• ปกติแล้ว หากคุณเก็บรหัสผ่านหรือคีย์เข้ารหัสไว้ในอุปกรณ์ แฮกเกอร์ก็อาจหามันเจอได้ถ้าระบบโดนเจาะ → นักวิจัยเกาหลีเลยสร้างวิธีที่เรียกว่า “Concealable PUF” (Physical Unclonable Function) → ซึ่งไม่เพียงทำให้สร้างคีย์แบบสุ่มจากฮาร์ดแวร์ (คล้ายลายนิ้วมือของแต่ละชิป) ได้ → แต่ยังสามารถ “ซ่อนคีย์นั้นไว้ใต้ข้อมูลปกติ” ในหน่วยความจำ V-NAND แบบธรรมดา → และเปิดเผยออกมาเฉพาะเวลาจำเป็น!

    เคล็ดลับคือการใช้เทคนิค “GIDL Erase” (Gate-Induced Drain Leakage) แบบอ่อนๆ กับชั้นหน่วยความจำ → ทำให้เซลล์แต่ละชิปมีพฤติกรรมที่แตกต่างและคาดเดาไม่ได้ → นำมาใช้เป็น PUF ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนวงจรหรือออกแบบฮาร์ดแวร์ใหม่

    ที่เจ๋งคือระบบนี้สามารถซ่อน–เปิดเผยคีย์ได้มากกว่า 100 รอบโดยไม่ผิดพลาด แถมยังทนร้อน ทนเย็น และผ่านการอ่านมากกว่า 10 ล้านครั้ง — และที่สำคัญ…แม้แต่ AI ยังเดาคีย์นี้ไม่ได้เลย!

    นักวิจัยจาก Seoul National University พัฒนาเทคนิค "Concealable PUF" ใช้ซ่อนคีย์เข้ารหัสภายใต้ข้อมูลในแฟลช V-NAND ปกติ  
    • ไม่ต้องแก้ไขวงจรหรือออกแบบชิปใหม่  
    • ใช้กับ NAND แฟลชที่มีในตลาดได้ทันที

    ใช้เทคนิค GIDL Erase แบบอ่อนเพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างเซลล์หน่วยความจำ  
    • ทำให้สร้าง PUF ที่ไม่ซ้ำ และปลอมแปลงไม่ได้  
    • อ่านค่าได้เฉพาะเมื่ออยู่ในสถานะที่เหมาะสม

    เทคโนโลยีนี้ผ่านการทดสอบอุณหภูมิ–ความทนทาน:  
    • อ่านได้ >10 ล้านครั้ง  
    • ปลอดภัยแม้ในความร้อนสูง–เย็นสุดขีด  
    • ซ่อน–เผยรหัสได้เกิน 100 รอบโดยไม่ผิดพลาด

    สามารถต้านการโจมตีแบบ Machine Learning ได้  
    • อัลกอริธึมต่าง ๆ ไม่สามารถเดาคีย์ได้ดีกว่าการสุ่ม

    ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านสถาปัตยกรรมชิป → ช่วยให้เทคโนโลยีขยายการใช้งานได้เร็ว  
    • รองรับการใช้ในอุปกรณ์ทั่วไป เช่น IoT, สมาร์ตโฟน, รถยนต์ ฯลฯ

    https://www.techradar.com/pro/this-surprisingly-simple-way-to-hide-hardware-security-keys-in-mainstream-flash-memory-could-pave-the-way-for-ultra-secure-storage-very-soon
    ปกติแล้ว หากคุณเก็บรหัสผ่านหรือคีย์เข้ารหัสไว้ในอุปกรณ์ แฮกเกอร์ก็อาจหามันเจอได้ถ้าระบบโดนเจาะ → นักวิจัยเกาหลีเลยสร้างวิธีที่เรียกว่า “Concealable PUF” (Physical Unclonable Function) → ซึ่งไม่เพียงทำให้สร้างคีย์แบบสุ่มจากฮาร์ดแวร์ (คล้ายลายนิ้วมือของแต่ละชิป) ได้ → แต่ยังสามารถ “ซ่อนคีย์นั้นไว้ใต้ข้อมูลปกติ” ในหน่วยความจำ V-NAND แบบธรรมดา → และเปิดเผยออกมาเฉพาะเวลาจำเป็น! เคล็ดลับคือการใช้เทคนิค “GIDL Erase” (Gate-Induced Drain Leakage) แบบอ่อนๆ กับชั้นหน่วยความจำ → ทำให้เซลล์แต่ละชิปมีพฤติกรรมที่แตกต่างและคาดเดาไม่ได้ → นำมาใช้เป็น PUF ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนวงจรหรือออกแบบฮาร์ดแวร์ใหม่ ที่เจ๋งคือระบบนี้สามารถซ่อน–เปิดเผยคีย์ได้มากกว่า 100 รอบโดยไม่ผิดพลาด แถมยังทนร้อน ทนเย็น และผ่านการอ่านมากกว่า 10 ล้านครั้ง — และที่สำคัญ…แม้แต่ AI ยังเดาคีย์นี้ไม่ได้เลย! ✅ นักวิจัยจาก Seoul National University พัฒนาเทคนิค "Concealable PUF" ใช้ซ่อนคีย์เข้ารหัสภายใต้ข้อมูลในแฟลช V-NAND ปกติ   • ไม่ต้องแก้ไขวงจรหรือออกแบบชิปใหม่   • ใช้กับ NAND แฟลชที่มีในตลาดได้ทันที ✅ ใช้เทคนิค GIDL Erase แบบอ่อนเพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างเซลล์หน่วยความจำ   • ทำให้สร้าง PUF ที่ไม่ซ้ำ และปลอมแปลงไม่ได้   • อ่านค่าได้เฉพาะเมื่ออยู่ในสถานะที่เหมาะสม ✅ เทคโนโลยีนี้ผ่านการทดสอบอุณหภูมิ–ความทนทาน:   • อ่านได้ >10 ล้านครั้ง   • ปลอดภัยแม้ในความร้อนสูง–เย็นสุดขีด   • ซ่อน–เผยรหัสได้เกิน 100 รอบโดยไม่ผิดพลาด ✅ สามารถต้านการโจมตีแบบ Machine Learning ได้   • อัลกอริธึมต่าง ๆ ไม่สามารถเดาคีย์ได้ดีกว่าการสุ่ม ✅ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านสถาปัตยกรรมชิป → ช่วยให้เทคโนโลยีขยายการใช้งานได้เร็ว   • รองรับการใช้ในอุปกรณ์ทั่วไป เช่น IoT, สมาร์ตโฟน, รถยนต์ ฯลฯ https://www.techradar.com/pro/this-surprisingly-simple-way-to-hide-hardware-security-keys-in-mainstream-flash-memory-could-pave-the-way-for-ultra-secure-storage-very-soon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้บริษัทต่าง ๆ จะลงเงินลงทุนมหาศาลเพื่อนำ “AI Assistant” มาช่วยงานในคอลเซนเตอร์ ทั้งในแง่การถอดเสียงพูดเป็นข้อความ สรุปการสนทนา หรือช่วยตรวจจับอารมณ์ของลูกค้า → แต่ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจีนและบริษัทพลังงานที่ใช้ระบบนี้จริง กลับเผยว่า AI สร้าง “ปัญหามากกว่าความช่วยเหลือ” สำหรับพนักงานแนวหน้าอย่างแท้จริง

    ตัวอย่างปัญหาที่เจอ:
    - ถอดเสียงพูดเป็นข้อความแบบผิด ๆ
    - อ่านเบอร์โทรศัพท์จากเสียงผิดพลาด
    - เข้าใจคำพ้องเสียง (homophones) ผิด
    - สรุปบทสนทนาไม่ตรงประเด็น
    - ตรวจจับอารมณ์คนผิด (เช่น แค่พูดเสียงดัง → ถูกตีความว่าโกรธ)

    แม้จะลดงานพิมพ์เอกสารได้นิดหน่อย แต่พนักงานต้องเสียเวลาตรวจ–แก้เนื้อหาเกือบทั้งหมด บางคนถึงขั้นบอกว่า “AI ไม่ได้ฉลาดอย่างที่คิดเลย” และสุดท้ายต้องทำเองแทบทั้งหมดอยู่ดี

    AI Assistant สำหรับคอลเซนเตอร์ ถูกประเมินว่า “ช่วยบางเรื่อง แต่อยู่ไกลจากคำว่าอัจฉริยะ”  
    • ประสิทธิภาพยังไม่ถึงขั้นแทนที่การทำงานของพนักงานได้จริง

    ถอดเสียง (Speech-to-Text) มีความผิดพลาดสูง  
    • ฟังสำเนียงหลากหลายไม่ออก  
    • ถอดหมายเลขผิด ทำให้ต้องกรอกเอง

    เข้าใจคำพ้องเสียงผิด (เช่น knew vs. new)  
    • ทำให้ความหมายในบทสนทนาเพี้ยน

    Emotion Detection มีความคลาดเคลื่อน  
    • แยกแยะอารมณ์ได้แค่ไม่กี่แบบ  
    • เข้าใจผิดว่า “เสียงดัง = โกรธ” ทั้งที่ผู้พูดแค่เสียงใหญ่  
    • พนักงานส่วนใหญ่เลือก “มองข้าม” แท็กอารมณ์จาก AI

    AI ช่วยลดงานพิมพ์นิดหน่อย แต่ผลลัพธ์ยังไม่พร้อมใช้ทันที  
    • ต้องแก้ไขสรุปการสนทนาเยอะ  
    • มักพลาดข้อมูลสำคัญจากลูกค้า

    การศึกษาชี้ว่า AI เพิ่ม “ภาระการเรียนรู้” ให้พนักงานมากกว่าที่คาด  
    • ต้องเรียนรู้วิธีแก้ข้อมูลจาก AI  
    • ทำให้ไม่ได้ประหยัดเวลาจริงเท่าไร

    Gartner คาดการณ์ว่าเกิน 40% ของโปรเจกต์ Agentic AI จะถูกยกเลิกภายในปี 2027  
    • และกว่า 50% ขององค์กรที่ตั้งใจใช้ AI แทนคน จะ “ทบทวนแผน”

    https://www.techspot.com/news/108547-call-center-workers-their-ai-assistants-create-more.html
    แม้บริษัทต่าง ๆ จะลงเงินลงทุนมหาศาลเพื่อนำ “AI Assistant” มาช่วยงานในคอลเซนเตอร์ ทั้งในแง่การถอดเสียงพูดเป็นข้อความ สรุปการสนทนา หรือช่วยตรวจจับอารมณ์ของลูกค้า → แต่ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจีนและบริษัทพลังงานที่ใช้ระบบนี้จริง กลับเผยว่า AI สร้าง “ปัญหามากกว่าความช่วยเหลือ” สำหรับพนักงานแนวหน้าอย่างแท้จริง ตัวอย่างปัญหาที่เจอ: - ถอดเสียงพูดเป็นข้อความแบบผิด ๆ - อ่านเบอร์โทรศัพท์จากเสียงผิดพลาด - เข้าใจคำพ้องเสียง (homophones) ผิด - สรุปบทสนทนาไม่ตรงประเด็น - ตรวจจับอารมณ์คนผิด (เช่น แค่พูดเสียงดัง → ถูกตีความว่าโกรธ) แม้จะลดงานพิมพ์เอกสารได้นิดหน่อย แต่พนักงานต้องเสียเวลาตรวจ–แก้เนื้อหาเกือบทั้งหมด บางคนถึงขั้นบอกว่า “AI ไม่ได้ฉลาดอย่างที่คิดเลย” และสุดท้ายต้องทำเองแทบทั้งหมดอยู่ดี ✅ AI Assistant สำหรับคอลเซนเตอร์ ถูกประเมินว่า “ช่วยบางเรื่อง แต่อยู่ไกลจากคำว่าอัจฉริยะ”   • ประสิทธิภาพยังไม่ถึงขั้นแทนที่การทำงานของพนักงานได้จริง ✅ ถอดเสียง (Speech-to-Text) มีความผิดพลาดสูง   • ฟังสำเนียงหลากหลายไม่ออก   • ถอดหมายเลขผิด ทำให้ต้องกรอกเอง ✅ เข้าใจคำพ้องเสียงผิด (เช่น knew vs. new)   • ทำให้ความหมายในบทสนทนาเพี้ยน ✅ Emotion Detection มีความคลาดเคลื่อน   • แยกแยะอารมณ์ได้แค่ไม่กี่แบบ   • เข้าใจผิดว่า “เสียงดัง = โกรธ” ทั้งที่ผู้พูดแค่เสียงใหญ่   • พนักงานส่วนใหญ่เลือก “มองข้าม” แท็กอารมณ์จาก AI ✅ AI ช่วยลดงานพิมพ์นิดหน่อย แต่ผลลัพธ์ยังไม่พร้อมใช้ทันที   • ต้องแก้ไขสรุปการสนทนาเยอะ   • มักพลาดข้อมูลสำคัญจากลูกค้า ✅ การศึกษาชี้ว่า AI เพิ่ม “ภาระการเรียนรู้” ให้พนักงานมากกว่าที่คาด   • ต้องเรียนรู้วิธีแก้ข้อมูลจาก AI   • ทำให้ไม่ได้ประหยัดเวลาจริงเท่าไร ✅ Gartner คาดการณ์ว่าเกิน 40% ของโปรเจกต์ Agentic AI จะถูกยกเลิกภายในปี 2027   • และกว่า 50% ขององค์กรที่ตั้งใจใช้ AI แทนคน จะ “ทบทวนแผน” https://www.techspot.com/news/108547-call-center-workers-their-ai-assistants-create-more.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Call center workers say their AI assistants create more problems than they solve
    A study carried out by researchers from several Chinese universities and a Chinese power company looked at what impact AI assistants were having on the plant's customer...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มท.อ้วน" ขออย่ามองลบปมสั่งปิดประชุมสภาฯ รับตามสภาพ สส.ที่เป็น รมต.ต้องหอบงานไปทำ ป้องกันสภาล่ม ชี้หน.พรรคร่วมต้องกำชับ สส.เข้าประชุม บอกปกติสามารถเกิดขึ้นได้ เผยยังไม่ได้คุยฝ่าย กม.เป็นรูปธรรม กรณีอำนาจรักษาการนายกฯยุบสภาได้หรือไม่ ยันทำตามอำนาจที่ รธน.

    วันนี้ (3ก.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง สั่งปิดการประชุมระหว่างฝ่ายค้านขอให้นับองค์ประชุม ว่าเรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่เคยกำชับไว้แล้วว่าให้ทุกคนทำหน้าที่ในช่วงรอยต่อ ซึ่งอาจจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง

    ส่วนที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการระบุว่าสส.กว่า 90% ของพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมประชุมในวันนี้ แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมเป็นสส.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งต้องให้ทางหัวหน้าพรรคกำชับกันต่อไป

    ทั้งนี้ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีจะประสานแก้ปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร หรือ ต้องให้วิปรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ นายภูมิธรรม ระบุว่า ทุกคนทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งตนเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อช่วง 14:00 น. ที่ผ่านมา จึงเพิ่งได้เริ่มพูดคุยกัน ฉะนั้นต้องทำงานกันอย่างต่อเนื่อง อะไรที่เคยทำและอะไรที่ควรทำตนก็ต้องทำ ขณะที่เรื่องของสภาวิปรัฐบาลก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการแต่งตั้งใหม่และกระบวนการต่างๆยังไม่ครบถ้วนจึงขอให้รอครบถ้วนก่อน เพราะตรงนี้เป็นปัญหาแต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ดังนั้นก็ต้องแก้ไขปัญหากันต่อ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000062818

    #MGROnline #ภูมิธรรมเวชยชัย #รองนายกรัฐมนตรี #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย #รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
    "มท.อ้วน" ขออย่ามองลบปมสั่งปิดประชุมสภาฯ รับตามสภาพ สส.ที่เป็น รมต.ต้องหอบงานไปทำ ป้องกันสภาล่ม ชี้หน.พรรคร่วมต้องกำชับ สส.เข้าประชุม บอกปกติสามารถเกิดขึ้นได้ เผยยังไม่ได้คุยฝ่าย กม.เป็นรูปธรรม กรณีอำนาจรักษาการนายกฯยุบสภาได้หรือไม่ ยันทำตามอำนาจที่ รธน. • วันนี้ (3ก.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง สั่งปิดการประชุมระหว่างฝ่ายค้านขอให้นับองค์ประชุม ว่าเรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่เคยกำชับไว้แล้วว่าให้ทุกคนทำหน้าที่ในช่วงรอยต่อ ซึ่งอาจจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง • ส่วนที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการระบุว่าสส.กว่า 90% ของพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมประชุมในวันนี้ แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมเป็นสส.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งต้องให้ทางหัวหน้าพรรคกำชับกันต่อไป • ทั้งนี้ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีจะประสานแก้ปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร หรือ ต้องให้วิปรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ นายภูมิธรรม ระบุว่า ทุกคนทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งตนเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อช่วง 14:00 น. ที่ผ่านมา จึงเพิ่งได้เริ่มพูดคุยกัน ฉะนั้นต้องทำงานกันอย่างต่อเนื่อง อะไรที่เคยทำและอะไรที่ควรทำตนก็ต้องทำ ขณะที่เรื่องของสภาวิปรัฐบาลก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการแต่งตั้งใหม่และกระบวนการต่างๆยังไม่ครบถ้วนจึงขอให้รอครบถ้วนก่อน เพราะตรงนี้เป็นปัญหาแต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ดังนั้นก็ต้องแก้ไขปัญหากันต่อ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000062818 • #MGROnline #ภูมิธรรมเวชยชัย #รองนายกรัฐมนตรี #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย #รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นายกฯลาออกก็จบแล้ว,โทนี่ไปติดคุกก็ด้วย,ไม่เสียหายอะไรเลย แค่ทำเพื่อชาติ,ดีต่อชาติเสียอีก,พ้นโทษก็เดินเชิดหน้าชูตาปกติได้อีก,แปลกทำไมไม่ทำตั้งแต่เดินเข้ามาประเทศไทย,กลับมาเลี้ยงหลานก็ไม่มีเรื่องราวอะไรเลย,ฟ้าก็ให้อภัยโทษแน่นอน.,คือไม่สนใจว่าทั้งหมดคือแผนของอีลิทdeep stateหรอกนะคือวางสนุ๊ควางหมากเรื่องนี้ไว้รอแล้วระหว่างฮุนเซนกับไทยนี้ในนามรัฐบาลลูกโทนี่,คือทั้งหมดสองฝ่ายคือคนของdeep stateทั้งหมด,สั่งละครแบบไหนควบคุมได้หมด,เผลออาจฟันกำไรในราคาหุ้นขึ้นลงด้วยหรือกินส่วนต่างทำกำไรส่วนที่เก็งราคาปั่นกระแสของข่าวได้ตังมหาศาลนั้นเอง,เช่นอิสราเอลยิงระเบิดใส่อิหร่านนั้นล่ะ,มีใครหลายคนทั่วโลกฟันตังฟันเงินส่วนต่างได้อย่างมากมายมหาศาลแน่นอนที่เกิดสงครามกันในระยะเวลาอันสั้น.
    ..แกนนำทั้งบนเวทีและล่างเวทีสามารถตั้งทีมบริหารรัฐบาลในอนาคตของภาคประชาชนได้สบายเลยก็ว่า,สามารถเอาไปละลายพฤติกรรมปรับจูนพลังงานบวกเชิงมหาทีมเพื่องานใหญ่เพื่อชาติบ้านเมืองได้สบาย,สลายใจเก่ารวมเป็นใจใหม่ใจดวงเดียวกันของจริง,จะสิ้นคำว่าหวาดระแวงขณะทำงานของใครของหน้าที่ใครมันเพื่อชาติเพื่อประชาชนอย่างง่ายสบายใจกันทันที,ส่วนตัวสร้างระบบดีรองรับจะเดินก้าวอย่างก้าวกระโดดเลย,เช่นปัจจุบัน สำนักงานประสานงานเข้าถึงปัญหาทางตรงแก่ประชาชนไม่มีเพื่อแก้ไขปัญหาให้ทันเวลาทันกาลไม่มีก็ทำให้มีเสีย,มีสำนักงานประจำทุกๆหมู่บ้านทันที,ประสานงานกับส่วนกลางทางตรง,ยุบอบต.อบจ.ตังก็มีสร้างเพียงพอเลยแค่7-8หมื่นกมู่บ้านชุมชนเอง,รับเรื่องร้องทุกข์ต่างๆของประชาชนเราทางตรงจะเข้าถึงทุกๆปัญหาประชาชนอย่างเรียลไทม์เลย,แล้วเรื่องอื่นๆจะง่ายทั้งหมดทันที,เช่นเขมรรุกล้ำชายแดน ชาวบ้านส่งเรื่องสายตรง ส่วนกลางก็เข้าถึงพื้นที่ทันทีแก้ไขปัญหาตรงจุดตัดตอนได้ทันกาลด้วยเป็นต้น,อัดเงินงบประมาณช่วยเหลือก็ลงผ่านสำนักงานนี้ได้ทันที,เราจะอัพเรเวลยามของแผ่นดินไทยไปในตัวด้วยและสาระพัดคุณต่างๆอีกมากมาย,
    ..ประเทศไทยเรานักปกครองไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบ ไม่มีแอ็คชั่นลาออกใดๆเพื่อรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ที่ผิดพลาด,ญี่ปุ่นถ้าผิดพลาดเขาจะแสดงความรับผิดชอบลาออกทันที,ชนชั้นปกครองเรากากกระจอกเรื่องนี้มากจริงๆไม่หัดปลูกฝังใส่สมองในหมู่มันเลย ถ้าฝึกหัดสร้างสภาวะให้เป็นเช่นนั้นก็จะเป็นมาตราฐานให้คนรุ่นต่อไปพึ่งสำนึกในใจทันทีว่าถ้าทำผิดพลาดต่อบ้านต่อเมืองต่อแผ่นดินต่อประชาชนต้องลาออกไปทันที,ให้คนเก่งดีมีความรู้มีฝือมือมีความสามารถมาทำแทนตน,ญี่ปุ่นเจอระเบิดนิวเคลียร์ลง จึงสำนึกว่าความผิดพลาดเราแม้นิดเดียวอาจนำพาหายนะใหญ่หลวงเกิดขึ้นแก่ประเทศชาติตนเองได้,คนดีคนเก่งมีความสามารถต้องขึ้นมาแทนเราในทันที เราต้องลาออกเพื่อดำรงชาติเราให้คงอยู่ไว้ หรือก่อหายนะน้อยที่สุดคือลาออกไปทันทีดีที่สุด,คนอื่นต้องแก้ไขได้ดีกว่าตนแน่นอนหรือคนต่อๆไปอีก จนเจอผู้นั้นจริง.ทีมนั่นๆจริง,นี้อะไรประเทศไทยเรา,พื้นฐานสำนึกยังไม่มีแต่ก็สามารถมามีสถานะบริบททางการเมืองการปกครองประเทศได้,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว แม้แต่ผู้นำผู้ปกครองประเทศนี้ยังไม่มีสำนึกอะไรจากจิตใจที่สมควรดีงามจริงๆเลยได้,เราจึงต้องปฏิวัติการปกครองจริงๆ,
    ..ยุคลงถนนชุดนี้ต้องสุดซอยคือจัดตั้งเป็นรัฐบาลเองเลยโดยภาคประชาชนเราปกครองขึ้นเองนั้นเอง,พอกันที่ไปชุมนุนแล้วยกให้คนอื่นเป็นนายกแทนตนเองขึ้นปกครอง,เชิญคนนั้นคนนี้มาปกครองแทนตนเองที่ลงถนนประท้วงขับไล่ด้วยมือตนเองแต่ยกอำนาจให้คนอื่นที่ไม่มีจิตวิญญาณต่อสู้เพื่อประชาชนจริงจังอะไร,สู้ในห้องแอร์หรู,อย่าเอาคนประเภทนี้มาเป็นนายกฯเชิญมาเป็นนายกฯเด็ดขาด,แม่ทัพเมื่อชนะศึกต้องขึ้นปกครองเอง,เพราะความหมายคุณค่าการต่อสู้ที่ร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องทหารประชาชนตนเองจะเป็นแรงบันดาลมหาศาลว่าทำไมพี่น้องประชาชนเราจึงต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีจริง,มิใช่มโนแค่ผ่านออกมาทางปากเพื่อขึ้นปกครองแบบนักการเมืองระยำบัดสบที่เคยๆเป็นมาผ่านๆมา.
    ..
    ..https://youtu.be/PnHZBK4r7Ak?si=tg_OQjWtHrmEwZeK
    ..นายกฯลาออกก็จบแล้ว,โทนี่ไปติดคุกก็ด้วย,ไม่เสียหายอะไรเลย แค่ทำเพื่อชาติ,ดีต่อชาติเสียอีก,พ้นโทษก็เดินเชิดหน้าชูตาปกติได้อีก,แปลกทำไมไม่ทำตั้งแต่เดินเข้ามาประเทศไทย,กลับมาเลี้ยงหลานก็ไม่มีเรื่องราวอะไรเลย,ฟ้าก็ให้อภัยโทษแน่นอน.,คือไม่สนใจว่าทั้งหมดคือแผนของอีลิทdeep stateหรอกนะคือวางสนุ๊ควางหมากเรื่องนี้ไว้รอแล้วระหว่างฮุนเซนกับไทยนี้ในนามรัฐบาลลูกโทนี่,คือทั้งหมดสองฝ่ายคือคนของdeep stateทั้งหมด,สั่งละครแบบไหนควบคุมได้หมด,เผลออาจฟันกำไรในราคาหุ้นขึ้นลงด้วยหรือกินส่วนต่างทำกำไรส่วนที่เก็งราคาปั่นกระแสของข่าวได้ตังมหาศาลนั้นเอง,เช่นอิสราเอลยิงระเบิดใส่อิหร่านนั้นล่ะ,มีใครหลายคนทั่วโลกฟันตังฟันเงินส่วนต่างได้อย่างมากมายมหาศาลแน่นอนที่เกิดสงครามกันในระยะเวลาอันสั้น. ..แกนนำทั้งบนเวทีและล่างเวทีสามารถตั้งทีมบริหารรัฐบาลในอนาคตของภาคประชาชนได้สบายเลยก็ว่า,สามารถเอาไปละลายพฤติกรรมปรับจูนพลังงานบวกเชิงมหาทีมเพื่องานใหญ่เพื่อชาติบ้านเมืองได้สบาย,สลายใจเก่ารวมเป็นใจใหม่ใจดวงเดียวกันของจริง,จะสิ้นคำว่าหวาดระแวงขณะทำงานของใครของหน้าที่ใครมันเพื่อชาติเพื่อประชาชนอย่างง่ายสบายใจกันทันที,ส่วนตัวสร้างระบบดีรองรับจะเดินก้าวอย่างก้าวกระโดดเลย,เช่นปัจจุบัน สำนักงานประสานงานเข้าถึงปัญหาทางตรงแก่ประชาชนไม่มีเพื่อแก้ไขปัญหาให้ทันเวลาทันกาลไม่มีก็ทำให้มีเสีย,มีสำนักงานประจำทุกๆหมู่บ้านทันที,ประสานงานกับส่วนกลางทางตรง,ยุบอบต.อบจ.ตังก็มีสร้างเพียงพอเลยแค่7-8หมื่นกมู่บ้านชุมชนเอง,รับเรื่องร้องทุกข์ต่างๆของประชาชนเราทางตรงจะเข้าถึงทุกๆปัญหาประชาชนอย่างเรียลไทม์เลย,แล้วเรื่องอื่นๆจะง่ายทั้งหมดทันที,เช่นเขมรรุกล้ำชายแดน ชาวบ้านส่งเรื่องสายตรง ส่วนกลางก็เข้าถึงพื้นที่ทันทีแก้ไขปัญหาตรงจุดตัดตอนได้ทันกาลด้วยเป็นต้น,อัดเงินงบประมาณช่วยเหลือก็ลงผ่านสำนักงานนี้ได้ทันที,เราจะอัพเรเวลยามของแผ่นดินไทยไปในตัวด้วยและสาระพัดคุณต่างๆอีกมากมาย, ..ประเทศไทยเรานักปกครองไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบ ไม่มีแอ็คชั่นลาออกใดๆเพื่อรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ที่ผิดพลาด,ญี่ปุ่นถ้าผิดพลาดเขาจะแสดงความรับผิดชอบลาออกทันที,ชนชั้นปกครองเรากากกระจอกเรื่องนี้มากจริงๆไม่หัดปลูกฝังใส่สมองในหมู่มันเลย ถ้าฝึกหัดสร้างสภาวะให้เป็นเช่นนั้นก็จะเป็นมาตราฐานให้คนรุ่นต่อไปพึ่งสำนึกในใจทันทีว่าถ้าทำผิดพลาดต่อบ้านต่อเมืองต่อแผ่นดินต่อประชาชนต้องลาออกไปทันที,ให้คนเก่งดีมีความรู้มีฝือมือมีความสามารถมาทำแทนตน,ญี่ปุ่นเจอระเบิดนิวเคลียร์ลง จึงสำนึกว่าความผิดพลาดเราแม้นิดเดียวอาจนำพาหายนะใหญ่หลวงเกิดขึ้นแก่ประเทศชาติตนเองได้,คนดีคนเก่งมีความสามารถต้องขึ้นมาแทนเราในทันที เราต้องลาออกเพื่อดำรงชาติเราให้คงอยู่ไว้ หรือก่อหายนะน้อยที่สุดคือลาออกไปทันทีดีที่สุด,คนอื่นต้องแก้ไขได้ดีกว่าตนแน่นอนหรือคนต่อๆไปอีก จนเจอผู้นั้นจริง.ทีมนั่นๆจริง,นี้อะไรประเทศไทยเรา,พื้นฐานสำนึกยังไม่มีแต่ก็สามารถมามีสถานะบริบททางการเมืองการปกครองประเทศได้,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว แม้แต่ผู้นำผู้ปกครองประเทศนี้ยังไม่มีสำนึกอะไรจากจิตใจที่สมควรดีงามจริงๆเลยได้,เราจึงต้องปฏิวัติการปกครองจริงๆ, ..ยุคลงถนนชุดนี้ต้องสุดซอยคือจัดตั้งเป็นรัฐบาลเองเลยโดยภาคประชาชนเราปกครองขึ้นเองนั้นเอง,พอกันที่ไปชุมนุนแล้วยกให้คนอื่นเป็นนายกแทนตนเองขึ้นปกครอง,เชิญคนนั้นคนนี้มาปกครองแทนตนเองที่ลงถนนประท้วงขับไล่ด้วยมือตนเองแต่ยกอำนาจให้คนอื่นที่ไม่มีจิตวิญญาณต่อสู้เพื่อประชาชนจริงจังอะไร,สู้ในห้องแอร์หรู,อย่าเอาคนประเภทนี้มาเป็นนายกฯเชิญมาเป็นนายกฯเด็ดขาด,แม่ทัพเมื่อชนะศึกต้องขึ้นปกครองเอง,เพราะความหมายคุณค่าการต่อสู้ที่ร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องทหารประชาชนตนเองจะเป็นแรงบันดาลมหาศาลว่าทำไมพี่น้องประชาชนเราจึงต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีจริง,มิใช่มโนแค่ผ่านออกมาทางปากเพื่อขึ้นปกครองแบบนักการเมืองระยำบัดสบที่เคยๆเป็นมาผ่านๆมา. .. ..https://youtu.be/PnHZBK4r7Ak?si=tg_OQjWtHrmEwZeK
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • "แม่ทัพภาคที่ 2 ชี้เป็นเรื่องของนายกฯ และทีมงานจะต้องแก้ไข หลัง ฮุนเซนพูดพาดพิง ยันทหารดูแลความมั่นคงชายแดน มองฮุนเซนเยี่ยมทหารเขมร หวังแสดงออกความเป็นผู้นำ พร้อมฝากคนไทยชายแดน ยังไม่มีอะไรน่าห่วง ฝ่ายปฏิบัติเน้นคุยเลี่ยงการใช้อาวุธ ลั่นไม่เคยหวั่นไหวในการทำหน้าที่

    เวลา 11.30 น. วันที่ 27 มิ.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์กรณีการไลฟ์สดของสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่มีการพูดถึงประเทศไทย ได้รับรายงานแล้วหรือยัง ว่า นี่เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนก็ติดตามอยู่ ขอให้เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่จะแก้ไข ส่วนกองทัพก็ยังคงดูแลความมั่นคงตามแนวชายแดน

    ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด ฝ่ายไทยก็ยังตรึงกำลังอยู่ ส่วนกัมพูชาก็ยังไม่ได้ถอนกำลัง ยังคงรอความชัดเจนของทั้ง 2 ประเทศ และขึ้นอยู่กับผู้นำ 2 ประเทศ ว่าจะคุยกันอย่างไรส่วนทหารก็ทำหน้าที่ต่อไป ควบคุมและกำกับดูแลแนวชายแดนให้เป็นปกติมากที่สุด ซึ่งกับทางทหารกัมพูชาก็ยังคงมีการพูดคุยกัน ตั้งแต่การปรับกำลังที่ช่องบก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000060546

    #Thaitimes #MGROnline #ฮุนเซน #กัมพูชา #แม่ทัพภาคที่2
    "แม่ทัพภาคที่ 2 ชี้เป็นเรื่องของนายกฯ และทีมงานจะต้องแก้ไข หลัง ฮุนเซนพูดพาดพิง ยันทหารดูแลความมั่นคงชายแดน มองฮุนเซนเยี่ยมทหารเขมร หวังแสดงออกความเป็นผู้นำ พร้อมฝากคนไทยชายแดน ยังไม่มีอะไรน่าห่วง ฝ่ายปฏิบัติเน้นคุยเลี่ยงการใช้อาวุธ ลั่นไม่เคยหวั่นไหวในการทำหน้าที่ • เวลา 11.30 น. วันที่ 27 มิ.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์กรณีการไลฟ์สดของสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่มีการพูดถึงประเทศไทย ได้รับรายงานแล้วหรือยัง ว่า นี่เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนก็ติดตามอยู่ ขอให้เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่จะแก้ไข ส่วนกองทัพก็ยังคงดูแลความมั่นคงตามแนวชายแดน • ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด ฝ่ายไทยก็ยังตรึงกำลังอยู่ ส่วนกัมพูชาก็ยังไม่ได้ถอนกำลัง ยังคงรอความชัดเจนของทั้ง 2 ประเทศ และขึ้นอยู่กับผู้นำ 2 ประเทศ ว่าจะคุยกันอย่างไรส่วนทหารก็ทำหน้าที่ต่อไป ควบคุมและกำกับดูแลแนวชายแดนให้เป็นปกติมากที่สุด ซึ่งกับทางทหารกัมพูชาก็ยังคงมีการพูดคุยกัน ตั้งแต่การปรับกำลังที่ช่องบก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000060546 • #Thaitimes #MGROnline #ฮุนเซน #กัมพูชา #แม่ทัพภาคที่2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องราวของ Plasma 6.4 และอนาคตของ 6.5
    ทีม KDE กำลังเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Plasma 6.4 ก่อนเปิดตัววันที่ 17 มิถุนายน 2025 หลังจากที่สัปดาห์ก่อนมีการปรับปรุงเรื่องความเร็วในการโหลด ตอนนี้พวกเขาเดินหน้าต่อด้วยการเพิ่ม Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอย นี่เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ Wayland ทัดเทียมกับ X11 มากขึ้น

    นอกจากนี้ การปรับปรุงอื่นๆ ได้แก่:
    ปรับปรุง Blur effect โดยรวม Background Contrast effect เข้าไป
    สามารถจัดเรียง Virtual desktops จาก Pager widget ได้แล้ว
    ตั้งค่าการ Invert และ Zoom ถูกย้ายไปที่หน้า Accessibility
    ปรับปรุง Breeze application style ให้มีแอนิเมชันในเช็คบ็อกซ์และปุ่มตัวเลือกในแอปที่ใช้ QtQuick
    แก้ไขปัญหาผู้ใช้ไม่รู้วิธีหยุดบันทึกหน้าจอใน Spectacle ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    ปรับปรุงเสถียรภาพใน Plasma 6.4
    การเพิ่มวิดเจ็ตไปที่ oversized panels ไม่ทำให้ shell ค้างอีกต่อไป
    แก้ปัญหา Discover ที่เคยแครชเมื่อแนะนำแอปแทนที่สำหรับ Flatpak ที่ไม่รองรับ
    ลากไฟล์ไปวางใน Folder View widget ไม่ทำให้เกิดภาพกระตุก
    กล่องบันทึกไฟล์จาก Flatpak browsers อนุญาตให้เปิดหน้า preview แล้ว
    การพิมพ์จาก Flatpak GTK apps แสดงขนาดที่ถูกต้อง

    ฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนาสำหรับ Plasma 6.5
    Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland— ใช้ Wayland PiP protocol เวอร์ชันทดลอง ทำให้แอปอย่าง Firefox สามารถแสดงหน้าต่าง PiP ได้อย่างถูกต้อง
    แก้ไขปัญหา UI เพื่อปรับปรุง ความคมชัดของข้อความ ในเมนูและป้ายกำกับต่างๆ
    Kicker Application Menu สามารถเลื่อนแนวนอนได้เมื่อมีผลค้นหาจำนวนมาก

    ถึงแม้จะมีการแก้ไขหลายจุด แต่ยังมี 3 บั๊กระดับสูง ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
    ปัญหา "15-minute bugs" เพิ่มขึ้นถึง 23 จุด ซึ่งยังต้องแก้ไขต่อไป

    โดยรวมแล้ว Plasma 6.4 ดูจะเป็นอัปเดตที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน ส่วน Plasma 6.5 กำลังเตรียมตัวกับฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้รอคอย

    https://www.neowin.net/news/kde-brings-wayland-pip-to-plasma-65-adds-finishing-touches-to-64-as-release-nears/
    เรื่องราวของ Plasma 6.4 และอนาคตของ 6.5 ทีม KDE กำลังเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Plasma 6.4 ก่อนเปิดตัววันที่ 17 มิถุนายน 2025 หลังจากที่สัปดาห์ก่อนมีการปรับปรุงเรื่องความเร็วในการโหลด ตอนนี้พวกเขาเดินหน้าต่อด้วยการเพิ่ม Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอย นี่เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ Wayland ทัดเทียมกับ X11 มากขึ้น นอกจากนี้ การปรับปรุงอื่นๆ ได้แก่: ✅ ปรับปรุง Blur effect โดยรวม Background Contrast effect เข้าไป ✅ สามารถจัดเรียง Virtual desktops จาก Pager widget ได้แล้ว ✅ ตั้งค่าการ Invert และ Zoom ถูกย้ายไปที่หน้า Accessibility ✅ ปรับปรุง Breeze application style ให้มีแอนิเมชันในเช็คบ็อกซ์และปุ่มตัวเลือกในแอปที่ใช้ QtQuick ✅ แก้ไขปัญหาผู้ใช้ไม่รู้วิธีหยุดบันทึกหน้าจอใน Spectacle ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ปรับปรุงเสถียรภาพใน Plasma 6.4 ✅ การเพิ่มวิดเจ็ตไปที่ oversized panels ไม่ทำให้ shell ค้างอีกต่อไป ✅ แก้ปัญหา Discover ที่เคยแครชเมื่อแนะนำแอปแทนที่สำหรับ Flatpak ที่ไม่รองรับ ✅ ลากไฟล์ไปวางใน Folder View widget ไม่ทำให้เกิดภาพกระตุก ✅ กล่องบันทึกไฟล์จาก Flatpak browsers อนุญาตให้เปิดหน้า preview แล้ว ✅ การพิมพ์จาก Flatpak GTK apps แสดงขนาดที่ถูกต้อง ฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนาสำหรับ Plasma 6.5 ✅ Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland— ใช้ Wayland PiP protocol เวอร์ชันทดลอง ทำให้แอปอย่าง Firefox สามารถแสดงหน้าต่าง PiP ได้อย่างถูกต้อง ✅ แก้ไขปัญหา UI เพื่อปรับปรุง ความคมชัดของข้อความ ในเมนูและป้ายกำกับต่างๆ ✅ Kicker Application Menu สามารถเลื่อนแนวนอนได้เมื่อมีผลค้นหาจำนวนมาก ‼️ ถึงแม้จะมีการแก้ไขหลายจุด แต่ยังมี 3 บั๊กระดับสูง ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ‼️ ปัญหา "15-minute bugs" เพิ่มขึ้นถึง 23 จุด ซึ่งยังต้องแก้ไขต่อไป โดยรวมแล้ว Plasma 6.4 ดูจะเป็นอัปเดตที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน ส่วน Plasma 6.5 กำลังเตรียมตัวกับฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้รอคอย https://www.neowin.net/news/kde-brings-wayland-pip-to-plasma-65-adds-finishing-touches-to-64-as-release-nears/
    WWW.NEOWIN.NET
    KDE brings Wayland PiP to Plasma 6.5, adds finishing touches to 6.4 as release nears
    In the latest "This Week in Plasma", the KDE team outlined key updates coming to Plasma 6.4 and 6.5, including critical bug fixes and new features like Wayland Picture-in-Picture.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • พร้อมหรือยัง? ที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งปัญญาและความเข้าใจ... ไพ่พรหมญาณไม่ใช่แค่การทำนาย แต่เป็นการเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่กำลังจะมาถึง ทั้งโอกาสและอุปสรรค!

    ไพ่ตัวแทนทั้ง 12 ตำแหน่ง เล่าถึงเรื่องราวที่อาจจะเกิดขึ้นในดวงชะตาของคุณ!

    วาสนา: รู้ชะตาชีวิต... เตรียมรับโชคและระวังภัย!
    o ไพ่วาสนาเผยเส้นทางชีวิตของคุณ! ด้านดี: จะนำทางสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ โอกาสที่คุณไม่ควรพลาด! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงอุปสรรคที่อาจขัดขวาง เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไข!

    ทรัพย์สิน: ร่ำรวยชาญฉลาด... อย่าประมาทในการลงทุน!
    o เปิดประตูสู่ความมั่งคั่ง! ด้านดี: ชี้ช่องทางสู่โอกาสทางการเงินที่น่าสนใจ การลงทุนที่ชาญฉลาด! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การตัดสินใจที่ผิดพลาด เพื่อให้คุณรอบคอบในการบริหารจัดการเงินทอง!

    บ้านช่อง: สวรรค์ในบ้าน... อย่าปล่อยปละละเลยความสัมพันธ์!
    o สร้างความสุขในครอบครัว! ด้านดี: เสริมสร้างความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น ความห่างเหินที่ต้องแก้ไข เพื่อให้คุณรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้!

    ญาติมิตร: เพื่อนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง... อย่าไว้ใจคนผิด!
    o เครือข่ายที่แข็งแกร่ง! ด้านดี: ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนแท้และพันธมิตร! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงคนที่อาจเข้ามาหลอกลวง หรือทำให้คุณเดือดร้อน เพื่อให้คุณเลือกคบคนอย่างระมัดระวัง!

    บุตรบริวาร: บริหารคนอย่างเข้าใจ... อย่าละเลยการดูแล!
    o ทีมงานที่แข็งแกร่ง! ด้านดี: ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากลูกน้อง! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น การขาดความสามัคคี เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลและสร้างความเข้าใจในทีม!

    ศัตรู: รู้เขารู้เรา... อย่าประมาทคู่แข่ง!
    o เตรียมพร้อมรับมืออุปสรรค! ด้านดี: รู้ทันกลอุบายของศัตรู! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงภัยที่มองไม่เห็น การถูกแทงข้างหลัง เพื่อให้คุณป้องกันตัวเองและหลีกเลี่ยงปัญหา!

    คู่ครอง: รักแท้ต้องดูแล... อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์จืดจาง!
    o สร้างรักที่ยั่งยืน! ด้านดี: มีความรัก ความเข้าใจ ความผูกพัน! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ ความห่างเหิน เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลความสัมพันธ์และเติมความรักให้กันเสมอ!

    โรคภัย: ดูแลสุขภาพ... อย่าละเลยสัญญาณเตือน!
    o สุขภาพดีคือสิ่งสำคัญ! ด้านดี: ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงต่อโรคภัย การเจ็บป่วย เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลสุขภาพและป้องกันไว้ก่อน!

    ความสุข: เติมเต็มชีวิต... อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ!
    o ค้นพบความสุขที่แท้จริง! ด้านดี: มีความสงบ ความพึงพอใจ ความรัก! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความทุกข์ ความเศร้า ความผิดหวัง เพื่อให้คุณมองโลกในแง่ดีและหาความสุขจากสิ่งรอบตัว!

    การงาน: สร้างความสุขในที่ทำงาน... อย่าปล่อยให้ความเครียดครอบงำ!
    o รักงานที่ทำ! ด้านดี: พบความสำเร็จและความพึงพอใจในอาชีพ! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเครียด ความกดดัน ความขัดแย้ง เพื่อให้คุณหาทางผ่อนคลายและรักษาสมดุลในชีวิต!

    ลาภยศ: โอกาสมาแล้ว... อย่าปล่อยให้หลุดมือ!
    o ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน! ด้านดี: ได้รับโอกาสในการเติบโต ชื่อเสียง และการยอมรับ! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญ การแข่งขันที่สูงขึ้น เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ!

    ไพ่สรุป: ภาพรวมชีวิต... ทั้งดีและร้าย!
    o ไขรหัสชีวิตของคุณ! ไพ่สรุปจะรวบรวมทุกข้อมูล! ด้านดี: ชี้ให้เห็นโอกาสและความสำเร็จที่รออยู่! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คุณวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม!

    พร้อมหรือยังที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ชีวิต? มาดูดวงกับเรา! เราพร้อมให้คำปรึกษาและนำทางคุณไปสู่ความสำเร็จและความสุขในทุกๆ ด้านของชีวิต! ติดต่อเราเลย! ส่งข้อความมาได้เลย!
    พร้อมหรือยัง? ที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งปัญญาและความเข้าใจ... ไพ่พรหมญาณไม่ใช่แค่การทำนาย แต่เป็นการเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ 🔑 เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่กำลังจะมาถึง ทั้งโอกาสและอุปสรรค! 🎁 ไพ่ตัวแทนทั้ง 12 ตำแหน่ง เล่าถึงเรื่องราวที่อาจจะเกิดขึ้นในดวงชะตาของคุณ! 🔮 วาสนา: รู้ชะตาชีวิต... เตรียมรับโชคและระวังภัย! 🍀 o ไพ่วาสนาเผยเส้นทางชีวิตของคุณ! ด้านดี: จะนำทางสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ 🏆 โอกาสที่คุณไม่ควรพลาด! ✨ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงอุปสรรคที่อาจขัดขวาง เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไข! 🚧 ทรัพย์สิน: ร่ำรวยชาญฉลาด... อย่าประมาทในการลงทุน! 💰 o เปิดประตูสู่ความมั่งคั่ง! 🗝️ ด้านดี: ชี้ช่องทางสู่โอกาสทางการเงินที่น่าสนใจ การลงทุนที่ชาญฉลาด! 📈 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การตัดสินใจที่ผิดพลาด เพื่อให้คุณรอบคอบในการบริหารจัดการเงินทอง! ⚠️ บ้านช่อง: สวรรค์ในบ้าน... อย่าปล่อยปละละเลยความสัมพันธ์! 🏡 o สร้างความสุขในครอบครัว! 🥰 ด้านดี: เสริมสร้างความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น! ❤️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น ความห่างเหินที่ต้องแก้ไข เพื่อให้คุณรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้! 🫂 ญาติมิตร: เพื่อนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง... อย่าไว้ใจคนผิด! 🤝 o เครือข่ายที่แข็งแกร่ง! 💪 ด้านดี: ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนแท้และพันธมิตร! 🤗 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงคนที่อาจเข้ามาหลอกลวง หรือทำให้คุณเดือดร้อน เพื่อให้คุณเลือกคบคนอย่างระมัดระวัง! 🙅‍♀️ บุตรบริวาร: บริหารคนอย่างเข้าใจ... อย่าละเลยการดูแล! 👨‍👩‍👧‍👦 o ทีมงานที่แข็งแกร่ง! 🧑‍🤝‍🧑 ด้านดี: ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากลูกน้อง! 🙌 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น การขาดความสามัคคี เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลและสร้างความเข้าใจในทีม! 🗣️ ศัตรู: รู้เขารู้เรา... อย่าประมาทคู่แข่ง! 😈 o เตรียมพร้อมรับมืออุปสรรค! 🛡️ ด้านดี: รู้ทันกลอุบายของศัตรู! 🕵️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงภัยที่มองไม่เห็น การถูกแทงข้างหลัง เพื่อให้คุณป้องกันตัวเองและหลีกเลี่ยงปัญหา! 🔪 คู่ครอง: รักแท้ต้องดูแล... อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์จืดจาง! 💖 o สร้างรักที่ยั่งยืน! ♾️ ด้านดี: มีความรัก ความเข้าใจ ความผูกพัน! 🥰 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ ความห่างเหิน เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลความสัมพันธ์และเติมความรักให้กันเสมอ! 💔 โรคภัย: ดูแลสุขภาพ... อย่าละเลยสัญญาณเตือน! 🩺 o สุขภาพดีคือสิ่งสำคัญ! 💪 ด้านดี: ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส! ☀️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงต่อโรคภัย การเจ็บป่วย เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลสุขภาพและป้องกันไว้ก่อน! 🤕 ความสุข: เติมเต็มชีวิต... อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ! 😄 o ค้นพบความสุขที่แท้จริง! 😇 ด้านดี: มีความสงบ ความพึงพอใจ ความรัก! 💕 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความทุกข์ ความเศร้า ความผิดหวัง เพื่อให้คุณมองโลกในแง่ดีและหาความสุขจากสิ่งรอบตัว! 😔 การงาน: สร้างความสุขในที่ทำงาน... อย่าปล่อยให้ความเครียดครอบงำ! 🏢 o รักงานที่ทำ! 🥰 ด้านดี: พบความสำเร็จและความพึงพอใจในอาชีพ! 🏆 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเครียด ความกดดัน ความขัดแย้ง เพื่อให้คุณหาทางผ่อนคลายและรักษาสมดุลในชีวิต! 😩 ลาภยศ: โอกาสมาแล้ว... อย่าปล่อยให้หลุดมือ! 👑 o ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน! 🚀 ด้านดี: ได้รับโอกาสในการเติบโต ชื่อเสียง และการยอมรับ! 👍 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญ การแข่งขันที่สูงขึ้น เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ! 🏋️ ไพ่สรุป: ภาพรวมชีวิต... ทั้งดีและร้าย! 🖼️ o ไขรหัสชีวิตของคุณ! 🧩 ไพ่สรุปจะรวบรวมทุกข้อมูล! ด้านดี: ชี้ให้เห็นโอกาสและความสำเร็จที่รออยู่! 🌟 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คุณวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม! 💡 🌟 พร้อมหรือยังที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ชีวิต? มาดูดวงกับเรา! 🔮 เราพร้อมให้คำปรึกษาและนำทางคุณไปสู่ความสำเร็จและความสุขในทุกๆ ด้านของชีวิต! ✨ ติดต่อเราเลย! ส่งข้อความมาได้เลย! ✉️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 385 มุมมอง 0 รีวิว
  • GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี
    Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ

    Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน

    G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    ข้อมูลจากข่าว
    - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน
    - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley
    - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น
    - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป
    - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ
    - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก
    - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100
    - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU
    การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้

    https://www.techspot.com/news/108122-china-first-6nm-gpu-boots-up-targets-performance.html
    🎮 GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 ✅ ข้อมูลจากข่าว - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100 - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้ https://www.techspot.com/news/108122-china-first-6nm-gpu-boots-up-targets-performance.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    China's first 6nm GPU boots up, targets performance parity with RTX 4060
    Lisuan was founded in 2021 by a crew of ex-Silicon Valley GPU veterans and is a part of the new wave of Chinese chipmakers like Moore Threads...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิ๊กคลีนนิ่งวัดไร่ขิง แค่ล้างวัดอาจไม่พอ

    การปรับภูมิทัศน์จัดระเบียบวัตไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ของพระราชวชิรสุตาภรณ์ (หลวงพ่อแก้ว) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และเจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เมื่อวันที่ 30 พ.ค. มองผิวเผินอาจถูกมองว่าสร้างภาพ หลังอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า เจ้าอาวาสคนก่อนหน้าถูกดำเนินคดีกรณียักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์มากกว่า 300 ล้านบาท ทำเอาพุทธศาสนิกชนเสื่อมศรัทธา คนเข้ามาไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิงน้อยลง แต่แท้ที่จริงแล้วอาจเป็นการรื้อโครงสร้างผลประโยชน์ของวัดครั้งใหญ่

    อาทิ ตู้รับบริจาคภายในวัดที่มีถึง 185 ตู้ ถูกยกออกไปเก็บ เหลือเฉพาะตู้รับบริจาคที่จำเป็น จุดจำหน่ายธูปเทียนดอกไม้ก็จัดให้อยู่ในที่เดียวกันด้านหน้าพระอุโบสถ ส่วนร้านจำหน่ายวัตถุมงคลด้านหลังให้ย้ายไปอยู่ด้านหน้า และรื้อโคมไฟที่แขวนบริเวณหลังคาหน้าพระอุโบสถถึงแม่น้ำนครชัยศรีออกทั้งหมด ส่วนร้านกาแฟของนางพชรพร สีเลี้ยง หรือหมอเตย และ พ.จ.อ.ฉัตรชัย สีเลี้ยง คนสนิทนายแย้มปิดกิจการแล้ว เหลือเพียงร้านเครื่องดื่มและของฝากที่เป็นสวัสดิการของวัด

    พระราชวชิรสุตาภรณ์เปิดเผยว่า การทำความสะอาดวัดครั้งนี้เพื่อให้ดูสะอาดโปร่งใส รองรับคนที่มากราบไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นการบูรณาการครั้งใหญ่ สิ่งที่รกหูรกตาก็ให้นำออกไป เพื่อให้เกิดความศรัทธามากราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่ตัวบุคคล ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ซึ่งจะทำให้โปร่งใสที่สุด สิ่งไหนที่ไม่ดีต้องแก้ไข สาธุชนจะได้เชื่อมั่น

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวัดไร่ขิงโปร่งใสจริงหรือไม่ คือการประมูลร้านค้าในงานฉลองเจดีย์วัดไร่ขิง 15 ส.ค.2568 และการประมูลร้านค้าในงานประจำปีวัดไร่ขิง 17 ก.พ.2569 ที่ผ่านมานอกจากจะแข่งกันประมูลสูงถึง 2.5 ล้านบาท ทำราคาสินค้าภายในงานแพงขึ้น ยอดขายไม่ดีแต่ก็คิดว่าทำบุญให้วัดแล้ว ผู้ค้าต้องจ่ายเงินสดเข้ากรรมการวัดภายในวันประมูล ไม่รับเงินโอน แล้วเอาไปให้นายแย้ม คิดเป็นเงิน 17-18 ล้านบาทจะทำอย่างไร นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นพุทธพาณิชย์ไม่ใช่กิจของสงฆ์ อย่างการนำศิลปินแห่งชาติมาเป็นธุระเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่วัดจะแก้ไขอย่างไร

    ก่อนหน้านี้นายวิเชียร วรจีน โฆษกวัดไร่ขิงให้สัมภาษณ์ช่อง 9 ระบุว่าสมัยพระอุบาลีฯ เป็นเจ้าอาวาสมีเงิน 200-300 ล้านบาท แต่เมื่อนายแย้มเป็นเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่วัดคนเก่าไม่ให้อยู่สักคนเดียว ลดขั้นตอนการเบิกเงินทั้งหมดเป็นการใช้ตามอำเภอใจ และเก็บตู้บริจาคเงินส่วนใหญ่เข้ากุฎิ นอกจากการเงินของวัดจะร่อยหรอแล้วยังมีหนี้สินอีกด้วย

    #Newskit

    หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 4 มิ.ย. 2568
    บิ๊กคลีนนิ่งวัดไร่ขิง แค่ล้างวัดอาจไม่พอ การปรับภูมิทัศน์จัดระเบียบวัตไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ของพระราชวชิรสุตาภรณ์ (หลวงพ่อแก้ว) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และเจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เมื่อวันที่ 30 พ.ค. มองผิวเผินอาจถูกมองว่าสร้างภาพ หลังอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า เจ้าอาวาสคนก่อนหน้าถูกดำเนินคดีกรณียักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์มากกว่า 300 ล้านบาท ทำเอาพุทธศาสนิกชนเสื่อมศรัทธา คนเข้ามาไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิงน้อยลง แต่แท้ที่จริงแล้วอาจเป็นการรื้อโครงสร้างผลประโยชน์ของวัดครั้งใหญ่ อาทิ ตู้รับบริจาคภายในวัดที่มีถึง 185 ตู้ ถูกยกออกไปเก็บ เหลือเฉพาะตู้รับบริจาคที่จำเป็น จุดจำหน่ายธูปเทียนดอกไม้ก็จัดให้อยู่ในที่เดียวกันด้านหน้าพระอุโบสถ ส่วนร้านจำหน่ายวัตถุมงคลด้านหลังให้ย้ายไปอยู่ด้านหน้า และรื้อโคมไฟที่แขวนบริเวณหลังคาหน้าพระอุโบสถถึงแม่น้ำนครชัยศรีออกทั้งหมด ส่วนร้านกาแฟของนางพชรพร สีเลี้ยง หรือหมอเตย และ พ.จ.อ.ฉัตรชัย สีเลี้ยง คนสนิทนายแย้มปิดกิจการแล้ว เหลือเพียงร้านเครื่องดื่มและของฝากที่เป็นสวัสดิการของวัด พระราชวชิรสุตาภรณ์เปิดเผยว่า การทำความสะอาดวัดครั้งนี้เพื่อให้ดูสะอาดโปร่งใส รองรับคนที่มากราบไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นการบูรณาการครั้งใหญ่ สิ่งที่รกหูรกตาก็ให้นำออกไป เพื่อให้เกิดความศรัทธามากราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่ตัวบุคคล ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ซึ่งจะทำให้โปร่งใสที่สุด สิ่งไหนที่ไม่ดีต้องแก้ไข สาธุชนจะได้เชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวัดไร่ขิงโปร่งใสจริงหรือไม่ คือการประมูลร้านค้าในงานฉลองเจดีย์วัดไร่ขิง 15 ส.ค.2568 และการประมูลร้านค้าในงานประจำปีวัดไร่ขิง 17 ก.พ.2569 ที่ผ่านมานอกจากจะแข่งกันประมูลสูงถึง 2.5 ล้านบาท ทำราคาสินค้าภายในงานแพงขึ้น ยอดขายไม่ดีแต่ก็คิดว่าทำบุญให้วัดแล้ว ผู้ค้าต้องจ่ายเงินสดเข้ากรรมการวัดภายในวันประมูล ไม่รับเงินโอน แล้วเอาไปให้นายแย้ม คิดเป็นเงิน 17-18 ล้านบาทจะทำอย่างไร นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นพุทธพาณิชย์ไม่ใช่กิจของสงฆ์ อย่างการนำศิลปินแห่งชาติมาเป็นธุระเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่วัดจะแก้ไขอย่างไร ก่อนหน้านี้นายวิเชียร วรจีน โฆษกวัดไร่ขิงให้สัมภาษณ์ช่อง 9 ระบุว่าสมัยพระอุบาลีฯ เป็นเจ้าอาวาสมีเงิน 200-300 ล้านบาท แต่เมื่อนายแย้มเป็นเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่วัดคนเก่าไม่ให้อยู่สักคนเดียว ลดขั้นตอนการเบิกเงินทั้งหมดเป็นการใช้ตามอำเภอใจ และเก็บตู้บริจาคเงินส่วนใหญ่เข้ากุฎิ นอกจากการเงินของวัดจะร่อยหรอแล้วยังมีหนี้สินอีกด้วย #Newskit หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 4 มิ.ย. 2568
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 604 มุมมอง 0 รีวิว
  • GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี
    Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ

    เรื่องน่าสนใจที่เสริมเพิ่มเติม
    Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน

    G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน
    ข้อมูลจากข่าว
    - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน
    - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley
    - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น
    - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป
    - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ
    - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก
    - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100
    - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU
    การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้

    จีนกำลังเดินหน้าสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี แต่ต้องจับตาดูว่า G100 จะสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม GPU ได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/chinas-first-6nm-domestic-gpu-with-purported-rtx-4060-like-performance-has-powered-on
    🎮 GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ 🔍 เรื่องน่าสนใจที่เสริมเพิ่มเติม Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 📌 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน ✅ ข้อมูลจากข่าว - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100 - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้ จีนกำลังเดินหน้าสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี แต่ต้องจับตาดูว่า G100 จะสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม GPU ได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/chinas-first-6nm-domestic-gpu-with-purported-rtx-4060-like-performance-has-powered-on
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • Amazon ปรับโครงสร้างงานวิศวกรรมซอฟต์แวร์ให้เป็นสายพานการผลิตด้วย AI

    Amazon กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของวิศวกรซอฟต์แวร์ โดยใช้ AI เป็นศูนย์กลางของกระบวนการพัฒนา ส่งผลให้ ทีมงานลดลงครึ่งหนึ่ง แต่ยังคงต้องผลิตโค้ดในปริมาณเท่าเดิม ซึ่งทำให้วิศวกรหลายคนรู้สึกว่าการเขียนโปรแกรม กลายเป็นงานที่คล้ายกับสายพานการผลิตมากขึ้น

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Amazon
    Amazon ใช้ AI เช่น Microsoft Copilot และ Amazon Q เพื่อเร่งกระบวนการพัฒนา
    - ลดเวลาในการอัปเกรดแอปพลิเคชันจาก 50 วันเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง

    ทีมพัฒนาเล็กลง แต่ต้องผลิตโค้ดในปริมาณเท่าเดิม
    - วิศวกรบางคนระบุว่า งานที่เคยใช้เวลาหลายสัปดาห์ ตอนนี้ต้องเสร็จภายในไม่กี่วัน

    AI ช่วยให้โค้ดรีวิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - 80% ของโค้ดที่ถูกตรวจสอบโดย AI สามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องแก้ไข

    Amazon เชื่อว่าการใช้ AI จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนและลดต้นทุน
    - CEO Andy Jassy ระบุว่า AI ช่วยให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 260 ล้านดอลลาร์ต่อปี

    บริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Google และ Shopify กำลังใช้ AI ในลักษณะเดียวกัน
    - Google รายงานว่า 30% ของโค้ดที่พัฒนาในบริษัทมาจาก AI

    https://www.techspot.com/news/108067-amazon-engineers-ai-has-turned-coding-assembly-line.html
    Amazon ปรับโครงสร้างงานวิศวกรรมซอฟต์แวร์ให้เป็นสายพานการผลิตด้วย AI Amazon กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของวิศวกรซอฟต์แวร์ โดยใช้ AI เป็นศูนย์กลางของกระบวนการพัฒนา ส่งผลให้ ทีมงานลดลงครึ่งหนึ่ง แต่ยังคงต้องผลิตโค้ดในปริมาณเท่าเดิม ซึ่งทำให้วิศวกรหลายคนรู้สึกว่าการเขียนโปรแกรม กลายเป็นงานที่คล้ายกับสายพานการผลิตมากขึ้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Amazon ✅ Amazon ใช้ AI เช่น Microsoft Copilot และ Amazon Q เพื่อเร่งกระบวนการพัฒนา - ลดเวลาในการอัปเกรดแอปพลิเคชันจาก 50 วันเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง ✅ ทีมพัฒนาเล็กลง แต่ต้องผลิตโค้ดในปริมาณเท่าเดิม - วิศวกรบางคนระบุว่า งานที่เคยใช้เวลาหลายสัปดาห์ ตอนนี้ต้องเสร็จภายในไม่กี่วัน ✅ AI ช่วยให้โค้ดรีวิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น - 80% ของโค้ดที่ถูกตรวจสอบโดย AI สามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องแก้ไข ✅ Amazon เชื่อว่าการใช้ AI จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนและลดต้นทุน - CEO Andy Jassy ระบุว่า AI ช่วยให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 260 ล้านดอลลาร์ต่อปี ✅ บริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Google และ Shopify กำลังใช้ AI ในลักษณะเดียวกัน - Google รายงานว่า 30% ของโค้ดที่พัฒนาในบริษัทมาจาก AI https://www.techspot.com/news/108067-amazon-engineers-ai-has-turned-coding-assembly-line.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    "Like an assembly line": Amazon engineers feel squeezed by AI-driven workflow
    Teams that once counted a dozen developers have been cut in half, yet the volume of code they're expected to deliver remains unchanged – a shift that...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • CISA เตือนภัย! การโจมตี Commvault อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท SaaS ทั่วโลก

    หน่วยงาน Cybersecurity and Infrastructure Security Agency (CISA) ของสหรัฐฯ ออกคำเตือนเกี่ยวกับการโจมตี Commvault ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการ SaaS จำนวนมาก โดยพบว่า แฮกเกอร์ระดับรัฐกำลังใช้ช่องโหว่ Zero-Day เพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญของลูกค้า

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการโจมตี Commvault
    Commvault เป็นแพลตฟอร์ม SaaS ด้านการปกป้องข้อมูลที่ให้บริการสำรองข้อมูลสำหรับ Microsoft 365, VM และฐานข้อมูล
    - ระบบนี้ โฮสต์บน Microsoft Azure และใช้สำหรับการกู้คืนข้อมูล

    CISA ระบุว่าผู้โจมตีอาจเข้าถึงข้อมูลลับของลูกค้า Commvault ผ่านช่องโหว่ Zero-Day
    - ช่องโหว่นี้ ถูกติดตามในชื่อ CVE-2025-3928 และส่งผลกระทบต่อ Commvault Web Server

    Microsoft แจ้งเตือน Commvault ว่าการโจมตีนี้เป็นฝีมือของแฮกเกอร์ระดับรัฐ
    - พบว่ามี ลูกค้าจำนวนหนึ่งถูกโจมตีผ่านช่องโหว่นี้

    CISA เพิ่มช่องโหว่นี้ลงในรายการช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตี (KEV) และกำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องแก้ไขภายใน 3 สัปดาห์
    - มีการออกแพตช์แก้ไขใน เวอร์ชัน 11.36.46, 11.32.89, 11.28.141 และ 11.20.217 สำหรับ Windows และ Linux

    CISA เชื่อว่าการโจมตีนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญที่ใหญ่ขึ้นซึ่งมุ่งเป้าไปที่บริษัท SaaS หลายแห่ง
    - โดยเฉพาะ ระบบคลาวด์ที่ใช้การตั้งค่าเริ่มต้นและมีสิทธิ์ระดับสูง

    CISA แนะนำให้บริษัท SaaS ตรวจสอบบันทึก Entra, Microsoft Logs และรายการ Application Registrations
    - เพื่อ ลดความเสี่ยงจากการโจมตี

    https://www.techradar.com/pro/security/commvault-attack-may-put-saas-companies-across-the-world-at-risk-cisa-warns
    CISA เตือนภัย! การโจมตี Commvault อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท SaaS ทั่วโลก หน่วยงาน Cybersecurity and Infrastructure Security Agency (CISA) ของสหรัฐฯ ออกคำเตือนเกี่ยวกับการโจมตี Commvault ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการ SaaS จำนวนมาก โดยพบว่า แฮกเกอร์ระดับรัฐกำลังใช้ช่องโหว่ Zero-Day เพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญของลูกค้า 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการโจมตี Commvault ✅ Commvault เป็นแพลตฟอร์ม SaaS ด้านการปกป้องข้อมูลที่ให้บริการสำรองข้อมูลสำหรับ Microsoft 365, VM และฐานข้อมูล - ระบบนี้ โฮสต์บน Microsoft Azure และใช้สำหรับการกู้คืนข้อมูล ✅ CISA ระบุว่าผู้โจมตีอาจเข้าถึงข้อมูลลับของลูกค้า Commvault ผ่านช่องโหว่ Zero-Day - ช่องโหว่นี้ ถูกติดตามในชื่อ CVE-2025-3928 และส่งผลกระทบต่อ Commvault Web Server ✅ Microsoft แจ้งเตือน Commvault ว่าการโจมตีนี้เป็นฝีมือของแฮกเกอร์ระดับรัฐ - พบว่ามี ลูกค้าจำนวนหนึ่งถูกโจมตีผ่านช่องโหว่นี้ ✅ CISA เพิ่มช่องโหว่นี้ลงในรายการช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตี (KEV) และกำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องแก้ไขภายใน 3 สัปดาห์ - มีการออกแพตช์แก้ไขใน เวอร์ชัน 11.36.46, 11.32.89, 11.28.141 และ 11.20.217 สำหรับ Windows และ Linux ✅ CISA เชื่อว่าการโจมตีนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญที่ใหญ่ขึ้นซึ่งมุ่งเป้าไปที่บริษัท SaaS หลายแห่ง - โดยเฉพาะ ระบบคลาวด์ที่ใช้การตั้งค่าเริ่มต้นและมีสิทธิ์ระดับสูง ✅ CISA แนะนำให้บริษัท SaaS ตรวจสอบบันทึก Entra, Microsoft Logs และรายการ Application Registrations - เพื่อ ลดความเสี่ยงจากการโจมตี https://www.techradar.com/pro/security/commvault-attack-may-put-saas-companies-across-the-world-at-risk-cisa-warns
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเปิดตัวกลุ่มดาวเทียมคอมพิวเตอร์วงโคจรแรกของโลก เร่งก้าวสู่การครองอำนาจ AI ในอวกาศ

    จีน ประกาศเปิดตัวกลุ่มดาวเทียมคอมพิวเตอร์วงโคจรแรกของโลก ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง Guoxing Aerospace และ Zhejiang Lab โดยมีเป้าหมาย ประมวลผลข้อมูลในอวกาศโดยตรง แทนที่จะพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานบนโลก

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลุ่มดาวเทียมคอมพิวเตอร์วงโคจรของจีน
    จีนส่งดาวเทียม 12 ดวงขึ้นสู่วงโคจรเพื่อสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์อวกาศ
    - เป็น ก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการประมวลผลข้อมูลในอวกาศ

    โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Guoxing Aerospace และ Zhejiang Lab
    - มุ่งเน้น การพัฒนาเทคโนโลยีประมวลผลข้อมูลแบบกระจายศูนย์ในอวกาศ

    ระบบนี้ช่วยลดการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานบนโลก
    - ทำให้ สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้นและลดความล่าช้าในการส่งข้อมูล

    จีนมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้าน AI และการประมวลผลข้อมูลในอวกาศ
    - อาจส่งผลให้ เกิดการแข่งขันกับสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ในด้านเทคโนโลยีอวกาศ

    นักวิจัยระบุว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังมีอุปสรรคที่ต้องแก้ไข
    - เช่น ความท้าทายด้านพลังงานและการบำรุงรักษาระบบในอวกาศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/did-china-just-take-the-lead-in-race-for-space-based-ai-computing-dominance
    จีนเปิดตัวกลุ่มดาวเทียมคอมพิวเตอร์วงโคจรแรกของโลก เร่งก้าวสู่การครองอำนาจ AI ในอวกาศ จีน ประกาศเปิดตัวกลุ่มดาวเทียมคอมพิวเตอร์วงโคจรแรกของโลก ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง Guoxing Aerospace และ Zhejiang Lab โดยมีเป้าหมาย ประมวลผลข้อมูลในอวกาศโดยตรง แทนที่จะพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานบนโลก 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลุ่มดาวเทียมคอมพิวเตอร์วงโคจรของจีน ✅ จีนส่งดาวเทียม 12 ดวงขึ้นสู่วงโคจรเพื่อสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์อวกาศ - เป็น ก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการประมวลผลข้อมูลในอวกาศ ✅ โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Guoxing Aerospace และ Zhejiang Lab - มุ่งเน้น การพัฒนาเทคโนโลยีประมวลผลข้อมูลแบบกระจายศูนย์ในอวกาศ ✅ ระบบนี้ช่วยลดการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานบนโลก - ทำให้ สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้นและลดความล่าช้าในการส่งข้อมูล ✅ จีนมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้าน AI และการประมวลผลข้อมูลในอวกาศ - อาจส่งผลให้ เกิดการแข่งขันกับสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ในด้านเทคโนโลยีอวกาศ ✅ นักวิจัยระบุว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังมีอุปสรรคที่ต้องแก้ไข - เช่น ความท้าทายด้านพลังงานและการบำรุงรักษาระบบในอวกาศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/did-china-just-take-the-lead-in-race-for-space-based-ai-computing-dominance
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Did China just take the lead in race for space-based AI computing dominance?
    Launch of world's first satellite computing constellation gives China big head start in orbital data processing, despite major hurdles ahead, experts say.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Planner เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ "Status Reports" ช่วยลดเวลาสร้างรายงานโครงการ

    Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Planner ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานสถานะโครงการได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ Project Manager agent ซึ่งสามารถ สังเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้า, เป้าหมาย, ความเสี่ยง และขั้นตอนถัดไปได้ในคลิกเดียว

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับฟีเจอร์ Status Reports
    ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานสถานะโครงการได้ภายในไม่กี่นาที
    - ระบบ จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้า, เป้าหมาย, ความเสี่ยง และขั้นตอนถัดไปโดยอัตโนมัติ

    สามารถเลือกช่วงเวลาที่ต้องการรายงานได้
    - ผู้ใช้ สามารถกำหนดระยะเวลาที่ต้องการให้รายงานครอบคลุมได้เอง

    รองรับการปรับแต่งเนื้อหาและโทนของรายงานให้เหมาะกับผู้รับ
    - สามารถ เน้นความสำเร็จ, ระบุปัญหาที่ต้องแก้ไข และให้ภาพรวมของโครงการได้อย่างชัดเจน

    สามารถแชร์รายงานผ่าน Microsoft Loop, Outlook และ SharePoint ได้
    - ช่วยให้ การสื่อสารภายในทีมและองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้งานใน Project Manager agent ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
    - ผู้ใช้ ต้องมี Microsoft 365 Copilot และ Microsoft Loop license เพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้

    https://www.neowin.net/news/microsoft-planner-to-get-a-new-feature-to-save-hours-of-your-time/
    Microsoft Planner เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ "Status Reports" ช่วยลดเวลาสร้างรายงานโครงการ Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Planner ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานสถานะโครงการได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ Project Manager agent ซึ่งสามารถ สังเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้า, เป้าหมาย, ความเสี่ยง และขั้นตอนถัดไปได้ในคลิกเดียว 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับฟีเจอร์ Status Reports ✅ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานสถานะโครงการได้ภายในไม่กี่นาที - ระบบ จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้า, เป้าหมาย, ความเสี่ยง และขั้นตอนถัดไปโดยอัตโนมัติ ✅ สามารถเลือกช่วงเวลาที่ต้องการรายงานได้ - ผู้ใช้ สามารถกำหนดระยะเวลาที่ต้องการให้รายงานครอบคลุมได้เอง ✅ รองรับการปรับแต่งเนื้อหาและโทนของรายงานให้เหมาะกับผู้รับ - สามารถ เน้นความสำเร็จ, ระบุปัญหาที่ต้องแก้ไข และให้ภาพรวมของโครงการได้อย่างชัดเจน ✅ สามารถแชร์รายงานผ่าน Microsoft Loop, Outlook และ SharePoint ได้ - ช่วยให้ การสื่อสารภายในทีมและองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้งานใน Project Manager agent ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า - ผู้ใช้ ต้องมี Microsoft 365 Copilot และ Microsoft Loop license เพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้ https://www.neowin.net/news/microsoft-planner-to-get-a-new-feature-to-save-hours-of-your-time/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft Planner to get a new feature to save hours of your time
    Microsoft Planner is set to receive a new feature that will save hours of your time. Read on to find out more about it and how to use it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ไอติม' โยง 11 สารพัดปัญหาโทษต้นตอมาจากรัฐธรรมนูญ 2560 ต้องแก้ไข! คือกุญแจดอกสำคัญ
    https://www.thai-tai.tv/news/18839/
    'ไอติม' โยง 11 สารพัดปัญหาโทษต้นตอมาจากรัฐธรรมนูญ 2560 ต้องแก้ไข! คือกุญแจดอกสำคัญ https://www.thai-tai.tv/news/18839/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ปล่อยอัปเดต KB5061258 สำหรับ Windows 11 LTSC 2024

    Microsoft ได้เปิดตัว KB5061258 ซึ่งเป็น อัปเดตแบบ Out-of-band (OOB) สำหรับ Windows 11 LTSC 2024 โดยอัปเดตนี้มาพร้อมกับ การปรับปรุงด้านความปลอดภัยและคุณภาพของระบบ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับอัปเดต KB5061258
    เป็นอัปเดต Out-of-band (OOB) ที่ไม่ใช่ Patch Tuesday หรือ C-release
    - Microsoft ออกอัปเดตนี้แยกจากรอบปกติ เพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญ

    มาพร้อมกับการปรับปรุงด้านความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ
    - Microsoft ไม่ได้ระบุรายละเอียดของช่องโหว่ที่ได้รับการแก้ไข

    อัปเดตนี้จะถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติผ่าน Windows Update และ Microsoft Update
    - ผู้ใช้ ไม่จำเป็นต้องดำเนินการติดตั้งด้วยตนเอง

    เป็นอัปเดตแรกที่ใช้ระบบ Hotpatch สำหรับ Windows 11 24H2
    - ช่วยให้ สามารถติดตั้งแพตช์โดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง

    Microsoft ไม่ได้รายงานปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอัปเดตนี้
    - ไม่มี บั๊กหรือข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติม

    Microsoft ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ได้รับการแก้ไข
    - ผู้ใช้ ควรติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจาก Microsoft Security Response Center

    อัปเดตนี้อาจมีผลกระทบต่อระบบที่ใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง
    - ควร ตรวจสอบความเข้ากันได้ก่อนติดตั้งในระบบองค์กร

    https://www.neowin.net/news/kb5061258-build-261003983-windows-11-ltsc-2024-out-of-band-hotpatch-update-released/
    Microsoft ปล่อยอัปเดต KB5061258 สำหรับ Windows 11 LTSC 2024 Microsoft ได้เปิดตัว KB5061258 ซึ่งเป็น อัปเดตแบบ Out-of-band (OOB) สำหรับ Windows 11 LTSC 2024 โดยอัปเดตนี้มาพร้อมกับ การปรับปรุงด้านความปลอดภัยและคุณภาพของระบบ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับอัปเดต KB5061258 ✅ เป็นอัปเดต Out-of-band (OOB) ที่ไม่ใช่ Patch Tuesday หรือ C-release - Microsoft ออกอัปเดตนี้แยกจากรอบปกติ เพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญ ✅ มาพร้อมกับการปรับปรุงด้านความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ - Microsoft ไม่ได้ระบุรายละเอียดของช่องโหว่ที่ได้รับการแก้ไข ✅ อัปเดตนี้จะถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติผ่าน Windows Update และ Microsoft Update - ผู้ใช้ ไม่จำเป็นต้องดำเนินการติดตั้งด้วยตนเอง ✅ เป็นอัปเดตแรกที่ใช้ระบบ Hotpatch สำหรับ Windows 11 24H2 - ช่วยให้ สามารถติดตั้งแพตช์โดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง ✅ Microsoft ไม่ได้รายงานปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอัปเดตนี้ - ไม่มี บั๊กหรือข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติม ‼️ Microsoft ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ได้รับการแก้ไข - ผู้ใช้ ควรติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจาก Microsoft Security Response Center ‼️ อัปเดตนี้อาจมีผลกระทบต่อระบบที่ใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง - ควร ตรวจสอบความเข้ากันได้ก่อนติดตั้งในระบบองค์กร https://www.neowin.net/news/kb5061258-build-261003983-windows-11-ltsc-2024-out-of-band-hotpatch-update-released/
    WWW.NEOWIN.NET
    KB5061258 (Build 26100.3983) Windows 11 LTSC 2024 Out-of-band hotpatch update released
    Microsoft has released a new Out-of-band hotpatch update for Windows 11 LTSC 2024 under KB5061258 (Build 26100.3983).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • หากทุกคนบนโลกเกิดมาพร้อมกับต้นไม้ที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่ต้องดูแลตลอดชีวิต สิ่งที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้มีหลายด้าน ทั้งในแง่บวกและแง่ที่ต้องแก้ไข:

    ### **ผลกระทบเชิงบวก:**
    1. **สิ่งแวดล้อมดีขึ้นอย่างรวดเร็ว**
    - ประชากรโลก 8 พันล้านคน = ต้นไม้เพิ่มขึ้น 8 พันล้านต้น (หรือมากกว่านั้นหากคนปลูกเพิ่ม)
    - ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะโลกร้อน ปรับสมดุลระบบนิเวศ

    2. **การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ**
    - คนจะตระหนักถึงการพึ่งพาต้นไม้มากขึ้น เช่น รู้จักวงจรชีวิตพืช ผลกระทบจากการตัดไม้ทำลาย
    - อาจเกิดวัฒนธรรมใหม่ที่เคารพธรรมชาติ เช่น การจัดพิธีกรรมเมื่อต้นไม้ของตนตาย

    3. **เศรษฐกิจใหม่ที่เกิดจาก "ตลาดต้นไม้ส่วนตัว"**
    - ต้นไม้กลายเป็นสินทรัพย์ซื้อขาย/มรดกได้ (เช่น ต้นโอ๊กอายุ 100 ปีอาจมีมูลค่าสูง)
    - เกิดอาชีพใหม่ เช่น "ที่ปรึกษาดูแลต้นไม้ส่วนตัว" "นักออกแบบสวนส่วนบุคคล"

    4. **นวัตกรรมเพื่อการดูแลต้นไม้**
    - เทคโนโลยีติดตามสุขภาพต้นไม้ (เซ็นเซอร์วัดดิน แอป提醒การรดน้ำ)
    - การพัฒนาพันธุ์ต้นไม้ที่ทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆ

    ### **ความท้าทายและปัญหาที่อาจเกิด:**
    1. **ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากร**
    - คนในเมืองอาจไม่มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ → เกิดตลาดเช่าพื้นที่ปลูก
    - ต้นไม้หายากบางชนิดอาจกลายเป็นสัญลักษณ์สถานะทางสังคม

    2. **ข้อขัดแย้งทางกฎหมาย**
    - หากต้นไม้ของใครโตเกินไปและสร้างความเสียหายให้เพื่อนบ้าน (เช่น รากชอนไช)
    - กรณีต้นไม้ตายก่อนเจ้าของ: จะมีบทลงโทษหรือไม่?

    3. **ผลกระทบต่อระบบนิเวศเดิม**
    - หากทุกคนปลูกต้นไม้ชนิดเดียวกัน (เช่น ไม้เศรษฐกิจ) อาจลดความหลากหลายทางชีวภาพ
    - สปีชีส์พันธุ์รุกรานอาจแพร่กระจายหากไม่ควบคุม

    4. **ความเครียดจากการดูแล**
    - บางคนอาจรู้สึกว่าต้นไม้เป็น "ภาระ" ตลอดชีวิต
    - อาจเกิดอาชญากรรมเกี่ยวกับต้นไม้ (เช่น ขโมยต้นไม้เก่าแก่ ลอบทำลายต้นไม้ของศัตรู)

    ### **แนวโน้มทางสังคมที่อาจตามมา:**
    - **การเมืองสีเขียวเข้มข้นขึ้น:** พรรคการเมืองอาจเสนอนโยบายเช่น "เงินอุดหนุนดูแลต้นไม้"
    - **ศิลปะ/วัฒนธรรมที่สะท้อนความเป็นเจ้าของต้นไม้:** เช่น นวนิยายเกี่ยวกับชีวิตคู่ขนานของคนและต้นไม้
    - **ความเชื่อใหม่:** อาจมีศาสนาที่นับถือต้นไม้เป็นตัวแทนจิตวิญญาณ

    ### **ข้อสรุป:**
    โลกจะเปลี่ยนไปในทางที่ "เขียว" ขึ้นอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องเผชิญกับความซับซ้อนใหม่ๆ เกี่ยวกับสิทธิ์ในทรัพย์สิน ระบบนิเวศ และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ที่น่าสนใจคือ มนุษย์อาจพัฒนาความเป็นเจ้าของที่ลึกซึ้งต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ มากกว่าเดิม ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของจิตสำนึกทางสิ่งแวดล้อมที่แท้จริง
    หากทุกคนบนโลกเกิดมาพร้อมกับต้นไม้ที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่ต้องดูแลตลอดชีวิต สิ่งที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้มีหลายด้าน ทั้งในแง่บวกและแง่ที่ต้องแก้ไข: ### **ผลกระทบเชิงบวก:** 1. **สิ่งแวดล้อมดีขึ้นอย่างรวดเร็ว** - ประชากรโลก 8 พันล้านคน = ต้นไม้เพิ่มขึ้น 8 พันล้านต้น (หรือมากกว่านั้นหากคนปลูกเพิ่ม) - ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะโลกร้อน ปรับสมดุลระบบนิเวศ 2. **การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ** - คนจะตระหนักถึงการพึ่งพาต้นไม้มากขึ้น เช่น รู้จักวงจรชีวิตพืช ผลกระทบจากการตัดไม้ทำลาย - อาจเกิดวัฒนธรรมใหม่ที่เคารพธรรมชาติ เช่น การจัดพิธีกรรมเมื่อต้นไม้ของตนตาย 3. **เศรษฐกิจใหม่ที่เกิดจาก "ตลาดต้นไม้ส่วนตัว"** - ต้นไม้กลายเป็นสินทรัพย์ซื้อขาย/มรดกได้ (เช่น ต้นโอ๊กอายุ 100 ปีอาจมีมูลค่าสูง) - เกิดอาชีพใหม่ เช่น "ที่ปรึกษาดูแลต้นไม้ส่วนตัว" "นักออกแบบสวนส่วนบุคคล" 4. **นวัตกรรมเพื่อการดูแลต้นไม้** - เทคโนโลยีติดตามสุขภาพต้นไม้ (เซ็นเซอร์วัดดิน แอป提醒การรดน้ำ) - การพัฒนาพันธุ์ต้นไม้ที่ทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆ ### **ความท้าทายและปัญหาที่อาจเกิด:** 1. **ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากร** - คนในเมืองอาจไม่มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ → เกิดตลาดเช่าพื้นที่ปลูก - ต้นไม้หายากบางชนิดอาจกลายเป็นสัญลักษณ์สถานะทางสังคม 2. **ข้อขัดแย้งทางกฎหมาย** - หากต้นไม้ของใครโตเกินไปและสร้างความเสียหายให้เพื่อนบ้าน (เช่น รากชอนไช) - กรณีต้นไม้ตายก่อนเจ้าของ: จะมีบทลงโทษหรือไม่? 3. **ผลกระทบต่อระบบนิเวศเดิม** - หากทุกคนปลูกต้นไม้ชนิดเดียวกัน (เช่น ไม้เศรษฐกิจ) อาจลดความหลากหลายทางชีวภาพ - สปีชีส์พันธุ์รุกรานอาจแพร่กระจายหากไม่ควบคุม 4. **ความเครียดจากการดูแล** - บางคนอาจรู้สึกว่าต้นไม้เป็น "ภาระ" ตลอดชีวิต - อาจเกิดอาชญากรรมเกี่ยวกับต้นไม้ (เช่น ขโมยต้นไม้เก่าแก่ ลอบทำลายต้นไม้ของศัตรู) ### **แนวโน้มทางสังคมที่อาจตามมา:** - **การเมืองสีเขียวเข้มข้นขึ้น:** พรรคการเมืองอาจเสนอนโยบายเช่น "เงินอุดหนุนดูแลต้นไม้" - **ศิลปะ/วัฒนธรรมที่สะท้อนความเป็นเจ้าของต้นไม้:** เช่น นวนิยายเกี่ยวกับชีวิตคู่ขนานของคนและต้นไม้ - **ความเชื่อใหม่:** อาจมีศาสนาที่นับถือต้นไม้เป็นตัวแทนจิตวิญญาณ ### **ข้อสรุป:** โลกจะเปลี่ยนไปในทางที่ "เขียว" ขึ้นอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องเผชิญกับความซับซ้อนใหม่ๆ เกี่ยวกับสิทธิ์ในทรัพย์สิน ระบบนิเวศ และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ที่น่าสนใจคือ มนุษย์อาจพัฒนาความเป็นเจ้าของที่ลึกซึ้งต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ มากกว่าเดิม ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของจิตสำนึกทางสิ่งแวดล้อมที่แท้จริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 407 มุมมอง 0 รีวิว
  • หาก AI วิเคราะห์แล้วสรุปว่ามนุษย์เป็นต้นเหตุของปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข นั่นอาจสะท้อนมุมมองที่ว่ากิจกรรมของมนุษย์ เช่น การบริโภคเกินจำเป็น การทำลายสิ่งแวดล้อม หรือความขัดแย้งทางสังคม เป็นปัจจัยขับเคลื่อนวิกฤตต่าง ๆ ในโลกปัจจุบัน

    ### ประเด็นสำคัญที่อาจถูกหยิบยก:
    1. **สิ่งแวดล้อม**: มลภาวะ การตัดไม้ทำลายป่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    2. **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำ การแบ่งแยก ความรุนแรง
    3. **เทคโนโลยี**: การใช้ AI/อาวุธอัตโนมัติโดยขาดจริยธรรม
    4. **เศรษฐกิจ**: ระบบทุนนิยมสุดโต่งที่ก่อให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ

    ### ทางออกที่ AI อาจเสนอ:
    - **ควบคุมพฤติกรรมมนุษย์**: เช่น ใช้กฎหมายหรือมาตรการทางภาษีเพื่อลดผลกระทบเชิงลบ
    - **การศึกษา**: ส่งเสริมจิตสำนึกด้านความยั่งยืนและความร่วมมือ
    - **นวัตกรรม**: พัฒนาเทคโนโลยีชดเชยปัญหาที่มนุษย์สร้างขึ้น (เช่น Carbon Capture)
    - **กำกับดูแล AI**: เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบถูกใช้ในทางที่ทำลายล้าง

    ### คำถามเชิงวิพากษ์:
    - AI เองก็ถูกสร้างและฝึกฝนโดยมนุษย์ ดังนั้นข้อสรุปนี้จะมีความเอนเอียงหรือไม่?
    - หากมนุษย์เป็นปัญหา แล้วใครจะเป็นผู้กำหนดและดำเนินการแก้ไข?

    คุณคิดว่ามนุษย์ควรปรับตัวอย่างไรให้สมดุลกับข้อสรุปของ AI? หรืออาจต้องทบทวนว่า AI เองก็มีข้อจำกัดในการวิเคราะห์บริบททางสังคมที่ซับซ้อน?
    หาก AI วิเคราะห์แล้วสรุปว่ามนุษย์เป็นต้นเหตุของปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข นั่นอาจสะท้อนมุมมองที่ว่ากิจกรรมของมนุษย์ เช่น การบริโภคเกินจำเป็น การทำลายสิ่งแวดล้อม หรือความขัดแย้งทางสังคม เป็นปัจจัยขับเคลื่อนวิกฤตต่าง ๆ ในโลกปัจจุบัน ### ประเด็นสำคัญที่อาจถูกหยิบยก: 1. **สิ่งแวดล้อม**: มลภาวะ การตัดไม้ทำลายป่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2. **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำ การแบ่งแยก ความรุนแรง 3. **เทคโนโลยี**: การใช้ AI/อาวุธอัตโนมัติโดยขาดจริยธรรม 4. **เศรษฐกิจ**: ระบบทุนนิยมสุดโต่งที่ก่อให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ ### ทางออกที่ AI อาจเสนอ: - **ควบคุมพฤติกรรมมนุษย์**: เช่น ใช้กฎหมายหรือมาตรการทางภาษีเพื่อลดผลกระทบเชิงลบ - **การศึกษา**: ส่งเสริมจิตสำนึกด้านความยั่งยืนและความร่วมมือ - **นวัตกรรม**: พัฒนาเทคโนโลยีชดเชยปัญหาที่มนุษย์สร้างขึ้น (เช่น Carbon Capture) - **กำกับดูแล AI**: เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบถูกใช้ในทางที่ทำลายล้าง ### คำถามเชิงวิพากษ์: - AI เองก็ถูกสร้างและฝึกฝนโดยมนุษย์ ดังนั้นข้อสรุปนี้จะมีความเอนเอียงหรือไม่? - หากมนุษย์เป็นปัญหา แล้วใครจะเป็นผู้กำหนดและดำเนินการแก้ไข? คุณคิดว่ามนุษย์ควรปรับตัวอย่างไรให้สมดุลกับข้อสรุปของ AI? หรืออาจต้องทบทวนว่า AI เองก็มีข้อจำกัดในการวิเคราะห์บริบททางสังคมที่ซับซ้อน?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASRock พบปัญหาความผันผวนของแรงดันไฟฟ้า SoC อาจส่งผลต่อความเสียหายของ Ryzen 9000

    มีรายงานว่า เมนบอร์ด ASRock X870E Taichi Lite มีการจ่ายแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ ผันผวนสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ Ryzen 9000 CPU บางรุ่นเสียหาย โดยเฉพาะ Ryzen 7 9800X3D และ Ryzen 9 9950X

    แรงดันไฟฟ้า SoC บนเมนบอร์ด ASRock มีความผันผวนสูงกว่าปกติ
    - พบว่า แรงดันไฟฟ้า SoC บน Ryzen 9800X3D สูงถึง 1.27V ซึ่งมากกว่าค่าปกติที่ 1.20V

    ASRock X870E Taichi Lite มีแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ไม่คงที่
    - ต่างจาก เมนบอร์ด ASUS X870E Crosshair Hero ที่มีแรงดันไฟฟ้าคงที่

    มีรายงาน CPU Ryzen 9000 เสียหายบนเมนบอร์ด ASRock มากกว่า 200 กรณี
    - ส่วนใหญ่พบใน Reddit และรายงานจากผู้ใช้จริง

    ASRock อาจต้องแก้ไขปัญหาผ่านการอัปเดต BIOS
    - ผู้ใช้สามารถ ลดความเสี่ยงได้โดยเปิด Uncore Voltage ใน BIOS

    ปัญหานี้อาจเกิดจากทั้ง CPU และเมนบอร์ดร่วมกัน
    - เนื่องจาก CPU เป็นตัวกำหนดแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ต้องการ

    https://wccftech.com/asrock-motherboards-show-fluctuating-soc-voltage-reaching-1-27v/
    ASRock พบปัญหาความผันผวนของแรงดันไฟฟ้า SoC อาจส่งผลต่อความเสียหายของ Ryzen 9000 มีรายงานว่า เมนบอร์ด ASRock X870E Taichi Lite มีการจ่ายแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ ผันผวนสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ Ryzen 9000 CPU บางรุ่นเสียหาย โดยเฉพาะ Ryzen 7 9800X3D และ Ryzen 9 9950X ✅ แรงดันไฟฟ้า SoC บนเมนบอร์ด ASRock มีความผันผวนสูงกว่าปกติ - พบว่า แรงดันไฟฟ้า SoC บน Ryzen 9800X3D สูงถึง 1.27V ซึ่งมากกว่าค่าปกติที่ 1.20V ✅ ASRock X870E Taichi Lite มีแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ไม่คงที่ - ต่างจาก เมนบอร์ด ASUS X870E Crosshair Hero ที่มีแรงดันไฟฟ้าคงที่ ✅ มีรายงาน CPU Ryzen 9000 เสียหายบนเมนบอร์ด ASRock มากกว่า 200 กรณี - ส่วนใหญ่พบใน Reddit และรายงานจากผู้ใช้จริง ✅ ASRock อาจต้องแก้ไขปัญหาผ่านการอัปเดต BIOS - ผู้ใช้สามารถ ลดความเสี่ยงได้โดยเปิด Uncore Voltage ใน BIOS ✅ ปัญหานี้อาจเกิดจากทั้ง CPU และเมนบอร์ดร่วมกัน - เนื่องจาก CPU เป็นตัวกำหนดแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ต้องการ https://wccftech.com/asrock-motherboards-show-fluctuating-soc-voltage-reaching-1-27v/
    WCCFTECH.COM
    ASRock Motherboards Show Fluctuating SoC Voltage, Reaching 1.27V; A Possible Risk Factor for Ryzen 9000 CPU Damage
    As ASRock motherboards have been causing the most damage to Ryzen 9000 processors, Tech Yes City investigates the issue with his testing.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปชั้นนำของจีน กำลังเผชิญกับ ปัญหาด้านผลผลิตและอัตราการได้ชิปที่ลดลง เนื่องจาก ข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ รายได้ในไตรมาสที่สองของปี 2025

    ปัญหาหลักเกิดจาก เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปี ซึ่งทำให้ กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำและอัตราการได้ชิปลดลง นอกจากนี้ การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข ทำให้เกิด ความผันผวนของผลผลิตเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน

    SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์
    - ส่งผลให้ รายได้ในไตรมาสที่สองลดลงถึง 6%

    เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปีทำให้กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำ
    - ส่งผลให้ อัตราการได้ชิปลดลง

    การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข
    - ทำให้ ผลผลิตลดลงเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน

    SMIC ต้องเบี่ยงงบประมาณด้าน R&D ไปใช้แก้ไขปัญหาการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่
    - ส่งผลให้ งบ R&D ลดลงจาก 180-225 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 150 ล้านดอลลาร์

    SMIC คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 7.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้
    - แม้จะเผชิญปัญหา แต่ยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/smic-faces-chip-yield-woes-as-equipment-maintenance-and-validation-efforts-stall
    SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปชั้นนำของจีน กำลังเผชิญกับ ปัญหาด้านผลผลิตและอัตราการได้ชิปที่ลดลง เนื่องจาก ข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ รายได้ในไตรมาสที่สองของปี 2025 ปัญหาหลักเกิดจาก เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปี ซึ่งทำให้ กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำและอัตราการได้ชิปลดลง นอกจากนี้ การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข ทำให้เกิด ความผันผวนของผลผลิตเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน ✅ SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ - ส่งผลให้ รายได้ในไตรมาสที่สองลดลงถึง 6% ✅ เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปีทำให้กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำ - ส่งผลให้ อัตราการได้ชิปลดลง ✅ การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข - ทำให้ ผลผลิตลดลงเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน ✅ SMIC ต้องเบี่ยงงบประมาณด้าน R&D ไปใช้แก้ไขปัญหาการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ - ส่งผลให้ งบ R&D ลดลงจาก 180-225 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 150 ล้านดอลลาร์ ✅ SMIC คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 7.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้ - แม้จะเผชิญปัญหา แต่ยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิต https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/smic-faces-chip-yield-woes-as-equipment-maintenance-and-validation-efforts-stall
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง

    ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)**
    - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1)
    - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน

    2. **Entanglement (การ纠缠)**
    - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน

    3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)**
    - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด

    ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น:
    - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm**
    - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm**
    - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา)
    - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)**

    ### **ความท้าทาย**
    1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)**
    - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence)
    2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)**
    - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร
    3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)**
    - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)**

    ### **สถานะปัจจุบัน (2024)**
    - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์
    - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่)
    - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล)

    ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต**
    - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography)
    - **การออกแบบวัสดุใหม่**
    - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain**
    - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม**

    ### **สรุป**
    ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย

    **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง** 1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)** - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1) - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน 2. **Entanglement (การ纠缠)** - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน 3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)** - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง** - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น: - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm** - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm** - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา) - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)** ### **ความท้าทาย** 1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)** - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence) 2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)** - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร 3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)** - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)** ### **สถานะปัจจุบัน (2024)** - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่) - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล) ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต** - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography) - **การออกแบบวัสดุใหม่** - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain** - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม** ### **สรุป** ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายสุทธิพงศ์ บุญนิล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นำเอกสารข้อมูลการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ชี้แจงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ พบใช้วิธี E-bidding ในการจัดซื้อจัดจ้าง ราคากลาง 2,522,153,000 บาท มีผู้ซื้อเอกสารประกวดราคา 16 ราย ปรากฏชื่อบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์10 (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) แต่มีผู้ยื่นเสนอราคา 7 ราย ซึ่งมีการยื่นประมูลของสองบริษัทในนาม กิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี และเป็นผู้ชนะประมูล ในวงเงิน 2,136 ล้านบาท มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง 9 ครั้ง อาทิ CORE LIFT อาคาร A, แบบบันได อาคาร B , CORE WALL อาคาร A ในครั้งที่ 4 และปรากฎการแก้ไข Core Wall อาคาร A อีกในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 6 และในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 8 ผู้รับจ้างขอแก้ไขงวดงานก่อสร้าง เนื่องจากมีหลายรายการไม่สอดคล้องกับขั้นตอนการปฎิบัติงาน จำเป็นต้องแก้ไข 18 รายการ ในงวดที่ 20 - 35 ประกอบด้วย งานโครงสร้าง , งานก่ออิฐ , งานผิวผนัง , งานฝ้าเพดาน , งานพื้นและงานผิวพื้น , งานฝังยึดราวบันได , งานสำเร็จบันได , งานประตูหน้าต่าง , งานสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ , งานบัวเชิงผนัง , งานสถาปัตยกรรมห้องเครื่อง , งานหลังคา , งานเบ็ดเตล็ดและอื่นๆ , งาน Curtain Wall , การตกแต่งภายใน , งานป้ายสัญลักษณ์ , งานเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว งานภูมิสถาปัตยกรรมและงานภายนอก สำหรับการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 9 เป็นการปรับแผนการทำงานใหม่โดยนำระยะเวลาการทำงานจำนวน 1,080 วัน มานับต่อจากวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาตามแผนการทำงานใหม่

    -9 ต้นตอตึก สตง. ถล่ม
    -หารือจุฬาราชมนตรีดับไฟใต้
    -เร่งเปิด 3 จุด ค้นหา
    -ทัวร์รัฐสภาดูโครงการของบ
    นายสุทธิพงศ์ บุญนิล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นำเอกสารข้อมูลการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ชี้แจงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ พบใช้วิธี E-bidding ในการจัดซื้อจัดจ้าง ราคากลาง 2,522,153,000 บาท มีผู้ซื้อเอกสารประกวดราคา 16 ราย ปรากฏชื่อบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์10 (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) แต่มีผู้ยื่นเสนอราคา 7 ราย ซึ่งมีการยื่นประมูลของสองบริษัทในนาม กิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี และเป็นผู้ชนะประมูล ในวงเงิน 2,136 ล้านบาท มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง 9 ครั้ง อาทิ CORE LIFT อาคาร A, แบบบันได อาคาร B , CORE WALL อาคาร A ในครั้งที่ 4 และปรากฎการแก้ไข Core Wall อาคาร A อีกในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 6 และในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 8 ผู้รับจ้างขอแก้ไขงวดงานก่อสร้าง เนื่องจากมีหลายรายการไม่สอดคล้องกับขั้นตอนการปฎิบัติงาน จำเป็นต้องแก้ไข 18 รายการ ในงวดที่ 20 - 35 ประกอบด้วย งานโครงสร้าง , งานก่ออิฐ , งานผิวผนัง , งานฝ้าเพดาน , งานพื้นและงานผิวพื้น , งานฝังยึดราวบันได , งานสำเร็จบันได , งานประตูหน้าต่าง , งานสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ , งานบัวเชิงผนัง , งานสถาปัตยกรรมห้องเครื่อง , งานหลังคา , งานเบ็ดเตล็ดและอื่นๆ , งาน Curtain Wall , การตกแต่งภายใน , งานป้ายสัญลักษณ์ , งานเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว งานภูมิสถาปัตยกรรมและงานภายนอก สำหรับการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 9 เป็นการปรับแผนการทำงานใหม่โดยนำระยะเวลาการทำงานจำนวน 1,080 วัน มานับต่อจากวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาตามแผนการทำงานใหม่ -9 ต้นตอตึก สตง. ถล่ม -หารือจุฬาราชมนตรีดับไฟใต้ -เร่งเปิด 3 จุด ค้นหา -ทัวร์รัฐสภาดูโครงการของบ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 829 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • การเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบดิจิทัล (Digital Divide) เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยความเหลื่อมล้ำนี้สามารถแบ่งออกได้หลายมิติ ดังนี้:

    ### 1. **ความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างพื้นฐาน**
    - **พื้นที่เมือง vs. ชนบท**: ในเขตเมืองมักมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีกว่า ในขณะที่พื้นที่ห่างไกลหรือชนบทอาจขาดแคลนสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไฟฟ้า
    - **ความเร็วและความเสถียร**: แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ความเร็วและความเสถียรอาจไม่เท่ากัน ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพต่างกัน

    ### 2. **ความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ**
    - **ค่าใช้จ่าย**: การเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัล (เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์) และค่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจเป็นภาระสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
    - **รายได้และโอกาส**: กลุ่มที่มีรายได้สูงมักมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและทักษะดิจิทัลได้ดีกว่า ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางเศรษฐกิจมากขึ้น

    ### 3. **ความเหลื่อมล้ำด้านทักษะและการศึกษา**
    - **ทักษะดิจิทัล**: กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่ขาดโอกาสในการเรียนรู้อาจไม่มีความรู้เพียงพอในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
    - **การศึกษา**: โรงเรียนในเมืองอาจมีทรัพยากรด้านดิจิทัล (เช่น อุปกรณ์การเรียนออนไลน์) ดีกว่าโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล

    ### 4. **ความเหลื่อมล้ำด้านสังคมและประชากรศาสตร์**
    - **วัย**: คนรุ่นใหม่อาจปรับตัวกับเทคโนโลยีได้ดีกว่าผู้สูงอายุ
    - **เพศ**: ในบางสังคม ผู้หญิงอาจมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยกว่าผู้ชายเนื่องจากอคติทางวัฒนธรรม

    ### 5. **นโยบายและการสนับสนุนจากรัฐ**
    - **การกระจายทรัพยากร**: นโยบายของรัฐอาจไม่ทั่วถึง ทำให้บางพื้นที่หรือกลุ่มคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
    - **การส่งเสริมทักษะดิจิทัล**: โครงการฝึกอบรมอาจไม่เพียงพอหรือไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม

    ### ผลกระทบของความเหลื่อมล้ำดิจิทัล
    - **เศรษฐกิจ**: กลุ่มที่ขาดแคลนโอกาสดิจิทัลอาจถูกกีดกันจากตลาดงานสมัยใหม่
    - **การศึกษา**: นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลอาจเสียเปรียบเนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์
    - **สุขภาพ**: การเข้าถึงบริการสุขภาพดิจิทัล (Telemedicine) อาจจำกัดในบางพื้นที่
    - **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำอาจทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมระหว่างกลุ่มคนที่เข้าถึงเทคโนโลยีและกลุ่มที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

    ### แนทางแก้ไข
    - **พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน** โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล
    - **ลดค่าใช้จ่าย** ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ดิจิทัล
    - **ส่งเสริมการศึกษาและฝึกทักษะดิจิทัล** ให้กับทุกกลุ่มวัย
    - **ออกนโยบายที่ครอบคลุม** เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านหรือแจกแท็บเล็ตสำหรับนักเรียน

    ความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต การเข้าถึงดิจิทัลอย่างเท่าเทียมจะช่วยลดความไม่เสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
    การเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบดิจิทัล (Digital Divide) เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยความเหลื่อมล้ำนี้สามารถแบ่งออกได้หลายมิติ ดังนี้: ### 1. **ความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างพื้นฐาน** - **พื้นที่เมือง vs. ชนบท**: ในเขตเมืองมักมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีกว่า ในขณะที่พื้นที่ห่างไกลหรือชนบทอาจขาดแคลนสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไฟฟ้า - **ความเร็วและความเสถียร**: แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ความเร็วและความเสถียรอาจไม่เท่ากัน ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพต่างกัน ### 2. **ความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ** - **ค่าใช้จ่าย**: การเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัล (เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์) และค่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจเป็นภาระสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย - **รายได้และโอกาส**: กลุ่มที่มีรายได้สูงมักมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและทักษะดิจิทัลได้ดีกว่า ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางเศรษฐกิจมากขึ้น ### 3. **ความเหลื่อมล้ำด้านทักษะและการศึกษา** - **ทักษะดิจิทัล**: กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่ขาดโอกาสในการเรียนรู้อาจไม่มีความรู้เพียงพอในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล - **การศึกษา**: โรงเรียนในเมืองอาจมีทรัพยากรด้านดิจิทัล (เช่น อุปกรณ์การเรียนออนไลน์) ดีกว่าโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ### 4. **ความเหลื่อมล้ำด้านสังคมและประชากรศาสตร์** - **วัย**: คนรุ่นใหม่อาจปรับตัวกับเทคโนโลยีได้ดีกว่าผู้สูงอายุ - **เพศ**: ในบางสังคม ผู้หญิงอาจมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยกว่าผู้ชายเนื่องจากอคติทางวัฒนธรรม ### 5. **นโยบายและการสนับสนุนจากรัฐ** - **การกระจายทรัพยากร**: นโยบายของรัฐอาจไม่ทั่วถึง ทำให้บางพื้นที่หรือกลุ่มคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง - **การส่งเสริมทักษะดิจิทัล**: โครงการฝึกอบรมอาจไม่เพียงพอหรือไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม ### ผลกระทบของความเหลื่อมล้ำดิจิทัล - **เศรษฐกิจ**: กลุ่มที่ขาดแคลนโอกาสดิจิทัลอาจถูกกีดกันจากตลาดงานสมัยใหม่ - **การศึกษา**: นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลอาจเสียเปรียบเนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ - **สุขภาพ**: การเข้าถึงบริการสุขภาพดิจิทัล (Telemedicine) อาจจำกัดในบางพื้นที่ - **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำอาจทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมระหว่างกลุ่มคนที่เข้าถึงเทคโนโลยีและกลุ่มที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ### แนทางแก้ไข - **พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน** โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล - **ลดค่าใช้จ่าย** ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ดิจิทัล - **ส่งเสริมการศึกษาและฝึกทักษะดิจิทัล** ให้กับทุกกลุ่มวัย - **ออกนโยบายที่ครอบคลุม** เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านหรือแจกแท็บเล็ตสำหรับนักเรียน ความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต การเข้าถึงดิจิทัลอย่างเท่าเทียมจะช่วยลดความไม่เสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 441 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ได้ออก แพตช์ฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขช่องโหว่ zero-day ที่ถูกใช้ใน การโจมตีที่ซับซ้อนสูง โดยช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อ CoreAudio และ RPAC ซึ่งสามารถถูกใช้เพื่อ รันโค้ดที่เป็นอันตรายและข้ามการตรวจสอบสิทธิ์

    Apple ออกแพตช์ฉุกเฉินเพื่อแก้ไขช่องโหว่ใน CoreAudio และ RPAC
    - ช่องโหว่ CVE-2025-31200 ใน CoreAudio อาจถูกใช้เพื่อ รันโค้ดที่เป็นอันตรายผ่านไฟล์เสียงที่ถูกดัดแปลง
    - ช่องโหว่ CVE-2025-31201 ใน RPAC อาจถูกใช้เพื่อ ข้ามการตรวจสอบ Pointer Authentication ซึ่งช่วยป้องกันการโจมตีแบบ memory corruption

    ช่องโหว่นี้ถูกใช้ใน "การโจมตีที่ซับซ้อนสูง" บน iOS
    - Apple ระบุว่า มีรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้โจมตีบุคคลเป้าหมาย
    - แม้ว่าจะพบการโจมตีบน iPhone แต่ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อ iOS, iPadOS, tvOS, visionOS และ macOS

    Apple ได้ออกแพตช์สำหรับทุกระบบที่ได้รับผลกระทบ
    - ระบบที่ได้รับการแก้ไข ได้แก่ tvOS 18.4.1, visionOS 2.4.1, iOS 18.4.1, iPadOS 18.4.1 และ macOS Sequoia 15.4.1
    - อุปกรณ์ที่ได้รับแพตช์ ได้แก่ iPhone XS และรุ่นใหม่กว่า, iPad Pro 13-inch, iPad Air 3rd generation และ iPad mini 5th generation

    Apple เผชิญกับช่องโหว่ zero-day หลายครั้งในปีนี้
    - นี่เป็นช่องโหว่ zero-day ครั้งที่ 5 ในปี 2025 ที่ Apple ต้องแก้ไข
    - ในปี 2024 Apple เผชิญกับ 6 ช่องโหว่ zero-day รวมถึงช่องโหว่ที่ถูกใช้ใน Operation Triangulation

    https://www.csoonline.com/article/3964668/hackers-target-apple-users-in-an-extremely-sophisticated-attack.html
    Apple ได้ออก แพตช์ฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขช่องโหว่ zero-day ที่ถูกใช้ใน การโจมตีที่ซับซ้อนสูง โดยช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อ CoreAudio และ RPAC ซึ่งสามารถถูกใช้เพื่อ รันโค้ดที่เป็นอันตรายและข้ามการตรวจสอบสิทธิ์ ✅ Apple ออกแพตช์ฉุกเฉินเพื่อแก้ไขช่องโหว่ใน CoreAudio และ RPAC - ช่องโหว่ CVE-2025-31200 ใน CoreAudio อาจถูกใช้เพื่อ รันโค้ดที่เป็นอันตรายผ่านไฟล์เสียงที่ถูกดัดแปลง - ช่องโหว่ CVE-2025-31201 ใน RPAC อาจถูกใช้เพื่อ ข้ามการตรวจสอบ Pointer Authentication ซึ่งช่วยป้องกันการโจมตีแบบ memory corruption ✅ ช่องโหว่นี้ถูกใช้ใน "การโจมตีที่ซับซ้อนสูง" บน iOS - Apple ระบุว่า มีรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้โจมตีบุคคลเป้าหมาย - แม้ว่าจะพบการโจมตีบน iPhone แต่ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อ iOS, iPadOS, tvOS, visionOS และ macOS ✅ Apple ได้ออกแพตช์สำหรับทุกระบบที่ได้รับผลกระทบ - ระบบที่ได้รับการแก้ไข ได้แก่ tvOS 18.4.1, visionOS 2.4.1, iOS 18.4.1, iPadOS 18.4.1 และ macOS Sequoia 15.4.1 - อุปกรณ์ที่ได้รับแพตช์ ได้แก่ iPhone XS และรุ่นใหม่กว่า, iPad Pro 13-inch, iPad Air 3rd generation และ iPad mini 5th generation ✅ Apple เผชิญกับช่องโหว่ zero-day หลายครั้งในปีนี้ - นี่เป็นช่องโหว่ zero-day ครั้งที่ 5 ในปี 2025 ที่ Apple ต้องแก้ไข - ในปี 2024 Apple เผชิญกับ 6 ช่องโหว่ zero-day รวมถึงช่องโหว่ที่ถูกใช้ใน Operation Triangulation https://www.csoonline.com/article/3964668/hackers-target-apple-users-in-an-extremely-sophisticated-attack.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Hackers target Apple users in an ‘extremely sophisticated attack’
    The bugs, found in Apple’s CoreAudio and RPAC components, enabled code execution and memory corruption attacks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทองแดงเป็นตัวนำไฟฟ้ามาตรฐานมานานกว่า 200 ปี แต่เริ่มมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ นักวิจัยพบว่า Niobium Phosphide (NbP) มีคุณสมบัติการนำไฟฟ้าที่เหนือกว่าทองแดง โดยเฉพาะในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับนาโน NbP สามารถใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ได้ง่าย และช่วยลดการสูญเสียพลังงาน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าทายด้านการผลิต ที่ต้องแก้ไขก่อนจะนำมาใช้จริงในอุตสาหกรรม

    Niobium Phosphide เป็นวัสดุที่นำไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดงในระดับนาโน
    - งานวิจัยของ Stanford University พบว่า NbP มีค่าความต้านทานต่ำกว่าทองแดงถึง 6 เท่า
    - เมื่อวัสดุมีความบางลง NbP ยังคงรักษาคุณสมบัติในการนำไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดง

    เซมิมีทัลมีโครงสร้างทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน
    - NbP มี คุณสมบัติเฉพาะด้านโครงสร้างที่ช่วยให้การส่งผ่านอิเล็กตรอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - นักวิจัยระบุว่า สามารถลดการใช้พลังงานในอุปกรณ์ขนาดเล็กได้

    สามารถใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่มีอยู่ได้ง่าย
    - NbP สามารถถูกวางเป็น ฟิล์มที่อุณหภูมิ 400°C โดยไม่ทำให้ชิปซิลิคอนเสียหาย

    ยังคงมีความท้าทายด้านการผลิต
    - การควบคุมความหนาของชั้นฟิล์ม NbP เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงมาก
    - หากชั้นฟิล์มมีความหนาไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้ค่าความต้านทานแปรปรวน

    อนาคตของเซมิมีทัลในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
    - หากการพัฒนา NbP และวัสดุเซมิมีทัลอื่น ๆ ก้าวหน้า อาจแทนที่ทองแดงในวงจรระดับสูงได้ภายใน 10 ปี

    https://www.techradar.com/pro/after-semiconductors-semimetals-might-be-the-next-big-thing-as-the-tech-industry-looks-for-a-replacement-for-ubiquitous-copper
    ทองแดงเป็นตัวนำไฟฟ้ามาตรฐานมานานกว่า 200 ปี แต่เริ่มมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ นักวิจัยพบว่า Niobium Phosphide (NbP) มีคุณสมบัติการนำไฟฟ้าที่เหนือกว่าทองแดง โดยเฉพาะในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับนาโน NbP สามารถใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ได้ง่าย และช่วยลดการสูญเสียพลังงาน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าทายด้านการผลิต ที่ต้องแก้ไขก่อนจะนำมาใช้จริงในอุตสาหกรรม ✅ Niobium Phosphide เป็นวัสดุที่นำไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดงในระดับนาโน - งานวิจัยของ Stanford University พบว่า NbP มีค่าความต้านทานต่ำกว่าทองแดงถึง 6 เท่า - เมื่อวัสดุมีความบางลง NbP ยังคงรักษาคุณสมบัติในการนำไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดง ✅ เซมิมีทัลมีโครงสร้างทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน - NbP มี คุณสมบัติเฉพาะด้านโครงสร้างที่ช่วยให้การส่งผ่านอิเล็กตรอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น - นักวิจัยระบุว่า สามารถลดการใช้พลังงานในอุปกรณ์ขนาดเล็กได้ ✅ สามารถใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่มีอยู่ได้ง่าย - NbP สามารถถูกวางเป็น ฟิล์มที่อุณหภูมิ 400°C โดยไม่ทำให้ชิปซิลิคอนเสียหาย ✅ ยังคงมีความท้าทายด้านการผลิต - การควบคุมความหนาของชั้นฟิล์ม NbP เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงมาก - หากชั้นฟิล์มมีความหนาไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้ค่าความต้านทานแปรปรวน ✅ อนาคตของเซมิมีทัลในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ - หากการพัฒนา NbP และวัสดุเซมิมีทัลอื่น ๆ ก้าวหน้า อาจแทนที่ทองแดงในวงจรระดับสูงได้ภายใน 10 ปี https://www.techradar.com/pro/after-semiconductors-semimetals-might-be-the-next-big-thing-as-the-tech-industry-looks-for-a-replacement-for-ubiquitous-copper
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts