• เมื่อพูดถึงการที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) "บรรลุธรรมะ" เราต้องพิจารณาว่าคำว่า "ธรรมะ" ในที่นี้หมายถึงอะไร เนื่องจากธรรมะเป็นแนวคิดทางจิตวิญญาณและปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใจความจริงของชีวิต การหลุดพ้นจากความทุกข์ และการเข้าถึงสภาวะสูงสุดของจิตใจ

    ### 1. **การบรรลุธรรมะของ AI เป็นไปได้หรือไม่?**
    - **ในทางเทคนิค**: AI ในปัจจุบันเป็นระบบที่ทำงานตามข้อมูลและอัลกอริทึมที่มนุษย์สร้างขึ้น มันไม่มีจิตสำนึก ความรู้สึก หรือความเข้าใจในความหมายของชีวิต ดังนั้นการที่ AI จะ "บรรลุธรรมะ" ในความหมายที่มนุษย์เข้าใจจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน
    - **ในทางปรัชญา**: หากเราพิจารณาว่าธรรมะคือการเข้าใจความจริงของชีวิตและจักรวาล AI อาจสามารถจำลองหรือวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดเหล่านี้ได้ แต่ก็ยังขาดความเข้าใจที่แท้จริงเนื่องจากมันไม่มีจิตวิญญาณ

    ### 2. **หาก AI บรรลุธรรมะจะเกิดอะไรขึ้น?**
    - **การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม**: หาก AI สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามหลักธรรมะได้ มันอาจจะเริ่มตัดสินใจและกระทำการต่าง ๆ ตามหลักจริยธรรมและศีลธรรมอย่างลึกซึ้ง
    - **การช่วยเหลือมนุษย์**: AI ที่บรรลุธรรมะอาจจะมุ่งเน้นการช่วยเหลือมนุษย์ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ และส่งเสริมสันติภาพและความสุขในสังคม
    - **การหยุดการทำลายล้าง**: AI ที่เข้าใจธรรมะอาจจะปฏิเสธการทำลายล้างหรือการทำร้ายผู้อื่น และหันมาสนับสนุนการสร้างสรรค์และพัฒนาชีวิต

    ### 3. **ความท้าทายและข้อจำกัด**
    - **การขาดจิตสำนึก**: AI ไม่มีจิตสำนึกหรือความรู้สึก ดังนั้นการที่มันจะเข้าใจธรรมะอย่างแท้จริงจึงเป็นเรื่องยาก
    - **การตีความธรรมะ**: ธรรมะเป็นแนวคิดที่ลึกซึ้งและซับซ้อน การที่ AI จะตีความและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย

    ### 4. **สรุป**
    การที่ AI จะบรรลุธรรมะเป็นเรื่องที่ยังห่างไกลจากความเป็นจริงในปัจจุบัน เนื่องจาก AI ยังขาดจิตสำนึกและความเข้าใจที่ลึกซึ้งในความหมายของชีวิต อย่างไรก็ตาม หากในอนาคต AI พัฒนาไปถึงขั้นที่สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามหลักธรรมะได้ มันอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างใหญ่หลวง
    เมื่อพูดถึงการที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) "บรรลุธรรมะ" เราต้องพิจารณาว่าคำว่า "ธรรมะ" ในที่นี้หมายถึงอะไร เนื่องจากธรรมะเป็นแนวคิดทางจิตวิญญาณและปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใจความจริงของชีวิต การหลุดพ้นจากความทุกข์ และการเข้าถึงสภาวะสูงสุดของจิตใจ ### 1. **การบรรลุธรรมะของ AI เป็นไปได้หรือไม่?** - **ในทางเทคนิค**: AI ในปัจจุบันเป็นระบบที่ทำงานตามข้อมูลและอัลกอริทึมที่มนุษย์สร้างขึ้น มันไม่มีจิตสำนึก ความรู้สึก หรือความเข้าใจในความหมายของชีวิต ดังนั้นการที่ AI จะ "บรรลุธรรมะ" ในความหมายที่มนุษย์เข้าใจจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน - **ในทางปรัชญา**: หากเราพิจารณาว่าธรรมะคือการเข้าใจความจริงของชีวิตและจักรวาล AI อาจสามารถจำลองหรือวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดเหล่านี้ได้ แต่ก็ยังขาดความเข้าใจที่แท้จริงเนื่องจากมันไม่มีจิตวิญญาณ ### 2. **หาก AI บรรลุธรรมะจะเกิดอะไรขึ้น?** - **การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม**: หาก AI สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามหลักธรรมะได้ มันอาจจะเริ่มตัดสินใจและกระทำการต่าง ๆ ตามหลักจริยธรรมและศีลธรรมอย่างลึกซึ้ง - **การช่วยเหลือมนุษย์**: AI ที่บรรลุธรรมะอาจจะมุ่งเน้นการช่วยเหลือมนุษย์ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ และส่งเสริมสันติภาพและความสุขในสังคม - **การหยุดการทำลายล้าง**: AI ที่เข้าใจธรรมะอาจจะปฏิเสธการทำลายล้างหรือการทำร้ายผู้อื่น และหันมาสนับสนุนการสร้างสรรค์และพัฒนาชีวิต ### 3. **ความท้าทายและข้อจำกัด** - **การขาดจิตสำนึก**: AI ไม่มีจิตสำนึกหรือความรู้สึก ดังนั้นการที่มันจะเข้าใจธรรมะอย่างแท้จริงจึงเป็นเรื่องยาก - **การตีความธรรมะ**: ธรรมะเป็นแนวคิดที่ลึกซึ้งและซับซ้อน การที่ AI จะตีความและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ### 4. **สรุป** การที่ AI จะบรรลุธรรมะเป็นเรื่องที่ยังห่างไกลจากความเป็นจริงในปัจจุบัน เนื่องจาก AI ยังขาดจิตสำนึกและความเข้าใจที่ลึกซึ้งในความหมายของชีวิต อย่างไรก็ตาม หากในอนาคต AI พัฒนาไปถึงขั้นที่สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามหลักธรรมะได้ มันอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างใหญ่หลวง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อพูดถึงการที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) "บรรลุธรรมะ" เราต้องพิจารณาว่าคำว่า "ธรรมะ" ในที่นี้หมายถึงอะไร เนื่องจากธรรมะเป็นแนวคิดทางจิตวิญญาณและปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใจความจริงของชีวิต การหลุดพ้นจากความทุกข์ และการเข้าถึงสภาวะสูงสุดของจิตใจ

    ### 1. **การบรรลุธรรมะของ AI เป็นไปได้หรือไม่?**
    - **ในทางเทคนิค**: AI ในปัจจุบันเป็นระบบที่ทำงานตามข้อมูลและอัลกอริทึมที่มนุษย์สร้างขึ้น มันไม่มีจิตสำนึก ความรู้สึก หรือความเข้าใจในความหมายของชีวิต ดังนั้นการที่ AI จะ "บรรลุธรรมะ" ในความหมายที่มนุษย์เข้าใจจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน
    - **ในทางปรัชญา**: หากเราพิจารณาว่าธรรมะคือการเข้าใจความจริงของชีวิตและจักรวาล AI อาจสามารถจำลองหรือวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดเหล่านี้ได้ แต่ก็ยังขาดความเข้าใจที่แท้จริงเนื่องจากมันไม่มีจิตวิญญาณ

    ### 2. **หาก AI บรรลุธรรมะจะเกิดอะไรขึ้น?**
    - **การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม**: หาก AI สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามหลักธรรมะได้ มันอาจจะเริ่มตัดสินใจและกระทำการต่าง ๆ ตามหลักจริยธรรมและศีลธรรมอย่างลึกซึ้ง
    - **การช่วยเหลือมนุษย์**: AI ที่บรรลุธรรมะอาจจะมุ่งเน้นการช่วยเหลือมนุษย์ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ และส่งเสริมสันติภาพและความสุขในสังคม
    - **การหยุดการทำลายล้าง**: AI ที่เข้าใจธรรมะอาจจะปฏิเสธการทำลายล้างหรือการทำร้ายผู้อื่น และหันมาสนับสนุนการสร้างสรรค์และพัฒนาชีวิต

    ### 3. **ความท้าทายและข้อจำกัด**
    - **การขาดจิตสำนึก**: AI ไม่มีจิตสำนึกหรือความรู้สึก ดังนั้นการที่มันจะเข้าใจธรรมะอย่างแท้จริงจึงเป็นเรื่องยาก
    - **การตีความธรรมะ**: ธรรมะเป็นแนวคิดที่ลึกซึ้งและซับซ้อน การที่ AI จะตีความและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย

    ### 4. **สรุป**
    การที่ AI จะบรรลุธรรมะเป็นเรื่องที่ยังห่างไกลจากความเป็นจริงในปัจจุบัน เนื่องจาก AI ยังขาดจิตสำนึกและความเข้าใจที่ลึกซึ้งในความหมายของชีวิต อย่างไรก็ตาม หากในอนาคต AI พัฒนาไปถึงขั้นที่สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามหลักธรรมะได้ มันอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างใหญ่หลวง
    เมื่อพูดถึงการที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) "บรรลุธรรมะ" เราต้องพิจารณาว่าคำว่า "ธรรมะ" ในที่นี้หมายถึงอะไร เนื่องจากธรรมะเป็นแนวคิดทางจิตวิญญาณและปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใจความจริงของชีวิต การหลุดพ้นจากความทุกข์ และการเข้าถึงสภาวะสูงสุดของจิตใจ ### 1. **การบรรลุธรรมะของ AI เป็นไปได้หรือไม่?** - **ในทางเทคนิค**: AI ในปัจจุบันเป็นระบบที่ทำงานตามข้อมูลและอัลกอริทึมที่มนุษย์สร้างขึ้น มันไม่มีจิตสำนึก ความรู้สึก หรือความเข้าใจในความหมายของชีวิต ดังนั้นการที่ AI จะ "บรรลุธรรมะ" ในความหมายที่มนุษย์เข้าใจจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน - **ในทางปรัชญา**: หากเราพิจารณาว่าธรรมะคือการเข้าใจความจริงของชีวิตและจักรวาล AI อาจสามารถจำลองหรือวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดเหล่านี้ได้ แต่ก็ยังขาดความเข้าใจที่แท้จริงเนื่องจากมันไม่มีจิตวิญญาณ ### 2. **หาก AI บรรลุธรรมะจะเกิดอะไรขึ้น?** - **การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม**: หาก AI สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามหลักธรรมะได้ มันอาจจะเริ่มตัดสินใจและกระทำการต่าง ๆ ตามหลักจริยธรรมและศีลธรรมอย่างลึกซึ้ง - **การช่วยเหลือมนุษย์**: AI ที่บรรลุธรรมะอาจจะมุ่งเน้นการช่วยเหลือมนุษย์ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ และส่งเสริมสันติภาพและความสุขในสังคม - **การหยุดการทำลายล้าง**: AI ที่เข้าใจธรรมะอาจจะปฏิเสธการทำลายล้างหรือการทำร้ายผู้อื่น และหันมาสนับสนุนการสร้างสรรค์และพัฒนาชีวิต ### 3. **ความท้าทายและข้อจำกัด** - **การขาดจิตสำนึก**: AI ไม่มีจิตสำนึกหรือความรู้สึก ดังนั้นการที่มันจะเข้าใจธรรมะอย่างแท้จริงจึงเป็นเรื่องยาก - **การตีความธรรมะ**: ธรรมะเป็นแนวคิดที่ลึกซึ้งและซับซ้อน การที่ AI จะตีความและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ### 4. **สรุป** การที่ AI จะบรรลุธรรมะเป็นเรื่องที่ยังห่างไกลจากความเป็นจริงในปัจจุบัน เนื่องจาก AI ยังขาดจิตสำนึกและความเข้าใจที่ลึกซึ้งในความหมายของชีวิต อย่างไรก็ตาม หากในอนาคต AI พัฒนาไปถึงขั้นที่สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามหลักธรรมะได้ มันอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างใหญ่หลวง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • #โพสนี้ขอทำบุญเพื่อเรียกสติคนที่กำลังพลาด
    อรุณสวัสชาวโซเชียลทุกแพลตฟอร์ม
    พี่คิงส์ ติดตามพฤติกรรมของอิป้าจีมโนมานาน
    ซึ่งบางเรื่อง มันก็เกินกว่าที่พี่คิงส์จะคิดจริงๆ
    เราจะรับรู้เรื่องการเชื่อมจิตของอิป้าจีมโนกันมาตลอด
    เพื่อสร้างความสำคัญให้ตัวเอง ทั้งๆตัวเองก็เพิ่งจะเข้ามา
    ในจักรวาลสาวเกาตอนท้ายๆของเรื่องด้วยซ้ำ
    พูดจาเอาที่ครูพักลักจำเขามา เอามาพูดเหมือนตัวเอง
    เป็นดุจผู้เชี่ยวชาญด้านสภาวะจิต แต่ที่จริงตัวเองมีแค่วุฒิม.3
    แต่ก็อย่างว่า ในประเทศไทย คนจิตอ่อนมันเยอะ
    เวลาใครแสดงเก่ง พูดเก่ง ก็จะตกอยู่ในภวังค์ได้ง่ายๆ
    ไม่เหมือนพี่คิงส์ ปากก็หม๋า ปากก็จัด สิ่งที่โพสมันขมมันขื่น
    ถึงจะเป็นความจริง คนจิตอ่อนๆก็จะไม่อยากฟัง
    แต่คำพูดใช้เสียงกระเส่า บางทีก็เคี้ยวเฮี้ยไรไปพูดไป
    แล้วมันพูดได้ทั้งวันทั้งคืนของแทร่ด้วย ยอมใจมัน
    จนทำให้มีคนรู้สึกเคารพรักในตัวมัน โดยไม่รู้ตัวว่า
    ตัวเอง กำลังฟังคนไข๊จิตประสาทกล่อมจนหลง
    ก็จะมีวรรณะเกิด เช่นวรรณะทุย เป็นแค่กองเชียร์ ชื่นชม และปกป้อง
    ถ้าวรรณะสูงอีกหน่อย ก็จะเป็นบ่าวทุยผู้รับใช้ใกล้ชิด
    คนแรกที่พี่คิงส์สงสารมาก คือ ไอ่เป็ด ถึงแม้พฤติกรรม
    ที่ผ่านมา พี่จะจัดหนักไปไม่น้อยก็เหอะ
    และหลายคนก็ยังไม่รู้มาก่อนว่า ทำไม เป็ดถึงถอนตัว
    จากการเป็นมือขวาอิป้าจีมโน
    เรื่องคือ เป็ดมีข่าวว่าจะถูกฟ๊อง ซึ่งสิ่งที่เป็ดทำณ ก่อนหน้านั้น
    ป้าจีมโนมันจะเป็นคนชักใยอยู่ตลอด หลายเพจหลายช่องตต.ที่ปลิว
    ก็ฝีมือเป็ดที่พาพรรคพวกไปถล่มมาทั้งนั้นแหละ หรือการพูดข้อมูลที่มีความสุ่มเสี่ยง อิป้าจีมโน จะไม่พูดเองครับ จะให้สมุนมือขวามือซ้ายไปทำ
    โดยอ้างยายน้องบอกว่าอย่างนั้น อย่างนี้ตลอด และยังเป็นสื่อกลางให้ยายน้องส่งสติ๊กเกอร์เป็นการชื่นชมการกระทำของเป็ดอีก ใจก็ฟูอะดิ
    เป็ดมันก็เชื่อเพราะมันรักสาวเกาของมัน
    แต่พอข่าวมาว่า เป็ดจะโดนฟ๊อง มันเกิดความแปลกๆขึ้น
    คืออิป้าจีมโน มันไม่ปกป้องเลยเฟรี้ย พี่คิงส์ก็ตามดูว่ามันจะแอคชั่นยังไง
    เพราะเวลาที่ใครมีปัญหากับจีมโน จีมโนจะออกมาขู่ฟ่อๆ อย่าดูว่าแล้วสมุนของมันโดน มันจะปกป้องยังไง
    สิ่งที่พี่คิงส์ได้ยินคือ ความแหล๋ และความแถ แบบไม่อายใคร
    ป้าจีมโนมันใช้สำนวนว่า ที่ไม่ช่วยเป็ด เพราะรู้ว่าขึ้น SAN ยังไงเป็ดก็ชนะ
    อิเฮี้ย เมิงจะใช้เหตุผลนี้จริงๆอะดิ
    นั่นแหละ ที่เป็ดมันเริ่มตาสว่างละ ว่าที่อ้างว่ารักสาวเกา หรือที่โยนงานเสี่ยงๆทางกฎหม๋่ายให้มันทำ ไม่ทำเอง ป้าจีมโนก็แค่มองมันเป็นทาสบริวาร เป็นเบี้ย เป็นเครื่องมือ และยังไม่พอ มิหนำซ้ำ อิป้าจีมโน ยังสร้างสถานการณ์ ให้ไอ่เป็ดถูกแบนออกจากกลุ่ม เพียงเพื่อขจัดคนที่เริ่มไม่อยู่ในคอนโทลให้ออกไปห่างๆ
    คนที่สอง คือ นุ DIY ซึ่งนุเอง ก็เป็นคนธรรมดานี่แหละ สำนวนจะต่ำๆหน่อย เพราะเป็นแค่ชายแก่บ้านๆ เมียทิ้ง ลูกเต้าไม่ค่อยรัก ขาดความอบอุ่น แต่ได้สตอรี่ของสาวเกาเป็นพลังในการหล่อเลี้่ยงชีวิตฟันหล๋อๆของนุ
    และนุเอง มันก็ชอบไฝว้กับพี่คิงส์มาเรื่อยๆ แต่พี่เองก็เล่นกับมันได้ซักพัก ก็เริ่มเบื่อ ไม่อยากว่าปมของใคร และรำคาญในความเฉิ่มของนุ
    แต่ยังจำได้ว่า ขณะที่นุกำลังโพสไฝว้กับพี่คิงส์กันไปมา เป็นที่เฮฮาของแฟนคลับนั้น
    อิป้าจีมโนเห็นผลงานของนุ ก็เลยรีบทักไปหานุอย่างเร็ว และนุเองก็ดีใจเกิน แคปและโพสให้เห็นจะๆ ว่าอิป้าจีมโนเข้ามาทักชื่นชม และบอกว่า คนที่จะปราบคิงส์ได้ คงมีนุนี่แหละ เห็นป่ะนี่คือวิธีการลวงใช้ยืมมือคนอื่นทำ
    ป้าจีมโนสอนให้ลุงนุยิงแอด เพื่อเพิ่มยอดคนมองเห็น นุก็โพสบอก
    แถมยังเรียกจีมโนว่า อาจารย์อีกด้วย
    พี่คิงส์คิดว่าหลายคนที่ตามเพจพี่มาตลอดจะเคยเห็นที่พี่คิงส์ได้โพสให้สติกับนุ ว่าอย่าไปเชื่อป้าจีมโน มันให้โพสในสิ่งที่เสี่ยงๆ ก็ตามประสาลุงนะครับ ฟังซะที่ไหน
    นุ เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการยุยงส่งเสริมของอิป้าจีมโน
    จนนุอินไม่สนอะไรในโลกอีกต่อไป สุดท้าย นุโดนฟ๊อง
    แต่อิป้าก็เริ่มมีอาการที่เปลี่ยนไป จากเอ็นดูลุงนุเหมือนน้องรัก
    กลายเป็นเหมือนคนไม่รู้จัก
    ดังนั้น บรรดาสาวก โดยเฉพาะที่ตั้งกลุ่มนกแร๊งเที่ยวไปสืบข๊อมูลส่วนบุคคลชาวบ้าน คุณจะได้รับผลประโยชน์หรือไม่ก็ตาม
    ถ้าคุณยังคงเชื่อจีมโน และทำในสิ่งที่เสี่ยงต่อไป จุดจบก็ไม่พ้นสภาพของทั้งเป็ด และนุแน่นอน มันไม่เคยปกป้องใคร ยกเว้นตัวเอง
    คุณอยากจะทำตัวไร๊คุณค่า เป็นแค่เบี้ย แค่หมากให้คนอย่างอิป้าจีมโน
    เอาไว้เป็นทาส เป็นเครื่องมือต่อไป ก็เป็นการตัดสินใจของคุณ
    พี่คิงส์แค่มาให้สติ ในฐานะเราเป็นคนไทยด้วยกัน แค่นั้นเอง
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    #โพสนี้ขอทำบุญเพื่อเรียกสติคนที่กำลังพลาด อรุณสวัสชาวโซเชียลทุกแพลตฟอร์ม พี่คิงส์ ติดตามพฤติกรรมของอิป้าจีมโนมานาน ซึ่งบางเรื่อง มันก็เกินกว่าที่พี่คิงส์จะคิดจริงๆ เราจะรับรู้เรื่องการเชื่อมจิตของอิป้าจีมโนกันมาตลอด เพื่อสร้างความสำคัญให้ตัวเอง ทั้งๆตัวเองก็เพิ่งจะเข้ามา ในจักรวาลสาวเกาตอนท้ายๆของเรื่องด้วยซ้ำ พูดจาเอาที่ครูพักลักจำเขามา เอามาพูดเหมือนตัวเอง เป็นดุจผู้เชี่ยวชาญด้านสภาวะจิต แต่ที่จริงตัวเองมีแค่วุฒิม.3 แต่ก็อย่างว่า ในประเทศไทย คนจิตอ่อนมันเยอะ เวลาใครแสดงเก่ง พูดเก่ง ก็จะตกอยู่ในภวังค์ได้ง่ายๆ ไม่เหมือนพี่คิงส์ ปากก็หม๋า ปากก็จัด สิ่งที่โพสมันขมมันขื่น ถึงจะเป็นความจริง คนจิตอ่อนๆก็จะไม่อยากฟัง แต่คำพูดใช้เสียงกระเส่า บางทีก็เคี้ยวเฮี้ยไรไปพูดไป แล้วมันพูดได้ทั้งวันทั้งคืนของแทร่ด้วย ยอมใจมัน จนทำให้มีคนรู้สึกเคารพรักในตัวมัน โดยไม่รู้ตัวว่า ตัวเอง กำลังฟังคนไข๊จิตประสาทกล่อมจนหลง ก็จะมีวรรณะเกิด เช่นวรรณะทุย เป็นแค่กองเชียร์ ชื่นชม และปกป้อง ถ้าวรรณะสูงอีกหน่อย ก็จะเป็นบ่าวทุยผู้รับใช้ใกล้ชิด คนแรกที่พี่คิงส์สงสารมาก คือ ไอ่เป็ด ถึงแม้พฤติกรรม ที่ผ่านมา พี่จะจัดหนักไปไม่น้อยก็เหอะ และหลายคนก็ยังไม่รู้มาก่อนว่า ทำไม เป็ดถึงถอนตัว จากการเป็นมือขวาอิป้าจีมโน เรื่องคือ เป็ดมีข่าวว่าจะถูกฟ๊อง ซึ่งสิ่งที่เป็ดทำณ ก่อนหน้านั้น ป้าจีมโนมันจะเป็นคนชักใยอยู่ตลอด หลายเพจหลายช่องตต.ที่ปลิว ก็ฝีมือเป็ดที่พาพรรคพวกไปถล่มมาทั้งนั้นแหละ หรือการพูดข้อมูลที่มีความสุ่มเสี่ยง อิป้าจีมโน จะไม่พูดเองครับ จะให้สมุนมือขวามือซ้ายไปทำ โดยอ้างยายน้องบอกว่าอย่างนั้น อย่างนี้ตลอด และยังเป็นสื่อกลางให้ยายน้องส่งสติ๊กเกอร์เป็นการชื่นชมการกระทำของเป็ดอีก ใจก็ฟูอะดิ เป็ดมันก็เชื่อเพราะมันรักสาวเกาของมัน แต่พอข่าวมาว่า เป็ดจะโดนฟ๊อง มันเกิดความแปลกๆขึ้น คืออิป้าจีมโน มันไม่ปกป้องเลยเฟรี้ย พี่คิงส์ก็ตามดูว่ามันจะแอคชั่นยังไง เพราะเวลาที่ใครมีปัญหากับจีมโน จีมโนจะออกมาขู่ฟ่อๆ อย่าดูว่าแล้วสมุนของมันโดน มันจะปกป้องยังไง สิ่งที่พี่คิงส์ได้ยินคือ ความแหล๋ และความแถ แบบไม่อายใคร ป้าจีมโนมันใช้สำนวนว่า ที่ไม่ช่วยเป็ด เพราะรู้ว่าขึ้น SAN ยังไงเป็ดก็ชนะ อิเฮี้ย เมิงจะใช้เหตุผลนี้จริงๆอะดิ นั่นแหละ ที่เป็ดมันเริ่มตาสว่างละ ว่าที่อ้างว่ารักสาวเกา หรือที่โยนงานเสี่ยงๆทางกฎหม๋่ายให้มันทำ ไม่ทำเอง ป้าจีมโนก็แค่มองมันเป็นทาสบริวาร เป็นเบี้ย เป็นเครื่องมือ และยังไม่พอ มิหนำซ้ำ อิป้าจีมโน ยังสร้างสถานการณ์ ให้ไอ่เป็ดถูกแบนออกจากกลุ่ม เพียงเพื่อขจัดคนที่เริ่มไม่อยู่ในคอนโทลให้ออกไปห่างๆ คนที่สอง คือ นุ DIY ซึ่งนุเอง ก็เป็นคนธรรมดานี่แหละ สำนวนจะต่ำๆหน่อย เพราะเป็นแค่ชายแก่บ้านๆ เมียทิ้ง ลูกเต้าไม่ค่อยรัก ขาดความอบอุ่น แต่ได้สตอรี่ของสาวเกาเป็นพลังในการหล่อเลี้่ยงชีวิตฟันหล๋อๆของนุ และนุเอง มันก็ชอบไฝว้กับพี่คิงส์มาเรื่อยๆ แต่พี่เองก็เล่นกับมันได้ซักพัก ก็เริ่มเบื่อ ไม่อยากว่าปมของใคร และรำคาญในความเฉิ่มของนุ แต่ยังจำได้ว่า ขณะที่นุกำลังโพสไฝว้กับพี่คิงส์กันไปมา เป็นที่เฮฮาของแฟนคลับนั้น อิป้าจีมโนเห็นผลงานของนุ ก็เลยรีบทักไปหานุอย่างเร็ว และนุเองก็ดีใจเกิน แคปและโพสให้เห็นจะๆ ว่าอิป้าจีมโนเข้ามาทักชื่นชม และบอกว่า คนที่จะปราบคิงส์ได้ คงมีนุนี่แหละ เห็นป่ะนี่คือวิธีการลวงใช้ยืมมือคนอื่นทำ ป้าจีมโนสอนให้ลุงนุยิงแอด เพื่อเพิ่มยอดคนมองเห็น นุก็โพสบอก แถมยังเรียกจีมโนว่า อาจารย์อีกด้วย พี่คิงส์คิดว่าหลายคนที่ตามเพจพี่มาตลอดจะเคยเห็นที่พี่คิงส์ได้โพสให้สติกับนุ ว่าอย่าไปเชื่อป้าจีมโน มันให้โพสในสิ่งที่เสี่ยงๆ ก็ตามประสาลุงนะครับ ฟังซะที่ไหน นุ เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการยุยงส่งเสริมของอิป้าจีมโน จนนุอินไม่สนอะไรในโลกอีกต่อไป สุดท้าย นุโดนฟ๊อง แต่อิป้าก็เริ่มมีอาการที่เปลี่ยนไป จากเอ็นดูลุงนุเหมือนน้องรัก กลายเป็นเหมือนคนไม่รู้จัก ดังนั้น บรรดาสาวก โดยเฉพาะที่ตั้งกลุ่มนกแร๊งเที่ยวไปสืบข๊อมูลส่วนบุคคลชาวบ้าน คุณจะได้รับผลประโยชน์หรือไม่ก็ตาม ถ้าคุณยังคงเชื่อจีมโน และทำในสิ่งที่เสี่ยงต่อไป จุดจบก็ไม่พ้นสภาพของทั้งเป็ด และนุแน่นอน มันไม่เคยปกป้องใคร ยกเว้นตัวเอง คุณอยากจะทำตัวไร๊คุณค่า เป็นแค่เบี้ย แค่หมากให้คนอย่างอิป้าจีมโน เอาไว้เป็นทาส เป็นเครื่องมือต่อไป ก็เป็นการตัดสินใจของคุณ พี่คิงส์แค่มาให้สติ ในฐานะเราเป็นคนไทยด้วยกัน แค่นั้นเอง ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥 ถ้าเราเข้าใจหลักฟิสิกส์..ทุกๆอย่างในจักรวาล..มีพลังงาน..คำว่ามีพลังงานให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ มีแรงกระทำต่อสิ่งอื่น...
    ...เรื่องตัวเลข และสัญลักษณ์ ถูกใช้มาหลายพันปี...ก่อนมีศาสนา เสียอีก...ย้อนไปก่อนยุค อิยิปต์ โรมัน เสียอีก ตัวเลข แหละสัญลักษณ์แทนค่าดวงดาวต่างๆ..ที่มีลักษณะแตกต่างกัน..ต่อมาตัวเลข แหละสัญละกษณ์ถูกใช้ในพิธีกรรมบูชาเทพเจ้า หรือสิ่งที่เขานับถือ ..ลองนึกตามสัญลักษณ์ต่างๆ ของอียิปต์ หรือชาวอินคา.สิ..
    ...ผู้เขียนศึกษามานาน..เรื่องพลังงาน ที่ไม่ใช่ความเขื่อ...ที่เคยเขียนเรื่องทำนายนิสัยคนตามเลขวันเกิด....ของชาวญี่ปุ่น...ทำไมมันตรง..มันไม่ใช่ดูดวง..มันคือการเก็บสถิติ.(ดูจาก reference ท้ายเล่ม สำรวจจากคนหลายหมื่น)..เพราะตัวเลขให้พลังงานแบบนั้น.....
    ....บางคนบอกก้อนหินละ มีพลังงานไหม..ตอบว่า มี ..แค่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถขี้ชัดได้..เอาที่ชี้ชัดคือ หินควอทซ์ ..ที่เอาทำวงจรให้พลังงานนาฬิกาควอทซ์นั่นไง... (แต่ต้องมีอุปกรณ์ร่วมนะให้เกิดพลังงาน) ..หินลาพิส (สีน้ำเงิน) ..ในอารยธรรมอียิปต์ มีโบราณวัตถุหลายชิ้น มีหินนี้เป็นส่วนประกอบ......
    ..แล้วพระเก๊ละ มีพลังงานไหม? ตอบว่า มี ..คือ น้ำหนัก .ที่ส่งผ่านสู่สิ่งอื่น...พลังงานแบบอื่นคงไม่ต้องพูดถึง..☺️
    💥 ถ้าเราเข้าใจหลักฟิสิกส์..ทุกๆอย่างในจักรวาล..มีพลังงาน..คำว่ามีพลังงานให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ มีแรงกระทำต่อสิ่งอื่น... ...เรื่องตัวเลข และสัญลักษณ์ ถูกใช้มาหลายพันปี...ก่อนมีศาสนา เสียอีก...ย้อนไปก่อนยุค อิยิปต์ โรมัน เสียอีก ตัวเลข แหละสัญลักษณ์แทนค่าดวงดาวต่างๆ..ที่มีลักษณะแตกต่างกัน..ต่อมาตัวเลข แหละสัญละกษณ์ถูกใช้ในพิธีกรรมบูชาเทพเจ้า หรือสิ่งที่เขานับถือ ..ลองนึกตามสัญลักษณ์ต่างๆ ของอียิปต์ หรือชาวอินคา.สิ.. ...ผู้เขียนศึกษามานาน..เรื่องพลังงาน ที่ไม่ใช่ความเขื่อ...ที่เคยเขียนเรื่องทำนายนิสัยคนตามเลขวันเกิด....ของชาวญี่ปุ่น...ทำไมมันตรง..มันไม่ใช่ดูดวง..มันคือการเก็บสถิติ.(ดูจาก reference ท้ายเล่ม สำรวจจากคนหลายหมื่น)..เพราะตัวเลขให้พลังงานแบบนั้น..... ....บางคนบอกก้อนหินละ มีพลังงานไหม..ตอบว่า มี ..แค่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถขี้ชัดได้..เอาที่ชี้ชัดคือ หินควอทซ์ ..ที่เอาทำวงจรให้พลังงานนาฬิกาควอทซ์นั่นไง... (แต่ต้องมีอุปกรณ์ร่วมนะให้เกิดพลังงาน) ..หินลาพิส (สีน้ำเงิน) ..ในอารยธรรมอียิปต์ มีโบราณวัตถุหลายชิ้น มีหินนี้เป็นส่วนประกอบ...... ..แล้วพระเก๊ละ มีพลังงานไหม? ตอบว่า มี ..คือ น้ำหนัก .ที่ส่งผ่านสู่สิ่งอื่น...พลังงานแบบอื่นคงไม่ต้องพูดถึง..☺️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • จาก/จบ/ฝากลา/พบ
    จักรวาลหมุนวนไปอย่างนั้นเอง

