• ชีวิตคือสมมุติ #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #ชวนดูซีรีส์ #เพลงเพราะ #ว่างว่างก็แวะมา
    ชีวิตคือสมมุติ #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #ชวนดูซีรีส์ #เพลงเพราะ #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • แถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “คิมซูฮยอน” นักแสดงสุดฉาว ที่ออกมาบีบน้ำตา ร้องไห้ยอมรับผิดว่าตนเองเป็นคนขี้ขลาด หนีปัญหา และโกหกทุกคน จนสร้างความเสียหาย รวมถึงทำให้ “คิมแซรน” หลับไม่สงบ

    คิมซูฮยอน ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อถึงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ คิมแซรน โดยยังยืนยันว่าพวกเขาคบหากันมาเป็นเวลา 1 ปี หลังจากที่เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว

    ในวันที่ 31 มี.ค. คิมซูฮยอน ได้จัดงานแถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านซังกัมดง เขตมาโป กรุงโซล โดยมีตัวแทนทางกฎหมายของเขา ทนายความ คิมจองบก จาก LKB&Partners ร่วมด้วย ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกของเขาในรอบ 21 วัน หลังครอบครัวของ คิมแซรน กล่าวหาว่าเขาพูดเท็จ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ยืนยันว่า คิมซูฮยอน กับ คิมแซรนมีความสัมพันธ์กันมานาน 6 ปี ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เธอยังเป็นวัยเยาว์

    ก่อนหน้านี้ ต้นสังกัดของ คิมซูฮยอน อย่าง Gold Medalist ได้ประกาศไว้ว่านักแสดงจะไม่ตอบคำถามใดๆ นอกเหนือไปจากคำแถลงที่เตรียมไว้

    ในงานแถลงข่าวที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเขา คิมซูฮยอน เขาได้เผยว่า

    “ก่อนอื่น ผมต้องขอโทษ เพราะผมคนเดียว จึงมีผู้คนมากมายที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ผู้เสียชีวิตไม่สามารถพักผ่อนอย่างสงบได้ ผมถือว่าตัวเองเป็นคนขี้ขลาด ผมมัวแต่จดจ่อกับการปกป้องสิ่งที่ผมมี ผมไม่สามารถให้ความไว้วางใจแม้แต่ความเมตตาที่ได้รับ ผมกลัวตลอดเวลาว่าจะสูญเสียบางสิ่งหรือได้รับอันตราย ซ้ำยังวิ่งหนี และปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงใช้เวลานานมากในการมายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้

    หากผมเผชิญเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แฟนๆ ที่รักผม ทีมงานบริษัทที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่องานแถลงข่าวครั้งนี้ และทุกๆ คนก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากขนาดนี้

    ทุกครั้งที่ชีวิตส่วนตัวของเราถูกเปิดเผย ผมคิดว่า 'พรุ่งนี้ผมจะออกมาพูด ผมจะจบสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ด้วยตัวผมเอง' แต่ทุกครั้ง ผมลังเล ผมกังวลว่าการตัดสินใจของผมจะส่งผลต่อคนรอบข้าง และจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงสำหรับทุกคนหรือเปล่า

    ตอนที่ คิมแซรน ผู้ล่วงลับโพสต์รูปผมระหว่างซีรีส์ Queen of Tears ออกอากาศ ผมได้ปฏิเสธ จริงๆเราคบกันมาประมาณ 1 ปี เป็นเวลา 4 ปีก่อนที่ซีรีส์ Queen of Tears จะออกอากาศคือคบกัน 5 ปีก่อน ผมเข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงวิจารณ์การที่ผมเลือกโกหกในตอนนั้น แม้ว่าคุณจะไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดตอนนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา ผมก็เข้าใจ แต่ผมเชื่อว่านี่เป็นโอกาสเดียวของผมที่จะพูดอย่างเปิดเผยแบบนี้”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000030637

    #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน #KimSaeron #kimsoohyun
    แถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “คิมซูฮยอน” นักแสดงสุดฉาว ที่ออกมาบีบน้ำตา ร้องไห้ยอมรับผิดว่าตนเองเป็นคนขี้ขลาด หนีปัญหา และโกหกทุกคน จนสร้างความเสียหาย รวมถึงทำให้ “คิมแซรน” หลับไม่สงบ • คิมซูฮยอน ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อถึงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ คิมแซรน โดยยังยืนยันว่าพวกเขาคบหากันมาเป็นเวลา 1 ปี หลังจากที่เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว • ในวันที่ 31 มี.ค. คิมซูฮยอน ได้จัดงานแถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านซังกัมดง เขตมาโป กรุงโซล โดยมีตัวแทนทางกฎหมายของเขา ทนายความ คิมจองบก จาก LKB&Partners ร่วมด้วย ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกของเขาในรอบ 21 วัน หลังครอบครัวของ คิมแซรน กล่าวหาว่าเขาพูดเท็จ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ยืนยันว่า คิมซูฮยอน กับ คิมแซรนมีความสัมพันธ์กันมานาน 6 ปี ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เธอยังเป็นวัยเยาว์ • ก่อนหน้านี้ ต้นสังกัดของ คิมซูฮยอน อย่าง Gold Medalist ได้ประกาศไว้ว่านักแสดงจะไม่ตอบคำถามใดๆ นอกเหนือไปจากคำแถลงที่เตรียมไว้ • ในงานแถลงข่าวที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเขา คิมซูฮยอน เขาได้เผยว่า • “ก่อนอื่น ผมต้องขอโทษ เพราะผมคนเดียว จึงมีผู้คนมากมายที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ผู้เสียชีวิตไม่สามารถพักผ่อนอย่างสงบได้ ผมถือว่าตัวเองเป็นคนขี้ขลาด ผมมัวแต่จดจ่อกับการปกป้องสิ่งที่ผมมี ผมไม่สามารถให้ความไว้วางใจแม้แต่ความเมตตาที่ได้รับ ผมกลัวตลอดเวลาว่าจะสูญเสียบางสิ่งหรือได้รับอันตราย ซ้ำยังวิ่งหนี และปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงใช้เวลานานมากในการมายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้ • หากผมเผชิญเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แฟนๆ ที่รักผม ทีมงานบริษัทที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่องานแถลงข่าวครั้งนี้ และทุกๆ คนก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากขนาดนี้ • ทุกครั้งที่ชีวิตส่วนตัวของเราถูกเปิดเผย ผมคิดว่า 'พรุ่งนี้ผมจะออกมาพูด ผมจะจบสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ด้วยตัวผมเอง' แต่ทุกครั้ง ผมลังเล ผมกังวลว่าการตัดสินใจของผมจะส่งผลต่อคนรอบข้าง และจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงสำหรับทุกคนหรือเปล่า • ตอนที่ คิมแซรน ผู้ล่วงลับโพสต์รูปผมระหว่างซีรีส์ Queen of Tears ออกอากาศ ผมได้ปฏิเสธ จริงๆเราคบกันมาประมาณ 1 ปี เป็นเวลา 4 ปีก่อนที่ซีรีส์ Queen of Tears จะออกอากาศคือคบกัน 5 ปีก่อน ผมเข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงวิจารณ์การที่ผมเลือกโกหกในตอนนั้น แม้ว่าคุณจะไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดตอนนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา ผมก็เข้าใจ แต่ผมเชื่อว่านี่เป็นโอกาสเดียวของผมที่จะพูดอย่างเปิดเผยแบบนี้” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000030637 • #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน #KimSaeron #kimsoohyun
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา” (ฉิงปู้จื๊อสัวฉี่ อี้หว่างเอ๋อร์เซิ้น / 情不知所起,一往而深)

    ต้อนรับสัปดาห์แห่งความรักกันด้วยอีกหนึ่งวลีสุดฮิตเกี่ยวกับความรัก ที่ Storyฯ เชื่อว่าแฟนนิยายจีนต้องเคยผ่านตายามตัวละครบอกรักกัน (แต่อาจแปลแตกต่างกันบ้างแล้วแต่ผู้แปล)

    ตัวอย่างจากในซีรีส์ก็มี อย่างเช่นในเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ในฉากที่เหล่ามเหสีชายาและสนมนั่งชมละครงิ้วในวังหลัง นางเอกเมื่อยังเป็นว่านกุ้ยเหรินได้พูดว่า “ในบทประพันธ์ <ศาลาโบตั๋น> มีเขียนไว้ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’...” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)

    ละครเรื่องนี้แฝงบทกวีเลื่องชื่อไว้ในคำสนทนาหลายบท วลีที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นวลีจากบทประพันธ์ ‘ศาลาโบตั๋น’ (หมู่ตานถิง / 牡丹亭) (ค.ศ. 1598) ของทังเสียนจู่ นักอักษรและนักประพันธ์บทงิ้วที่เลื่องชื่อในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นบทประพันธ์ที่โด่งดังเพราะเป็นเรื่องราวความรักกินใจและเพราะความสละสลวยของภาษา มีทั้งสิ้น 55 ตอน ว่ากันว่า ถ้าแสดงชุดเต็ม ละครงิ้วนี้อาจกินเวลานานถึง 22 ชั่วโมง!

    ปัจจุบัน ‘ศาลาโบตั๋น’ ยังคงเป็นหนึ่งในงิ้วสุดนิยมและได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ของบทประพันธ์ละครงิ้วโบราณที่ดีที่สุดของจีน ได้รับการแปลไปหลายภาษาเช่น อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น ฯลฯ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ฝันคืนวิญญาณ’ (还魂梦)

    ‘ศาลาโบตั๋น’ เป็นเรื่องราวของตู้ลี่เหนียง สตรีลูกขุนนางที่งามเพียบพร้อม วันหนึ่งนางหลับอยู่ในอุทยานในเรือนแล้วฝันว่าได้พบรักกับบัณฑิตหนุ่มนามว่าหลิ่วเมิ่งเหมย เป็นรักที่ตราตรึงใจทำให้นางโหยหาแม้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว สุดท้ายนางเฝ้ารอแต่ชายในฝันจนตรอมใจตายไป ก่อนตายนางได้ให้คนวาดภาพนางไว้ และสามปีให้หลัง ปรากฏว่ามีบัณฑิตหนุ่มชื่อหลิ่วเมิ่งเหมยเข้าเมืองมาสอบราชบัณฑิต ได้เห็นรูปของนางก็หลงรักและฝันถึง ในฝันนั้นนางบอกเขาว่า หากเขาขุดศพของนางที่ถูกฝังอยู่ในอุทยานขึ้นมา นางจะฟื้นคืนชีพ หลิ่วเมิ่งเหมยทำตามคำบอกของนางก็พบว่าศพของนางยังไม่เน่าเปื่อยและนางก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ เขาทั้งสองจึงครองรักกันต่อไป

    จึงเป็นที่มาของวรรคที่ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’ และเป็นวลีที่ถูกนำมาใช้บ่อยครั้งเพื่อสะท้อนความหมายของมันว่า รักนั้น บางทีก็หาเหตุผลและจุดเริ่มต้นไม่ได้ คนที่ถลำลงไปในรักสามารถตายเพื่อรักได้ และรักก็สามารถสร้างปาฏิหารย์ให้คนตายฟื้นคืนชีพได้

    เป็นประโยคที่ผ่านตา Storyฯ บ่อยมากจนจำไม่ได้แล้วว่ามีในละครหรือนิยายเรื่องไหนอีกที่กล่าวถึงวลีนี้ เท่าที่พอจะจำได้ ก็มีเรื่อง ‘ความฝันในหอแดง’ หากเพื่อนเพจคุ้นหูคุ้นตาจากซีรีส์หรือนิยายเรื่องอื่นก็เม้นท์มาบอกกันได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://new.qq.com/rain/a/20210820A0E6Z100
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e1f2a8e8bf19704ecbbbff47
    https://baike.baidu.com/item/情不知所起一往而深
    https://www.ximalaya.com/ask/q142274?source=m_jump

    #เจินหวน #หมู่ตานถิง #ศาลาโบตั๋น #วลีรักจีน #ทังเสียนจู่
    “รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา” (ฉิงปู้จื๊อสัวฉี่ อี้หว่างเอ๋อร์เซิ้น / 情不知所起,一往而深) ต้อนรับสัปดาห์แห่งความรักกันด้วยอีกหนึ่งวลีสุดฮิตเกี่ยวกับความรัก ที่ Storyฯ เชื่อว่าแฟนนิยายจีนต้องเคยผ่านตายามตัวละครบอกรักกัน (แต่อาจแปลแตกต่างกันบ้างแล้วแต่ผู้แปล) ตัวอย่างจากในซีรีส์ก็มี อย่างเช่นในเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ในฉากที่เหล่ามเหสีชายาและสนมนั่งชมละครงิ้วในวังหลัง นางเอกเมื่อยังเป็นว่านกุ้ยเหรินได้พูดว่า “ในบทประพันธ์ <ศาลาโบตั๋น> มีเขียนไว้ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’...” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า) ละครเรื่องนี้แฝงบทกวีเลื่องชื่อไว้ในคำสนทนาหลายบท วลีที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นวลีจากบทประพันธ์ ‘ศาลาโบตั๋น’ (หมู่ตานถิง / 牡丹亭) (ค.ศ. 1598) ของทังเสียนจู่ นักอักษรและนักประพันธ์บทงิ้วที่เลื่องชื่อในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นบทประพันธ์ที่โด่งดังเพราะเป็นเรื่องราวความรักกินใจและเพราะความสละสลวยของภาษา มีทั้งสิ้น 55 ตอน ว่ากันว่า ถ้าแสดงชุดเต็ม ละครงิ้วนี้อาจกินเวลานานถึง 22 ชั่วโมง! ปัจจุบัน ‘ศาลาโบตั๋น’ ยังคงเป็นหนึ่งในงิ้วสุดนิยมและได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ของบทประพันธ์ละครงิ้วโบราณที่ดีที่สุดของจีน ได้รับการแปลไปหลายภาษาเช่น อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น ฯลฯ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ฝันคืนวิญญาณ’ (还魂梦) ‘ศาลาโบตั๋น’ เป็นเรื่องราวของตู้ลี่เหนียง สตรีลูกขุนนางที่งามเพียบพร้อม วันหนึ่งนางหลับอยู่ในอุทยานในเรือนแล้วฝันว่าได้พบรักกับบัณฑิตหนุ่มนามว่าหลิ่วเมิ่งเหมย เป็นรักที่ตราตรึงใจทำให้นางโหยหาแม้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว สุดท้ายนางเฝ้ารอแต่ชายในฝันจนตรอมใจตายไป ก่อนตายนางได้ให้คนวาดภาพนางไว้ และสามปีให้หลัง ปรากฏว่ามีบัณฑิตหนุ่มชื่อหลิ่วเมิ่งเหมยเข้าเมืองมาสอบราชบัณฑิต ได้เห็นรูปของนางก็หลงรักและฝันถึง ในฝันนั้นนางบอกเขาว่า หากเขาขุดศพของนางที่ถูกฝังอยู่ในอุทยานขึ้นมา นางจะฟื้นคืนชีพ หลิ่วเมิ่งเหมยทำตามคำบอกของนางก็พบว่าศพของนางยังไม่เน่าเปื่อยและนางก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ เขาทั้งสองจึงครองรักกันต่อไป จึงเป็นที่มาของวรรคที่ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’ และเป็นวลีที่ถูกนำมาใช้บ่อยครั้งเพื่อสะท้อนความหมายของมันว่า รักนั้น บางทีก็หาเหตุผลและจุดเริ่มต้นไม่ได้ คนที่ถลำลงไปในรักสามารถตายเพื่อรักได้ และรักก็สามารถสร้างปาฏิหารย์ให้คนตายฟื้นคืนชีพได้ เป็นประโยคที่ผ่านตา Storyฯ บ่อยมากจนจำไม่ได้แล้วว่ามีในละครหรือนิยายเรื่องไหนอีกที่กล่าวถึงวลีนี้ เท่าที่พอจะจำได้ ก็มีเรื่อง ‘ความฝันในหอแดง’ หากเพื่อนเพจคุ้นหูคุ้นตาจากซีรีส์หรือนิยายเรื่องอื่นก็เม้นท์มาบอกกันได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://new.qq.com/rain/a/20210820A0E6Z100 https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e1f2a8e8bf19704ecbbbff47 https://baike.baidu.com/item/情不知所起一往而深 https://www.ximalaya.com/ask/q142274?source=m_jump #เจินหวน #หมู่ตานถิง #ศาลาโบตั๋น #วลีรักจีน #ทังเสียนจู่
    腾讯网
    腾讯网从2003年创立至今,已经成为集新闻信息,区域垂直生活服务、社会化媒体资讯和产品为一体的互联网媒体平台。腾讯网下设新闻、科技、财经、娱乐、体育、汽车、时尚等多个频道,充分满足用户对不同类型资讯的需求。同时专注不同领域内容,打造精品栏目,并顺应技术发展趋势,推出网络直播等创新形式,改变了用户获取资讯的方式和习惯。
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • **คุยเรื่องสีแดงจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับบทกวีและสีแดงหลากเฉดที่ถูกนำมาใช้ในเรื่อง <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ซึ่งเดินเรื่องราวด้วยสูตรสีย้อมผ้าไหมสูจิ่นสีแดงของพ่อนางเอกที่ในเรื่องเรียกว่า ‘สู่หง’ ซึ่งถูกยกย่องขึ้นเป็นสุดยอดของสีแดงตามจินตนาการของผู้แต่งนิยายต้นฉบับ

    เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่องนี้จะจำได้ว่าก่อนที่นางเอกจะค้นคว้าสูตรลับนี้ของพ่อขึ้นมาอีกได้สำเร็จ นางเอกได้พัฒนาสีแดงขึ้นสามสีโดยอธิบายว่า ‘สู่หง’ แท้จริงแล้วหมายถึงสีแดงจากพื้นที่สู่ (สองสัปดาห์ก่อนเรากล่าวถึงดินแดนแคว้นสู่ไปแล้วลองย้อนอ่านดูได้) และนางได้จัดงานแฟชั่นโชว์ขึ้นเพื่อแสดงชุดที่ทอจากไหมสามสีใหม่นี้ โดยนางและพี่ชายได้บรรยายถึงสีเหล่านี้ด้วยการกล่าวอิงกับบทกวี วันนี้เรามาคุยถึงเกร็ดวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในนี้กัน

    เริ่มจากชุดแรกที่นางเอกกล่าวว่าสีแดงนี้ได้อารมณ์อิสระและความมีชีวิตชีวาจากบทกวีของกวีผู้ที่นางเรียกว่า ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’

    ในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าเขาผู้นี้คือใครและคำแปลซับไทยอาจทำให้เข้าใจเป็นอื่น แต่จริงๆ แล้ว ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’ (青莲居士 / ชิงเหลียนจวีซื่อ) เป็นฉายาของกวีเอกสมัยถังหลี่ไป๋ และเป็นฉายาที่เราชาวไทยไม่คุ้นหู ซึ่งสาเหตุที่หลี่ไป๋ถูกเรียกขานเช่นนี้เป็นเพราะว่าบ้านเกิดของเขาคือหมู่บ้านชิงเหลียน (ปัจจุบันคือตำบลชิงเหลียน อำเภอจิ่นหยาง มณฑลเสฉวน) และกลอนบทที่พูดถึงในตอนนี้มีชื่อว่า ‘ซานจงอวี่โยวเหรินตุ้ยจั๋ว’ (山中与幽人对酌 แปลได้ว่าร่ำสุรากลางเขาคู่กับสหายผู้ปลีกวิเวก) ในบทกวีไม่ได้กล่าวถึงสีแดง แต่บรรยายถึงความสนุกสุขสันต์ที่ได้ร่ำสุรากับผู้รู้ใจท่ามกลางวิวดอกไม้บานเต็มเขา

    ต่อมาชุดที่สองนี้มีหลากเฉดสีเช่นแดง ชมพูและส้มเหลือง โดยบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวีของ ‘เลขาธิการหญิง’ (女校书 / หนี่ว์เจี้ยวซู) ซึ่งในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าคือใคร

    กวีที่ถูกกล่าวถึงนี้คือเซวียเทา (薛涛) ผู้ที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่กวีเอกสตรีแห่งราชวงศ์ถัง มีผลงานกว่าห้าร้อยชิ้น มีบทกลอนที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันกว่าเก้าสิบบท เกิดที่ฉางอันแต่ติดตามบิดาผู้เป็นขุนนางมารับราชการที่เมืองเฉิงตู นางได้รับการศึกษาอย่างดีและเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านดนตรีและบทกวี แต่งกลอนยาวได้ตั้งแต่อายุเพียงแปดปี เชี่ยวชาญด้านการออกเสียงและดนตรี

    เมื่อเซวียเทาอายุได้สิบสี่ปี บิดาของนางป่วยตายในระหว่างไปปฏิบัติหน้าที่ต่างเมือง นางและมารดาพยายามหาเลี้ยงชีพอย่างยากลำบาก ในที่สุดนางตัดสินใจเข้าเป็นนางคณิกาหลวงประเภทขับร้อง (ในสมัยนั้นเรียกว่า ‘เกอจี้’) เพื่อจะได้มีเงินเดือนหลวงยังชีพ โดยรับหน้าที่ขับร้องในงานเลี้ยงของทางการต่างๆ มีโอกาสได้แต่งบทกวีในงานเลี้ยงต่อหน้าขุนนางชั้นผู้ใหญ่จนเป็นที่โด่งดัง ต่อมาได้รับการเคารพยกย่องจากผู้คนมากมายด้วยความปราดเปรื่องด้านงานกวี และได้รู้จักสนิทสนมกับเหวยเกาเริ่น เจี๋ยตู้สื่อผู้ปกครองเขตพื้นที่นั้น

    เจี๋ยตู้สื่อเหวยเกาเริ่นชื่นชมผลงานและความสามารถของเซวียเทาถึงขนาดยื่นฎีกาต่อฮ่องเต้เพื่อขอให้แต่งตั้งนางเป็น ‘เจี้ยวซูหลาง’ (校书郎) ซึ่งเป็นตำแหน่งเลขาธิการผู้ดูแลงานด้านพิสูจน์อักษรของเอกสารทางการและบันทึกโบราณ จัดเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นที่เก้า แต่ไม่เคยมีสตรีดำรงตำแหน่งนี้มาก่อนจึงมีข้อจำกัดมากมาย สุดท้ายนางก็ไม่ได้รับการอนุมัติให้ดำรงตำแหน่งนี้ แต่อย่างไรก็ดีเรื่องที่นางได้รับการเสนอชื่อไม่ใช่ความลับ ชาวเมืองเฉิงตูจึงเรียกนางอย่างยกย่องว่า ‘เลขาธิการหญิง’ นั่นเอง

    บทกวีของเซวียเทาที่ถูกยกมากล่าวในซีรีส์นี้บรรยายถึงสีสันสวยงามบนแดนสวรรค์ที่แต่งแต้มจนดอกไม้ดารดาษมีสีสันสวยงาม แต่ที่ Storyฯ คิดว่าน่าสนใจยิ่งกว่าบทกวีนี้คือสีแดงที่เกี่ยวข้องกับเซวียเทา ว่ากันว่านางชื่นชอบสีแดงมาก มักแต่งกายด้วยสีแดง และได้คิดค้นกระดาษสีแดงขึ้นไว้สำหรับเขียนบทกลอนของตัวเอง บทกลอนบนกระดาษแดงสีพิเศษที่เขียนและลงนามโดยเซวียเทาถือว่าเป็นของที่มีค่าอันทรงเกียรติมากในสมัยนั้น โดยมีบางแผ่นมีลายวาดดอกไม้ที่บางคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นฝีมือการวาดของเซวียเทาเอง ต่อมากระดาษดังกล่าวเป็นที่นิยมแพร่หลายสำหรับชนชั้นมีการศึกษาในสมัยนั้นและกลายมาเป็นสินค้าที่นางผลิตขายยังชีพได้ในที่สุด เป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์จีนว่ากระดาษเซวียเทา (薛涛笺 / เซวียเทาเจียน โดย ‘เจียน’ เป็นคำเรียกทั่วไปของกระดาษเขียนหนังสือ)

    Storyฯ เคยเขียนถึงวิธีการทำกระดาษจีนโบราณในบทความอื่น (ดูลิ้งค์ได้ที่ท้ายเรื่อง) ซึ่งมีกรรมวิธีการทำคล้ายกระดาษสา และกวีโบราณหลายท่านจะทำกระดาษของตัวเองไว้ใช้จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เซวียเทาก็เช่นกัน หลังจากที่นางถอนตนออกจากการเป็นนางคณิกาหลวงแล้วก็พำนักอยู่ในบริเวณห่วนฮวาซีที่เมืองเฉิงตูนี้ (คือสถานที่ล้างไหมของนางเอกในซีรีส์ที่ Storyฯ เขียนถึงเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว) ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นแหล่งผลิตกระดาษชื่อดังในสมัยราชวงศ์ถังอีกด้วย ว่ากันว่าเป็นเพราะคุณสมบัติของแหล่งน้ำแถวนี้เหมาะสมต่อการผสมเยื่อกระดาษ และกระดาษเซวียเทาถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากระดาษห่วนฮวา (浣花笺 / ห่วนฮวาเจียน)

    เซวียเทาใช้น้ำจากลำธารห่วนฮวาซี เยื่อไม้จากเปลือกต้นพุดตาน และสีที่คั้นจากกลีบดอกพุดตานทำกระดาษเซวียเทานี้ จากงานเขียนของท่านอื่นในสมัยนั้นมีการกล่าวว่าจริงๆ แล้วเนื้อกระดาษเซวียเทาไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่มันมีความโดดเด่นด้วยสีของกระดาษที่สวยงามไม่มีใครเทียม และบางครั้งยังมีเศษดอกไม้อัดติดมาในกระดาษด้วย แต่สีของกระดาษที่แท้จริงแล้วนั้นเป็นสีอะไรยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจวบจนปัจจุบัน บ้างว่าเป็นสีชมพูแดงของดอกท้อซึ่งเป็นสีโปรดของนาง บ้างอ้างอิงจากกระดาษจริงของผลงานบทกวีของเซวียเทาที่มีคนสะสมไว้ พบว่ามีร่วมสิบเฉดสีไล่ไปตั้งแต่ชมพูแดง ม่วง ชมพูอมส้ม ส้มเขียว ส้มเหลือง จนถึงเหลืองนวล

    เซวียเทาเป็นหนึ่งบุคคลสำคัญที่เป็นความภาคภูมิใจของเมืองเฉิงตู มีรูปปั้นของนางตั้งอยู่ที่สวนวั่งเจียงโหลว เพื่อนเพจที่ไปเที่ยวเมืองเฉิงตูลองสังเกตดูนะคะ เผื่อว่าจะเห็นร่องรอยเกี่ยวกับเซวียเทาบ้าง

    ส่วนชุดที่สามในซีรีส์ นางเอกบอกไว้ว่าเป็นชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ (虞美人 / โฉมงามอวี๋) แต่ในซีรีส์ยังไม่ทันได้ท่องบทกวีนี้ก็เกิดเหตุการณ์อื่นขึ้นเสียก่อน

    บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ นี้มีวลีเด็ดที่หลายท่านอาจร้อง “อ๋อ” คือวลี ‘บุปผาวสันต์จันทราสารทฤดู’ Storyฯ เคยเขียนถึงบทกวีนี้เมื่อนานมาแล้วแต่ถูกลบไป เข้าใจว่าเป็นเพราะมันมีลิ้งค์ต้องห้าม เดี๋ยว Storyฯ จะแก้ไขและลงให้อ่านใหม่ในสัปดาห์หน้า ส่วนสีแดงที่เกี่ยวข้องก็คือสีแดงดอกป๊อปปี้ เพราะอวี๋เหม่ยเหรินคือชื่อเรียกของดอกป๊อปปี้ในภาษาจีนค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    ลิ้งค์บทความเกี่ยวกับกระดาษไป๋ลู่จากเรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/953057363489223

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.agentm.tw/310261/
    https://news.qq.com/rain/a/20200731A0U80V00
    https://www.yeeyi.com/news/details/629504/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/李白/1043
    https://baike.baidu.com/item/薛涛/2719
    http://scdfz.sc.gov.cn/scyx/scrw/sclsmr/depsclsmr/xt/content_40259
    https://baike.baidu.com/item/薛涛笺/5523904
    https://www.sohu.com/a/538839040_355475
    http://scdfz.sc.gov.cn/whzh/slzc1/content_105211#

    #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #เฉิงตู #สีแดงหงสู่ #บัณฑิตชิงเหลียน #เลขาธิการหญิง #โฉมงามอวี๋ #เซวียเทา #กระดาษจีนโบราณ #สาระจีน
    **คุยเรื่องสีแดงจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับบทกวีและสีแดงหลากเฉดที่ถูกนำมาใช้ในเรื่อง <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ซึ่งเดินเรื่องราวด้วยสูตรสีย้อมผ้าไหมสูจิ่นสีแดงของพ่อนางเอกที่ในเรื่องเรียกว่า ‘สู่หง’ ซึ่งถูกยกย่องขึ้นเป็นสุดยอดของสีแดงตามจินตนาการของผู้แต่งนิยายต้นฉบับ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่องนี้จะจำได้ว่าก่อนที่นางเอกจะค้นคว้าสูตรลับนี้ของพ่อขึ้นมาอีกได้สำเร็จ นางเอกได้พัฒนาสีแดงขึ้นสามสีโดยอธิบายว่า ‘สู่หง’ แท้จริงแล้วหมายถึงสีแดงจากพื้นที่สู่ (สองสัปดาห์ก่อนเรากล่าวถึงดินแดนแคว้นสู่ไปแล้วลองย้อนอ่านดูได้) และนางได้จัดงานแฟชั่นโชว์ขึ้นเพื่อแสดงชุดที่ทอจากไหมสามสีใหม่นี้ โดยนางและพี่ชายได้บรรยายถึงสีเหล่านี้ด้วยการกล่าวอิงกับบทกวี วันนี้เรามาคุยถึงเกร็ดวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในนี้กัน เริ่มจากชุดแรกที่นางเอกกล่าวว่าสีแดงนี้ได้อารมณ์อิสระและความมีชีวิตชีวาจากบทกวีของกวีผู้ที่นางเรียกว่า ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’ ในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าเขาผู้นี้คือใครและคำแปลซับไทยอาจทำให้เข้าใจเป็นอื่น แต่จริงๆ แล้ว ‘บัณฑิตจากชิงเหลียน’ (青莲居士 / ชิงเหลียนจวีซื่อ) เป็นฉายาของกวีเอกสมัยถังหลี่ไป๋ และเป็นฉายาที่เราชาวไทยไม่คุ้นหู ซึ่งสาเหตุที่หลี่ไป๋ถูกเรียกขานเช่นนี้เป็นเพราะว่าบ้านเกิดของเขาคือหมู่บ้านชิงเหลียน (ปัจจุบันคือตำบลชิงเหลียน อำเภอจิ่นหยาง มณฑลเสฉวน) และกลอนบทที่พูดถึงในตอนนี้มีชื่อว่า ‘ซานจงอวี่โยวเหรินตุ้ยจั๋ว’ (山中与幽人对酌 แปลได้ว่าร่ำสุรากลางเขาคู่กับสหายผู้ปลีกวิเวก) ในบทกวีไม่ได้กล่าวถึงสีแดง แต่บรรยายถึงความสนุกสุขสันต์ที่ได้ร่ำสุรากับผู้รู้ใจท่ามกลางวิวดอกไม้บานเต็มเขา ต่อมาชุดที่สองนี้มีหลากเฉดสีเช่นแดง ชมพูและส้มเหลือง โดยบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวีของ ‘เลขาธิการหญิง’ (女校书 / หนี่ว์เจี้ยวซู) ซึ่งในเรื่องไม่ได้กล่าวไว้ว่าคือใคร กวีที่ถูกกล่าวถึงนี้คือเซวียเทา (薛涛) ผู้ที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่กวีเอกสตรีแห่งราชวงศ์ถัง มีผลงานกว่าห้าร้อยชิ้น มีบทกลอนที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันกว่าเก้าสิบบท เกิดที่ฉางอันแต่ติดตามบิดาผู้เป็นขุนนางมารับราชการที่เมืองเฉิงตู นางได้รับการศึกษาอย่างดีและเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านดนตรีและบทกวี แต่งกลอนยาวได้ตั้งแต่อายุเพียงแปดปี เชี่ยวชาญด้านการออกเสียงและดนตรี เมื่อเซวียเทาอายุได้สิบสี่ปี บิดาของนางป่วยตายในระหว่างไปปฏิบัติหน้าที่ต่างเมือง นางและมารดาพยายามหาเลี้ยงชีพอย่างยากลำบาก ในที่สุดนางตัดสินใจเข้าเป็นนางคณิกาหลวงประเภทขับร้อง (ในสมัยนั้นเรียกว่า ‘เกอจี้’) เพื่อจะได้มีเงินเดือนหลวงยังชีพ โดยรับหน้าที่ขับร้องในงานเลี้ยงของทางการต่างๆ มีโอกาสได้แต่งบทกวีในงานเลี้ยงต่อหน้าขุนนางชั้นผู้ใหญ่จนเป็นที่โด่งดัง ต่อมาได้รับการเคารพยกย่องจากผู้คนมากมายด้วยความปราดเปรื่องด้านงานกวี และได้รู้จักสนิทสนมกับเหวยเกาเริ่น เจี๋ยตู้สื่อผู้ปกครองเขตพื้นที่นั้น เจี๋ยตู้สื่อเหวยเกาเริ่นชื่นชมผลงานและความสามารถของเซวียเทาถึงขนาดยื่นฎีกาต่อฮ่องเต้เพื่อขอให้แต่งตั้งนางเป็น ‘เจี้ยวซูหลาง’ (校书郎) ซึ่งเป็นตำแหน่งเลขาธิการผู้ดูแลงานด้านพิสูจน์อักษรของเอกสารทางการและบันทึกโบราณ จัดเป็นตำแหน่งขุนนางขั้นที่เก้า แต่ไม่เคยมีสตรีดำรงตำแหน่งนี้มาก่อนจึงมีข้อจำกัดมากมาย สุดท้ายนางก็ไม่ได้รับการอนุมัติให้ดำรงตำแหน่งนี้ แต่อย่างไรก็ดีเรื่องที่นางได้รับการเสนอชื่อไม่ใช่ความลับ ชาวเมืองเฉิงตูจึงเรียกนางอย่างยกย่องว่า ‘เลขาธิการหญิง’ นั่นเอง บทกวีของเซวียเทาที่ถูกยกมากล่าวในซีรีส์นี้บรรยายถึงสีสันสวยงามบนแดนสวรรค์ที่แต่งแต้มจนดอกไม้ดารดาษมีสีสันสวยงาม แต่ที่ Storyฯ คิดว่าน่าสนใจยิ่งกว่าบทกวีนี้คือสีแดงที่เกี่ยวข้องกับเซวียเทา ว่ากันว่านางชื่นชอบสีแดงมาก มักแต่งกายด้วยสีแดง และได้คิดค้นกระดาษสีแดงขึ้นไว้สำหรับเขียนบทกลอนของตัวเอง บทกลอนบนกระดาษแดงสีพิเศษที่เขียนและลงนามโดยเซวียเทาถือว่าเป็นของที่มีค่าอันทรงเกียรติมากในสมัยนั้น โดยมีบางแผ่นมีลายวาดดอกไม้ที่บางคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นฝีมือการวาดของเซวียเทาเอง ต่อมากระดาษดังกล่าวเป็นที่นิยมแพร่หลายสำหรับชนชั้นมีการศึกษาในสมัยนั้นและกลายมาเป็นสินค้าที่นางผลิตขายยังชีพได้ในที่สุด เป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์จีนว่ากระดาษเซวียเทา (薛涛笺 / เซวียเทาเจียน โดย ‘เจียน’ เป็นคำเรียกทั่วไปของกระดาษเขียนหนังสือ) Storyฯ เคยเขียนถึงวิธีการทำกระดาษจีนโบราณในบทความอื่น (ดูลิ้งค์ได้ที่ท้ายเรื่อง) ซึ่งมีกรรมวิธีการทำคล้ายกระดาษสา และกวีโบราณหลายท่านจะทำกระดาษของตัวเองไว้ใช้จนเกิดเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เซวียเทาก็เช่นกัน หลังจากที่นางถอนตนออกจากการเป็นนางคณิกาหลวงแล้วก็พำนักอยู่ในบริเวณห่วนฮวาซีที่เมืองเฉิงตูนี้ (คือสถานที่ล้างไหมของนางเอกในซีรีส์ที่ Storyฯ เขียนถึงเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว) ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นแหล่งผลิตกระดาษชื่อดังในสมัยราชวงศ์ถังอีกด้วย ว่ากันว่าเป็นเพราะคุณสมบัติของแหล่งน้ำแถวนี้เหมาะสมต่อการผสมเยื่อกระดาษ และกระดาษเซวียเทาถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากระดาษห่วนฮวา (浣花笺 / ห่วนฮวาเจียน) เซวียเทาใช้น้ำจากลำธารห่วนฮวาซี เยื่อไม้จากเปลือกต้นพุดตาน และสีที่คั้นจากกลีบดอกพุดตานทำกระดาษเซวียเทานี้ จากงานเขียนของท่านอื่นในสมัยนั้นมีการกล่าวว่าจริงๆ แล้วเนื้อกระดาษเซวียเทาไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่มันมีความโดดเด่นด้วยสีของกระดาษที่สวยงามไม่มีใครเทียม และบางครั้งยังมีเศษดอกไม้อัดติดมาในกระดาษด้วย แต่สีของกระดาษที่แท้จริงแล้วนั้นเป็นสีอะไรยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจวบจนปัจจุบัน บ้างว่าเป็นสีชมพูแดงของดอกท้อซึ่งเป็นสีโปรดของนาง บ้างอ้างอิงจากกระดาษจริงของผลงานบทกวีของเซวียเทาที่มีคนสะสมไว้ พบว่ามีร่วมสิบเฉดสีไล่ไปตั้งแต่ชมพูแดง ม่วง ชมพูอมส้ม ส้มเขียว ส้มเหลือง จนถึงเหลืองนวล เซวียเทาเป็นหนึ่งบุคคลสำคัญที่เป็นความภาคภูมิใจของเมืองเฉิงตู มีรูปปั้นของนางตั้งอยู่ที่สวนวั่งเจียงโหลว เพื่อนเพจที่ไปเที่ยวเมืองเฉิงตูลองสังเกตดูนะคะ เผื่อว่าจะเห็นร่องรอยเกี่ยวกับเซวียเทาบ้าง ส่วนชุดที่สามในซีรีส์ นางเอกบอกไว้ว่าเป็นชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ (虞美人 / โฉมงามอวี๋) แต่ในซีรีส์ยังไม่ทันได้ท่องบทกวีนี้ก็เกิดเหตุการณ์อื่นขึ้นเสียก่อน บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ นี้มีวลีเด็ดที่หลายท่านอาจร้อง “อ๋อ” คือวลี ‘บุปผาวสันต์จันทราสารทฤดู’ Storyฯ เคยเขียนถึงบทกวีนี้เมื่อนานมาแล้วแต่ถูกลบไป เข้าใจว่าเป็นเพราะมันมีลิ้งค์ต้องห้าม เดี๋ยว Storyฯ จะแก้ไขและลงให้อ่านใหม่ในสัปดาห์หน้า ส่วนสีแดงที่เกี่ยวข้องก็คือสีแดงดอกป๊อปปี้ เพราะอวี๋เหม่ยเหรินคือชื่อเรียกของดอกป๊อปปี้ในภาษาจีนค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) ลิ้งค์บทความเกี่ยวกับกระดาษไป๋ลู่จากเรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/953057363489223 Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.agentm.tw/310261/ https://news.qq.com/rain/a/20200731A0U80V00 https://www.yeeyi.com/news/details/629504/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/李白/1043 https://baike.baidu.com/item/薛涛/2719 http://scdfz.sc.gov.cn/scyx/scrw/sclsmr/depsclsmr/xt/content_40259 https://baike.baidu.com/item/薛涛笺/5523904 https://www.sohu.com/a/538839040_355475 http://scdfz.sc.gov.cn/whzh/slzc1/content_105211# #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #เฉิงตู #สีแดงหงสู่ #บัณฑิตชิงเหลียน #เลขาธิการหญิง #โฉมงามอวี๋ #เซวียเทา #กระดาษจีนโบราณ #สาระจีน
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 453 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ปรับ Game Bar บน Windows 11 ให้ใช้งานง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบที่ใกล้เคียงกับ Windows 11 และเพิ่มความสะดวกในการควบคุมผ่านตัวควบคุมเกม นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ใหม่บน Xbox Cloud Gaming ที่ทำให้ผู้เล่นเปลี่ยนเกมในซีรีส์ Assassin's Creed ได้อย่างรวดเร็ว อัปเดตเหล่านี้เหมาะสำหรับนักเล่นเกมบนพีซีและ Windows Handheld ที่ต้องการความสะดวกสบายและทันสมัย

    ปรับแต่งอินเทอร์เฟซใหม่:
    - ในโหมด "Default" ขนาดและการจัดวาง UI ต่าง ๆ เช่น Widget ที่เกี่ยวข้องกับการจับภาพ การตรวจสอบประสิทธิภาพ และการตั้งค่า ถูกปรับให้ใช้งานง่ายขึ้นด้วยการเพิ่มระยะห่างที่ชัดเจนระหว่างองค์ประกอบแต่ละส่วน.

    สีสันที่ปรับปรุงใหม่:
    - สีพื้นหลังของ Game Bar ถูกปรับเล็กน้อยให้ดูเหมาะสมและสอดคล้องกับธีมของ Windows 11 สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและทันสมัย.

    การนำไปใช้กับแพลตฟอร์มเกมบนคลาวด์:
    - Microsoft ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Xbox Cloud Gaming ที่ทำให้การสลับระหว่างเกมในซีรีส์ Assassin's Creed ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องออกจากเกมเพื่อกลับไปหน้าเมนูหลัก.

    อนาคตของการเล่นเกมบน Windows Handheld:
    - การปรับปรุง Game Bar ครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Microsoft ในการพัฒนาระบบสำหรับ Windows Handheld และพีซีพกพา เพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต.

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/microsoft-updates-the-windows-game-bar-to-be-more-user-friendly-with-pc-handhelds
    Microsoft ปรับ Game Bar บน Windows 11 ให้ใช้งานง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบที่ใกล้เคียงกับ Windows 11 และเพิ่มความสะดวกในการควบคุมผ่านตัวควบคุมเกม นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ใหม่บน Xbox Cloud Gaming ที่ทำให้ผู้เล่นเปลี่ยนเกมในซีรีส์ Assassin's Creed ได้อย่างรวดเร็ว อัปเดตเหล่านี้เหมาะสำหรับนักเล่นเกมบนพีซีและ Windows Handheld ที่ต้องการความสะดวกสบายและทันสมัย ปรับแต่งอินเทอร์เฟซใหม่: - ในโหมด "Default" ขนาดและการจัดวาง UI ต่าง ๆ เช่น Widget ที่เกี่ยวข้องกับการจับภาพ การตรวจสอบประสิทธิภาพ และการตั้งค่า ถูกปรับให้ใช้งานง่ายขึ้นด้วยการเพิ่มระยะห่างที่ชัดเจนระหว่างองค์ประกอบแต่ละส่วน. สีสันที่ปรับปรุงใหม่: - สีพื้นหลังของ Game Bar ถูกปรับเล็กน้อยให้ดูเหมาะสมและสอดคล้องกับธีมของ Windows 11 สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและทันสมัย. การนำไปใช้กับแพลตฟอร์มเกมบนคลาวด์: - Microsoft ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Xbox Cloud Gaming ที่ทำให้การสลับระหว่างเกมในซีรีส์ Assassin's Creed ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องออกจากเกมเพื่อกลับไปหน้าเมนูหลัก. อนาคตของการเล่นเกมบน Windows Handheld: - การปรับปรุง Game Bar ครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Microsoft ในการพัฒนาระบบสำหรับ Windows Handheld และพีซีพกพา เพื่อสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต. https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/microsoft-updates-the-windows-game-bar-to-be-more-user-friendly-with-pc-handhelds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อวี๋ซูซิน” นักแสดง-นักร้องสาวดาวดังชาวจีน โพสต์ IG เที่ยวฟิน- กินฉ่ำ ในเมืองไทย หลังเดินทางมาถ่ายทำซีรีส์เรื่องใหม่ในเมืองไทย ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นคงต้องติดตามกันต่อไป

    “อวี๋ซูซิน” หรือที่ใครหลาย ๆ คนรู้จักกันในนาม “เอสเธอร์ อวี๋” (Esther Yu) เป็นหนึ่งในนักแสดง นักร้อง ไอดอลสาวชาวจีนชื่อดัง เธอเปิดตัวจากการแสดงในละครเรื่อง Border Town Prodigal เมื่อปี 2016 และเธอได้รับการยอมรับจากบทบาทในละครฮิต Find Yourself (2020) Moonlight (2021) และ Love Between Fairy and Devil (2022) นอกจากนี้เธอยังเคยเดบิวต์เป็นสมาชิกของเกิร์ลกรุปจีน THE9 อีกด้วย

    ปัจจุบันอวี๋ซูซินมีผลงานการถ่ายทำซีรีส์อย่างต่อเนื่อง โดยซีรีส์ชื่อดังที่คนไทยรู้จักกันดี ได้แก่ เพลงรักใต้แสงจันทร์ ของรักของข้า เหนือเมฆาชะตาลิขิต เซียนกระบี่เปิดผนึกพิชิตชะตา ดารารักนิรันดร์ เป็นต้น

    นอกจากนี้ล่าสุดอวี๋ซูซินยังบินมาถ่ายทำซีรีส์เรื่องใหม่ในประเทศไทย ซึ่งเธอก็ได้โพสต์ IG บรรยากาศการเที่ยวฟิน- กินฉ่ำ ในเมืองไทยให้แฟน ๆ ได้ชมกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/travel/detail/9680000029276

    #MGROnline #YuShuXin #EstherYu​​​ #อวี๋ซูซิน #虞书欣
    “อวี๋ซูซิน” นักแสดง-นักร้องสาวดาวดังชาวจีน โพสต์ IG เที่ยวฟิน- กินฉ่ำ ในเมืองไทย หลังเดินทางมาถ่ายทำซีรีส์เรื่องใหม่ในเมืองไทย ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นคงต้องติดตามกันต่อไป • “อวี๋ซูซิน” หรือที่ใครหลาย ๆ คนรู้จักกันในนาม “เอสเธอร์ อวี๋” (Esther Yu) เป็นหนึ่งในนักแสดง นักร้อง ไอดอลสาวชาวจีนชื่อดัง เธอเปิดตัวจากการแสดงในละครเรื่อง Border Town Prodigal เมื่อปี 2016 และเธอได้รับการยอมรับจากบทบาทในละครฮิต Find Yourself (2020) Moonlight (2021) และ Love Between Fairy and Devil (2022) นอกจากนี้เธอยังเคยเดบิวต์เป็นสมาชิกของเกิร์ลกรุปจีน THE9 อีกด้วย • ปัจจุบันอวี๋ซูซินมีผลงานการถ่ายทำซีรีส์อย่างต่อเนื่อง โดยซีรีส์ชื่อดังที่คนไทยรู้จักกันดี ได้แก่ เพลงรักใต้แสงจันทร์ ของรักของข้า เหนือเมฆาชะตาลิขิต เซียนกระบี่เปิดผนึกพิชิตชะตา ดารารักนิรันดร์ เป็นต้น • นอกจากนี้ล่าสุดอวี๋ซูซินยังบินมาถ่ายทำซีรีส์เรื่องใหม่ในประเทศไทย ซึ่งเธอก็ได้โพสต์ IG บรรยากาศการเที่ยวฟิน- กินฉ่ำ ในเมืองไทยให้แฟน ๆ ได้ชมกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/travel/detail/9680000029276 • #MGROnline #YuShuXin #EstherYu​​​ #อวี๋ซูซิน #虞书欣
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 422 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้เปิดตัว G-Assist ฟีเจอร์ AI ที่ช่วยให้ผู้เล่นปรับแต่งประสิทธิภาพในเกม และเพิ่มการควบคุมระดับการขยายของ DLSS สำหรับความละเอียดภาพในเกม ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอและสีจาก Nvidia App ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ แม้ว่าฟีเจอร์นี้จะมีข้อจำกัดในการใช้งานกับการ์ดจอรุ่นสูงเท่านั้น แต่ก็เป็นก้าวสำคัญในด้านการพัฒนา AI ในเกมและฮาร์ดแวร์

    ความสามารถของ G-Assist:
    - ฟีเจอร์นี้ใช้โมเดล AI ชื่อ SLM (Small Language Model) ที่พัฒนาเพื่อทำงานเฉพาะ เช่น คำแนะนำเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ การปรับแต่งพัดลม หรือการปรับแสงของอุปกรณ์ โดยบางเกมยังมีการสนับสนุนเฉพาะสำหรับคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับเกมนั้น ๆ.

    DLSS Override สำหรับความยืดหยุ่น:
    - ฟีเจอร์ DLSS Super Resolution ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดระดับความละเอียดของภาพในเกมได้เอง แทนที่จะใช้ค่าเริ่มต้นจากไดรเวอร์ เช่น การปรับให้คุณภาพระดับ 60% ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความคมชัด.

    การปรับปรุงแอป Nvidia:
    - แอปนี้ได้รับการอัปเดตให้ครอบคลุมการตั้งค่าจาก Nvidia Control Panel เช่น การปรับสีและการปรับขนาดหน้าจอ ซึ่งช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่แอปพลิเคชันแยกต่างหาก.

    ข้อจำกัดของ G-Assist:
    - ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้เฉพาะกับกราฟิกการ์ดซีรีส์ RTX 30/40/50 ที่มี VRAM ขั้นต่ำ 12GB ทำให้ไม่สามารถใช้งานกับรุ่นระดับเริ่มต้น เช่น RTX 3060 Ti หรือ RTX 4060 Ti ได้.

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-releases-public-g-assist-in-latest-app-to-provide-in-game-ai-assistance-also-introduces-dlss-custom-scaling-factors
    Nvidia ได้เปิดตัว G-Assist ฟีเจอร์ AI ที่ช่วยให้ผู้เล่นปรับแต่งประสิทธิภาพในเกม และเพิ่มการควบคุมระดับการขยายของ DLSS สำหรับความละเอียดภาพในเกม ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอและสีจาก Nvidia App ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ แม้ว่าฟีเจอร์นี้จะมีข้อจำกัดในการใช้งานกับการ์ดจอรุ่นสูงเท่านั้น แต่ก็เป็นก้าวสำคัญในด้านการพัฒนา AI ในเกมและฮาร์ดแวร์ ความสามารถของ G-Assist: - ฟีเจอร์นี้ใช้โมเดล AI ชื่อ SLM (Small Language Model) ที่พัฒนาเพื่อทำงานเฉพาะ เช่น คำแนะนำเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ การปรับแต่งพัดลม หรือการปรับแสงของอุปกรณ์ โดยบางเกมยังมีการสนับสนุนเฉพาะสำหรับคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับเกมนั้น ๆ. DLSS Override สำหรับความยืดหยุ่น: - ฟีเจอร์ DLSS Super Resolution ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดระดับความละเอียดของภาพในเกมได้เอง แทนที่จะใช้ค่าเริ่มต้นจากไดรเวอร์ เช่น การปรับให้คุณภาพระดับ 60% ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความคมชัด. การปรับปรุงแอป Nvidia: - แอปนี้ได้รับการอัปเดตให้ครอบคลุมการตั้งค่าจาก Nvidia Control Panel เช่น การปรับสีและการปรับขนาดหน้าจอ ซึ่งช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่แอปพลิเคชันแยกต่างหาก. ข้อจำกัดของ G-Assist: - ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้เฉพาะกับกราฟิกการ์ดซีรีส์ RTX 30/40/50 ที่มี VRAM ขั้นต่ำ 12GB ทำให้ไม่สามารถใช้งานกับรุ่นระดับเริ่มต้น เช่น RTX 3060 Ti หรือ RTX 4060 Ti ได้. https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-releases-public-g-assist-in-latest-app-to-provide-in-game-ai-assistance-also-introduces-dlss-custom-scaling-factors
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้รายงานว่า AMD ได้ยืนยันถึงการเปิดตัว Strix Halo APU สำหรับเดสก์ท็อป ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการออกแบบสำหรับแล็ปท็อปและอุปกรณ์พกพา โดยชิป Strix Halo มาพร้อมกับ Zen 5 CPU และ RDNA 3.5 GPU เพื่อประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและเหมาะสำหรับมินิพีซี นอกจากนี้ AMD ยังเปิดเผยแผนการพัฒนาชิปในอนาคต เช่น Gorgon Point

    ความพิเศษของ Strix Halo APU:
    - รุ่นชั้นนำ เช่น Ryzen AI Max+ Pro 395 จะมีซีพียู Zen 5 จำนวน 16 คอร์ และ GPU Radeon 8060S พร้อมหน่วยประมวลผลแบบคำนวณ 40 ตัว ทำให้สามารถตอบสนองการใช้งานที่ต้องการกราฟิกสูง.

    ความสำเร็จของ AMD ในตลาดการ์ดจอ:
    - AMD เปิดเผยว่าซีรีส์ Radeon RX 9000 เป็นการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จสูงสุด โดยขายได้มากกว่ารุ่นก่อนถึง 10 เท่าในสัปดาห์แรก และยังมีแผนเปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น Radeon RX 9060.

    แผนพัฒนาในอนาคต: Gorgon Point:
    - ชิป Gorgon Point ซึ่งจะมาแทนที่ Strix Point สำหรับแล็ปท็อประดับสูงในอนาคต จะมีสเปกที่คล้ายกัน เช่น Zen 5, RDNA 3.5 GPU และ XDNA 2 NPU พร้อมแพ็กเกจ FP8 และ FP11 เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย.

    ทิศทางของ Zen 6 CPU:
    - แม้จะมีกระแสข่าวเกี่ยวกับ Zen 6 CPU ที่อาจเปิดตัวในปีหน้า แต่ไม่มีข้อมูลยืนยันในเอกสารที่รั่วไหล.

    https://www.techspot.com/news/107293-lisa-su-confirms-strix-halo-coming-desktops-gorgon.html
    ข่าวนี้รายงานว่า AMD ได้ยืนยันถึงการเปิดตัว Strix Halo APU สำหรับเดสก์ท็อป ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการออกแบบสำหรับแล็ปท็อปและอุปกรณ์พกพา โดยชิป Strix Halo มาพร้อมกับ Zen 5 CPU และ RDNA 3.5 GPU เพื่อประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและเหมาะสำหรับมินิพีซี นอกจากนี้ AMD ยังเปิดเผยแผนการพัฒนาชิปในอนาคต เช่น Gorgon Point ความพิเศษของ Strix Halo APU: - รุ่นชั้นนำ เช่น Ryzen AI Max+ Pro 395 จะมีซีพียู Zen 5 จำนวน 16 คอร์ และ GPU Radeon 8060S พร้อมหน่วยประมวลผลแบบคำนวณ 40 ตัว ทำให้สามารถตอบสนองการใช้งานที่ต้องการกราฟิกสูง. ความสำเร็จของ AMD ในตลาดการ์ดจอ: - AMD เปิดเผยว่าซีรีส์ Radeon RX 9000 เป็นการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จสูงสุด โดยขายได้มากกว่ารุ่นก่อนถึง 10 เท่าในสัปดาห์แรก และยังมีแผนเปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น Radeon RX 9060. แผนพัฒนาในอนาคต: Gorgon Point: - ชิป Gorgon Point ซึ่งจะมาแทนที่ Strix Point สำหรับแล็ปท็อประดับสูงในอนาคต จะมีสเปกที่คล้ายกัน เช่น Zen 5, RDNA 3.5 GPU และ XDNA 2 NPU พร้อมแพ็กเกจ FP8 และ FP11 เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย. ทิศทางของ Zen 6 CPU: - แม้จะมีกระแสข่าวเกี่ยวกับ Zen 6 CPU ที่อาจเปิดตัวในปีหน้า แต่ไม่มีข้อมูลยืนยันในเอกสารที่รั่วไหล. https://www.techspot.com/news/107293-lisa-su-confirms-strix-halo-coming-desktops-gorgon.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Lisa Su confirms Strix Halo APUs are coming to desktops, next-gen Gorgon Point tipped for 2026
    During a recent sitdown, Asus General Manager Tony Yu asked Lisa Su if AMD plans to bring its Strix Halo APUs to the desktop. The AMD CEO...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ลดราคาชิป Ryzen 9 9900X ลงถึง 25% ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มที่สุดตั้งแต่เปิดตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชิปประสิทธิภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยความเร็วสูงสุด 5.6GHz และค่าความคุ้มค่าต่อเงินที่ยอดเยี่ยม นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาเกมหรือผู้ที่ต้องการพลังประมวลผลสำหรับงานหนัก

    ประสิทธิภาพและจุดเด่น:
    - Ryzen 9 9900X มี 12 คอร์ ความเร็วพื้นฐาน 4.4GHz และความเร็วสูงสุดถึง 5.6GHz พร้อมแคช L3 12MB ซึ่งมอบประสิทธิภาพที่โดดเด่นในงานที่ต้องการการประมวลผลหนัก.

    ความคุ้มค่า:
    - ชิปตัวนี้มีค่าความคุ้มค่าต่อเงินที่สูงถึง 146 คะแนนต่อดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับซีรีส์อื่น ๆ โดยเฉพาะรุ่น Threadripper PRO 7995WX ซึ่งมีค่าเพียง 15 คะแนนต่อดอลลาร์.

    ราคาต่อคอร์:
    - ราคาต่อคอร์ของ Ryzen 9 9900X ลดลงมาเหลือเพียง $31.23 ซึ่งทำให้มันเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่ามากที่สุดในกลุ่ม Zen 5 CPUs.

    เปรียบเทียบกับ Ryzen รุ่นอื่น:
    - ในกลุ่ม Zen 5 Ryzen CPUs Ryzen 9 9900X ยังให้ความคุ้มค่ามากกว่า Ryzen 9 9950X (ซึ่งมี 16 คอร์) และ Ryzen 9 9950X3D ทั้งด้านประสิทธิภาพและราคาต่อคอร์.

    https://www.techradar.com/pro/i-analysed-25-amd-zen-4-and-zen-5-cpus-and-the-ryzen-9-9900x-is-the-best-of-them-all-right-now-heres-why
    AMD ลดราคาชิป Ryzen 9 9900X ลงถึง 25% ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มที่สุดตั้งแต่เปิดตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชิปประสิทธิภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยความเร็วสูงสุด 5.6GHz และค่าความคุ้มค่าต่อเงินที่ยอดเยี่ยม นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาเกมหรือผู้ที่ต้องการพลังประมวลผลสำหรับงานหนัก ประสิทธิภาพและจุดเด่น: - Ryzen 9 9900X มี 12 คอร์ ความเร็วพื้นฐาน 4.4GHz และความเร็วสูงสุดถึง 5.6GHz พร้อมแคช L3 12MB ซึ่งมอบประสิทธิภาพที่โดดเด่นในงานที่ต้องการการประมวลผลหนัก. ความคุ้มค่า: - ชิปตัวนี้มีค่าความคุ้มค่าต่อเงินที่สูงถึง 146 คะแนนต่อดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับซีรีส์อื่น ๆ โดยเฉพาะรุ่น Threadripper PRO 7995WX ซึ่งมีค่าเพียง 15 คะแนนต่อดอลลาร์. ราคาต่อคอร์: - ราคาต่อคอร์ของ Ryzen 9 9900X ลดลงมาเหลือเพียง $31.23 ซึ่งทำให้มันเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่ามากที่สุดในกลุ่ม Zen 5 CPUs. เปรียบเทียบกับ Ryzen รุ่นอื่น: - ในกลุ่ม Zen 5 Ryzen CPUs Ryzen 9 9900X ยังให้ความคุ้มค่ามากกว่า Ryzen 9 9950X (ซึ่งมี 16 คอร์) และ Ryzen 9 9950X3D ทั้งด้านประสิทธิภาพและราคาต่อคอร์. https://www.techradar.com/pro/i-analysed-25-amd-zen-4-and-zen-5-cpus-and-the-ryzen-9-9900x-is-the-best-of-them-all-right-now-heres-why
    WWW.TECHRADAR.COM
    Looking at performance per dollar, the Ryzen 9 9900X is the one that you must buy. Here's why
    The Ryzen 9 9900X is the best value for money CPU from AMD's stable for a wide variety of workloads
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arm เปิดตัว Accuracy Super Resolution ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตของเกมบนสมาร์ทโฟนและลดการใช้พลังงาน เทคโนโลยีนี้สร้างจาก AMD FSR 2 และมุ่งเน้นการใช้งานในอุปกรณ์พลังงานต่ำ นักพัฒนาสามารถปรับแต่งโค้ดได้แบบโอเพ่นซอร์ส อีกทั้งยังมีการเตรียมปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับตลาดเกมมือถือ

    การพัฒนาแบบเปิดเผยข้อมูล:
    - ASR เปิดตัวเป็นโค้ดโอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้อย่างอิสระ.
    - มีแผนปล่อยปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine ภายในสิ้นปี เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นสำหรับเกมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้.

    เปรียบเทียบกับคู่แข่ง:
    - ใช้วิธีการ temporal upscaling ที่ผสมผสานข้อมูลหลายเฟรม ช่วยสร้างภาพคุณภาพสูงกว่าระบบ spatial upscaling ของ Qualcomm Game Super Resolution (GSR).
    - ASR จับคู่กับชิปเซ็ตอย่าง MediaTek Dimensity 9300 ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้เล่นเกม.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมือถือ:
    - การเดโมใน GDC 2025 แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพถึง 30% ในการรันเกมผ่าน Unreal Engine 5 โดยไม่ลดคุณภาพกราฟิก.

    ความกว้างขวางในการใช้งาน:
    - ASR สามารถใช้งานได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น MediaTek Dimensity, Qualcomm Snapdragon, Samsung Exynos และแม้แต่ในแล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X ซีรีส์.

    https://www.techpowerup.com/334562/arm-releases-open-source-asr-upscaler-based-on-amd-fsr-2-technology
    Arm เปิดตัว Accuracy Super Resolution ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตของเกมบนสมาร์ทโฟนและลดการใช้พลังงาน เทคโนโลยีนี้สร้างจาก AMD FSR 2 และมุ่งเน้นการใช้งานในอุปกรณ์พลังงานต่ำ นักพัฒนาสามารถปรับแต่งโค้ดได้แบบโอเพ่นซอร์ส อีกทั้งยังมีการเตรียมปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับตลาดเกมมือถือ การพัฒนาแบบเปิดเผยข้อมูล: - ASR เปิดตัวเป็นโค้ดโอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้อย่างอิสระ. - มีแผนปล่อยปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine ภายในสิ้นปี เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นสำหรับเกมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้. เปรียบเทียบกับคู่แข่ง: - ใช้วิธีการ temporal upscaling ที่ผสมผสานข้อมูลหลายเฟรม ช่วยสร้างภาพคุณภาพสูงกว่าระบบ spatial upscaling ของ Qualcomm Game Super Resolution (GSR). - ASR จับคู่กับชิปเซ็ตอย่าง MediaTek Dimensity 9300 ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้เล่นเกม. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมือถือ: - การเดโมใน GDC 2025 แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพถึง 30% ในการรันเกมผ่าน Unreal Engine 5 โดยไม่ลดคุณภาพกราฟิก. ความกว้างขวางในการใช้งาน: - ASR สามารถใช้งานได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น MediaTek Dimensity, Qualcomm Snapdragon, Samsung Exynos และแม้แต่ในแล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X ซีรีส์. https://www.techpowerup.com/334562/arm-releases-open-source-asr-upscaler-based-on-amd-fsr-2-technology
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Arm Releases Open-Source ASR Upscaler Based on AMD FSR 2 Technology
    Arm has officially unveiled its Accuracy Super Resolution (ASR) upscaling technology at Game Developer Conference 2025, delivering an open-source upscaling solution for mobile and low-power devices. Built upon AMD's FidelityFX Super Resolution 2 (FSR 2) framework, ASR promises up to 53% higher frame...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple เตรียมเปิดตัวชิป A20 ใน iPhone 18 โดยใช้เทคโนโลยี 2 นาโนเมตรจาก TSMC ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ 15% และช่วยให้ใช้งานแบตเตอรี่นานขึ้นด้วยแบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอน รุ่นนี้อาจมีราคาสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต แต่จะมอบประสบการณ์ที่ทรงพลังและคุ้มค่า

    ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี:
    - ชิป A20 ถูกพัฒนาบนกระบวนการ 2 นาโนเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานอย่างมหาศาล แต่ค่าใช้จ่ายการผลิตสูงขึ้น โดยราคาเวเฟอร์คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ $30,000 ต่อแผ่น.
    - Apple อาจต้องเพิ่มราคาของ iPhone 18 ที่ใช้ชิป A20 เพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น.

    การใช้งานแบตเตอรี่แบบใหม่:
    - Apple สำรวจการใช้แบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนที่ช่วยเพิ่มความจุโดยไม่ทำให้อุปกรณ์หนาขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับชิป A20 จะช่วยให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานกว่าเดิม.

    การเปลี่ยนแปลงที่คาดหวังในรุ่น iPhone 18:
    - ซีรีส์นี้อาจมีการปรับปรุงเพื่อเน้นประสิทธิภาพและความยั่งยืน ทำให้ iPhone 18 เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในแง่ของเทคโนโลยีชิปและแบตเตอรี่.

    https://wccftech.com/apple-a20-rumored-to-be-15-percent-faster-than-a19-at-the-same-power-consumption/
    Apple เตรียมเปิดตัวชิป A20 ใน iPhone 18 โดยใช้เทคโนโลยี 2 นาโนเมตรจาก TSMC ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ 15% และช่วยให้ใช้งานแบตเตอรี่นานขึ้นด้วยแบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอน รุ่นนี้อาจมีราคาสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต แต่จะมอบประสบการณ์ที่ทรงพลังและคุ้มค่า ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี: - ชิป A20 ถูกพัฒนาบนกระบวนการ 2 นาโนเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานอย่างมหาศาล แต่ค่าใช้จ่ายการผลิตสูงขึ้น โดยราคาเวเฟอร์คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ $30,000 ต่อแผ่น. - Apple อาจต้องเพิ่มราคาของ iPhone 18 ที่ใช้ชิป A20 เพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น. การใช้งานแบตเตอรี่แบบใหม่: - Apple สำรวจการใช้แบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนที่ช่วยเพิ่มความจุโดยไม่ทำให้อุปกรณ์หนาขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับชิป A20 จะช่วยให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานกว่าเดิม. การเปลี่ยนแปลงที่คาดหวังในรุ่น iPhone 18: - ซีรีส์นี้อาจมีการปรับปรุงเพื่อเน้นประสิทธิภาพและความยั่งยืน ทำให้ iPhone 18 เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในแง่ของเทคโนโลยีชิปและแบตเตอรี่. https://wccftech.com/apple-a20-rumored-to-be-15-percent-faster-than-a19-at-the-same-power-consumption/
    WCCFTECH.COM
    Apple’s A20 For The iPhone 18 Series Rumored To Be 15 Percent Faster Than The A19 At The Same Power Consumption, Thanks To Upgrading To TSMC’s Next-Generation 2nm Process
    The benefit of switching to TSMC’s 2nm process is that Apple’s A20 is said to deliver 15 percent better performance than the A19
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เตรียมส่ง APU ใหม่ในชื่อ Gorgon Point "Ryzen AI" ที่ออกแบบมาสำหรับโน้ตบุ๊กพรีเมียม มีประสิทธิภาพสูงขึ้นพร้อมกำลังประมวลผล AI ที่เหนือกว่าเดิม ซีรีส์นี้ยังใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ RDNA 3.5 ในขณะที่ Medusa "Ryzen AI MAX" จะมาถึงปีหน้า พร้อม Zen 6 และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอีกขั้น ใครที่กำลังมองหา APU สำหรับงานหนักหรือการประมวลผล AI ต้องไม่พลาดการเปิดตัวครั้งนี้

    https://wccftech.com/amd-gorgon-point-ryzen-ai-refresh-apu-lineup-leak-higher-clocks-55-tops-npu-ryzen-ai-max-medusa-zen-6-confirmed/
    AMD เตรียมส่ง APU ใหม่ในชื่อ Gorgon Point "Ryzen AI" ที่ออกแบบมาสำหรับโน้ตบุ๊กพรีเมียม มีประสิทธิภาพสูงขึ้นพร้อมกำลังประมวลผล AI ที่เหนือกว่าเดิม ซีรีส์นี้ยังใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ RDNA 3.5 ในขณะที่ Medusa "Ryzen AI MAX" จะมาถึงปีหน้า พร้อม Zen 6 และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอีกขั้น ใครที่กำลังมองหา APU สำหรับงานหนักหรือการประมวลผล AI ต้องไม่พลาดการเปิดตัวครั้งนี้ https://wccftech.com/amd-gorgon-point-ryzen-ai-refresh-apu-lineup-leak-higher-clocks-55-tops-npu-ryzen-ai-max-medusa-zen-6-confirmed/
    WCCFTECH.COM
    AMD Gorgon Point "Ryzen AI" Refresh APU Lineup Leaks Out With Higher Clocks & Over 55 TOPS NPU, Ryzen AI MAX "Medusa/Zen 6" Series Confirmed
    AMD's refreshed Gorgon Point "Ryzen AI" APUs have leaked out, with the company also confirming next-gen Medusa "Ryzen AI MAX" Halo chips.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เตรียมส่งแบงก์ดอลลาร์ของแหม่มรัสเซียตรวจสอบจริงหรือปลอม หลังนำไปแลกร้านรับแลกระบุปลอม แต่นำเข้าเครื่องนับเงินอัตโนมัติ มีทั้งผ่านและไม่ผ่าน ผู้เชี่ยวชาญระบุยังบอกไม่ได้ ต้องส่งตรวจที่สำนักงานใหญ่

    จากกรณีเมื่อวันที่ 22 มี.ค.68 ที่ผ่านมา น.ส.เสาวลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้รับแลกธนบัตรชนิด 50 ดอลลาร์ จำนวน 6 ฉบับ คิดเป็นเงินไทย 9,750 บาท จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จากนั้นได้นำไปแลกที่ร้านแลกธนบัตร เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินไทย ที่จุดรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แต่พนักงานระบุว่าแบงก์ดอลลาร์ที่นำมาแลกเป็นแบงก์ปลอม ไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้ ต่อมาชาวต่างชาติ คนดังกล่าวได้มาแลกเงินที่ร้านของ น.ส.เสาวลักษณ์ อีกครั้ง น.ส.เสาวลักษณ์ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ให้เข้าตรวจสอบ หลังรับแจ้งจึงเข้าตรวจสอบ และอายัดเงินดอลลาร์ของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว พร้อมพาตัวไปตรวจสอบที่ห้องพัก พบมีแบงก์ดอลลาร์อีกจำนวนหนึ่ง

    หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ได้นำตัวนาง Ruspashkova อายุ 53 ปี สัญชาติรัสเซีย เจ้าของธนบัตรชนิด 50 ดอลลาร์ ซีรีส์ 2017 จำนวน 34 ฉบับ ธนบัตรชนิด 50 ดอลลาร์ ซีรีส์ 2009 จำนวน 1 ฉบับ ธนบัตรชนิด 50 ดอลลาร์ ซีรีส์ 2013 จำนวน 3 ฉบับ คิดเป็นเงินไทยกว่า 56,000 บาท ที่นำไปแลกที่ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในพื้นที่หมู่ 3 ต.วิชิต อ.เมือง มาตรวจสอบ โดยนำไปตรวจสอบเบื้องต้นด้วยเครื่องนับเงินอัตโนมัติ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9680000027838

    #MGROnline #ดอลลาร์ #รัสเซีย
    #ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เตรียมส่งแบงก์ดอลลาร์ของแหม่มรัสเซียตรวจสอบจริงหรือปลอม หลังนำไปแลกร้านรับแลกระบุปลอม แต่นำเข้าเครื่องนับเงินอัตโนมัติ มีทั้งผ่านและไม่ผ่าน ผู้เชี่ยวชาญระบุยังบอกไม่ได้ ต้องส่งตรวจที่สำนักงานใหญ่ • จากกรณีเมื่อวันที่ 22 มี.ค.68 ที่ผ่านมา น.ส.เสาวลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้รับแลกธนบัตรชนิด 50 ดอลลาร์ จำนวน 6 ฉบับ คิดเป็นเงินไทย 9,750 บาท จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จากนั้นได้นำไปแลกที่ร้านแลกธนบัตร เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินไทย ที่จุดรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แต่พนักงานระบุว่าแบงก์ดอลลาร์ที่นำมาแลกเป็นแบงก์ปลอม ไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้ ต่อมาชาวต่างชาติ คนดังกล่าวได้มาแลกเงินที่ร้านของ น.ส.เสาวลักษณ์ อีกครั้ง น.ส.เสาวลักษณ์ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ให้เข้าตรวจสอบ หลังรับแจ้งจึงเข้าตรวจสอบ และอายัดเงินดอลลาร์ของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว พร้อมพาตัวไปตรวจสอบที่ห้องพัก พบมีแบงก์ดอลลาร์อีกจำนวนหนึ่ง • หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ได้นำตัวนาง Ruspashkova อายุ 53 ปี สัญชาติรัสเซีย เจ้าของธนบัตรชนิด 50 ดอลลาร์ ซีรีส์ 2017 จำนวน 34 ฉบับ ธนบัตรชนิด 50 ดอลลาร์ ซีรีส์ 2009 จำนวน 1 ฉบับ ธนบัตรชนิด 50 ดอลลาร์ ซีรีส์ 2013 จำนวน 3 ฉบับ คิดเป็นเงินไทยกว่า 56,000 บาท ที่นำไปแลกที่ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในพื้นที่หมู่ 3 ต.วิชิต อ.เมือง มาตรวจสอบ โดยนำไปตรวจสอบเบื้องต้นด้วยเครื่องนับเงินอัตโนมัติ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9680000027838 • #MGROnline #ดอลลาร์ #รัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ Storyฯ ย้อนไปดูซีรีส์เก่า มีฉากหนึ่งในเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ที่เตะตา เพื่อนเพจที่เคยดูคงจำได้ว่าพระนางของเรื่องต้องผ่านด่านกลหมากปริวรรตเพื่อช่วงชิงสุดยอดวิชาหลันอิงปี้เยวี่ย ซึ่งเป็นการต่อสู้กับจิตใจของตนเอง โดยในด่านสุดท้ายนั้นพระเอกต้องตัดสายใยที่อยู่ในใจทั้งหมดทิ้ง แต่พระเอกเลือกที่จะเหลือสายใยไว้หนึ่งเส้นซึ่งก็คือสายใยที่มีต่อนางเอก พร้อมกับวลีที่ว่า “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม สายใยความวุ่นวายแห่งทางโลกสามพันเส้น ข้าเหลือไว้เส้นหนึ่งจะเป็นไรไป?” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า>

    วันนี้มาคุยกันสั้นๆ เรื่องวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” (รั่วสุ่ยซันเชียน จื๋อฉวี่อี้เผียว / 弱水三千只取一瓢) (หมายเหตุ ซันเชียน แปลว่า สามพัน เป็นที่เข้าใจว่าหมายถึงสามพันลี้)

    วลีนี้เคยถูกแปลไว้ว่า “แม่น้ำรั่วสามพันลี้ หนึ่งจอกดับกระหาย” เพื่อนเพจบางท่านอาจงงว่ามันต่างกันหรือไม่อย่างไร ขออธิบายก่อนว่า คำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณใช้หมายถึงลำธารที่อันตราบไม่สามารถใช้สัญจรได้ และ ‘รั่วสุ่ย’ ยังเป็นชื่อแม่น้ำสายหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ซานไห่จิงหรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ และแม่น้ำสายนี้ได้ถูกแปลมาเป็นภาษาไทยและอังกฤษว่า ‘แม่น้ำรั่ว’ นั่นเอง

    วลีนี้มีที่มาจากคำสอนทางศาสนาพุทธ เป็นนิทานว่าชายผู้ที่กำลังจะขาดน้ำตายเมื่อได้เห็นน้ำในลำธารก็โอดครวญอย่างเสียดายว่าน้ำทั้งลำธารจะดื่มอย่างไรหมด พระพุทธเจ้าจึงสอนว่าในชีวิตเรานั้นอาจพานพบหลากหลายสรรพสิ่งที่ดีงาม แต่เราไม่จำเป็นต้องครอบครองได้ทั้งหมด เพียงมีสิ่งเล็กๆ ที่สำคัญก็เพียงพอแล้ว ดังวลีนี้ที่เปรียบเปรยว่า น้ำในสายธารที่ทอดยาว ไม่จำเป็นต้องเอาน้ำมาดื่มใช้ให้หมด ขอเพียงหนึ่งชามก็พอยังชีพแล้ว

    แม้ว่าคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ จะมีมาแต่โบราณ แต่วรรคที่ว่า ‘รั่วสุ่ยซันเชียน’ หรือ ‘ธารน้ำสามพัน(ลี้)’ ในรูปประโยคอย่างนี้ แรกปรากฏให้เห็นในอมตะวรรณกรรมเรื่อง <ความฝันในหอแดง> โดยเป็นตอนที่พระเอกเจี๋ยเป่าอวี้ใช้วลีเต็ม “แม้ธารน้ำยาวสามพันลี้ ข้าก็จะขอตักเพียงหนึ่งชาม” เพื่อบอกต่อนางเอกหลินไต้อวี้ว่า แม้จะมีสตรีอื่นรายล้อมเพียงใด เขาขอเพียงนางคนเดียวมาเป็นคู่ครองก็พอใจแล้ว และต่อมาวลีนี้จึงกลายเป็นวลีอมตะที่บ่งบอกถึงรักอันมั่นคง รักเดียวใจเดียว

    และด้วยคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณแปลว่าสายธารที่อันตราย จึงมีการตีความวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” นี้เพิ่มเติมด้วยว่า กว่าจะตักน้ำนั้นมาได้หนึ่งชามก็ยากแสนยาก พึงเห็นคุณค่าของมันให้จงดี

    ดังนั้น จริงๆ แล้ววลีนี้ใช้ในบริบทอื่นก็ได้ เพื่อสื่อความหมายว่า ในบรรดาสรรพสิ่งมากมาย ขอเพียงได้ในสิ่งเดียวที่ตั้งใจที่มีคุณค่ามากมายต่อจิตใจเรา ก็เพียงพอแล้ว

    Storyฯ ถือโอกาสนี้แปะรูปมาให้แฟนคลับของหยางหยางดูว่า เขาไม่เพียงกล่าววลีนี้มาแล้วในละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> แต่เมื่อปี 2010 ยังเคยแสดงเป็นเจี๋ยเป่าอวี้ ในเรื่อง <ความฝันในหอแดง> ซึ่งเป็นต้นฉบับของวลีอมตะนี้ด้วย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://imgur.com/20Mx6mv
    http://yule.sohu.com/20160617/n454973158.shtml
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/弱水三千只取一瓢/96378
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=242a130850f0cbde411c456e&lemmaId=96378&fromLemmaModule=pcBottom&lemmaTitle=%E5%BC%B1%E6%B0%B4%E4%B8%89%E5%8D%83%E5%8F%AA%E5%8F%96%E4%B8%80%E7%93%A2&fromModule=lemma_bottom-tashuo-article
    https://www.sohu.com/a/325578545_594411

    #เทียบท้าปฐพี #แม่น้ำรั่ว #สายธารสามพันลี้
    ช่วงนี้ Storyฯ ย้อนไปดูซีรีส์เก่า มีฉากหนึ่งในเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ที่เตะตา เพื่อนเพจที่เคยดูคงจำได้ว่าพระนางของเรื่องต้องผ่านด่านกลหมากปริวรรตเพื่อช่วงชิงสุดยอดวิชาหลันอิงปี้เยวี่ย ซึ่งเป็นการต่อสู้กับจิตใจของตนเอง โดยในด่านสุดท้ายนั้นพระเอกต้องตัดสายใยที่อยู่ในใจทั้งหมดทิ้ง แต่พระเอกเลือกที่จะเหลือสายใยไว้หนึ่งเส้นซึ่งก็คือสายใยที่มีต่อนางเอก พร้อมกับวลีที่ว่า “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม สายใยความวุ่นวายแห่งทางโลกสามพันเส้น ข้าเหลือไว้เส้นหนึ่งจะเป็นไรไป?” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า> วันนี้มาคุยกันสั้นๆ เรื่องวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” (รั่วสุ่ยซันเชียน จื๋อฉวี่อี้เผียว / 弱水三千只取一瓢) (หมายเหตุ ซันเชียน แปลว่า สามพัน เป็นที่เข้าใจว่าหมายถึงสามพันลี้) วลีนี้เคยถูกแปลไว้ว่า “แม่น้ำรั่วสามพันลี้ หนึ่งจอกดับกระหาย” เพื่อนเพจบางท่านอาจงงว่ามันต่างกันหรือไม่อย่างไร ขออธิบายก่อนว่า คำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณใช้หมายถึงลำธารที่อันตราบไม่สามารถใช้สัญจรได้ และ ‘รั่วสุ่ย’ ยังเป็นชื่อแม่น้ำสายหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ซานไห่จิงหรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ และแม่น้ำสายนี้ได้ถูกแปลมาเป็นภาษาไทยและอังกฤษว่า ‘แม่น้ำรั่ว’ นั่นเอง วลีนี้มีที่มาจากคำสอนทางศาสนาพุทธ เป็นนิทานว่าชายผู้ที่กำลังจะขาดน้ำตายเมื่อได้เห็นน้ำในลำธารก็โอดครวญอย่างเสียดายว่าน้ำทั้งลำธารจะดื่มอย่างไรหมด พระพุทธเจ้าจึงสอนว่าในชีวิตเรานั้นอาจพานพบหลากหลายสรรพสิ่งที่ดีงาม แต่เราไม่จำเป็นต้องครอบครองได้ทั้งหมด เพียงมีสิ่งเล็กๆ ที่สำคัญก็เพียงพอแล้ว ดังวลีนี้ที่เปรียบเปรยว่า น้ำในสายธารที่ทอดยาว ไม่จำเป็นต้องเอาน้ำมาดื่มใช้ให้หมด ขอเพียงหนึ่งชามก็พอยังชีพแล้ว แม้ว่าคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ จะมีมาแต่โบราณ แต่วรรคที่ว่า ‘รั่วสุ่ยซันเชียน’ หรือ ‘ธารน้ำสามพัน(ลี้)’ ในรูปประโยคอย่างนี้ แรกปรากฏให้เห็นในอมตะวรรณกรรมเรื่อง <ความฝันในหอแดง> โดยเป็นตอนที่พระเอกเจี๋ยเป่าอวี้ใช้วลีเต็ม “แม้ธารน้ำยาวสามพันลี้ ข้าก็จะขอตักเพียงหนึ่งชาม” เพื่อบอกต่อนางเอกหลินไต้อวี้ว่า แม้จะมีสตรีอื่นรายล้อมเพียงใด เขาขอเพียงนางคนเดียวมาเป็นคู่ครองก็พอใจแล้ว และต่อมาวลีนี้จึงกลายเป็นวลีอมตะที่บ่งบอกถึงรักอันมั่นคง รักเดียวใจเดียว และด้วยคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณแปลว่าสายธารที่อันตราย จึงมีการตีความวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” นี้เพิ่มเติมด้วยว่า กว่าจะตักน้ำนั้นมาได้หนึ่งชามก็ยากแสนยาก พึงเห็นคุณค่าของมันให้จงดี ดังนั้น จริงๆ แล้ววลีนี้ใช้ในบริบทอื่นก็ได้ เพื่อสื่อความหมายว่า ในบรรดาสรรพสิ่งมากมาย ขอเพียงได้ในสิ่งเดียวที่ตั้งใจที่มีคุณค่ามากมายต่อจิตใจเรา ก็เพียงพอแล้ว Storyฯ ถือโอกาสนี้แปะรูปมาให้แฟนคลับของหยางหยางดูว่า เขาไม่เพียงกล่าววลีนี้มาแล้วในละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> แต่เมื่อปี 2010 ยังเคยแสดงเป็นเจี๋ยเป่าอวี้ ในเรื่อง <ความฝันในหอแดง> ซึ่งเป็นต้นฉบับของวลีอมตะนี้ด้วย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://imgur.com/20Mx6mv http://yule.sohu.com/20160617/n454973158.shtml Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/弱水三千只取一瓢/96378 https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=242a130850f0cbde411c456e&lemmaId=96378&fromLemmaModule=pcBottom&lemmaTitle=%E5%BC%B1%E6%B0%B4%E4%B8%89%E5%8D%83%E5%8F%AA%E5%8F%96%E4%B8%80%E7%93%A2&fromModule=lemma_bottom-tashuo-article https://www.sohu.com/a/325578545_594411 #เทียบท้าปฐพี #แม่น้ำรั่ว #สายธารสามพันลี้
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ

    ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2)

    นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น!

    ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู

    เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร

    แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s

    เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html
    https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424
    https://j.021east.com/p/1652758642049238
    https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html
    https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯
    https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725
    https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990
    https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s
    https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s
    https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html

    #ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2) นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น! ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424 https://j.021east.com/p/1652758642049238 https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯 https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725 https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990 https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html #ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 630 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ทำเซอร์ไพรส์อีกครั้งหลังเปิดตัวการ์ดจอซีรีส์ Radeon RX 9000 โดยขายออกไปกว่า 200,000 ชิ้นในเวลาอันสั้น แต่ความต้องการที่สูงเกินคาดทำให้การ์ดเหล่านี้หายาก ราคาพุ่งสูงกว่าที่ AMD ตั้งไว้ถึงสองเท่า แม้จะมีเสียงตำหนิเรื่องราคา แต่ AMD ก็ยืนยันว่าจะเร่งกำลังผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งคาดว่าเราจะเห็นสถานการณ์ดีขึ้นหลังเดือนพฤษภาคม

    https://www.techspot.com/news/107212-amd-has-sold-over-200000-radeon-rx-9000.html
    AMD ทำเซอร์ไพรส์อีกครั้งหลังเปิดตัวการ์ดจอซีรีส์ Radeon RX 9000 โดยขายออกไปกว่า 200,000 ชิ้นในเวลาอันสั้น แต่ความต้องการที่สูงเกินคาดทำให้การ์ดเหล่านี้หายาก ราคาพุ่งสูงกว่าที่ AMD ตั้งไว้ถึงสองเท่า แม้จะมีเสียงตำหนิเรื่องราคา แต่ AMD ก็ยืนยันว่าจะเร่งกำลังผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งคาดว่าเราจะเห็นสถานการณ์ดีขึ้นหลังเดือนพฤษภาคม https://www.techspot.com/news/107212-amd-has-sold-over-200000-radeon-rx-9000.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD says it's sold over 200,000 Radeon RX 9000 series graphics cards since launch
    At the AI PC summit in Beijing, AMD claimed that its board partners have shipped more than 200,000 of its Radeon RX 9070 and Radeon RX 9070...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • Qualcomm เปิดตัวชิปสำหรับเกมพกพารุ่นใหม่ในซีรีส์ Snapdragon G ที่ไม่ใช่แค่แรงกว่า แต่ยังรองรับเทคโนโลยีล้ำ ๆ อย่าง Ray Tracing และ QHD+ กับ Refresh Rate สูงสุด 144 Hz อุปกรณ์ใหม่จาก Ayaneo และ Retroid Pocket ที่ใช้ชิปเหล่านี้ยังออกแบบมาอย่างน่าประทับใจ โดยตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์ที่เน้นประสิทธิภาพและคนที่ชอบอุปกรณ์สไตล์ Retro เห็นได้ชัดว่า Qualcomm ตั้งเป้าจะท้าชนทั้ง Intel และ AMD ในตลาดนี้เลย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/qualcomm-debuts-new-snapdragon-g-handheld-gaming-pc-chips-to-compete-with-intel-and-amd
    Qualcomm เปิดตัวชิปสำหรับเกมพกพารุ่นใหม่ในซีรีส์ Snapdragon G ที่ไม่ใช่แค่แรงกว่า แต่ยังรองรับเทคโนโลยีล้ำ ๆ อย่าง Ray Tracing และ QHD+ กับ Refresh Rate สูงสุด 144 Hz อุปกรณ์ใหม่จาก Ayaneo และ Retroid Pocket ที่ใช้ชิปเหล่านี้ยังออกแบบมาอย่างน่าประทับใจ โดยตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์ที่เน้นประสิทธิภาพและคนที่ชอบอุปกรณ์สไตล์ Retro เห็นได้ชัดว่า Qualcomm ตั้งเป้าจะท้าชนทั้ง Intel และ AMD ในตลาดนี้เลย https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/qualcomm-debuts-new-snapdragon-g-handheld-gaming-pc-chips-to-compete-with-intel-and-amd
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Qualcomm debuts new Snapdragon G handheld gaming PC chips to compete with Intel and AMD
    Snapdragon G3 Gen 3, Snapdragon G2 Gen 2, and Snapdragon G1 Gen 2 enter the ring.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้มีกระแสเรื่องหนังสือเรียนเด็กชั้นประถมบ้านเรา ทำให้ Storyฯ เกิด ‘เอ๊ะ’ ว่าแล้วในสมัยจีนโบราณ เด็กๆ เรียนอะไร ผ่านตาในซีรีส์ก็จะเห็นเด็กท่องกันไปยาวๆ อย่างเช่นใน <สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบลี้> ตอนที่พระเอกลงไปผ่านด่านเคราะห์ในโลกมนุษย์

    วันนี้เลยมาคุยกันคร่าวๆ เรื่องการศึกษาของเด็กในสมัยจีนโบราณ ซึ่งโดยรวมเรียกว่า ‘เหมิงเสวี๋ย’ (蒙学) หมายถึงการเรียนเพื่อปูพื้นฐานหรือก็คือการเรียนของเด็ก

    เริ่มกันจากที่ว่า เขาเริ่มเข้าเรียนกันตอนอายุเท่าไหร่? เรื่องอายุการเริ่มเรียนมีเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยพร้อมๆ กับการจัดระเบียบด้านการศึกษา เดิมเด็กๆ เริ่มเรียนกันได้ตั้งแต่สี่ขวบ เข้าเรียนได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วงและฤดูหนาว (ต่อมาในสมัยราชวงศ์เหนือใต้จึงเปลี่ยนมาเป็นเปิดเทอมตอนฤดูหนาวเป็นหลัก) ต่อมาในสมัยถังเริ่มเรียนกันที่ 6-7 ขวบ ต่อมาสมัยหมิงและชิงมีจัดตั้งโรงเรียนให้ประชาชนได้เรียนกันอย่างแพร่หลายโดยมีช่วงอายุ 8-15 ปี

    แล้วเขาเรียนอะไร? ตั้งแต่สมัยโบราณมีการแบ่งแยกการสอนเด็กเล็กและเด็กโตโดยจัดเนื้อหาแตกต่างกัน มีตัวอย่างให้เห็นจากการเรียนของราชนิกุลสมัยราชวงศ์เซี่ย ซังและโจว แม้แต่ในบทสอนของขงจื๊อก็มีการแยกระหว่างเด็กเล็กเด็กโต สำหรับเด็กเล็กเน้นให้อ่านออกเขียนได้ โตขึ้นอีกหน่อยก็เริ่มเรียนพวกบทกวีและบทความและปูพื้นฐานสำหรับเรียน ‘สี่หนังสือ’ (ซื่อซู/四书) ว่าด้วยปรัชญาต่างๆ ของขงจื้อเมื่อโตขึ้นอีกหน่อย

    แต่อย่าลืมว่าการเรียนหนังสือแต่เดิมเป็นเอกสิทธิ์ของราชนิกูลและลูกหลานตระกูลผู้ดีหรือลูกหลานข้าราชการ ต่อมาจึงมีการเปิดโรงเรียนทั้งของรัฐบาลและเอกชน และมีการพัฒนาเอกสารการเรียนการสอนมากขึ้น นับแต่สมัยซ่งมา หนังสือสำหรับเด็กเล็กที่สำคัญและใช้เป็นหลัก เดิมมีอยู่สามเล่ม เรียกรวมว่า ‘สามร้อยพัน’ (ซานป่ายเชียน/三百千) ต่อมาเพิ่มมาอีก ‘พัน’ เป็น ‘สามร้อยพันพัน’ (ซานป่ายเชียนเชียน/三百千千) สรุปได้ดังนี้

    - ‘สาม’ หมายถึง ‘คัมภีร์สามอักษร’ (ซานจื้อจิง /三字经) เป็นตำราที่มีขึ้นในสมัยซ่งใต้ มีทั้งหมด 1,722 อักษร (โอ้โห... สงสารเด็กเลย!) เนื้อหารวมความรู้พื้นฐานเช่น ประวัติศาสตร์สำคัญ ความรู้ทั่วไป (เช่นทิศ เวลา ฤดูกาล) และหลักคุณธรรม ลักษณะการเขียนแบ่งเป็นวรรคละสามอักษร ประโยคละสองวรรค วรรคแรกคือเนื้อหาที่ต้องการกล่าวถึง วรรคหลังคือคำอธิบายเหตุผลหรือสาระของมัน เช่น ตัวอย่างสองประโยคแรก อธิบายว่า อันคนเรานั้นแต่เดิมมีจิตใจดี นิสัยใจคอธรรมชาติให้มาใกล้เคียงกัน แต่เมื่อฝึกฝนกันไปความแตกต่างก็จะยิ่งมากขึ้น เป็นต้น มีเว็บไทยอธิบายไว้ ลองไปอ่านดูนะคะ (https://pasajeen.com/three-character-classic/)
    - ‘ร้อย’ หมายถึง ‘หนึ่งร้อยแซ่’ (ป่ายเจียซิ่ง / 百家姓) แต่จริงๆ รวมไว้ทั้งหมด 504 แซ่ มีมาแต่สมัยซ่งเหนือ ไว้ให้หัดจำตัวอักษร แฝงไว้ซึ่งความสำคัญของวงศ์ตระกูล (สงสารเด็กอีกแล้ว อักษรจีนจำยากนะ)
    - ‘พัน’ หมายถึง ‘บทความพันอักษร’ (เชียนจื้อเหวิน / 千字文) เป็นหนังสือโบราณตั้งแต่ยุคราชวงศ์ใต้ (ค.ศ. 502-549) โดยครั้งนั้นฮ่องเต้เหลียงอู่ตี้ให้ขุนนางเลือกอักษรออกมาหนึ่งพันตัว แล้วเอามาเรียงร้อยจนได้เป็นบทความ แบ่งเป็นวรรคละสี่อักษร Storyฯ ได้ลองอ่านแล้วถึงกับถอดใจว่าอ่านเข้าใจยากมาก ต้องไปอ่านที่เขาแปลมาให้เข้าใจง่ายๆ อีกที สรุปใจความประมาณว่าธาตุทั้งหลายก่อเกิดเป็นสรรพสิ่ง สอดแทรกความรู้ทั่วไปเข้าไปเช่นว่า น้ำทะเลนั้นเค็ม น้ำจืดนั้นรสจาง เล่าต่อเป็นเรื่องการปกครองแว่นแคว้นให้ประชาชนอยู่อย่างสงบสุข สอดแทรกหลักคุณธรรมของกษัตริย์ เล่าเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ สอดแทรกแนวปฏิบัติเช่น ความกตัญญูต่อพ่อแม่ การวางตัวให้มีจริยธรรม การแต่งกายอย่างสะอาดสุภาพ ฯลฯ
    - อีก ‘พัน’ สุดท้ายคือ ‘บทกวีพันเรือน’ (เชียนเจียซือ /千家诗) จัดทำขึ้นในสมัยชิง เป็นหนังสือที่รวบรวมบทกวีและวลีเด็ดของยุคสมัยถังและซ่ง (แม้จะมีของสมัยหยวนและหมิงปนมาบ้างแต่น้อยมาก) รวมทั้งสิ้น 226 ชิ้นงาน เน้นการสอนอ่านให้คล่อง ออกเสียงให้ชัด และมีจังหวะจะโคน

    หนังสือเรียนเด็กยังมีอีกไม่น้อย ใครท่องได้ไวเรียนเก่งก็พัฒนาไวไปจนอ่านบันทึกพิธีการโจวหลี่และซื่อซูของขงจื๊อได้แม้จะเป็นแค่เด็กตัวกะเปี๊ยก แต่แค่ที่เขียนมาข้างต้น Storyฯ ก็รู้สึกเหนื่อยแทนแล้ว มิน่าล่ะ เราถึงเห็นฉากในละครบ่อยๆ เวลาเด็กท่องหนังสือก็ร่ายกันไปยาวๆ หัวก็โคลงหมุนไปตามจังหวะการท่องด้วย แล้วเพื่อนเพจล่ะคะ รู้สึกยังไงกันบ้าง?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    http://www.fakutownee.cn/wenti/yule/16786.html
    https://www.sohu.com/a/584299187_161835
    https://wang-tobeboss.com/archives/1449
    https://www.hrxfw.com/fjbk/fjdj/2682.html
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/323332934
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/三百千千/10984837
    https://www.lzs100.com/post/565.html
    https://www.sohu.com/a/584299187_161835
    https://baike.baidu.com/item/蒙学/5024354

    #หนังสือเรียนจีนโบราณ #เหมิงเสวี๋ย #คัมภีร์สามอักษร #ซานจื้อจิง #ร้อยตระกูล #ร้อยแซ่ #ป่ายเจียซิ่ง #พันอักษร #เชียนจื้อเหวิน #กวีพันเรือน #เชียนเจียซือ
    ช่วงนี้มีกระแสเรื่องหนังสือเรียนเด็กชั้นประถมบ้านเรา ทำให้ Storyฯ เกิด ‘เอ๊ะ’ ว่าแล้วในสมัยจีนโบราณ เด็กๆ เรียนอะไร ผ่านตาในซีรีส์ก็จะเห็นเด็กท่องกันไปยาวๆ อย่างเช่นใน <สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบลี้> ตอนที่พระเอกลงไปผ่านด่านเคราะห์ในโลกมนุษย์ วันนี้เลยมาคุยกันคร่าวๆ เรื่องการศึกษาของเด็กในสมัยจีนโบราณ ซึ่งโดยรวมเรียกว่า ‘เหมิงเสวี๋ย’ (蒙学) หมายถึงการเรียนเพื่อปูพื้นฐานหรือก็คือการเรียนของเด็ก เริ่มกันจากที่ว่า เขาเริ่มเข้าเรียนกันตอนอายุเท่าไหร่? เรื่องอายุการเริ่มเรียนมีเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยพร้อมๆ กับการจัดระเบียบด้านการศึกษา เดิมเด็กๆ เริ่มเรียนกันได้ตั้งแต่สี่ขวบ เข้าเรียนได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วงและฤดูหนาว (ต่อมาในสมัยราชวงศ์เหนือใต้จึงเปลี่ยนมาเป็นเปิดเทอมตอนฤดูหนาวเป็นหลัก) ต่อมาในสมัยถังเริ่มเรียนกันที่ 6-7 ขวบ ต่อมาสมัยหมิงและชิงมีจัดตั้งโรงเรียนให้ประชาชนได้เรียนกันอย่างแพร่หลายโดยมีช่วงอายุ 8-15 ปี แล้วเขาเรียนอะไร? ตั้งแต่สมัยโบราณมีการแบ่งแยกการสอนเด็กเล็กและเด็กโตโดยจัดเนื้อหาแตกต่างกัน มีตัวอย่างให้เห็นจากการเรียนของราชนิกุลสมัยราชวงศ์เซี่ย ซังและโจว แม้แต่ในบทสอนของขงจื๊อก็มีการแยกระหว่างเด็กเล็กเด็กโต สำหรับเด็กเล็กเน้นให้อ่านออกเขียนได้ โตขึ้นอีกหน่อยก็เริ่มเรียนพวกบทกวีและบทความและปูพื้นฐานสำหรับเรียน ‘สี่หนังสือ’ (ซื่อซู/四书) ว่าด้วยปรัชญาต่างๆ ของขงจื้อเมื่อโตขึ้นอีกหน่อย แต่อย่าลืมว่าการเรียนหนังสือแต่เดิมเป็นเอกสิทธิ์ของราชนิกูลและลูกหลานตระกูลผู้ดีหรือลูกหลานข้าราชการ ต่อมาจึงมีการเปิดโรงเรียนทั้งของรัฐบาลและเอกชน และมีการพัฒนาเอกสารการเรียนการสอนมากขึ้น นับแต่สมัยซ่งมา หนังสือสำหรับเด็กเล็กที่สำคัญและใช้เป็นหลัก เดิมมีอยู่สามเล่ม เรียกรวมว่า ‘สามร้อยพัน’ (ซานป่ายเชียน/三百千) ต่อมาเพิ่มมาอีก ‘พัน’ เป็น ‘สามร้อยพันพัน’ (ซานป่ายเชียนเชียน/三百千千) สรุปได้ดังนี้ - ‘สาม’ หมายถึง ‘คัมภีร์สามอักษร’ (ซานจื้อจิง /三字经) เป็นตำราที่มีขึ้นในสมัยซ่งใต้ มีทั้งหมด 1,722 อักษร (โอ้โห... สงสารเด็กเลย!) เนื้อหารวมความรู้พื้นฐานเช่น ประวัติศาสตร์สำคัญ ความรู้ทั่วไป (เช่นทิศ เวลา ฤดูกาล) และหลักคุณธรรม ลักษณะการเขียนแบ่งเป็นวรรคละสามอักษร ประโยคละสองวรรค วรรคแรกคือเนื้อหาที่ต้องการกล่าวถึง วรรคหลังคือคำอธิบายเหตุผลหรือสาระของมัน เช่น ตัวอย่างสองประโยคแรก อธิบายว่า อันคนเรานั้นแต่เดิมมีจิตใจดี นิสัยใจคอธรรมชาติให้มาใกล้เคียงกัน แต่เมื่อฝึกฝนกันไปความแตกต่างก็จะยิ่งมากขึ้น เป็นต้น มีเว็บไทยอธิบายไว้ ลองไปอ่านดูนะคะ (https://pasajeen.com/three-character-classic/) - ‘ร้อย’ หมายถึง ‘หนึ่งร้อยแซ่’ (ป่ายเจียซิ่ง / 百家姓) แต่จริงๆ รวมไว้ทั้งหมด 504 แซ่ มีมาแต่สมัยซ่งเหนือ ไว้ให้หัดจำตัวอักษร แฝงไว้ซึ่งความสำคัญของวงศ์ตระกูล (สงสารเด็กอีกแล้ว อักษรจีนจำยากนะ) - ‘พัน’ หมายถึง ‘บทความพันอักษร’ (เชียนจื้อเหวิน / 千字文) เป็นหนังสือโบราณตั้งแต่ยุคราชวงศ์ใต้ (ค.ศ. 502-549) โดยครั้งนั้นฮ่องเต้เหลียงอู่ตี้ให้ขุนนางเลือกอักษรออกมาหนึ่งพันตัว แล้วเอามาเรียงร้อยจนได้เป็นบทความ แบ่งเป็นวรรคละสี่อักษร Storyฯ ได้ลองอ่านแล้วถึงกับถอดใจว่าอ่านเข้าใจยากมาก ต้องไปอ่านที่เขาแปลมาให้เข้าใจง่ายๆ อีกที สรุปใจความประมาณว่าธาตุทั้งหลายก่อเกิดเป็นสรรพสิ่ง สอดแทรกความรู้ทั่วไปเข้าไปเช่นว่า น้ำทะเลนั้นเค็ม น้ำจืดนั้นรสจาง เล่าต่อเป็นเรื่องการปกครองแว่นแคว้นให้ประชาชนอยู่อย่างสงบสุข สอดแทรกหลักคุณธรรมของกษัตริย์ เล่าเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ สอดแทรกแนวปฏิบัติเช่น ความกตัญญูต่อพ่อแม่ การวางตัวให้มีจริยธรรม การแต่งกายอย่างสะอาดสุภาพ ฯลฯ - อีก ‘พัน’ สุดท้ายคือ ‘บทกวีพันเรือน’ (เชียนเจียซือ /千家诗) จัดทำขึ้นในสมัยชิง เป็นหนังสือที่รวบรวมบทกวีและวลีเด็ดของยุคสมัยถังและซ่ง (แม้จะมีของสมัยหยวนและหมิงปนมาบ้างแต่น้อยมาก) รวมทั้งสิ้น 226 ชิ้นงาน เน้นการสอนอ่านให้คล่อง ออกเสียงให้ชัด และมีจังหวะจะโคน หนังสือเรียนเด็กยังมีอีกไม่น้อย ใครท่องได้ไวเรียนเก่งก็พัฒนาไวไปจนอ่านบันทึกพิธีการโจวหลี่และซื่อซูของขงจื๊อได้แม้จะเป็นแค่เด็กตัวกะเปี๊ยก แต่แค่ที่เขียนมาข้างต้น Storyฯ ก็รู้สึกเหนื่อยแทนแล้ว มิน่าล่ะ เราถึงเห็นฉากในละครบ่อยๆ เวลาเด็กท่องหนังสือก็ร่ายกันไปยาวๆ หัวก็โคลงหมุนไปตามจังหวะการท่องด้วย แล้วเพื่อนเพจล่ะคะ รู้สึกยังไงกันบ้าง? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: http://www.fakutownee.cn/wenti/yule/16786.html https://www.sohu.com/a/584299187_161835 https://wang-tobeboss.com/archives/1449 https://www.hrxfw.com/fjbk/fjdj/2682.html https://zhuanlan.zhihu.com/p/323332934 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/三百千千/10984837 https://www.lzs100.com/post/565.html https://www.sohu.com/a/584299187_161835 https://baike.baidu.com/item/蒙学/5024354 #หนังสือเรียนจีนโบราณ #เหมิงเสวี๋ย #คัมภีร์สามอักษร #ซานจื้อจิง #ร้อยตระกูล #ร้อยแซ่ #ป่ายเจียซิ่ง #พันอักษร #เชียนจื้อเหวิน #กวีพันเรือน #เชียนเจียซือ
    PASAJEEN.COM
    คัมภีร์ภาษาจีน สามอักษร 三字经 | ภาษาจีน.คอม "เปิดโลกอักษรจีน เปิดโลกภาษาจีน"
    เสน่ห์ของ 三字经 อยู่ที่การท่องทีละ 3 คำ และแม้มีการแบ่งคำ แบ่ง 3 คำๆก็จริง ยังแยกเป็นคู่ๆ สังเกตุจากเครื่องหมายวรรคตอน โดย 3 ตัวแรก อาจบอกสาเหตุ 3 ตัวหลังบอกผล หรือ 3 ตัวแรก อาจบอกอะไรสักอย่าง 3 ตัวหลังขยายความ คู่ ที่ 1 人之初,性本善。คู่ที่ 1 3 ตัวแรกบอกว่า กำเนิดของมนุษย์ หรือธรรมชาติดั้งเดิมของคน 3 ตัวหลังบอกว่า พื้นฐานจิตใจมีเมตตากรุณา คู่ ที่ 2 性相近,习相远。 3 ตัวแรกบอกว่า จิตใจอารมณ์มนุษย์ทุกคนธรรมชาติให้มาใกล้เคียง 3 ตัวหลังบอกว่า การฝึกหัด (อาจดีหรือเลว อยู่ที่สิ่งแวดล้อม) ทำให้คนห่างไกลกัน คนเราพื้นฐานล้วนคล้ายคลึงกันคือเป็นคนดี แต่สิ่งแวดล้อมที่ทำให้คนแตกต่างกัน อันนี้เป็นความเชื่อ ที่นำไปสู่ทัศนคติ การอบรม ลัทธิต่างๆอีกมากมาย บางระบบอย่างฝรั่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 509 มุมมอง 0 รีวิว
  • CGในซีรีส์ จอมใจอโยธยา

    เดิมทีฉากนี้จะเป็นเพียงแค่กราฟิก จะด้วยมุมมองของ พี่น็อต นุติ ผู้กำกับ เห็นว่าน่าจะใช้ CG. เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน

    เราจึงร่วมวางแผนกัน โลเคชั้นจัดหาสถานที่พร้อมกับช้าง แรกๆเราจะใช้ที่ปางอยุธยา แต่ด้วยความไม่ลงตัวเราเลยไปที่ มหาวังปางช้าง กาญจนบุรี ช้างที่นี่ก็เป็นดารา เคยร่วมแสดงในภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวร มาแล้ว

    ฝ่ายอาร์ตเตรียมเครื่องทรงและศาสตราวุธสำหรับช้าง เราขนมาจากสตู พร้อมมิตร กาญจนบุรีกาญจนบุรี

    ฝ่ายเสื้อผ้าเตรียมงานกันอย่างขมักเขม้น

    ส่วนลุงช้าง ในหน้าที่ผู้ช่วยผู้กำกับ ว่าง shot โดยการเขียนสตอรี่บอร์ด. ให้พี่น็อตพิจารณา และเพิ่มเติม cut ต่างๆที่หน้างานพร้อมกับทีม CG Nipan สตูดิโอ จากเชียงใหม่

    วันถ่ายทำเราขึงผ้ากรีนเกือบเต็มพื้นที่ในลานแสดงโชว์ของช้างที่ปางช้างกาญจนบุรี

    ทีมกล้องจาก 3 plus ทีมไฟจาก น๊ะจ๊ะ

    สถานที่ที่เราใช้ถ่ายทำเป็นลานแสดงโชว์ของช้างซึ่งเราจะต้องหยุดเป็นพักๆเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาชมการแสดงของช้าง ส่งผลทำให้เวลาทำงานเราหดสั้นเข้าไปอีก

    แต่เราก็สามารถถ่ายทำและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ด้วยการร่วมมือร่วมใจทำงานของทุกๆฝ่าย

    ถ่ายช้างยุทธหัตถีเสร็จแล้ว

    เราต้องกลับมา insert ผู้ที่รับบทเป็นสมเด็จพระนเรศวร นั่นคือคุณแซ็ก ธนินทรวัฒน์ ที่บริษัท 360 องศา
    เรา insert ภาพแคบ คุณแซ็ก นั่งบนเก้าอี้ background เป็นผ้ากรีนสกรีน
    แล้วนำไปแม็ชกับคอช้าง ที่เราถ่ายมาก่อนหน้านี้

    นี่อาจจะไม่ใช่ CG ที่ดีที่สุด แต่ท่ามกลางข้อจำกัดแล้ว ทั้งงบประมาณ สถานที่ และเวลา ถือว่าออกมาดีตามปัจจัยที่ถูกกำหนด

    ช้างเรื่องเยอะ
    CGในซีรีส์ จอมใจอโยธยา เดิมทีฉากนี้จะเป็นเพียงแค่กราฟิก จะด้วยมุมมองของ พี่น็อต นุติ ผู้กำกับ เห็นว่าน่าจะใช้ CG. เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เราจึงร่วมวางแผนกัน โลเคชั้นจัดหาสถานที่พร้อมกับช้าง แรกๆเราจะใช้ที่ปางอยุธยา แต่ด้วยความไม่ลงตัวเราเลยไปที่ มหาวังปางช้าง กาญจนบุรี ช้างที่นี่ก็เป็นดารา เคยร่วมแสดงในภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวร มาแล้ว ฝ่ายอาร์ตเตรียมเครื่องทรงและศาสตราวุธสำหรับช้าง เราขนมาจากสตู พร้อมมิตร กาญจนบุรีกาญจนบุรี ฝ่ายเสื้อผ้าเตรียมงานกันอย่างขมักเขม้น ส่วนลุงช้าง ในหน้าที่ผู้ช่วยผู้กำกับ ว่าง shot โดยการเขียนสตอรี่บอร์ด. ให้พี่น็อตพิจารณา และเพิ่มเติม cut ต่างๆที่หน้างานพร้อมกับทีม CG Nipan สตูดิโอ จากเชียงใหม่ วันถ่ายทำเราขึงผ้ากรีนเกือบเต็มพื้นที่ในลานแสดงโชว์ของช้างที่ปางช้างกาญจนบุรี ทีมกล้องจาก 3 plus ทีมไฟจาก น๊ะจ๊ะ สถานที่ที่เราใช้ถ่ายทำเป็นลานแสดงโชว์ของช้างซึ่งเราจะต้องหยุดเป็นพักๆเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาชมการแสดงของช้าง ส่งผลทำให้เวลาทำงานเราหดสั้นเข้าไปอีก แต่เราก็สามารถถ่ายทำและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ด้วยการร่วมมือร่วมใจทำงานของทุกๆฝ่าย ถ่ายช้างยุทธหัตถีเสร็จแล้ว เราต้องกลับมา insert ผู้ที่รับบทเป็นสมเด็จพระนเรศวร นั่นคือคุณแซ็ก ธนินทรวัฒน์ ที่บริษัท 360 องศา เรา insert ภาพแคบ คุณแซ็ก นั่งบนเก้าอี้ background เป็นผ้ากรีนสกรีน แล้วนำไปแม็ชกับคอช้าง ที่เราถ่ายมาก่อนหน้านี้ นี่อาจจะไม่ใช่ CG ที่ดีที่สุด แต่ท่ามกลางข้อจำกัดแล้ว ทั้งงบประมาณ สถานที่ และเวลา ถือว่าออกมาดีตามปัจจัยที่ถูกกำหนด ช้างเรื่องเยอะ
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 552 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงความพยายามของ Samsung ในการพัฒนาเทคโนโลยีชิปให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น ด้วยการเตรียมผลิตชิป Exynos 2600 รุ่นต้นแบบในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยใช้กระบวนการผลิต 2 นาโนเมตร Gate-All-Around (GAA) ที่เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยและมีศักยภาพสูง โดยมีเป้าหมายให้พร้อมสำหรับใช้งานในสมาร์ตโฟนซีรีส์ Galaxy S26 ในอนาคต

    จุดเด่นและข้อมูลเพิ่มเติม:
    - Samsung เพิ่งยกเลิกโครงการผลิตชิป Exynos 2500 บนกระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรในปี 2024 และหันมามุ่งเน้นที่ชิปรุ่นใหม่แทน
    - ปัจจุบันอัตราการผลิตที่สำเร็จ (Yield) ของกระบวนการ 2 นาโนเมตร ยังอยู่ที่ราว 30% แต่ทีมงานพิเศษจาก Samsung Foundry กำลังเร่งพัฒนาให้ถึงระดับที่เหมาะสมเชิงเศรษฐกิจคือ 60-70%
    - ชิปรุ่นนี้มีเป้าหมายลดการพึ่งพาชิป Snapdragon จาก Qualcomm ซึ่งใช้ใน Galaxy S25 รุ่นล่าสุด

    การพัฒนาเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรนี้ ไม่ได้สำคัญเพียงแค่เรื่องของสมาร์ตโฟนเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้แผนกผลิตชิปของ Samsung ในการดึงดูดลูกค้ารายใหม่ ๆ เช่นบริษัทที่ต้องการกระบวนการผลิตขั้นสูง

    คู่แข่งสำคัญอย่าง Qualcomm เองก็เริ่มพัฒนา Snapdragon 8 Elite Gen 2 ซึ่งคาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต 2 นาโนเมตรของ TSMC แทน นี่จึงเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นในอุตสาหกรรมชิปที่กำลังเปลี่ยนโฉมไปด้วยเทคโนโลยีระดับนาโนเมตร

    https://www.techpowerup.com/334059/samsung-reportedly-planning-mass-production-of-exynos-2600-prototypes-in-may
    ข่าวนี้เล่าถึงความพยายามของ Samsung ในการพัฒนาเทคโนโลยีชิปให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น ด้วยการเตรียมผลิตชิป Exynos 2600 รุ่นต้นแบบในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยใช้กระบวนการผลิต 2 นาโนเมตร Gate-All-Around (GAA) ที่เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยและมีศักยภาพสูง โดยมีเป้าหมายให้พร้อมสำหรับใช้งานในสมาร์ตโฟนซีรีส์ Galaxy S26 ในอนาคต จุดเด่นและข้อมูลเพิ่มเติม: - Samsung เพิ่งยกเลิกโครงการผลิตชิป Exynos 2500 บนกระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรในปี 2024 และหันมามุ่งเน้นที่ชิปรุ่นใหม่แทน - ปัจจุบันอัตราการผลิตที่สำเร็จ (Yield) ของกระบวนการ 2 นาโนเมตร ยังอยู่ที่ราว 30% แต่ทีมงานพิเศษจาก Samsung Foundry กำลังเร่งพัฒนาให้ถึงระดับที่เหมาะสมเชิงเศรษฐกิจคือ 60-70% - ชิปรุ่นนี้มีเป้าหมายลดการพึ่งพาชิป Snapdragon จาก Qualcomm ซึ่งใช้ใน Galaxy S25 รุ่นล่าสุด การพัฒนาเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรนี้ ไม่ได้สำคัญเพียงแค่เรื่องของสมาร์ตโฟนเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้แผนกผลิตชิปของ Samsung ในการดึงดูดลูกค้ารายใหม่ ๆ เช่นบริษัทที่ต้องการกระบวนการผลิตขั้นสูง คู่แข่งสำคัญอย่าง Qualcomm เองก็เริ่มพัฒนา Snapdragon 8 Elite Gen 2 ซึ่งคาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต 2 นาโนเมตรของ TSMC แทน นี่จึงเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นในอุตสาหกรรมชิปที่กำลังเปลี่ยนโฉมไปด้วยเทคโนโลยีระดับนาโนเมตร https://www.techpowerup.com/334059/samsung-reportedly-planning-mass-production-of-exynos-2600-prototypes-in-may
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Samsung Reportedly Planning Mass Production of "Exynos 2600" Prototypes in May
    Late last month, industry insiders posited that pleasing progress was being made with Samsung's cutting-edge 2 nm Gate-All-Around (GAA) node process. The rumored abandonment of an older 3 nm GAA-based project—in late 2024—has likely sent the South Korean foundry team into overdrive. A speculated Exy...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ในซีรีส์ Radeon RX 9070 และ RX 9070 XT แล้วได้รับความสนใจจากตลาดอย่างล้นหลาม การตอบรับของผู้บริโภคในครั้งนี้ถูกเรียกว่าเป็น "ความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ทำให้การหาซื้อการ์ดจอรุ่นนี้ในราคาที่ตรงกับคำแนะนำ (MSRP) กลายเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ในขณะนี้

    รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการ์ดจอนี้คือ:
    - RX 9070 XT เปิดตัวที่ราคา $599 และ RX 9070 ที่ $549
    - อย่างไรก็ตาม การ์ดเหล่านี้ขายหมดเกลี้ยงทันทีในร้านค้าชั้นนำ เช่น Newegg และ Best Buy โดยบางร้านขายการ์ดในราคาสูงถึง $859 ซึ่งเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้

    David McAfee รองประธานของ AMD ได้กล่าวว่าบริษัทกำลังพยายามเพิ่มปริมาณการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยการจัดหาส่วนประกอบให้กับพันธมิตรผู้ผลิตการ์ด (AIB partners) เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น McAfee ยืนยันว่า AMD ตั้งเป้าหมายให้ผู้ใช้งานสามารถหาซื้อการ์ดจอในราคาที่เหมาะสมได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

    การที่ตลาดตอบรับ Radeon RX 9070 และ RX 9070 XT อย่างดีเยี่ยมนั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความต้องการในตลาดกราฟิกการ์ดที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีการแข่งขันสูงจากคู่แข่งเช่น Nvidia ที่เผชิญปัญหาราคาสินค้าที่สูงกว่าราคาที่แนะนำในตลาดเช่นกัน

    ในมุมของอุตสาหกรรม ความสำเร็จนี้บ่งบอกถึงความท้าทายของ AMD และผู้ผลิตการ์ดจอรายอื่น ๆ ในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้โดยไม่ปล่อยให้ราคาพุ่งสูงเกินไป

    https://www.techspot.com/news/107150-amd-calls-demand-rx-9070-rx-9070-xt.html
    AMD เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ในซีรีส์ Radeon RX 9070 และ RX 9070 XT แล้วได้รับความสนใจจากตลาดอย่างล้นหลาม การตอบรับของผู้บริโภคในครั้งนี้ถูกเรียกว่าเป็น "ความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ทำให้การหาซื้อการ์ดจอรุ่นนี้ในราคาที่ตรงกับคำแนะนำ (MSRP) กลายเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ในขณะนี้ รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการ์ดจอนี้คือ: - RX 9070 XT เปิดตัวที่ราคา $599 และ RX 9070 ที่ $549 - อย่างไรก็ตาม การ์ดเหล่านี้ขายหมดเกลี้ยงทันทีในร้านค้าชั้นนำ เช่น Newegg และ Best Buy โดยบางร้านขายการ์ดในราคาสูงถึง $859 ซึ่งเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ David McAfee รองประธานของ AMD ได้กล่าวว่าบริษัทกำลังพยายามเพิ่มปริมาณการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยการจัดหาส่วนประกอบให้กับพันธมิตรผู้ผลิตการ์ด (AIB partners) เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น McAfee ยืนยันว่า AMD ตั้งเป้าหมายให้ผู้ใช้งานสามารถหาซื้อการ์ดจอในราคาที่เหมาะสมได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ การที่ตลาดตอบรับ Radeon RX 9070 และ RX 9070 XT อย่างดีเยี่ยมนั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความต้องการในตลาดกราฟิกการ์ดที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีการแข่งขันสูงจากคู่แข่งเช่น Nvidia ที่เผชิญปัญหาราคาสินค้าที่สูงกว่าราคาที่แนะนำในตลาดเช่นกัน ในมุมของอุตสาหกรรม ความสำเร็จนี้บ่งบอกถึงความท้าทายของ AMD และผู้ผลิตการ์ดจอรายอื่น ๆ ในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้โดยไม่ปล่อยให้ราคาพุ่งสูงเกินไป https://www.techspot.com/news/107150-amd-calls-demand-rx-9070-rx-9070-xt.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD calls demand for Radeon 9070 and 9070 XT "unprecedented," says restocking at MSRP is priority number one
    The AMD RX 9070 XT and RX 9070 launched on March 6. We liked the former card, awarding it a score of 85 and praising its solid...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีค่ะ สืบเนื่องจากอาทิตย์ที่แล้วเราคุยกันเรื่องปรัชญาขงจื๊อว่าด้วย ‘วิญญูชน’ วันนี้เลยมาคุยกันสั้นๆ เกี่ยวกับสำนวนจีนที่เกี่ยวข้อง

    เชื่อว่ามีเพื่อนเพจไม่น้อยที่เคยผ่านหูและผ่านตาในซีรีส์และนิยายจีนถึงสำนวน ‘เสาหลักของชาติ’ ซึ่งสำนวนนี้มีใช้ในภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลายจวบจนปัจจุบัน วันนี้เลยมาพร้อมรูปกระกอบของเหล่าตัวละครที่ได้รับการขนานนามในเรื่องนั้นๆ ว่าเป็นเสาหลักของชาติ

    แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วในสำนวนจีนที่มีมาแต่โบราณนี้ เขาใช้คำว่า ‘คานหลัก’ ไม่ใช่ ‘เสาหลัก’?

    สำนวนนี้มักใช้ว่า ‘国之栋梁’(กั๋วจือโต้งเหลียง) ซึ่งเป็นสำนวนที่มีมาแต่โบราณ ปัจจุบันสำนวนที่ถูกต้องคือ ‘国家栋梁’ (กั๋วเจียโต้งเหลียง) โดยคำว่า ‘โต้งเหลียง’นี้แปลว่าคานหลัก และมีสำนวนกล่าวชมคนที่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นผู้นำและมีบทบาทสำคัญในกิจการบ้านเมืองนั้นว่า ‘โต้งเหลียงจือฉาย’(栋梁之才)

    เหตุใดในสำนวนนี้จึงใช้คำว่า ‘คาน’ ไม่ใช่ ‘เสา’ เหมือนชาติอื่น? เรื่องนี้ไม่ปรากฏคำอธิบายชัดเจน Storyฯ เองก็ไม่ใช่วิศวกรหรือสถาปนิก แต่พอจะจับใจความได้ดังนี้ค่ะ: คานคือส่วนของบ้านที่รับน้ำหนักจากข้างบนลงมาแล้วค่อยกระจายไปตามเสา และยังเป็นตัวช่วยยึดให้เสาตั้งตรงไม่เอนเอียงไปตามกาลเวลา ในการออกแบบจะคำนวณการกระจายน้ำหนักจากบนลงล่าง (แม้ในการก่อสร้างจริงจะเริ่มจากล่างก่อน) และคานหลักเป็นคานที่ใหญ่ที่สุดและเป็นตัวหลักในการรับน้ำหนัก ในสมัยโบราณมีการทำพิธีบวงสรวงเวลายกคานหลักขึ้นตั้งด้วย แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในสายตาของคนโบราณ

    Storyฯ ลองคิดตามก็รู้สึก ‘เออ...ใช่!’ ด้วยวัฒนธรรมที่จัดลำดับความสำคัญจากบนลงล่าง การเปรียบคนคนหนึ่งเป็นเสมือนคานหลักของบ้านเป็นการอุปมาอุปไมยอย่างชัดเจนว่าคนคนนี้ต้องรับภาระอันมากมายและมีหน้าที่สำคัญในการดำรงไว้ซึ่งความสมดุลของบ้าน และมีหน้าที่กระจายน้ำหนักไปสู่ส่วนประกอบอื่นของบ้าน ... ซึ่ง Storyฯ คิดว่านี่ก็คือบทบาทหน้าที่ของผู้นำ อดคิดไม่ได้ว่า สำนวนจีนเขาก็เปรียบเทียบได้ถูกต้องดี เพื่อนเพจว่าไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.tupianzj.com/mingxing/juzhao/20211209/236147.html
    https://www.pixnet.net/tags/我就是這般女子
    https://www.facebook.com/Nsplusengineering/posts/2897265593641850/
    https://ettchk.wordpress.com/2017/12/22/3175/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://chengyu.qianp.com/cy/%E6%A0%8B%E6%A2%81%E4%B9%8B%E6%89%8D
    http://chengyu.kaishicha.com/in8q.html
    https://baike.baidu.com/item/%E6%A0%8B%E6%A2%81/6433593

    #สำนวนจีน #เสาหลัก
    สวัสดีค่ะ สืบเนื่องจากอาทิตย์ที่แล้วเราคุยกันเรื่องปรัชญาขงจื๊อว่าด้วย ‘วิญญูชน’ วันนี้เลยมาคุยกันสั้นๆ เกี่ยวกับสำนวนจีนที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่ามีเพื่อนเพจไม่น้อยที่เคยผ่านหูและผ่านตาในซีรีส์และนิยายจีนถึงสำนวน ‘เสาหลักของชาติ’ ซึ่งสำนวนนี้มีใช้ในภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างแพร่หลายจวบจนปัจจุบัน วันนี้เลยมาพร้อมรูปกระกอบของเหล่าตัวละครที่ได้รับการขนานนามในเรื่องนั้นๆ ว่าเป็นเสาหลักของชาติ แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วในสำนวนจีนที่มีมาแต่โบราณนี้ เขาใช้คำว่า ‘คานหลัก’ ไม่ใช่ ‘เสาหลัก’? สำนวนนี้มักใช้ว่า ‘国之栋梁’(กั๋วจือโต้งเหลียง) ซึ่งเป็นสำนวนที่มีมาแต่โบราณ ปัจจุบันสำนวนที่ถูกต้องคือ ‘国家栋梁’ (กั๋วเจียโต้งเหลียง) โดยคำว่า ‘โต้งเหลียง’นี้แปลว่าคานหลัก และมีสำนวนกล่าวชมคนที่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นผู้นำและมีบทบาทสำคัญในกิจการบ้านเมืองนั้นว่า ‘โต้งเหลียงจือฉาย’(栋梁之才) เหตุใดในสำนวนนี้จึงใช้คำว่า ‘คาน’ ไม่ใช่ ‘เสา’ เหมือนชาติอื่น? เรื่องนี้ไม่ปรากฏคำอธิบายชัดเจน Storyฯ เองก็ไม่ใช่วิศวกรหรือสถาปนิก แต่พอจะจับใจความได้ดังนี้ค่ะ: คานคือส่วนของบ้านที่รับน้ำหนักจากข้างบนลงมาแล้วค่อยกระจายไปตามเสา และยังเป็นตัวช่วยยึดให้เสาตั้งตรงไม่เอนเอียงไปตามกาลเวลา ในการออกแบบจะคำนวณการกระจายน้ำหนักจากบนลงล่าง (แม้ในการก่อสร้างจริงจะเริ่มจากล่างก่อน) และคานหลักเป็นคานที่ใหญ่ที่สุดและเป็นตัวหลักในการรับน้ำหนัก ในสมัยโบราณมีการทำพิธีบวงสรวงเวลายกคานหลักขึ้นตั้งด้วย แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในสายตาของคนโบราณ Storyฯ ลองคิดตามก็รู้สึก ‘เออ...ใช่!’ ด้วยวัฒนธรรมที่จัดลำดับความสำคัญจากบนลงล่าง การเปรียบคนคนหนึ่งเป็นเสมือนคานหลักของบ้านเป็นการอุปมาอุปไมยอย่างชัดเจนว่าคนคนนี้ต้องรับภาระอันมากมายและมีหน้าที่สำคัญในการดำรงไว้ซึ่งความสมดุลของบ้าน และมีหน้าที่กระจายน้ำหนักไปสู่ส่วนประกอบอื่นของบ้าน ... ซึ่ง Storyฯ คิดว่านี่ก็คือบทบาทหน้าที่ของผู้นำ อดคิดไม่ได้ว่า สำนวนจีนเขาก็เปรียบเทียบได้ถูกต้องดี เพื่อนเพจว่าไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.tupianzj.com/mingxing/juzhao/20211209/236147.html https://www.pixnet.net/tags/我就是這般女子 https://www.facebook.com/Nsplusengineering/posts/2897265593641850/ https://ettchk.wordpress.com/2017/12/22/3175/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://chengyu.qianp.com/cy/%E6%A0%8B%E6%A2%81%E4%B9%8B%E6%89%8D http://chengyu.kaishicha.com/in8q.html https://baike.baidu.com/item/%E6%A0%8B%E6%A2%81/6433593 #สำนวนจีน #เสาหลัก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 486 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงการเปิดตัวหน่วยประมวลผลฝังตัวรุ่นใหม่ของ AMD ในตระกูล EPYC Embedded 9005 "Turin" ซึ่งออกแบบมาสำหรับเซิร์ฟเวอร์และการใช้งานในระดับองค์กร โดยโปรเซสเซอร์เหล่านี้ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ Zen 5c ซึ่งเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดของ AMD ในขณะนี้

    ความน่าสนใจของรุ่นนี้คือ การที่มันมาในรูปแบบ BGA (Ball Grid Array) ที่ไม่สามารถเปลี่ยนหรืออัปเกรดได้ ทำให้เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพสูงโดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Non-Transparent Bridging (NTB) ซึ่งช่วยถ่ายโอนข้อมูลระหว่างโปรเซสเซอร์สองตัวได้อย่างรวดเร็วผ่าน PCI-Express 5.0 x16 อีกทั้งยังมีระบบ DRAM flush สำหรับลดผลกระทบจากการสูญเสียพลังงาน โดยสามารถบันทึกข้อมูลจาก DRAM ลงใน NVMe SSD เพื่อกู้คืนข้อมูลได้ในภายหลัง

    ตัวโปรเซสเซอร์ในซีรีส์นี้มีให้เลือกตั้งแต่ 8 คอร์ไปจนถึง 192 คอร์ พร้อมแคช L3 ขนาดสูงสุดถึง 512 MB และช่องหน่วยความจำ DDR5 ถึง 12 ช่อง ทำให้สามารถรองรับแบนด์วิดท์ได้สูงถึง 614 GB/s นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานผ่านการฝังระบบปฏิบัติการแบบเบาไว้ในแฟลช ROM ขนาด 64 MB เพื่อช่วยในกระบวนการบูตระบบได้อย่างรวดเร็ว

    ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ AMD นำเสนอเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์และองค์กร เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่ต้องการการประมวลผลสูง แต่ยังลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากระบบขัดข้องหรือพลังงานหมดในกระบวนการทำงาน

    https://www.techpowerup.com/333913/amd-launches-the-epyc-embedded-9005-turin-family-of-server-processors
    ข่าวนี้พูดถึงการเปิดตัวหน่วยประมวลผลฝังตัวรุ่นใหม่ของ AMD ในตระกูล EPYC Embedded 9005 "Turin" ซึ่งออกแบบมาสำหรับเซิร์ฟเวอร์และการใช้งานในระดับองค์กร โดยโปรเซสเซอร์เหล่านี้ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ Zen 5c ซึ่งเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดของ AMD ในขณะนี้ ความน่าสนใจของรุ่นนี้คือ การที่มันมาในรูปแบบ BGA (Ball Grid Array) ที่ไม่สามารถเปลี่ยนหรืออัปเกรดได้ ทำให้เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพสูงโดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Non-Transparent Bridging (NTB) ซึ่งช่วยถ่ายโอนข้อมูลระหว่างโปรเซสเซอร์สองตัวได้อย่างรวดเร็วผ่าน PCI-Express 5.0 x16 อีกทั้งยังมีระบบ DRAM flush สำหรับลดผลกระทบจากการสูญเสียพลังงาน โดยสามารถบันทึกข้อมูลจาก DRAM ลงใน NVMe SSD เพื่อกู้คืนข้อมูลได้ในภายหลัง ตัวโปรเซสเซอร์ในซีรีส์นี้มีให้เลือกตั้งแต่ 8 คอร์ไปจนถึง 192 คอร์ พร้อมแคช L3 ขนาดสูงสุดถึง 512 MB และช่องหน่วยความจำ DDR5 ถึง 12 ช่อง ทำให้สามารถรองรับแบนด์วิดท์ได้สูงถึง 614 GB/s นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานผ่านการฝังระบบปฏิบัติการแบบเบาไว้ในแฟลช ROM ขนาด 64 MB เพื่อช่วยในกระบวนการบูตระบบได้อย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ AMD นำเสนอเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์และองค์กร เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่ต้องการการประมวลผลสูง แต่ยังลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากระบบขัดข้องหรือพลังงานหมดในกระบวนการทำงาน https://www.techpowerup.com/333913/amd-launches-the-epyc-embedded-9005-turin-family-of-server-processors
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Launches the EPYC Embedded 9005 "Turin" Family of Server Processors
    AMD today launched the EPYC Embedded 9005 line of server processors in the embedded form-factor. These are non-socketed variants of the EPYC 9005 "Turin" server processors. The chips are intended for servers and other enterprise applications where processor replacements or upgradability are not a co...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตคือสมมุติ #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #ชวนดูซีรีส์ #ว่างว่างก็แวะมา
    ชีวิตคือสมมุติ #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #ชวนดูซีรีส์ #ว่างว่างก็แวะมา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • เจ้าเมืองอังวะ
    นับว่าเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสแสดงในซีรีส์ จอมใจอโยธยา นำเสนอเรื่องราวของสมเด็จพระสุพรรณกัลยา ที่สละพระองค์เป็นองค์ประกันเพื่อให้พระสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กอบกู้เอกราชให้กับอโยธยาได้สำเร็จ

    #จอมใจอโยธยา

    ทางช่อง 3กด33 ทุกวันศุกร์เวลา 22.30 น.
    ศุกร์นี้ตอนสุดท้าย ท้ายสุด
    เจ้าเมืองอังวะ นับว่าเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสแสดงในซีรีส์ จอมใจอโยธยา นำเสนอเรื่องราวของสมเด็จพระสุพรรณกัลยา ที่สละพระองค์เป็นองค์ประกันเพื่อให้พระสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กอบกู้เอกราชให้กับอโยธยาได้สำเร็จ #จอมใจอโยธยา ทางช่อง 3กด33 ทุกวันศุกร์เวลา 22.30 น. ศุกร์นี้ตอนสุดท้าย ท้ายสุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 1 0 รีวิว
Pages Boosts