เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกชื่อ "El Capitan" ที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Livermore (LLNL) ในแคลิฟอร์เนีย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกพัฒนามานานกว่าแปดปีและมีความสามารถในการประมวลผลสูงสุดถึง 2.746 exaFLOPS El Capitan ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาและใช้ในการวิจัยที่เป็นความลับ
El Capitan ใช้พลังงานจากซีพียูและจีพียูมากกว่า 11 ล้านคอร์ที่รวมอยู่ในตัวเร่ง AMD Instinct MI300A กว่า 43,000 ตัว. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้สามารถทำการคำนวณได้ถึง 2.79 quintillion ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นจำนวนที่มากจนถ้าคุณย้อนเวลากลับไป 2.79 quintillion วินาที คุณจะไปถึงกว่า 70 พันล้านปีก่อนการเกิดบิ๊กแบง
นอกจากการรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์แล้ว El Capitan ยังถูกใช้ในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์วัสดุและฟิสิกส์ รวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับ AI และการเรียนรู้ของเครื่อง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกสร้างขึ้นด้วยงบประมาณประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกคาดหวังว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Sierra ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 2018 ถึง 18 เท่า
น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีซูเปอร์คอมพิวเตอร์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การที่ El Capitan สามารถทำการคำนวณได้ในระดับที่สูงมากนี้อาจนำไปสู่การค้นพบใหม่ๆ ที่สำคัญในอนาคต
https://www.techspot.com/news/106467-world-fastest-supercomputer-amd-powered-el-capitan-goes.html เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกชื่อ "El Capitan" ที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Livermore (LLNL) ในแคลิฟอร์เนีย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกพัฒนามานานกว่าแปดปีและมีความสามารถในการประมวลผลสูงสุดถึง 2.746 exaFLOPS El Capitan ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาและใช้ในการวิจัยที่เป็นความลับ
El Capitan ใช้พลังงานจากซีพียูและจีพียูมากกว่า 11 ล้านคอร์ที่รวมอยู่ในตัวเร่ง AMD Instinct MI300A กว่า 43,000 ตัว. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้สามารถทำการคำนวณได้ถึง 2.79 quintillion ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นจำนวนที่มากจนถ้าคุณย้อนเวลากลับไป 2.79 quintillion วินาที คุณจะไปถึงกว่า 70 พันล้านปีก่อนการเกิดบิ๊กแบง
นอกจากการรักษาความปลอดภัยของคลังอาวุธนิวเคลียร์แล้ว El Capitan ยังถูกใช้ในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์วัสดุและฟิสิกส์ รวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับ AI และการเรียนรู้ของเครื่อง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกสร้างขึ้นด้วยงบประมาณประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถูกคาดหวังว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Sierra ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 2018 ถึง 18 เท่า
น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีซูเปอร์คอมพิวเตอร์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การที่ El Capitan สามารถทำการคำนวณได้ในระดับที่สูงมากนี้อาจนำไปสู่การค้นพบใหม่ๆ ที่สำคัญในอนาคต
https://www.techspot.com/news/106467-world-fastest-supercomputer-amd-powered-el-capitan-goes.html