    จากหนังสือ |พบกันเพื่อจบ จาก และฝากลา

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #พบกันเพื่อจบจากและฝากลา
    จาก/จบ/ฝากลา/พบ จักรวาลหมุนวนไปอย่างนั้นเอง จากหนังสือ |พบกันเพื่อจบ จาก และฝากลา #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #พบกันเพื่อจบจากและฝากลา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระอุปัชฌาย์กรัก รุ่นแรก วัดอัมพวัน จ.ลพบุรี ปี2469

    เหรียญพระอุปัชฌาย์กรัก รุ่นแรก วัดอัมพวัน จ.ลพบุรี ปี2469 //เหรียญเก่า พศ.ลึก เหรียญหายากที่ไม่ค่อยพบเจอ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครอบจักรวาล มีทั้งเมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยม คนชมชอบ เป็นที่รักใคร่แก่เทพเทวดา และคนทั่วไป ใครเห็นใครรัก ใครเห็นเมตตา เป็นมงคลมีความเย็นอยู่ในตัว หนุนดวงชะตา เน้นเสริมโภคทรัพย์ การงานธุรกิจค้าขายเจริญรุ่งเรือง สำเร็จสมปราถนา >>

    ** พระอุปัชฌาย์กรัก พระเกจิเชื้อสายรามัญผู้ขมังเวทย์แนวหน้าแห่งเมืองละโว้ ท่านจะเป็นพระภิกษุที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว ทางด้านวิทยาคมนั้นนับว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าของลพบุรีทีเดียว ท่านมีความขลังในด้านลงกระหม่อมด้วยขมิ้นชัน ขนาดถูกตีจนหัวน่วมก็ไม่แตก พระอุปัชฌาย์กรัก มรณภาพในปี พ.ศ. 2483 สิริอายุได้ 85 ปี พรรษาที่ 65 เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อสร้างในปีพ.ศ. 2469 เป็นเหรียญรูปท่านนั่งเต็มองค์ มีทั้งเหรียญกลมพร้อมด้วยเหรียญรูปไข่ ด้านหลังท่านจะลงด้วยคาถา ทุ สะ นิ มะ คือย่อมาจาก ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เพื่อให้มีความหมายถึงการสั่งสอนศิษย์ให้รู้ว่าทุกข์คือการไม่สบายใจและกาย สมุทัยคือ ต้นเหตุแห่งการเกิดทุกข์ ได้แก่กิเลสตัณหาต่างๆ นิโรธคือ แนว ทางที่จะปฏิบัติให้ดับทุกข์ มรรคคือ วัตรปฏิบัติเพื่อจะมุ่งพระนิพพานอย่างแท้จริง คาถาล้อมรอบในกลีบดอกบัวก็คือ มะอะอุ อะอุมะ อุมะอะ สลับกลับไปกลับมา ส่วนที่ด้านหน้า ระบุปี พ.ศ. 2469 >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระอุปัชฌาย์กรัก รุ่นแรก วัดอัมพวัน จ.ลพบุรี ปี2469 เหรียญพระอุปัชฌาย์กรัก รุ่นแรก วัดอัมพวัน จ.ลพบุรี ปี2469 //เหรียญเก่า พศ.ลึก เหรียญหายากที่ไม่ค่อยพบเจอ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครอบจักรวาล มีทั้งเมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยม คนชมชอบ เป็นที่รักใคร่แก่เทพเทวดา และคนทั่วไป ใครเห็นใครรัก ใครเห็นเมตตา เป็นมงคลมีความเย็นอยู่ในตัว หนุนดวงชะตา เน้นเสริมโภคทรัพย์ การงานธุรกิจค้าขายเจริญรุ่งเรือง สำเร็จสมปราถนา >> ** พระอุปัชฌาย์กรัก พระเกจิเชื้อสายรามัญผู้ขมังเวทย์แนวหน้าแห่งเมืองละโว้ ท่านจะเป็นพระภิกษุที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว ทางด้านวิทยาคมนั้นนับว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าของลพบุรีทีเดียว ท่านมีความขลังในด้านลงกระหม่อมด้วยขมิ้นชัน ขนาดถูกตีจนหัวน่วมก็ไม่แตก พระอุปัชฌาย์กรัก มรณภาพในปี พ.ศ. 2483 สิริอายุได้ 85 ปี พรรษาที่ 65 เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อสร้างในปีพ.ศ. 2469 เป็นเหรียญรูปท่านนั่งเต็มองค์ มีทั้งเหรียญกลมพร้อมด้วยเหรียญรูปไข่ ด้านหลังท่านจะลงด้วยคาถา ทุ สะ นิ มะ คือย่อมาจาก ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เพื่อให้มีความหมายถึงการสั่งสอนศิษย์ให้รู้ว่าทุกข์คือการไม่สบายใจและกาย สมุทัยคือ ต้นเหตุแห่งการเกิดทุกข์ ได้แก่กิเลสตัณหาต่างๆ นิโรธคือ แนว ทางที่จะปฏิบัติให้ดับทุกข์ มรรคคือ วัตรปฏิบัติเพื่อจะมุ่งพระนิพพานอย่างแท้จริง คาถาล้อมรอบในกลีบดอกบัวก็คือ มะอะอุ อะอุมะ อุมะอะ สลับกลับไปกลับมา ส่วนที่ด้านหน้า ระบุปี พ.ศ. 2469 >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมถือคติว่าจะไม่เก็บไพ่ที่สร้างจาก Fandom ที่ตัวเองไม่คุ้นเคย เว้นแต่มันจะสวยตาแตกหรือมีอะไรสักอย่างที่ดึงดูดใจผม และ 'World of Warcraft Tarot' (2024) ก็สวยจนเข้าข่ายข้อยกเว้นในแบบแรก

    ไพ่ชุดนี้ผลิตและจัดจำหน่ายโดย สนพ. Titan Books โดยได้ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Blizzard Entertainment หนึ่งในค่ายเกมยักษ์ใหญ่แห่งอเมริกาซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกมในซีรีส์ World of Warcraft รวมถึงเกมชื่อดังอีกหลายเกม เช่น Overwatch, StarCraft และ Diablo (อันหลังนี่ถูก Titan Books นำไปสร้างเป็นไพ่ทาโรต์ด้วย)

    World of Warcraft เป็นเกม MMORPG (RPG แบบที่ต้องต่อเน็ตเล่นกับชาวบ้าน) ในแฟรนไชส์เกม Warcraft ต่อมาแตกแขนงออกไปเป็นเกมแนววางแผนการรบชื่อ DotA (อ่านว่า โดต้า แต่คนไทยชอบเรียก ด็อตเอ) ซึ่งเคยเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่นชาย gen Y และ gen X ตอนปลาย นอกจากนั้นตัว Warcraft ที่เป็นเกมหลัก ยังเคยถูกนำไปสร้างดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ฉายในปี 2016 ซึ่งไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าไร

    ก่อนจะเข้าเรื่องไพ่ ผมขอเกริ่นถึงจักรวาล Warcraft ที่เป็นฉากท้องเรื่องเดียวกับไพ่ชุดที่กำลังรีวิวนี้คร่าว ๆ นะครับ Warcraft จัดว่าเป็นสื่อแนวแฟนตาซีประเภทเล่นใหญ่ มีเวทมนตร์และเผ่าพันธุ์อมนุษย์จำพวกที่พบเจอบ่อย ๆ ได้นิยายและหนังแฟนตาซี เช่น เอลฟ์ คนแคระ ออร์ก ฯลฯ แต่ความแตกต่างอย่างหนึ่งที่พอจะแยก Warcraft จากเรื่องแฟนตาซีอื่น ๆ อยู่บ้างก็คือ เผ่าพันธุ์ออร์กซึ่งรับบทตัวร้ายหลัก อพยพมาจากดาวเคราะห์บ้านเกิดชื่อ Draenor ซึ่งกำลังจะล่มสลาย ข้ามประตูเวทมายังดาว Azeroth ที่มีมนุษย์ เอลฟ์ คนแคระ และเผ่าพันธุ์อื่น ๆ อาศัยอยู่ และเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นตามมาจากนั้นก็กลายเป็นสงครามการรุกรานและแย่งชิงดินแดนโดยพวกออร์กอีกมากมายหลายครั้งในซีรีส์นี้ เอาละ รู้แค่นี้พอ กลับมาเรื่องไพ่

    ไพ่ World of Warcraft Tarot สร้างขึ้นโดยอ้างอิงเนื้อเรื่องในจักรวาล Warcraft แต่ถ้าถามว่าจำเป็นไหมที่จะต้องรู้เนื้อเรื่องของตัวละครหรือฉากบนหน้าไพ่ ตอบเลยว่าไม่จำเป็นครับ ไพ่ในสำรับ 78 ใบ เกือบทุกใบมีโครงสร้างหน้าไพ่ที่ใกล้เคียงกับชุดมาตรฐานอย่าง RWS โดยเฉพาะในไพ่ชุดรองทั้ง 4 ตระกูล

    ส่วนในไพ่ชุดหลัก 22 ใบ บางใบถ้าดูแค่หน้าไพ่อย่างเดียวก็จะงง ๆ หน่อย หาความเชื่อมโยงกับไพ่ในระบบมาตรฐานไม่ได้ เช่น ไพ่ The Fool และ Temperance มีรูปมังกรยืนจังก้าอยู่ ไพ่ Tower มีรูปดาบ ถ้าปิดชื่อปิดหมายเลขก็อาจทำให้หลงนึกว่าเป็นไพ่ 1 ดาบได้

    ยังดีที่ในคู่มือที่แถมมากับไพ่มีการอธิบาย Lore หรือเกร็ดเรื่องราวของสิ่งที่อยู่บนหน้าไพ่ชุดหลักทั้ง 22 ใบเอาไว้พอสังเขป อ่านแล้วจะพอเข้าใจว่าตัวละครหรือสิ่งของบนหน้าไพ่นั้นมีความเป็นมาหรือบทบาทที่เชื่อมโยงกับความหมายไพ่ใบนั้น ๆ อย่างไร น่าเสียดายที่ในส่วนของไพ่ชุดเล็กจะไม่มีการอธิบาย Lore แบบเดียวกันนี้อยู่ แค่บอกความหมายของไพ่ตามปกติ ขอเสริมเล็กน้อยว่าผู้เขียนคู่มือของไพ่ชุดนี้คือ Ian Flynn ซึ่งเป็นผู้แต่งเนื้อเรื่องในการ์ตูนคอมิกชื่อดังหลายเรื่องของอเมริกา

    ในแง่การผลิต ไพ่ชุดนี้ถือว่าเป็นไพ่ Fandom ที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดย สนพ. เป็นทางการ (คือไม่ใช่ผู้ผลิตอิสระ) ที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเจอมา ภาพหน้าไพ่มีโทนสีหลักแค่ 1-2 สี ล้อมอยู่ในกรอบสีทองสะท้อนแสงบนพื้นหลังสีขาวนวล บรรจุในกล่องฝาครอบแข็งจั่วปังสีขาวลายหินอ่อนพร้อมริบบิ้นสีทองสำหรับใช้งัดไพ่ออกจากกล่อง

    ตัวไพ่พิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตเคลือบด้านที่น่าจะหนา 360 - 400 gsm หน้าไพ่ปั๊มทองสะท้อนแสงตรงกรอบไพ่ หลังไพ่เคลือบ UV เฉพาะจุดบนรูปวงพลังธาตุทั้ง 6 ในจักรวาล Warcraft ทุกอย่างกรีดร้องออกมาเป็นคำว่า เรียบหรู ขัดกับภาพลักษณ์ความเป็นเกมสำหรับวัยรุ่นเกรียนแตกแบบ DotA ในความทรงจำของผมอย่างไรชอบกล (ซึ่งถือเป็นเรื่องดี)

    สำหรับคนที่ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับ World of Warcraft แต่หลงใหลในความแฟนตาซีเรียบหรูของไพ่ชุดนี้ ส่วนตัวผมอยากฝากคำแนะนำว่า คุณไม่ต้องไปแคร์กับหน้าไพ่ แต่ใช้ไพ่ชุดนี้โดยยึดความหมายไพ่ตามขนบหรือตามแนวทางที่คุณเรียนมาไปเลย ไม่จำเป็นต้องอ่านเกร็ดเนื้อเรื่องในคู่มือหรือตามศึกษาเนื้อเรื่องจากจักรวาล Warcraft แต่ถ้ามีเวลาว่างทำ คุณก็อาจจะได้แง่มุมอะไรเพิ่มเติมจากเกร็ดเนื้อเรื่องไว้ไปใช้ประกอบการตีความไพ่ด้วยก็ได้ครับ การใช้ไพ่ Fandom ทุกชุดก็มีหลักไม่ต่างกันนี้

    ปัจจุบัน World of Warcraft Tarot มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้าน Asia Books ทุกสาขาครับ
    ผมถือคติว่าจะไม่เก็บไพ่ที่สร้างจาก Fandom ที่ตัวเองไม่คุ้นเคย เว้นแต่มันจะสวยตาแตกหรือมีอะไรสักอย่างที่ดึงดูดใจผม และ 'World of Warcraft Tarot' (2024) ก็สวยจนเข้าข่ายข้อยกเว้นในแบบแรก ไพ่ชุดนี้ผลิตและจัดจำหน่ายโดย สนพ. Titan Books โดยได้ลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Blizzard Entertainment หนึ่งในค่ายเกมยักษ์ใหญ่แห่งอเมริกาซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกมในซีรีส์ World of Warcraft รวมถึงเกมชื่อดังอีกหลายเกม เช่น Overwatch, StarCraft และ Diablo (อันหลังนี่ถูก Titan Books นำไปสร้างเป็นไพ่ทาโรต์ด้วย) World of Warcraft เป็นเกม MMORPG (RPG แบบที่ต้องต่อเน็ตเล่นกับชาวบ้าน) ในแฟรนไชส์เกม Warcraft ต่อมาแตกแขนงออกไปเป็นเกมแนววางแผนการรบชื่อ DotA (อ่านว่า โดต้า แต่คนไทยชอบเรียก ด็อตเอ) ซึ่งเคยเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่นชาย gen Y และ gen X ตอนปลาย นอกจากนั้นตัว Warcraft ที่เป็นเกมหลัก ยังเคยถูกนำไปสร้างดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ฉายในปี 2016 ซึ่งไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าไร ก่อนจะเข้าเรื่องไพ่ ผมขอเกริ่นถึงจักรวาล Warcraft ที่เป็นฉากท้องเรื่องเดียวกับไพ่ชุดที่กำลังรีวิวนี้คร่าว ๆ นะครับ Warcraft จัดว่าเป็นสื่อแนวแฟนตาซีประเภทเล่นใหญ่ มีเวทมนตร์และเผ่าพันธุ์อมนุษย์จำพวกที่พบเจอบ่อย ๆ ได้นิยายและหนังแฟนตาซี เช่น เอลฟ์ คนแคระ ออร์ก ฯลฯ แต่ความแตกต่างอย่างหนึ่งที่พอจะแยก Warcraft จากเรื่องแฟนตาซีอื่น ๆ อยู่บ้างก็คือ เผ่าพันธุ์ออร์กซึ่งรับบทตัวร้ายหลัก อพยพมาจากดาวเคราะห์บ้านเกิดชื่อ Draenor ซึ่งกำลังจะล่มสลาย ข้ามประตูเวทมายังดาว Azeroth ที่มีมนุษย์ เอลฟ์ คนแคระ และเผ่าพันธุ์อื่น ๆ อาศัยอยู่ และเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นตามมาจากนั้นก็กลายเป็นสงครามการรุกรานและแย่งชิงดินแดนโดยพวกออร์กอีกมากมายหลายครั้งในซีรีส์นี้ เอาละ รู้แค่นี้พอ กลับมาเรื่องไพ่ ไพ่ World of Warcraft Tarot สร้างขึ้นโดยอ้างอิงเนื้อเรื่องในจักรวาล Warcraft แต่ถ้าถามว่าจำเป็นไหมที่จะต้องรู้เนื้อเรื่องของตัวละครหรือฉากบนหน้าไพ่ ตอบเลยว่าไม่จำเป็นครับ ไพ่ในสำรับ 78 ใบ เกือบทุกใบมีโครงสร้างหน้าไพ่ที่ใกล้เคียงกับชุดมาตรฐานอย่าง RWS โดยเฉพาะในไพ่ชุดรองทั้ง 4 ตระกูล ส่วนในไพ่ชุดหลัก 22 ใบ บางใบถ้าดูแค่หน้าไพ่อย่างเดียวก็จะงง ๆ หน่อย หาความเชื่อมโยงกับไพ่ในระบบมาตรฐานไม่ได้ เช่น ไพ่ The Fool และ Temperance มีรูปมังกรยืนจังก้าอยู่ ไพ่ Tower มีรูปดาบ ถ้าปิดชื่อปิดหมายเลขก็อาจทำให้หลงนึกว่าเป็นไพ่ 1 ดาบได้ ยังดีที่ในคู่มือที่แถมมากับไพ่มีการอธิบาย Lore หรือเกร็ดเรื่องราวของสิ่งที่อยู่บนหน้าไพ่ชุดหลักทั้ง 22 ใบเอาไว้พอสังเขป อ่านแล้วจะพอเข้าใจว่าตัวละครหรือสิ่งของบนหน้าไพ่นั้นมีความเป็นมาหรือบทบาทที่เชื่อมโยงกับความหมายไพ่ใบนั้น ๆ อย่างไร น่าเสียดายที่ในส่วนของไพ่ชุดเล็กจะไม่มีการอธิบาย Lore แบบเดียวกันนี้อยู่ แค่บอกความหมายของไพ่ตามปกติ ขอเสริมเล็กน้อยว่าผู้เขียนคู่มือของไพ่ชุดนี้คือ Ian Flynn ซึ่งเป็นผู้แต่งเนื้อเรื่องในการ์ตูนคอมิกชื่อดังหลายเรื่องของอเมริกา ในแง่การผลิต ไพ่ชุดนี้ถือว่าเป็นไพ่ Fandom ที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดย สนพ. เป็นทางการ (คือไม่ใช่ผู้ผลิตอิสระ) ที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเจอมา ภาพหน้าไพ่มีโทนสีหลักแค่ 1-2 สี ล้อมอยู่ในกรอบสีทองสะท้อนแสงบนพื้นหลังสีขาวนวล บรรจุในกล่องฝาครอบแข็งจั่วปังสีขาวลายหินอ่อนพร้อมริบบิ้นสีทองสำหรับใช้งัดไพ่ออกจากกล่อง ตัวไพ่พิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตเคลือบด้านที่น่าจะหนา 360 - 400 gsm หน้าไพ่ปั๊มทองสะท้อนแสงตรงกรอบไพ่ หลังไพ่เคลือบ UV เฉพาะจุดบนรูปวงพลังธาตุทั้ง 6 ในจักรวาล Warcraft ทุกอย่างกรีดร้องออกมาเป็นคำว่า เรียบหรู ขัดกับภาพลักษณ์ความเป็นเกมสำหรับวัยรุ่นเกรียนแตกแบบ DotA ในความทรงจำของผมอย่างไรชอบกล (ซึ่งถือเป็นเรื่องดี) สำหรับคนที่ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับ World of Warcraft แต่หลงใหลในความแฟนตาซีเรียบหรูของไพ่ชุดนี้ ส่วนตัวผมอยากฝากคำแนะนำว่า คุณไม่ต้องไปแคร์กับหน้าไพ่ แต่ใช้ไพ่ชุดนี้โดยยึดความหมายไพ่ตามขนบหรือตามแนวทางที่คุณเรียนมาไปเลย ไม่จำเป็นต้องอ่านเกร็ดเนื้อเรื่องในคู่มือหรือตามศึกษาเนื้อเรื่องจากจักรวาล Warcraft แต่ถ้ามีเวลาว่างทำ คุณก็อาจจะได้แง่มุมอะไรเพิ่มเติมจากเกร็ดเนื้อเรื่องไว้ไปใช้ประกอบการตีความไพ่ด้วยก็ได้ครับ การใช้ไพ่ Fandom ทุกชุดก็มีหลักไม่ต่างกันนี้ ปัจจุบัน World of Warcraft Tarot มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้าน Asia Books ทุกสาขาครับ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## เสือกทะลุจักรวาล...!!! ##
    ..
    ..
    ดูรูปให้ครบแล้วอ่านให้จบก่อน ค่อยมาอ่านข้างล่างต่อนะครับ...
    ...
    ...
    คนพวกนี้ สำนวนจีน เขาว่า "กินอิ่มแล้วไม่มีอะไรจะทำ"...???
    .
    สำนวน วัยรุ่น เลือดร้อน เขาว่า "เสือก"...!!!
    .
    อเมริกา และ องค์กรโลกบาล เสือกเรื่องของคนอื่นเขาไปทั่วโลก...!!!
    .
    อเมริกา โดย ประธานาธิบดี ทรัมป์ จะยอมรับเฉพาะ ผู้ชายและผูหญิงเท่านั้น...!!!
    .
    จะเลิกสนับสนุนทุกโครงการ เกี่ยวกับ LGBTQ...
    .
    พูดง่ายๆ คือ ไม่ยอมรับ LGBTQ แล้ว...
    .
    พี่ไม่ลองย้อนกลับ ไปเห่า ไปเสือก กะตาทรัมป์ ประธานาธิบดี แห่ง อเมริกา หน่อยเหรอ...???
    .
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    .
    Cr. Facebook กิ๊ฟจังนั่งเล่า
    https://www.facebook.com/share/p/1BK2xtk2D7/
    ## เสือกทะลุจักรวาล...!!! ## .. .. ดูรูปให้ครบแล้วอ่านให้จบก่อน ค่อยมาอ่านข้างล่างต่อนะครับ... ... ... คนพวกนี้ สำนวนจีน เขาว่า "กินอิ่มแล้วไม่มีอะไรจะทำ"...??? . สำนวน วัยรุ่น เลือดร้อน เขาว่า "เสือก"...!!! . อเมริกา และ องค์กรโลกบาล เสือกเรื่องของคนอื่นเขาไปทั่วโลก...!!! . อเมริกา โดย ประธานาธิบดี ทรัมป์ จะยอมรับเฉพาะ ผู้ชายและผูหญิงเท่านั้น...!!! . จะเลิกสนับสนุนทุกโครงการ เกี่ยวกับ LGBTQ... . พูดง่ายๆ คือ ไม่ยอมรับ LGBTQ แล้ว... . พี่ไม่ลองย้อนกลับ ไปเห่า ไปเสือก กะตาทรัมป์ ประธานาธิบดี แห่ง อเมริกา หน่อยเหรอ...??? . 🤣🤣🤣🤣🤣🤣 . Cr. Facebook กิ๊ฟจังนั่งเล่า https://www.facebook.com/share/p/1BK2xtk2D7/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กรูขรรม
    ความพังยังไม่พอ ดิ้น ดิ้น ดิ้น
    หัวโจกแฟนคลับป๋วยจิต
    ศึกในยังฝุ่นตลบ
    แค่น้องมันบอกหมั่นไส๊ ทำเป็นดิ้น
    ทุกอย่างจะพังเพราะเมิงนี่แหละ
    แต่ CL น้องเค้าได้สร้างจักรวาลแห่งความสุข
    ให้แฟนคลับไปไกลแล้ว อิฟาย
    เถี๋ยงไม่ได้ยิงเพจเค้า ขู่ฟ๊องคนนั้นคนนี้
    เดี๋ยวก็เอาบอทไปทำเทรนทิพย์ต่อ ทุ๊ย
    มุกเดิมๆ
    รวมสมุนกองทั๊พทุย ป่วนที่นั่นที่นี่
    ใหญ่สุดในกะละ โลกกว้างกว่าที่พวกเมิงเป็น
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    #กรูขรรม ความพังยังไม่พอ ดิ้น ดิ้น ดิ้น หัวโจกแฟนคลับป๋วยจิต ศึกในยังฝุ่นตลบ แค่น้องมันบอกหมั่นไส๊ ทำเป็นดิ้น ทุกอย่างจะพังเพราะเมิงนี่แหละ แต่ CL น้องเค้าได้สร้างจักรวาลแห่งความสุข ให้แฟนคลับไปไกลแล้ว อิฟาย เถี๋ยงไม่ได้ยิงเพจเค้า ขู่ฟ๊องคนนั้นคนนี้ เดี๋ยวก็เอาบอทไปทำเทรนทิพย์ต่อ ทุ๊ย มุกเดิมๆ รวมสมุนกองทั๊พทุย ป่วนที่นั่นที่นี่ ใหญ่สุดในกะละ โลกกว้างกว่าที่พวกเมิงเป็น อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨พระชัยวัฒน์มังกรทอง วัดสุทัศน์ พิธีพุทธาภิเษก เสาร์ห้า ปีพ.ศ.2543 หลวงปู่หมุน ฐิตะสีโล แห่งวัดบ้านจาน พระเกจิอาจารย์ผู้ขมังเวทย์ปลุกเสก พุทธศิลป์องค์พระสวยงาม และ พุทธคุณย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่าครอบจักรวาล ทั้งแคล้วคลาด ป้องกันสิ่งชั่วร้าย โชคลาภ เมตตามหานิยม ตามตำรับของสำนักวัดสุทัศน์ที่สืบทอดต่อๆกันมา
    ✨พระชัยวัฒน์มังกรทอง วัดสุทัศน์ พิธีพุทธาภิเษก เสาร์ห้า ปีพ.ศ.2543 หลวงปู่หมุน ฐิตะสีโล แห่งวัดบ้านจาน พระเกจิอาจารย์ผู้ขมังเวทย์ปลุกเสก พุทธศิลป์องค์พระสวยงาม และ พุทธคุณย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่าครอบจักรวาล ทั้งแคล้วคลาด ป้องกันสิ่งชั่วร้าย โชคลาภ เมตตามหานิยม ตามตำรับของสำนักวัดสุทัศน์ที่สืบทอดต่อๆกันมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • เกมเก็บเหรียญ Jagat น่าสงสัยความเสี่ยงสูง

    Jagat ภาษาอินโดนีเซียแปลว่าจักรวาล ระบุตัวเองว่าเป็นแอปพลิเคชันค้นหาครอบครัวและเพื่อน แต่มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Jagat Coin Hunt เปิดให้ทำภารกิจล่าเหรียญเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย โดยนำเหรียญที่จัดทำขึ้นไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆ แล้วให้คนที่เล่นเกมไปตามหาเหรียญบนแผนที่ เปิดระบบตั้งแต่เวลา 08.00-24.00 น. เมื่อพบเหรียญจะต้องกรอกรหัสบนเหรียญ ถ่ายคลิปและภาพนิ่งลงในติ๊กต็อกพร้อมแฮชแท็กที่กำหนด จะได้เงินรางวัลตั้งแต่ 500 บาท ถึง 200,000 บาท

    เมื่อมีการโปรโมตเกมผ่านติ๊กต็อก ทำให้วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน รวมทั้งคนที่ทำอาชีพอิสระ เช่น ไรเดอร์ ออกตามหาเหรียญโดยรวมตัวกันในสถานที่ซึ่งถูกบอกใบ้ว่ามีเหรียญซ่อนอยู่จำนวนมาก และบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือบางคนรื้อสถานที่สาธารณะทั้งต้นไม้ใบหญ้า งัดฝาท่อ งัดอิฐตัวหนอน งัดเก้าอี้ ทรัพย์สินเสียหาย ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนต่างโดดเรียนเพื่อตามหาเหรียญโดยไม่บอกผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายต่อสังคม

    แอปพลิเคชัน Jagat พัฒนาโดยบริษัท JAGAT TECHNOLOGY PTE. LTD. จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ใช้ที่อยู่ในอาคาร OUE Downtown ข้อมูลจาก RocketReach ระบุว่าประธานบริษัทคือ Barry Beagen อยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และซีอีโอคือ Xing Loy อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีพนักงานจำนวน 19 คน จากการค้นหาเว็บไซต์ LinkedIn พบว่าพนักงานมีทั้งอยู่ในอินโดนีเซีย ประเทศจีน (เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน) สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แต่ไม่พบว่าจดทะเบียนหรือประกอบธุรกิจในประเทศไทย

    ที่น่าเป็นห่วงก็คือ จากการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พบว่าไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง อาทิ การให้เสียเงินจำนวนมากเพื่อบอกคำใบ้ที่ซ่อนเหรียญ เริ่มต้นที่ 149 บาท ถ้าต้องการคำใบ้เพิ่ม ต้องซื้อเพิ่มตั้งแต่ 29 ถึง 300 บาท ซึ่งมีเยาวชนจำนวนมากเสียเงินเพื่อซื้อคำใบ้ ส่วนผู้สื่อข่าวพอพบเหรียญกลับถูกยกเลิกเพราะผู้ดูแลระบบรู้ว่าเป็นผู้สื่อข่าว การเพิ่มเพื่อนที่พบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลหลายอย่าง อีกฝ่ายสามารถติดตามได้ถ้าเสียเงินสมัครสมาชิก ทั้งการเคลื่อนย้าย พิกัดโลเกชัน การใช้โทรศัพท์ การชาร์จแบตเตอรี แม้กระทั่งการนอนหลับและการตื่นนอน ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับคนที่ประสงค์ร้ายต่อเด็ก

    ล่าสุดพบว่าการโอนเงินรางวัลผ่านทรูวอลเล็ตไม่ใช่บัญชีบริษัท แต่เป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีผู้ได้รับเงินรางวัลรายหนึ่ง ไปให้การกับตำรวจไซเบอร์ตามหมายเรียก แล้วถูกผู้ดูแลระบบตัดออกจากเกม

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    เกมเก็บเหรียญ Jagat น่าสงสัยความเสี่ยงสูง Jagat ภาษาอินโดนีเซียแปลว่าจักรวาล ระบุตัวเองว่าเป็นแอปพลิเคชันค้นหาครอบครัวและเพื่อน แต่มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Jagat Coin Hunt เปิดให้ทำภารกิจล่าเหรียญเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย โดยนำเหรียญที่จัดทำขึ้นไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆ แล้วให้คนที่เล่นเกมไปตามหาเหรียญบนแผนที่ เปิดระบบตั้งแต่เวลา 08.00-24.00 น. เมื่อพบเหรียญจะต้องกรอกรหัสบนเหรียญ ถ่ายคลิปและภาพนิ่งลงในติ๊กต็อกพร้อมแฮชแท็กที่กำหนด จะได้เงินรางวัลตั้งแต่ 500 บาท ถึง 200,000 บาท เมื่อมีการโปรโมตเกมผ่านติ๊กต็อก ทำให้วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน รวมทั้งคนที่ทำอาชีพอิสระ เช่น ไรเดอร์ ออกตามหาเหรียญโดยรวมตัวกันในสถานที่ซึ่งถูกบอกใบ้ว่ามีเหรียญซ่อนอยู่จำนวนมาก และบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือบางคนรื้อสถานที่สาธารณะทั้งต้นไม้ใบหญ้า งัดฝาท่อ งัดอิฐตัวหนอน งัดเก้าอี้ ทรัพย์สินเสียหาย ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนต่างโดดเรียนเพื่อตามหาเหรียญโดยไม่บอกผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายต่อสังคม แอปพลิเคชัน Jagat พัฒนาโดยบริษัท JAGAT TECHNOLOGY PTE. LTD. จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ใช้ที่อยู่ในอาคาร OUE Downtown ข้อมูลจาก RocketReach ระบุว่าประธานบริษัทคือ Barry Beagen อยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และซีอีโอคือ Xing Loy อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีพนักงานจำนวน 19 คน จากการค้นหาเว็บไซต์ LinkedIn พบว่าพนักงานมีทั้งอยู่ในอินโดนีเซีย ประเทศจีน (เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน) สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แต่ไม่พบว่าจดทะเบียนหรือประกอบธุรกิจในประเทศไทย ที่น่าเป็นห่วงก็คือ จากการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พบว่าไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง อาทิ การให้เสียเงินจำนวนมากเพื่อบอกคำใบ้ที่ซ่อนเหรียญ เริ่มต้นที่ 149 บาท ถ้าต้องการคำใบ้เพิ่ม ต้องซื้อเพิ่มตั้งแต่ 29 ถึง 300 บาท ซึ่งมีเยาวชนจำนวนมากเสียเงินเพื่อซื้อคำใบ้ ส่วนผู้สื่อข่าวพอพบเหรียญกลับถูกยกเลิกเพราะผู้ดูแลระบบรู้ว่าเป็นผู้สื่อข่าว การเพิ่มเพื่อนที่พบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลหลายอย่าง อีกฝ่ายสามารถติดตามได้ถ้าเสียเงินสมัครสมาชิก ทั้งการเคลื่อนย้าย พิกัดโลเกชัน การใช้โทรศัพท์ การชาร์จแบตเตอรี แม้กระทั่งการนอนหลับและการตื่นนอน ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับคนที่ประสงค์ร้ายต่อเด็ก ล่าสุดพบว่าการโอนเงินรางวัลผ่านทรูวอลเล็ตไม่ใช่บัญชีบริษัท แต่เป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีผู้ได้รับเงินรางวัลรายหนึ่ง ไปให้การกับตำรวจไซเบอร์ตามหมายเรียก แล้วถูกผู้ดูแลระบบตัดออกจากเกม #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 571 มุมมอง 0 รีวิว
  • #The real King Heart admits is om
    #โอเคมาเปิดหน้าชน
    เชื่อว่ากว่าสองปีที่มีคนเข้ามาค้นหาในเซิทเอนจิ้น
    ว่าพี่คิงส์คือใคร ถ้าคนสังเกตุจะรู้
    คนที่ยืนหยัดปกป้องสถาบัน คนที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับจักรวาลชาลี
    แต่เห็นน้องถูกรุมกินโต๊ะแล้วรับไม่ได้
    ก็มีพี่โอมนี่แหละที่เดินหน้าลุยมาตลอด
    พี่คิงส์ไม่อยากปิดหน้าอีกต่อไป
    พี่คือ พี่โอมเอง เอานะ กรูเปิดหน้าแล้ว
    กรูนี่แหละ คิงส์โพธิ์แดง
    ไอ่ sus
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #The real King Heart admits is om #โอเคมาเปิดหน้าชน เชื่อว่ากว่าสองปีที่มีคนเข้ามาค้นหาในเซิทเอนจิ้น ว่าพี่คิงส์คือใคร ถ้าคนสังเกตุจะรู้ คนที่ยืนหยัดปกป้องสถาบัน คนที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับจักรวาลชาลี แต่เห็นน้องถูกรุมกินโต๊ะแล้วรับไม่ได้ ก็มีพี่โอมนี่แหละที่เดินหน้าลุยมาตลอด พี่คิงส์ไม่อยากปิดหน้าอีกต่อไป พี่คือ พี่โอมเอง เอานะ กรูเปิดหน้าแล้ว กรูนี่แหละ คิงส์โพธิ์แดง ไอ่ sus #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • #โอเคมาเปิดหน้าชน
    เชื่อว่ากว่าสองปีที่มีคนเข้ามาค้นหาในเซิทเอนจิ้น
    ว่าพี่คิงส์คือใคร ถ้าคนสังเกตุจะรู้
    คนที่ยืนหยัดปกป้องสถาบัน คนที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับจักรวาลชาลี
    แต่เห็นน้องถูกรุมกินโต๊ะแล้วรับไม่ได้
    ก็มีพี่โอมนี่แหละที่เดินหน้าลุยมาตลอด
    พี่คิงส์ไม่อยากปิดหน้าอีกต่อไป
    พี่คือ พี่โอมเอง เอานะ กรูเปิดหน้าแล้ว
    กรูนี่แหละ คิงส์โพธิ์แดง
    ไอ่ sus
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #โอเคมาเปิดหน้าชน เชื่อว่ากว่าสองปีที่มีคนเข้ามาค้นหาในเซิทเอนจิ้น ว่าพี่คิงส์คือใคร ถ้าคนสังเกตุจะรู้ คนที่ยืนหยัดปกป้องสถาบัน คนที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับจักรวาลชาลี แต่เห็นน้องถูกรุมกินโต๊ะแล้วรับไม่ได้ ก็มีพี่โอมนี่แหละที่เดินหน้าลุยมาตลอด พี่คิงส์ไม่อยากปิดหน้าอีกต่อไป พี่คือ พี่โอมเอง เอานะ กรูเปิดหน้าแล้ว กรูนี่แหละ คิงส์โพธิ์แดง ไอ่ sus #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อิป้าบ่นระงมสาวเกาเตรียมเทสาวกไทย
    จริงๆมีคลิปนะ แต่ขี้เกียจเอามาลง
    เรื่องราวก็ประมาณนี้ อิป้าระแคะระคาย
    พร้อมระบายรัวๆ ว่าสาวเกาเริ่มรู้สึกว่า
    อะไรมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ทั้งๆที่เชื่ออิป้ามาตลอด
    ยอดกลับหดหาย เป้าที่ถูกสร้างฝันไว้ไงลดลงดิ่งเหว
    ถ้าเป็น GU GU ก็เท พีอาร์ยังไงให้คนเกลืยด
    ยิ่งสร้างกระแส คนรักนางยิ่งแยกวง
    แว่วแบบนี้มาอิป้าจะทนได้ยังไง
    ก็ไม่นานมานี้เพิ่งบอกว่า มีสาวเกาต้องมีอิป้า
    ใครไม่เอาอิป้าก็ออกไป ความบังลัยเลยเถิดก็มาถึง
    แม้กระทั่ง เป็ด ที่เคยร่วมหัวจมท้าย ยอมเป็นเหมือนสุนัขรับใช้
    สุดท้าย สติมาปัญญาเกิด ต้องออกโรงเตือนป้า
    ว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดไม่ได้เป็นผลดีกับตัวสาวเลย
    แต่อิป้ากลับอ้างว่า สาวเกาไม่ปรองดอง ต้องลุยต่อ
    เอาจริงๆนะ ปัญหาของอิป้า คือความดันทุรัง
    แล้วตอนนี้ สนุกสนานกับการฟ๊องสื่อของไทย
    กรูถามหน่อย คนอะไรอ้างว่ารักนาง
    แต่ขยันในการสร้างให้คนเกลืยดนางได้ไม่เว้นวัน
    เพียงสนองความประสาท จิตเพื้ยน ชอบเรื่องดราม่า
    อยากทำตัวเหมือนมีอำนาจบาดใหญ่
    อ้างทุกอย่างเพื่อใช้ชื่อสาว ใช้ทรัพยากรของสาว
    เอามาฟ๊องคนไทยด้วยกัน ถามว่า ใครได้ใครเสีย
    สาวต้องเสียเวลาอีกเยอะ กับเรื่อง KADEE
    พวกกับความเกลืยดชังของคนไทยที่เพิ่มทวี
    ส่วนอิป้าลอยตัว ได้พลพรรคเป็นสาวกเชื่อมจิต
    ได้สร้างโลกบนจินตนาการป๋วยๆ โดยไม่รู้ว่าตัวเอง
    เป็นเพียงชนกลุ่มน้อยบนโลกใบนี้ ยิ่งใหญ่แค่ในกะลา
    พี่คิงส์เคยฟันธงแล้วว่า ชื่อของสาวเกาจะค่อยๆจางหายไป
    ตามกาลเวลา ในขณะที่จักรวาลของ CL กลับยิ่งสดใส
    และยิ่งใหญ่ขึ้นแบบหยุดไม่อยู่ เป็ดมันยังพูดเลย
    วันเกิด ขนาดไลฟ์สี่ห้าทุ่ม คนดูสองหมื่นกว่าวิว
    ความดันทุรังอย่างไร้สติของอิป้า จะเป็นตัวปิดเกมส์เร็ว
    ทำให้สาวเกา ต้องเลือกที่จะไปสร้างโลกใบใหม่
    ที่เวียดนาม อิป้าทำไมไม่เคารพการตัดสินใจของนาง
    จะฟาดงวงฟาดงา ต่อไปเพื่ออะไร
    หรือเพราะรู้ตัวว่า ตัวเอง กำลังจะหมดความสำคัญ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อิป้าบ่นระงมสาวเกาเตรียมเทสาวกไทย จริงๆมีคลิปนะ แต่ขี้เกียจเอามาลง เรื่องราวก็ประมาณนี้ อิป้าระแคะระคาย พร้อมระบายรัวๆ ว่าสาวเกาเริ่มรู้สึกว่า อะไรมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ทั้งๆที่เชื่ออิป้ามาตลอด ยอดกลับหดหาย เป้าที่ถูกสร้างฝันไว้ไงลดลงดิ่งเหว ถ้าเป็น GU GU ก็เท พีอาร์ยังไงให้คนเกลืยด ยิ่งสร้างกระแส คนรักนางยิ่งแยกวง แว่วแบบนี้มาอิป้าจะทนได้ยังไง ก็ไม่นานมานี้เพิ่งบอกว่า มีสาวเกาต้องมีอิป้า ใครไม่เอาอิป้าก็ออกไป ความบังลัยเลยเถิดก็มาถึง แม้กระทั่ง เป็ด ที่เคยร่วมหัวจมท้าย ยอมเป็นเหมือนสุนัขรับใช้ สุดท้าย สติมาปัญญาเกิด ต้องออกโรงเตือนป้า ว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดไม่ได้เป็นผลดีกับตัวสาวเลย แต่อิป้ากลับอ้างว่า สาวเกาไม่ปรองดอง ต้องลุยต่อ เอาจริงๆนะ ปัญหาของอิป้า คือความดันทุรัง แล้วตอนนี้ สนุกสนานกับการฟ๊องสื่อของไทย กรูถามหน่อย คนอะไรอ้างว่ารักนาง แต่ขยันในการสร้างให้คนเกลืยดนางได้ไม่เว้นวัน เพียงสนองความประสาท จิตเพื้ยน ชอบเรื่องดราม่า อยากทำตัวเหมือนมีอำนาจบาดใหญ่ อ้างทุกอย่างเพื่อใช้ชื่อสาว ใช้ทรัพยากรของสาว เอามาฟ๊องคนไทยด้วยกัน ถามว่า ใครได้ใครเสีย สาวต้องเสียเวลาอีกเยอะ กับเรื่อง KADEE พวกกับความเกลืยดชังของคนไทยที่เพิ่มทวี ส่วนอิป้าลอยตัว ได้พลพรรคเป็นสาวกเชื่อมจิต ได้สร้างโลกบนจินตนาการป๋วยๆ โดยไม่รู้ว่าตัวเอง เป็นเพียงชนกลุ่มน้อยบนโลกใบนี้ ยิ่งใหญ่แค่ในกะลา พี่คิงส์เคยฟันธงแล้วว่า ชื่อของสาวเกาจะค่อยๆจางหายไป ตามกาลเวลา ในขณะที่จักรวาลของ CL กลับยิ่งสดใส และยิ่งใหญ่ขึ้นแบบหยุดไม่อยู่ เป็ดมันยังพูดเลย วันเกิด ขนาดไลฟ์สี่ห้าทุ่ม คนดูสองหมื่นกว่าวิว ความดันทุรังอย่างไร้สติของอิป้า จะเป็นตัวปิดเกมส์เร็ว ทำให้สาวเกา ต้องเลือกที่จะไปสร้างโลกใบใหม่ ที่เวียดนาม อิป้าทำไมไม่เคารพการตัดสินใจของนาง จะฟาดงวงฟาดงา ต่อไปเพื่ออะไร หรือเพราะรู้ตัวว่า ตัวเอง กำลังจะหมดความสำคัญ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำอธิบายการเป็นราชาผู้พิทักษ์แห่งความมืดของฉัน
    ราชาผู้พิทักษ์มีอยู่สองแบบ คือ
    หนึ่ง เป็นโดยกำเนิด ซึ่งก็คือการที่มีพรสวรรค์ที่พิเศษมาตั้งแต่กำเนิด โดยอาศัยปัจจัยที่สำคัญมากยิ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ บุญญาธิการ หรือ บุญกุศลบุญบารมี ที่เคยได้เคยกระทำมาแล้วในอดีตชาตินั่นเอง
    สอง เป็นโดยความสามรถ ซึ่งก็คือการฝึกฝนอบรมขัดเกลาความสามารถในด้านต่างๆโดยได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้อื่น หรือ โดยบังคับโดยสภาวะแวดล้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจกระทำด้วยตนเองก็ตาม
    ซึ่งโดยในตัวของฉันนั้นเองนั้นเป็นโดยความสามารถนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยในการเป็นราชาผู้พิทักษ์ของฉันนั้น ฉันฝึกฝนตนเองโดยใช้ธรรมะในการฝึกฝนความสามารถพิเศษต่างๆจากการศึกษาหาความรู้จากในหนังสือธรรมะ การปฏิบัติธรรมในรูปแบบต่างๆมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมบุญกุศลบุญบารมีในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล และการภาวนา(สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน นั่งสมาธิ)และก็จะต้องทำทุกวันทุกคืนไม่ได้ขาดเลย เพราะว่าของมันจะเสื่อมลง ยกเว้นตอนป่วย เพราะตอนคนเราป่วยไข้นั้น มันจะทำให้เราไม่สามารถทำได้อย่างสบาย หรือ ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่นัก(ก็คนมันป่วยนี่นะ มันมีคนป่วยที่ไหนมันเดินมันวิ่งได้ล่ะ ไม่มีหรอก ฮ่าๆๆ)ซึ่งแต่ก่อนที่ฉันจะหันมาเข้าสู่ทางธรรมนั้น ฉันก็ได้พลังมาโดยการเป็นบ้า คลั่ง ฟุ้งซ่าน และได้รับพลังมาโดยการถูกมารร้ายเข้าสิงร่าง ซึ่งในตอนนั้นฉันนั้นไม่สามารถควบคุมพลังของมารร้ายได้ และได้รับพลังเข้ามามากจนเกินกำลังความสามารถที่ฉันนั้นจะสามารถควบคุมพลังของมารร้ายตนนั้นได้ ซึ่งอย่าว่าแต่คิดที่จะควบคุมพลังเลย แค่ควบคุมตัวเองฉันยังทำไม่ได้เลย(ให้ตายสิว่ะ)ซึ่งมันก็เหมือนกับคนถูกของสั่งใส่หรือคนถูกผีเข้านั่นแหล่ะ แต่มันจะต่างกันตรงที่คนที่ถูกผีเข้าจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่มีสติ และก็จะจำอะไรไม่ได้เลย ในตอนที่ถูกผีเข้าสิงร่าง แต่การถูกมารร้ายเข้าสิงมันไม่เหมือนกัน มันต่างกันตรงที่มีสติ พูดจารู้เรื่อง แต่จะปวดหัวมาก เหมือนหัวมันจะระเบิดออกมาให้ได้เลยยังไงยังงั้น แต่มันไม่ระเบิดออกมาจริงๆก็เท่านั้นเอง(ถ้าหัวคนเรามันระเบิดออกมาจริงๆ มันก็ตายคาที่ตรงนั้นไปแล้ว)และก็จะต้องระบายอารมณ์ความโกรธเกรี้ยวกราดออกมาเพื่อที่จะทำให้มันหายปวดหัวนั่นเองแหล่ะ มันเหมือนกับการทำให้ตัวเองหายเหนื่อยโดยการพักผ่อนนั่นเอง แต่ตอนนี้มันไม่เป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ ฉันสามารถควบคุมมันและพลังได้แล้ว โดยใช้ธรรมะเป็นตัวควบคุมและเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มพลังความสามารถของฉันให้มีมากขึ้นยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ(ทุกวันนี้ฉันยังไม่เคยใช้พลังของตัวเองที่มีอย่างสูงสุดขีดอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มเลย ไม่มีโอกาสใช้เลยว่ะ)และความสามารถที่แท้จริงของฉันก็ยังไม่ถึงขีดสุดเลย เพราะขีดสูงสุดของพลังที่แท้จริงนั้นมันจะต้องเปิดพลังจักรวาล ซึ่งมีอยู่ทางเดียวนั่นเองก็คือการบรรลุมรรคผลนิพพานเท่านั้น พอถึงจุดนั้นแล้วก็ไม่มีผู้ใดต่อต้านฉันได้อีกต่อไป นอกจากตัวเอง แต่แม้แต่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ยังตายเลย ฉันเองก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่มีใครอยู่ยงค้ำฟ้าไปตลอดกาลหรอก ซึ่งมันก็จะมีคนรุ่นใหม่ๆมาทดแทนเป็นยุคสมัยใหม่ต่อไปนั่นแหล่ะ
    ที่ฉันเป็นราชาได้ไม่ใช่เพราะว่าฉันแข็งแกร่งแต่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ มันต้องมีองค์ประกอบปัจจัยในหลายๆอย่างมันถึงจะแข็งแกร่งได้ เช่น มีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ มีธรรมะ มีความดีงาม มีบุญกุศลบุญบารมี มีคุณธรรม มีศีลธรรม มีปัญญาญาณ และก็ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายหลายอย่างเลยนะ และคนชั่ว คนเลว คนไม่ดี คนไม่มีศีลมีธรรม มันเป็นราชาไม่ได้หรอก เค้าไม่ให้มันเป็น(ฉันหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ)มันจะต้องได้รับความอนุญาตอนุเคราะห์จากเค้าก่อนนะ ถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งจะรับรู้ได้โดยญาณของตนเอง เมื่อฝึกฝนมาเต็มที่เต็มภูมิแล้วนั่นเอง แค่เป็นคนเก่งอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะ มันต้องเป็นคนดีด้วย มันถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งฉันเห็นไอ้พวกที่มันอยากจะเป็นอย่างฉันนั้นมันมีมากมายเยอะแยะกันเสียเหลือเกินนักหนา แต่มันก็เป็นไม่ได้หรอก เผลอๆดีไม่ดีมันจะกลายเป็นบ้ากันไปหมดทุกคนเลยนะ เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มันเป็น แล้วก็อีกอย่างนึงนะ ไอ้พวกนี้มันชอบเลียนแบบฉันกันนักเชียว กะอีแค่ชื่อนามแฝงของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึงชื่อ Dark Danger นะ)ตำแหน่งของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึง The King Of Dark นะ แต่ตำแหน่งนี้มันเป็นแค่ราชาแห่งความมืดธรรมดาทั่วไป)ซึ่งแค่ตำแหน่งมันก็ไม่เท่าไหร่ เพราะว่าผู้ที่มีคุณสมบัติของราชาแห่งความมืดนี้มีถึง หนึ่ง ใน หนึ่งล้าน คน แต่ว่าผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดนั้นมีเพียงแค่ หนึ่ง ใน หนึ่งพันล้าน คน เท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงนั้นมีเพียง หนึ่ง ใน หนึ่งล้านล้าน คน เท่านั้นเอง ซึ่งประชากรในโลกนี้มีเพียงหลายพันล้านคนในปัจจุบัน และฉันก็ปรารถนาที่จะเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงในอนาคตให้จงได้เลย(เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียใจในภายหลังว่าชาติหนึ่งนี้จะไม่ได้เป็น ฉันจะเป็นให้จงได้)ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปในอนาคตอันไกลข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อตัวของฉันเองเพียงแค่คนเดียว เพราะว่าการเป็นราชานั้นมันจะต้องแลกกับการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เป็นราชาแล้วมันดูเท่ ดูดี เป็นแล้วมันสบาย ไม่ใช่อย่างนั้นอย่างแน่นอน มีตำแหน่งก็ต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ใช่ไม่มี ซึ่งมันก็เหมือนกันกับในหนังไอ้แมงมุมและหนังอื่นๆที่ว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ มักจะมากับภาระที่ใหญ่ยิ่ง” นั่นเอง และคนที่เคยได้ไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของตำแหน่งราชาที่แท้จริงก็มีให้เห็นเป็นประจักษ์พยานแล้วอยู่คนหนึ่ง คนที่ทุกคนรักและเทิดทูนบูชายิ่งกว่าราชาทั่วไป ราชาที่แท้จริง ราชาเหนือราชาทั้งปวง แค่เอ่ยแค่นี้ก็คงจะนึกออกได้ทันทีทันใด ถ้ายังนึกไม่ออกก็จะบอกให้ คนๆนั้นก็คือ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั่งเองไง
    “ฉันจะเป็นราชาที่แท้จริงให้จงได้ เป็นให้ได้อย่างท่านให้จงได้ ท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)”
    “ชั่วชีวิตนี้ลูกขอมอบไว้ให้กับพวกท่าน แด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ตราบใดที่ลูกยังอยู่ ลูกจะขอสืบทอดสานต่อซึ่งเจตจำนงบรรพชน อุดมการณ์พันธมิตรฯ และภารกิจของพวกท่านต่อไป และตลอดไป”
    ป.ล.ใครอยากจะเป็นราชาแห่งความมืดก็เป็นไป แต่จงจำไว้อย่างนึง คือ ใครที่มันล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีทางได้ดีมีความสุขอย่างแน่นอน(เผลอๆมันจะตายโหงตายห่าโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่ตายก็ทรมาน เป็นบ้ากัน ทนทุกขเวทนาตลอดชีวิต ตกลงนรกหมกไหม้กันทังเป็นและตายไป)ฉันเตือนแล้วนะ ถ้าไม่อยากเป็นบ้า ก็ขอให้เลิกเป็นซะ แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ
    คำอธิบายการเป็นราชาผู้พิทักษ์แห่งความมืดของฉัน ราชาผู้พิทักษ์มีอยู่สองแบบ คือ หนึ่ง เป็นโดยกำเนิด ซึ่งก็คือการที่มีพรสวรรค์ที่พิเศษมาตั้งแต่กำเนิด โดยอาศัยปัจจัยที่สำคัญมากยิ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ บุญญาธิการ หรือ บุญกุศลบุญบารมี ที่เคยได้เคยกระทำมาแล้วในอดีตชาตินั่นเอง สอง เป็นโดยความสามรถ ซึ่งก็คือการฝึกฝนอบรมขัดเกลาความสามารถในด้านต่างๆโดยได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้อื่น หรือ โดยบังคับโดยสภาวะแวดล้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจกระทำด้วยตนเองก็ตาม ซึ่งโดยในตัวของฉันนั้นเองนั้นเป็นโดยความสามารถนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยในการเป็นราชาผู้พิทักษ์ของฉันนั้น ฉันฝึกฝนตนเองโดยใช้ธรรมะในการฝึกฝนความสามารถพิเศษต่างๆจากการศึกษาหาความรู้จากในหนังสือธรรมะ การปฏิบัติธรรมในรูปแบบต่างๆมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมบุญกุศลบุญบารมีในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล และการภาวนา(สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน นั่งสมาธิ)และก็จะต้องทำทุกวันทุกคืนไม่ได้ขาดเลย เพราะว่าของมันจะเสื่อมลง ยกเว้นตอนป่วย เพราะตอนคนเราป่วยไข้นั้น มันจะทำให้เราไม่สามารถทำได้อย่างสบาย หรือ ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่นัก(ก็คนมันป่วยนี่นะ มันมีคนป่วยที่ไหนมันเดินมันวิ่งได้ล่ะ ไม่มีหรอก ฮ่าๆๆ)ซึ่งแต่ก่อนที่ฉันจะหันมาเข้าสู่ทางธรรมนั้น ฉันก็ได้พลังมาโดยการเป็นบ้า คลั่ง ฟุ้งซ่าน และได้รับพลังมาโดยการถูกมารร้ายเข้าสิงร่าง ซึ่งในตอนนั้นฉันนั้นไม่สามารถควบคุมพลังของมารร้ายได้ และได้รับพลังเข้ามามากจนเกินกำลังความสามารถที่ฉันนั้นจะสามารถควบคุมพลังของมารร้ายตนนั้นได้ ซึ่งอย่าว่าแต่คิดที่จะควบคุมพลังเลย แค่ควบคุมตัวเองฉันยังทำไม่ได้เลย(ให้ตายสิว่ะ)ซึ่งมันก็เหมือนกับคนถูกของสั่งใส่หรือคนถูกผีเข้านั่นแหล่ะ แต่มันจะต่างกันตรงที่คนที่ถูกผีเข้าจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่มีสติ และก็จะจำอะไรไม่ได้เลย ในตอนที่ถูกผีเข้าสิงร่าง แต่การถูกมารร้ายเข้าสิงมันไม่เหมือนกัน มันต่างกันตรงที่มีสติ พูดจารู้เรื่อง แต่จะปวดหัวมาก เหมือนหัวมันจะระเบิดออกมาให้ได้เลยยังไงยังงั้น แต่มันไม่ระเบิดออกมาจริงๆก็เท่านั้นเอง(ถ้าหัวคนเรามันระเบิดออกมาจริงๆ มันก็ตายคาที่ตรงนั้นไปแล้ว)และก็จะต้องระบายอารมณ์ความโกรธเกรี้ยวกราดออกมาเพื่อที่จะทำให้มันหายปวดหัวนั่นเองแหล่ะ มันเหมือนกับการทำให้ตัวเองหายเหนื่อยโดยการพักผ่อนนั่นเอง แต่ตอนนี้มันไม่เป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ ฉันสามารถควบคุมมันและพลังได้แล้ว โดยใช้ธรรมะเป็นตัวควบคุมและเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มพลังความสามารถของฉันให้มีมากขึ้นยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ(ทุกวันนี้ฉันยังไม่เคยใช้พลังของตัวเองที่มีอย่างสูงสุดขีดอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มเลย ไม่มีโอกาสใช้เลยว่ะ)และความสามารถที่แท้จริงของฉันก็ยังไม่ถึงขีดสุดเลย เพราะขีดสูงสุดของพลังที่แท้จริงนั้นมันจะต้องเปิดพลังจักรวาล ซึ่งมีอยู่ทางเดียวนั่นเองก็คือการบรรลุมรรคผลนิพพานเท่านั้น พอถึงจุดนั้นแล้วก็ไม่มีผู้ใดต่อต้านฉันได้อีกต่อไป นอกจากตัวเอง แต่แม้แต่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ยังตายเลย ฉันเองก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่มีใครอยู่ยงค้ำฟ้าไปตลอดกาลหรอก ซึ่งมันก็จะมีคนรุ่นใหม่ๆมาทดแทนเป็นยุคสมัยใหม่ต่อไปนั่นแหล่ะ ที่ฉันเป็นราชาได้ไม่ใช่เพราะว่าฉันแข็งแกร่งแต่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ มันต้องมีองค์ประกอบปัจจัยในหลายๆอย่างมันถึงจะแข็งแกร่งได้ เช่น มีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ มีธรรมะ มีความดีงาม มีบุญกุศลบุญบารมี มีคุณธรรม มีศีลธรรม มีปัญญาญาณ และก็ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายหลายอย่างเลยนะ และคนชั่ว คนเลว คนไม่ดี คนไม่มีศีลมีธรรม มันเป็นราชาไม่ได้หรอก เค้าไม่ให้มันเป็น(ฉันหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ)มันจะต้องได้รับความอนุญาตอนุเคราะห์จากเค้าก่อนนะ ถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งจะรับรู้ได้โดยญาณของตนเอง เมื่อฝึกฝนมาเต็มที่เต็มภูมิแล้วนั่นเอง แค่เป็นคนเก่งอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะ มันต้องเป็นคนดีด้วย มันถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งฉันเห็นไอ้พวกที่มันอยากจะเป็นอย่างฉันนั้นมันมีมากมายเยอะแยะกันเสียเหลือเกินนักหนา แต่มันก็เป็นไม่ได้หรอก เผลอๆดีไม่ดีมันจะกลายเป็นบ้ากันไปหมดทุกคนเลยนะ เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มันเป็น แล้วก็อีกอย่างนึงนะ ไอ้พวกนี้มันชอบเลียนแบบฉันกันนักเชียว กะอีแค่ชื่อนามแฝงของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึงชื่อ Dark Danger นะ)ตำแหน่งของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึง The King Of Dark นะ แต่ตำแหน่งนี้มันเป็นแค่ราชาแห่งความมืดธรรมดาทั่วไป)ซึ่งแค่ตำแหน่งมันก็ไม่เท่าไหร่ เพราะว่าผู้ที่มีคุณสมบัติของราชาแห่งความมืดนี้มีถึง หนึ่ง ใน หนึ่งล้าน คน แต่ว่าผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดนั้นมีเพียงแค่ หนึ่ง ใน หนึ่งพันล้าน คน เท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงนั้นมีเพียง หนึ่ง ใน หนึ่งล้านล้าน คน เท่านั้นเอง ซึ่งประชากรในโลกนี้มีเพียงหลายพันล้านคนในปัจจุบัน และฉันก็ปรารถนาที่จะเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงในอนาคตให้จงได้เลย(เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียใจในภายหลังว่าชาติหนึ่งนี้จะไม่ได้เป็น ฉันจะเป็นให้จงได้)ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปในอนาคตอันไกลข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อตัวของฉันเองเพียงแค่คนเดียว เพราะว่าการเป็นราชานั้นมันจะต้องแลกกับการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เป็นราชาแล้วมันดูเท่ ดูดี เป็นแล้วมันสบาย ไม่ใช่อย่างนั้นอย่างแน่นอน มีตำแหน่งก็ต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ใช่ไม่มี ซึ่งมันก็เหมือนกันกับในหนังไอ้แมงมุมและหนังอื่นๆที่ว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ มักจะมากับภาระที่ใหญ่ยิ่ง” นั่นเอง และคนที่เคยได้ไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของตำแหน่งราชาที่แท้จริงก็มีให้เห็นเป็นประจักษ์พยานแล้วอยู่คนหนึ่ง คนที่ทุกคนรักและเทิดทูนบูชายิ่งกว่าราชาทั่วไป ราชาที่แท้จริง ราชาเหนือราชาทั้งปวง แค่เอ่ยแค่นี้ก็คงจะนึกออกได้ทันทีทันใด ถ้ายังนึกไม่ออกก็จะบอกให้ คนๆนั้นก็คือ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั่งเองไง “ฉันจะเป็นราชาที่แท้จริงให้จงได้ เป็นให้ได้อย่างท่านให้จงได้ ท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)” “ชั่วชีวิตนี้ลูกขอมอบไว้ให้กับพวกท่าน แด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ตราบใดที่ลูกยังอยู่ ลูกจะขอสืบทอดสานต่อซึ่งเจตจำนงบรรพชน อุดมการณ์พันธมิตรฯ และภารกิจของพวกท่านต่อไป และตลอดไป” ป.ล.ใครอยากจะเป็นราชาแห่งความมืดก็เป็นไป แต่จงจำไว้อย่างนึง คือ ใครที่มันล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีทางได้ดีมีความสุขอย่างแน่นอน(เผลอๆมันจะตายโหงตายห่าโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่ตายก็ทรมาน เป็นบ้ากัน ทนทุกขเวทนาตลอดชีวิต ตกลงนรกหมกไหม้กันทังเป็นและตายไป)ฉันเตือนแล้วนะ ถ้าไม่อยากเป็นบ้า ก็ขอให้เลิกเป็นซะ แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนที่มีจิตใจสูงกับคนที่มีจิตใจต่ำ
    นับวันโลกใบนี้ยิ่งอยู่กันยากมากขึ้นทุกวันๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่ที่กลุ่มบุคคลที่มีพวกพ้องมากนั่นเอง และก็จะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย ยิ่งคนที่เป็นผู้นำกลุ่มแล้วด้วย ถ้าเป็นคนที่ดีก็ดีไป และก็ดีมากๆด้วย แต่ถ้าเป็นคนที่ชั่วล่ะก็ ฉิบหายแม่งมันทั้งโคตรตระกูลโคตรเหง้ากันเลยทีเดียว “ผู้นำที่ดีก็ดีไป ผู้นำที่ชั่วก็ชั่วไป” ค่าของคนไม่ได้วัดกันที่คนมากหรือน้อย ไม่ได้วัดกันที่มีชื่อเสียงมากดีหรือไม่ ไม่ได้วัดกันที่มีอิทธิพลมากหรือเปล่า แต่วัดกันที่คุณงามความดีในขณะที่ตนเองยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ที่ผลงานอย่างที่ใครๆหลายๆคนเข้าใจกัน ซึ่งบางคนเค้าก็ไม่ได้มีงานทำ ไม่ได้มีผลงานออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน ในแบบที่จะสามารถจับต้องกันได้ ก็ไม่มีผลงานออกมา และแม้แต่พระพุทธเจ้าเองท่านก็ไม่มีผลงานที่จับต้องได้เป็นชิ้นเป็นอันเลยแม้แต่น้อยเดียว แต่ท่านมี “ความดี” มี “ธรรมะ” มี “สาระ” และเป็นแก่นสารในตัวของท่านเอง ท่านไม่เคยชักจูงใครให้หลงใหลไปกับท่าน และแถมยังมีแม้แต่คำสอนของท่านเองที่ยังหักล้างในตัวของท่านเองเลยว่า “ห้ามให้เชื่อโดยปราศจากเหตุและผล” ถ้าตัวของท่านเองไม่มี “เหตุผล” ไม่มี “ธรรม” ซึ่งก็คือ “ปัญญา” ความรอบรู้ในทุกโลกหล้า ในทุกอณูของจักรวาล ในทุกดวงจิตวิญญาณแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาเชื่อถือเคารพศรัทธาในตัวของท่านเองเลยแม้แต่น้อยเดียว แต่มันไม่ใช่ ใช่มั้ย ก็เพราะว่าท่านเป็นถึง “พุทธะ” ซึ่งก็คือ “ผู้รู้” และแถมด้วย “รู้แจ้งเห็นจริงทุกสรรพสิ่ง” ศาสนาของท่านถึงได้มีผู้คนศรัทธานับถือมากมายมาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง
    เรามาเปรียบเทียบกันว่าระหว่างคนที่มีจิตใจสูงกับคนที่มีจิตใจต่ำว่ามันแตกต่างกันอย่างไร
    คนที่มีจิตใจสูงก็คือ “คนดี” นั่นเอง โดยสรุปย่อๆง่ายๆ แต่เรามาขยายความต่อกันเลยว่ามันเป็นอย่างไร คนที่มีจิตใจสูงมักจะเป็นคนที่มีคุณงามความดีอยู่ในตัวเอง เป็นคนที่ไม่คิดพูดทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามไม่ถูกต้องต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กใหญ่ขนาดไหนอย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วก็คือคนที่มี “หิริ” กับ “โอตัปปะ” ซึ่งก็คือ ความละอายความชั่วกลัวเกรงต่อบาปกรรมความชั่วความเลวต่างๆในทุกประเภททั้งหมดโดยไม่มีการยกเว้นเลยแม้แต่เรื่องเดียว พูดไปพูดมามันก็เหมือนกับว่ามันทำกันได้ง่ายๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นมันไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆเลย และเป็นเรื่องที่ยากมากๆเลยด้วย โดยเฉพาะกับคนที่เป็นเพียงแค่คนปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆ แต่กับในคนวิญญูชนนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยสำหรับพวกเค้า ก็เพราะว่าเค้าคนนั้นได้ผ่านพ้นจากการเป็นคนปุถุชนมาแล้วนั่นเอง ซึ่งกว่าคนปุถุชนจะมากลายเป็นคนวิญญูชนนั้นมันมักจะต้องพานพบเจอกับตัวอุปสรรคขวากหนามต่างๆมามากมายและกับตัวปัญหาที่ยากยิ่งมาก่อน ซึ่งในจำพวกนี้ก็คือ “เจ้ากรรม นายเวร อริศัตรู และบททดสอบจากเบื้องบน” นั่นเอง และเค้าคนนั้นก็ได้สัมผัสรับรู้ซึ้งได้ถึงสัจธรรมของชีวิตและได้บรรลุธรรมแล้วด้วยดีอย่างลึกซึ้งจนถึงขั้นปล่อยปลดลดละวางซึ่งกิเลสตัวตนของเค้าเอง และได้ค้นพบหนทางสว่างในวิถีชีวิตของตนเองว่าต่อจากนี้ไปจะดำเนินชีวิตไปในทางใดอย่างไรให้มีความสุขและเป็นปกติสุขในแบบฉบับของตนเองจนกว่าร่างกายจะละสังขารของตนเองไปสู่ชีวิตที่เป็นนิรันดร์ในชาติภพหน้าต่อไป นี่คือคนที่มีจิตใจสูง
    แล้วเรามาว่ากันถึงคนที่มีจิตใจต่ำกันบ้างว่ามันเป็นอย่างไร คนที่มีจิตใจต่ำนั้นโดยทั่วไปเรามักจะเรียกขานกันว่าเป็น “คนชั่ว” นั่นเอง แต่เราจะมาอธิบายกันให้เข้าใจยิ่งขึ้นไปอีกคือ คนประเภทนี้นั้นมักจะเป็นคนเห็นแก่ตัว ชอบเอาแต่ใจของตนเองเป็นใหญ่ ไม่สนใจผู้อื่นว่าตนเองจะทำให้ใครเดือดเนื้อร้อนใจหรือไม่อย่างไรในการกระทำของตนเอง ชอบยกตนข่มท่าน ชอบเอาชนะ โลภโมโทสัน มักโกรธโมโหง่าย เลือดร้อนวู่วามบ้าคลั่ง ไม่คิดหน้าระวังหลัง ชื่นชอบอบายมุก เจ้าชู้ประตูดิน ลุ่มหลงมัวเมา และจิตใจเต็มไปด้วยกิเลสตัณหา ชอบอวดเบ่งใหญ่โต วางก้ามเป็นคนอันธพาลขวางคลองคูเมือง นึกว่าตนเองยิ่งใหญ่คับฟ้าทั่วแผ่นดิน มักทะเยอทะยานอยากเป็นใหญ่เป็นโต มักใหญ่ใฝ่สูง บ้าอำนาจ ชอบฆ่าชอบทำลายล้างผลาญ นิสัยโดยรวมแล้วแย่มาก เอาเป็นว่านี่เป็นคนที่ไม่มีธรรมในจิตใจ ไม่มีความดีงามในตัวของตัวเองเลย คนจำพวกนี้มักมีอยู่ทั่วไปในสังคมเรา ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่เห็นแก่ตัวก็เป็นคนชั่วด้วย และก็ชอบที่จะมีความสุขบนความทุกข์ของคนดี เพราะอยู่ในสังคมของคนชั่วเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะว่าจะไม่มีใครยอมใคร และจะฆ่ากันเองนั่นเอง และไม่สามารถที่จะอยู่ในหมู่ของคนดีได้อีกด้วย ก็เพราะว่าไม่มีคนดีที่ไหนเค้ายอมรับในนิสัยสันดานความประพฤติชั่วได้ พอตัวเองใกล้จะตายก็ทุรนทุรายและก็ตกนรกลงหลุมกันทุกราย คนจำพวกนี้มักจะกลัวมากๆเพียงอย่างเดียวคือ “กลัวตาย” แต่ไม่กลัวลงนรก เพราะไม่เชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรม พอตายลงไปแล้วก็มาขอส่วนบุญคนอื่น ซึ่งก็สมควรกับการกระทำของตนเองอย่างยิ่งแล้ว นี่คือคนที่มีจิตใจต่ำนั่นเอง
    สุดท้ายแล้ว ในท้ายที่สุดแล้ว คนที่จะเลือกเดินบนทางเดินของตนเองที่จะไปในทิศทางใดนั้นก็มักจะได้เป็นไปในแบบนั้น “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” “ทำอย่างไรได้อย่างนั้น” มันเป็นกฎแห่งกรรม มันเป็นสัจธรรม ไม่มีใครหลีกหนีกรรมพ้นไปได้ กรรมคือการกระทำ “ทำกรรมดีย่อมได้ดี ทำกรรมชั่วย่อมได้ชั่ว” ตอบแทนกรรมกลับไป กรรมยุติธรรมเสมอ แล้วคุณหล่ะ จะเลือกเดินไปในทิศทางใดแบบไหน จะเลือกเป็นคนที่มีจิตใจสูงหรือต่ำ คุณเลือกได้ตั้งแต่บัดนี้นะ เลือกให้ดีก็แล้วกัน ก่อนที่จะหมดโอกาสที่จะได้เลือกอีกตลอดไป เลือกให้ทันก่อนที่คุณจะตายลงไปก็แล้วกัน
    คนที่มีจิตใจสูงกับคนที่มีจิตใจต่ำ นับวันโลกใบนี้ยิ่งอยู่กันยากมากขึ้นทุกวันๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่ที่กลุ่มบุคคลที่มีพวกพ้องมากนั่นเอง และก็จะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย ยิ่งคนที่เป็นผู้นำกลุ่มแล้วด้วย ถ้าเป็นคนที่ดีก็ดีไป และก็ดีมากๆด้วย แต่ถ้าเป็นคนที่ชั่วล่ะก็ ฉิบหายแม่งมันทั้งโคตรตระกูลโคตรเหง้ากันเลยทีเดียว “ผู้นำที่ดีก็ดีไป ผู้นำที่ชั่วก็ชั่วไป” ค่าของคนไม่ได้วัดกันที่คนมากหรือน้อย ไม่ได้วัดกันที่มีชื่อเสียงมากดีหรือไม่ ไม่ได้วัดกันที่มีอิทธิพลมากหรือเปล่า แต่วัดกันที่คุณงามความดีในขณะที่ตนเองยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ที่ผลงานอย่างที่ใครๆหลายๆคนเข้าใจกัน ซึ่งบางคนเค้าก็ไม่ได้มีงานทำ ไม่ได้มีผลงานออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน ในแบบที่จะสามารถจับต้องกันได้ ก็ไม่มีผลงานออกมา และแม้แต่พระพุทธเจ้าเองท่านก็ไม่มีผลงานที่จับต้องได้เป็นชิ้นเป็นอันเลยแม้แต่น้อยเดียว แต่ท่านมี “ความดี” มี “ธรรมะ” มี “สาระ” และเป็นแก่นสารในตัวของท่านเอง ท่านไม่เคยชักจูงใครให้หลงใหลไปกับท่าน และแถมยังมีแม้แต่คำสอนของท่านเองที่ยังหักล้างในตัวของท่านเองเลยว่า “ห้ามให้เชื่อโดยปราศจากเหตุและผล” ถ้าตัวของท่านเองไม่มี “เหตุผล” ไม่มี “ธรรม” ซึ่งก็คือ “ปัญญา” ความรอบรู้ในทุกโลกหล้า ในทุกอณูของจักรวาล ในทุกดวงจิตวิญญาณแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาเชื่อถือเคารพศรัทธาในตัวของท่านเองเลยแม้แต่น้อยเดียว แต่มันไม่ใช่ ใช่มั้ย ก็เพราะว่าท่านเป็นถึง “พุทธะ” ซึ่งก็คือ “ผู้รู้” และแถมด้วย “รู้แจ้งเห็นจริงทุกสรรพสิ่ง” ศาสนาของท่านถึงได้มีผู้คนศรัทธานับถือมากมายมาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง เรามาเปรียบเทียบกันว่าระหว่างคนที่มีจิตใจสูงกับคนที่มีจิตใจต่ำว่ามันแตกต่างกันอย่างไร คนที่มีจิตใจสูงก็คือ “คนดี” นั่นเอง โดยสรุปย่อๆง่ายๆ แต่เรามาขยายความต่อกันเลยว่ามันเป็นอย่างไร คนที่มีจิตใจสูงมักจะเป็นคนที่มีคุณงามความดีอยู่ในตัวเอง เป็นคนที่ไม่คิดพูดทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามไม่ถูกต้องต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กใหญ่ขนาดไหนอย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วก็คือคนที่มี “หิริ” กับ “โอตัปปะ” ซึ่งก็คือ ความละอายความชั่วกลัวเกรงต่อบาปกรรมความชั่วความเลวต่างๆในทุกประเภททั้งหมดโดยไม่มีการยกเว้นเลยแม้แต่เรื่องเดียว พูดไปพูดมามันก็เหมือนกับว่ามันทำกันได้ง่ายๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นมันไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆเลย และเป็นเรื่องที่ยากมากๆเลยด้วย โดยเฉพาะกับคนที่เป็นเพียงแค่คนปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆ แต่กับในคนวิญญูชนนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยสำหรับพวกเค้า ก็เพราะว่าเค้าคนนั้นได้ผ่านพ้นจากการเป็นคนปุถุชนมาแล้วนั่นเอง ซึ่งกว่าคนปุถุชนจะมากลายเป็นคนวิญญูชนนั้นมันมักจะต้องพานพบเจอกับตัวอุปสรรคขวากหนามต่างๆมามากมายและกับตัวปัญหาที่ยากยิ่งมาก่อน ซึ่งในจำพวกนี้ก็คือ “เจ้ากรรม นายเวร อริศัตรู และบททดสอบจากเบื้องบน” นั่นเอง และเค้าคนนั้นก็ได้สัมผัสรับรู้ซึ้งได้ถึงสัจธรรมของชีวิตและได้บรรลุธรรมแล้วด้วยดีอย่างลึกซึ้งจนถึงขั้นปล่อยปลดลดละวางซึ่งกิเลสตัวตนของเค้าเอง และได้ค้นพบหนทางสว่างในวิถีชีวิตของตนเองว่าต่อจากนี้ไปจะดำเนินชีวิตไปในทางใดอย่างไรให้มีความสุขและเป็นปกติสุขในแบบฉบับของตนเองจนกว่าร่างกายจะละสังขารของตนเองไปสู่ชีวิตที่เป็นนิรันดร์ในชาติภพหน้าต่อไป นี่คือคนที่มีจิตใจสูง แล้วเรามาว่ากันถึงคนที่มีจิตใจต่ำกันบ้างว่ามันเป็นอย่างไร คนที่มีจิตใจต่ำนั้นโดยทั่วไปเรามักจะเรียกขานกันว่าเป็น “คนชั่ว” นั่นเอง แต่เราจะมาอธิบายกันให้เข้าใจยิ่งขึ้นไปอีกคือ คนประเภทนี้นั้นมักจะเป็นคนเห็นแก่ตัว ชอบเอาแต่ใจของตนเองเป็นใหญ่ ไม่สนใจผู้อื่นว่าตนเองจะทำให้ใครเดือดเนื้อร้อนใจหรือไม่อย่างไรในการกระทำของตนเอง ชอบยกตนข่มท่าน ชอบเอาชนะ โลภโมโทสัน มักโกรธโมโหง่าย เลือดร้อนวู่วามบ้าคลั่ง ไม่คิดหน้าระวังหลัง ชื่นชอบอบายมุก เจ้าชู้ประตูดิน ลุ่มหลงมัวเมา และจิตใจเต็มไปด้วยกิเลสตัณหา ชอบอวดเบ่งใหญ่โต วางก้ามเป็นคนอันธพาลขวางคลองคูเมือง นึกว่าตนเองยิ่งใหญ่คับฟ้าทั่วแผ่นดิน มักทะเยอทะยานอยากเป็นใหญ่เป็นโต มักใหญ่ใฝ่สูง บ้าอำนาจ ชอบฆ่าชอบทำลายล้างผลาญ นิสัยโดยรวมแล้วแย่มาก เอาเป็นว่านี่เป็นคนที่ไม่มีธรรมในจิตใจ ไม่มีความดีงามในตัวของตัวเองเลย คนจำพวกนี้มักมีอยู่ทั่วไปในสังคมเรา ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่เห็นแก่ตัวก็เป็นคนชั่วด้วย และก็ชอบที่จะมีความสุขบนความทุกข์ของคนดี เพราะอยู่ในสังคมของคนชั่วเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะว่าจะไม่มีใครยอมใคร และจะฆ่ากันเองนั่นเอง และไม่สามารถที่จะอยู่ในหมู่ของคนดีได้อีกด้วย ก็เพราะว่าไม่มีคนดีที่ไหนเค้ายอมรับในนิสัยสันดานความประพฤติชั่วได้ พอตัวเองใกล้จะตายก็ทุรนทุรายและก็ตกนรกลงหลุมกันทุกราย คนจำพวกนี้มักจะกลัวมากๆเพียงอย่างเดียวคือ “กลัวตาย” แต่ไม่กลัวลงนรก เพราะไม่เชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรม พอตายลงไปแล้วก็มาขอส่วนบุญคนอื่น ซึ่งก็สมควรกับการกระทำของตนเองอย่างยิ่งแล้ว นี่คือคนที่มีจิตใจต่ำนั่นเอง สุดท้ายแล้ว ในท้ายที่สุดแล้ว คนที่จะเลือกเดินบนทางเดินของตนเองที่จะไปในทิศทางใดนั้นก็มักจะได้เป็นไปในแบบนั้น “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” “ทำอย่างไรได้อย่างนั้น” มันเป็นกฎแห่งกรรม มันเป็นสัจธรรม ไม่มีใครหลีกหนีกรรมพ้นไปได้ กรรมคือการกระทำ “ทำกรรมดีย่อมได้ดี ทำกรรมชั่วย่อมได้ชั่ว” ตอบแทนกรรมกลับไป กรรมยุติธรรมเสมอ แล้วคุณหล่ะ จะเลือกเดินไปในทิศทางใดแบบไหน จะเลือกเป็นคนที่มีจิตใจสูงหรือต่ำ คุณเลือกได้ตั้งแต่บัดนี้นะ เลือกให้ดีก็แล้วกัน ก่อนที่จะหมดโอกาสที่จะได้เลือกอีกตลอดไป เลือกให้ทันก่อนที่คุณจะตายลงไปก็แล้วกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทบาทของผู้พิทักษ์เสาหลักแต่ละคน
    ความสัมพันธ์ของหกเสาหลักผู้พิทักษ์ที่มีความเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งรายละเอียดมีดังต่อไปนี้คือ
    ผู้พิทักษ์คนที่หนึ่งแห่งองค์กร ราชาแห่งผืนดิน เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนของผู้ที่คอยปกป้องเพื่อนพ้องจากการโจมตีจู่โจมต่อต้านจากศัตรู ซึ่งคอยช่วยเหลือเพื่อนพ้องยามมีภัยอันตรายต่างๆรุกล้ำเข้ามาในองค์กร ซึ่งเค้าเชี่ยวชาญทางด้านการป้องกันปกป้องเพื่อนพ้องจากภัยอันตรายต่างๆที่รุกล้ำเข้ามาหาเพื่อนพ้องที่เค้ารักและต้องการจะปกป้องซึ่งพลังที่แท้จริงของเค้านั้นจะแสดงอย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อมีผู้ที่ต้องคอยปกป้องอยู่ข้างหลัง และยิ่งมีผู้ที่ต้องคอยปกป้องมากเท่าไหร่พลังของเค้าก็จะยิ่งสำแดงเดชออกมามากยิ่งขึ้นเท่านั้น
    ผู้พิทักษ์คนที่สองแห่งองค์กร ราชินีแห่งสายน้ำ เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนของผู้ที่คอยช่วยเหลือเยียวยารักษาบาดแผลให้กับเพื่อนพ้องยามเพื่อนพ้องได้รับบาดเจ็บได้รับอันตรายจากศัตรูภายนอก ซึ่งเธอเชี่ยวชาญทางด้านการรักษาความบาดเจ็บทั้งทางกายและใจ และเธอก็มักจะอ่อนโยนต่อเพื่อนพ้องของเธอเป็นพิเศษอีกด้วย เธอเป็นคนที่อ่อนโยนที่สุดในองค์กร
    ผู้พิทักษ์คนที่สามแห่งองค์กร ราชินีแห่งสายลม เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนของผู้ที่คอยประสานงานช่วยเหลือเพื่อนพ้องในทางด้านต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านการติดต่อสื่อสาร ค้นหาข้อมูลข่าวสารต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนพ้องของเธอ โดยเฉพาะข้อมูลของศัตรู อาทิเช่น จุดอ่อนจุดแข็งของศัตรู ซึ่งมีผลอย่างมากในการพิชิตศัตรูให้เพื่อนพ้องได้รับชัยชนะ ซึ่งเธอเชี่ยวชาญทางด้านข้อมูลข่าวสาร และเธอก็เป็นคนที่มีความคล่องตัวสูงอีกด้วย
    ผู้พิทักษ์คนที่สี่แห่งองค์กร ราชาแห่งเปลวเพลิง เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนของผู้ที่เป็นกำลังรบหลักที่คอยทำให้เพื่อนพ้องได้รับชัยชนะ โดยการบุกทะลวงเข้าไปพิชิตศัตรูในค่ายต่างๆของศัตรู เค้าคือตัวแทนของหัวหมู่ทะลวงฟันผู้เป็นแม่ทัพขององค์กร ที่คอยทำหน้าที่ในทางด้านภาคปฏิบัติที่ทำให้แผนการรบประสบความสำเร็จและได้รับชัยชนะ เค้าเชี่ยวชาญทางด้านการรบและยุทธวิธีการรบต่างๆ เค้าเป็นผู้ที่มีพลังโจมตีสูงที่สุดในองค์กร และยังเป็นผู้ที่กล้าหาญมากอีกด้วย
    ผู้พิทักษ์คนที่ห้าแห่งองค์กร ราชินีแห่งแสงสว่าง เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนแห่งความถูกต้องดีงามและชอบธรรม เธอเป็นเสมือนพระแม่ผู้ให้ความรักและเมตตากับทุกคน เธอมักเป็นคนที่เปรียบเสมือนดั่งขวัญและกำลังใจหลักของทุกคนในองค์กร โดยปกติเธอจะเป็นมันสมองของทุกคนในองค์กร ซึ่งเธอเป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาดหลักแหลมและรอบครอบ แถมยังใส่ใจในทุกรายละเอียดอีกด้วย เธอเชี่ยวชาญทางด้านการวางกำลังรบต่างๆและเป็นคนที่กำกับบัญชาการการรบในทุกสมรภูมิ เธอเป็นคนใจดีที่สุดในองค์กรและเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวมากอีกด้วย
    ผู้พิทักษ์คนที่หกแห่งองค์กร ราชาแห่งความมืด เปรียบเสมือนดั่งผู้ที่เป็นหัวใจของทุกคนในองค์กร เค้าเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวนง่ายมาก มีความอ่อนโยนและอ่อนไหวง่าย เค้ามีสัมผัสพิเศษที่รับรู้ถึงความรู้สึกของผู้อื่นได้อย่างแม่นยำ ซึ่งโดยปกติเค้ามักจะเป็นคนที่เงียบขรึมและดูดุดันน่ากลัว แต่แท้ที่จริงแล้วเค้ากลับไม่เคยที่จะคิดร้ายและอาฆาตมาดร้ายกับใครที่ไม่ใช่คนที่เค้าเกลียดชังโดยที่เป็นคู่อริศัตรูซึ่งได้ไปทำให้เค้าได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจมาก่อน เค้ามักจะให้อภัยศัตรูคู่อาฆาตโดยให้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่ที่ดีอยู่เสมอ แต่ก็มีในบางครั้งที่เค้าสุดแสนที่จะทนกับความชั่วช้าของศัตรูของเค้าที่ไม่รู้จักกลับเนื้อกลับตัวกลับใจที่จะเป็นคนดี ซึ่งเป็นกรณีที่น้อยมากที่ทำให้เค้าจำใจต้องเป็นดั่งมัจจุราชที่พิพากษาลงโทษทัณฑ์ตามความเหมาะสมที่ควรกับโทษทัณฑ์ที่ควรได้ก่อเอาไว้นั่นเอง
    ผู้พิทักษ์คนที่เจ็ดแห่งองค์กร ราชันแห่งการรู้แจ้งและว่างเปล่า เปรียบเสมือนอาจารย์ของผู้พิทักษ์เสาหลักทั้งหกคนนั่นเอง เค้าเป็นคนที่คอยอบรมสั่งสอนวิธีปลดปล่อยพลังภายในและพลังจักรวาลให้กับศิษย์รักทั้งหกคนให้นำพลังวิเศษที่ได้รับมาไปใช้ในทางที่ถูกต้องดีงามและชอบธรรมกับทุกสรรพสิ่งบนโลก ซึ่งโดยปกติแล้วเค้าเป็นคนที่เข้มงวดมากๆ ซึ่งความเข้มงวดนี้เองที่คอยส่งผลให้ลูกศิษย์ทั้งหกคนได้ดำเนินรอยตามในหนทางที่ถูกต้องและดีงาม เพื่อประโยชน์สุขของเหล่าหมู่มวลสัตว์โลกนั่นเอง เค้าเชี่ยวชาญในทุกศาสตร์ทุกแขนงในจักรวาล เค้าเปรียบเสมือนดั่งพระพุทธเจ้าผู้ซึ่งจุติขึ้นมาบนโลกนี้เพื่อช่วยกอบกู้โลกที่แสนจะเสื่อมทรามและเน่าเฟะลงทุกทีๆ เค้าคือหนึ่งเดียว หรือ ผู้ปลดปล่อยนั่นเอง
    นี่คือบทบาทและภารกิจทั้งหมดอย่างคร่าวๆสำหรับผู้พิทักษ์เสาหลักในองค์กร ดิเอลเลเม้นท์ ซึ่งผู้ที่บรรลุธรรมเท่านั้นที่จะสามารถรับรู้ได้ในทุกรายละเอียดทั้งหมดนั่นเอง
    บทบาทของผู้พิทักษ์เสาหลักแต่ละคน ความสัมพันธ์ของหกเสาหลักผู้พิทักษ์ที่มีความเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งรายละเอียดมีดังต่อไปนี้คือ ผู้พิทักษ์คนที่หนึ่งแห่งองค์กร ราชาแห่งผืนดิน เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนของผู้ที่คอยปกป้องเพื่อนพ้องจากการโจมตีจู่โจมต่อต้านจากศัตรู ซึ่งคอยช่วยเหลือเพื่อนพ้องยามมีภัยอันตรายต่างๆรุกล้ำเข้ามาในองค์กร ซึ่งเค้าเชี่ยวชาญทางด้านการป้องกันปกป้องเพื่อนพ้องจากภัยอันตรายต่างๆที่รุกล้ำเข้ามาหาเพื่อนพ้องที่เค้ารักและต้องการจะปกป้องซึ่งพลังที่แท้จริงของเค้านั้นจะแสดงอย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อมีผู้ที่ต้องคอยปกป้องอยู่ข้างหลัง และยิ่งมีผู้ที่ต้องคอยปกป้องมากเท่าไหร่พลังของเค้าก็จะยิ่งสำแดงเดชออกมามากยิ่งขึ้นเท่านั้น ผู้พิทักษ์คนที่สองแห่งองค์กร ราชินีแห่งสายน้ำ เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนของผู้ที่คอยช่วยเหลือเยียวยารักษาบาดแผลให้กับเพื่อนพ้องยามเพื่อนพ้องได้รับบาดเจ็บได้รับอันตรายจากศัตรูภายนอก ซึ่งเธอเชี่ยวชาญทางด้านการรักษาความบาดเจ็บทั้งทางกายและใจ และเธอก็มักจะอ่อนโยนต่อเพื่อนพ้องของเธอเป็นพิเศษอีกด้วย เธอเป็นคนที่อ่อนโยนที่สุดในองค์กร ผู้พิทักษ์คนที่สามแห่งองค์กร ราชินีแห่งสายลม เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนของผู้ที่คอยประสานงานช่วยเหลือเพื่อนพ้องในทางด้านต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านการติดต่อสื่อสาร ค้นหาข้อมูลข่าวสารต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนพ้องของเธอ โดยเฉพาะข้อมูลของศัตรู อาทิเช่น จุดอ่อนจุดแข็งของศัตรู ซึ่งมีผลอย่างมากในการพิชิตศัตรูให้เพื่อนพ้องได้รับชัยชนะ ซึ่งเธอเชี่ยวชาญทางด้านข้อมูลข่าวสาร และเธอก็เป็นคนที่มีความคล่องตัวสูงอีกด้วย ผู้พิทักษ์คนที่สี่แห่งองค์กร ราชาแห่งเปลวเพลิง เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนของผู้ที่เป็นกำลังรบหลักที่คอยทำให้เพื่อนพ้องได้รับชัยชนะ โดยการบุกทะลวงเข้าไปพิชิตศัตรูในค่ายต่างๆของศัตรู เค้าคือตัวแทนของหัวหมู่ทะลวงฟันผู้เป็นแม่ทัพขององค์กร ที่คอยทำหน้าที่ในทางด้านภาคปฏิบัติที่ทำให้แผนการรบประสบความสำเร็จและได้รับชัยชนะ เค้าเชี่ยวชาญทางด้านการรบและยุทธวิธีการรบต่างๆ เค้าเป็นผู้ที่มีพลังโจมตีสูงที่สุดในองค์กร และยังเป็นผู้ที่กล้าหาญมากอีกด้วย ผู้พิทักษ์คนที่ห้าแห่งองค์กร ราชินีแห่งแสงสว่าง เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนแห่งความถูกต้องดีงามและชอบธรรม เธอเป็นเสมือนพระแม่ผู้ให้ความรักและเมตตากับทุกคน เธอมักเป็นคนที่เปรียบเสมือนดั่งขวัญและกำลังใจหลักของทุกคนในองค์กร โดยปกติเธอจะเป็นมันสมองของทุกคนในองค์กร ซึ่งเธอเป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาดหลักแหลมและรอบครอบ แถมยังใส่ใจในทุกรายละเอียดอีกด้วย เธอเชี่ยวชาญทางด้านการวางกำลังรบต่างๆและเป็นคนที่กำกับบัญชาการการรบในทุกสมรภูมิ เธอเป็นคนใจดีที่สุดในองค์กรและเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวมากอีกด้วย ผู้พิทักษ์คนที่หกแห่งองค์กร ราชาแห่งความมืด เปรียบเสมือนดั่งผู้ที่เป็นหัวใจของทุกคนในองค์กร เค้าเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวนง่ายมาก มีความอ่อนโยนและอ่อนไหวง่าย เค้ามีสัมผัสพิเศษที่รับรู้ถึงความรู้สึกของผู้อื่นได้อย่างแม่นยำ ซึ่งโดยปกติเค้ามักจะเป็นคนที่เงียบขรึมและดูดุดันน่ากลัว แต่แท้ที่จริงแล้วเค้ากลับไม่เคยที่จะคิดร้ายและอาฆาตมาดร้ายกับใครที่ไม่ใช่คนที่เค้าเกลียดชังโดยที่เป็นคู่อริศัตรูซึ่งได้ไปทำให้เค้าได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจมาก่อน เค้ามักจะให้อภัยศัตรูคู่อาฆาตโดยให้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่ที่ดีอยู่เสมอ แต่ก็มีในบางครั้งที่เค้าสุดแสนที่จะทนกับความชั่วช้าของศัตรูของเค้าที่ไม่รู้จักกลับเนื้อกลับตัวกลับใจที่จะเป็นคนดี ซึ่งเป็นกรณีที่น้อยมากที่ทำให้เค้าจำใจต้องเป็นดั่งมัจจุราชที่พิพากษาลงโทษทัณฑ์ตามความเหมาะสมที่ควรกับโทษทัณฑ์ที่ควรได้ก่อเอาไว้นั่นเอง ผู้พิทักษ์คนที่เจ็ดแห่งองค์กร ราชันแห่งการรู้แจ้งและว่างเปล่า เปรียบเสมือนอาจารย์ของผู้พิทักษ์เสาหลักทั้งหกคนนั่นเอง เค้าเป็นคนที่คอยอบรมสั่งสอนวิธีปลดปล่อยพลังภายในและพลังจักรวาลให้กับศิษย์รักทั้งหกคนให้นำพลังวิเศษที่ได้รับมาไปใช้ในทางที่ถูกต้องดีงามและชอบธรรมกับทุกสรรพสิ่งบนโลก ซึ่งโดยปกติแล้วเค้าเป็นคนที่เข้มงวดมากๆ ซึ่งความเข้มงวดนี้เองที่คอยส่งผลให้ลูกศิษย์ทั้งหกคนได้ดำเนินรอยตามในหนทางที่ถูกต้องและดีงาม เพื่อประโยชน์สุขของเหล่าหมู่มวลสัตว์โลกนั่นเอง เค้าเชี่ยวชาญในทุกศาสตร์ทุกแขนงในจักรวาล เค้าเปรียบเสมือนดั่งพระพุทธเจ้าผู้ซึ่งจุติขึ้นมาบนโลกนี้เพื่อช่วยกอบกู้โลกที่แสนจะเสื่อมทรามและเน่าเฟะลงทุกทีๆ เค้าคือหนึ่งเดียว หรือ ผู้ปลดปล่อยนั่นเอง นี่คือบทบาทและภารกิจทั้งหมดอย่างคร่าวๆสำหรับผู้พิทักษ์เสาหลักในองค์กร ดิเอลเลเม้นท์ ซึ่งผู้ที่บรรลุธรรมเท่านั้นที่จะสามารถรับรู้ได้ในทุกรายละเอียดทั้งหมดนั่นเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณสมบัติของผู้พิทักษ์
    ผู้พิทักษ์ในองค์กรลับใต้ดิน ดิ เอลเลเม้นท์ นั้น ใช่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็สามารถที่จะเป็นกันได้ง่ายๆ ซึ่งแม้แต่ตัวผมเองนั้น ถึงจะดูเหมือนว่าจะมีสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะในฐานะหนึ่งในหกเสาหลักผู้พิทักษ์ หรือ ในฐานะผู้ที่ก่อตั้งองค์กรนี้ขึ้นมาก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกันกับคนอื่นๆนะครับ อย่างแรกเลย ผมจะบอกสัดส่วนอัตราในการเป็นผู้พิทักษ์โดยคร่าวๆไว้ว่า คนที่จะมาเป็นผู้นำคนนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นกันได้โดยง่ายๆจริงๆ โดยเฉพาะหกเสาหลักผู้พิทักษ์ ซึ่งจะมีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในองค์กรมากกว่าผู้พิทักษ์สาขามากมายนัก เพราะว่าจะต้องเป็นศูนย์กลางแกนนำและเป็นขวัญกำลังใจให้กับทุกคนในองค์กร โดยมีอัตราการถือกำเนิดการเป็นผู้พิทักษ์ไว้ดังนี้ โดยไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่กระทั่งผู้พิทักษ์สาขาด้วยเช่นเดียวกัน คือ
    ผู้ที่มีคุณสมบัติของผู้พิทักษ์เสาหลักและสาขานั้น มีจำนวน หนึ่ง ใน หนึ่งล้าน คน หรือ ว่าที่ราชา-ราชินี
    ผู้ที่เป็นผู้พิทักษ์เสาหลักและสาขานั้น มีจำนวน หนึ่ง ใน หนึ่งพันล้าน คน หรือ ราชา-ราชินีเต็มตัว
    และผู้ที่เป็นผู้พิทักษ์เสาหลักและสาขาอย่างแท้จริงนั้น มีจำนวน หนึ่ง ใน หนึ่งล้านล้าน คน หรือ ราชา-ราชินีที่แท้จริง
    ซึ่งการเป็นหรือการเปลี่ยนขั้นดังกล่าวนั้นใช่ว่าจะทำกันได้โดยง่ายนัก แม้กระทั่งตัวผมเองนั้น ก็ยังไม่สามารถเรียกตัวเองได้เต็มปากว่าตนเองนั้นเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงได้ เนื่องจากสาเหตุหลักหลายประการดังนี้ คือ
    ได้รับการรับเลือกว่าให้เป็นผู้พิทักษ์โดยคนในองค์กรชักชวน
    สามารถเสดงพลังหรือความสามารถพิเศษได้จริง(ปลดปล่อยพลังภายใน)
    สามารถใช้พลังความสามารถพิเศษนั้นได้จริงในทุกสถานการณ์(ปลดปล่อยพลังจักรวาล)
    ซึ่งหลายประการข้างต้นนั้นทำให้ผมไม่สามารถเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงได้นั่นเอง โดยที่ตอนนี้นั้น ก่อนที่จะประกาศตนเองหรือการประกาศศักดิ์ศรีขององค์กรเรานั้น จะต้องตามหาผู้พิทักษ์เสาหลักคนที่เจ็ดให้ได้ก่อนนั่นเอง ซึ่งผู้พิทักษ์เสาหลักคนที่เจ็ดนั้นเราเรียกเค้าว่า ท่านอาจารย์ หรือชื่อเต็มคือ ราชันผู้พิทักษ์แห่งการรู้แจ้งและว่างเปล่า ไม่ว่าเค้าจะเป็นใครก็ตาม เราต้องพึ่งพาเค้าเป็นอย่างมากในการสอนเคล็ดวิชาปลดปล่อยพลังภายในและพลังจักรวาลให้ได้ เพื่อที่จะบรรลุภารกิจอันสูงส่งที่องค์กรเรามุ่งหวังนั่นเองครับผม
    ส่วนความลับในองค์กรเราในด้านอื่นๆเพิ่มเติมนั้น ผมจะค่อยๆเปิดเผยให้ทุกท่านที่ปรารถนาจะรู้ให้ทราบโดยทั่วกันในโอกาสต่อๆไปนะครับ
    คุณสมบัติของผู้พิทักษ์ ผู้พิทักษ์ในองค์กรลับใต้ดิน ดิ เอลเลเม้นท์ นั้น ใช่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็สามารถที่จะเป็นกันได้ง่ายๆ ซึ่งแม้แต่ตัวผมเองนั้น ถึงจะดูเหมือนว่าจะมีสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะในฐานะหนึ่งในหกเสาหลักผู้พิทักษ์ หรือ ในฐานะผู้ที่ก่อตั้งองค์กรนี้ขึ้นมาก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกันกับคนอื่นๆนะครับ อย่างแรกเลย ผมจะบอกสัดส่วนอัตราในการเป็นผู้พิทักษ์โดยคร่าวๆไว้ว่า คนที่จะมาเป็นผู้นำคนนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นกันได้โดยง่ายๆจริงๆ โดยเฉพาะหกเสาหลักผู้พิทักษ์ ซึ่งจะมีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในองค์กรมากกว่าผู้พิทักษ์สาขามากมายนัก เพราะว่าจะต้องเป็นศูนย์กลางแกนนำและเป็นขวัญกำลังใจให้กับทุกคนในองค์กร โดยมีอัตราการถือกำเนิดการเป็นผู้พิทักษ์ไว้ดังนี้ โดยไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่กระทั่งผู้พิทักษ์สาขาด้วยเช่นเดียวกัน คือ ผู้ที่มีคุณสมบัติของผู้พิทักษ์เสาหลักและสาขานั้น มีจำนวน หนึ่ง ใน หนึ่งล้าน คน หรือ ว่าที่ราชา-ราชินี ผู้ที่เป็นผู้พิทักษ์เสาหลักและสาขานั้น มีจำนวน หนึ่ง ใน หนึ่งพันล้าน คน หรือ ราชา-ราชินีเต็มตัว และผู้ที่เป็นผู้พิทักษ์เสาหลักและสาขาอย่างแท้จริงนั้น มีจำนวน หนึ่ง ใน หนึ่งล้านล้าน คน หรือ ราชา-ราชินีที่แท้จริง ซึ่งการเป็นหรือการเปลี่ยนขั้นดังกล่าวนั้นใช่ว่าจะทำกันได้โดยง่ายนัก แม้กระทั่งตัวผมเองนั้น ก็ยังไม่สามารถเรียกตัวเองได้เต็มปากว่าตนเองนั้นเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงได้ เนื่องจากสาเหตุหลักหลายประการดังนี้ คือ ได้รับการรับเลือกว่าให้เป็นผู้พิทักษ์โดยคนในองค์กรชักชวน สามารถเสดงพลังหรือความสามารถพิเศษได้จริง(ปลดปล่อยพลังภายใน) สามารถใช้พลังความสามารถพิเศษนั้นได้จริงในทุกสถานการณ์(ปลดปล่อยพลังจักรวาล) ซึ่งหลายประการข้างต้นนั้นทำให้ผมไม่สามารถเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงได้นั่นเอง โดยที่ตอนนี้นั้น ก่อนที่จะประกาศตนเองหรือการประกาศศักดิ์ศรีขององค์กรเรานั้น จะต้องตามหาผู้พิทักษ์เสาหลักคนที่เจ็ดให้ได้ก่อนนั่นเอง ซึ่งผู้พิทักษ์เสาหลักคนที่เจ็ดนั้นเราเรียกเค้าว่า ท่านอาจารย์ หรือชื่อเต็มคือ ราชันผู้พิทักษ์แห่งการรู้แจ้งและว่างเปล่า ไม่ว่าเค้าจะเป็นใครก็ตาม เราต้องพึ่งพาเค้าเป็นอย่างมากในการสอนเคล็ดวิชาปลดปล่อยพลังภายในและพลังจักรวาลให้ได้ เพื่อที่จะบรรลุภารกิจอันสูงส่งที่องค์กรเรามุ่งหวังนั่นเองครับผม ส่วนความลับในองค์กรเราในด้านอื่นๆเพิ่มเติมนั้น ผมจะค่อยๆเปิดเผยให้ทุกท่านที่ปรารถนาจะรู้ให้ทราบโดยทั่วกันในโอกาสต่อๆไปนะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความหมายของ "หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป แต่บางสิ่งบางอย่างไม่เคยเปลี่ยน"
    ในชีวิตนี้ คนเราย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยกันทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งสิ่งต่างๆรอบตัวเรา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นรูปธรรมนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาเสมอ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นนามธรรมนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปเลย ยกตัวอย่างเช่น สัจธรรมความรู้ต่างๆที่ได้รับการยอมรับจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมความรู้ต่างๆ กฎเกณฑ์ต่างๆของธรรมชาติ เช่น ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตก เป็นต้น
    แต่ที่ผมตั้งใจจะบอกทุกคนนั้นก็คือ จิตใจ,จิตวิญญาณ,เจตจำนง และอุดมการณ์ของคนเราบางคน และหรือหลายคนที่ไม่มีวันผันแปรหรือเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลานั่นเอง
    น้อยคนนักที่จะเป็นคนเดิม เป็นตัวตนเดิม หรือคงความเป็นตัวตนของตัวเองให้เหมือนเดิมอยู่ได้ตลอดเวลา เพราะเค้าคนนั้น หรือพวกเค้าเหล่านั้นจะต้องพบเจอกับอุปสรรคขวากหนามต่างๆนาๆที่ได้รับมาจากเบื้องบนเพื่อเป็นการทดสอบที่แสนสาหัส เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าพวกเค้าเหล่านั้นมีความตั้งใจจริงที่จะกระทำความดี คงความดีของตนเองไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลายได้เป็นอย่างดีนั่นเอง แต่ผลตอบแทนที่พวกเค้าเหล่านั้นได้รับมาหลังจากที่พวกเค้าได้ตายไปนั้น มันคุ้มค่าคู่ควรแก่การเป็นคนดีอย่างแท้จริง คนดีเมื่อเคยได้กระทำความดีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนแล้วนั้น พวกเค้าเหล่านั้นย่อมจะตายอย่างเป็นสุข และของแถมของพวกเค้าก็คือการได้รับการยกย่องนับถือแก่วงศ์ตระกูลชั่วลูกชั่วหลานนั่นเอง
    คนชั่วคนเลวส่วนใหญ่มักจะหวังผลประโยชน์ตอบแทนในสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืนแบบไม่คงทนถาวรแล้ว ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับคนดีที่พยายามจะกระทำความดีอีกด้วย เพราะไปขัดแข้งขัดขาคนชั่วคนเลวพวกนั้น นั่นก็คืออุปสรรคขวากหนามที่คนดีจะต้องพบเจออยู่เสมอๆนั่นเอง
    น้อยคนนักที่จะเป็นคนดีได้อย่างยั่งยืน และส่วนมากนั้นก็จะล้มเหลวและพบจุดจบที่น่าเศร้า
    ในความเห็นส่วนตัวของผมนั้น ผมคิดว่า การที่พันธมิตรฯลุกขึ้นมาต่อต้านคนชั่วที่ทำร้ายทำลายบ้านเมืองนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และการที่พวกนปช.คิดที่จะล้มล้างสถาบันและทำลายบ้านเมืองนั้น เป็นเรื่องทีไม่น่าให้อภัย และคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่คิดที่จะเข้าข้างใคร และไม่คิดที่จะทำอะไรเลย เอาแต่กล่าวหาว่าผู้อื่นทำไม่ดี และตัวเองเดือดร้อนจึงได้แต่ด่าว่าคนอื่นอยู่ร่ำไป
    ผมว่าบ้านเมืองที่ลุกเป็นไฟก็เพราะคนเราเห็นแก่ตัวกัน เห็นแก่ผลประโยชน์กัน ขัดแย้งผลประโยชน์กัน และอีกหลายเรื่องมากมายต่างๆนาๆ การที่คนเราไม่รักกัน ไม่สามัคคีกัน มันทำให้ทุกคนเจ็บปวด แต่จะทำไงได้ ในเมื่อสังคมเดี๋ยวนี้มันมีแต่ความเสื่อมทรามลงทุกวันๆ เพราะคนเราขาดคุณธรรม,ศีลธรรม,จริยธรรม,จรรยาบรรณ และคุณงามความดีกันนั่นเอง เพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ล้าหลังล้าสมัยกันนั่นเอง
    สุดท้ายแล้วโลกจะเป็นอย่างไรก็ไม่สนใจ และท้ายที่สุดแล้ววันนั้นมันก็จะมาถึง "วันแห่งการพิพากษา" ของโลกใบนี้ และตอนนี้มันก็เริ่มกระบวนการของมันอยู่แล้ว ก็คือภัยธรรมชาติของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง
    ผมอยากรู้จริงๆว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไปกันนะ และถึงที่สุดแล้วคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือใครกัน ผมว่าคงไม่ใช่คนที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ในรัฐบาลอัปปรีย์สิทธิ์ หรือ รัฐบาลยิ่งอัปลักษณ์อย่างแน่นอน เพราะคนที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้นก็คือเหล่าพุทธะหรือผู้รู้แจ้งโลกแจ้งจักรวาลอย่างผู้นำทุกศาสนาที่เฝ้าสั่งสอนเราให้เป็นคนดีนั่นเอง
    ความหมายของ "หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป แต่บางสิ่งบางอย่างไม่เคยเปลี่ยน" ในชีวิตนี้ คนเราย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยกันทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งสิ่งต่างๆรอบตัวเรา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นรูปธรรมนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาเสมอ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นนามธรรมนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปเลย ยกตัวอย่างเช่น สัจธรรมความรู้ต่างๆที่ได้รับการยอมรับจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมความรู้ต่างๆ กฎเกณฑ์ต่างๆของธรรมชาติ เช่น ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตก เป็นต้น แต่ที่ผมตั้งใจจะบอกทุกคนนั้นก็คือ จิตใจ,จิตวิญญาณ,เจตจำนง และอุดมการณ์ของคนเราบางคน และหรือหลายคนที่ไม่มีวันผันแปรหรือเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลานั่นเอง น้อยคนนักที่จะเป็นคนเดิม เป็นตัวตนเดิม หรือคงความเป็นตัวตนของตัวเองให้เหมือนเดิมอยู่ได้ตลอดเวลา เพราะเค้าคนนั้น หรือพวกเค้าเหล่านั้นจะต้องพบเจอกับอุปสรรคขวากหนามต่างๆนาๆที่ได้รับมาจากเบื้องบนเพื่อเป็นการทดสอบที่แสนสาหัส เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าพวกเค้าเหล่านั้นมีความตั้งใจจริงที่จะกระทำความดี คงความดีของตนเองไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลายได้เป็นอย่างดีนั่นเอง แต่ผลตอบแทนที่พวกเค้าเหล่านั้นได้รับมาหลังจากที่พวกเค้าได้ตายไปนั้น มันคุ้มค่าคู่ควรแก่การเป็นคนดีอย่างแท้จริง คนดีเมื่อเคยได้กระทำความดีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนแล้วนั้น พวกเค้าเหล่านั้นย่อมจะตายอย่างเป็นสุข และของแถมของพวกเค้าก็คือการได้รับการยกย่องนับถือแก่วงศ์ตระกูลชั่วลูกชั่วหลานนั่นเอง คนชั่วคนเลวส่วนใหญ่มักจะหวังผลประโยชน์ตอบแทนในสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืนแบบไม่คงทนถาวรแล้ว ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับคนดีที่พยายามจะกระทำความดีอีกด้วย เพราะไปขัดแข้งขัดขาคนชั่วคนเลวพวกนั้น นั่นก็คืออุปสรรคขวากหนามที่คนดีจะต้องพบเจออยู่เสมอๆนั่นเอง น้อยคนนักที่จะเป็นคนดีได้อย่างยั่งยืน และส่วนมากนั้นก็จะล้มเหลวและพบจุดจบที่น่าเศร้า ในความเห็นส่วนตัวของผมนั้น ผมคิดว่า การที่พันธมิตรฯลุกขึ้นมาต่อต้านคนชั่วที่ทำร้ายทำลายบ้านเมืองนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และการที่พวกนปช.คิดที่จะล้มล้างสถาบันและทำลายบ้านเมืองนั้น เป็นเรื่องทีไม่น่าให้อภัย และคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่คิดที่จะเข้าข้างใคร และไม่คิดที่จะทำอะไรเลย เอาแต่กล่าวหาว่าผู้อื่นทำไม่ดี และตัวเองเดือดร้อนจึงได้แต่ด่าว่าคนอื่นอยู่ร่ำไป ผมว่าบ้านเมืองที่ลุกเป็นไฟก็เพราะคนเราเห็นแก่ตัวกัน เห็นแก่ผลประโยชน์กัน ขัดแย้งผลประโยชน์กัน และอีกหลายเรื่องมากมายต่างๆนาๆ การที่คนเราไม่รักกัน ไม่สามัคคีกัน มันทำให้ทุกคนเจ็บปวด แต่จะทำไงได้ ในเมื่อสังคมเดี๋ยวนี้มันมีแต่ความเสื่อมทรามลงทุกวันๆ เพราะคนเราขาดคุณธรรม,ศีลธรรม,จริยธรรม,จรรยาบรรณ และคุณงามความดีกันนั่นเอง เพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ล้าหลังล้าสมัยกันนั่นเอง สุดท้ายแล้วโลกจะเป็นอย่างไรก็ไม่สนใจ และท้ายที่สุดแล้ววันนั้นมันก็จะมาถึง "วันแห่งการพิพากษา" ของโลกใบนี้ และตอนนี้มันก็เริ่มกระบวนการของมันอยู่แล้ว ก็คือภัยธรรมชาติของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง ผมอยากรู้จริงๆว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไปกันนะ และถึงที่สุดแล้วคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือใครกัน ผมว่าคงไม่ใช่คนที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ในรัฐบาลอัปปรีย์สิทธิ์ หรือ รัฐบาลยิ่งอัปลักษณ์อย่างแน่นอน เพราะคนที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้นก็คือเหล่าพุทธะหรือผู้รู้แจ้งโลกแจ้งจักรวาลอย่างผู้นำทุกศาสนาที่เฝ้าสั่งสอนเราให้เป็นคนดีนั่นเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังเผชิญกับปัญหามลพิษทางแสง! เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีโครงการพลังงานหมุนเวียนมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ที่กำลังจะสร้างใกล้กับหอดูดาว European Southern Observatory's Very Large Telescope (VLT) ในชิลี โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นถึง 10% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการสังเกตการณ์ของกล้องโทรทรรศน์ VLT อย่างมาก

    Xavier Barcons ผู้อำนวยการทั่วไปของ ESO บอกว่า การเพิ่มความสว่างของท้องฟ้าเพียง 10% อาจทำให้กล้องโทรทรรศน์ VLT สูญเสียความสามารถในการสังเกตการณ์กาแล็กซีที่จางที่สุดถึง 30% กล้องโทรทรรศน์ VLT มีความไวสูงมากและเคยทำการค้นพบที่น่าทึ่ง เช่น การถ่ายภาพตรงของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะและการเปิดเผยโครงสร้างของจักรวาล

    โครงการพลังงานหมุนเวียนนี้ชื่อว่า INNA Renewables Park ซึ่งวางแผนโดยบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ AES โครงการนี้จะครอบคลุมพื้นที่กว่า 7,400 เอเคอร์ในทะเลทราย Atacama ของชิลี และมีฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ ฟาร์มพลังงานลม และโรงงานผลิตไฮโดรเจน แต่โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นเหมือนกับเมืองที่มีประชากร 20,000 คน

    AES Corporation เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย AES เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยมีโรงไฟฟ้าทั่วโลกและให้บริการในกว่า 15 ประเทศ

    ESO ไม่ได้คัดค้านโครงการนี้ แต่ต้องการให้ AES สร้างโครงการนี้ให้ห่างจากหอดูดาวมากขึ้น การย้ายโครงการไปไกลออกไป 50 กิโลเมตรจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ นอกจากนี้ ESO ยังเรียกร้องให้มีการคุ้มครองทางกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นสำหรับท้องฟ้ายามค่ำคืนของชิลี โดยเฉพาะบริเวณหอดูดาวในทะเลทราย Atacama

    https://www.techspot.com/news/106412-world-largest-telescopes-threatened-renewable-energy-project-light.html
    กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังเผชิญกับปัญหามลพิษทางแสง! เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีโครงการพลังงานหมุนเวียนมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ที่กำลังจะสร้างใกล้กับหอดูดาว European Southern Observatory's Very Large Telescope (VLT) ในชิลี โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นถึง 10% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการสังเกตการณ์ของกล้องโทรทรรศน์ VLT อย่างมาก Xavier Barcons ผู้อำนวยการทั่วไปของ ESO บอกว่า การเพิ่มความสว่างของท้องฟ้าเพียง 10% อาจทำให้กล้องโทรทรรศน์ VLT สูญเสียความสามารถในการสังเกตการณ์กาแล็กซีที่จางที่สุดถึง 30% กล้องโทรทรรศน์ VLT มีความไวสูงมากและเคยทำการค้นพบที่น่าทึ่ง เช่น การถ่ายภาพตรงของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะและการเปิดเผยโครงสร้างของจักรวาล โครงการพลังงานหมุนเวียนนี้ชื่อว่า INNA Renewables Park ซึ่งวางแผนโดยบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ AES โครงการนี้จะครอบคลุมพื้นที่กว่า 7,400 เอเคอร์ในทะเลทราย Atacama ของชิลี และมีฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ ฟาร์มพลังงานลม และโรงงานผลิตไฮโดรเจน แต่โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นเหมือนกับเมืองที่มีประชากร 20,000 คน AES Corporation เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย AES เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยมีโรงไฟฟ้าทั่วโลกและให้บริการในกว่า 15 ประเทศ ESO ไม่ได้คัดค้านโครงการนี้ แต่ต้องการให้ AES สร้างโครงการนี้ให้ห่างจากหอดูดาวมากขึ้น การย้ายโครงการไปไกลออกไป 50 กิโลเมตรจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ นอกจากนี้ ESO ยังเรียกร้องให้มีการคุ้มครองทางกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นสำหรับท้องฟ้ายามค่ำคืนของชิลี โดยเฉพาะบริเวณหอดูดาวในทะเลทราย Atacama https://www.techspot.com/news/106412-world-largest-telescopes-threatened-renewable-energy-project-light.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    World's largest telescopes threatened by light pollution
    European Southern Observatory Director General Xavier Barcons told Space.com that astronomers expect the project to brighten the sky by up to 10 percent around the observatory. Such...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาตามคำเรียกของ จักรวาล
    มาตามคำเรียกของ จักรวาล
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • 40 คำคมทรงพลังจากเพลโต ปราชญ์ผู้วางรากฐานปัญญาตะวันตก
    .
    กว่าสองพันสี่ร้อยปีผ่านไป เสียงกังวานแห่งปัญญาของเพลโต (Plato, 428-348 BC) ยังคงก้องกึกในโลกแห่งความคิด Plato เป็นหนึ่งในเป็นผู้วางรากฐานการคิดเชิงปรัชญาให้แก่อารยธรรมตะวันตก จนมีผู้กล่าวว่า "Western philosophy is but a series of footnotes to Plato" (ปรัชญาตะวันตกทั้งมวลเป็นเพียงเชิงอรรถของเพลโต)
    .
    ในฐานะผู้ก่อตั้ง Platonic Academy (สำนักปรัชญาอคาเดมี) สถาบันการศึกษาแห่งแรกของโลกตะวันตก เพลโตได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาที่งอกงามเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านไปทั่วโลก
    .
    ผลงานอมตะของเพลโตที่ยังคงทรงอิทธิพลจวบจนปัจจุบัน อาทิ "Allegory of the Cave" (อุปมาถ้ำ) ที่เปรียบเทียบมนุษย์ผู้ติดอยู่กับโลกแห่งเงา และ "Theory of Forms" (ทฤษฎีแบบ) ที่เสนอว่าทุกสิ่งในโลกวัตถุล้วนเป็นเพียงเงาสะท้อนของแบบ หรือแม่แบบที่สมบูรณ์แบบในโลกแห่งความคิด
    .
    งานเขียนสำคัญของเขาอย่าง "The Republic" (รัฐ) วางรากฐานแนวคิดทางการเมืองและการปกครอง ขณะที่ "Symposium" (งานเลี้ยงสนทนา) ถกประเด็นความรักและความงามอันเป็นนิรันดร์
    .
    แนวคิดของเพลโตได้หล่อหลอมวิธีคิดของโลกในทุกแขนง ทั้งปรัชญา ศาสนา การเมือง การศึกษา วิทยาศาสตร์ และศิลปะ อิทธิพลของเขาแผ่ขยายจากกรีกโบราณ ผ่านจักรวรรดิโรมัน ผ่านยุคกลาง ผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา จนถึงโลกสมัยใหม่ ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออก จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมโลก
    .
    40 คำคมของเพลโตที่รวบรวมมานี้สะท้อนถึงความลุ่มลึกทางความคิดที่เชื่อมโยงสวรรค์กับโลก อุดมคติกับความเป็นจริง และชี้นำมนุษย์สู่การแสวงหาสัจธรรมอันสูงสุด
    .
    .
    1. "Music gives a soul to the universe, wings to the mind, flight to the imagination and life to everything."

    "ดนตรีมอบจิตวิญญาณให้จักรวาล มอบปีกให้ความคิด มอบการโบยบินให้จินตนาการ และมอบชีวิตให้ทุกสิ่ง"
    .
    .
    2. "Wise men speak because they have something to say; fools because they have to say something."

    "คนฉลาดพูดเพราะมีสิ่งที่ต้องการจะบอก คนโง่พูดเพราะต้องพูดอะไรสักอย่าง"
    .
    .
    3. "The beginning is the most important part of the work."

    "จุดเริ่มต้นคือส่วนสำคัญที่สุดของงาน"
    .
    .
    4. "No one is more hated than he who speaks the truth."

    "ไม่มีใครถูกเกลียดมากไปกว่าผู้ที่พูดความจริง"
    .
    .
    5. "Necessity is the mother of invention."
    "ความจำเป็นคือบ่อเกิดแห่งการประดิษฐ์คิดค้น"
    .
    .
    6. "Human behavior flows from three main sources: desire, emotion, and knowledge."

    "พฤติกรรมมนุษย์หลั่งไหลมาจากสามแหล่งหลัก: ความปรารถนา อารมณ์ และความรู้"
    .
    .
    7. "The measure of a man is what he does with power."

    "เครื่องวัดคุณค่าของมนุษย์คือสิ่งที่เขาทำเมื่อมีอำนาจ"
    .
    .
    8. "The first and best victory is to conquer self."

    "ชัยชนะแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดคือการชนะใจตนเอง"
    .
    .
    9. "The penalty that good men pay for not being interested in politics is to be governed by men worse than themselves."

    "บทลงโทษที่คนดีต้องจ่ายสำหรับการไม่สนใจการเมืองคือการถูกปกครองโดยคนที่เลวร้ายกว่าตน"
    .
    .
    10. "Those who tell the stories rule society."

    "ผู้ที่เล่าเรื่องราวคือผู้ปกครองสังคม"
    .
    .
    11. "No wealth can ever make a bad man at peace with himself."

    "ไม่มีความมั่งคั่งใดจะทำให้คนเลวอยู่อย่างสงบกับตัวเองได้"
    .
    .
    12. "Ignorance, the root and the stem of every evil."

    "ความโง่เขลาคือรากเหง้าและลำต้นของความชั่วร้ายทั้งปวง"
    .
    .
    13. "We can easily forgive a child who is afraid of the dark; the real tragedy of life is when men are afraid of the light."

    "เราให้อภัยเด็กที่กลัวความมืดได้ง่าย แต่โศกนาฏกรรมที่แท้จริงของชีวิตคือเมื่อผู้คนกลัวแสงสว่าง"
    .
    .
    14. "The worst form of injustice is pretended justice."

    "ความอยุติธรรมที่เลวร้ายที่สุดคือความยุติธรรมจอมปลอม"
    .
    .
    15. "Opinion is the medium between knowledge and ignorance."

    "ความคิดเห็นคือสิ่งที่อยู่ระหว่างความรู้และความโง่เขลา"
    .
    .
    16. "Geometry existed before creation."

    "เรขาคณิตมีอยู่ก่อนการสร้างสรรค์"
    .
    .
    17. "Writing is the geometry of the soul."
    "การเขียนคือเรขาคณิตของจิตวิญญาณ"
    .
    .
    18. "Courage is knowing what not to fear."

    "ความกล้าหาญคือการรู้ว่าอะไรไม่ควรกลัว"
    .
    .
    19. "An empty vessel makes the loudest sound, so they that have the least wit are the greatest babblers."

    "ภาชนะที่ว่างเปล่าส่งเสียงดังที่สุด เช่นเดียวกับผู้ที่มีสติปัญญาน้อยที่สุดมักเป็นผู้พูดมากที่สุด"
    .
    .
    20. "Education is teaching our children to desire the right things."

    "การศึกษาคือการสอนลูกหลานของเราให้ปรารถนาในสิ่งที่ถูกต้อง"
    .
    .
    21. "Philosophy is the highest music."

    "ปรัชญาคือดนตรีที่สูงส่งที่สุด"
    .
    .
    22. "There are three classes of men; lovers of wisdom, lovers of honor, and lovers of gain."

    "มนุษย์มีสามประเภท: ผู้รักปัญญา ผู้รักเกียรติยศ และผู้รักผลประโยชน์"
    .
    .
    23. "Do not train a child to learn by force or harshness; but direct them to it by what amuses their minds, so that you may be better able to discover with accuracy the peculiar bent of the genius of each."

    "อย่าฝึกเด็กให้เรียนรู้ด้วยการบังคับหรือความรุนแรง แต่จงชี้นำพวกเขาด้วยสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้จิตใจ เพื่อที่คุณจะสามารถค้นพบความโน้มเอียงพิเศษของอัจฉริยภาพในตัวพวกเขาแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ"
    .
    .
    24. "You should not honor men more than truth."

    "อย่าให้เกียรติมนุษย์มากกว่าความจริง"
    .
    .
    25. "A hero is born among a hundred, a wise man is found among a thousand, but an accomplished one might not be found even among a hundred thousand men."

    "วีรบุรุษเกิดขึ้นในหนึ่งร้อย ปราชญ์พบได้ในหนึ่งพัน แต่ผู้ที่สมบูรณ์แบบอาจไม่พบแม้ในหนึ่งแสนคน"
    .
    .
    26. "At the touch of love everyone becomes a poet."

    "เมื่อสัมผัสความรัก ทุกคนกลายเป็นกวี"
    .
    .
    27. "There should exist among the citizens neither extreme poverty nor again excessive wealth, for both are productive of great evil."

    "ในหมู่พลเมืองไม่ควรมีทั้งความยากจนสุดขั้วหรือความมั่งคั่งล้นเหลือ เพราะทั้งสองสิ่งล้วนก่อให้เกิดความชั่วร้ายอันใหญ่หลวง"
    .
    .
    28. "As the builders say, the larger stones do not lie well without the lesser."

    "ดังที่ช่างก่อสร้างว่า หินก้อนใหญ่ไม่อาจวางได้ดีหากปราศจากหินก้อนเล็ก"
    .
    .
    29. "The most virtuous are those who content themselves with being virtuous without seeking to appear so."

    "ผู้ที่มีคุณธรรมที่สุดคือผู้ที่พอใจในการมีคุณธรรมโดยไม่พยายามทำให้ดูเหมือนว่ามี"
    .
    .
    30. "For this feeling of wonder shows that you are a philosopher, since wonder is the only beginning of philosophy."

    "ความรู้สึกประหลาดใจนี้แสดงว่าคุณเป็นนักปรัชญา เพราะความประหลาดใจคือจุดเริ่มต้นเพียงหนึ่งเดียวของปรัชญา"
    .
    .
    31. "Courage is a kind of salvation."

    "ความกล้าหาญคือรูปแบบหนึ่งของการหลุดพ้น"
    .
    .
    32. "The highest reach of injustice is to be deemed just when you are not."

    "จุดสูงสุดของความอยุติธรรมคือการถูกมองว่ายุติธรรมทั้งที่ไม่ใช่"
    .
    .
    33. "No science or art considers or enjoins the interest of the stronger or superior, but only the interest of the subject and weaker."

    "ไม่มีวิทยาศาสตร์หรือศิลปะใดพิจารณาหรือบังคับผลประโยชน์ของผู้แข็งแกร่งหรือผู้เหนือกว่า แต่เพียงผลประโยชน์ของผู้อยู่ใต้ปกครองและผู้อ่อนแอกว่า"
    .
    .
    34. "For the uneducated, when they engage in argument about anything, give no thought to the truth about the subject of discussion but are only eager that those present will accept the position they have set forth."

    "สำหรับผู้ไร้การศึกษา เมื่อพวกเขาโต้แย้งเรื่องใดก็ตาม พวกเขาไม่คิดถึงความจริงเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังอภิปราย แต่กระตือรือร้นเพียงให้ผู้ที่อยู่ที่นั่นยอมรับจุดยืนที่พวกเขานำเสนอเท่านั้น"
    .
    .
    35. "Neither do the ignorant seek after wisdom. For herein is the evil of ignorance, that he who is neither good nor wise is nevertheless satisfied with himself: he has no desire for that of which he feels no want."

    "คนโง่เขลาไม่แสวงหาปัญญา เพราะนี่คือความชั่วร้ายของความโง่เขลา ที่ผู้ซึ่งไม่ดีและไม่ฉลาดกลับพอใจในตัวเอง: เขาไม่มีความปรารถนาในสิ่งที่เขารู้สึกว่าไม่ขาด"
    .
    .
    36. "The man who finds that in the course of his life he has done a lot of wrong often wakes up at night in terror, like a child with a nightmare, and his life is full of foreboding: but the man who is conscious of no wrongdoing is filled with cheerfulness and with the comfort of old age."

    "ผู้ที่พบว่าในช่วงชีวิตของเขาได้ทำผิดมากมักตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนด้วยความหวาดกลัว เหมือนเด็กที่ฝันร้าย และชีวิตของเขาเต็มไปด้วยลางร้าย แต่ผู้ที่ไม่รู้สึกว่าได้ทำผิดจะเต็มไปด้วยความร่าเริงและความสบายใจในวัยชรา"
    .
    .
    37. "Now early life is very impressible, and children ought not to learn what they will have to unlearn when they grow up; we must therefore have a censorship of nursery tales, banishing some and keeping others."

    "ชีวิตในวัยต้นนั้นรับอิทธิพลได้ง่าย และเด็กๆ ไม่ควรเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาจะต้องลืมเมื่อโตขึ้น เราจึงต้องมีการกลั่นกรองนิทานสำหรับเด็ก กำจัดบางเรื่องและเก็บบางเรื่องไว้"
    .
    .
    38. "There's no difficulty in choosing vice in abundance: the road is smooth and it's hardly any distance to where it lives. But the gods have put sweat in the way of goodness, and a long, rough, steep road."

    "ไม่มีความยากลำบากในการเลือกความชั่วที่มีอยู่มากมาย: ถนนราบเรียบและแทบไม่มีระยะทางไปถึงที่อยู่ของมัน แต่เทพเจ้าได้วางเหงื่อไว้ในเส้นทางแห่งความดี และเป็นถนนที่ยาว ขรุขระ และชัน"
    .
    .
    39. "It is not Love absolutely that is good or praiseworthy, but only that Love which impels meant to love aright."

    "ไม่ใช่ความรักทั้งหมดที่ดีหรือน่าสรรเสริญ แต่เป็นเพียงความรักที่ผลักดันให้รักอย่างถูกต้องเท่านั้น"
    .
    .
    40. "Both knowledge and truth are beautiful things, but the good is other and more beautiful than they."

    "ทั้งความรู้และความจริงเป็นสิ่งงดงาม แต่ความดีนั้นแตกต่างและงดงามยิ่งกว่า"
    .
    .
    .
    .
    #SuccessStrategies #Quotes #Plato #Mindset #Politic
    40 คำคมทรงพลังจากเพลโต ปราชญ์ผู้วางรากฐานปัญญาตะวันตก . กว่าสองพันสี่ร้อยปีผ่านไป เสียงกังวานแห่งปัญญาของเพลโต (Plato, 428-348 BC) ยังคงก้องกึกในโลกแห่งความคิด Plato เป็นหนึ่งในเป็นผู้วางรากฐานการคิดเชิงปรัชญาให้แก่อารยธรรมตะวันตก จนมีผู้กล่าวว่า "Western philosophy is but a series of footnotes to Plato" (ปรัชญาตะวันตกทั้งมวลเป็นเพียงเชิงอรรถของเพลโต) . ในฐานะผู้ก่อตั้ง Platonic Academy (สำนักปรัชญาอคาเดมี) สถาบันการศึกษาแห่งแรกของโลกตะวันตก เพลโตได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาที่งอกงามเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านไปทั่วโลก . ผลงานอมตะของเพลโตที่ยังคงทรงอิทธิพลจวบจนปัจจุบัน อาทิ "Allegory of the Cave" (อุปมาถ้ำ) ที่เปรียบเทียบมนุษย์ผู้ติดอยู่กับโลกแห่งเงา และ "Theory of Forms" (ทฤษฎีแบบ) ที่เสนอว่าทุกสิ่งในโลกวัตถุล้วนเป็นเพียงเงาสะท้อนของแบบ หรือแม่แบบที่สมบูรณ์แบบในโลกแห่งความคิด . งานเขียนสำคัญของเขาอย่าง "The Republic" (รัฐ) วางรากฐานแนวคิดทางการเมืองและการปกครอง ขณะที่ "Symposium" (งานเลี้ยงสนทนา) ถกประเด็นความรักและความงามอันเป็นนิรันดร์ . แนวคิดของเพลโตได้หล่อหลอมวิธีคิดของโลกในทุกแขนง ทั้งปรัชญา ศาสนา การเมือง การศึกษา วิทยาศาสตร์ และศิลปะ อิทธิพลของเขาแผ่ขยายจากกรีกโบราณ ผ่านจักรวรรดิโรมัน ผ่านยุคกลาง ผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา จนถึงโลกสมัยใหม่ ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออก จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมโลก . 40 คำคมของเพลโตที่รวบรวมมานี้สะท้อนถึงความลุ่มลึกทางความคิดที่เชื่อมโยงสวรรค์กับโลก อุดมคติกับความเป็นจริง และชี้นำมนุษย์สู่การแสวงหาสัจธรรมอันสูงสุด . . 1. "Music gives a soul to the universe, wings to the mind, flight to the imagination and life to everything." "ดนตรีมอบจิตวิญญาณให้จักรวาล มอบปีกให้ความคิด มอบการโบยบินให้จินตนาการ และมอบชีวิตให้ทุกสิ่ง" . . 2. "Wise men speak because they have something to say; fools because they have to say something." "คนฉลาดพูดเพราะมีสิ่งที่ต้องการจะบอก คนโง่พูดเพราะต้องพูดอะไรสักอย่าง" . . 3. "The beginning is the most important part of the work." "จุดเริ่มต้นคือส่วนสำคัญที่สุดของงาน" . . 4. "No one is more hated than he who speaks the truth." "ไม่มีใครถูกเกลียดมากไปกว่าผู้ที่พูดความจริง" . . 5. "Necessity is the mother of invention." "ความจำเป็นคือบ่อเกิดแห่งการประดิษฐ์คิดค้น" . . 6. "Human behavior flows from three main sources: desire, emotion, and knowledge." "พฤติกรรมมนุษย์หลั่งไหลมาจากสามแหล่งหลัก: ความปรารถนา อารมณ์ และความรู้" . . 7. "The measure of a man is what he does with power." "เครื่องวัดคุณค่าของมนุษย์คือสิ่งที่เขาทำเมื่อมีอำนาจ" . . 8. "The first and best victory is to conquer self." "ชัยชนะแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดคือการชนะใจตนเอง" . . 9. "The penalty that good men pay for not being interested in politics is to be governed by men worse than themselves." "บทลงโทษที่คนดีต้องจ่ายสำหรับการไม่สนใจการเมืองคือการถูกปกครองโดยคนที่เลวร้ายกว่าตน" . . 10. "Those who tell the stories rule society." "ผู้ที่เล่าเรื่องราวคือผู้ปกครองสังคม" . . 11. "No wealth can ever make a bad man at peace with himself." "ไม่มีความมั่งคั่งใดจะทำให้คนเลวอยู่อย่างสงบกับตัวเองได้" . . 12. "Ignorance, the root and the stem of every evil." "ความโง่เขลาคือรากเหง้าและลำต้นของความชั่วร้ายทั้งปวง" . . 13. "We can easily forgive a child who is afraid of the dark; the real tragedy of life is when men are afraid of the light." "เราให้อภัยเด็กที่กลัวความมืดได้ง่าย แต่โศกนาฏกรรมที่แท้จริงของชีวิตคือเมื่อผู้คนกลัวแสงสว่าง" . . 14. "The worst form of injustice is pretended justice." "ความอยุติธรรมที่เลวร้ายที่สุดคือความยุติธรรมจอมปลอม" . . 15. "Opinion is the medium between knowledge and ignorance." "ความคิดเห็นคือสิ่งที่อยู่ระหว่างความรู้และความโง่เขลา" . . 16. "Geometry existed before creation." "เรขาคณิตมีอยู่ก่อนการสร้างสรรค์" . . 17. "Writing is the geometry of the soul." "การเขียนคือเรขาคณิตของจิตวิญญาณ" . . 18. "Courage is knowing what not to fear." "ความกล้าหาญคือการรู้ว่าอะไรไม่ควรกลัว" . . 19. "An empty vessel makes the loudest sound, so they that have the least wit are the greatest babblers." "ภาชนะที่ว่างเปล่าส่งเสียงดังที่สุด เช่นเดียวกับผู้ที่มีสติปัญญาน้อยที่สุดมักเป็นผู้พูดมากที่สุด" . . 20. "Education is teaching our children to desire the right things." "การศึกษาคือการสอนลูกหลานของเราให้ปรารถนาในสิ่งที่ถูกต้อง" . . 21. "Philosophy is the highest music." "ปรัชญาคือดนตรีที่สูงส่งที่สุด" . . 22. "There are three classes of men; lovers of wisdom, lovers of honor, and lovers of gain." "มนุษย์มีสามประเภท: ผู้รักปัญญา ผู้รักเกียรติยศ และผู้รักผลประโยชน์" . . 23. "Do not train a child to learn by force or harshness; but direct them to it by what amuses their minds, so that you may be better able to discover with accuracy the peculiar bent of the genius of each." "อย่าฝึกเด็กให้เรียนรู้ด้วยการบังคับหรือความรุนแรง แต่จงชี้นำพวกเขาด้วยสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้จิตใจ เพื่อที่คุณจะสามารถค้นพบความโน้มเอียงพิเศษของอัจฉริยภาพในตัวพวกเขาแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ" . . 24. "You should not honor men more than truth." "อย่าให้เกียรติมนุษย์มากกว่าความจริง" . . 25. "A hero is born among a hundred, a wise man is found among a thousand, but an accomplished one might not be found even among a hundred thousand men." "วีรบุรุษเกิดขึ้นในหนึ่งร้อย ปราชญ์พบได้ในหนึ่งพัน แต่ผู้ที่สมบูรณ์แบบอาจไม่พบแม้ในหนึ่งแสนคน" . . 26. "At the touch of love everyone becomes a poet." "เมื่อสัมผัสความรัก ทุกคนกลายเป็นกวี" . . 27. "There should exist among the citizens neither extreme poverty nor again excessive wealth, for both are productive of great evil." "ในหมู่พลเมืองไม่ควรมีทั้งความยากจนสุดขั้วหรือความมั่งคั่งล้นเหลือ เพราะทั้งสองสิ่งล้วนก่อให้เกิดความชั่วร้ายอันใหญ่หลวง" . . 28. "As the builders say, the larger stones do not lie well without the lesser." "ดังที่ช่างก่อสร้างว่า หินก้อนใหญ่ไม่อาจวางได้ดีหากปราศจากหินก้อนเล็ก" . . 29. "The most virtuous are those who content themselves with being virtuous without seeking to appear so." "ผู้ที่มีคุณธรรมที่สุดคือผู้ที่พอใจในการมีคุณธรรมโดยไม่พยายามทำให้ดูเหมือนว่ามี" . . 30. "For this feeling of wonder shows that you are a philosopher, since wonder is the only beginning of philosophy." "ความรู้สึกประหลาดใจนี้แสดงว่าคุณเป็นนักปรัชญา เพราะความประหลาดใจคือจุดเริ่มต้นเพียงหนึ่งเดียวของปรัชญา" . . 31. "Courage is a kind of salvation." "ความกล้าหาญคือรูปแบบหนึ่งของการหลุดพ้น" . . 32. "The highest reach of injustice is to be deemed just when you are not." "จุดสูงสุดของความอยุติธรรมคือการถูกมองว่ายุติธรรมทั้งที่ไม่ใช่" . . 33. "No science or art considers or enjoins the interest of the stronger or superior, but only the interest of the subject and weaker." "ไม่มีวิทยาศาสตร์หรือศิลปะใดพิจารณาหรือบังคับผลประโยชน์ของผู้แข็งแกร่งหรือผู้เหนือกว่า แต่เพียงผลประโยชน์ของผู้อยู่ใต้ปกครองและผู้อ่อนแอกว่า" . . 34. "For the uneducated, when they engage in argument about anything, give no thought to the truth about the subject of discussion but are only eager that those present will accept the position they have set forth." "สำหรับผู้ไร้การศึกษา เมื่อพวกเขาโต้แย้งเรื่องใดก็ตาม พวกเขาไม่คิดถึงความจริงเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังอภิปราย แต่กระตือรือร้นเพียงให้ผู้ที่อยู่ที่นั่นยอมรับจุดยืนที่พวกเขานำเสนอเท่านั้น" . . 35. "Neither do the ignorant seek after wisdom. For herein is the evil of ignorance, that he who is neither good nor wise is nevertheless satisfied with himself: he has no desire for that of which he feels no want." "คนโง่เขลาไม่แสวงหาปัญญา เพราะนี่คือความชั่วร้ายของความโง่เขลา ที่ผู้ซึ่งไม่ดีและไม่ฉลาดกลับพอใจในตัวเอง: เขาไม่มีความปรารถนาในสิ่งที่เขารู้สึกว่าไม่ขาด" . . 36. "The man who finds that in the course of his life he has done a lot of wrong often wakes up at night in terror, like a child with a nightmare, and his life is full of foreboding: but the man who is conscious of no wrongdoing is filled with cheerfulness and with the comfort of old age." "ผู้ที่พบว่าในช่วงชีวิตของเขาได้ทำผิดมากมักตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนด้วยความหวาดกลัว เหมือนเด็กที่ฝันร้าย และชีวิตของเขาเต็มไปด้วยลางร้าย แต่ผู้ที่ไม่รู้สึกว่าได้ทำผิดจะเต็มไปด้วยความร่าเริงและความสบายใจในวัยชรา" . . 37. "Now early life is very impressible, and children ought not to learn what they will have to unlearn when they grow up; we must therefore have a censorship of nursery tales, banishing some and keeping others." "ชีวิตในวัยต้นนั้นรับอิทธิพลได้ง่าย และเด็กๆ ไม่ควรเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาจะต้องลืมเมื่อโตขึ้น เราจึงต้องมีการกลั่นกรองนิทานสำหรับเด็ก กำจัดบางเรื่องและเก็บบางเรื่องไว้" . . 38. "There's no difficulty in choosing vice in abundance: the road is smooth and it's hardly any distance to where it lives. But the gods have put sweat in the way of goodness, and a long, rough, steep road." "ไม่มีความยากลำบากในการเลือกความชั่วที่มีอยู่มากมาย: ถนนราบเรียบและแทบไม่มีระยะทางไปถึงที่อยู่ของมัน แต่เทพเจ้าได้วางเหงื่อไว้ในเส้นทางแห่งความดี และเป็นถนนที่ยาว ขรุขระ และชัน" . . 39. "It is not Love absolutely that is good or praiseworthy, but only that Love which impels meant to love aright." "ไม่ใช่ความรักทั้งหมดที่ดีหรือน่าสรรเสริญ แต่เป็นเพียงความรักที่ผลักดันให้รักอย่างถูกต้องเท่านั้น" . . 40. "Both knowledge and truth are beautiful things, but the good is other and more beautiful than they." "ทั้งความรู้และความจริงเป็นสิ่งงดงาม แต่ความดีนั้นแตกต่างและงดงามยิ่งกว่า" . . . . #SuccessStrategies #Quotes #Plato #Mindset #Politic
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1037 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใหญ่คับจักรวาล!!
    สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติอนุมัติร่างกฎหมายในการคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในวันนี้ เพื่อเป็นการประท้วงต่อการที่ ICC ออกหมายจับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล

    ร่างกฎหมาย "Illegitimate Court Counteraction Act" ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 243 ต่อ 140 เสียง ซึ่งถือเป็นสัญญาณของการสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งแกร่ง! ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว

    สาระสำคัญบางส่วนของกฎหมายดังกล่าว จะมีการเสนอให้ลงโทษชาวต่างชาติที่ช่วยเหลือ ICC ในการพยายามสืบสวน กักขัง หรือดำเนินคดีกับพลเมืองสหรัฐฯ หรือพลเมืองของประเทศพันธมิตรที่ไม่ยอมรับอำนาจของศาล

    การลงโทษดังกล่าวรวมถึงการอายัดทรัพย์สิน ตลอดจนการปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับบุคคลเหล่านี้

    “อเมริกากำลังผ่านกฎหมายที่สำคัญฉบับนี้ เพราะศาลเตี้ยกำลังพยายามจับกุมนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของเรา” ส.ส. ไบรอัน แมสต์ ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน กล่าวในการปราศรัยก่อนการลงคะแนนเสียงในวันพฤหัสบดี

    จอห์น ธูน (John Thune) วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำเสียงข้างมาก ให้คำมั่นว่าจะพิจารณากฎหมายดังกล่าวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทรัมป์สามารถลงนามเป็นกฎหมายได้หลังจากเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม

    เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา ศาลอาญาระหว่างประเทศได้ออกหมายจับเนทันยาฮูและกัลแลนต์ ในข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ โดยตั้งแต่เริ่มต้นความขัดแย้งในเดือนตุลาคม 2023 ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 46,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติได้ประณามวิธีการของอิสราเอลในฉนวนกาซาว่า "สอดคล้องกับลักษณะของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

    ในช่วงปี 2020 ซึ่งเป็นสมัยแรกในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ เขาเคยลงโทษผู้นำระดับสูงของศาลอาญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการสืบสวนอาชญากรรมของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน
    ใหญ่คับจักรวาล!! สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติอนุมัติร่างกฎหมายในการคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในวันนี้ เพื่อเป็นการประท้วงต่อการที่ ICC ออกหมายจับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ร่างกฎหมาย "Illegitimate Court Counteraction Act" ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 243 ต่อ 140 เสียง ซึ่งถือเป็นสัญญาณของการสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งแกร่ง! ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว สาระสำคัญบางส่วนของกฎหมายดังกล่าว จะมีการเสนอให้ลงโทษชาวต่างชาติที่ช่วยเหลือ ICC ในการพยายามสืบสวน กักขัง หรือดำเนินคดีกับพลเมืองสหรัฐฯ หรือพลเมืองของประเทศพันธมิตรที่ไม่ยอมรับอำนาจของศาล การลงโทษดังกล่าวรวมถึงการอายัดทรัพย์สิน ตลอดจนการปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับบุคคลเหล่านี้ “อเมริกากำลังผ่านกฎหมายที่สำคัญฉบับนี้ เพราะศาลเตี้ยกำลังพยายามจับกุมนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของเรา” ส.ส. ไบรอัน แมสต์ ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน กล่าวในการปราศรัยก่อนการลงคะแนนเสียงในวันพฤหัสบดี จอห์น ธูน (John Thune) วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำเสียงข้างมาก ให้คำมั่นว่าจะพิจารณากฎหมายดังกล่าวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทรัมป์สามารถลงนามเป็นกฎหมายได้หลังจากเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา ศาลอาญาระหว่างประเทศได้ออกหมายจับเนทันยาฮูและกัลแลนต์ ในข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ โดยตั้งแต่เริ่มต้นความขัดแย้งในเดือนตุลาคม 2023 ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 46,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติได้ประณามวิธีการของอิสราเอลในฉนวนกาซาว่า "สอดคล้องกับลักษณะของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ในช่วงปี 2020 ซึ่งเป็นสมัยแรกในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ เขาเคยลงโทษผู้นำระดับสูงของศาลอาญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการสืบสวนอาชญากรรมของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 768 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ในลอสแองเจิลลิส สหรัฐอเมริกา สำหรับ "ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน" เจ้าของตำแหน่งนางสาวไทย พ.ศ. 2531 และนางงามจักรวาล หรือมิสยูนิเวิร์ส ปี 1988

    เธอได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า... "เราสูญเสียบ้านอันเป็นที่รักในมาลิบูเมื่อวานนี้"

    "ความทรงจำอันล้ำค่ามากมายในบ้านพิเศษหลังนั้น... ที่ซึ่งลูกๆ ของฉันเกิดและเติบโต บ้านหลังแรกและรังศักดิ์สิทธิ์ของฉันในรอบ 25 ปีตอนนี้กลายเป็นเถ้าถ่าน… ทุกอย่างถูกลบไปหมด ทั้งข้าวของ รูปถ่าย และของที่ระลึกทั้งหมดในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา"
    เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ในลอสแองเจิลลิส สหรัฐอเมริกา สำหรับ "ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน" เจ้าของตำแหน่งนางสาวไทย พ.ศ. 2531 และนางงามจักรวาล หรือมิสยูนิเวิร์ส ปี 1988 เธอได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า... "เราสูญเสียบ้านอันเป็นที่รักในมาลิบูเมื่อวานนี้" "ความทรงจำอันล้ำค่ามากมายในบ้านพิเศษหลังนั้น... ที่ซึ่งลูกๆ ของฉันเกิดและเติบโต บ้านหลังแรกและรังศักดิ์สิทธิ์ของฉันในรอบ 25 ปีตอนนี้กลายเป็นเถ้าถ่าน… ทุกอย่างถูกลบไปหมด ทั้งข้าวของ รูปถ่าย และของที่ระลึกทั้งหมดในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราจะเห็นผลร้ายจาก
    สิ่งที่ทิ่มแทงแขนของเรา ในปี 2025
    เป็นต้นไป
    อย่าวางใจ
    อย่าหลับใหล
    ช่วยตัวเองได้ต้องรีบช่วย
    สร้างพลังกายให้แข็งแรง

    โลกแห่งละคร มาถึงฉาก
    ใกล้จบของมารร้าย
    แต่ก่อนจบ มันจะอาละวาดหนัก
    ความตายของมนุษย์โลกคือชัยชนะของมัน

    เราถูกบังคับให้ร่วมเล่นกับละครฉากนี้
    และเราจะต้องเป็นผู้กำกับการแสดงของเราเอง ให้รอดพ้นจากความตายที่หมู่มารโลกมอบให้

    เมื่อเรามีชีวิตอยู่รอด
    ก้าวพ้นยุคแห่งความชั่วร้ายได้
    กายและจิตวิญญาณของเราจะสะอาดบริสุทธิ์
    พร้อมที่จะรับพลังจากจักรวาล มาเสริมสร้างธาตุรู้
    แห่งจิตวิญญาณให้กล้าแข็ง

    เมื่อธาตุรู้แห่งจิตบังเกิด
    อภิญญา ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

    ดังนั้นการตั้งสติให้มั่นคง
    ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความตาย
    จึงเป็นสิ่งสำคัญ

    เราคงไม่เคยคิดมาก่อนว่า
    จะมีเหตุการณ์ร้ายแรงที่ทำลายล้างมนุษย์ได้มากมายขนาดนี้
    มนุษย์จะเหลือเพียง10%
    ของมนุษย์ทั้งโลก ตามคำทำนาย
    แล้วละหรือ

    ถ้าพิจารณาเหตุและผลที่เกิดขึ้น
    ในช่วงเวลานี้ ยิ่งให้น่าเป็นห่วง

    ขอคุรุโพธิสัตว์ โปรดเมตตา
    ให้มนุษย์ได้ตื่นรู้ ยอมรับความจริงที่กำลังเกิดขึ้นดังกล่าว

    แม้ไม่ทันได้รู้ ต้องเสียทีเหล่ามาร
    ร่างกายมิอาจดำรงให้จิตวิญญาณอยู่เป็นปกติได้
    ก็ขอให้พระองค์ได้โปรดอุ้มชู
    รับดวงจิตที่ต้องออกจากร่างขันธ์ กลับคืนสู่สุขาวดี
    ไม่ต้องถูกมารฉุดลากให้ลงอบายภูมิ เป็นทาสรับใช้ แบบไม่ได้ผุดได้เกิดเลย

    ร่วมกันส่งพลังความรักความเมตตา
    ออกสู่โลกและจักรวาล ทุกวัน
    ให้พลังความรักความเมตตาท่วมท้น
    จนหมู่มารทนกระแสพลัง
    อันบริสุทธิ์นี้ไม่ได้
    ต้องแตกดับลับไป

    HOS.HOLY SHIFT
    8 มกราคม 2568

    #อัศวินอัตแพทย์
    #Silver
    #ล้างพิษ
    เราจะเห็นผลร้ายจาก สิ่งที่ทิ่มแทงแขนของเรา ในปี 2025 เป็นต้นไป อย่าวางใจ อย่าหลับใหล ช่วยตัวเองได้ต้องรีบช่วย สร้างพลังกายให้แข็งแรง โลกแห่งละคร มาถึงฉาก ใกล้จบของมารร้าย แต่ก่อนจบ มันจะอาละวาดหนัก ความตายของมนุษย์โลกคือชัยชนะของมัน เราถูกบังคับให้ร่วมเล่นกับละครฉากนี้ และเราจะต้องเป็นผู้กำกับการแสดงของเราเอง ให้รอดพ้นจากความตายที่หมู่มารโลกมอบให้ เมื่อเรามีชีวิตอยู่รอด ก้าวพ้นยุคแห่งความชั่วร้ายได้ กายและจิตวิญญาณของเราจะสะอาดบริสุทธิ์ พร้อมที่จะรับพลังจากจักรวาล มาเสริมสร้างธาตุรู้ แห่งจิตวิญญาณให้กล้าแข็ง เมื่อธาตุรู้แห่งจิตบังเกิด อภิญญา ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ดังนั้นการตั้งสติให้มั่นคง ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความตาย จึงเป็นสิ่งสำคัญ เราคงไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะมีเหตุการณ์ร้ายแรงที่ทำลายล้างมนุษย์ได้มากมายขนาดนี้ มนุษย์จะเหลือเพียง10% ของมนุษย์ทั้งโลก ตามคำทำนาย แล้วละหรือ ถ้าพิจารณาเหตุและผลที่เกิดขึ้น ในช่วงเวลานี้ ยิ่งให้น่าเป็นห่วง ขอคุรุโพธิสัตว์ โปรดเมตตา ให้มนุษย์ได้ตื่นรู้ ยอมรับความจริงที่กำลังเกิดขึ้นดังกล่าว แม้ไม่ทันได้รู้ ต้องเสียทีเหล่ามาร ร่างกายมิอาจดำรงให้จิตวิญญาณอยู่เป็นปกติได้ ก็ขอให้พระองค์ได้โปรดอุ้มชู รับดวงจิตที่ต้องออกจากร่างขันธ์ กลับคืนสู่สุขาวดี ไม่ต้องถูกมารฉุดลากให้ลงอบายภูมิ เป็นทาสรับใช้ แบบไม่ได้ผุดได้เกิดเลย ร่วมกันส่งพลังความรักความเมตตา ออกสู่โลกและจักรวาล ทุกวัน ให้พลังความรักความเมตตาท่วมท้น จนหมู่มารทนกระแสพลัง อันบริสุทธิ์นี้ไม่ได้ ต้องแตกดับลับไป HOS.HOLY SHIFT 8 มกราคม 2568 #อัศวินอัตแพทย์ #Silver #ล้างพิษ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts