• Samsung เตรียมผลิตชิป 2nm สำหรับ NVIDIA และ Qualcomm: ก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    Samsung กำลังเข้าสู่การแข่งขันในตลาด ชิป 2nm โดยมี NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้ Samsung ตั้งเป้าที่จะเป็น ทางเลือกที่แข็งแกร่งแทน TSMC ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

    ✅ Samsung กำลังพัฒนาเทคโนโลยี 2nm เพื่อแข่งขันกับ TSMC
    - NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินชิป 2nm ของ Samsung

    ✅ Samsung ปรับปรุงอัตราผลผลิตของชิป 2nm อย่างต่อเนื่อง
    - ปัจจุบันมีอัตราผลผลิต 40% และกำลังเพิ่มขึ้น

    ✅ TSMC ยังคงเป็นผู้นำด้วยอัตราผลผลิต 60%
    - แต่ Samsung กำลังลดช่องว่างอย่างรวดเร็ว

    ✅ Samsung วางแผนผลิตชิป 2nm ในสหรัฐฯ ที่โรงงาน Taylor
    - เพื่อ ขยายตลาดและลดการพึ่งพาการผลิตในเกาหลีใต้

    ✅ เทคโนโลยี Gate-All-Around (GAA) ของ Samsung ได้รับการปรับปรุง
    - ทำให้ ชิป 2nm และ 3nm มีประสิทธิภาพดีขึ้น

    https://wccftech.com/samsungs-2nm-is-ready-to-be-adopted-by-nvidia-for-its-consumer-ai-gpus/
    Samsung เตรียมผลิตชิป 2nm สำหรับ NVIDIA และ Qualcomm: ก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ Samsung กำลังเข้าสู่การแข่งขันในตลาด ชิป 2nm โดยมี NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้ Samsung ตั้งเป้าที่จะเป็น ทางเลือกที่แข็งแกร่งแทน TSMC ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ✅ Samsung กำลังพัฒนาเทคโนโลยี 2nm เพื่อแข่งขันกับ TSMC - NVIDIA และ Qualcomm อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินชิป 2nm ของ Samsung ✅ Samsung ปรับปรุงอัตราผลผลิตของชิป 2nm อย่างต่อเนื่อง - ปัจจุบันมีอัตราผลผลิต 40% และกำลังเพิ่มขึ้น ✅ TSMC ยังคงเป็นผู้นำด้วยอัตราผลผลิต 60% - แต่ Samsung กำลังลดช่องว่างอย่างรวดเร็ว ✅ Samsung วางแผนผลิตชิป 2nm ในสหรัฐฯ ที่โรงงาน Taylor - เพื่อ ขยายตลาดและลดการพึ่งพาการผลิตในเกาหลีใต้ ✅ เทคโนโลยี Gate-All-Around (GAA) ของ Samsung ได้รับการปรับปรุง - ทำให้ ชิป 2nm และ 3nm มีประสิทธิภาพดีขึ้น https://wccftech.com/samsungs-2nm-is-ready-to-be-adopted-by-nvidia-for-its-consumer-ai-gpus/
    WCCFTECH.COM
    Samsung's 2nm Will See Adoption By NVIDIA For Its Consumer/AI GPUs, Yield Rate Witnesses Phenmenonal Progress
    Samsung is now contending for the top spot in the chip industry, as according to reports, the firm has managed to gain massive ground.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung Galaxy S25 Edge: สมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในตลาด พร้อมท้าชน iPhone 17 Air

    Samsung ได้เปิดตัว Galaxy S25 Edge ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดของบริษัท โดยมีความหนาเพียง 5.8 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 163 กรัม แม้ว่าจะไม่มีเลนส์เทเลโฟโต้ แต่ยังคงมาพร้อมกับ กล้อง 200MP ที่ดีที่สุดของ Samsung

    ✅ Galaxy S25 Edge ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite for Galaxy
    - เป็น ชิปที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน Android ในปัจจุบัน

    ✅ ตัวเครื่องทำจากไทเทเนียมที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา
    - ให้ ความรู้สึกพรีเมียมและทนทานต่อแรงกดดัน

    ✅ หน้าจอใช้ Gorilla Glass Ceramic 2 เพื่อเพิ่มความแข็งแรง
    - ลด โอกาสเกิดรอยขีดข่วนและการแตกหัก

    ✅ Galaxy S25 Edge ไม่มี S Pen แต่มีฟีเจอร์ระดับเรือธงเกือบทั้งหมด
    - ยกเว้น เลนส์เทเลโฟโต้ที่มีในรุ่น Ultra

    ✅ แบตเตอรี่ 3,900 mAh ถูกออกแบบให้พอดีกับตัวเครื่องที่บางเฉียบ
    - แม้จะเล็กกว่า Galaxy Z Fold 6 ที่มีแบตเตอรี่ 4,200 mAh แต่ยังคงให้ ประสิทธิภาพที่ดี

    ✅ Samsung ใช้เทคโนโลยีจากซีรีส์พับได้เพื่อพัฒนา S25 Edge
    - Galaxy Z Fold 6 มีความหนาเพียง 5.6 มม. ซึ่งบางกว่า S25 Edge

    https://www.techradar.com/phones/i-did-the-quarter-stack-test-with-samsung-galaxy-s25-edge-iphone-16-pro-galaxy-s25-ultra-and-an-iphone-6s-and-one-came-out-on-top
    Samsung Galaxy S25 Edge: สมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในตลาด พร้อมท้าชน iPhone 17 Air Samsung ได้เปิดตัว Galaxy S25 Edge ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดของบริษัท โดยมีความหนาเพียง 5.8 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 163 กรัม แม้ว่าจะไม่มีเลนส์เทเลโฟโต้ แต่ยังคงมาพร้อมกับ กล้อง 200MP ที่ดีที่สุดของ Samsung ✅ Galaxy S25 Edge ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite for Galaxy - เป็น ชิปที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน Android ในปัจจุบัน ✅ ตัวเครื่องทำจากไทเทเนียมที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา - ให้ ความรู้สึกพรีเมียมและทนทานต่อแรงกดดัน ✅ หน้าจอใช้ Gorilla Glass Ceramic 2 เพื่อเพิ่มความแข็งแรง - ลด โอกาสเกิดรอยขีดข่วนและการแตกหัก ✅ Galaxy S25 Edge ไม่มี S Pen แต่มีฟีเจอร์ระดับเรือธงเกือบทั้งหมด - ยกเว้น เลนส์เทเลโฟโต้ที่มีในรุ่น Ultra ✅ แบตเตอรี่ 3,900 mAh ถูกออกแบบให้พอดีกับตัวเครื่องที่บางเฉียบ - แม้จะเล็กกว่า Galaxy Z Fold 6 ที่มีแบตเตอรี่ 4,200 mAh แต่ยังคงให้ ประสิทธิภาพที่ดี ✅ Samsung ใช้เทคโนโลยีจากซีรีส์พับได้เพื่อพัฒนา S25 Edge - Galaxy Z Fold 6 มีความหนาเพียง 5.6 มม. ซึ่งบางกว่า S25 Edge https://www.techradar.com/phones/i-did-the-quarter-stack-test-with-samsung-galaxy-s25-edge-iphone-16-pro-galaxy-s25-ultra-and-an-iphone-6s-and-one-came-out-on-top
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เตรียมใช้ Hybrid Bonding ใน HBM4: เทคโนโลยีใหม่ที่อาจเปลี่ยนตลาดหน่วยความจำ

    Samsung ได้ประกาศแผนการใช้ Hybrid Bonding ใน HBM4 (High-Bandwidth Memory 4) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้าน ความเร็ว, การใช้พลังงาน และการจัดการความร้อน โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถ เชื่อมต่อชิปหน่วยความจำโดยตรงโดยไม่ต้องใช้ microbumps ซึ่งเป็นข้อจำกัดของ HBM รุ่นก่อน ๆ

    ✅ Hybrid Bonding ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อชิปหน่วยความจำโดยตรง
    - ใช้ การเชื่อมต่อแบบ copper-to-copper และ oxide-to-oxide
    - ลด ความต้านทานและความจุไฟฟ้า ทำให้ ประสิทธิภาพสูงขึ้น

    ✅ ช่วยให้ HBM4 มีความหนาแน่นสูงขึ้นและมีการจัดการความร้อนที่ดีขึ้น
    - รองรับ interconnect pitch ต่ำกว่า 10 µm
    - ทำให้ HBM4 มีขนาดบางลงและมีประสิทธิภาพด้านพลังงานดีขึ้น

    ✅ Samsung เป็นผู้ผลิตรายแรกที่ใช้ Hybrid Bonding ใน HBM4
    - คู่แข่งอย่าง SK hynix อาจใช้เทคนิค MR-MUF แทน

    ✅ HBM4 จะมีความสูงแพ็กเกจสูงสุด 775 µm ตามมาตรฐาน JEDEC
    - ซึ่งบางกว่ารุ่นก่อนหน้า HBM3E ที่มีความสูง 800 µm

    ✅ Samsung อาจเริ่มผลิต HBM4 แบบ Hybrid Bonding ในปี 2026
    - คาดว่า จะช่วยให้ Samsung แข่งขันกับ SK hynix และ Micron ได้ดีขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/samsung-to-adopt-hybrid-bonding-for-hbm4-memory
    Samsung เตรียมใช้ Hybrid Bonding ใน HBM4: เทคโนโลยีใหม่ที่อาจเปลี่ยนตลาดหน่วยความจำ Samsung ได้ประกาศแผนการใช้ Hybrid Bonding ใน HBM4 (High-Bandwidth Memory 4) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้าน ความเร็ว, การใช้พลังงาน และการจัดการความร้อน โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถ เชื่อมต่อชิปหน่วยความจำโดยตรงโดยไม่ต้องใช้ microbumps ซึ่งเป็นข้อจำกัดของ HBM รุ่นก่อน ๆ ✅ Hybrid Bonding ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อชิปหน่วยความจำโดยตรง - ใช้ การเชื่อมต่อแบบ copper-to-copper และ oxide-to-oxide - ลด ความต้านทานและความจุไฟฟ้า ทำให้ ประสิทธิภาพสูงขึ้น ✅ ช่วยให้ HBM4 มีความหนาแน่นสูงขึ้นและมีการจัดการความร้อนที่ดีขึ้น - รองรับ interconnect pitch ต่ำกว่า 10 µm - ทำให้ HBM4 มีขนาดบางลงและมีประสิทธิภาพด้านพลังงานดีขึ้น ✅ Samsung เป็นผู้ผลิตรายแรกที่ใช้ Hybrid Bonding ใน HBM4 - คู่แข่งอย่าง SK hynix อาจใช้เทคนิค MR-MUF แทน ✅ HBM4 จะมีความสูงแพ็กเกจสูงสุด 775 µm ตามมาตรฐาน JEDEC - ซึ่งบางกว่ารุ่นก่อนหน้า HBM3E ที่มีความสูง 800 µm ✅ Samsung อาจเริ่มผลิต HBM4 แบบ Hybrid Bonding ในปี 2026 - คาดว่า จะช่วยให้ Samsung แข่งขันกับ SK hynix และ Micron ได้ดีขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/samsung-to-adopt-hybrid-bonding-for-hbm4-memory
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Samsung to adopt hybrid bonding for HBM4 memory
    As SK hynix considers hybrid bonding a backup plan.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • Phison E28: SSD ที่เร็วที่สุดในตลาด PCIe 5.0

    Phison ได้เปิดตัว PS5028-E28 ซึ่งเป็น คอนโทรลเลอร์ SSD รุ่นใหม่สำหรับ PCIe 5.0 โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งอย่าง Samsung 9100 Pro, Micron 4600 และ Acer Predator GM9000 ตามผลการทดสอบ PCMark 10

    ✅ Phison E28 มีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งถึง 18-32% ตามผลการทดสอบ PCMark 10
    - เร็วกว่า Samsung 9100 Pro และ Micron 4600 ประมาณ 18%
    - เร็วกว่า Acer Predator GM9000 ถึง 32%

    ✅ Phison E28 มีแบนด์วิดท์สูงกว่าคู่แข่งถึง 16-29%
    - แบนด์วิดท์สูงกว่า Samsung 9100 Pro และ Micron 4600 ประมาณ 16%
    - สูงกว่า Acer Predator GM9000 ถึง 29%

    ✅ Phison E28 มีค่า Access Time ต่ำกว่าคู่แข่งถึง 17-26%
    - ค่า Access Time ต่ำกว่า Samsung 9100 Pro และ Micron 4600 ประมาณ 17%
    - ต่ำกว่า Acer Predator GM9000 ถึง 26%

    ✅ Phison E28 มีประสิทธิภาพการอ่าน/เขียนแบบสุ่มสูงกว่าคู่แข่งถึง 36% และ 15% ตามลำดับ
    - Random Read สูงกว่าถึง 36%
    - Random Write สูงกว่าถึง 15%

    ✅ Phison E28 ใช้ NAND ที่มีความเร็วสูงกว่าคู่แข่ง
    - ใช้ Micron 276-layer B68S FortisFlash NAND ที่ 3,600 MT/s
    - คู่แข่งบางรายใช้ Micron 232-layer B58R FortisFlash ที่ 2,400 MT/s

    ℹ️ℹ️ℹ️ประวัติของ Phison Electronics Corporationℹ️ℹ️ℹ️

    ✅ ก่อตั้งขึ้นในปี 2000
    - Phison Electronics Corporation ก่อตั้งโดย Datuk Pua Khein Seng และผู้ร่วมก่อตั้งอีก 4 คน
    - เป็นบริษัทสัญชาติไต้หวันที่ เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและผลิตคอนโทรลเลอร์สำหรับ NAND flash memory

    ✅ ผลิตภัณฑ์แรกของ Phison คือ USB Flash Drive แบบชิปเดียว
    - Phison อ้างว่าเป็น ผู้ผลิต USB Flash Drive แบบชิปเดียวรายแรกของโลก

    ✅ เป็นสมาชิกของ Open NAND Flash Interface Working Group (ONFI)
    - มีบทบาทสำคัญในการ กำหนดมาตรฐานฮาร์ดแวร์สำหรับ NAND flash memory

    ✅ ขยายธุรกิจสู่ตลาด SSD และ NVMe
    - ในปี 2019 Phison เปิดตัว PS-50 series เช่น PS5018-E18 ที่รองรับ PCIe 4.0 NVMe SSD
    - ในปี 2022 Phison เปิดตัว E26 SSD controller ที่มีความเร็วสูงขึ้น

    ✅ ร่วมมือกับ Seagate ในปี 2022
    - เพื่อพัฒนาและจัดจำหน่าย NVMe SSD สำหรับตลาดองค์กร

    ✅ มีศูนย์วิจัยและพัฒนาในหลายประเทศ
    - เคยตั้งศูนย์ R&D ใน Bayan Lepas, มาเลเซีย ในปี 2012 แต่ปิดตัวลงในปี 2019
    - ในปี 2024 Phison ก่อตั้ง MaiStorage ใน Puchong, มาเลเซีย เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี IC และการจัดเก็บข้อมูลสำหรับ ศูนย์ข้อมูล, รถยนต์ไฟฟ้า และ AI

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/exclusive-phison-e28-ssd-trashes-the-fastest-ssds-on-the-market-in-new-benchmark
    Phison E28: SSD ที่เร็วที่สุดในตลาด PCIe 5.0 Phison ได้เปิดตัว PS5028-E28 ซึ่งเป็น คอนโทรลเลอร์ SSD รุ่นใหม่สำหรับ PCIe 5.0 โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งอย่าง Samsung 9100 Pro, Micron 4600 และ Acer Predator GM9000 ตามผลการทดสอบ PCMark 10 ✅ Phison E28 มีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งถึง 18-32% ตามผลการทดสอบ PCMark 10 - เร็วกว่า Samsung 9100 Pro และ Micron 4600 ประมาณ 18% - เร็วกว่า Acer Predator GM9000 ถึง 32% ✅ Phison E28 มีแบนด์วิดท์สูงกว่าคู่แข่งถึง 16-29% - แบนด์วิดท์สูงกว่า Samsung 9100 Pro และ Micron 4600 ประมาณ 16% - สูงกว่า Acer Predator GM9000 ถึง 29% ✅ Phison E28 มีค่า Access Time ต่ำกว่าคู่แข่งถึง 17-26% - ค่า Access Time ต่ำกว่า Samsung 9100 Pro และ Micron 4600 ประมาณ 17% - ต่ำกว่า Acer Predator GM9000 ถึง 26% ✅ Phison E28 มีประสิทธิภาพการอ่าน/เขียนแบบสุ่มสูงกว่าคู่แข่งถึง 36% และ 15% ตามลำดับ - Random Read สูงกว่าถึง 36% - Random Write สูงกว่าถึง 15% ✅ Phison E28 ใช้ NAND ที่มีความเร็วสูงกว่าคู่แข่ง - ใช้ Micron 276-layer B68S FortisFlash NAND ที่ 3,600 MT/s - คู่แข่งบางรายใช้ Micron 232-layer B58R FortisFlash ที่ 2,400 MT/s ℹ️ℹ️ℹ️ประวัติของ Phison Electronics Corporationℹ️ℹ️ℹ️ ✅ ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 - Phison Electronics Corporation ก่อตั้งโดย Datuk Pua Khein Seng และผู้ร่วมก่อตั้งอีก 4 คน - เป็นบริษัทสัญชาติไต้หวันที่ เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและผลิตคอนโทรลเลอร์สำหรับ NAND flash memory ✅ ผลิตภัณฑ์แรกของ Phison คือ USB Flash Drive แบบชิปเดียว - Phison อ้างว่าเป็น ผู้ผลิต USB Flash Drive แบบชิปเดียวรายแรกของโลก ✅ เป็นสมาชิกของ Open NAND Flash Interface Working Group (ONFI) - มีบทบาทสำคัญในการ กำหนดมาตรฐานฮาร์ดแวร์สำหรับ NAND flash memory ✅ ขยายธุรกิจสู่ตลาด SSD และ NVMe - ในปี 2019 Phison เปิดตัว PS-50 series เช่น PS5018-E18 ที่รองรับ PCIe 4.0 NVMe SSD - ในปี 2022 Phison เปิดตัว E26 SSD controller ที่มีความเร็วสูงขึ้น ✅ ร่วมมือกับ Seagate ในปี 2022 - เพื่อพัฒนาและจัดจำหน่าย NVMe SSD สำหรับตลาดองค์กร ✅ มีศูนย์วิจัยและพัฒนาในหลายประเทศ - เคยตั้งศูนย์ R&D ใน Bayan Lepas, มาเลเซีย ในปี 2012 แต่ปิดตัวลงในปี 2019 - ในปี 2024 Phison ก่อตั้ง MaiStorage ใน Puchong, มาเลเซีย เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี IC และการจัดเก็บข้อมูลสำหรับ ศูนย์ข้อมูล, รถยนต์ไฟฟ้า และ AI https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/exclusive-phison-e28-ssd-trashes-the-fastest-ssds-on-the-market-in-new-benchmark
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เปิดตัว Odyssey OLED G6: จอเกม OLED 500Hz รุ่นแรกของโลก

    Samsung ได้เปิดตัว Odyssey OLED G6 ซึ่งเป็น จอเกม OLED รุ่นแรกของโลกที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 500Hz โดยเริ่มวางจำหน่ายใน สิงคโปร์, ไทย, เวียดนาม และมาเลเซีย ก่อนจะเปิดตัวในตลาดตะวันตกช่วงปลายปี 2025

    ✅ Odyssey OLED G6 เป็นจอเกม OLED รุ่นแรกที่มีอัตรารีเฟรช 500Hz
    - รองรับ Nvidia G-Sync และ AMD FreeSync Premium Pro

    ✅ จอแสดงผล QHD ขนาด 27 นิ้ว พร้อมเวลาตอบสนอง 0.03ms GTG
    - ให้ภาพที่คมชัดและลดอาการเบลอของภาพเคลื่อนไหว

    ✅ ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 500 และมีความสว่างสูงสุด 1,000 nits
    - แสดงสีได้แม่นยำด้วย Pantone Validation

    ✅ ใช้ระบบระบายความร้อน OLED Safeguard+ ที่ช่วยลดความร้อนและป้องกัน burn-in
    - ใช้ heat pipes และ thermal modulation เพื่อกระจายความร้อนเร็วขึ้น 5 เท่า

    ✅ เริ่มจัดส่งตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2025 โดยเปิดให้พรีออเดอร์ในราคา $1,488
    - คาดว่าจะมีการเปิดตัวในตลาดตะวันตกช่วงปลายปี 2025

    https://www.techspot.com/news/107889-samsung-odyssey-oled-g6-world-first-500hz-oled.html
    Samsung เปิดตัว Odyssey OLED G6: จอเกม OLED 500Hz รุ่นแรกของโลก Samsung ได้เปิดตัว Odyssey OLED G6 ซึ่งเป็น จอเกม OLED รุ่นแรกของโลกที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 500Hz โดยเริ่มวางจำหน่ายใน สิงคโปร์, ไทย, เวียดนาม และมาเลเซีย ก่อนจะเปิดตัวในตลาดตะวันตกช่วงปลายปี 2025 ✅ Odyssey OLED G6 เป็นจอเกม OLED รุ่นแรกที่มีอัตรารีเฟรช 500Hz - รองรับ Nvidia G-Sync และ AMD FreeSync Premium Pro ✅ จอแสดงผล QHD ขนาด 27 นิ้ว พร้อมเวลาตอบสนอง 0.03ms GTG - ให้ภาพที่คมชัดและลดอาการเบลอของภาพเคลื่อนไหว ✅ ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 500 และมีความสว่างสูงสุด 1,000 nits - แสดงสีได้แม่นยำด้วย Pantone Validation ✅ ใช้ระบบระบายความร้อน OLED Safeguard+ ที่ช่วยลดความร้อนและป้องกัน burn-in - ใช้ heat pipes และ thermal modulation เพื่อกระจายความร้อนเร็วขึ้น 5 เท่า ✅ เริ่มจัดส่งตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2025 โดยเปิดให้พรีออเดอร์ในราคา $1,488 - คาดว่าจะมีการเปิดตัวในตลาดตะวันตกช่วงปลายปี 2025 https://www.techspot.com/news/107889-samsung-odyssey-oled-g6-world-first-500hz-oled.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Samsung's Odyssey OLED G6 is the world's first 500Hz OLED gaming monitor
    The Samsung Odyssey OLED G6 is the world's first 500Hz OLED gaming monitor, now available in Singapore, Thailand, Vietnam, and Malaysia with rollouts in other countries expected...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • ntel Arrow Lake CPUs มีปัญหาด้านประสิทธิภาพในการใช้งาน PCIe 5.0 SSD

    Intel กำลังเผชิญกับปัญหาด้านประสิทธิภาพของ Arrow Lake CPUs ซึ่งส่งผลให้ ความเร็วของ PCIe 5.0 SSD ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยการทดสอบพบว่า SSD ที่ควรทำความเร็วได้ถึง 14GB/s กลับทำได้เพียง 12.3GB/s เมื่อใช้งานร่วมกับ Arrow Lake CPUs

    ✅ Arrow Lake CPUs เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2024 ภายใต้แบรนด์ Core Ultra Series 2
    - พบว่ามี ประสิทธิภาพต่ำกว่า Raptor Lake (Core i9-14900K) และ AMD 9800X3D

    ✅ การทดสอบ PCIe 5.0 SSD พบว่าความเร็วลดลงเมื่อใช้กับ Arrow Lake CPUs
    - SSD ที่ควรทำความเร็วได้ 14GB/s กลับทำได้เพียง 12.3GB/s

    ✅ ปัญหานี้เกิดขึ้นกับทั้ง Samsung 9100 Pro และ Micron 4600 SSD
    - ทดสอบบน Z790 และ Z890 motherboards พบว่า Z790 ทำความเร็วได้สูงกว่า

    ✅ Asus และ ASRock ยืนยันว่าปัญหานี้เกิดจากความล่าช้าของ I/O tile ใน Arrow Lake CPUs
    - ส่งผลให้ PCIe lanes 21-24 มี latency สูงกว่าปกติ

    ✅ Intel ยอมรับว่าปัญหานี้เกิดจากโครงสร้างของ Arrow Lake ที่ใช้ die-to-die data path ที่ยาวขึ้น
    - อาจต้อง ปรับปรุงการออกแบบ CPU ในอนาคตเพื่อแก้ไขปัญหานี้

    https://www.techspot.com/news/107877-intel-arrow-lake-cpus-throttle-pcie-50-ssd.html
    ntel Arrow Lake CPUs มีปัญหาด้านประสิทธิภาพในการใช้งาน PCIe 5.0 SSD Intel กำลังเผชิญกับปัญหาด้านประสิทธิภาพของ Arrow Lake CPUs ซึ่งส่งผลให้ ความเร็วของ PCIe 5.0 SSD ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยการทดสอบพบว่า SSD ที่ควรทำความเร็วได้ถึง 14GB/s กลับทำได้เพียง 12.3GB/s เมื่อใช้งานร่วมกับ Arrow Lake CPUs ✅ Arrow Lake CPUs เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2024 ภายใต้แบรนด์ Core Ultra Series 2 - พบว่ามี ประสิทธิภาพต่ำกว่า Raptor Lake (Core i9-14900K) และ AMD 9800X3D ✅ การทดสอบ PCIe 5.0 SSD พบว่าความเร็วลดลงเมื่อใช้กับ Arrow Lake CPUs - SSD ที่ควรทำความเร็วได้ 14GB/s กลับทำได้เพียง 12.3GB/s ✅ ปัญหานี้เกิดขึ้นกับทั้ง Samsung 9100 Pro และ Micron 4600 SSD - ทดสอบบน Z790 และ Z890 motherboards พบว่า Z790 ทำความเร็วได้สูงกว่า ✅ Asus และ ASRock ยืนยันว่าปัญหานี้เกิดจากความล่าช้าของ I/O tile ใน Arrow Lake CPUs - ส่งผลให้ PCIe lanes 21-24 มี latency สูงกว่าปกติ ✅ Intel ยอมรับว่าปัญหานี้เกิดจากโครงสร้างของ Arrow Lake ที่ใช้ die-to-die data path ที่ยาวขึ้น - อาจต้อง ปรับปรุงการออกแบบ CPU ในอนาคตเพื่อแก้ไขปัญหานี้ https://www.techspot.com/news/107877-intel-arrow-lake-cpus-throttle-pcie-50-ssd.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel's Arrow Lake CPUs throttle PCIe 5.0 SSD speeds, tests reveal
    Intel changed its approach to silicon manufacturing with Meteor Lake CPUs, moving from a monolithic approach to a disaggregated, tile-based design. However, the significant technology switch is...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI จะทำให้การเรียนภาษาต่างประเทศหมดความจำเป็นหรือไม่? Nicholas Turley หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ ChatGPT จาก OpenAI เชื่อว่า AI สามารถช่วยให้การเรียนภาษาเป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่ไม่สามารถแทนที่การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศได้

    แม้ว่าแอปพลิเคชันที่ใช้ AI จะสามารถ แปลภาษาแบบเรียลไทม์และช่วยให้ผู้คนสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น แต่ Turley ยืนยันว่า การเรียนรู้ภาษาเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี

    ✅ AI สามารถช่วยให้การเรียนภาษาเป็นเรื่องง่ายขึ้น
    - เช่น การสนทนาแบบโต้ตอบกับ ChatGPT เพื่อฝึกฝนภาษา

    ✅ แอปพลิเคชันที่ใช้ AI สามารถแปลภาษาแบบเรียลไทม์
    - ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน เช่น Samsung และ Xiaomi ได้เริ่มติดตั้งซอฟต์แวร์แปลภาษาในอุปกรณ์ของตน

    ✅ Turley เชื่อว่าการเรียนรู้ภาษายังคงมีความสำคัญ
    - AI ควรเป็น เครื่องมือช่วยเรียนรู้ ไม่ใช่ตัวแทนของการเรียนภาษา

    ✅ Duolingo ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาการเรียนรู้ภาษา
    - และเริ่ม ลดการใช้แรงงานมนุษย์ในบางส่วนของกระบวนการผลิตเนื้อหา

    ✅ Turley สนับสนุนให้ผู้คนเรียนรู้สิ่งที่ตนเองสนใจ
    - เพราะ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/10/will-ai-end-need-for-language-learning-chatgpt-makers-don039t-think-so
    AI จะทำให้การเรียนภาษาต่างประเทศหมดความจำเป็นหรือไม่? Nicholas Turley หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ ChatGPT จาก OpenAI เชื่อว่า AI สามารถช่วยให้การเรียนภาษาเป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่ไม่สามารถแทนที่การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศได้ แม้ว่าแอปพลิเคชันที่ใช้ AI จะสามารถ แปลภาษาแบบเรียลไทม์และช่วยให้ผู้คนสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น แต่ Turley ยืนยันว่า การเรียนรู้ภาษาเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี ✅ AI สามารถช่วยให้การเรียนภาษาเป็นเรื่องง่ายขึ้น - เช่น การสนทนาแบบโต้ตอบกับ ChatGPT เพื่อฝึกฝนภาษา ✅ แอปพลิเคชันที่ใช้ AI สามารถแปลภาษาแบบเรียลไทม์ - ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน เช่น Samsung และ Xiaomi ได้เริ่มติดตั้งซอฟต์แวร์แปลภาษาในอุปกรณ์ของตน ✅ Turley เชื่อว่าการเรียนรู้ภาษายังคงมีความสำคัญ - AI ควรเป็น เครื่องมือช่วยเรียนรู้ ไม่ใช่ตัวแทนของการเรียนภาษา ✅ Duolingo ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาการเรียนรู้ภาษา - และเริ่ม ลดการใช้แรงงานมนุษย์ในบางส่วนของกระบวนการผลิตเนื้อหา ✅ Turley สนับสนุนให้ผู้คนเรียนรู้สิ่งที่ตนเองสนใจ - เพราะ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/10/will-ai-end-need-for-language-learning-chatgpt-makers-don039t-think-so
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Will AI end need for language learning? ChatGPT makers don't think so
    Will AI do to language learning what calculators once did to everyday arithmetic?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เปิดตัว Gorilla Glass Ceramic 2 สำหรับ Galaxy S25 Edge Samsung ได้ร่วมมือกับ Corning เพื่อพัฒนา Gorilla Glass Ceramic 2 ซึ่งเป็น กระจกเซรามิกที่มีความแข็งแกร่งและทนทานต่อแรงกระแทกมากขึ้น โดยออกแบบมาเพื่อรองรับ Galaxy S25 Edge ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดของ Samsung

    Samsung ระบุว่า ความท้าทายหลักในการพัฒนา Gorilla Glass Ceramic 2 คือการทำให้กระจกบางลงแต่ยังคงความแข็งแรง โดยใช้ กระบวนการแลกเปลี่ยนไอออนของ Corning เพื่อเพิ่มความทนทานและลดโอกาสที่กระจกจะแตก

    ✅ Samsung ร่วมมือกับ Corning เพื่อพัฒนา Gorilla Glass Ceramic 2
    - ช่วยให้ กระจกมีความแข็งแกร่งและทนทานต่อแรงกระแทกมากขึ้น

    ✅ Galaxy S25 Edge เป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดของ Samsung
    - ออกแบบมาเพื่อ ให้พกพาสะดวกโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ

    ✅ กระบวนการแลกเปลี่ยนไอออนช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระจก
    - ลดโอกาสที่ กระจกจะแตกเมื่อเกิดแรงกระแทก

    ✅ Galaxy S25 Edge อาจใช้แผงด้านหลังเป็นเซรามิกแทนกระจก
    - มีข่าวลือว่า Samsung อาจเปลี่ยนวัสดุเพื่อเพิ่มความทนทาน

    ✅ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 พฤษภาคม 2025
    - สามารถ สั่งจองล่วงหน้าได้แล้ว พร้อมรับเครดิตร้านค้า $50

    https://www.neowin.net/news/samsung-announces-brand-new-gorilla-glass-for-galaxy-s25-edge/
    Samsung เปิดตัว Gorilla Glass Ceramic 2 สำหรับ Galaxy S25 Edge Samsung ได้ร่วมมือกับ Corning เพื่อพัฒนา Gorilla Glass Ceramic 2 ซึ่งเป็น กระจกเซรามิกที่มีความแข็งแกร่งและทนทานต่อแรงกระแทกมากขึ้น โดยออกแบบมาเพื่อรองรับ Galaxy S25 Edge ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดของ Samsung Samsung ระบุว่า ความท้าทายหลักในการพัฒนา Gorilla Glass Ceramic 2 คือการทำให้กระจกบางลงแต่ยังคงความแข็งแรง โดยใช้ กระบวนการแลกเปลี่ยนไอออนของ Corning เพื่อเพิ่มความทนทานและลดโอกาสที่กระจกจะแตก ✅ Samsung ร่วมมือกับ Corning เพื่อพัฒนา Gorilla Glass Ceramic 2 - ช่วยให้ กระจกมีความแข็งแกร่งและทนทานต่อแรงกระแทกมากขึ้น ✅ Galaxy S25 Edge เป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดของ Samsung - ออกแบบมาเพื่อ ให้พกพาสะดวกโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ ✅ กระบวนการแลกเปลี่ยนไอออนช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระจก - ลดโอกาสที่ กระจกจะแตกเมื่อเกิดแรงกระแทก ✅ Galaxy S25 Edge อาจใช้แผงด้านหลังเป็นเซรามิกแทนกระจก - มีข่าวลือว่า Samsung อาจเปลี่ยนวัสดุเพื่อเพิ่มความทนทาน ✅ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 - สามารถ สั่งจองล่วงหน้าได้แล้ว พร้อมรับเครดิตร้านค้า $50 https://www.neowin.net/news/samsung-announces-brand-new-gorilla-glass-for-galaxy-s25-edge/
    WWW.NEOWIN.NET
    Samsung announces brand new Gorilla Glass for Galaxy S25 Edge
    Samsung announced that its upcoming Galaxy S25 Edge will feature a new Gorilla Glass made in partnership with Corning.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้รับสัญญาสำคัญจาก Microsoft สำหรับกระบวนการผลิตชิป 18A Intel Foundry กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ หลังจากที่ Microsoft ลงนามในสัญญาสำคัญเพื่อใช้กระบวนการผลิต 18A ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ TSMC และ Samsung

    Intel 18A ถูกออกแบบมาเพื่อ แข่งขันโดยตรงกับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC โดยมี ความหนาแน่นของ SRAM และประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ Google และ NVIDIA กำลังพิจารณาใช้กระบวนการนี้ด้วย

    ✅ Microsoft ลงนามในสัญญาสำคัญกับ Intel เพื่อใช้กระบวนการผลิต 18A
    - อาจช่วยให้ Intel กลับมาแข่งขันกับ TSMC และ Samsung ได้

    ✅ Intel 18A มีความหนาแน่นของ SRAM และประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ใกล้เคียงกับ TSMC N2
    - อาจเป็น ทางเลือกที่ดีสำหรับบริษัทที่ต้องการลดการพึ่งพา TSMC

    ✅ Google และ NVIDIA กำลังพิจารณาใช้กระบวนการผลิต 18A
    - แสดงให้เห็นถึง ความสนใจจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ

    ✅ Intel เปลี่ยนโครงสร้างผู้นำ โดยแต่งตั้ง Lip-Bu Tan เป็น CEO คนใหม่
    - อาจช่วยให้ บริษัทมุ่งเน้นไปที่การออกแบบเซมิคอนดักเตอร์และการผลิตมากขึ้น

    ✅ TSMC กำลังเผชิญกับปัญหาความหนาแน่นของสายการผลิต
    - ทำให้ บริษัทอื่น ๆ ต้องมองหาทางเลือกใหม่ เช่น Intel 18A

    https://wccftech.com/intel-secures-decisive-contract-with-microsoft-for-its-18a-process/
    Intel ได้รับสัญญาสำคัญจาก Microsoft สำหรับกระบวนการผลิตชิป 18A Intel Foundry กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ หลังจากที่ Microsoft ลงนามในสัญญาสำคัญเพื่อใช้กระบวนการผลิต 18A ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ TSMC และ Samsung Intel 18A ถูกออกแบบมาเพื่อ แข่งขันโดยตรงกับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC โดยมี ความหนาแน่นของ SRAM และประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ Google และ NVIDIA กำลังพิจารณาใช้กระบวนการนี้ด้วย ✅ Microsoft ลงนามในสัญญาสำคัญกับ Intel เพื่อใช้กระบวนการผลิต 18A - อาจช่วยให้ Intel กลับมาแข่งขันกับ TSMC และ Samsung ได้ ✅ Intel 18A มีความหนาแน่นของ SRAM และประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ใกล้เคียงกับ TSMC N2 - อาจเป็น ทางเลือกที่ดีสำหรับบริษัทที่ต้องการลดการพึ่งพา TSMC ✅ Google และ NVIDIA กำลังพิจารณาใช้กระบวนการผลิต 18A - แสดงให้เห็นถึง ความสนใจจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ✅ Intel เปลี่ยนโครงสร้างผู้นำ โดยแต่งตั้ง Lip-Bu Tan เป็น CEO คนใหม่ - อาจช่วยให้ บริษัทมุ่งเน้นไปที่การออกแบบเซมิคอนดักเตอร์และการผลิตมากขึ้น ✅ TSMC กำลังเผชิญกับปัญหาความหนาแน่นของสายการผลิต - ทำให้ บริษัทอื่น ๆ ต้องมองหาทางเลือกใหม่ เช่น Intel 18A https://wccftech.com/intel-secures-decisive-contract-with-microsoft-for-its-18a-process/
    WCCFTECH.COM
    Intel Secures "Decisive Contract" With Microsoft For Its 18A Process; Google, NVIDIA & Many Others Now In Line To Adopt The Node
    Intel Foundry has indeed found its "iPhone moment" with the 18A process, as reports now indicate that the node has received massive interest.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung The Frame Pro: ทีวีที่ยกระดับทั้งดีไซน์และคุณภาพภาพ Samsung เปิดตัว The Frame Pro ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดของ The Frame TV ที่ได้รับความนิยม โดยมีการปรับปรุง คุณภาพภาพด้วย NeoQLED และระบบเชื่อมต่อแบบไร้สาย ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการ ทีวีที่มีดีไซน์สวยงามและคุณภาพภาพที่ดีขึ้น

    The Frame Pro ใช้ Mini-LED backlighting ซึ่งช่วยให้ ภาพมีความสว่างสูงขึ้นและสีสันสดใสขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Wireless One Connect Box ที่ช่วยให้สามารถ เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องใช้สาย HDMI หรือสายเชื่อมต่ออื่น ๆ

    ✅ The Frame Pro ใช้เทคโนโลยี NeoQLED แทน QLED รุ่นเดิม
    - ให้ ความสว่างสูงขึ้นถึง 1,000 nits และสีสันที่สดใสขึ้น

    ✅ มาพร้อมกับ Wireless One Connect Box
    - สามารถ วางกล่องเชื่อมต่อได้ไกลถึง 30 ฟุตจากทีวี

    ✅ ดีไซน์ยังคงความเป็นกรอบรูปที่สวยงาม
    - สามารถ แสดงภาพศิลปะได้อย่างสมจริงด้วยหน้าจอแบบด้าน

    ✅ มีให้เลือก 3 ขนาด: 65 นิ้ว, 75 นิ้ว และ 85 นิ้ว
    - ราคาเริ่มต้นที่ $2,199 สำหรับรุ่น 65 นิ้ว

    ✅ Samsung Art Store มีภาพศิลปะให้เลือกมากมาย
    - ค่าบริการ $4.99 ต่อเดือน หรือ $49.99 ต่อปี

    https://www.techradar.com/televisions/ive-used-a-samsung-the-frame-tv-for-years-and-heres-why-the-frame-pro-is-a-huge-upgrade
    Samsung The Frame Pro: ทีวีที่ยกระดับทั้งดีไซน์และคุณภาพภาพ Samsung เปิดตัว The Frame Pro ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดของ The Frame TV ที่ได้รับความนิยม โดยมีการปรับปรุง คุณภาพภาพด้วย NeoQLED และระบบเชื่อมต่อแบบไร้สาย ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการ ทีวีที่มีดีไซน์สวยงามและคุณภาพภาพที่ดีขึ้น The Frame Pro ใช้ Mini-LED backlighting ซึ่งช่วยให้ ภาพมีความสว่างสูงขึ้นและสีสันสดใสขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Wireless One Connect Box ที่ช่วยให้สามารถ เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องใช้สาย HDMI หรือสายเชื่อมต่ออื่น ๆ ✅ The Frame Pro ใช้เทคโนโลยี NeoQLED แทน QLED รุ่นเดิม - ให้ ความสว่างสูงขึ้นถึง 1,000 nits และสีสันที่สดใสขึ้น ✅ มาพร้อมกับ Wireless One Connect Box - สามารถ วางกล่องเชื่อมต่อได้ไกลถึง 30 ฟุตจากทีวี ✅ ดีไซน์ยังคงความเป็นกรอบรูปที่สวยงาม - สามารถ แสดงภาพศิลปะได้อย่างสมจริงด้วยหน้าจอแบบด้าน ✅ มีให้เลือก 3 ขนาด: 65 นิ้ว, 75 นิ้ว และ 85 นิ้ว - ราคาเริ่มต้นที่ $2,199 สำหรับรุ่น 65 นิ้ว ✅ Samsung Art Store มีภาพศิลปะให้เลือกมากมาย - ค่าบริการ $4.99 ต่อเดือน หรือ $49.99 ต่อปี https://www.techradar.com/televisions/ive-used-a-samsung-the-frame-tv-for-years-and-heres-why-the-frame-pro-is-a-huge-upgrade
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เข้าซื้อกิจการ Bowers & Wilkins, Denon, Marantz ด้วยมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ Samsung และบริษัทในเครือ Harman International ได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ เพื่อเข้าซื้อ ธุรกิจเครื่องเสียงของ Masimo Corporation ซึ่งรวมถึงแบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่าง Bowers & Wilkins, Denon, Marantz, Polk Audio และ Definitive Technology

    การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็น ก้าวสำคัญของ Samsung ในตลาดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม โดยบริษัทคาดว่า ตลาดเครื่องเสียงทั่วโลกจะเติบโตเป็น 70 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029

    ✅ Samsung และ Harman International เข้าซื้อธุรกิจเครื่องเสียงของ Masimo Corporation
    - รวมถึงแบรนด์ Bowers & Wilkins, Denon, Marantz, Polk Audio และ Definitive Technology

    ✅ การเข้าซื้อกิจการช่วยให้ Samsung ขยายตลาดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม
    - คาดว่าตลาดเครื่องเสียงทั่วโลกจะ เติบโตเป็น 70 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029

    ✅ Harman International เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำอยู่แล้ว
    - เช่น JBL, Harman Kardon, AKG, Arcam, Mark Levinson และ Revel

    ✅ Samsung วางแผนรวมเทคโนโลยีจากแบรนด์เหล่านี้เข้ากับผลิตภัณฑ์ของตน
    - เช่น สมาร์ทโฟน, ทีวี, ซาวด์บาร์ และหูฟังไร้สาย

    ✅ Masimo Corporation จะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจเทคโนโลยีทางการแพทย์
    - หลังจากแพ้คดีเกี่ยวกับเทคโนโลยีวัดออกซิเจนใน Apple Watch

    https://www.techspot.com/news/107850-samsung-acquires-bowers-wilkins-denon-marantz-350m-audio.html
    Samsung เข้าซื้อกิจการ Bowers & Wilkins, Denon, Marantz ด้วยมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ Samsung และบริษัทในเครือ Harman International ได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ เพื่อเข้าซื้อ ธุรกิจเครื่องเสียงของ Masimo Corporation ซึ่งรวมถึงแบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่าง Bowers & Wilkins, Denon, Marantz, Polk Audio และ Definitive Technology การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็น ก้าวสำคัญของ Samsung ในตลาดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม โดยบริษัทคาดว่า ตลาดเครื่องเสียงทั่วโลกจะเติบโตเป็น 70 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029 ✅ Samsung และ Harman International เข้าซื้อธุรกิจเครื่องเสียงของ Masimo Corporation - รวมถึงแบรนด์ Bowers & Wilkins, Denon, Marantz, Polk Audio และ Definitive Technology ✅ การเข้าซื้อกิจการช่วยให้ Samsung ขยายตลาดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม - คาดว่าตลาดเครื่องเสียงทั่วโลกจะ เติบโตเป็น 70 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029 ✅ Harman International เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำอยู่แล้ว - เช่น JBL, Harman Kardon, AKG, Arcam, Mark Levinson และ Revel ✅ Samsung วางแผนรวมเทคโนโลยีจากแบรนด์เหล่านี้เข้ากับผลิตภัณฑ์ของตน - เช่น สมาร์ทโฟน, ทีวี, ซาวด์บาร์ และหูฟังไร้สาย ✅ Masimo Corporation จะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจเทคโนโลยีทางการแพทย์ - หลังจากแพ้คดีเกี่ยวกับเทคโนโลยีวัดออกซิเจนใน Apple Watch https://www.techspot.com/news/107850-samsung-acquires-bowers-wilkins-denon-marantz-350m-audio.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Samsung acquires Bowers & Wilkins, Denon, Marantz, in $350M audio deal
    This move supercharges Samsung's ambitions in the premium audio space. Harman already owns a stable of respected audio brands, including JBL, Harman Kardon, AKG, Arcam, Mark Levinson,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nintendo Switch 2 กำลังเป็นที่จับตามอง หลังจากมีการวิเคราะห์ ภาพถ่ายชิปเซ็ต (die shot) ของ SoC ซึ่งเผยให้เห็นว่า ใช้กระบวนการผลิต 8 นาโนเมตรของ Samsung พร้อม ซีพียู Cortex-A78C จำนวน 8 คอร์ และจีพียู Ampere ที่มี 1536 CUDA คอร์

    การเปิดเผยนี้มาจาก Kurnal (@Kurnalsalts) และ Geekerwan ซึ่งได้ข้อมูลจาก แหล่งซื้อขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในจีน โดยพบว่า ชิปเซ็ตของ Switch 2 มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นแรกถึงสองเท่า และอาจมี ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นเดิมอย่างมาก

    ✅ Nintendo Switch 2 ใช้ชิปเซ็ตที่ผลิตด้วยกระบวนการ 8 นาโนเมตรของ Samsung
    - มี ซีพียู Cortex-A78C จำนวน 8 คอร์
    - ใช้ จีพียู Ampere ที่มี 1536 CUDA คอร์ และ 6 TPCs

    ✅ ชิปเซ็ตมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นแรกถึงสองเท่า
    - ขนาดพื้นที่ 207 mm² เทียบกับรุ่นเดิมที่เล็กกว่ามาก

    ✅ ข้อมูลชิปเซ็ตถูกเปิดเผยโดย Kurnal และ Geekerwan ผ่านแหล่งซื้อขายในจีน
    - พบว่า มีการขายเมนบอร์ดของ Switch 2 ในตลาดมืดในราคาประมาณ 1000 หยวน (~138 ดอลลาร์สหรัฐฯ)

    ✅ Nintendo อาจเลือกใช้เทคโนโลยีที่เก่ากว่าเพื่อควบคุมต้นทุน
    - นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า Nintendo อาจต้องการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มอายุการใช้งานของฮาร์ดแวร์

    https://www.techpowerup.com/336485/full-die-shot-analysis-of-nintendo-switch-2-soc-indicates-samsung-8-nm-production-origins
    Nintendo Switch 2 กำลังเป็นที่จับตามอง หลังจากมีการวิเคราะห์ ภาพถ่ายชิปเซ็ต (die shot) ของ SoC ซึ่งเผยให้เห็นว่า ใช้กระบวนการผลิต 8 นาโนเมตรของ Samsung พร้อม ซีพียู Cortex-A78C จำนวน 8 คอร์ และจีพียู Ampere ที่มี 1536 CUDA คอร์ การเปิดเผยนี้มาจาก Kurnal (@Kurnalsalts) และ Geekerwan ซึ่งได้ข้อมูลจาก แหล่งซื้อขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในจีน โดยพบว่า ชิปเซ็ตของ Switch 2 มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นแรกถึงสองเท่า และอาจมี ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นเดิมอย่างมาก ✅ Nintendo Switch 2 ใช้ชิปเซ็ตที่ผลิตด้วยกระบวนการ 8 นาโนเมตรของ Samsung - มี ซีพียู Cortex-A78C จำนวน 8 คอร์ - ใช้ จีพียู Ampere ที่มี 1536 CUDA คอร์ และ 6 TPCs ✅ ชิปเซ็ตมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นแรกถึงสองเท่า - ขนาดพื้นที่ 207 mm² เทียบกับรุ่นเดิมที่เล็กกว่ามาก ✅ ข้อมูลชิปเซ็ตถูกเปิดเผยโดย Kurnal และ Geekerwan ผ่านแหล่งซื้อขายในจีน - พบว่า มีการขายเมนบอร์ดของ Switch 2 ในตลาดมืดในราคาประมาณ 1000 หยวน (~138 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ✅ Nintendo อาจเลือกใช้เทคโนโลยีที่เก่ากว่าเพื่อควบคุมต้นทุน - นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า Nintendo อาจต้องการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มอายุการใช้งานของฮาร์ดแวร์ https://www.techpowerup.com/336485/full-die-shot-analysis-of-nintendo-switch-2-soc-indicates-samsung-8-nm-production-origins
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    "Full Die Shot" Analysis of Nintendo Switch 2 SoC Indicates Samsung 8 nm Production Origins
    Late last month, Kurnal (@Kurnalsalts) shared a partial die shot of a supposed Nintendo Switch 2 chipset—this teaser image seemed to verify previous leaked claims about the forthcoming next-gen hybrid gaming console being powered by a custom NVIDIA "T239" SoC design. Two weeks after the fact, Kurnal...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังพัฒนา โหมดเดสก์ท็อปใหม่สำหรับ Android 16 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี โดยเชื่อมต่อกับ หน้าจอภายนอกผ่าน USB-C

    โหมดนี้คล้ายกับ Samsung DeX แต่ได้รับการออกแบบให้ รองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้ดีขึ้น โดยมี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป, หน้าต่างที่ปรับขนาดได้ และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป

    ✅ Google กำลังพัฒนาโหมดเดสก์ท็อปสำหรับ Android 16
    - ช่วยให้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี
    - รองรับ การเชื่อมต่อกับหน้าจอภายนอกผ่าน USB-C

    ✅ คล้ายกับ Samsung DeX แต่มีฟีเจอร์ที่ปรับปรุงใหม่
    - มี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป
    - รองรับ หน้าต่างที่ปรับขนาดได้และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป

    ✅ สามารถเปิดแอปหลายตัวพร้อมกันในหน้าต่างลอย
    - ช่วยให้ การทำงานแบบมัลติทาสก์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - แอปสามารถ จัดเรียงและปรับขนาดได้ตามต้องการ

    ✅ Google ทดสอบฟีเจอร์นี้บน Pixel 8 Pro ที่ใช้ Android 16 Beta
    - คาดว่า จะเปิดตัวใน Android 17 หากยังไม่พร้อมสำหรับ Android 16

    https://www.techspot.com/news/107810-android-16-beta-reveals-new-desktop-mode-turn.html
    Google กำลังพัฒนา โหมดเดสก์ท็อปใหม่สำหรับ Android 16 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี โดยเชื่อมต่อกับ หน้าจอภายนอกผ่าน USB-C โหมดนี้คล้ายกับ Samsung DeX แต่ได้รับการออกแบบให้ รองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้ดีขึ้น โดยมี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป, หน้าต่างที่ปรับขนาดได้ และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป ✅ Google กำลังพัฒนาโหมดเดสก์ท็อปสำหรับ Android 16 - ช่วยให้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี - รองรับ การเชื่อมต่อกับหน้าจอภายนอกผ่าน USB-C ✅ คล้ายกับ Samsung DeX แต่มีฟีเจอร์ที่ปรับปรุงใหม่ - มี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป - รองรับ หน้าต่างที่ปรับขนาดได้และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป ✅ สามารถเปิดแอปหลายตัวพร้อมกันในหน้าต่างลอย - ช่วยให้ การทำงานแบบมัลติทาสก์มีประสิทธิภาพมากขึ้น - แอปสามารถ จัดเรียงและปรับขนาดได้ตามต้องการ ✅ Google ทดสอบฟีเจอร์นี้บน Pixel 8 Pro ที่ใช้ Android 16 Beta - คาดว่า จะเปิดตัวใน Android 17 หากยังไม่พร้อมสำหรับ Android 16 https://www.techspot.com/news/107810-android-16-beta-reveals-new-desktop-mode-turn.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Android 16 beta reveals new desktop mode to turn your phone into a PC
    Google appears poised to bring a full-fledged desktop experience to Android users. The search giant recently enabled the new functionality on a Pixel 8 Pro running the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้วิเคราะห์แนวโน้มของ การนำ Custom ASIC มาใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยตั้งคำถามว่าเราอาจกำลังเข้าใกล้ จุดสูงสุดของการพัฒนาและการนำไปใช้ หรือไม่

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรง ได้เริ่มออกแบบชิปของตัวเองแทนที่จะซื้อจากผู้ผลิตทั่วไป เช่น Apple และ Google ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางบริษัทเริ่ม ทบทวนกลยุทธ์และลดขอบเขตของการพัฒนา

    แม้ว่าบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Microsoft และ Meta จะยังคงพัฒนา Custom ASIC แต่พวกเขากำลังเผชิญกับ ความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด นอกจากนี้ Google ซึ่งมีเครื่องมือออกแบบชิปของตัวเอง ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่

    ✅ บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรงเริ่มออกแบบชิปของตัวเอง
    - ตัวอย่างเช่น Apple และ Google
    - ช่วยให้สามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น

    ✅ ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้น
    - ค่าใช้จ่ายด้าน บุคลากร, สิทธิบัตร และการผลิต เพิ่มขึ้น
    - ทำให้บางบริษัท เริ่มลดขอบเขตของการพัฒนา

    ✅ Microsoft และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด
    - อาจต้อง ปรับกลยุทธ์เพื่อให้สามารถแข่งขันได้
    - Google ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่

    ✅ แนวโน้มของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและยานยนต์
    - Samsung ลดการใช้ ชิปที่ออกแบบเอง
    - ผู้ผลิตรถยนต์ยังคง พิจารณาว่าควรพัฒนา Custom ASIC หรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107803-opinion-nearing-peak-custom-asic-adoption.html
    บทความนี้วิเคราะห์แนวโน้มของ การนำ Custom ASIC มาใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยตั้งคำถามว่าเราอาจกำลังเข้าใกล้ จุดสูงสุดของการพัฒนาและการนำไปใช้ หรือไม่ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรง ได้เริ่มออกแบบชิปของตัวเองแทนที่จะซื้อจากผู้ผลิตทั่วไป เช่น Apple และ Google ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางบริษัทเริ่ม ทบทวนกลยุทธ์และลดขอบเขตของการพัฒนา แม้ว่าบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Microsoft และ Meta จะยังคงพัฒนา Custom ASIC แต่พวกเขากำลังเผชิญกับ ความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด นอกจากนี้ Google ซึ่งมีเครื่องมือออกแบบชิปของตัวเอง ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ ✅ บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรงเริ่มออกแบบชิปของตัวเอง - ตัวอย่างเช่น Apple และ Google - ช่วยให้สามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น ✅ ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้น - ค่าใช้จ่ายด้าน บุคลากร, สิทธิบัตร และการผลิต เพิ่มขึ้น - ทำให้บางบริษัท เริ่มลดขอบเขตของการพัฒนา ✅ Microsoft และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด - อาจต้อง ปรับกลยุทธ์เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ - Google ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ ✅ แนวโน้มของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและยานยนต์ - Samsung ลดการใช้ ชิปที่ออกแบบเอง - ผู้ผลิตรถยนต์ยังคง พิจารณาว่าควรพัฒนา Custom ASIC หรือไม่ https://www.techspot.com/news/107803-opinion-nearing-peak-custom-asic-adoption.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Opinion: Are we nearing the peak of custom ASIC adoption?
    We think it is important to remember that the case for custom silicon is an economic choice, not a technical one.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung ประสบปัญหาขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์ หลังจากตัดสินใจ ยกเลิกการใช้ชิป Exynos 2500 ในสมาร์ทโฟน Galaxy S25 Series เนื่องจากปัญหาด้าน ผลผลิตต่ำและประสิทธิภาพที่ไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon 8 Elite ได้

    เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้ในอนาคต Samsung มีแผนที่จะเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy S26 Series โดยคาดว่าจะใช้เฉพาะใน รุ่นที่จำหน่ายในยุโรป เนื่องจากปัญหาด้านผลผลิตที่ยังคงต่ำ

    ✅ Samsung ขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์จากการยกเลิก Exynos 2500
    - ตัดสินใจใช้ Snapdragon 8 Elite ใน Galaxy S25 Series
    - ผลผลิตของ Exynos 2500 ต่ำและไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon ได้

    ✅ Exynos 2600 อาจถูกใช้ใน Galaxy S26 รุ่นยุโรป
    - ผลผลิตยังคงต่ำ ทำให้มีการจำกัดการใช้งานในบางรุ่น
    - คาดว่า Snapdragon 8 Elite Gen 2 จะยังคงมีประสิทธิภาพเหนือกว่า

    ✅ Samsung ตั้งเป้าปรับปรุงกระบวนการผลิต 2nm GAA
    - ตั้งเป้าให้ ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 60% เพื่อรองรับการผลิตเต็มรูปแบบ
    - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากใน ครึ่งหลังของปี 2025

    ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ Samsung ในตลาดชิปเซ็ต
    - Samsung ต้องการลดต้นทุนการผลิตชิปโดยใช้ Exynos 2600
    - อาจมีการเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy Z Flip 7

    https://wccftech.com/samsung-lost-400-million-for-dropping-exynos-2500-in-the-galaxy-s25-series/
    Samsung ประสบปัญหาขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์ หลังจากตัดสินใจ ยกเลิกการใช้ชิป Exynos 2500 ในสมาร์ทโฟน Galaxy S25 Series เนื่องจากปัญหาด้าน ผลผลิตต่ำและประสิทธิภาพที่ไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon 8 Elite ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้ในอนาคต Samsung มีแผนที่จะเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy S26 Series โดยคาดว่าจะใช้เฉพาะใน รุ่นที่จำหน่ายในยุโรป เนื่องจากปัญหาด้านผลผลิตที่ยังคงต่ำ ✅ Samsung ขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์จากการยกเลิก Exynos 2500 - ตัดสินใจใช้ Snapdragon 8 Elite ใน Galaxy S25 Series - ผลผลิตของ Exynos 2500 ต่ำและไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon ได้ ✅ Exynos 2600 อาจถูกใช้ใน Galaxy S26 รุ่นยุโรป - ผลผลิตยังคงต่ำ ทำให้มีการจำกัดการใช้งานในบางรุ่น - คาดว่า Snapdragon 8 Elite Gen 2 จะยังคงมีประสิทธิภาพเหนือกว่า ✅ Samsung ตั้งเป้าปรับปรุงกระบวนการผลิต 2nm GAA - ตั้งเป้าให้ ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 60% เพื่อรองรับการผลิตเต็มรูปแบบ - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากใน ครึ่งหลังของปี 2025 ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ Samsung ในตลาดชิปเซ็ต - Samsung ต้องการลดต้นทุนการผลิตชิปโดยใช้ Exynos 2600 - อาจมีการเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy Z Flip 7 https://wccftech.com/samsung-lost-400-million-for-dropping-exynos-2500-in-the-galaxy-s25-series/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Was Estimated To Lose Around $400 Million After It Decided To Drop The Exynos 2500 For The Galaxy S25 Series; European Galaxy S26 Models To Be Equipped With Exynos 2600
    The Exynos 2600 will apparently be found in some Galaxy S26 variants, as Samsung was estimated to lose $400 million for dropping the Exynos 2500
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung กำลังต่อสู้กับ คำสั่งเรียกเก็บภาษีมูลค่า 520 ล้านดอลลาร์ จากรัฐบาลอินเดีย โดยอ้างว่า บริษัท Reliance Jio เคยนำเข้าอุปกรณ์เดียวกันโดยไม่เสียภาษี เป็นเวลาหลายปี

    รัฐบาลอินเดียกล่าวหาว่า Samsung หลีกเลี่ยงภาษี 10-20% โดยการ จัดประเภทผิดพลาด สำหรับอุปกรณ์เครือข่ายที่นำเข้าจาก เกาหลีและเวียดนาม ระหว่างปี 2018-2021 ซึ่งถูกขายให้กับ Reliance Jio

    Samsung โต้แย้งว่า หน่วยงานภาษีอินเดียรับรู้ถึงแนวทางการนำเข้านี้มานานแล้ว และไม่เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับการจัดประเภทสินค้าจนกระทั่งปี 2025

    ✅ Samsung ถูกเรียกเก็บภาษี 520 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลอินเดีย
    - ถูกกล่าวหาว่า จัดประเภทผิดพลาด สำหรับอุปกรณ์เครือข่าย
    - อุปกรณ์ดังกล่าวถูกขายให้กับ Reliance Jio

    ✅ ข้อโต้แย้งของ Samsung
    - อ้างว่า Reliance Jio เคยนำเข้าอุปกรณ์เดียวกันโดยไม่เสียภาษี
    - หน่วยงานภาษีอินเดีย รับรู้ถึงแนวทางนี้มานานแล้ว

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ Samsung ในอินเดีย
    - คำสั่งเรียกเก็บภาษีคิดเป็น มากกว่า 50% ของกำไรสุทธิของ Samsung ในอินเดียปีที่แล้ว
    - อาจส่งผลต่อ กลยุทธ์ทางธุรกิจของ Samsung ในตลาดอินเดีย

    ✅ แนวทางการต่อสู้ของ Samsung
    - ยื่นคำร้องต่อ ศาลภาษีในมุมไบ
    - อ้างว่า ไม่ได้รับโอกาสที่เป็นธรรมในการนำเสนอหลักฐาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/samsung-fights-520-million-india-tax-demand-points-to-reliance-practice
    Samsung กำลังต่อสู้กับ คำสั่งเรียกเก็บภาษีมูลค่า 520 ล้านดอลลาร์ จากรัฐบาลอินเดีย โดยอ้างว่า บริษัท Reliance Jio เคยนำเข้าอุปกรณ์เดียวกันโดยไม่เสียภาษี เป็นเวลาหลายปี รัฐบาลอินเดียกล่าวหาว่า Samsung หลีกเลี่ยงภาษี 10-20% โดยการ จัดประเภทผิดพลาด สำหรับอุปกรณ์เครือข่ายที่นำเข้าจาก เกาหลีและเวียดนาม ระหว่างปี 2018-2021 ซึ่งถูกขายให้กับ Reliance Jio Samsung โต้แย้งว่า หน่วยงานภาษีอินเดียรับรู้ถึงแนวทางการนำเข้านี้มานานแล้ว และไม่เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับการจัดประเภทสินค้าจนกระทั่งปี 2025 ✅ Samsung ถูกเรียกเก็บภาษี 520 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลอินเดีย - ถูกกล่าวหาว่า จัดประเภทผิดพลาด สำหรับอุปกรณ์เครือข่าย - อุปกรณ์ดังกล่าวถูกขายให้กับ Reliance Jio ✅ ข้อโต้แย้งของ Samsung - อ้างว่า Reliance Jio เคยนำเข้าอุปกรณ์เดียวกันโดยไม่เสียภาษี - หน่วยงานภาษีอินเดีย รับรู้ถึงแนวทางนี้มานานแล้ว ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ Samsung ในอินเดีย - คำสั่งเรียกเก็บภาษีคิดเป็น มากกว่า 50% ของกำไรสุทธิของ Samsung ในอินเดียปีที่แล้ว - อาจส่งผลต่อ กลยุทธ์ทางธุรกิจของ Samsung ในตลาดอินเดีย ✅ แนวทางการต่อสู้ของ Samsung - ยื่นคำร้องต่อ ศาลภาษีในมุมไบ - อ้างว่า ไม่ได้รับโอกาสที่เป็นธรรมในการนำเสนอหลักฐาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/samsung-fights-520-million-india-tax-demand-points-to-reliance-practice
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung fights $520 million India tax demand, points to Reliance practice
    NEW DELHI (Reuters) -Samsung has asked an Indian tribunal to quash a $520 million tax demand for allegedly misclassifying imports of networking gear, arguing officials were aware of the practice as India's Reliance imported the same component in a similar manner for years, documents show.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Astera Labs กำลังเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio เพื่อรองรับการใช้งานใน AI และ Cloud Infrastructure โดยมีการเพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions ควบคู่ไปกับ Fabric Switches, Retimers และ Active Cable Modules

    การเปลี่ยนผ่านไปสู่ PCIe 6 เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ ประสิทธิภาพการประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

    Astera Labs ได้รับการรับรองจาก ลูกค้าระดับ Hyperscale และ Cloud Server และกำลังเข้าสู่ การผลิตจำนวนมาก เพื่อรองรับแพลตฟอร์ม AI รุ่นใหม่

    ✅ การเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio
    - รองรับ AI และ Cloud Infrastructure
    - เพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions

    ✅ ความสำคัญของ PCIe 6
    - ช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
    - รองรับ การประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล

    ✅ ผลิตภัณฑ์ใหม่ใน PCIe 6 Portfolio
    - Aries 6 PCIe Smart Gearbox ช่วยให้ PCIe 6 และ PCIe 5 ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - Scorpio P-Series Smart Fabric Switches รองรับ การเชื่อมต่อระหว่าง GPUs, CPUs, NICs และ SSDs
    - Aries 6 PCIe/CXL Smart DSP Retimers ช่วยเพิ่ม ความเสถียรของสัญญาณ PCIe 6.x/CXL 3.x
    - Aries 6 PCIe/CXL Smart Cable Modules รองรับ การเชื่อมต่อระยะไกลสูงสุด 7 เมตร
    - PCIe 6 over Optics Technology ช่วยให้ AI Clustering สามารถทำงานได้ในระยะไกล

    ✅ การสนับสนุนจากอุตสาหกรรม
    - AMD, Samsung, Micron และ Inventec สนับสนุนการพัฒนา PCIe 6
    - Keysight Technologies และ Teledyne Lecroy ให้บริการทดสอบมาตรฐาน

    https://www.techpowerup.com/336284/astera-labs-ramps-production-of-pcie-6-connectivity-portfolio
    Astera Labs กำลังเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio เพื่อรองรับการใช้งานใน AI และ Cloud Infrastructure โดยมีการเพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions ควบคู่ไปกับ Fabric Switches, Retimers และ Active Cable Modules การเปลี่ยนผ่านไปสู่ PCIe 6 เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ ประสิทธิภาพการประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ Astera Labs ได้รับการรับรองจาก ลูกค้าระดับ Hyperscale และ Cloud Server และกำลังเข้าสู่ การผลิตจำนวนมาก เพื่อรองรับแพลตฟอร์ม AI รุ่นใหม่ ✅ การเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio - รองรับ AI และ Cloud Infrastructure - เพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions ✅ ความสำคัญของ PCIe 6 - ช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ - รองรับ การประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล ✅ ผลิตภัณฑ์ใหม่ใน PCIe 6 Portfolio - Aries 6 PCIe Smart Gearbox ช่วยให้ PCIe 6 และ PCIe 5 ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ - Scorpio P-Series Smart Fabric Switches รองรับ การเชื่อมต่อระหว่าง GPUs, CPUs, NICs และ SSDs - Aries 6 PCIe/CXL Smart DSP Retimers ช่วยเพิ่ม ความเสถียรของสัญญาณ PCIe 6.x/CXL 3.x - Aries 6 PCIe/CXL Smart Cable Modules รองรับ การเชื่อมต่อระยะไกลสูงสุด 7 เมตร - PCIe 6 over Optics Technology ช่วยให้ AI Clustering สามารถทำงานได้ในระยะไกล ✅ การสนับสนุนจากอุตสาหกรรม - AMD, Samsung, Micron และ Inventec สนับสนุนการพัฒนา PCIe 6 - Keysight Technologies และ Teledyne Lecroy ให้บริการทดสอบมาตรฐาน https://www.techpowerup.com/336284/astera-labs-ramps-production-of-pcie-6-connectivity-portfolio
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Astera Labs Ramps Production of PCIe 6 Connectivity Portfolio
    Astera Labs, Inc., a global leader in semiconductor-based connectivity solutions for AI and cloud infrastructure, today announced its purpose-built PCIe 6 connectivity portfolio is ramping production to fast-track deployments of modern AI platforms at scale. Now featuring gearbox connectivity soluti...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังพัฒนา กระบวนการผลิตชิป 14A โดยใช้ High-NA EUV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม Intel ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะใช้ High-NA EUV ในการผลิตจริงหรือไม่ และมี Low-NA EUV เป็นแผนสำรอง

    Intel ได้ติดตั้งเครื่อง ASML Twinscan NXE:5000 High-NA EUV เครื่องที่สองในโรงงานที่โอเรกอน และระบุว่าเทคโนโลยีนี้กำลังพัฒนาไปได้ด้วยดี แต่เนื่องจากเครื่องจักรเหล่านี้ยังไม่เคยถูกใช้ในสภาพแวดล้อมการผลิตจริง Intel จึงเลือกที่จะ ลดความเสี่ยงโดยมีแผนสำรองเป็น Low-NA EUV

    ✅ การใช้ High-NA EUV ในกระบวนการผลิต
    - ช่วยลดต้นทุนโดย ลดจำนวนขั้นตอนการผลิตลง 40 ขั้นตอน
    - มีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้ Low-NA EUV แบบเดิม

    ✅ แผนสำรองของ Intel
    - หาก High-NA EUV มีปัญหา Intel สามารถใช้ Low-NA EUV ได้โดยไม่กระทบต่อลูกค้า
    - ทั้งสองเทคโนโลยีมี อัตราผลตอบแทน (yield) เท่ากัน

    ✅ การติดตั้งเครื่องจักรใหม่
    - Intel ได้ติดตั้ง เครื่อง High-NA EUV เครื่องที่สองในโรงงานที่โอเรกอน
    - ได้ผลิต 30,000 แผ่นเวเฟอร์ ในช่วงพัฒนา

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิป
    - TSMC ยืนยันว่าจะไม่ใช้ High-NA EUV กับกระบวนการผลิต A14
    - Intel ต้องแข่งขันกับ TSMC และ Samsung ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-hedges-its-bet-for-high-na-euv-with-the-14a-process-node-an-alternate-low-na-technique-has-identical-yield-and-design-rules
    Intel กำลังพัฒนา กระบวนการผลิตชิป 14A โดยใช้ High-NA EUV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม Intel ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะใช้ High-NA EUV ในการผลิตจริงหรือไม่ และมี Low-NA EUV เป็นแผนสำรอง Intel ได้ติดตั้งเครื่อง ASML Twinscan NXE:5000 High-NA EUV เครื่องที่สองในโรงงานที่โอเรกอน และระบุว่าเทคโนโลยีนี้กำลังพัฒนาไปได้ด้วยดี แต่เนื่องจากเครื่องจักรเหล่านี้ยังไม่เคยถูกใช้ในสภาพแวดล้อมการผลิตจริง Intel จึงเลือกที่จะ ลดความเสี่ยงโดยมีแผนสำรองเป็น Low-NA EUV ✅ การใช้ High-NA EUV ในกระบวนการผลิต - ช่วยลดต้นทุนโดย ลดจำนวนขั้นตอนการผลิตลง 40 ขั้นตอน - มีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้ Low-NA EUV แบบเดิม ✅ แผนสำรองของ Intel - หาก High-NA EUV มีปัญหา Intel สามารถใช้ Low-NA EUV ได้โดยไม่กระทบต่อลูกค้า - ทั้งสองเทคโนโลยีมี อัตราผลตอบแทน (yield) เท่ากัน ✅ การติดตั้งเครื่องจักรใหม่ - Intel ได้ติดตั้ง เครื่อง High-NA EUV เครื่องที่สองในโรงงานที่โอเรกอน - ได้ผลิต 30,000 แผ่นเวเฟอร์ ในช่วงพัฒนา ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิป - TSMC ยืนยันว่าจะไม่ใช้ High-NA EUV กับกระบวนการผลิต A14 - Intel ต้องแข่งขันกับ TSMC และ Samsung ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-hedges-its-bet-for-high-na-euv-with-the-14a-process-node-an-alternate-low-na-technique-has-identical-yield-and-design-rules
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) กำลังพิจารณา ห้ามไม่ให้ห้องปฏิบัติการในจีนทำการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ

    ปัจจุบัน 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ในจีน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์จาก Apple, Samsung, Sony และ LG อย่างไรก็ตาม FCC ระบุว่า บางห้องปฏิบัติการอาจมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกแบน เช่น Huawei และ ZTE

    FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 หากข้อเสนอผ่านการอนุมัติ ห้องปฏิบัติการที่มีความเกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์จากกระบวนการรับรองอุปกรณ์

    ✅ การห้ามห้องปฏิบัติการจีนจากการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    - FCC ต้องการ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ
    - ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ Huawei และ ZTE จะถูกตัดสิทธิ์

    ✅ สถิติที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบอุปกรณ์
    - 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในจีน
    - มีห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง 168 แห่งในจีน, 111 แห่งในสหรัฐฯ และ 114 แห่งในไต้หวัน

    ✅ กระบวนการลงมติและผลกระทบ
    - FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025
    - หากข้อเสนอผ่าน ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์

    ✅ การขยายข้อเสนอไปยังห้องปฏิบัติการอื่น
    - FCC กำลังพิจารณาขยายข้อจำกัดไปยัง ห้องปฏิบัติการทั้งหมดในจีนและประเทศคู่แข่งอื่นๆ

    https://www.techspot.com/news/107755-fcc-moves-ban-chinese-labs-testing-electronics-sold.html
    คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) กำลังพิจารณา ห้ามไม่ให้ห้องปฏิบัติการในจีนทำการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ ปัจจุบัน 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ในจีน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์จาก Apple, Samsung, Sony และ LG อย่างไรก็ตาม FCC ระบุว่า บางห้องปฏิบัติการอาจมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกแบน เช่น Huawei และ ZTE FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 หากข้อเสนอผ่านการอนุมัติ ห้องปฏิบัติการที่มีความเกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์จากกระบวนการรับรองอุปกรณ์ ✅ การห้ามห้องปฏิบัติการจีนจากการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ - FCC ต้องการ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ - ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ Huawei และ ZTE จะถูกตัดสิทธิ์ ✅ สถิติที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบอุปกรณ์ - 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในจีน - มีห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง 168 แห่งในจีน, 111 แห่งในสหรัฐฯ และ 114 แห่งในไต้หวัน ✅ กระบวนการลงมติและผลกระทบ - FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 - หากข้อเสนอผ่าน ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์ ✅ การขยายข้อเสนอไปยังห้องปฏิบัติการอื่น - FCC กำลังพิจารณาขยายข้อจำกัดไปยัง ห้องปฏิบัติการทั้งหมดในจีนและประเทศคู่แข่งอื่นๆ https://www.techspot.com/news/107755-fcc-moves-ban-chinese-labs-testing-electronics-sold.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    FCC moves to ban Chinese labs from testing electronics sold in the US
    FCC chairman Brendan Carr writes that before any electronic devices, such as smartphones or computers, can be imported or sold in the US, they must be tested...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • World Password Day 2025 เป็นโอกาสสำคัญในการตระหนักถึงความปลอดภัยของรหัสผ่านและแนวทางใหม่ ๆ ในการปกป้องบัญชีออนไลน์ โดยในปีนี้มีการเน้นไปที่ Passkeys ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้รหัสผ่านแบบเดิมและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้

    จากการสำรวจของ FIDO Alliance พบว่า 74% ของผู้บริโภคทั่วโลกรู้จัก Passkeys และ 69% ได้เปิดใช้งาน Passkeys อย่างน้อยหนึ่งบัญชี นอกจากนี้ 38% ของผู้ใช้ที่เคยใช้ Passkeys เลือกเปิดใช้งานทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่ผู้ใช้เริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีนี้มากขึ้น

    นอกจากนี้ Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุดจากการสำรวจของ TechRadar Pro โดยมีผู้ใช้จำนวนมากเลือกใช้บริการนี้แทนการจัดการรหัสผ่านด้วยตนเอง

    ✅ Passkeys กำลังมาแทนที่รหัสผ่าน
    - 74% ของผู้บริโภครู้จัก Passkeys
    - 69% เปิดใช้งาน Passkeys อย่างน้อยหนึ่งบัญชี
    - 38% ของผู้ใช้ที่เคยใช้ Passkeys เลือกเปิดใช้งานทุกครั้งที่มีโอกาส

    ✅ Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุด
    - จากการสำรวจของ TechRadar Pro พบว่า Google Password Manager เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของผู้ใช้
    - ผู้ใช้บางส่วนยังคงเลือกไม่ใช้ Password Manager แต่มีแนวโน้มลดลง

    ✅ ข้อเสนอพิเศษจากผู้ให้บริการ Password Manager
    - Keeper ลดราคาสูงสุด 50% สำหรับแผน Personal และ Family
    - RoboForm Premium ลดราคา 60% พร้อมฟีเจอร์ 2FA และ Cloud Backup
    - NordPass Business ลดราคา 20% เมื่อใช้โค้ด PASSDAY20

    ✅ แนวโน้มของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบที่ไม่มีรหัสผ่าน
    - Amazon, Apple, Google, Microsoft และ Samsung ลงนามใน Passkey Pledge เพื่อสนับสนุนอนาคตที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/live/world-password-day-2025-all-the-news-updates-and-advice-from-our-experts
    World Password Day 2025 เป็นโอกาสสำคัญในการตระหนักถึงความปลอดภัยของรหัสผ่านและแนวทางใหม่ ๆ ในการปกป้องบัญชีออนไลน์ โดยในปีนี้มีการเน้นไปที่ Passkeys ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้รหัสผ่านแบบเดิมและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ จากการสำรวจของ FIDO Alliance พบว่า 74% ของผู้บริโภคทั่วโลกรู้จัก Passkeys และ 69% ได้เปิดใช้งาน Passkeys อย่างน้อยหนึ่งบัญชี นอกจากนี้ 38% ของผู้ใช้ที่เคยใช้ Passkeys เลือกเปิดใช้งานทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่ผู้ใช้เริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีนี้มากขึ้น นอกจากนี้ Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุดจากการสำรวจของ TechRadar Pro โดยมีผู้ใช้จำนวนมากเลือกใช้บริการนี้แทนการจัดการรหัสผ่านด้วยตนเอง ✅ Passkeys กำลังมาแทนที่รหัสผ่าน - 74% ของผู้บริโภครู้จัก Passkeys - 69% เปิดใช้งาน Passkeys อย่างน้อยหนึ่งบัญชี - 38% ของผู้ใช้ที่เคยใช้ Passkeys เลือกเปิดใช้งานทุกครั้งที่มีโอกาส ✅ Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุด - จากการสำรวจของ TechRadar Pro พบว่า Google Password Manager เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของผู้ใช้ - ผู้ใช้บางส่วนยังคงเลือกไม่ใช้ Password Manager แต่มีแนวโน้มลดลง ✅ ข้อเสนอพิเศษจากผู้ให้บริการ Password Manager - Keeper ลดราคาสูงสุด 50% สำหรับแผน Personal และ Family - RoboForm Premium ลดราคา 60% พร้อมฟีเจอร์ 2FA และ Cloud Backup - NordPass Business ลดราคา 20% เมื่อใช้โค้ด PASSDAY20 ✅ แนวโน้มของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบที่ไม่มีรหัสผ่าน - Amazon, Apple, Google, Microsoft และ Samsung ลงนามใน Passkey Pledge เพื่อสนับสนุนอนาคตที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น https://www.techradar.com/pro/live/world-password-day-2025-all-the-news-updates-and-advice-from-our-experts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • Visa กำลังพัฒนาโครงการ Visa Intelligent Commerce ซึ่งจะช่วยให้ AI สามารถใช้บัตรเครดิตของผู้ใช้ในการซื้อสินค้าและชำระเงินโดยอัตโนมัติ โดย AI จะสามารถค้นหาสินค้าและทำธุรกรรมได้ภายในขอบเขตที่ผู้ใช้กำหนด

    โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ AI สามารถทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ AI-Ready Cards ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้ข้อมูลดิจิทัลแบบโทเค็นแทนข้อมูลบัตรจริง เพื่อป้องกันการฉ้อโกงและเพิ่มความปลอดภัย

    Visa ได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Anthropic, Microsoft, OpenAI, Perplexity และ Mistral เพื่อพัฒนาโครงการนี้ และคาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้า

    ✅ การใช้ AI ในการทำธุรกรรม
    - AI สามารถค้นหาสินค้าและทำธุรกรรมได้โดยอัตโนมัติ
    - ผู้ใช้สามารถกำหนดงบประมาณและเงื่อนไขการใช้จ่าย

    ✅ การพัฒนา AI-Ready Cards
    - ใช้ข้อมูลดิจิทัลแบบโทเค็นแทนข้อมูลบัตรจริง
    - เพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง

    ✅ ความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยี
    - Visa ร่วมมือกับ Anthropic, Microsoft, OpenAI, Perplexity และ Mistral
    - มีการทดลองใช้งานร่วมกับ IBM, Stripe และ Samsung

    ✅ แผนการเปิดตัว
    - โครงการอยู่ในช่วงทดลองและคาดว่าจะเปิดตัวในปีหน้า

    https://www.neowin.net/news/visa-wants-to-give-ai-agents-your-credit-card-so-that-they-can-shop-and-pay-for-you/
    Visa กำลังพัฒนาโครงการ Visa Intelligent Commerce ซึ่งจะช่วยให้ AI สามารถใช้บัตรเครดิตของผู้ใช้ในการซื้อสินค้าและชำระเงินโดยอัตโนมัติ โดย AI จะสามารถค้นหาสินค้าและทำธุรกรรมได้ภายในขอบเขตที่ผู้ใช้กำหนด โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ AI สามารถทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ AI-Ready Cards ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้ข้อมูลดิจิทัลแบบโทเค็นแทนข้อมูลบัตรจริง เพื่อป้องกันการฉ้อโกงและเพิ่มความปลอดภัย Visa ได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Anthropic, Microsoft, OpenAI, Perplexity และ Mistral เพื่อพัฒนาโครงการนี้ และคาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้า ✅ การใช้ AI ในการทำธุรกรรม - AI สามารถค้นหาสินค้าและทำธุรกรรมได้โดยอัตโนมัติ - ผู้ใช้สามารถกำหนดงบประมาณและเงื่อนไขการใช้จ่าย ✅ การพัฒนา AI-Ready Cards - ใช้ข้อมูลดิจิทัลแบบโทเค็นแทนข้อมูลบัตรจริง - เพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง ✅ ความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยี - Visa ร่วมมือกับ Anthropic, Microsoft, OpenAI, Perplexity และ Mistral - มีการทดลองใช้งานร่วมกับ IBM, Stripe และ Samsung ✅ แผนการเปิดตัว - โครงการอยู่ในช่วงทดลองและคาดว่าจะเปิดตัวในปีหน้า https://www.neowin.net/news/visa-wants-to-give-ai-agents-your-credit-card-so-that-they-can-shop-and-pay-for-you/
    WWW.NEOWIN.NET
    Visa wants to give AI agents your credit card so that they can shop and pay for you
    Visa is partnering with key AI companies through Visa Intelligent Commerce, allowing AI agents to securely pay for items on your behalf.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ในคดีต่อต้านการผูกขาดเกี่ยวกับตลาดการค้นหาออนไลน์ โดย DOJ ได้เสนอแนวทางแก้ไขที่อาจส่งผลกระทบต่อการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของ Google รวมถึงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี

    Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ให้การในศาลว่า การบังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง อาจทำให้บริษัทสูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และส่งผลกระทบต่อการลงทุนใน R&D ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองทศวรรษ

    นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google หยุดจ่ายเงินให้กับบริษัทต่างๆ เช่น Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น และยังมีข้อเสนอให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome ให้กับผู้ซื้อรายอื่น ซึ่ง OpenAI, Perplexity และ Yahoo ได้แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome

    Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Google Chrome ได้ให้การในศาลเพื่อปกป้องการเป็นเจ้าของ Chrome โดยระบุว่า Google เป็นบริษัทเดียวที่สามารถดำเนินการ Chrome ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของเบราว์เซอร์ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google

    ✅ ข้อกล่าวหาจาก DOJ
    - DOJ กล่าวหา Google ว่าผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์
    - ศาลรับรองข้อกล่าวหาในปี 2024

    ✅ แนวทางแก้ไขที่เสนอโดย DOJ
    - บังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง
    - หยุดจ่ายเงินให้ Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น
    - บังคับให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome

    ✅ การตอบสนองของ Google
    - Sundar Pichai ระบุว่าการแชร์ข้อมูลจะทำให้ Google สูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม
    - Parisa Tabriz ให้การว่าฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของ Chrome ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google

    ✅ ผู้สนใจซื้อ Chrome
    - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome

    https://www.neowin.net/news/sundar-pichai-warns-proposed-remedies-by-doj-could-kill-googles-rd-and-innovation/
    Google กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ในคดีต่อต้านการผูกขาดเกี่ยวกับตลาดการค้นหาออนไลน์ โดย DOJ ได้เสนอแนวทางแก้ไขที่อาจส่งผลกระทบต่อการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของ Google รวมถึงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ให้การในศาลว่า การบังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง อาจทำให้บริษัทสูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และส่งผลกระทบต่อการลงทุนใน R&D ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองทศวรรษ นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google หยุดจ่ายเงินให้กับบริษัทต่างๆ เช่น Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น และยังมีข้อเสนอให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome ให้กับผู้ซื้อรายอื่น ซึ่ง OpenAI, Perplexity และ Yahoo ได้แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Google Chrome ได้ให้การในศาลเพื่อปกป้องการเป็นเจ้าของ Chrome โดยระบุว่า Google เป็นบริษัทเดียวที่สามารถดำเนินการ Chrome ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของเบราว์เซอร์ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google ✅ ข้อกล่าวหาจาก DOJ - DOJ กล่าวหา Google ว่าผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ - ศาลรับรองข้อกล่าวหาในปี 2024 ✅ แนวทางแก้ไขที่เสนอโดย DOJ - บังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง - หยุดจ่ายเงินให้ Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น - บังคับให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome ✅ การตอบสนองของ Google - Sundar Pichai ระบุว่าการแชร์ข้อมูลจะทำให้ Google สูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม - Parisa Tabriz ให้การว่าฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของ Chrome ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google ✅ ผู้สนใจซื้อ Chrome - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome https://www.neowin.net/news/sundar-pichai-warns-proposed-remedies-by-doj-could-kill-googles-rd-and-innovation/
    WWW.NEOWIN.NET
    Sundar Pichai warns proposed remedies by DOJ could kill Google's R&D and innovation
    Google's CEO believes the DOJ demands, including sharing search data with rival companies, could stifle Google's innovation and harm its R&D efforts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนพับได้ โดยมีรายงานว่า Galaxy Z Flip7 จะใช้ Exynos 2500 แทน Snapdragon 8 Elite ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เนื่องจากก่อนหน้านี้ Samsung เลือกใช้ Snapdragon สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง

    Exynos 2500 เดิมทีถูกคาดหวังว่าจะใช้ใน Galaxy S25 แต่เนื่องจากอัตราการผลิตที่ต่ำ Samsung จึงต้องเปลี่ยนไปใช้ Snapdragon 8 Elite แทน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดจาก Chosun Daily ระบุว่า Samsung ได้เริ่มการผลิต Galaxy Z Flip7 พร้อม Exynos 2500 แล้ว ซึ่งหากเป็นจริง นี่จะเป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนพับได้ของ Samsung ใช้ชิป Exynos

    เหตุผลหลักที่ Samsung เลือกใช้ Exynos แทน Snapdragon คือ ต้นทุน เนื่องจาก Qualcomm ได้ปรับราคาชิปเซ็ตให้สูงขึ้น ทำให้ Samsung หันมาพัฒนา SoC ของตัวเองเพื่อควบคุมต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า Galaxy Z Flip7 FE ซึ่งเป็นรุ่นราคาประหยัด อาจใช้ Exynos 2400e เช่นเดียวกับ Galaxy S24 FE และ Samsung อาจจัดงาน Unpacked ครั้งที่สองของปี ที่นิวยอร์กเพื่อเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่

    ✅ การเปลี่ยนมาใช้ Exynos 2500
    - Galaxy Z Flip7 จะใช้ Exynos 2500 แทน Snapdragon 8 Elite
    - เป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนพับได้ของ Samsung ใช้ชิป Exynos

    ✅ เหตุผลในการเปลี่ยนแปลง
    - Qualcomm ปรับราคาชิปเซ็ตให้สูงขึ้น
    - Samsung ต้องการควบคุมต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    ✅ Galaxy Z Flip7 FE และ Exynos 2400e
    - รุ่นราคาประหยัดอาจใช้ Exynos 2400e เช่นเดียวกับ Galaxy S24 FE
    - อาจมีการเปิดตัวในงาน Unpacked ครั้งที่สองของปี

    ✅ การผลิตและการเปิดตัว
    - Samsung ได้เริ่มการผลิต Galaxy Z Flip7 พร้อม Exynos 2500
    - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

    https://www.neowin.net/news/samsung-allegedly-ditches-snapdragon-for-exynos-2500-in-galaxy-z-flip7/
    Samsung กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนพับได้ โดยมีรายงานว่า Galaxy Z Flip7 จะใช้ Exynos 2500 แทน Snapdragon 8 Elite ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เนื่องจากก่อนหน้านี้ Samsung เลือกใช้ Snapdragon สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง Exynos 2500 เดิมทีถูกคาดหวังว่าจะใช้ใน Galaxy S25 แต่เนื่องจากอัตราการผลิตที่ต่ำ Samsung จึงต้องเปลี่ยนไปใช้ Snapdragon 8 Elite แทน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดจาก Chosun Daily ระบุว่า Samsung ได้เริ่มการผลิต Galaxy Z Flip7 พร้อม Exynos 2500 แล้ว ซึ่งหากเป็นจริง นี่จะเป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนพับได้ของ Samsung ใช้ชิป Exynos เหตุผลหลักที่ Samsung เลือกใช้ Exynos แทน Snapdragon คือ ต้นทุน เนื่องจาก Qualcomm ได้ปรับราคาชิปเซ็ตให้สูงขึ้น ทำให้ Samsung หันมาพัฒนา SoC ของตัวเองเพื่อควบคุมต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า Galaxy Z Flip7 FE ซึ่งเป็นรุ่นราคาประหยัด อาจใช้ Exynos 2400e เช่นเดียวกับ Galaxy S24 FE และ Samsung อาจจัดงาน Unpacked ครั้งที่สองของปี ที่นิวยอร์กเพื่อเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ✅ การเปลี่ยนมาใช้ Exynos 2500 - Galaxy Z Flip7 จะใช้ Exynos 2500 แทน Snapdragon 8 Elite - เป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนพับได้ของ Samsung ใช้ชิป Exynos ✅ เหตุผลในการเปลี่ยนแปลง - Qualcomm ปรับราคาชิปเซ็ตให้สูงขึ้น - Samsung ต้องการควบคุมต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ✅ Galaxy Z Flip7 FE และ Exynos 2400e - รุ่นราคาประหยัดอาจใช้ Exynos 2400e เช่นเดียวกับ Galaxy S24 FE - อาจมีการเปิดตัวในงาน Unpacked ครั้งที่สองของปี ✅ การผลิตและการเปิดตัว - Samsung ได้เริ่มการผลิต Galaxy Z Flip7 พร้อม Exynos 2500 - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 https://www.neowin.net/news/samsung-allegedly-ditches-snapdragon-for-exynos-2500-in-galaxy-z-flip7/
    WWW.NEOWIN.NET
    Samsung allegedly ditches Snapdragon for Exynos 2500 in Galaxy Z Flip7
    For the first time ever, a Samsung foldable could reportedly be powered by an in-house Exynos processor.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung Electronics รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าธุรกิจชิป AI จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ยอดขายสมาร์ทโฟนและชิปสินค้าโภคภัณฑ์กลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้ากังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และเร่งซื้อสินค้าล่วงหน้า

    บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 6.7 ล้านล้านวอน (ประมาณ 4.68 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 1.2% จากปีที่แล้ว โดยธุรกิจชิปมีกำไรลดลงถึง 42% แต่ธุรกิจอุปกรณ์มือถือและเครือข่ายกลับมีกำไรเพิ่มขึ้น 23% เป็น 4.3 ล้านล้านวอน

    Samsung ยังไม่ได้ให้แนวโน้มรายได้สำหรับไตรมาสถัดไป เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการค้า

    ✅ ผลประกอบการไตรมาสแรก
    - กำไรจากการดำเนินงาน 6.7 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 1.2% จากปีที่แล้ว
    - รายได้รวม 79.1 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 10%

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจชิปและมือถือ
    - ธุรกิจชิปมีกำไรลดลง 42% เหลือ 1.1 ล้านล้านวอน
    - ธุรกิจมือถือและเครือข่ายมีกำไรเพิ่มขึ้น 23% เป็น 4.3 ล้านล้านวอน

    ✅ ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขาย
    - ลูกค้ากังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และเร่งซื้อสินค้าล่วงหน้า
    - ความต้องการสมาร์ทโฟนและชิปสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้น

    ✅ ความไม่แน่นอนในอนาคต
    - Samsung ไม่ได้ให้แนวโน้มรายได้สำหรับไตรมาสถัดไป
    - ความตึงเครียดทางการค้าและเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/samsung-electronics-operating-profit-rises-slightly-in-q1
    Samsung Electronics รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าธุรกิจชิป AI จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ยอดขายสมาร์ทโฟนและชิปสินค้าโภคภัณฑ์กลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้ากังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และเร่งซื้อสินค้าล่วงหน้า บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 6.7 ล้านล้านวอน (ประมาณ 4.68 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 1.2% จากปีที่แล้ว โดยธุรกิจชิปมีกำไรลดลงถึง 42% แต่ธุรกิจอุปกรณ์มือถือและเครือข่ายกลับมีกำไรเพิ่มขึ้น 23% เป็น 4.3 ล้านล้านวอน Samsung ยังไม่ได้ให้แนวโน้มรายได้สำหรับไตรมาสถัดไป เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการค้า ✅ ผลประกอบการไตรมาสแรก - กำไรจากการดำเนินงาน 6.7 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 1.2% จากปีที่แล้ว - รายได้รวม 79.1 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 10% ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจชิปและมือถือ - ธุรกิจชิปมีกำไรลดลง 42% เหลือ 1.1 ล้านล้านวอน - ธุรกิจมือถือและเครือข่ายมีกำไรเพิ่มขึ้น 23% เป็น 4.3 ล้านล้านวอน ✅ ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขาย - ลูกค้ากังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และเร่งซื้อสินค้าล่วงหน้า - ความต้องการสมาร์ทโฟนและชิปสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้น ✅ ความไม่แน่นอนในอนาคต - Samsung ไม่ได้ให้แนวโน้มรายได้สำหรับไตรมาสถัดไป - ความตึงเครียดทางการค้าและเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/samsung-electronics-operating-profit-rises-slightly-in-q1
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung Electronics operating profit rises slightly in Q1
    SEOUL (Reuters) -Samsung Electronics reported on Wednesday a small rise in first-quarter operating profit as customers concerned about U.S. tariffs rushed to purchase smartphones and commodity chips, mitigating the impact of its underperforming artificial intelligence chip business.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung ได้ประกาศอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน Galaxy A Series บางรุ่น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งาน Gemini AI Assistant ได้อย่างรวดเร็วผ่านการกดปุ่มด้านข้างค้างไว้ ฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะในรุ่นเรือธงอย่าง Galaxy S Series แต่ตอนนี้ถูกนำมาใช้ในรุ่นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เช่น Galaxy A56 5G, A36 5G และ A26 5G

    การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง Samsung และ Google ที่มุ่งเน้นการผสานรวม AI เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Gemini ได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น การตรวจสอบตารางเวลา ค้นหาสถานที่ใกล้เคียง หรือแชร์ตำแหน่งผ่านแอปต่างๆ โดยไม่ต้องปลดล็อกโทรศัพท์

    ฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดตัวทั่วโลกในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมสำหรับรุ่นที่รองรับ One UI 7

    ✅ การเปิดใช้งาน Gemini ผ่านปุ่มด้านข้าง
    - ช่วยให้ผู้ใช้เปิดใช้งาน AI Assistant ได้อย่างรวดเร็ว
    - ฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะใน Galaxy S Series แต่ตอนนี้ขยายมาสู่ Galaxy A Series

    ✅ การผสานรวม AI กับการใช้งานประจำวัน
    - ใช้ Gemini เพื่อค้นหาสถานที่ แชร์ตำแหน่ง หรือจัดการตารางเวลา
    - ช่วยให้การใช้งาน AI เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน

    ✅ ความร่วมมือระหว่าง Samsung และ Google
    - มุ่งเน้นการพัฒนา AI ที่ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม
    - ขยายฟีเจอร์ Awesome Intelligence ไปยัง Galaxy A Series

    ✅ การเปิดตัวฟีเจอร์
    - เริ่มเปิดตัวในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมสำหรับรุ่นที่รองรับ One UI 7

    https://www.neowin.net/news/certain-galaxy-a-series-users-will-soon-get-direct-gemini-access-through-the-side-button/
    Samsung ได้ประกาศอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน Galaxy A Series บางรุ่น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งาน Gemini AI Assistant ได้อย่างรวดเร็วผ่านการกดปุ่มด้านข้างค้างไว้ ฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะในรุ่นเรือธงอย่าง Galaxy S Series แต่ตอนนี้ถูกนำมาใช้ในรุ่นที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เช่น Galaxy A56 5G, A36 5G และ A26 5G การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง Samsung และ Google ที่มุ่งเน้นการผสานรวม AI เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Gemini ได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น การตรวจสอบตารางเวลา ค้นหาสถานที่ใกล้เคียง หรือแชร์ตำแหน่งผ่านแอปต่างๆ โดยไม่ต้องปลดล็อกโทรศัพท์ ฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดตัวทั่วโลกในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมสำหรับรุ่นที่รองรับ One UI 7 ✅ การเปิดใช้งาน Gemini ผ่านปุ่มด้านข้าง - ช่วยให้ผู้ใช้เปิดใช้งาน AI Assistant ได้อย่างรวดเร็ว - ฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะใน Galaxy S Series แต่ตอนนี้ขยายมาสู่ Galaxy A Series ✅ การผสานรวม AI กับการใช้งานประจำวัน - ใช้ Gemini เพื่อค้นหาสถานที่ แชร์ตำแหน่ง หรือจัดการตารางเวลา - ช่วยให้การใช้งาน AI เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน ✅ ความร่วมมือระหว่าง Samsung และ Google - มุ่งเน้นการพัฒนา AI ที่ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม - ขยายฟีเจอร์ Awesome Intelligence ไปยัง Galaxy A Series ✅ การเปิดตัวฟีเจอร์ - เริ่มเปิดตัวในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมสำหรับรุ่นที่รองรับ One UI 7 https://www.neowin.net/news/certain-galaxy-a-series-users-will-soon-get-direct-gemini-access-through-the-side-button/
    WWW.NEOWIN.NET
    Certain Galaxy A Series users will soon get direct Gemini access through the side button
    Samsung has announced eligible Galaxy A devices for its upcoming software update, which includes direct access to Gemini via the side button.
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts