด้วย โดยที่อิป้าไม่ต้องลงทุนด้วยเงิน อาการเลยประมาณที่เห็น เหมือนรุมยำCL แต่จริงๆ มันไม่ใช่ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ จากอิป้าได้ใช้บริการ อ้อ ตอนสร้างเทรนทิพย์ แบนนแน๊กชาลี โดยที่ไปดูยูซเป็นเวียดนาม ยูซผีไปปั่นอะนะ ตอนนั้นต้องยอมรับ สื่อใหญ่ แต่ไม่ทันเทคโนโลยี ยังไม่รู้ว่าไอ่เทรนที่มันปั่นได้ ก็ลงกันไป แต่มันมาโป๊ะตรงที่ คอมเม้นของคนจริงในแอฟฟ้า กลับสวนทางดิ ช่องหลักๆโดนทัวร์ลง ซึ่งอิป้า ก็ได้ปรับกลยุทธ์ เรียบร้อย คือ พอรู้จากบกข่าว ว่าจะลงกี่โมง อิป้าจะพากองร๊บ แบบที่มันเปิดรับเพิ่มตอนนี้แหละ แล้วเอายูซผี จำนวนที่พี่คิงส์นับได้ ก็ประมาณ 100-120 ตัว ไปคอมเม้นดักไว้ก่อน ให้เป็นคอมเม้นแรกๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือว่า CL มีคนไม่ชอบเยอะจริงๆ .............................................. ดังนั้น ที่พี่คิงส์ชิลๆ เพราะกระบวนการทั้งหมด มันไม่ได้เกิดขึ้น เพราะความรักหรือความชังแบบธรรมชาติ แต่มันคือการบิดเบือนความจริง ด้วยความพยามของอิป้าศรีธัญญา ที่คิดว่าตัวเองมีอำนาจ กุมทุกอย่างไว้ในกำมือ นี่แหละ พี่คิงส์ถึงบอกว่า อย่าไปดิ้น เวลาที่มีสื่อหลายช่องเค้าทำข่าวกัน นิ่งไว้ และพอคนเห็นไอ่ร้อยกว่าคอมเม้นแรก ด่าแน๊กรัวๆ ก็ยิ่งร้อนไปใหญ่ เออ นั่นแหละ ซอมบี้ที่อิป้าทำ ยิ่งไอ่แผนฟินิกส์ที่มันเปิดอะนะ อันนี้ ยิ่งเป็นการคอนเฟิร์มในข้อมูลที่พี่แจ้งนี้เป๊ะเลย เป็นไง กรรู มาก่อนกาลมั๊ยล่ะ เอา รู้ว่ากำลังมันส์ มาต่อเลย คำถามต่อมา อุ๊ย CL เจอคอมเม้นแบบนี้ จะเป็นเหมือนคุณอิ๊ดขายสบู่มั๊ย คือแบบนี้นะ พี่คิงส์จะบอกให้ ไอ่คำถามนี้ ส่วนใหญ่ เป็นคำถามที่อิป้าเป็นคนให้พวกสมุนมาพิมพ์ คือ มันหวังแบบคนปังยาอ่อน ว่าCL มาเห็นคอมเม้นแบบนี้แล้วจะชี้นำ คืออันนี้บอกเลย ฟรายมาก ที่ประเมิน CL ต่ำไป คือ พอCLขยับ ว่าจะฟ๊องพวกแม๋ง คือดิ้นกันไง เพราะที่ผ่านมา CL อดทนเพราะแม่สั่งมาตลอด และอยากให้ทุกคนมีความสุข แต่ดราม่า และการให้ร้ายที่ต่อเนื่อง มันเริ่มทำให้แฟนคลับไม่มีความสุขแล้วนี่ดิ ทำให้ CLเอง ก็ต้องทำให้สถานการณ์เรื่องเฮี้ยๆพวกนี้มันจบ ซึ่งมันหาทางอื่นไม่ได้ นั่นคือต้องใช้กฎม๋าย เช็ดดดเขร้ ไอ่พวกเฮี้ย อิป้า แต่ละตัว ดันมั่นอกมั่นใจมากตลอดว่า พวกกรูทำเฮี้ยไรได้หมด เพราะไอ่ CL มันไม่ฟ๊อง มันเลยทิ้งร่องรอยหลักฐ๋าน ดิจิม่อนฟรุ๊ตตี้ไว้เพียบ ดังน้น อิป้าจึงต้องหาคนมาเป็นนักร๊บนั่นแหละ ที่บอกว่า อยากหาคนมาถอดเทปอะ จริงๆ หาคนมากวาดลบคลิป และโพสต่างๆที่อาจหลงเหลือเป็นหลักฐ๋านที่จะโดนดำเนิน KADEE และก็เอาไว้เป็นทาส ดูมีบารมีดี ตามแบบฉบับคนติดดราม่าจนต้องเข้าพบหม๋อจิตอะนะ คำถามสุดท้าย เอาจริงๆ CL จะเสียใจมั๊ย รับได้ไหม กับข่าว คือ ก็ตอบไปแล้วแหละบางส่วน แต่พี่คิงส์จะอธิบายแบบนี้นะ แล้วจะเข้าใจ ที่ผ่านมา CL โดนมากี่เรื่อง สิ่งที่พี่คิงส์เปิด ที่ตีแผ่ แล้วทุกคนบอกสงสาร ต้องไม่ลืมว่า ที่พี่เปิดอะ น้องมันเจอมาตลอดนะ แล้วรับรู้คนเดียวด้วย ยังทนได้เลย แล้วตอนนี้กับเรื่องแค่นี้ ทำไมทุกคนถึงประเมินน้องต่ำเกิ๊น พี่คิงส์วิเคราะห์แบบฟันธงเลยนะ ณ เวลานี้CL ไม่ได้มีอารมณ์ทางลบกับตัวเอง แต่กลับมีพลังเหมือนเสือที่ถูกมัดไว้ด้วยความกตัญญู แต่ตอนนี้ เหมือนทุกอย่างถูกปลดปล่อย แค่มดปลวกจะทำให้เสือสะดุ้งได้ยังไง เอาว่า ใครที่ทำเฮี้ยอะไรเอาไว้ พวกเมิงรอดูร่างแท้ของ CL ก็แล้วกัน ไอ่ฉัด! #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง ปล. ฝากถึงอิดาคุ๊กกี้จอมกลับกลอกว่า เมิงกับกรู ไม่จบนะ กรูยังมีจัดให้เมิงอีกเยอะ ก็เมิงพูดเอง ว่าให้กรูจัดเมิงเต็มที่ ดังนั้น อยู่นิ่งๆ อย่าดิ้นเยอะ ยิ่งดิ้น ยิ่งเจ็บ อิsus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้อยศาสตร์พันศิลป์ พระอันดากู ถูกสลักขึ้นโดยไม่มีซ้ำกันเลย แต่ละองค์สลักขึ้นจากจินตนาการ ผสานพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อพระพุทธองค์ ช่างผู้สลักต้องใช้สมาธิขั้นสูง โดยไม่คำนึงถึงระยะเวลาแล้วเสร็จ จึงเป็นงานอกาลิโก ที่ถ่ายทอดจากจิตวิญญาณ ความวิริยะอุตสาหะ ความพากเพียร จินตนาการที่ยิ่งใหญ่เกินขอบจักรวาล จึงก่อเกิดเป็นงานพุทธศิลป์อจินไตย ที่ยิ่งใหญ่และล้ำค่า ผู้ที่ได้ครอบงานพุทธศิลป์ที่สะอาด บริสุทธิ์นี้นับว่าท่านมีบุญบารมี และมีบุญสัมพันธ์กันกับพระอันดากู โดยพระอันดากู ทุกองค์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยจิตบริสุทธิ์ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา จึงมีพลังงานและญาณเทวดารักษาทุกองค์
    ……..เนย์ อันดากู……..
    ร้อยศาสตร์พันศิลป์ พระอันดากู ถูกสลักขึ้นโดยไม่มีซ้ำกันเลย แต่ละองค์สลักขึ้นจากจินตนาการ ผสานพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อพระพุทธองค์ ช่างผู้สลักต้องใช้สมาธิขั้นสูง โดยไม่คำนึงถึงระยะเวลาแล้วเสร็จ จึงเป็นงานอกาลิโก ที่ถ่ายทอดจากจิตวิญญาณ ความวิริยะอุตสาหะ ความพากเพียร จินตนาการที่ยิ่งใหญ่เกินขอบจักรวาล จึงก่อเกิดเป็นงานพุทธศิลป์อจินไตย ที่ยิ่งใหญ่และล้ำค่า ผู้ที่ได้ครอบงานพุทธศิลป์ที่สะอาด บริสุทธิ์นี้นับว่าท่านมีบุญบารมี และมีบุญสัมพันธ์กันกับพระอันดากู โดยพระอันดากู ทุกองค์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยจิตบริสุทธิ์ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา จึงมีพลังงานและญาณเทวดารักษาทุกองค์ ……..เนย์ อันดากู……..
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศเหนือ

    เดือนนี้ ส่งผลดีในด้านวาสนา บารมี และโชคลาภ รวยทรัพย์มาก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้กำไรดี มีการแบ่งปัน ผลประโยชน์อย่างลงตัว ที่ตั้งตารอมรดกก็จะได้รับ ได้ลาภผลจากถิ่นฐานบ้านเกิดเดิม ลูกค้าที่ห่างหายไปนาน จะหวนคืนกลับมาเรียกใช้ ผู้ใหญ่จะมาเยี่ยมถึงบ้าน ทารกเกิดใหม่จะเป็นผู้มีบุญญาธิการ สุขภาพร่างกายดี ที่ป่วยอยู่ก็จะหาย ที่ไม่อ่อนแออยู่ก็จะแข็งแรง แต่มีความรู้สึกโดดเดี่ยว จะดีต่อหญิงตั้งครรภ์ แต่จะมีปัญหา ด้านการกิน ปวดท้อง ไม่ดีต่อเพศชายที่มีธาตุดินแข็ง เด็กชายมีปัญหาทางจิต ไม่สู้ความจริง ไม่กระตือรือร้น ดื้อรั้น ไม่มั่นคง จับจด เก็บตัว เบื่อโลก โดนภัยจากภูเขาหรือหินทำร้าย หกล้ม ปวดต้นขาด้านซ้าย โรคเกี่ยวกับมือ จมูก เอว กระดูกสันหลัง กล้ามเนื้อ หลังค่อม ขาเสีย

    เสริมมงคล : ติดตั้งน้ำพุ
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศเหนือ เดือนนี้ ส่งผลดีในด้านวาสนา บารมี และโชคลาภ รวยทรัพย์มาก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้กำไรดี มีการแบ่งปัน ผลประโยชน์อย่างลงตัว ที่ตั้งตารอมรดกก็จะได้รับ ได้ลาภผลจากถิ่นฐานบ้านเกิดเดิม ลูกค้าที่ห่างหายไปนาน จะหวนคืนกลับมาเรียกใช้ ผู้ใหญ่จะมาเยี่ยมถึงบ้าน ทารกเกิดใหม่จะเป็นผู้มีบุญญาธิการ สุขภาพร่างกายดี ที่ป่วยอยู่ก็จะหาย ที่ไม่อ่อนแออยู่ก็จะแข็งแรง แต่มีความรู้สึกโดดเดี่ยว จะดีต่อหญิงตั้งครรภ์ แต่จะมีปัญหา ด้านการกิน ปวดท้อง ไม่ดีต่อเพศชายที่มีธาตุดินแข็ง เด็กชายมีปัญหาทางจิต ไม่สู้ความจริง ไม่กระตือรือร้น ดื้อรั้น ไม่มั่นคง จับจด เก็บตัว เบื่อโลก โดนภัยจากภูเขาหรือหินทำร้าย หกล้ม ปวดต้นขาด้านซ้าย โรคเกี่ยวกับมือ จมูก เอว กระดูกสันหลัง กล้ามเนื้อ หลังค่อม ขาเสีย เสริมมงคล : ติดตั้งน้ำพุ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • อำนาจบารมีอะไร..เห็นแต่คนทำชั่ว อ้างอำนาจบารมี อวยกันเชียร์กันในทางผิด อวยเขาเพื่ออาศัยเงินเขา ขอตำแหน่งเขา คนที่ไร้ศิลธรรมทำได้หมด
    อำนาจบารมีอะไร..เห็นแต่คนทำชั่ว อ้างอำนาจบารมี อวยกันเชียร์กันในทางผิด อวยเขาเพื่ออาศัยเงินเขา ขอตำแหน่งเขา คนที่ไร้ศิลธรรมทำได้หมด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม ความว่า

    “บัดนี้ บรรลุอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ วาระเถลิงศกเช่นนี้ คือสมมุติแห่งกาลเวลา ที่ช่วยสอนใจ ให้ได้ทบทวนถึงอายุที่ผ่านพ้น เป็นการอบรมตักเตือนตนด้วยตนเองว่าเผลอกระทำสิ่งหนึ่งประการใด อันอาจผิดพลาดบกพร่องไปบ้าง จักได้ไม่มัวหลงระเริงในวัยและในชีวิต แล้วจักได้เร่งกลับตัวกลับใจ ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคนไม่ประมาท เพื่อจักได้เร่งบำเพ็ญคุณประโยชน์ ให้สำเร็จประโยชน์ทั้งในทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป

    ตลอดปีที่ผ่านมา ชาวไทยต่างพร้อมเพรียงกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีต่าง ๆ เป็นอเนกประการ นับเป็นกุศลกิจที่น่าอนุโมทนาชื่นชม ทั้งยังเกิดมีโอกาสพิเศษให้เราทั้งหลาย ได้ไปประชุมพรั่งพร้อมกันอย่างเนืองแน่น เพื่อกระทำสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญจากมิตรประเทศมาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง ถึง ๒ วาระ เหตุการณ์อันเป็นมงคลเช่นนี้ บังเกิดขึ้นได้เพราะคุณธรรมสำคัญที่เรียกว่า “ศรัทธา” ซึ่งแปลว่าความเชื่ออันประกอบด้วยเหตุผล ช่วยหลอมรวมน้ำใจไทยให้ผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวด้วยความสามัคคี เพิ่มพูนทวีขึ้นเป็นพละกำลังมหาศาลค้ำจุนหนุนนำให้ชาติบ้านเมือง สามารถดำรงอยู่อย่างเข้มแข็งและมั่นคง มีชัยชนะเหนือปัญหาและอุปสรรคได้ตลอดมา

    ศรัทธา จึงอุปมาดุจแม่ทัพ คอยกรุยทางเหนี่ยวนำให้กุศลอื่น ๆ งอกงามติดตามมา เพราะความชั่วทั้งหลาย ล้วนเกิดจากความประมาท ส่วนความดีทั้งหลายล้วนเกิดจากศรัทธา หากบุคคลไม่มีศรัทธาเป็นตัวนำแล้ว กุศลธรรมอื่น ๆ ก็จักไม่เจริญหรือบังเกิดมีขึ้น เพราะฉะนั้นความศรัทธาจึงเป็นเครื่องปลื้มใจและเป็นเพื่อนแท้ของทุกชีวิตเป็นพลังงานผลักดันให้พากเพียรเดินหน้า ไปประกอบกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวม

    ณ วาระขึ้นปีใหม่นี้ จึงขอให้คนไทยทุกคน ตั้งใจประคับประคองความศรัทธาไว้อย่าให้หวั่นไหว ทั้งต่อคุณพระรัตนตรัย ทั้งต่อสถาบันอันเป็นหลักชัยของชาติ และต่อคุณธรรมคือความดีงามทุกประการ เพื่อให้บังเกิดมีขวัญแห่งชีวิต ทรงฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ เป็นความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ซึ่งย่อมยังความเจริญรุ่งเรืองให้สำเร็จได้สมตามความมุ่งหมายทุกประการ

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และกุศลจริยาทุกท่านร่วมกันบำเพ็ญ เป็นเครื่องพิทักษ์รักษาประเทศชาติและประชาชน ดลความโสมนัสพระราชหฤทัย ให้ประสิทธิ์ในสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อจักได้ทรงเพียบเพ็ญด้วยพระบารมีธรรม และขอประสาทพรให้ชาวไทย จงสำเร็จสมมโนรถในสรรพกิจอันเป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยธรรม นำความผาสุกสวัสดีมาสู่เพื่อนร่วมชาติ ตลอดพุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ.”
    เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม ความว่า “บัดนี้ บรรลุอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ วาระเถลิงศกเช่นนี้ คือสมมุติแห่งกาลเวลา ที่ช่วยสอนใจ ให้ได้ทบทวนถึงอายุที่ผ่านพ้น เป็นการอบรมตักเตือนตนด้วยตนเองว่าเผลอกระทำสิ่งหนึ่งประการใด อันอาจผิดพลาดบกพร่องไปบ้าง จักได้ไม่มัวหลงระเริงในวัยและในชีวิต แล้วจักได้เร่งกลับตัวกลับใจ ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคนไม่ประมาท เพื่อจักได้เร่งบำเพ็ญคุณประโยชน์ ให้สำเร็จประโยชน์ทั้งในทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตลอดปีที่ผ่านมา ชาวไทยต่างพร้อมเพรียงกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีต่าง ๆ เป็นอเนกประการ นับเป็นกุศลกิจที่น่าอนุโมทนาชื่นชม ทั้งยังเกิดมีโอกาสพิเศษให้เราทั้งหลาย ได้ไปประชุมพรั่งพร้อมกันอย่างเนืองแน่น เพื่อกระทำสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญจากมิตรประเทศมาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง ถึง ๒ วาระ เหตุการณ์อันเป็นมงคลเช่นนี้ บังเกิดขึ้นได้เพราะคุณธรรมสำคัญที่เรียกว่า “ศรัทธา” ซึ่งแปลว่าความเชื่ออันประกอบด้วยเหตุผล ช่วยหลอมรวมน้ำใจไทยให้ผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวด้วยความสามัคคี เพิ่มพูนทวีขึ้นเป็นพละกำลังมหาศาลค้ำจุนหนุนนำให้ชาติบ้านเมือง สามารถดำรงอยู่อย่างเข้มแข็งและมั่นคง มีชัยชนะเหนือปัญหาและอุปสรรคได้ตลอดมา ศรัทธา จึงอุปมาดุจแม่ทัพ คอยกรุยทางเหนี่ยวนำให้กุศลอื่น ๆ งอกงามติดตามมา เพราะความชั่วทั้งหลาย ล้วนเกิดจากความประมาท ส่วนความดีทั้งหลายล้วนเกิดจากศรัทธา หากบุคคลไม่มีศรัทธาเป็นตัวนำแล้ว กุศลธรรมอื่น ๆ ก็จักไม่เจริญหรือบังเกิดมีขึ้น เพราะฉะนั้นความศรัทธาจึงเป็นเครื่องปลื้มใจและเป็นเพื่อนแท้ของทุกชีวิตเป็นพลังงานผลักดันให้พากเพียรเดินหน้า ไปประกอบกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวม ณ วาระขึ้นปีใหม่นี้ จึงขอให้คนไทยทุกคน ตั้งใจประคับประคองความศรัทธาไว้อย่าให้หวั่นไหว ทั้งต่อคุณพระรัตนตรัย ทั้งต่อสถาบันอันเป็นหลักชัยของชาติ และต่อคุณธรรมคือความดีงามทุกประการ เพื่อให้บังเกิดมีขวัญแห่งชีวิต ทรงฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ เป็นความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ซึ่งย่อมยังความเจริญรุ่งเรืองให้สำเร็จได้สมตามความมุ่งหมายทุกประการ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และกุศลจริยาทุกท่านร่วมกันบำเพ็ญ เป็นเครื่องพิทักษ์รักษาประเทศชาติและประชาชน ดลความโสมนัสพระราชหฤทัย ให้ประสิทธิ์ในสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อจักได้ทรงเพียบเพ็ญด้วยพระบารมีธรรม และขอประสาทพรให้ชาวไทย จงสำเร็จสมมโนรถในสรรพกิจอันเป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยธรรม นำความผาสุกสวัสดีมาสู่เพื่อนร่วมชาติ ตลอดพุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ.”
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม ความว่า

    “บัดนี้ บรรลุอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ วาระเถลิงศกเช่นนี้ คือสมมุติแห่งกาลเวลา ที่ช่วยสอนใจ ให้ได้ทบทวนถึงอายุที่ผ่านพ้น เป็นการอบรมตักเตือนตนด้วยตนเองว่าเผลอกระทำสิ่งหนึ่งประการใด อันอาจผิดพลาดบกพร่องไปบ้าง จักได้ไม่มัวหลงระเริงในวัยและในชีวิต แล้วจักได้เร่งกลับตัวกลับใจ ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคนไม่ประมาท เพื่อจักได้เร่งบำเพ็ญคุณประโยชน์ ให้สำเร็จประโยชน์ทั้งในทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป

    ตลอดปีที่ผ่านมา ชาวไทยต่างพร้อมเพรียงกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีต่าง ๆ เป็นอเนกประการ นับเป็นกุศลกิจที่น่าอนุโมทนาชื่นชม ทั้งยังเกิดมีโอกาสพิเศษให้เราทั้งหลาย ได้ไปประชุมพรั่งพร้อมกันอย่างเนืองแน่น เพื่อกระทำสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญจากมิตรประเทศมาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง ถึง ๒ วาระ เหตุการณ์อันเป็นมงคลเช่นนี้ บังเกิดขึ้นได้เพราะคุณธรรมสำคัญที่เรียกว่า “ศรัทธา” ซึ่งแปลว่าความเชื่ออันประกอบด้วยเหตุผล ช่วยหลอมรวมน้ำใจไทยให้ผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวด้วยความสามัคคี เพิ่มพูนทวีขึ้นเป็นพละกำลังมหาศาลค้ำจุนหนุนนำให้ชาติบ้านเมือง สามารถดำรงอยู่อย่างเข้มแข็งและมั่นคง มีชัยชนะเหนือปัญหาและอุปสรรคได้ตลอดมา

    ศรัทธา จึงอุปมาดุจแม่ทัพ คอยกรุยทางเหนี่ยวนำให้กุศลอื่น ๆ งอกงามติดตามมา เพราะความชั่วทั้งหลาย ล้วนเกิดจากความประมาท ส่วนความดีทั้งหลายล้วนเกิดจากศรัทธา หากบุคคลไม่มีศรัทธาเป็นตัวนำแล้ว กุศลธรรมอื่น ๆ ก็จักไม่เจริญหรือบังเกิดมีขึ้น เพราะฉะนั้นความศรัทธาจึงเป็นเครื่องปลื้มใจและเป็นเพื่อนแท้ของทุกชีวิตเป็นพลังงานผลักดันให้พากเพียรเดินหน้า ไปประกอบกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวม

    ณ วาระขึ้นปีใหม่นี้ จึงขอให้คนไทยทุกคน ตั้งใจประคับประคองความศรัทธาไว้อย่าให้หวั่นไหว ทั้งต่อคุณพระรัตนตรัย ทั้งต่อสถาบันอันเป็นหลักชัยของชาติ และต่อคุณธรรมคือความดีงามทุกประการ เพื่อให้บังเกิดมีขวัญแห่งชีวิต ทรงฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ เป็นความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ซึ่งย่อมยังความเจริญรุ่งเรืองให้สำเร็จได้สมตามความมุ่งหมายทุกประการ

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และกุศลจริยาทุกท่านร่วมกันบำเพ็ญ เป็นเครื่องพิทักษ์รักษาประเทศชาติและประชาชน ดลความโสมนัสพระราชหฤทัย ให้ประสิทธิ์ในสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อจักได้ทรงเพียบเพ็ญด้วยพระบารมีธรรม และขอประสาทพรให้ชาวไทย จงสำเร็จสมมโนรถในสรรพกิจอันเป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยธรรม นำความผาสุกสวัสดีมาสู่เพื่อนร่วมชาติ ตลอดพุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ.”
    เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม ความว่า “บัดนี้ บรรลุอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ วาระเถลิงศกเช่นนี้ คือสมมุติแห่งกาลเวลา ที่ช่วยสอนใจ ให้ได้ทบทวนถึงอายุที่ผ่านพ้น เป็นการอบรมตักเตือนตนด้วยตนเองว่าเผลอกระทำสิ่งหนึ่งประการใด อันอาจผิดพลาดบกพร่องไปบ้าง จักได้ไม่มัวหลงระเริงในวัยและในชีวิต แล้วจักได้เร่งกลับตัวกลับใจ ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคนไม่ประมาท เพื่อจักได้เร่งบำเพ็ญคุณประโยชน์ ให้สำเร็จประโยชน์ทั้งในทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตลอดปีที่ผ่านมา ชาวไทยต่างพร้อมเพรียงกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีต่าง ๆ เป็นอเนกประการ นับเป็นกุศลกิจที่น่าอนุโมทนาชื่นชม ทั้งยังเกิดมีโอกาสพิเศษให้เราทั้งหลาย ได้ไปประชุมพรั่งพร้อมกันอย่างเนืองแน่น เพื่อกระทำสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญจากมิตรประเทศมาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง ถึง ๒ วาระ เหตุการณ์อันเป็นมงคลเช่นนี้ บังเกิดขึ้นได้เพราะคุณธรรมสำคัญที่เรียกว่า “ศรัทธา” ซึ่งแปลว่าความเชื่ออันประกอบด้วยเหตุผล ช่วยหลอมรวมน้ำใจไทยให้ผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวด้วยความสามัคคี เพิ่มพูนทวีขึ้นเป็นพละกำลังมหาศาลค้ำจุนหนุนนำให้ชาติบ้านเมือง สามารถดำรงอยู่อย่างเข้มแข็งและมั่นคง มีชัยชนะเหนือปัญหาและอุปสรรคได้ตลอดมา ศรัทธา จึงอุปมาดุจแม่ทัพ คอยกรุยทางเหนี่ยวนำให้กุศลอื่น ๆ งอกงามติดตามมา เพราะความชั่วทั้งหลาย ล้วนเกิดจากความประมาท ส่วนความดีทั้งหลายล้วนเกิดจากศรัทธา หากบุคคลไม่มีศรัทธาเป็นตัวนำแล้ว กุศลธรรมอื่น ๆ ก็จักไม่เจริญหรือบังเกิดมีขึ้น เพราะฉะนั้นความศรัทธาจึงเป็นเครื่องปลื้มใจและเป็นเพื่อนแท้ของทุกชีวิตเป็นพลังงานผลักดันให้พากเพียรเดินหน้า ไปประกอบกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวม ณ วาระขึ้นปีใหม่นี้ จึงขอให้คนไทยทุกคน ตั้งใจประคับประคองความศรัทธาไว้อย่าให้หวั่นไหว ทั้งต่อคุณพระรัตนตรัย ทั้งต่อสถาบันอันเป็นหลักชัยของชาติ และต่อคุณธรรมคือความดีงามทุกประการ เพื่อให้บังเกิดมีขวัญแห่งชีวิต ทรงฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ เป็นความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ซึ่งย่อมยังความเจริญรุ่งเรืองให้สำเร็จได้สมตามความมุ่งหมายทุกประการ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และกุศลจริยาทุกท่านร่วมกันบำเพ็ญ เป็นเครื่องพิทักษ์รักษาประเทศชาติและประชาชน ดลความโสมนัสพระราชหฤทัย ให้ประสิทธิ์ในสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อจักได้ทรงเพียบเพ็ญด้วยพระบารมีธรรม และขอประสาทพรให้ชาวไทย จงสำเร็จสมมโนรถในสรรพกิจอันเป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยธรรม นำความผาสุกสวัสดีมาสู่เพื่อนร่วมชาติ ตลอดพุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ.”
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม ความว่า

    “บัดนี้ บรรลุอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ วาระเถลิงศกเช่นนี้ คือสมมุติแห่งกาลเวลา ที่ช่วยสอนใจ ให้ได้ทบทวนถึงอายุที่ผ่านพ้น เป็นการอบรมตักเตือนตนด้วยตนเองว่าเผลอกระทำสิ่งหนึ่งประการใด อันอาจผิดพลาดบกพร่องไปบ้าง จักได้ไม่มัวหลงระเริงในวัยและในชีวิต แล้วจักได้เร่งกลับตัวกลับใจ ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคนไม่ประมาท เพื่อจักได้เร่งบำเพ็ญคุณประโยชน์ ให้สำเร็จประโยชน์ทั้งในทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป

    ตลอดปีที่ผ่านมา ชาวไทยต่างพร้อมเพรียงกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีต่าง ๆ เป็นอเนกประการ นับเป็นกุศลกิจที่น่าอนุโมทนาชื่นชม ทั้งยังเกิดมีโอกาสพิเศษให้เราทั้งหลาย ได้ไปประชุมพรั่งพร้อมกันอย่างเนืองแน่น เพื่อกระทำสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญจากมิตรประเทศมาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง ถึง ๒ วาระ เหตุการณ์อันเป็นมงคลเช่นนี้ บังเกิดขึ้นได้เพราะคุณธรรมสำคัญที่เรียกว่า “ศรัทธา” ซึ่งแปลว่าความเชื่ออันประกอบด้วยเหตุผล ช่วยหลอมรวมน้ำใจไทยให้ผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวด้วยความสามัคคี เพิ่มพูนทวีขึ้นเป็นพละกำลังมหาศาลค้ำจุนหนุนนำให้ชาติบ้านเมือง สามารถดำรงอยู่อย่างเข้มแข็งและมั่นคง มีชัยชนะเหนือปัญหาและอุปสรรคได้ตลอดมา

    ศรัทธา จึงอุปมาดุจแม่ทัพ คอยกรุยทางเหนี่ยวนำให้กุศลอื่น ๆ งอกงามติดตามมา เพราะความชั่วทั้งหลาย ล้วนเกิดจากความประมาท ส่วนความดีทั้งหลายล้วนเกิดจากศรัทธา หากบุคคลไม่มีศรัทธาเป็นตัวนำแล้ว กุศลธรรมอื่น ๆ ก็จักไม่เจริญหรือบังเกิดมีขึ้น เพราะฉะนั้นความศรัทธาจึงเป็นเครื่องปลื้มใจและเป็นเพื่อนแท้ของทุกชีวิตเป็นพลังงานผลักดันให้พากเพียรเดินหน้า ไปประกอบกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวม

    ณ วาระขึ้นปีใหม่นี้ จึงขอให้คนไทยทุกคน ตั้งใจประคับประคองความศรัทธาไว้อย่าให้หวั่นไหว ทั้งต่อคุณพระรัตนตรัย ทั้งต่อสถาบันอันเป็นหลักชัยของชาติ และต่อคุณธรรมคือความดีงามทุกประการ เพื่อให้บังเกิดมีขวัญแห่งชีวิต ทรงฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ เป็นความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ซึ่งย่อมยังความเจริญรุ่งเรืองให้สำเร็จได้สมตามความมุ่งหมายทุกประการ

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และกุศลจริยาทุกท่านร่วมกันบำเพ็ญ เป็นเครื่องพิทักษ์รักษาประเทศชาติและประชาชน ดลความโสมนัสพระราชหฤทัย ให้ประสิทธิ์ในสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อจักได้ทรงเพียบเพ็ญด้วยพระบารมีธรรม และขอประสาทพรให้ชาวไทย จงสำเร็จสมมโนรถในสรรพกิจอันเป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยธรรม นำความผาสุกสวัสดีมาสู่เพื่อนร่วมชาติ ตลอดพุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ.”
    เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม ความว่า “บัดนี้ บรรลุอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ วาระเถลิงศกเช่นนี้ คือสมมุติแห่งกาลเวลา ที่ช่วยสอนใจ ให้ได้ทบทวนถึงอายุที่ผ่านพ้น เป็นการอบรมตักเตือนตนด้วยตนเองว่าเผลอกระทำสิ่งหนึ่งประการใด อันอาจผิดพลาดบกพร่องไปบ้าง จักได้ไม่มัวหลงระเริงในวัยและในชีวิต แล้วจักได้เร่งกลับตัวกลับใจ ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคนไม่ประมาท เพื่อจักได้เร่งบำเพ็ญคุณประโยชน์ ให้สำเร็จประโยชน์ทั้งในทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตลอดปีที่ผ่านมา ชาวไทยต่างพร้อมเพรียงกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีต่าง ๆ เป็นอเนกประการ นับเป็นกุศลกิจที่น่าอนุโมทนาชื่นชม ทั้งยังเกิดมีโอกาสพิเศษให้เราทั้งหลาย ได้ไปประชุมพรั่งพร้อมกันอย่างเนืองแน่น เพื่อกระทำสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญจากมิตรประเทศมาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง ถึง ๒ วาระ เหตุการณ์อันเป็นมงคลเช่นนี้ บังเกิดขึ้นได้เพราะคุณธรรมสำคัญที่เรียกว่า “ศรัทธา” ซึ่งแปลว่าความเชื่ออันประกอบด้วยเหตุผล ช่วยหลอมรวมน้ำใจไทยให้ผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวด้วยความสามัคคี เพิ่มพูนทวีขึ้นเป็นพละกำลังมหาศาลค้ำจุนหนุนนำให้ชาติบ้านเมือง สามารถดำรงอยู่อย่างเข้มแข็งและมั่นคง มีชัยชนะเหนือปัญหาและอุปสรรคได้ตลอดมา ศรัทธา จึงอุปมาดุจแม่ทัพ คอยกรุยทางเหนี่ยวนำให้กุศลอื่น ๆ งอกงามติดตามมา เพราะความชั่วทั้งหลาย ล้วนเกิดจากความประมาท ส่วนความดีทั้งหลายล้วนเกิดจากศรัทธา หากบุคคลไม่มีศรัทธาเป็นตัวนำแล้ว กุศลธรรมอื่น ๆ ก็จักไม่เจริญหรือบังเกิดมีขึ้น เพราะฉะนั้นความศรัทธาจึงเป็นเครื่องปลื้มใจและเป็นเพื่อนแท้ของทุกชีวิตเป็นพลังงานผลักดันให้พากเพียรเดินหน้า ไปประกอบกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวม ณ วาระขึ้นปีใหม่นี้ จึงขอให้คนไทยทุกคน ตั้งใจประคับประคองความศรัทธาไว้อย่าให้หวั่นไหว ทั้งต่อคุณพระรัตนตรัย ทั้งต่อสถาบันอันเป็นหลักชัยของชาติ และต่อคุณธรรมคือความดีงามทุกประการ เพื่อให้บังเกิดมีขวัญแห่งชีวิต ทรงฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ เป็นความพร้อมเพรียงแห่งชนผู้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ ซึ่งย่อมยังความเจริญรุ่งเรืองให้สำเร็จได้สมตามความมุ่งหมายทุกประการ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และกุศลจริยาทุกท่านร่วมกันบำเพ็ญ เป็นเครื่องพิทักษ์รักษาประเทศชาติและประชาชน ดลความโสมนัสพระราชหฤทัย ให้ประสิทธิ์ในสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อจักได้ทรงเพียบเพ็ญด้วยพระบารมีธรรม และขอประสาทพรให้ชาวไทย จงสำเร็จสมมโนรถในสรรพกิจอันเป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยธรรม นำความผาสุกสวัสดีมาสู่เพื่อนร่วมชาติ ตลอดพุทธศักราช ๒๕๖๘ นี้ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ.”
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • 02-01-67/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP8 เริ่มวันใหม่ของปี จัดหนักไปเลย!

    CHICKEN DANCE 2025 ฉลองปีใหม่กันหน่อย เหี้ยกลัวข่าวจะเงียบเกิน? ระเบิดใครไม่ได้ ระเบิดตัวเอง แม่งซะเลย ลาสเวกัสบึ้มสนั่นเมือง! ทำไมต้องรถเทสล่า ไซเบอร์ ทรัค มรึงไม่ต้องถาม? ชัดเจน! จัดฉาก หมายังรู้? แล้วอีทรัมปป์จะไม่ถอนราก ถอนโคนเหี้ย DEEP STATE ได้ยังไง? มรึงไม่สังเกตุเหรอ? ไหนบอกมีดาวเทียมตาวิเศษ ไหนบอกข่าวกรองเป๊ะ ใครจะทำอะไร ขนระเบิด AI ตรวจจับไม่ยาก แต่ที่เกิดเหตุประจำเนี่ย เพราะมันตั้งใจปล่อยให้ทำไงล่ะ? ตั้งใจให้เกิด ส่งสัญญาน ก่อนสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง มรึงระวังตัวให้ดีเหอะ กูรอล้มเลือกตั้งอยู่เนี่ย? แลนด์สไลด์ชิมิ? ประชาธิปไตยชิมิ? ลอบฆ่าคืองานถนัดเหี้ย C หากมองมุมกลับ อีทรัมปป์ก็อาจจะเล่นซะเอง จัดฉาก บอกเพื่อนรัก อีมัคก์ สละรถให้กูคันนึง! ดูมันบังเอิญง่ายไปป่ะ? ละครปาหี่เหี้ยมะกัน เรตติ้งตก ไม่เนียน ไร้ราคา โลกถาม "มรึงว่างกันมว๊ากชิมิ?"

    กลบเกลื่อน กลบข่าว กลบสาระพัด! กลัวควายรู้ว่า เยรูซาเล็ม เยี่ยวแตกแล้วจ๊ะ อีเยเมนขาโหด ไม่พูดเยอะ ดาหน้าถล่มยับข้ามปี ไม่มีพักเบรคเลยเหรอ? บอลยังมีหนีหนาว ไอ้สัส! ยิงกูจัง ถล่มกูจริง ปีกว่าแล้ว ที่ชาวยิวต้องวิ่งหนีมุดลงหลุมหลบภัยตอนตี 2 ทั้งวันไม่ยิง ยิงตอนมรึงหลับเนี่ยแหละ ชาวเมืองหมดสภาพ นอนไม่อิ่ม กินไม่ได้ ไม่รู้ระเบิดจะลงหัวเมื่อไหร่ หลังล่อขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค 12 มัค ล่อสนามบินพาณิชย์หลักของเทลอาวีฟ นั่นแค่ส่งสัญญาน กูยิงอะไร มรึงก็ไม่รอด สกัดไม่ได้ รอโดน รอตายอย่างเดียว แล้วยังไง? แผนเขี่ยอีเนรคุณทันยาก็มา แกล้งป่วย แปล้งเจ็บ รอการถีบส่ง เพื่อลดกระแสเกลียดชังยิวกันทั้งโลก โยนบาปให้แพะอีเนรคุณทันยาแทน หมายังเดาออก? อ้าว..ไหง บอก อียิวไล่ยึดซีเรียสำเร็จ แล้วทำไม กองกำลังมรึง ถอยยับ หนีไปกระจุกอยู่ที่ราบสูงโกลานกันล่ะ? มรึงบุกเค้ามิใช่เหรอ? หลอกควายดีใจแป๊บ กลับสู่โลกความเป็นจริง! อะไรน่ะ อีเติร์กหิวแสง ทั้งขย่ม ทั้งคลั่ง ไล่ฆ่าอีเคริ์ดกบฎอย่างเมามันส์ ใครขวางตายห่าลูกเดียว? นี่มรึงเล่นเกมส์เด็ดหัวเหี้ย ไม่ปรึกษาใครเลยเหรอ? บ่อน้ำมันกระจุย อีเคิร์ดได้ไปเฝ้าหลุมต่อในขุมนรกแทน เกรงใจกูบ้าง ฐานทัพเหี้ยมะกันยังอยู่น่ะมรึง? อะไรน่ะ ลอยมาแต่ไกล ไอ้สัส! ไม่มีในสคริปต์นี่หว่า? ปล่อยอีไก่งวง SHOW TIME ไปก่อน มันกำลังคึกจัด!

    อีโสมขาว ประกาศไม่ง้อโว๊ย! ไทยไม่เที่ยว กูไม่ง้อ เชิญมรึงอิ่ม EGO มรึงไปเหอะ สร้างชาติจากการเดินตามก้นอียุ่นปี่ จะแข่งบารมี แต่ไม่มีอะไรดีจะโชว์ มรึงแหกตาดูโสมแดง ไม่ง้อใคร เป็นตัวเอง แม้แต่เหี้ยตัวพ่อ ยังต้องกราบตรีน คุณค่าอยู่ที่ตัวทำ ไม่ใช่รอเหี้ยมาเสนอ? ยอดท่องเที่ยวตก เดี๋ยวกูหาใหม่ได้ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา กูแนะนำให้เอามั้ย? ไทยไม่เที่ยว เชิญอีขะแมร์เที่ยวสิ แล้วเดี๋ยวมรึงจะดวงตาเห็นธรรม เดี๋ยวแม่งไปเจออะไร อ้างเป็นของมันหมด ราชวงศ์โชซอน ก็ของมัน มันรำลึกชาติได้? กระจอกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว อีขะปมร์ มันยังมีตัวตนอยู่บนโลกป่ะเนี่ย? โดมิโน่ แอฟเฟค มาเต็มตรีน อีเบียร์ อีเศษฝรั่ง ทรุดหนัก ฟื้นเศรษฐกิจไม่ขึ้น หนี้บานตะไท อุ้มสกุลเงิน EURO ต่อไม่ไหว คลังอีเบียร์ต้องเอาไปจมกับ EU เพื่อประคองให้รอด ชาวเมืองเบียร์หายซ่าส์ EGO แรงชิมิ? สู้ต่อสิ ดีออก? จะแดร๊กยังไม่มี ภาษีไปลงใคร พลังงานพุ่ง ภาษีรีดเพิ่ม สวัสดิการหดหาย อีโง่โอลาฟหลุดวงโคจร มรึงจะไปตามเอาคืนกับใคร? โง่กว่าอีเบียร์ไม่มีอีกแล้ว อยู่ดีดี ได้พลังงานถูกรัสเซีย ทำอุตสาหกรรมโตเต็มกำลัง คลังล้นทะลัก พอเค้าไม่เอามรึง เพราะมรึงไปคว่ำบาตรปาหี่ตามเกมส์อเมริกา เพราะอีผู้นำมันเป็นขี้ข้ายิวไงล่ะ? เก้าอี้ได้มาเพราะใคร? ตอนนี้ EU พังทั้งระบบ จะร่วมสู้กับ NATO ต่อมั้ยล่ะ? แผนปูติน ฆ่าเหี้ยตายยกคอกของจริง!

    ผีอีโม แรงจริง เฮี้ยนจริง อะไรจริง! หลักฐานซัดกันซึ่งหน้า ตัวละครใหม่ผุดเข้ามา จะแถยังไง จะแหลแค่ไหน? คนแดร๊กข้าว ไม่ได้แดร๊กหญ้าเหมือนพวกมรึง? คนเค้ารู้ "ฆาตกรรม" มรึงยังจะแถ "อุบัติเหตุ" ไม่ต้องมีแล้วกฎหมาย เอากฎหมา ไปเลยดีมั้ย? ลงขันไล่สั่งเก็บไอ้ตัวต้นเหตุ ใหญ่คับฟ้าแค่ไหน ก็แค่ขี้ตรีนสวรรค์ หนีความจริงไม่พ้นดอก? ไอ้อีที่หักหลังผีอีโม มรึงโดนกันถ้วนหน้าแน่ สลัดหลุดจากกระบวนการสะกดวิญญานเสร็จเมื่อไหร่ ผีอีโม ตามไปเยี่ยมมรึงทุกไอ้อี ไม่ต้องห่วงว่าจะมีตกหล่น ผีอีโมยุค 9G เร็ว แรง ทะลุ ประตูนรกเลยมรึง? อ.ปานเทพ เตรียมจัดชุดใหญ่ ทั้งเรื่อง MOU44 และผีอีโม ความบริสุทธิ์ไม่มา ความจริงไม่ปรากฎ ไม่มีถอย! ใครออกตัวปกป้องเหี้ย ปิดบังความจริง บิดเบือนหลักฐาน โดนแฉยับเกลี้ยง ใครขายชาติ ใครสุมหัวอีขะแมร์ขี้ตรีน? งานนี้ เปิดหน้าออกหมดเกลี้ยง? อีฮุนเซนขี้ตรีน อาจจะไม่มีแผ่นดินอยู่ หากจีนจะเล่นมรึง แค่เติมท่อน้ำเลี้ยง อย่าคิดว่าอำนาจมรึงในมือจะเอาอยู่ อำนาจมหาอำนาจโลกของจริง มรึงเทียบไม่ติดดอก เทียบไม่ได้! อีแดงมีหน้าที่เขี่ยอีส้มเน่า หมดประโยชน์ต่อไปก็ตามรึง ไม่ต้องรีบฆ่ามัน เพราะมันจะฆ่าตัวมันเอง ซ้อนแผนเหี้ย คือยอดแผน!

    สะเทือนโลก งาน COUNTDOWN THAILAND แค่ดึง LISA เธอเอาอยู่ ของดีใกล้ตัว ไม่ต้องเสียค่าโง่! คนเค้าตามมรึงเหรอ? เปล่า เอาตัวแม่เหล็กมา โลกจะตามมาเอง! งานปีใหม่ 8 เวทีใหญ่ สื่อโลกงับ ภาพพลุแตกกระจายทั่วนภา หลากหลายบรรยากาศ ตึกสูง ชายทะเล มาหมด มรึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่า "ไทยคือผู้นำโลก ด้าน ENTERTAINMENT" สายตาชาวโลก บอกต่อกัน เมืองไทย "แม่งสุดยอด" อยากสูบกัญชา เชิญ อยากเมาปลิ้น 24 ชม. เชิญ อยากตีกระหรี่ไม่อั้น เชิญ อยากวัดดวง อยากแดร๊ก UNLIMITED เชิญ อยากจะกระทืบ อยากฆ่า ตำหนวด เชิญ แค่มรึงมีเงินเท่านั้น "พระเจ้า" กฎหมายควบคุมคนมี แต่กฎหมายควบคุมเจ้าหน้าที่รัฐไม่มี(ไม่ทำ) จะแก้ทุกปัญหาของแผ่นดินนี้ได้ มรึงต้องแก้ที่เจ้าหน้าที่รัฐก่อนใครเพื่อน? ไม่ว่ากระทรวงไหน องค์กรใด หาแดร๊ก ติดสินบน จ่ายจบ ไร้ราคี กฎหมายไทยไม่ศักดิ์สิทธิ์จริงเหรอ? ตัวหนังสือมันทำอะไรไม่ได้ นอกจากคนไปทำให้มันเกิดขึ้นจริงตามตัวอักษร กำลังจะบอกว่า ปีใหม่นี้ การไล่เช็คบิลผู้ไม่กระทำตามหน้าที่ ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างที่ควรจะเป็น กำลังจะถูกล้างบางขั้นสูงสุด แสงไม่ได้มาแค่ชี้เป้า แต่แสงมาทำให้สมดุลโลกกลับมา ถึงเวลา "แก้ไข"

    ปล.ทุนสำรองมากที่สุดในโลกคือ จีน ทำไมต้องมีทุนสำรอง ทุกการพิมพ์แบงค์ออกมา ต้องมีสินทรัพย์อ้างอิง ไม่ใช่เหี้ย พิมพ์แบงค์กงเต็กหลอกควาย หลังการเปิดหีบสมบัติ ท่องคำแท่งนับ 30000 ตันจนโลกต้องตะลึง ดอลล่าร์จะกลายเป็นขี้หมาทันที ยังไม่ทำ ไม่ต้องเร่งฆ่าเหี้ย เพราะมันติดหล่มสงคราม รอมรึงแตกแผ่นดินก่อน ขายแผ่นดินแดร๊ก ค่อยเปิดหีบสมบัติ เพื่อกดค่าเงินดอลล่าร์ตายคาที่ แผนนี้ จีนจะซื้อได้ถูกบัดซบ เพราะเงินหยวนที่มีเงินสำรองมากที่สุดในโลก จะแข็งโป๊ก ขณะที่ ดอลล่าร์ ยูโร เยน จะดิ่งเหว ที่มาชี้เป้าตรงนี้ เพื่อจะบอกว่า จีนรอจังหวะและโอกาสอยู่ ต่อไปมรึงอาจจะได้ใช้ไอโพส เครื่องละ 5000 บาท เหตุเพราะคนไม่ซื้อ ขายไม่ออก ค่าเงินบัดซบ ดอลล่าร์แท้จริงมันคือ 0 หากเช็คกันจริงจัง กูบอกเลย ติดลบ - ที่มาว่าทำไม รัสเซีย จีน อาหรับ เตรียมช้อนซื้อของถูก เพราะสุดท้าย "ทองคำ" จะเป็นตัวกำหนดเกมส์สากลอีกครั้ง และต่อไปอนาคต จะมีแร่หายากอื่น มาแทนทองคำ แร่อะไรล่ะ ที่สามารถผลิตชิปส่งได้ทั่วโลก แร่ที่นำสื่อ แม่เหล็ก ทองคำจะกลายเป็นตัวเลือกอันดับ 2..3..4.. อีกไม่นาน

    ปล.2 ฮาแตก! ว๊าย วาย เหี้ยมะกันบุก ถล่มฐานทัพฮูตี คลังแสง อ๋อ..ลืมบอกไป ใครเค้าเก็บไว้บนดินกันล่ะ? ไอ้ควาย เป็นเป้าหลอกให้มรึงโจมตีเหรอ? มรึงดู กี่ครั้งแล้ว เหี้ยมะกันยิงได้ลูก สองลูก คุยยาวเป็นปี ไอ้ที่ตายห่าคาทะเลแดง เรือบรรทุกเครื่องบินจม เรือรบหายวับ บินรบร่วง โดรนพันล้านดิ่งเหว เผ่นหางจุกตูดแทบไม่ทัน เยเมนบอก มรึงทำอะไรฟ่ะ? "แค่คันคัน" พูดให้เอาบุญ ของดี ของหนัก ไม่มีใครโง่เอามาตั้งให้มรึงส่องดอก ไอ้ควาย! ยังจะโง่ได้อีก ใช้สื่อเสี้ยม หลอกควายต่อ เยเมนแย่แล้ว คลังแสงไปหมดแล้ว ตายห่าเกลื่อน ควายชื่นชม โชคดี ที่มรึงกับกูเป็นคน ควายตัวจริงยังอายแทน? ด้านอียิวบอกพอแล้ว ไอ้สัส! มรึงยกไปถล่มเยเมนปาหี่ แต่แม่งยิงถล่มกูกลับ ซ้ำไม่เลิก ยิ่งบุก ยิ่งโดน คนดูเบื่อ มรึงมีปัญญาแค่นี้เองเหรอ? แล้วเสือกจะริครองโลก เยเมนยังไม่ผ่านเลย ไอ้สัส! นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ละครมีไว้หลอกควาย เพราะควายมันเชื่อหมด บอกมรึงเกิดจากไดโนเสาร์แม่งก็เชื่อ เรื่องควายควายเนี่ย ต้องกลียุค? หากเป็นยุคอื่น เสียหมาไปนานแล้ว?

    หมี CNN(ไก่แด๊นซ์บนกองเพลิง(ตุรกีกำลังเมามันส์) ความสนุกเพิ่งจะเริ่ม อเมริกาจะเข้มข้น ศึกใน ศึกนอก มาไม่หยุด เต็มคาราเบลกันไปเลย อียิวขี้แตก เหลือแต่ซาก ซีเรียจบไปนานแล้ว แค่เอาบ่อน้ำมันคืน ถีบเหี้ยมมะกันออกไป ทุกอย่างจะกลับเข้าที่เข้าทางเอง เหี้ยอูฐ กำลังคิดแผนเอาคืนอีทรัมปป์ ขู่กูเช้าเย็น หากไม่อุ้มดอลล่าร์ อิหร่านสะกิด ใครบอกมรึงล่ะวง่า ต้องขายน้ำมันให้เหี้ยตะวันตกอีกต่อไป มรึงดูรัสเซีย แค่ขายเอเซีย ก็ไม่พอส่งแล้ว ยอดสั่งทะลัก กำไรทะลุ ตรงกันข้าม มรึงเทเหี้ย ไม่ขายน้ำมันให้มัน มันจะเอาน้ำมันที่ไหนใช้ อยู่ให้เป็น รู้คุณค่าตัวเอง มรึงถือไพ่เหนือกว่าน่ะ ต้องให้กูสอน?)
    02 มกราคม 68
    11.45 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง"
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    02-01-67/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP8 เริ่มวันใหม่ของปี จัดหนักไปเลย! CHICKEN DANCE 2025 ฉลองปีใหม่กันหน่อย เหี้ยกลัวข่าวจะเงียบเกิน? ระเบิดใครไม่ได้ ระเบิดตัวเอง แม่งซะเลย ลาสเวกัสบึ้มสนั่นเมือง! ทำไมต้องรถเทสล่า ไซเบอร์ ทรัค มรึงไม่ต้องถาม? ชัดเจน! จัดฉาก หมายังรู้? แล้วอีทรัมปป์จะไม่ถอนราก ถอนโคนเหี้ย DEEP STATE ได้ยังไง? มรึงไม่สังเกตุเหรอ? ไหนบอกมีดาวเทียมตาวิเศษ ไหนบอกข่าวกรองเป๊ะ ใครจะทำอะไร ขนระเบิด AI ตรวจจับไม่ยาก แต่ที่เกิดเหตุประจำเนี่ย เพราะมันตั้งใจปล่อยให้ทำไงล่ะ? ตั้งใจให้เกิด ส่งสัญญาน ก่อนสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง มรึงระวังตัวให้ดีเหอะ กูรอล้มเลือกตั้งอยู่เนี่ย? แลนด์สไลด์ชิมิ? ประชาธิปไตยชิมิ? ลอบฆ่าคืองานถนัดเหี้ย C หากมองมุมกลับ อีทรัมปป์ก็อาจจะเล่นซะเอง จัดฉาก บอกเพื่อนรัก อีมัคก์ สละรถให้กูคันนึง! ดูมันบังเอิญง่ายไปป่ะ? ละครปาหี่เหี้ยมะกัน เรตติ้งตก ไม่เนียน ไร้ราคา โลกถาม "มรึงว่างกันมว๊ากชิมิ?" กลบเกลื่อน กลบข่าว กลบสาระพัด! กลัวควายรู้ว่า เยรูซาเล็ม เยี่ยวแตกแล้วจ๊ะ อีเยเมนขาโหด ไม่พูดเยอะ ดาหน้าถล่มยับข้ามปี ไม่มีพักเบรคเลยเหรอ? บอลยังมีหนีหนาว ไอ้สัส! ยิงกูจัง ถล่มกูจริง ปีกว่าแล้ว ที่ชาวยิวต้องวิ่งหนีมุดลงหลุมหลบภัยตอนตี 2 ทั้งวันไม่ยิง ยิงตอนมรึงหลับเนี่ยแหละ ชาวเมืองหมดสภาพ นอนไม่อิ่ม กินไม่ได้ ไม่รู้ระเบิดจะลงหัวเมื่อไหร่ หลังล่อขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค 12 มัค ล่อสนามบินพาณิชย์หลักของเทลอาวีฟ นั่นแค่ส่งสัญญาน กูยิงอะไร มรึงก็ไม่รอด สกัดไม่ได้ รอโดน รอตายอย่างเดียว แล้วยังไง? แผนเขี่ยอีเนรคุณทันยาก็มา แกล้งป่วย แปล้งเจ็บ รอการถีบส่ง เพื่อลดกระแสเกลียดชังยิวกันทั้งโลก โยนบาปให้แพะอีเนรคุณทันยาแทน หมายังเดาออก? อ้าว..ไหง บอก อียิวไล่ยึดซีเรียสำเร็จ แล้วทำไม กองกำลังมรึง ถอยยับ หนีไปกระจุกอยู่ที่ราบสูงโกลานกันล่ะ? มรึงบุกเค้ามิใช่เหรอ? หลอกควายดีใจแป๊บ กลับสู่โลกความเป็นจริง! อะไรน่ะ อีเติร์กหิวแสง ทั้งขย่ม ทั้งคลั่ง ไล่ฆ่าอีเคริ์ดกบฎอย่างเมามันส์ ใครขวางตายห่าลูกเดียว? นี่มรึงเล่นเกมส์เด็ดหัวเหี้ย ไม่ปรึกษาใครเลยเหรอ? บ่อน้ำมันกระจุย อีเคิร์ดได้ไปเฝ้าหลุมต่อในขุมนรกแทน เกรงใจกูบ้าง ฐานทัพเหี้ยมะกันยังอยู่น่ะมรึง? อะไรน่ะ ลอยมาแต่ไกล ไอ้สัส! ไม่มีในสคริปต์นี่หว่า? ปล่อยอีไก่งวง SHOW TIME ไปก่อน มันกำลังคึกจัด! อีโสมขาว ประกาศไม่ง้อโว๊ย! ไทยไม่เที่ยว กูไม่ง้อ เชิญมรึงอิ่ม EGO มรึงไปเหอะ สร้างชาติจากการเดินตามก้นอียุ่นปี่ จะแข่งบารมี แต่ไม่มีอะไรดีจะโชว์ มรึงแหกตาดูโสมแดง ไม่ง้อใคร เป็นตัวเอง แม้แต่เหี้ยตัวพ่อ ยังต้องกราบตรีน คุณค่าอยู่ที่ตัวทำ ไม่ใช่รอเหี้ยมาเสนอ? ยอดท่องเที่ยวตก เดี๋ยวกูหาใหม่ได้ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา กูแนะนำให้เอามั้ย? ไทยไม่เที่ยว เชิญอีขะแมร์เที่ยวสิ แล้วเดี๋ยวมรึงจะดวงตาเห็นธรรม เดี๋ยวแม่งไปเจออะไร อ้างเป็นของมันหมด ราชวงศ์โชซอน ก็ของมัน มันรำลึกชาติได้? กระจอกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว อีขะปมร์ มันยังมีตัวตนอยู่บนโลกป่ะเนี่ย? โดมิโน่ แอฟเฟค มาเต็มตรีน อีเบียร์ อีเศษฝรั่ง ทรุดหนัก ฟื้นเศรษฐกิจไม่ขึ้น หนี้บานตะไท อุ้มสกุลเงิน EURO ต่อไม่ไหว คลังอีเบียร์ต้องเอาไปจมกับ EU เพื่อประคองให้รอด ชาวเมืองเบียร์หายซ่าส์ EGO แรงชิมิ? สู้ต่อสิ ดีออก? จะแดร๊กยังไม่มี ภาษีไปลงใคร พลังงานพุ่ง ภาษีรีดเพิ่ม สวัสดิการหดหาย อีโง่โอลาฟหลุดวงโคจร มรึงจะไปตามเอาคืนกับใคร? โง่กว่าอีเบียร์ไม่มีอีกแล้ว อยู่ดีดี ได้พลังงานถูกรัสเซีย ทำอุตสาหกรรมโตเต็มกำลัง คลังล้นทะลัก พอเค้าไม่เอามรึง เพราะมรึงไปคว่ำบาตรปาหี่ตามเกมส์อเมริกา เพราะอีผู้นำมันเป็นขี้ข้ายิวไงล่ะ? เก้าอี้ได้มาเพราะใคร? ตอนนี้ EU พังทั้งระบบ จะร่วมสู้กับ NATO ต่อมั้ยล่ะ? แผนปูติน ฆ่าเหี้ยตายยกคอกของจริง! ผีอีโม แรงจริง เฮี้ยนจริง อะไรจริง! หลักฐานซัดกันซึ่งหน้า ตัวละครใหม่ผุดเข้ามา จะแถยังไง จะแหลแค่ไหน? คนแดร๊กข้าว ไม่ได้แดร๊กหญ้าเหมือนพวกมรึง? คนเค้ารู้ "ฆาตกรรม" มรึงยังจะแถ "อุบัติเหตุ" ไม่ต้องมีแล้วกฎหมาย เอากฎหมา ไปเลยดีมั้ย? ลงขันไล่สั่งเก็บไอ้ตัวต้นเหตุ ใหญ่คับฟ้าแค่ไหน ก็แค่ขี้ตรีนสวรรค์ หนีความจริงไม่พ้นดอก? ไอ้อีที่หักหลังผีอีโม มรึงโดนกันถ้วนหน้าแน่ สลัดหลุดจากกระบวนการสะกดวิญญานเสร็จเมื่อไหร่ ผีอีโม ตามไปเยี่ยมมรึงทุกไอ้อี ไม่ต้องห่วงว่าจะมีตกหล่น ผีอีโมยุค 9G เร็ว แรง ทะลุ ประตูนรกเลยมรึง? อ.ปานเทพ เตรียมจัดชุดใหญ่ ทั้งเรื่อง MOU44 และผีอีโม ความบริสุทธิ์ไม่มา ความจริงไม่ปรากฎ ไม่มีถอย! ใครออกตัวปกป้องเหี้ย ปิดบังความจริง บิดเบือนหลักฐาน โดนแฉยับเกลี้ยง ใครขายชาติ ใครสุมหัวอีขะแมร์ขี้ตรีน? งานนี้ เปิดหน้าออกหมดเกลี้ยง? อีฮุนเซนขี้ตรีน อาจจะไม่มีแผ่นดินอยู่ หากจีนจะเล่นมรึง แค่เติมท่อน้ำเลี้ยง อย่าคิดว่าอำนาจมรึงในมือจะเอาอยู่ อำนาจมหาอำนาจโลกของจริง มรึงเทียบไม่ติดดอก เทียบไม่ได้! อีแดงมีหน้าที่เขี่ยอีส้มเน่า หมดประโยชน์ต่อไปก็ตามรึง ไม่ต้องรีบฆ่ามัน เพราะมันจะฆ่าตัวมันเอง ซ้อนแผนเหี้ย คือยอดแผน! สะเทือนโลก งาน COUNTDOWN THAILAND แค่ดึง LISA เธอเอาอยู่ ของดีใกล้ตัว ไม่ต้องเสียค่าโง่! คนเค้าตามมรึงเหรอ? เปล่า เอาตัวแม่เหล็กมา โลกจะตามมาเอง! งานปีใหม่ 8 เวทีใหญ่ สื่อโลกงับ ภาพพลุแตกกระจายทั่วนภา หลากหลายบรรยากาศ ตึกสูง ชายทะเล มาหมด มรึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่า "ไทยคือผู้นำโลก ด้าน ENTERTAINMENT" สายตาชาวโลก บอกต่อกัน เมืองไทย "แม่งสุดยอด" อยากสูบกัญชา เชิญ อยากเมาปลิ้น 24 ชม. เชิญ อยากตีกระหรี่ไม่อั้น เชิญ อยากวัดดวง อยากแดร๊ก UNLIMITED เชิญ อยากจะกระทืบ อยากฆ่า ตำหนวด เชิญ แค่มรึงมีเงินเท่านั้น "พระเจ้า" กฎหมายควบคุมคนมี แต่กฎหมายควบคุมเจ้าหน้าที่รัฐไม่มี(ไม่ทำ) จะแก้ทุกปัญหาของแผ่นดินนี้ได้ มรึงต้องแก้ที่เจ้าหน้าที่รัฐก่อนใครเพื่อน? ไม่ว่ากระทรวงไหน องค์กรใด หาแดร๊ก ติดสินบน จ่ายจบ ไร้ราคี กฎหมายไทยไม่ศักดิ์สิทธิ์จริงเหรอ? ตัวหนังสือมันทำอะไรไม่ได้ นอกจากคนไปทำให้มันเกิดขึ้นจริงตามตัวอักษร กำลังจะบอกว่า ปีใหม่นี้ การไล่เช็คบิลผู้ไม่กระทำตามหน้าที่ ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างที่ควรจะเป็น กำลังจะถูกล้างบางขั้นสูงสุด แสงไม่ได้มาแค่ชี้เป้า แต่แสงมาทำให้สมดุลโลกกลับมา ถึงเวลา "แก้ไข" ปล.ทุนสำรองมากที่สุดในโลกคือ จีน ทำไมต้องมีทุนสำรอง ทุกการพิมพ์แบงค์ออกมา ต้องมีสินทรัพย์อ้างอิง ไม่ใช่เหี้ย พิมพ์แบงค์กงเต็กหลอกควาย หลังการเปิดหีบสมบัติ ท่องคำแท่งนับ 30000 ตันจนโลกต้องตะลึง ดอลล่าร์จะกลายเป็นขี้หมาทันที ยังไม่ทำ ไม่ต้องเร่งฆ่าเหี้ย เพราะมันติดหล่มสงคราม รอมรึงแตกแผ่นดินก่อน ขายแผ่นดินแดร๊ก ค่อยเปิดหีบสมบัติ เพื่อกดค่าเงินดอลล่าร์ตายคาที่ แผนนี้ จีนจะซื้อได้ถูกบัดซบ เพราะเงินหยวนที่มีเงินสำรองมากที่สุดในโลก จะแข็งโป๊ก ขณะที่ ดอลล่าร์ ยูโร เยน จะดิ่งเหว ที่มาชี้เป้าตรงนี้ เพื่อจะบอกว่า จีนรอจังหวะและโอกาสอยู่ ต่อไปมรึงอาจจะได้ใช้ไอโพส เครื่องละ 5000 บาท เหตุเพราะคนไม่ซื้อ ขายไม่ออก ค่าเงินบัดซบ ดอลล่าร์แท้จริงมันคือ 0 หากเช็คกันจริงจัง กูบอกเลย ติดลบ - ที่มาว่าทำไม รัสเซีย จีน อาหรับ เตรียมช้อนซื้อของถูก เพราะสุดท้าย "ทองคำ" จะเป็นตัวกำหนดเกมส์สากลอีกครั้ง และต่อไปอนาคต จะมีแร่หายากอื่น มาแทนทองคำ แร่อะไรล่ะ ที่สามารถผลิตชิปส่งได้ทั่วโลก แร่ที่นำสื่อ แม่เหล็ก ทองคำจะกลายเป็นตัวเลือกอันดับ 2..3..4.. อีกไม่นาน ปล.2 ฮาแตก! ว๊าย วาย เหี้ยมะกันบุก ถล่มฐานทัพฮูตี คลังแสง อ๋อ..ลืมบอกไป ใครเค้าเก็บไว้บนดินกันล่ะ? ไอ้ควาย เป็นเป้าหลอกให้มรึงโจมตีเหรอ? มรึงดู กี่ครั้งแล้ว เหี้ยมะกันยิงได้ลูก สองลูก คุยยาวเป็นปี ไอ้ที่ตายห่าคาทะเลแดง เรือบรรทุกเครื่องบินจม เรือรบหายวับ บินรบร่วง โดรนพันล้านดิ่งเหว เผ่นหางจุกตูดแทบไม่ทัน เยเมนบอก มรึงทำอะไรฟ่ะ? "แค่คันคัน" พูดให้เอาบุญ ของดี ของหนัก ไม่มีใครโง่เอามาตั้งให้มรึงส่องดอก ไอ้ควาย! ยังจะโง่ได้อีก ใช้สื่อเสี้ยม หลอกควายต่อ เยเมนแย่แล้ว คลังแสงไปหมดแล้ว ตายห่าเกลื่อน ควายชื่นชม โชคดี ที่มรึงกับกูเป็นคน ควายตัวจริงยังอายแทน? ด้านอียิวบอกพอแล้ว ไอ้สัส! มรึงยกไปถล่มเยเมนปาหี่ แต่แม่งยิงถล่มกูกลับ ซ้ำไม่เลิก ยิ่งบุก ยิ่งโดน คนดูเบื่อ มรึงมีปัญญาแค่นี้เองเหรอ? แล้วเสือกจะริครองโลก เยเมนยังไม่ผ่านเลย ไอ้สัส! นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ละครมีไว้หลอกควาย เพราะควายมันเชื่อหมด บอกมรึงเกิดจากไดโนเสาร์แม่งก็เชื่อ เรื่องควายควายเนี่ย ต้องกลียุค? หากเป็นยุคอื่น เสียหมาไปนานแล้ว? หมี CNN(ไก่แด๊นซ์บนกองเพลิง(ตุรกีกำลังเมามันส์) ความสนุกเพิ่งจะเริ่ม อเมริกาจะเข้มข้น ศึกใน ศึกนอก มาไม่หยุด เต็มคาราเบลกันไปเลย อียิวขี้แตก เหลือแต่ซาก ซีเรียจบไปนานแล้ว แค่เอาบ่อน้ำมันคืน ถีบเหี้ยมมะกันออกไป ทุกอย่างจะกลับเข้าที่เข้าทางเอง เหี้ยอูฐ กำลังคิดแผนเอาคืนอีทรัมปป์ ขู่กูเช้าเย็น หากไม่อุ้มดอลล่าร์ อิหร่านสะกิด ใครบอกมรึงล่ะวง่า ต้องขายน้ำมันให้เหี้ยตะวันตกอีกต่อไป มรึงดูรัสเซีย แค่ขายเอเซีย ก็ไม่พอส่งแล้ว ยอดสั่งทะลัก กำไรทะลุ ตรงกันข้าม มรึงเทเหี้ย ไม่ขายน้ำมันให้มัน มันจะเอาน้ำมันที่ไหนใช้ อยู่ให้เป็น รู้คุณค่าตัวเอง มรึงถือไพ่เหนือกว่าน่ะ ต้องให้กูสอน?) 02 มกราคม 68 11.45 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง" https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 452 มุมมอง 0 รีวิว
  • 01-01-68/01 : หมี CNN / COUNTDOWN THE EARTH ยินดีต้อนรับสู่ปีแห่งการชำระล้าง! ทุกความมืดมน ทุกความสิ้นหวัง จะเริ่มเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ เพราะแสงเดินหน้าเต็มกำลังแล้ว สิ่งที่มนุษย์คิด สิ่งที่มนุษย์จะทำ จะได้รับการตัดสินจากเบื้องบน ถูกหรือผิด ดีหรือไม่ คือบทพิสูจน์ในตอนท้าย! เกมส์โลกเริ่มขยับ หลังอีทรัมปป์เตรียมชำระแค้นทั้งภายใน ภายนอก จีน รัสเซีย เริ่มประกาศศักดา BRICS เริ่มออกดอก ออกผล ยุโรปเริ่มหายนะ เอเซียเริ่มเปล่งประกาย ความลับไม่มีในโลก ทุกอย่างจะถูกเปิดหน้าออกจนหมดเกลี้ยง สื่อปลอมจะตาย สื่อแท้จะเกิด วังวนเหี้ยจะถูกทำลายล้าง ผู้คนเริ่มเปลี่ยนแปลง ปากท้องชาวโลกจะเรียกร้องความยุติธรรม เท่าเทียม โลกตอบรับหลายขั้วอำนาจมากยิ่งขึ้น 2 ฝ่าย จะหันหน้าประชันกัน ลิ่งล้อจะหดหาย ใครของจริงจะได้หมากทั้งกระดานไปครอง เกิดเหตุร้ายทั่วโลก หลังยิวสั่ง SHUT DOWN โลก และเช่นกัน โลกก็กำลังจะขับไล่เหี้ยให้ไปอยู่อีกมุมโลก ไม่มีใครต้อนรับอีกแล้ว!

    เจ๊จู ทำพิษ! อีโบอิ้งตายคาตรีน แห่ยกเลิกตั๋ว กลัวเป็นเหยื่อวิศวกรรมชั้นหมา เหี้ยยิวกลัวเจ๊ง กระทบทั้งโลก สั่งสื่อเสี้ยมประโคม แอร์บัสดิ่งบ้าง หวังกลบเกลื่อน ปีนึงวัดกันไปเลย โบอิ้งตกเท่าไหร่ แอร์บัสตกเท่าไหร่? ข้อเท็จจริงคือ มันมีเหตุเครื่องขัดข้องทุกวันนั่นแหละ รอดบ้าง ไม่รอดบ้าง อยู่ที่ไฟฉายส่องไปที่ไหน? ข่าวเรื่องอีเหี้ยอูฐถอย ยังไม่เข้า BRICS เต็มตัวเพราะเกรงใจอีทรัมปป์นั้น เป็นการประโคมข่าวจากสื่อเหี้ยเป็นหลัก เพราะสุดท้ายแล้ว ใครบ้างจะไม่เข้า BRICS แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้น เกมส์ลดกระแสกดดัน แต่โลกความจริง เหี้ยอูฐเทดอลล่าร์ออกไปเยอะแล้ว อีทรัมปป์ขู่เนี่ย เพราะสหรัฐสั่งนำเข้าน้ำมันจากซาอุ เป็นรายได้หลัก MBS เค้า จะไปหักด้ามพร้าด้วยตรีนทำไมกันล่ะ? อยากให้อุ้มดอลล่าร์ต่อนั่นแหละ เพราะหากเข้า BRICS เต็มตัว ต้องไม่เอาดอลล่าร์เลย ทุกอย่างมีสเตปของมัน คนแบกก็รู้ตัว ถือเศษกระดาษเปล่า ลองอีอูฐเหี้ยทำจริงสิ ดอลล่าร์ร่วงคาตา เพราะมันใช้น้ำมันอูฐไปขายส่งต่ออีกที เมื่อจ่ายด้วยดอลล่าร์ไม่ได้ แล้วเหี้ยจะไปเอาเงินที่ไหนไปจ่ายซาอุ เรื่องนี้ แค่สับขาหลอก BRICS คืออนาคต ดอลล่าร์คือขุมนรก มรึงต่างรู้ดีว่า มันจะจบลงยังไง?

    ภาพแผนศรีธนญชัย 2025 เริ่มชัด ปล่อยอีแดงชั่วไล่บี้ ไล่ขยี้อีส้มเน่า เอาจนกว่ามรึงจะจมกองตรีน ไม่ให้ได้ผุดได้เกิด หากใครยังไม่ตกผลึก อาจสงสัย ท่อน้ำเลี้ยงจากเหี้ย C เดียวกัน ทำไม กัดกันอย่างกะหมา อีแดงชั่ว พอพ่อเหลี่ยมมันขึ้น ปั่นควายได้ 10 ล้าน หวังอยากจะเป็น KING เล่นนอกเกมส์ เล่นเกินคำสั่ง ทำเสียหมา เสียแผนเหี้ย C มานับครั้งไม่ถ้วน อีวอชิงตัน ถึงได้ส่งอีส้มเน่า ปั่นควายรุ่นใหม่ ขึ้นมาเทียบวัดรอยตรีน บารมีอีแดงชั่วเริ่มหดหาย วังวนเดิมมีแต่อีเหลี่ยมเหี้ยกับครอบครัวเสนียดจัญไร ผลัดกันนั่งเก้าอี้บังลังก์ อีแดงเกือบสะดุดขาตัวเองตาย หลังอีส้มเน่าผงาดแลนด์สไลด์ หลอกควายมาได้ 14 ล้านตัว เพราะเน้นใช้โซเชี่ยลปั่น โซเชี่ยลของใครกันล่ะ ตรายางเหี้ย C หลามาแต่ไกล คนรุ่นใหม่ใช้มือถือ ไม่ได้ใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ กับ จอ TV แบบรุ่นเก่าแล้ว มันคือนวตกรรมใหม่ เหี้ยรุ่นเก่า ปะทะ เหี้ยรุ่นใหม่ อีแดงชั่ว มันเล่นเกินบท นอกคำสั่ง เพราะมีนายใหญ่หลงตัวเอง เหี้ย C เองก็ทิ้งอีเหลี่ยมไม่ได้ เพราะทุกอย่างย่อมมีแผนสำรอง หากอีส้มเน่าตายก่อนแจ้งเกิด จุดนี้แหละ ที่ทหารเค้าย้อนเกล็ดเหี้ย มรึงใช้อีแดงได้ แล้วทำไม กูจะใช้ไม่ได้ หลอกให้กลับบ้าน การันตีไม่ติดคุก หวังใช้พลังควายแดง กระทืบควายส้มเน่า สรุปแผ่นดินนี้ มีแต่ควายกับควาย สิน่ะ เพราะไอ้ควาย 24 ล้านตัว มันเสพปชต.ตอแหลมาตั้งแต่เกิด เงินไม่มา กาไม่เป็น ปชต.คือที่สุดของชีวิตควาย ไม่ต้องแดร๊กหญ้าก็อยู่ได้ แดร๊กปชต.แทน ควายจนควายตัวจริงขอเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "กระบือ"

    สิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ถูกใจคนดีศรีอโยธยา แต่โปรดฟังให้จบก่อน ว่าทำไม ทหารถึงได้เดินแผน "เหี้ยจิ้มเหี้ย" ตรรกะง่ายนิดเดียว ทำไมต้องเปลืองแรง ทำไมต้องใช้จ่ายเยอะ ในเมื่อการเมือง 2 ขั้วอำนาจ แต่เจ้านายตัวเดียวกัน มันพยายามจะเรียกเรตติ้งให้ตัวเอง ก็เชิญให้มันเข้าไปกัดกันอย่างกะหมา เอาให้สภาแตกกันไปเลย หลังการกระทำ หลังคำโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ได้เป็นดั่งที่รับปากไว้ ปากท้องควาย อดอยากปากแห้ง กระแสตีกลับ นี่แหละที่ทหารสอดไส้คาราเมล พลิกเกมส์ กระแสลุงตู่คัมแบ็ค แถวบ้านเรียก มอ คอ ปอ ดอ เชิญกัดกันให้เต็มที่ สุดท้ายพรรคร่วมขอเอี่ยวกับลุงตู่ ยุบสภา จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ สิ่งที่ทหารมีในมือ คืออำนาจ "ทุกพรรค ทุกนักการเมือง ไอ้อีทุกตัว ต่างมีแผล" ใครไม่อยากถูกเช็คบิลก็ต้องเข้าร่วม โครงการสร้างบ้านใหม่โดยศรีธนญชัย 2025 ที่มาว่า ทำไม เลือกตั้งย่อย แต่เป็นฐานอำนาจสำคัญ ทั้งอบจ. อบต. อีแดง กวาดเรียบวุธ ไม่แบ่งให้อีส้มเน่ารอดเลยแม้แต่ตัวเดียว เพราะทหารเค้าปล่อย เค้าชงให้(แอบตีเนียน) เพื่อให้ศัตรูเบอร์ 1 ฆ่า ทำลาย ศัตรู เบอร์ 2 ก่อน ให้สิ้นซาก แล้วมรึงหมดสภาพ ร่อแร่ กูค่อยตามไปเช็คบิลสบายตรีน หมากเค้าวางไว้หลายชั้น และทุกดอกที่เดิน มีกรอบชัดเจน อะไรที่มรึงทำได้ อะไรที่เค้าห้าม ยืนยันชัดเจนว่า กองทัพคุมทุกรัฐบาล หากเกี่ยวกับเรื่องวัง และความมั่นคง ไม่มีใครปล่อยขี้ขาเหี้ย C ทำอะไรได้ตามอำเภอใจดอกน่ะ หมายังรู้? เมื่อหมากเดินถึงทางตัน มรึงจะรู้เอง

    มาตามสูตร อียิวคิด ขี้ข้าทำ ไม่ตามก็ถูกขั้วใหม่กลืน อะไรน่ะ สหรัฐ แคนาดา กรีนแลนด์ อังกฤษ จะผนวกรวมตัวกันเพื่อเอาตัวให้รอดเหรอ? มันไม่ได้แปลกใหม่อะไรเลย ที่ผ่านมา พวกมรึงก็เป็นขี้ข้าประจำอยู่แล้ว แค่รวมตัวเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง โปรดสังเกตุ มันทำได้เฉพาะพื้นที่ อาณาจักร ขี้ข้าเท่านั้น มันไม่ได้ขยายออกไปส่วนอื่น เหมือนที่รัสเซีย จีน อิหร่าน ทำสำเร็จ หมีเคยบอกไปแล้วว่า ทวีปอเมริกาเหนือ จะกลายเป็นศูนย์การเหี้ยโลก โลกแบ่งฝ่ายชัดเจน คนกับเหี้ย ทั้งโลกอยู่ร่วมกัน แต่เหี้ยจะไปอยู่กระจุกกันที่อเมริกาเหนือ โดยมีสอดไส้คาราเมลในยุโรปบ้าง เรื่องแบบนี้ ปูติน สีจิ้นผิง อ่านออกหมดนานแล้ว เค้าถึงปล่อยให้อีทรัมปป์ออกลายให้สุดซอย ลีลาให้เต็มที่ เพราะโลกจะเป็นผู้เลือกเองว่า จะเดินตามใคร? อีทรัมปป์ไม่ใช่สายสงคราม มันคือสายพ่อค้า จะรบไปทำไม ชนะไม่เห็น สู้จูบปากรัสเซีย อิหร่าน ง่ายกว่ามุย? ดอลล่าร์ไม่ต้องถูกทิ้งจนเกลี้ยง อเมริกาอยู่ได้ เพราะหลอกควายถือเศษกระดาษเปล่าอยู่ไงล่ะ? ยุโรปตายไปแล้ว ใช่ อีทรัมปป์ และอีสิงโตเหี้ย จะทิ้งอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง ให้ผจญชะตากรรมกับรัสเซียเองโดยตรง เมื่อขี้ข้าถูกเท มรึงคิดว่า อีเบียร์ อีเศษฝรั่ง ไม่คิดจะเอาคืนบ้างเหรอ? ที่แน่ๆ NATO จะแตกก่อนใครเพื่อน? ต่อไปไม่แน่ EU ยุคใหม่ โฉมใหม่ อาจผนวกร่วมมือกับ BRICS ดึงรัสเซียเป็นผู้นำ EU คนใหม่ เพราะดีกว่าถูกกลืนฟรี ไม่ได้เหี้ยอะไรเลย แผนต่อรองเริ่มมา สัญญานเข้มมว๊าก!

    ปล.อีแขกไหวตัวทัน จมูกไว รู้ตัวแล้วว่า ถูกเหี้ยชูคอ หวังปั่นหัวจีน สุดท้าย ไม่กล้าพอ ไปไม่สุดซอย เพราะรัสเซียสั่ง อย่าเสือกจีน ไม่งั้นมรึงโดนกูตัดหางออกจาก BRICS แน่ เม็ดเงินมหาศาลจากพลังงานฟรีกินเปล่า จะหายวับ แถมจีนจะตบสั่งสอนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้? ช่วงนี้ อีแขกเงียบกริบ ไม่กล้าบ่นเรื่องสกุลเงิน BRICS อีกต่อไป เพราะเบื้องหลังตอนนี้ จีนคุยกองทัพปากีชัดเจนแล้วว่า รัฐประหารต้องมา ปล่อยอิมราน ข่าน ลากตัวไอ้อีขี้ข้าเหี้ยให้หมด สุดท้ายเผ่นหนีตายไปวอชิงตันกันหมด นี่แหละ เค้าเรียก "สมบัติ ผลัดกันชม" ฮาแตก! ก่อนแพจะแตก อีสมาคมสภาแพทย์ ออกหลักฐานเด็ด MRI อีเหลี่ยมชาติหมาเป็นเท็จ อั๊ยยะ? หมาแถวบ้านกูยังรู้ ไม่ต้องจบดร.? แล้วมรึงรออะไรจนป่านนี้ ทั้งปีหายหัว มาโผล่ตอน สว.เตรียมลงนามสาวไส้ให้ควายแดร๊ก ศาลเตรียมชง นรกเตรียมมา ไอ้อีตัวไหนล่ะ รับรองผลการตรวจ ให้อีเหลี่ยมไปนอนรพ.อีตำหนวดที่จัดรอไว้แล้ว จัดฉากควายซะขนาดนี้ เด็กปอ4 ยังอายแทน มีแต่ควายไง ไม่รู้? ป่วยยังไง เจ็บยังไง ลากยาวอยู่เป็นปีได้ ครบปีปุ๊บ หายปั๊บ เดินหาเสียงฉลุย กูถามจริงเหอะ ควายกันทั้งประเทศ?

    ปล.2 เชื่อกูเหอะว่า ชะตากรรมอีแดงเหี้ย และพ่อเหลี่ยมชาติหมา ยังไงก็ไม่พ้น "ขายชาติ และหมิ่นเบื้องสูง ทูลเท็จ" จิ้มดอกไหนก็โดน เกจิ กุนซือเค้ารู้ แต่ที่ยังไม่ทำอะไรมันตอนนี้ เพราะทหารขอไว้ เอามันมากำจัดอีส้มเน่าก่อน รอมันฟัดกันเองจนหมดแรง ปฎิวัติค่อยออก ปิดเกมส์โดยคุณยายละม่อม เบี้ยเค้ามีไว้ให้เดิน หมากเค้ามีไว้ให้เล่น ดูให้เป็น เย็นให้ได้ ข้ามปีใหม่แล้ว ต้องตกผลึก และแตกฉาน ถึงจะได้ไปพบเพื่อนต่างมิติ เค้ารอพวกมรึงอัพเกรดนานแล้ว สติมี จิตจะมา สติไม่ดี ก็ต้องไปศรีธัญญา สิไอ้สัส? ต้องให้บอก สรุปคือ ใครตามเหี้ยมาจนเกือบเป็นบร๊า แค่หยุดคิดซักนิด แค่ "โลกไม่ได้มีไว้ให้มรึงแบกคนเดียวน่ะ" อะไรที่มรึงเครียดอยู่ตอนนี้ ขอให้รู้ไว้ว่า "มันไม่เคยเกิดขึ้นจริง ภาพลวงตา ผ่านมา ผ่านไป" รู้ทัน เข้าถึง ก็เบาใจ เพราะไม่ว่าชีวิตมัน หรือชีวิตมรึง สุดท้ายก็ไม่พ้นความตายอยู่ดี ค่อยไปวัดที่ตรงตราชั่ง ใครหนักแผ่นดินก็ร่วงลงขุมนรก? มรึงไม่ได้เป็นคนตัดสิน ดังนั้น จงอย่าเพิ่งรีบบร๊า ดูโลกให้สบายใจ ดูเหี้ยให้เป็นเรื่องตลก เพราะยังไง เราก็ชนะ!

    หมี CNN(มาช้า ยังดีกว่าไม่มา ตอนแรกขี้เกียจโพสแล้ว แต่สงสารสาวกที่รอคอย กลัวจะลงแดงตายห่าคาจอซะก่อน ข้ามปีปุ๊บ บ่นกูปั๊บ ขนาดจะชิงไปตายห่า ยังมีขู่ ให้ลงไปโพสต่อหลังโลกความตาย ไอ้สัส! กูไม่ใช่ขนม ดีออก เสพกันจริง เสพกันจัง เป็นไงล่ะ ขนมรุ่นใหม่ "ตราหมีหื่นอโยธยา" รสชาดกลมกล่อม เหี้ย ขยาด มาร สยบ)
    01 มกราคม 68(วันขึ้นปีใหม่โว๊ย..)
    21.40 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง"
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    01-01-68/01 : หมี CNN / COUNTDOWN THE EARTH ยินดีต้อนรับสู่ปีแห่งการชำระล้าง! ทุกความมืดมน ทุกความสิ้นหวัง จะเริ่มเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ เพราะแสงเดินหน้าเต็มกำลังแล้ว สิ่งที่มนุษย์คิด สิ่งที่มนุษย์จะทำ จะได้รับการตัดสินจากเบื้องบน ถูกหรือผิด ดีหรือไม่ คือบทพิสูจน์ในตอนท้าย! เกมส์โลกเริ่มขยับ หลังอีทรัมปป์เตรียมชำระแค้นทั้งภายใน ภายนอก จีน รัสเซีย เริ่มประกาศศักดา BRICS เริ่มออกดอก ออกผล ยุโรปเริ่มหายนะ เอเซียเริ่มเปล่งประกาย ความลับไม่มีในโลก ทุกอย่างจะถูกเปิดหน้าออกจนหมดเกลี้ยง สื่อปลอมจะตาย สื่อแท้จะเกิด วังวนเหี้ยจะถูกทำลายล้าง ผู้คนเริ่มเปลี่ยนแปลง ปากท้องชาวโลกจะเรียกร้องความยุติธรรม เท่าเทียม โลกตอบรับหลายขั้วอำนาจมากยิ่งขึ้น 2 ฝ่าย จะหันหน้าประชันกัน ลิ่งล้อจะหดหาย ใครของจริงจะได้หมากทั้งกระดานไปครอง เกิดเหตุร้ายทั่วโลก หลังยิวสั่ง SHUT DOWN โลก และเช่นกัน โลกก็กำลังจะขับไล่เหี้ยให้ไปอยู่อีกมุมโลก ไม่มีใครต้อนรับอีกแล้ว! เจ๊จู ทำพิษ! อีโบอิ้งตายคาตรีน แห่ยกเลิกตั๋ว กลัวเป็นเหยื่อวิศวกรรมชั้นหมา เหี้ยยิวกลัวเจ๊ง กระทบทั้งโลก สั่งสื่อเสี้ยมประโคม แอร์บัสดิ่งบ้าง หวังกลบเกลื่อน ปีนึงวัดกันไปเลย โบอิ้งตกเท่าไหร่ แอร์บัสตกเท่าไหร่? ข้อเท็จจริงคือ มันมีเหตุเครื่องขัดข้องทุกวันนั่นแหละ รอดบ้าง ไม่รอดบ้าง อยู่ที่ไฟฉายส่องไปที่ไหน? ข่าวเรื่องอีเหี้ยอูฐถอย ยังไม่เข้า BRICS เต็มตัวเพราะเกรงใจอีทรัมปป์นั้น เป็นการประโคมข่าวจากสื่อเหี้ยเป็นหลัก เพราะสุดท้ายแล้ว ใครบ้างจะไม่เข้า BRICS แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้น เกมส์ลดกระแสกดดัน แต่โลกความจริง เหี้ยอูฐเทดอลล่าร์ออกไปเยอะแล้ว อีทรัมปป์ขู่เนี่ย เพราะสหรัฐสั่งนำเข้าน้ำมันจากซาอุ เป็นรายได้หลัก MBS เค้า จะไปหักด้ามพร้าด้วยตรีนทำไมกันล่ะ? อยากให้อุ้มดอลล่าร์ต่อนั่นแหละ เพราะหากเข้า BRICS เต็มตัว ต้องไม่เอาดอลล่าร์เลย ทุกอย่างมีสเตปของมัน คนแบกก็รู้ตัว ถือเศษกระดาษเปล่า ลองอีอูฐเหี้ยทำจริงสิ ดอลล่าร์ร่วงคาตา เพราะมันใช้น้ำมันอูฐไปขายส่งต่ออีกที เมื่อจ่ายด้วยดอลล่าร์ไม่ได้ แล้วเหี้ยจะไปเอาเงินที่ไหนไปจ่ายซาอุ เรื่องนี้ แค่สับขาหลอก BRICS คืออนาคต ดอลล่าร์คือขุมนรก มรึงต่างรู้ดีว่า มันจะจบลงยังไง? ภาพแผนศรีธนญชัย 2025 เริ่มชัด ปล่อยอีแดงชั่วไล่บี้ ไล่ขยี้อีส้มเน่า เอาจนกว่ามรึงจะจมกองตรีน ไม่ให้ได้ผุดได้เกิด หากใครยังไม่ตกผลึก อาจสงสัย ท่อน้ำเลี้ยงจากเหี้ย C เดียวกัน ทำไม กัดกันอย่างกะหมา อีแดงชั่ว พอพ่อเหลี่ยมมันขึ้น ปั่นควายได้ 10 ล้าน หวังอยากจะเป็น KING เล่นนอกเกมส์ เล่นเกินคำสั่ง ทำเสียหมา เสียแผนเหี้ย C มานับครั้งไม่ถ้วน อีวอชิงตัน ถึงได้ส่งอีส้มเน่า ปั่นควายรุ่นใหม่ ขึ้นมาเทียบวัดรอยตรีน บารมีอีแดงชั่วเริ่มหดหาย วังวนเดิมมีแต่อีเหลี่ยมเหี้ยกับครอบครัวเสนียดจัญไร ผลัดกันนั่งเก้าอี้บังลังก์ อีแดงเกือบสะดุดขาตัวเองตาย หลังอีส้มเน่าผงาดแลนด์สไลด์ หลอกควายมาได้ 14 ล้านตัว เพราะเน้นใช้โซเชี่ยลปั่น โซเชี่ยลของใครกันล่ะ ตรายางเหี้ย C หลามาแต่ไกล คนรุ่นใหม่ใช้มือถือ ไม่ได้ใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ กับ จอ TV แบบรุ่นเก่าแล้ว มันคือนวตกรรมใหม่ เหี้ยรุ่นเก่า ปะทะ เหี้ยรุ่นใหม่ อีแดงชั่ว มันเล่นเกินบท นอกคำสั่ง เพราะมีนายใหญ่หลงตัวเอง เหี้ย C เองก็ทิ้งอีเหลี่ยมไม่ได้ เพราะทุกอย่างย่อมมีแผนสำรอง หากอีส้มเน่าตายก่อนแจ้งเกิด จุดนี้แหละ ที่ทหารเค้าย้อนเกล็ดเหี้ย มรึงใช้อีแดงได้ แล้วทำไม กูจะใช้ไม่ได้ หลอกให้กลับบ้าน การันตีไม่ติดคุก หวังใช้พลังควายแดง กระทืบควายส้มเน่า สรุปแผ่นดินนี้ มีแต่ควายกับควาย สิน่ะ เพราะไอ้ควาย 24 ล้านตัว มันเสพปชต.ตอแหลมาตั้งแต่เกิด เงินไม่มา กาไม่เป็น ปชต.คือที่สุดของชีวิตควาย ไม่ต้องแดร๊กหญ้าก็อยู่ได้ แดร๊กปชต.แทน ควายจนควายตัวจริงขอเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "กระบือ" สิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ถูกใจคนดีศรีอโยธยา แต่โปรดฟังให้จบก่อน ว่าทำไม ทหารถึงได้เดินแผน "เหี้ยจิ้มเหี้ย" ตรรกะง่ายนิดเดียว ทำไมต้องเปลืองแรง ทำไมต้องใช้จ่ายเยอะ ในเมื่อการเมือง 2 ขั้วอำนาจ แต่เจ้านายตัวเดียวกัน มันพยายามจะเรียกเรตติ้งให้ตัวเอง ก็เชิญให้มันเข้าไปกัดกันอย่างกะหมา เอาให้สภาแตกกันไปเลย หลังการกระทำ หลังคำโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ได้เป็นดั่งที่รับปากไว้ ปากท้องควาย อดอยากปากแห้ง กระแสตีกลับ นี่แหละที่ทหารสอดไส้คาราเมล พลิกเกมส์ กระแสลุงตู่คัมแบ็ค แถวบ้านเรียก มอ คอ ปอ ดอ เชิญกัดกันให้เต็มที่ สุดท้ายพรรคร่วมขอเอี่ยวกับลุงตู่ ยุบสภา จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ สิ่งที่ทหารมีในมือ คืออำนาจ "ทุกพรรค ทุกนักการเมือง ไอ้อีทุกตัว ต่างมีแผล" ใครไม่อยากถูกเช็คบิลก็ต้องเข้าร่วม โครงการสร้างบ้านใหม่โดยศรีธนญชัย 2025 ที่มาว่า ทำไม เลือกตั้งย่อย แต่เป็นฐานอำนาจสำคัญ ทั้งอบจ. อบต. อีแดง กวาดเรียบวุธ ไม่แบ่งให้อีส้มเน่ารอดเลยแม้แต่ตัวเดียว เพราะทหารเค้าปล่อย เค้าชงให้(แอบตีเนียน) เพื่อให้ศัตรูเบอร์ 1 ฆ่า ทำลาย ศัตรู เบอร์ 2 ก่อน ให้สิ้นซาก แล้วมรึงหมดสภาพ ร่อแร่ กูค่อยตามไปเช็คบิลสบายตรีน หมากเค้าวางไว้หลายชั้น และทุกดอกที่เดิน มีกรอบชัดเจน อะไรที่มรึงทำได้ อะไรที่เค้าห้าม ยืนยันชัดเจนว่า กองทัพคุมทุกรัฐบาล หากเกี่ยวกับเรื่องวัง และความมั่นคง ไม่มีใครปล่อยขี้ขาเหี้ย C ทำอะไรได้ตามอำเภอใจดอกน่ะ หมายังรู้? เมื่อหมากเดินถึงทางตัน มรึงจะรู้เอง มาตามสูตร อียิวคิด ขี้ข้าทำ ไม่ตามก็ถูกขั้วใหม่กลืน อะไรน่ะ สหรัฐ แคนาดา กรีนแลนด์ อังกฤษ จะผนวกรวมตัวกันเพื่อเอาตัวให้รอดเหรอ? มันไม่ได้แปลกใหม่อะไรเลย ที่ผ่านมา พวกมรึงก็เป็นขี้ข้าประจำอยู่แล้ว แค่รวมตัวเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง โปรดสังเกตุ มันทำได้เฉพาะพื้นที่ อาณาจักร ขี้ข้าเท่านั้น มันไม่ได้ขยายออกไปส่วนอื่น เหมือนที่รัสเซีย จีน อิหร่าน ทำสำเร็จ หมีเคยบอกไปแล้วว่า ทวีปอเมริกาเหนือ จะกลายเป็นศูนย์การเหี้ยโลก โลกแบ่งฝ่ายชัดเจน คนกับเหี้ย ทั้งโลกอยู่ร่วมกัน แต่เหี้ยจะไปอยู่กระจุกกันที่อเมริกาเหนือ โดยมีสอดไส้คาราเมลในยุโรปบ้าง เรื่องแบบนี้ ปูติน สีจิ้นผิง อ่านออกหมดนานแล้ว เค้าถึงปล่อยให้อีทรัมปป์ออกลายให้สุดซอย ลีลาให้เต็มที่ เพราะโลกจะเป็นผู้เลือกเองว่า จะเดินตามใคร? อีทรัมปป์ไม่ใช่สายสงคราม มันคือสายพ่อค้า จะรบไปทำไม ชนะไม่เห็น สู้จูบปากรัสเซีย อิหร่าน ง่ายกว่ามุย? ดอลล่าร์ไม่ต้องถูกทิ้งจนเกลี้ยง อเมริกาอยู่ได้ เพราะหลอกควายถือเศษกระดาษเปล่าอยู่ไงล่ะ? ยุโรปตายไปแล้ว ใช่ อีทรัมปป์ และอีสิงโตเหี้ย จะทิ้งอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง ให้ผจญชะตากรรมกับรัสเซียเองโดยตรง เมื่อขี้ข้าถูกเท มรึงคิดว่า อีเบียร์ อีเศษฝรั่ง ไม่คิดจะเอาคืนบ้างเหรอ? ที่แน่ๆ NATO จะแตกก่อนใครเพื่อน? ต่อไปไม่แน่ EU ยุคใหม่ โฉมใหม่ อาจผนวกร่วมมือกับ BRICS ดึงรัสเซียเป็นผู้นำ EU คนใหม่ เพราะดีกว่าถูกกลืนฟรี ไม่ได้เหี้ยอะไรเลย แผนต่อรองเริ่มมา สัญญานเข้มมว๊าก! ปล.อีแขกไหวตัวทัน จมูกไว รู้ตัวแล้วว่า ถูกเหี้ยชูคอ หวังปั่นหัวจีน สุดท้าย ไม่กล้าพอ ไปไม่สุดซอย เพราะรัสเซียสั่ง อย่าเสือกจีน ไม่งั้นมรึงโดนกูตัดหางออกจาก BRICS แน่ เม็ดเงินมหาศาลจากพลังงานฟรีกินเปล่า จะหายวับ แถมจีนจะตบสั่งสอนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้? ช่วงนี้ อีแขกเงียบกริบ ไม่กล้าบ่นเรื่องสกุลเงิน BRICS อีกต่อไป เพราะเบื้องหลังตอนนี้ จีนคุยกองทัพปากีชัดเจนแล้วว่า รัฐประหารต้องมา ปล่อยอิมราน ข่าน ลากตัวไอ้อีขี้ข้าเหี้ยให้หมด สุดท้ายเผ่นหนีตายไปวอชิงตันกันหมด นี่แหละ เค้าเรียก "สมบัติ ผลัดกันชม" ฮาแตก! ก่อนแพจะแตก อีสมาคมสภาแพทย์ ออกหลักฐานเด็ด MRI อีเหลี่ยมชาติหมาเป็นเท็จ อั๊ยยะ? หมาแถวบ้านกูยังรู้ ไม่ต้องจบดร.? แล้วมรึงรออะไรจนป่านนี้ ทั้งปีหายหัว มาโผล่ตอน สว.เตรียมลงนามสาวไส้ให้ควายแดร๊ก ศาลเตรียมชง นรกเตรียมมา ไอ้อีตัวไหนล่ะ รับรองผลการตรวจ ให้อีเหลี่ยมไปนอนรพ.อีตำหนวดที่จัดรอไว้แล้ว จัดฉากควายซะขนาดนี้ เด็กปอ4 ยังอายแทน มีแต่ควายไง ไม่รู้? ป่วยยังไง เจ็บยังไง ลากยาวอยู่เป็นปีได้ ครบปีปุ๊บ หายปั๊บ เดินหาเสียงฉลุย กูถามจริงเหอะ ควายกันทั้งประเทศ? ปล.2 เชื่อกูเหอะว่า ชะตากรรมอีแดงเหี้ย และพ่อเหลี่ยมชาติหมา ยังไงก็ไม่พ้น "ขายชาติ และหมิ่นเบื้องสูง ทูลเท็จ" จิ้มดอกไหนก็โดน เกจิ กุนซือเค้ารู้ แต่ที่ยังไม่ทำอะไรมันตอนนี้ เพราะทหารขอไว้ เอามันมากำจัดอีส้มเน่าก่อน รอมันฟัดกันเองจนหมดแรง ปฎิวัติค่อยออก ปิดเกมส์โดยคุณยายละม่อม เบี้ยเค้ามีไว้ให้เดิน หมากเค้ามีไว้ให้เล่น ดูให้เป็น เย็นให้ได้ ข้ามปีใหม่แล้ว ต้องตกผลึก และแตกฉาน ถึงจะได้ไปพบเพื่อนต่างมิติ เค้ารอพวกมรึงอัพเกรดนานแล้ว สติมี จิตจะมา สติไม่ดี ก็ต้องไปศรีธัญญา สิไอ้สัส? ต้องให้บอก สรุปคือ ใครตามเหี้ยมาจนเกือบเป็นบร๊า แค่หยุดคิดซักนิด แค่ "โลกไม่ได้มีไว้ให้มรึงแบกคนเดียวน่ะ" อะไรที่มรึงเครียดอยู่ตอนนี้ ขอให้รู้ไว้ว่า "มันไม่เคยเกิดขึ้นจริง ภาพลวงตา ผ่านมา ผ่านไป" รู้ทัน เข้าถึง ก็เบาใจ เพราะไม่ว่าชีวิตมัน หรือชีวิตมรึง สุดท้ายก็ไม่พ้นความตายอยู่ดี ค่อยไปวัดที่ตรงตราชั่ง ใครหนักแผ่นดินก็ร่วงลงขุมนรก? มรึงไม่ได้เป็นคนตัดสิน ดังนั้น จงอย่าเพิ่งรีบบร๊า ดูโลกให้สบายใจ ดูเหี้ยให้เป็นเรื่องตลก เพราะยังไง เราก็ชนะ! หมี CNN(มาช้า ยังดีกว่าไม่มา ตอนแรกขี้เกียจโพสแล้ว แต่สงสารสาวกที่รอคอย กลัวจะลงแดงตายห่าคาจอซะก่อน ข้ามปีปุ๊บ บ่นกูปั๊บ ขนาดจะชิงไปตายห่า ยังมีขู่ ให้ลงไปโพสต่อหลังโลกความตาย ไอ้สัส! กูไม่ใช่ขนม ดีออก เสพกันจริง เสพกันจัง เป็นไงล่ะ ขนมรุ่นใหม่ "ตราหมีหื่นอโยธยา" รสชาดกลมกล่อม เหี้ย ขยาด มาร สยบ) 01 มกราคม 68(วันขึ้นปีใหม่โว๊ย..) 21.40 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง" https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามกับเสียงในใจ: ชัยชนะที่สงบเย็น

    การต่อสู้กับเสียงนอกตัว อาจทำให้ใจคุณเดือดพล่าน แต่การต่อสู้กับเสียงในหัว จะทำให้จิตสงบและสุขุม

    ---

    เสียงภายนอก:
    เช่น เสียงด่าทอหรือว่าร้าย
    เป็นผลจากวจีกรรมของผู้อื่น
    ไม่มีอำนาจที่จะทำให้จิตคุณเดือดพล่านได้ หากคุณไม่เปิดประตูรับ

    เสียงภายใน:
    เช่น เสียงด่าตอบ อาฆาต
    เป็นมโนกรรมของตัวคุณเอง
    แม้ยังไม่เอ่ยวาจา แต่มโนกรรมเริ่มส่งผลต่อใจ

    คนส่วนใหญ่มักปล่อยให้วจีกรรมของคนอื่น
    กลายเป็นมโนกรรมของตนเอง
    ส่งผลให้ใจซัดส่าย ยิ่งตอบโต้แรง ใจก็ยิ่งตกอยู่ในอกุศล

    แต่คนส่วนน้อยที่มุ่งรักษาจิตให้สงบ:
    จะฝึกควบคุมมโนกรรมของตนเอง
    ใช้สมาธิและสติเป็นเครื่องมือในการป้องกันโทสะ
    รู้ว่าการเอาชนะเสียงในใจ คือการเพิ่มพูนกุศลและบารมีธรรม

    ---

    อุบายในการควบคุมโทสะ:

    1. อย่าคิดห้ามใจตัวเอง
    การห้ามใจมักนำไปสู่ความเก็บกด
    ให้ฝึกมีสติรู้แรงดันของโทสะแทน

    2. ฟังเสียงโทสะในตัวเอง
    เปรียบเหมือนฟังเสียงน้ำเดือดในหม้อ
    สังเกตอาการเดือดปุดๆ ทั้งภาพรอบตัวที่พร่ามัว และเสียงก่นด่าในหัว

    3. แยกเสียงโทสะออกจากตัวตน
    เข้าใจว่าเสียงเหล่านั้นไม่ใช่ของคุณ แต่เป็นเสียงปีศาจโทสะ
    ฟังเสียงนั้นด้วยความมีสติ โดยไม่ให้มันใช้งานคุณ

    4. พัฒนาสติให้เหนือกว่าโทสะ
    เมื่อสติแข็งแกร่ง โทสะจะไม่มีช่องใช้งานสมอง ปาก หรือมือของคุณ

    ---

    ผลลัพธ์ของสมาธิที่แท้จริง:
    ไม่มีความเก็บกด ไม่มีความคันใจ
    มีแต่ความแจ่มใส ความสงบเย็น
    ไม่มีเมฆหมอกพิษของโทสะหลงเหลือ
    การรบกับเสียงในใจจนชนะทุกครั้ง
    คือการปลดปล่อยตนเองให้พ้นจากกรงแห่งอารมณ์
    และสร้างจิตที่สงบเย็น แจ่มชัด และบริสุทธิ์อย่างแท้จริง!
    สงครามกับเสียงในใจ: ชัยชนะที่สงบเย็น การต่อสู้กับเสียงนอกตัว อาจทำให้ใจคุณเดือดพล่าน แต่การต่อสู้กับเสียงในหัว จะทำให้จิตสงบและสุขุม --- เสียงภายนอก: เช่น เสียงด่าทอหรือว่าร้าย เป็นผลจากวจีกรรมของผู้อื่น ไม่มีอำนาจที่จะทำให้จิตคุณเดือดพล่านได้ หากคุณไม่เปิดประตูรับ เสียงภายใน: เช่น เสียงด่าตอบ อาฆาต เป็นมโนกรรมของตัวคุณเอง แม้ยังไม่เอ่ยวาจา แต่มโนกรรมเริ่มส่งผลต่อใจ คนส่วนใหญ่มักปล่อยให้วจีกรรมของคนอื่น กลายเป็นมโนกรรมของตนเอง ส่งผลให้ใจซัดส่าย ยิ่งตอบโต้แรง ใจก็ยิ่งตกอยู่ในอกุศล แต่คนส่วนน้อยที่มุ่งรักษาจิตให้สงบ: จะฝึกควบคุมมโนกรรมของตนเอง ใช้สมาธิและสติเป็นเครื่องมือในการป้องกันโทสะ รู้ว่าการเอาชนะเสียงในใจ คือการเพิ่มพูนกุศลและบารมีธรรม --- อุบายในการควบคุมโทสะ: 1. อย่าคิดห้ามใจตัวเอง การห้ามใจมักนำไปสู่ความเก็บกด ให้ฝึกมีสติรู้แรงดันของโทสะแทน 2. ฟังเสียงโทสะในตัวเอง เปรียบเหมือนฟังเสียงน้ำเดือดในหม้อ สังเกตอาการเดือดปุดๆ ทั้งภาพรอบตัวที่พร่ามัว และเสียงก่นด่าในหัว 3. แยกเสียงโทสะออกจากตัวตน เข้าใจว่าเสียงเหล่านั้นไม่ใช่ของคุณ แต่เป็นเสียงปีศาจโทสะ ฟังเสียงนั้นด้วยความมีสติ โดยไม่ให้มันใช้งานคุณ 4. พัฒนาสติให้เหนือกว่าโทสะ เมื่อสติแข็งแกร่ง โทสะจะไม่มีช่องใช้งานสมอง ปาก หรือมือของคุณ --- ผลลัพธ์ของสมาธิที่แท้จริง: ไม่มีความเก็บกด ไม่มีความคันใจ มีแต่ความแจ่มใส ความสงบเย็น ไม่มีเมฆหมอกพิษของโทสะหลงเหลือ การรบกับเสียงในใจจนชนะทุกครั้ง คือการปลดปล่อยตนเองให้พ้นจากกรงแห่งอารมณ์ และสร้างจิตที่สงบเย็น แจ่มชัด และบริสุทธิ์อย่างแท้จริง!
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts