• 🇮🇹 เส้นทางนางฟ้า อิตาลีเหนือจรดใต้ 10 วัน 7 คืน ☁️
    เดินทางกับ Emirates Airlines 🛫
    📆 เดินทาง : 4-13 ก.ค. 68 11-20 ก.ย. 68 11-20 ต.ค. 68

    📸 ไฮไลต์สุดปัง ✨

    * มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน 🏰
    * อุทยานโดโลไมท์ เทือกเขาแอลป์สุดอลังการ 🏞️
    * ทะเลสาบคาเรซซา / มิสุริน่า / เบรียส 💧
    * ขึ้นกระเช้า Seceda & แอลป์ดิซิอุสซี่ 🚠
    * หมู่บ้านชิงเกวแตร์เร 🏡
    * โพสิตาโน – อมาลฟี่โคสท์ – เกาะคาปรี 💙
    * ล่องเรือชมถ้ำบลูกรอตโต ⛵
    * ถ่ายรูปโคลอสเซี่ยม และมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในโรม 🏛️

    📌 ทริปเดียว ครบทั้งธรรมชาติ-หมู่บ้านน่ารัก-เมืองใหญ่สุดคลาสสิก

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #อิตาลีเหนือจรดใต้ #ทัวร์อิตาลี #เที่ยวอิตาลี #โพสิตาโน #คาปรี #โดโลไมท์ #CinqueTerre #Milano #Rome #BlueGrotto #eTravelWay #ItalyTour #เที่ยวกับเราไม่เหงาแน่นอน 💖
    🇮🇹 เส้นทางนางฟ้า อิตาลีเหนือจรดใต้ 10 วัน 7 คืน ☁️ เดินทางกับ Emirates Airlines 🛫 📆 เดินทาง : 4-13 ก.ค. 68 11-20 ก.ย. 68 11-20 ต.ค. 68 📸 ไฮไลต์สุดปัง ✨ * มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน 🏰 * อุทยานโดโลไมท์ เทือกเขาแอลป์สุดอลังการ 🏞️ * ทะเลสาบคาเรซซา / มิสุริน่า / เบรียส 💧 * ขึ้นกระเช้า Seceda & แอลป์ดิซิอุสซี่ 🚠 * หมู่บ้านชิงเกวแตร์เร 🏡 * โพสิตาโน – อมาลฟี่โคสท์ – เกาะคาปรี 💙 * ล่องเรือชมถ้ำบลูกรอตโต ⛵ * ถ่ายรูปโคลอสเซี่ยม และมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในโรม 🏛️ 📌 ทริปเดียว ครบทั้งธรรมชาติ-หมู่บ้านน่ารัก-เมืองใหญ่สุดคลาสสิก LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #อิตาลีเหนือจรดใต้ #ทัวร์อิตาลี #เที่ยวอิตาลี #โพสิตาโน #คาปรี #โดโลไมท์ #CinqueTerre #Milano #Rome #BlueGrotto #eTravelWay #ItalyTour #เที่ยวกับเราไม่เหงาแน่นอน 💖
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • PowerToys v0.91.1: อัปเดตใหม่แก้ไขข้อผิดพลาดสำคัญ

    Microsoft ปล่อยอัปเดต PowerToys v0.91.1 เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบในเวอร์ชันก่อนหน้า โดยเน้นไปที่ Command Palette, Workspaces และ Quick Accent ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้ Windows

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PowerToys v0.91.1
    ✅ Command Palette ได้รับการแก้ไขให้ทำงานในโหมดผู้ใช้ปกติแทนโหมด Administrator
    - แก้ไขปัญหาที่ ทำให้ Command Palette รันเป็น Admin โดยไม่ได้ตั้งใจ

    ✅ Workspaces รองรับการเปิดแอป Win32 พร้อมตัวเลือก command-line
    - แก้ไขข้อผิดพลาดที่ ทำให้ไม่สามารถใช้ command-line options กับแอปคลาสสิก เช่น Edge และ Chrome

    ✅ Quick Accent ปรับปรุงการเลือกตัวอักษรพิเศษให้ใช้งานง่ายขึ้น
    - ผู้ใช้ ไม่ต้องกดปุ่ม activation พร้อมกับตัวอักษรอีกต่อไป

    ✅ PowerToys สามารถอัปเดตผ่าน Microsoft Store, GitHub และ WinGet
    - ผู้ใช้สามารถ ติดตั้งหรืออัปเดตผ่านคำสั่ง
    winget install Microsoft.PowerToys -s winget

    https://www.neowin.net/news/powertoys-v0911-brings-fixes-for-command-pallete-workspaces-and-quick-accent/
    PowerToys v0.91.1: อัปเดตใหม่แก้ไขข้อผิดพลาดสำคัญ Microsoft ปล่อยอัปเดต PowerToys v0.91.1 เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบในเวอร์ชันก่อนหน้า โดยเน้นไปที่ Command Palette, Workspaces และ Quick Accent ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้ Windows 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PowerToys v0.91.1 ✅ Command Palette ได้รับการแก้ไขให้ทำงานในโหมดผู้ใช้ปกติแทนโหมด Administrator - แก้ไขปัญหาที่ ทำให้ Command Palette รันเป็น Admin โดยไม่ได้ตั้งใจ ✅ Workspaces รองรับการเปิดแอป Win32 พร้อมตัวเลือก command-line - แก้ไขข้อผิดพลาดที่ ทำให้ไม่สามารถใช้ command-line options กับแอปคลาสสิก เช่น Edge และ Chrome ✅ Quick Accent ปรับปรุงการเลือกตัวอักษรพิเศษให้ใช้งานง่ายขึ้น - ผู้ใช้ ไม่ต้องกดปุ่ม activation พร้อมกับตัวอักษรอีกต่อไป ✅ PowerToys สามารถอัปเดตผ่าน Microsoft Store, GitHub และ WinGet - ผู้ใช้สามารถ ติดตั้งหรืออัปเดตผ่านคำสั่ง winget install Microsoft.PowerToys -s winget https://www.neowin.net/news/powertoys-v0911-brings-fixes-for-command-pallete-workspaces-and-quick-accent/
    WWW.NEOWIN.NET
    PowerToys v0.91.1 brings fixes for Command Palette, Workspaces, and Quick Accent
    In this patch are mainly regression fixes for Command Palette, Workspaces, and Quick Accent, where in one case Command Palette is run as Admin instead of the user.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft นำฟีเจอร์ความปลอดภัยของ Edge มาสู่ Google Chrome

    Microsoft กำลังเพิ่มฟีเจอร์ "De-elevate browser on launch" ให้กับ Google Chrome ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เบราว์เซอร์ สามารถลดสิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้ที่เปิด Chrome ในโหมด Administrator โดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้ถูกนำมาใช้ใน Edge ตั้งแต่ปี 2019 และตอนนี้กำลังถูกนำมาใช้กับ Chrome ผ่านการพัฒนาใน Chromium Gerrit

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับฟีเจอร์ De-elevate browser on launch
    ✅ Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ลดสิทธิ์การเข้าถึงของ Chrome เมื่อเปิดในโหมด Administrator
    - ฟีเจอร์นี้ ช่วยป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากการรันเบราว์เซอร์ด้วยสิทธิ์สูงสุด

    ✅ Edge มีฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่ปี 2019 และได้รับการปรับปรุงในปีเดียวกัน
    - โดยเพิ่ม ตัวเลือกให้เบราว์เซอร์สามารถรีสตาร์ทโดยอัตโนมัติในโหมดปกติ

    ✅ Google Chrome จะได้รับฟีเจอร์นี้ผ่านการพัฒนาใน Chromium Gerrit
    - ฟีเจอร์นี้ ถูกเพิ่มโดย Stefan Smolen วิศวกรของ Microsoft ที่เคยนำฟีเจอร์นี้มาใช้กับ Edge

    ✅ ฟีเจอร์นี้จะไม่ทำงานในโหมด Automation เพื่อไม่ให้รบกวนเครื่องมืออัตโนมัติ
    - ทำให้ นักพัฒนาและผู้ใช้ที่ต้องการรัน Chrome ในโหมด Automation สามารถใช้งานได้ตามปกติ

    ✅ Microsoft ยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Chromium แม้จะเป็นคู่แข่งกับ Google
    - แสดงให้เห็นว่า Microsoft ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเบราว์เซอร์โดยรวม

    https://www.neowin.net/news/microsoft-finally-making-google-chrome-as-good-as-edge-by-blocking-admin-rights/
    Microsoft นำฟีเจอร์ความปลอดภัยของ Edge มาสู่ Google Chrome Microsoft กำลังเพิ่มฟีเจอร์ "De-elevate browser on launch" ให้กับ Google Chrome ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เบราว์เซอร์ สามารถลดสิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้ที่เปิด Chrome ในโหมด Administrator โดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้ถูกนำมาใช้ใน Edge ตั้งแต่ปี 2019 และตอนนี้กำลังถูกนำมาใช้กับ Chrome ผ่านการพัฒนาใน Chromium Gerrit 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับฟีเจอร์ De-elevate browser on launch ✅ Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ลดสิทธิ์การเข้าถึงของ Chrome เมื่อเปิดในโหมด Administrator - ฟีเจอร์นี้ ช่วยป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากการรันเบราว์เซอร์ด้วยสิทธิ์สูงสุด ✅ Edge มีฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่ปี 2019 และได้รับการปรับปรุงในปีเดียวกัน - โดยเพิ่ม ตัวเลือกให้เบราว์เซอร์สามารถรีสตาร์ทโดยอัตโนมัติในโหมดปกติ ✅ Google Chrome จะได้รับฟีเจอร์นี้ผ่านการพัฒนาใน Chromium Gerrit - ฟีเจอร์นี้ ถูกเพิ่มโดย Stefan Smolen วิศวกรของ Microsoft ที่เคยนำฟีเจอร์นี้มาใช้กับ Edge ✅ ฟีเจอร์นี้จะไม่ทำงานในโหมด Automation เพื่อไม่ให้รบกวนเครื่องมืออัตโนมัติ - ทำให้ นักพัฒนาและผู้ใช้ที่ต้องการรัน Chrome ในโหมด Automation สามารถใช้งานได้ตามปกติ ✅ Microsoft ยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Chromium แม้จะเป็นคู่แข่งกับ Google - แสดงให้เห็นว่า Microsoft ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเบราว์เซอร์โดยรวม https://www.neowin.net/news/microsoft-finally-making-google-chrome-as-good-as-edge-by-blocking-admin-rights/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft finally making Google Chrome as good as Edge by blocking Admin rights
    Microsoft is improving Google's Chrome in one aspect to make it as good as Edge is. The company is working on blocking Admin rights.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • CISA เตือนช่องโหว่ใหม่ใน Chrome แม้ Google จะออกแพตช์แล้ว

    CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) เพิ่มช่องโหว่ใหม่ของ Chrome เข้าไปในรายการ Known Exploited Vulnerabilities (KEV) ซึ่งหมายความว่า ช่องโหว่นี้กำลังถูกใช้โจมตีในโลกไซเบอร์ แม้ว่า Google จะออกแพตช์แก้ไขแล้ว

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-4664
    ✅ ช่องโหว่ถูกค้นพบโดยนักวิจัยจาก Solidlab เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2025
    - เป็น ปัญหาการบังคับใช้นโยบายที่ไม่เพียงพอใน Loader ของ Chrome

    ✅ ช่องโหว่ทำให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลข้ามโดเมนผ่าน HTML ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ
    - อาจนำไปสู่ การเข้ายึดบัญชี (Account Takeover) ใน OAuth flows

    ✅ Google ออกแพตช์แก้ไขเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2025
    - เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 136.0.7103.113 สำหรับ Windows/Linux และ 136.0.7103.114 สำหรับ macOS

    ✅ CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องอัปเดต Chrome ภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2025
    - หากไม่สามารถอัปเดตได้ ต้องหยุดใช้ Chrome ทันที

    ✅ ช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรขนาดใหญ่
    - เนื่องจาก เว็บเบราว์เซอร์เป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์

    https://www.techradar.com/pro/security/chrome-patched-this-bug-but-cisa-says-its-still-actively-exploited
    CISA เตือนช่องโหว่ใหม่ใน Chrome แม้ Google จะออกแพตช์แล้ว CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) เพิ่มช่องโหว่ใหม่ของ Chrome เข้าไปในรายการ Known Exploited Vulnerabilities (KEV) ซึ่งหมายความว่า ช่องโหว่นี้กำลังถูกใช้โจมตีในโลกไซเบอร์ แม้ว่า Google จะออกแพตช์แก้ไขแล้ว 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-4664 ✅ ช่องโหว่ถูกค้นพบโดยนักวิจัยจาก Solidlab เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 - เป็น ปัญหาการบังคับใช้นโยบายที่ไม่เพียงพอใน Loader ของ Chrome ✅ ช่องโหว่ทำให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลข้ามโดเมนผ่าน HTML ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ - อาจนำไปสู่ การเข้ายึดบัญชี (Account Takeover) ใน OAuth flows ✅ Google ออกแพตช์แก้ไขเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2025 - เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 136.0.7103.113 สำหรับ Windows/Linux และ 136.0.7103.114 สำหรับ macOS ✅ CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องอัปเดต Chrome ภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2025 - หากไม่สามารถอัปเดตได้ ต้องหยุดใช้ Chrome ทันที ✅ ช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรขนาดใหญ่ - เนื่องจาก เว็บเบราว์เซอร์เป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ https://www.techradar.com/pro/security/chrome-patched-this-bug-but-cisa-says-its-still-actively-exploited
    WWW.TECHRADAR.COM
    Chrome patched this bug, but CISA says it's still actively exploited
    CISA added it to KEV, giving FCEB agencies three weeks to patch up
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • น่าสนใจทีเดียว ลุงก็ไม่ชอบลง app พวกนี้ เพราะใช้น้อยครั้งมาก

    MSI เปิดตัว PortalX: ควบคุมไฟ RGB ผ่านเว็บโดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์

    MSI ได้เปิดตัว PortalX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมไฟ RGB ของอุปกรณ์ MSI ผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม เช่น MSI Center หรือ Mystic Light

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MSI PortalX
    ✅ PortalX เป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมไฟ RGB ได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์
    - รองรับ เมนบอร์ด, การ์ดจอ, พัดลมระบายความร้อน, คีย์บอร์ด และเมาส์ของ MSI

    ✅ ระบบสามารถตรวจจับอุปกรณ์ MSI ที่เชื่อมต่อกับเครื่องโดยอัตโนมัติ
    - ทำให้ การตั้งค่า RGB ง่ายขึ้นและลดความยุ่งยากในการติดตั้งซอฟต์แวร์

    ✅ PortalX รองรับเฉพาะ Windows ในตอนนี้
    - MSI ยังไม่มีแผนรองรับ macOS หรือ Linux

    ✅ แพลตฟอร์มนี้ใช้ Microsoft Edge ในการทดสอบ แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์อื่น ๆ
    - ผู้ใช้ อาจต้องรอการประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรองรับ Chrome หรือ Firefox

    https://www.tomshardware.com/software/msi-preps-web-based-rgb-controls-so-you-dont-have-to-install-bloatware-on-your-pc
    น่าสนใจทีเดียว ลุงก็ไม่ชอบลง app พวกนี้ เพราะใช้น้อยครั้งมาก MSI เปิดตัว PortalX: ควบคุมไฟ RGB ผ่านเว็บโดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ MSI ได้เปิดตัว PortalX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมไฟ RGB ของอุปกรณ์ MSI ผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม เช่น MSI Center หรือ Mystic Light 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MSI PortalX ✅ PortalX เป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมไฟ RGB ได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ - รองรับ เมนบอร์ด, การ์ดจอ, พัดลมระบายความร้อน, คีย์บอร์ด และเมาส์ของ MSI ✅ ระบบสามารถตรวจจับอุปกรณ์ MSI ที่เชื่อมต่อกับเครื่องโดยอัตโนมัติ - ทำให้ การตั้งค่า RGB ง่ายขึ้นและลดความยุ่งยากในการติดตั้งซอฟต์แวร์ ✅ PortalX รองรับเฉพาะ Windows ในตอนนี้ - MSI ยังไม่มีแผนรองรับ macOS หรือ Linux ✅ แพลตฟอร์มนี้ใช้ Microsoft Edge ในการทดสอบ แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์อื่น ๆ - ผู้ใช้ อาจต้องรอการประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรองรับ Chrome หรือ Firefox https://www.tomshardware.com/software/msi-preps-web-based-rgb-controls-so-you-dont-have-to-install-bloatware-on-your-pc
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    MSI preps web-based RGB controls so you don't have to install bloatware on your PC
    MSI PortalX is set to become the web hub for RGB control and customization.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10 ส่วนขยาย Chrome ที่นักเล่นเกมควรมีในปี 2025

    Google Chrome ไม่ได้เป็นเพียงเบราว์เซอร์สำหรับการท่องเว็บ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเล่นเกมที่ต้องการ เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมผ่านเบราว์เซอร์ โดยมีส่วนขยายที่ช่วยให้การเล่นเกมสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ บล็อกโฆษณา, ปรับปรุงประสิทธิภาพเกม หรือช่วยติดตามดีลเกมราคาถูก

    ✅ Twitch Adblock – บล็อกโฆษณาบน Twitch
    - ช่วยให้ ดูสตรีมเกมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีโฆษณาขัดจังหวะ

    ✅ GameTrack – ติดตามเกมที่เล่นและเกมที่อยากได้
    - ซิงค์กับ Steam, GOG และ Epic Games เพื่อช่วยจัดการรายการเกม

    ✅ Loom – บันทึกวิดีโอเกมเพียงคลิกเดียว
    - เหมาะสำหรับ นักสร้างคอนเทนต์และผู้เล่นที่ต้องการแชร์คลิปเกม

    ✅ FPS Monitor Web Companion – แสดงข้อมูลประสิทธิภาพเกมแบบเรียลไทม์
    - ช่วยให้ ผู้เล่นสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเพื่อให้เกมลื่นไหลขึ้น

    ✅ Augmented Steam – เพิ่มฟีเจอร์ให้กับ Steam
    - แสดง ประวัติราคาของเกม, รีวิว และตัวกรองการค้นหาที่ดีขึ้น

    ✅ Discord Screen Share Fix – แก้ปัญหาจอดำเมื่อแชร์หน้าจอผ่าน Discord
    - ปรับปรุง การตั้งค่าฮาร์ดแวร์เพื่อให้การแชร์หน้าจอราบรื่นขึ้น

    ✅ uBlock Origin – บล็อกโฆษณาและตัวติดตามข้อมูล
    - ลด การใช้ทรัพยากรระบบและช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น

    ✅ GameDeals – แจ้งเตือนดีลเกมราคาถูก
    - แสดง ราคาล่าสุดจากหลายแพลตฟอร์ม เช่น Steam และ Epic Games

    ✅ Twitch Now – แจ้งเตือนเมื่อสตรีมเมอร์ที่ติดตามเริ่มไลฟ์
    - ช่วยให้ ไม่พลาดการแข่งขัน eSports หรือสตรีมเกมที่ชื่นชอบ

    ✅ Stadia+ – ปรับปรุง UI ของบริการเกมบนคลาวด์
    - เพิ่ม ตัวเลือกการตั้งค่าคุณภาพภาพและการบันทึกเกม

    https://computercity.com/software/browsers/10-essential-chrome-extensions-for-gamers
    10 ส่วนขยาย Chrome ที่นักเล่นเกมควรมีในปี 2025 Google Chrome ไม่ได้เป็นเพียงเบราว์เซอร์สำหรับการท่องเว็บ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเล่นเกมที่ต้องการ เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมผ่านเบราว์เซอร์ โดยมีส่วนขยายที่ช่วยให้การเล่นเกมสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ บล็อกโฆษณา, ปรับปรุงประสิทธิภาพเกม หรือช่วยติดตามดีลเกมราคาถูก ✅ Twitch Adblock – บล็อกโฆษณาบน Twitch - ช่วยให้ ดูสตรีมเกมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีโฆษณาขัดจังหวะ ✅ GameTrack – ติดตามเกมที่เล่นและเกมที่อยากได้ - ซิงค์กับ Steam, GOG และ Epic Games เพื่อช่วยจัดการรายการเกม ✅ Loom – บันทึกวิดีโอเกมเพียงคลิกเดียว - เหมาะสำหรับ นักสร้างคอนเทนต์และผู้เล่นที่ต้องการแชร์คลิปเกม ✅ FPS Monitor Web Companion – แสดงข้อมูลประสิทธิภาพเกมแบบเรียลไทม์ - ช่วยให้ ผู้เล่นสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเพื่อให้เกมลื่นไหลขึ้น ✅ Augmented Steam – เพิ่มฟีเจอร์ให้กับ Steam - แสดง ประวัติราคาของเกม, รีวิว และตัวกรองการค้นหาที่ดีขึ้น ✅ Discord Screen Share Fix – แก้ปัญหาจอดำเมื่อแชร์หน้าจอผ่าน Discord - ปรับปรุง การตั้งค่าฮาร์ดแวร์เพื่อให้การแชร์หน้าจอราบรื่นขึ้น ✅ uBlock Origin – บล็อกโฆษณาและตัวติดตามข้อมูล - ลด การใช้ทรัพยากรระบบและช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น ✅ GameDeals – แจ้งเตือนดีลเกมราคาถูก - แสดง ราคาล่าสุดจากหลายแพลตฟอร์ม เช่น Steam และ Epic Games ✅ Twitch Now – แจ้งเตือนเมื่อสตรีมเมอร์ที่ติดตามเริ่มไลฟ์ - ช่วยให้ ไม่พลาดการแข่งขัน eSports หรือสตรีมเกมที่ชื่นชอบ ✅ Stadia+ – ปรับปรุง UI ของบริการเกมบนคลาวด์ - เพิ่ม ตัวเลือกการตั้งค่าคุณภาพภาพและการบันทึกเกม https://computercity.com/software/browsers/10-essential-chrome-extensions-for-gamers
    COMPUTERCITY.COM
    10 Essential Chrome Extensions for Gamers
    Google Chrome has become an essential tool for many gamers, offering a platform for cloud gaming, browser games, and access to gaming-focused websites. With
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ปรับลดสิทธิ์แอดมินของ Chrome เพื่อเพิ่มความปลอดภัยจากส่วนขยายที่เป็นอันตราย

    Google กำลังดำเนินการ ลดสิทธิ์แอดมินของ Chrome โดยค่าเริ่มต้น เพื่อป้องกัน ส่วนขยายที่เป็นอันตรายและเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยลดโอกาสที่ แฮกเกอร์จะใช้สิทธิ์แอดมินเพื่อโจมตีระบบผ่านเบราว์เซอร์

    ✅ Google จะทำให้ Chrome ไม่รันด้วยสิทธิ์แอดมินโดยค่าเริ่มต้น
    - ช่วยลดความเสี่ยงจาก ส่วนขยายที่เป็นอันตรายและเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์

    ✅ Microsoft เป็นผู้เสนอการเปลี่ยนแปลงนี้ให้กับ Chromium
    - ฟีเจอร์นี้ เคยถูกนำมาใช้ใน Edge ตั้งแต่ปี 2019

    ✅ เมื่อผู้ใช้เปิด Chrome ด้วยสิทธิ์แอดมิน ระบบจะพยายามลดสิทธิ์โดยอัตโนมัติ
    - หากการลดสิทธิ์ล้มเหลว Chrome จะกลับไปใช้พฤติกรรมเดิม

    ✅ การลดสิทธิ์แอดมินช่วยป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ที่ใช้เบราว์เซอร์เป็นช่องทางเข้าถึงข้อมูล
    - ลดโอกาสที่ มัลแวร์จะสามารถรันคำสั่งที่เป็นอันตรายได้

    ✅ Google แนะนำให้ผู้ใช้ไม่เปิด Chrome ด้วยสิทธิ์แอดมิน
    - เพื่อ ลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์

    https://www.techradar.com/pro/security/google-removes-chrome-admin-privileges-to-reduce-threat-posed-by-dodgy-extensions
    Google ปรับลดสิทธิ์แอดมินของ Chrome เพื่อเพิ่มความปลอดภัยจากส่วนขยายที่เป็นอันตราย Google กำลังดำเนินการ ลดสิทธิ์แอดมินของ Chrome โดยค่าเริ่มต้น เพื่อป้องกัน ส่วนขยายที่เป็นอันตรายและเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยลดโอกาสที่ แฮกเกอร์จะใช้สิทธิ์แอดมินเพื่อโจมตีระบบผ่านเบราว์เซอร์ ✅ Google จะทำให้ Chrome ไม่รันด้วยสิทธิ์แอดมินโดยค่าเริ่มต้น - ช่วยลดความเสี่ยงจาก ส่วนขยายที่เป็นอันตรายและเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์ ✅ Microsoft เป็นผู้เสนอการเปลี่ยนแปลงนี้ให้กับ Chromium - ฟีเจอร์นี้ เคยถูกนำมาใช้ใน Edge ตั้งแต่ปี 2019 ✅ เมื่อผู้ใช้เปิด Chrome ด้วยสิทธิ์แอดมิน ระบบจะพยายามลดสิทธิ์โดยอัตโนมัติ - หากการลดสิทธิ์ล้มเหลว Chrome จะกลับไปใช้พฤติกรรมเดิม ✅ การลดสิทธิ์แอดมินช่วยป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ที่ใช้เบราว์เซอร์เป็นช่องทางเข้าถึงข้อมูล - ลดโอกาสที่ มัลแวร์จะสามารถรันคำสั่งที่เป็นอันตรายได้ ✅ Google แนะนำให้ผู้ใช้ไม่เปิด Chrome ด้วยสิทธิ์แอดมิน - เพื่อ ลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์ https://www.techradar.com/pro/security/google-removes-chrome-admin-privileges-to-reduce-threat-posed-by-dodgy-extensions
    WWW.TECHRADAR.COM
    Google removes Chrome admin privileges to reduce threat posed by dodgy extensions
    Future versions of Chrome should de-elevate from admin privileges by default
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✅วัคซีนป้องกันไวรัส RSV ปลอดภัยจริงหรือ
    ✍️วางแผนจะนำมาฉีดในเด็ก ปรากฏว่าฉีดไปแล้ว โรคกลับรุนแรงกว่าที่ไม่ฉีด VRBPAC สั่งระงับ 12 ธันวาคม 2024
    https://www.facebook.com/share/p/19wLKQmfRL/
    ✍️สื่อไทยสร้างกระแสลวง
    https://www.facebook.com/share/p/1EMyLCA5dp/
    ✍️หมอดื้อแนะ อย่าประสาทไปกับ HMPV RSV FluA/B โควิด ออกข่าวครึกโครม ลวงโลก
    https://www.facebook.com/share/p/18qguCWUet/
    ✍️วัคซีนไม่ใช่ทางออกที่ปลอดภัย หมอดื้อแจงยาที่ถูกมองข้าม
    https://www.facebook.com/share/p/1QLPq56GZK/
    ✍️RSV mRNA vaccine ทำให้เด็กติดเชื้อหนักกว่าเดิม I หมอชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ
    https://www.facebook.com/share/p/18yQNvgmLR/
    ✍️อย สหรัฐให้ประกาศคำเตือนหลังฉีดวัคซีน RSV เกิด เส้นประสาทอักเสบทั้งตัว GBS
    https://www.facebook.com/share/p/18srXSRN6U/
    ✍️วัคซีน RSV ที่ทดสอบในเด็กอายุเกินหกเดือน พบว่าเมื่อติดเชื้อกลับมีอาการของโรครุนแรงขึ้นต้องเข้าโรงพยาบาล
    https://www.fda.gov/vaccines-blood-biologics/safety-availability-biologics/fda-requires-guillain-barre-syndrome-gbs-warning-prescribing-information-rsv-vaccines-abrysvo-and?mtm_source=25
    ✍️หมอยงแจงเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเชื้อ RSV ความพยายามสร้างวัคซีนยังไม่สำเร็จ
    https://www.thaipost.net/human-life-news/755522/

    รวบรวมโดย
    แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅วัคซีนป้องกันไวรัส RSV ปลอดภัยจริงหรือ ✍️วางแผนจะนำมาฉีดในเด็ก ปรากฏว่าฉีดไปแล้ว โรคกลับรุนแรงกว่าที่ไม่ฉีด VRBPAC สั่งระงับ 12 ธันวาคม 2024 https://www.facebook.com/share/p/19wLKQmfRL/ ✍️สื่อไทยสร้างกระแสลวง https://www.facebook.com/share/p/1EMyLCA5dp/ ✍️หมอดื้อแนะ อย่าประสาทไปกับ HMPV RSV FluA/B โควิด ออกข่าวครึกโครม ลวงโลก https://www.facebook.com/share/p/18qguCWUet/ ✍️วัคซีนไม่ใช่ทางออกที่ปลอดภัย หมอดื้อแจงยาที่ถูกมองข้าม https://www.facebook.com/share/p/1QLPq56GZK/ ✍️RSV mRNA vaccine ทำให้เด็กติดเชื้อหนักกว่าเดิม I หมอชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ https://www.facebook.com/share/p/18yQNvgmLR/ ✍️อย สหรัฐให้ประกาศคำเตือนหลังฉีดวัคซีน RSV เกิด เส้นประสาทอักเสบทั้งตัว GBS https://www.facebook.com/share/p/18srXSRN6U/ ✍️วัคซีน RSV ที่ทดสอบในเด็กอายุเกินหกเดือน พบว่าเมื่อติดเชื้อกลับมีอาการของโรครุนแรงขึ้นต้องเข้าโรงพยาบาล https://www.fda.gov/vaccines-blood-biologics/safety-availability-biologics/fda-requires-guillain-barre-syndrome-gbs-warning-prescribing-information-rsv-vaccines-abrysvo-and?mtm_source=25 ✍️หมอยงแจงเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเชื้อ RSV ความพยายามสร้างวัคซีนยังไม่สำเร็จ https://www.thaipost.net/human-life-news/755522/ รวบรวมโดย แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ปรับโฉมโลโก้ 'G' ด้วยดีไซน์ไล่เฉดสี หลังจากใช้แบบเดิมมานานเกือบ 10 ปี

    Google ได้ทำการปรับโฉมโลโก้ 'G' ที่ใช้ในแอปและอุปกรณ์มือถือ โดยเปลี่ยนจาก สีที่แบ่งเป็นสี่ส่วนชัดเจน ไปเป็น การไล่เฉดสีแบบต่อเนื่อง ตั้งแต่ แดง → เหลือง → เขียว → น้ำเงิน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015

    ✅ Google เปลี่ยนโลโก้ 'G' จากสีที่แบ่งเป็นสี่ส่วนไปเป็นไล่เฉดสีต่อเนื่อง
    - สีใหม่ ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น และสอดคล้องกับดีไซน์ของแบรนด์ Gemini และ AI Mode

    ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้จำกัดเฉพาะโลโก้ 'G' ที่ใช้ในแอปและอุปกรณ์มือถือ
    - ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้ Google แบบเต็มคำ หรือโลโก้ของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น Chrome หรือ Maps

    ✅ โลโก้ใหม่เริ่มปรากฏในแอป Google Search บน iOS และเวอร์ชันเบต้าบน Android
    - คาดว่าจะทยอยเปิดตัวในแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในอนาคต

    ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงแนวโน้มการออกแบบที่เน้นความลื่นไหลและความทันสมัย
    - อาจเป็นสัญญาณของการปรับโฉมแบรนด์ในอนาคต

    ✅ Google ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้
    - ยังไม่แน่ชัดว่าโลโก้ใหม่จะถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ หรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107890-google-g-logo-gets-gradient-refresh-after-nearly.html
    Google ปรับโฉมโลโก้ 'G' ด้วยดีไซน์ไล่เฉดสี หลังจากใช้แบบเดิมมานานเกือบ 10 ปี Google ได้ทำการปรับโฉมโลโก้ 'G' ที่ใช้ในแอปและอุปกรณ์มือถือ โดยเปลี่ยนจาก สีที่แบ่งเป็นสี่ส่วนชัดเจน ไปเป็น การไล่เฉดสีแบบต่อเนื่อง ตั้งแต่ แดง → เหลือง → เขียว → น้ำเงิน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015 ✅ Google เปลี่ยนโลโก้ 'G' จากสีที่แบ่งเป็นสี่ส่วนไปเป็นไล่เฉดสีต่อเนื่อง - สีใหม่ ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น และสอดคล้องกับดีไซน์ของแบรนด์ Gemini และ AI Mode ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้จำกัดเฉพาะโลโก้ 'G' ที่ใช้ในแอปและอุปกรณ์มือถือ - ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้ Google แบบเต็มคำ หรือโลโก้ของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น Chrome หรือ Maps ✅ โลโก้ใหม่เริ่มปรากฏในแอป Google Search บน iOS และเวอร์ชันเบต้าบน Android - คาดว่าจะทยอยเปิดตัวในแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในอนาคต ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงแนวโน้มการออกแบบที่เน้นความลื่นไหลและความทันสมัย - อาจเป็นสัญญาณของการปรับโฉมแบรนด์ในอนาคต ✅ Google ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ - ยังไม่แน่ชัดว่าโลโก้ใหม่จะถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ หรือไม่ https://www.techspot.com/news/107890-google-g-logo-gets-gradient-refresh-after-nearly.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google's 'G' logo gets a gradient refresh after nearly a decade
    The last time we wrote about a Google logo update was back in September 1, 2015. That change was more radical, shifting from serif lettering to the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ใช้ AI บน Chrome เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์แบบเรียลไทม์ Google ได้เปิดตัว ระบบ AI บน Chrome ที่ช่วย ตรวจจับและป้องกันการหลอกลวงออนไลน์แบบเรียลไทม์ โดยใช้ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ในโหมด Enhanced Protection ซึ่งช่วยให้ สามารถวิเคราะห์เว็บไซต์และแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับความเสี่ยงได้ทันที

    นอกจากนี้ Google ยังใช้ Gemini Nano LLM เพื่อช่วย ป้องกันการแจ้งเตือนที่เป็นอันตรายบน Chrome สำหรับ Android โดยระบบจะ ตรวจสอบและแจ้งเตือนผู้ใช้หากพบว่าการแจ้งเตือนอาจเป็นภัยคุกคาม

    ✅ Google ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ในโหมด Enhanced Protection ของ Chrome
    - ช่วยให้ สามารถวิเคราะห์เว็บไซต์และแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับความเสี่ยงได้ทันที

    ✅ Gemini Nano LLM ถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการแจ้งเตือนที่เป็นอันตรายบน Chrome สำหรับ Android
    - ระบบจะ ตรวจสอบและแจ้งเตือนผู้ใช้หากพบว่าการแจ้งเตือนอาจเป็นภัยคุกคาม

    ✅ AI ของ Google สามารถตรวจจับหน้าเว็บหลอกลวงได้มากขึ้นถึง 20 เท่า
    - ทำให้ สามารถลดจำนวนเว็บไซต์หลอกลวงที่ปรากฏบนผลการค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ Google ใช้ AI เพื่อป้องกันการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับบริการลูกค้าสายการบิน
    - ส่งผลให้ จำนวนการหลอกลวงประเภทนี้ลดลงกว่า 80%

    ✅ AI ของ Google สามารถปรับตัวให้เข้ากับเทคนิคการหลอกลวงใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
    - ทำให้ สามารถป้องกันภัยคุกคามที่เกิดขึ้นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.techspot.com/news/107865-google-adds-device-ai-chrome-catch-scams-real.html
    Google ใช้ AI บน Chrome เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์แบบเรียลไทม์ Google ได้เปิดตัว ระบบ AI บน Chrome ที่ช่วย ตรวจจับและป้องกันการหลอกลวงออนไลน์แบบเรียลไทม์ โดยใช้ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ในโหมด Enhanced Protection ซึ่งช่วยให้ สามารถวิเคราะห์เว็บไซต์และแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับความเสี่ยงได้ทันที นอกจากนี้ Google ยังใช้ Gemini Nano LLM เพื่อช่วย ป้องกันการแจ้งเตือนที่เป็นอันตรายบน Chrome สำหรับ Android โดยระบบจะ ตรวจสอบและแจ้งเตือนผู้ใช้หากพบว่าการแจ้งเตือนอาจเป็นภัยคุกคาม ✅ Google ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ในโหมด Enhanced Protection ของ Chrome - ช่วยให้ สามารถวิเคราะห์เว็บไซต์และแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับความเสี่ยงได้ทันที ✅ Gemini Nano LLM ถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการแจ้งเตือนที่เป็นอันตรายบน Chrome สำหรับ Android - ระบบจะ ตรวจสอบและแจ้งเตือนผู้ใช้หากพบว่าการแจ้งเตือนอาจเป็นภัยคุกคาม ✅ AI ของ Google สามารถตรวจจับหน้าเว็บหลอกลวงได้มากขึ้นถึง 20 เท่า - ทำให้ สามารถลดจำนวนเว็บไซต์หลอกลวงที่ปรากฏบนผลการค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ Google ใช้ AI เพื่อป้องกันการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับบริการลูกค้าสายการบิน - ส่งผลให้ จำนวนการหลอกลวงประเภทนี้ลดลงกว่า 80% ✅ AI ของ Google สามารถปรับตัวให้เข้ากับเทคนิคการหลอกลวงใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว - ทำให้ สามารถป้องกันภัยคุกคามที่เกิดขึ้นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.techspot.com/news/107865-google-adds-device-ai-chrome-catch-scams-real.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google adds on-device AI to Chrome to catch scams in real time
    Google now deploys its latest artificial intelligence advancements to detect and combat online scams more effectively. By integrating large language models into platforms like Search, Chrome, and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • ห้องน้ำอัจฉริยะพร้อมระบบจำกัดเวลาเปิดใช้งานในเมือง Long Beach เมือง Long Beach ได้เปิดตัว โครงการนำร่องห้องน้ำอัจฉริยะ โดยร่วมมือกับ Throne Labs ซึ่งเป็นบริษัทจาก Washington DC ห้องน้ำเหล่านี้ถูกเรียกว่า "Thrones" และมีระบบ QR Code สำหรับการเข้าใช้งาน

    ผู้ใช้สามารถ สแกน QR Code เพื่อรับข้อความเปิดประตู หรือใช้ รหัสที่พิมพ์ได้สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมี บัตรเข้าถึงแบบกายภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบไม่ต้องใช้เทคโนโลยี

    ✅ ห้องน้ำอัจฉริยะใช้ QR Code และรหัสผ่านเพื่อเปิดประตู
    - ช่วยให้ สามารถควบคุมการเข้าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ มีระบบแจ้งสถานะห้องน้ำแบบดิจิทัล
    - แสดงว่า ห้องน้ำว่าง, กำลังใช้งาน, กำลังทำความสะอาด หรือปิดให้บริการ

    ✅ จำกัดเวลาใช้งาน 10 นาทีต่อครั้ง
    - หลังจากครบเวลา ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัติ

    ✅ ติดตั้งที่ Belmont Pier, Shoreline Marina, Harvey Milk Promenade Park และ DeForest Park
    - เลือกพื้นที่ที่มี ความต้องการห้องน้ำสูงแต่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ

    ✅ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,200 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อห้องน้ำ
    - รวมเป็น 100,000 ดอลลาร์สำหรับโครงการนำร่อง 4 เดือน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/10/time-restricted-039smart039-toilets-arrive-as-us-city-looks-to-plug-restroom-gaps
    ห้องน้ำอัจฉริยะพร้อมระบบจำกัดเวลาเปิดใช้งานในเมือง Long Beach เมือง Long Beach ได้เปิดตัว โครงการนำร่องห้องน้ำอัจฉริยะ โดยร่วมมือกับ Throne Labs ซึ่งเป็นบริษัทจาก Washington DC ห้องน้ำเหล่านี้ถูกเรียกว่า "Thrones" และมีระบบ QR Code สำหรับการเข้าใช้งาน ผู้ใช้สามารถ สแกน QR Code เพื่อรับข้อความเปิดประตู หรือใช้ รหัสที่พิมพ์ได้สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมี บัตรเข้าถึงแบบกายภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบไม่ต้องใช้เทคโนโลยี ✅ ห้องน้ำอัจฉริยะใช้ QR Code และรหัสผ่านเพื่อเปิดประตู - ช่วยให้ สามารถควบคุมการเข้าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ มีระบบแจ้งสถานะห้องน้ำแบบดิจิทัล - แสดงว่า ห้องน้ำว่าง, กำลังใช้งาน, กำลังทำความสะอาด หรือปิดให้บริการ ✅ จำกัดเวลาใช้งาน 10 นาทีต่อครั้ง - หลังจากครบเวลา ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัติ ✅ ติดตั้งที่ Belmont Pier, Shoreline Marina, Harvey Milk Promenade Park และ DeForest Park - เลือกพื้นที่ที่มี ความต้องการห้องน้ำสูงแต่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ ✅ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,200 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อห้องน้ำ - รวมเป็น 100,000 ดอลลาร์สำหรับโครงการนำร่อง 4 เดือน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/10/time-restricted-039smart039-toilets-arrive-as-us-city-looks-to-plug-restroom-gaps
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft แก้ไขปัญหาตัวตรวจสอบการสะกดคำใน Edge หลังจากที่ Microsoft ปล่อย Edge 136 เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม พบว่า Microsoft Editor ซึ่งเป็นตัวตรวจสอบการสะกดคำใน Edge หยุดทำงาน ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถรับคำแนะนำเกี่ยวกับคำที่สะกดผิดได้

    ล่าสุด Microsoft ได้ออก Edge เวอร์ชัน 136.0.3240.64 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ พร้อมกับ แพตช์ความปลอดภัยสำหรับช่องโหว่ CVE-2025-4372 ซึ่งเป็นช่องโหว่ใน WebAudio ของ Chromium ที่อาจถูกใช้ในการโจมตีผ่าน HTML ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ

    ✅ Microsoft แก้ไขปัญหาที่ทำให้ Microsoft Editor หยุดทำงาน
    - ผู้ใช้สามารถ รับคำแนะนำเกี่ยวกับคำที่สะกดผิดได้อีกครั้ง

    ✅ Edge เวอร์ชัน 136.0.3240.64 มาพร้อมกับแพตช์ความปลอดภัยสำหรับ CVE-2025-4372
    - ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ WebAudio ใน Chromium

    ✅ Microsoft Editor ส่งข้อมูลที่พิมพ์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Microsoft เพื่อประมวลผลและตรวจสอบการสะกดคำ
    - ฟีเจอร์นี้ เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น

    ✅ ผู้ใช้สามารถปิด Microsoft Editor ได้หากกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว
    - ไปที่ Settings > Languages > Writing Assistance > Enable grammar and spellcheck assistance

    ✅ Edge ยังคงเป็นเบราว์เซอร์เดสก์ท็อปที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง
    - รองจาก Google Chrome

    https://www.neowin.net/news/microsoft-fixes-broken-spellchecker-in-edge/
    Microsoft แก้ไขปัญหาตัวตรวจสอบการสะกดคำใน Edge หลังจากที่ Microsoft ปล่อย Edge 136 เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม พบว่า Microsoft Editor ซึ่งเป็นตัวตรวจสอบการสะกดคำใน Edge หยุดทำงาน ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถรับคำแนะนำเกี่ยวกับคำที่สะกดผิดได้ ล่าสุด Microsoft ได้ออก Edge เวอร์ชัน 136.0.3240.64 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ พร้อมกับ แพตช์ความปลอดภัยสำหรับช่องโหว่ CVE-2025-4372 ซึ่งเป็นช่องโหว่ใน WebAudio ของ Chromium ที่อาจถูกใช้ในการโจมตีผ่าน HTML ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ✅ Microsoft แก้ไขปัญหาที่ทำให้ Microsoft Editor หยุดทำงาน - ผู้ใช้สามารถ รับคำแนะนำเกี่ยวกับคำที่สะกดผิดได้อีกครั้ง ✅ Edge เวอร์ชัน 136.0.3240.64 มาพร้อมกับแพตช์ความปลอดภัยสำหรับ CVE-2025-4372 - ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ WebAudio ใน Chromium ✅ Microsoft Editor ส่งข้อมูลที่พิมพ์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Microsoft เพื่อประมวลผลและตรวจสอบการสะกดคำ - ฟีเจอร์นี้ เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น ✅ ผู้ใช้สามารถปิด Microsoft Editor ได้หากกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว - ไปที่ Settings > Languages > Writing Assistance > Enable grammar and spellcheck assistance ✅ Edge ยังคงเป็นเบราว์เซอร์เดสก์ท็อปที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง - รองจาก Google Chrome https://www.neowin.net/news/microsoft-fixes-broken-spellchecker-in-edge/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft fixes broken spellchecker in Edge
    Microsoft Edge received a small update, which addresses security issues and bugs with the built-in Microsoft Editor spellchecker.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรงเรียนในสหรัฐฯ เตือนภัย TikTok Challenge ใหม่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์เกิดควัน โรงเรียนในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับ TikTok Challenge ใหม่ที่นักเรียนจงใจทำให้ Chromebook ของโรงเรียนเกิดควัน ซึ่งนำไปสู่ การอพยพนักเรียนออกจากห้องเรียนในบางโรงเรียน

    เขตการศึกษา Wake County และโรงเรียนทั่วสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ พฤติกรรมอันตรายนี้ โดยระบุว่า มีรายงานเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วในบางโรงเรียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของนักเรียนและทรัพย์สินของโรงเรียน

    ✅ นักเรียนบางคนจงใจทำให้ Chromebook ของโรงเรียนเกิดควัน
    - ส่งผลให้ บางโรงเรียนต้องอพยพนักเรียนออกจากห้องเรียน

    ✅ Wake County และโรงเรียนทั่วสหรัฐฯ ออกคำเตือนเกี่ยวกับพฤติกรรมนี้
    - มีรายงานว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วในบางโรงเรียน

    ✅ TikTok Challenge นี้อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของโรงเรียน
    - Chromebook ที่ถูกทำให้เกิดควัน อาจเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้

    ✅ โรงเรียนกำลังพิจารณามาตรการป้องกันเพิ่มเติม
    - เช่น การตรวจสอบอุปกรณ์และการให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับความปลอดภัย

    ✅ TikTok Challenge ที่เป็นอันตรายเคยเกิดขึ้นมาก่อน
    - เช่น "Benadryl Challenge" ที่ทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรง และ "Devious Licks" ที่ส่งเสริมการทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/09/us-schools-warn-against-new-tiktok-challenge-making-computers-smoke
    โรงเรียนในสหรัฐฯ เตือนภัย TikTok Challenge ใหม่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์เกิดควัน โรงเรียนในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับ TikTok Challenge ใหม่ที่นักเรียนจงใจทำให้ Chromebook ของโรงเรียนเกิดควัน ซึ่งนำไปสู่ การอพยพนักเรียนออกจากห้องเรียนในบางโรงเรียน เขตการศึกษา Wake County และโรงเรียนทั่วสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ พฤติกรรมอันตรายนี้ โดยระบุว่า มีรายงานเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วในบางโรงเรียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของนักเรียนและทรัพย์สินของโรงเรียน ✅ นักเรียนบางคนจงใจทำให้ Chromebook ของโรงเรียนเกิดควัน - ส่งผลให้ บางโรงเรียนต้องอพยพนักเรียนออกจากห้องเรียน ✅ Wake County และโรงเรียนทั่วสหรัฐฯ ออกคำเตือนเกี่ยวกับพฤติกรรมนี้ - มีรายงานว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วในบางโรงเรียน ✅ TikTok Challenge นี้อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของโรงเรียน - Chromebook ที่ถูกทำให้เกิดควัน อาจเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ ✅ โรงเรียนกำลังพิจารณามาตรการป้องกันเพิ่มเติม - เช่น การตรวจสอบอุปกรณ์และการให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับความปลอดภัย ✅ TikTok Challenge ที่เป็นอันตรายเคยเกิดขึ้นมาก่อน - เช่น "Benadryl Challenge" ที่ทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรง และ "Devious Licks" ที่ส่งเสริมการทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/09/us-schools-warn-against-new-tiktok-challenge-making-computers-smoke
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US schools warn against new TikTok challenge: making computers smoke
    Wake County and school systems across the US are sending out warnings about a new TikTok challenge that has students setting their laptop computers on fire.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • Shadow AI: เทคโนโลยีลับที่กำลังสร้างความปั่นป่วนในองค์กร การใช้ AI ในองค์กรกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาที่หลายบริษัทต้องเผชิญคือ Shadow AI หรือการใช้เครื่องมือ AI โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจนำไปสู่ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความไม่โปร่งใสในการทำงาน

    จากรายงานของ Ivanti พบว่า 38% ของพนักงาน IT ใช้เครื่องมือ AI โดยไม่ได้รับอนุญาต และ 46% ของพนักงานทั่วไปใช้ AI ที่ไม่ได้รับการจัดหาโดยบริษัท ซึ่งสะท้อนถึง ช่องว่างด้านการฝึกอบรมและความกลัวการถูกแทนที่ด้วย AI

    ✅ 38% ของพนักงาน IT ใช้เครื่องมือ AI โดยไม่ได้รับอนุญาต
    - อาจนำไปสู่ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและข้อมูลรั่วไหล

    ✅ 46% ของพนักงานทั่วไปใช้ AI ที่ไม่ได้รับการจัดหาโดยบริษัท
    - แสดงให้เห็นถึง ช่องว่างด้านการฝึกอบรมและการขาดนโยบายที่ชัดเจน

    ✅ 27% ของพนักงานรู้สึกว่าการใช้ AI ทำให้เกิด Imposter Syndrome
    - พวกเขากังวลว่า อาจถูกมองว่าไม่มีทักษะเพียงพอ

    ✅ 30% ของพนักงานกลัวว่า AI จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งงานของตน
    - ทำให้เกิด ความเครียดและความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของอาชีพ

    ✅ องค์กรต้องสร้างนโยบาย AI ที่โปร่งใสและครอบคลุม
    - เพื่อให้ พนักงานสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/naughty-naughty-more-than-a-third-of-it-workers-are-using-unauthorised-ai-as-the-risks-of-shadow-tech-loom-large
    Shadow AI: เทคโนโลยีลับที่กำลังสร้างความปั่นป่วนในองค์กร การใช้ AI ในองค์กรกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาที่หลายบริษัทต้องเผชิญคือ Shadow AI หรือการใช้เครื่องมือ AI โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจนำไปสู่ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความไม่โปร่งใสในการทำงาน จากรายงานของ Ivanti พบว่า 38% ของพนักงาน IT ใช้เครื่องมือ AI โดยไม่ได้รับอนุญาต และ 46% ของพนักงานทั่วไปใช้ AI ที่ไม่ได้รับการจัดหาโดยบริษัท ซึ่งสะท้อนถึง ช่องว่างด้านการฝึกอบรมและความกลัวการถูกแทนที่ด้วย AI ✅ 38% ของพนักงาน IT ใช้เครื่องมือ AI โดยไม่ได้รับอนุญาต - อาจนำไปสู่ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและข้อมูลรั่วไหล ✅ 46% ของพนักงานทั่วไปใช้ AI ที่ไม่ได้รับการจัดหาโดยบริษัท - แสดงให้เห็นถึง ช่องว่างด้านการฝึกอบรมและการขาดนโยบายที่ชัดเจน ✅ 27% ของพนักงานรู้สึกว่าการใช้ AI ทำให้เกิด Imposter Syndrome - พวกเขากังวลว่า อาจถูกมองว่าไม่มีทักษะเพียงพอ ✅ 30% ของพนักงานกลัวว่า AI จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งงานของตน - ทำให้เกิด ความเครียดและความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของอาชีพ ✅ องค์กรต้องสร้างนโยบาย AI ที่โปร่งใสและครอบคลุม - เพื่อให้ พนักงานสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/naughty-naughty-more-than-a-third-of-it-workers-are-using-unauthorised-ai-as-the-risks-of-shadow-tech-loom-large
    WWW.TECHRADAR.COM
    Covert AI use explodes among tech staff as fear, burnout, and security threats spiral out of control
    Employees stay silent on AI use to avoid being seen as unskilled or replaceable
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • Chrome และ Safari เป็นเบราว์เซอร์ที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด จากการวิจัยของ Surfshark พบว่า Google Chrome และ Apple Safari เป็นเบราว์เซอร์ที่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด โดย Chrome รวบรวมข้อมูลถึง 20 ประเภท รวมถึง ข้อมูลติดต่อ, ตำแหน่งที่ตั้ง, ประวัติการเข้าชม และเนื้อหาของผู้ใช้

    Microsoft Bing ตามมาเป็นอันดับสอง โดยเก็บข้อมูล 12 ประเภท ขณะที่ Pi Browser อยู่ในอันดับสามด้วย 9 ประเภท Safari และ Firefox เก็บข้อมูล 8 ประเภท ส่วน Brave และ Tor เป็นเบราว์เซอร์ที่เก็บข้อมูลน้อยที่สุด

    ✅ Google Chrome เป็นเบราว์เซอร์ที่เก็บข้อมูลมากที่สุด โดยรวบรวมข้อมูลถึง 20 ประเภท
    - รวมถึง ข้อมูลติดต่อ, ตำแหน่งที่ตั้ง, ประวัติการเข้าชม และเนื้อหาของผู้ใช้
    - เป็นเบราว์เซอร์เดียวที่ เก็บข้อมูลการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและบัญชีธนาคาร

    ✅ Microsoft Bing เป็นอันดับสอง โดยเก็บข้อมูล 12 ประเภท
    - รวมถึง ข้อมูลผู้ใช้, ประวัติการค้นหา และข้อมูลโฆษณา

    ✅ Pi Browser อยู่ในอันดับสาม โดยเก็บข้อมูล 9 ประเภท
    - เช่น ประวัติการเข้าชม, ประวัติการค้นหา และข้อมูลโฆษณา

    ✅ Safari และ Firefox เก็บข้อมูล 8 ประเภท
    - รวมถึง ข้อมูลการใช้งานและตัวระบุอุปกรณ์

    ✅ Brave และ Tor เป็นเบราว์เซอร์ที่เก็บข้อมูลน้อยที่สุด
    - Brave เก็บเพียงตัวระบุและข้อมูลการใช้งาน
    - Tor ไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้เลย

    https://www.techradar.com/pro/security/these-are-the-worst-web-browsers-for-sucking-up-all-your-data-so-you-may-want-to-stop-using-them
    Chrome และ Safari เป็นเบราว์เซอร์ที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด จากการวิจัยของ Surfshark พบว่า Google Chrome และ Apple Safari เป็นเบราว์เซอร์ที่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด โดย Chrome รวบรวมข้อมูลถึง 20 ประเภท รวมถึง ข้อมูลติดต่อ, ตำแหน่งที่ตั้ง, ประวัติการเข้าชม และเนื้อหาของผู้ใช้ Microsoft Bing ตามมาเป็นอันดับสอง โดยเก็บข้อมูล 12 ประเภท ขณะที่ Pi Browser อยู่ในอันดับสามด้วย 9 ประเภท Safari และ Firefox เก็บข้อมูล 8 ประเภท ส่วน Brave และ Tor เป็นเบราว์เซอร์ที่เก็บข้อมูลน้อยที่สุด ✅ Google Chrome เป็นเบราว์เซอร์ที่เก็บข้อมูลมากที่สุด โดยรวบรวมข้อมูลถึง 20 ประเภท - รวมถึง ข้อมูลติดต่อ, ตำแหน่งที่ตั้ง, ประวัติการเข้าชม และเนื้อหาของผู้ใช้ - เป็นเบราว์เซอร์เดียวที่ เก็บข้อมูลการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและบัญชีธนาคาร ✅ Microsoft Bing เป็นอันดับสอง โดยเก็บข้อมูล 12 ประเภท - รวมถึง ข้อมูลผู้ใช้, ประวัติการค้นหา และข้อมูลโฆษณา ✅ Pi Browser อยู่ในอันดับสาม โดยเก็บข้อมูล 9 ประเภท - เช่น ประวัติการเข้าชม, ประวัติการค้นหา และข้อมูลโฆษณา ✅ Safari และ Firefox เก็บข้อมูล 8 ประเภท - รวมถึง ข้อมูลการใช้งานและตัวระบุอุปกรณ์ ✅ Brave และ Tor เป็นเบราว์เซอร์ที่เก็บข้อมูลน้อยที่สุด - Brave เก็บเพียงตัวระบุและข้อมูลการใช้งาน - Tor ไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้เลย https://www.techradar.com/pro/security/these-are-the-worst-web-browsers-for-sucking-up-all-your-data-so-you-may-want-to-stop-using-them
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Chrome ใช้ AI Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Google ได้เปิดเผยว่า Chrome Enhanced Protection mode บนเดสก์ท็อปตอนนี้ใช้ Gemini Nano ซึ่งเป็น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ทำงานบนอุปกรณ์ เพื่อช่วย ตรวจจับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงและป้องกันการหลอกลวงออนไลน์

    Gemini Nano สามารถ วิเคราะห์ข้อความจำนวนมากและระบุรูปแบบภาษาที่อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ทำให้สามารถ ป้องกันภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกตรวจพบมาก่อน นอกจากนี้ Google ยังใช้ AI ในการตรวจจับเว็บไซต์ที่หลอกลวงบน Google Search ซึ่งช่วยลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80%

    ✅ Chrome Enhanced Protection mode ใช้ Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์
    - ให้ การป้องกันแบบเรียลไทม์สำหรับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง
    - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกพบมาก่อน

    ✅ Google ใช้ AI เพื่อปรับปรุงระบบตรวจจับเว็บไซต์หลอกลวงบน Google Search
    - ลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80%
    - ป้องกัน เว็บไซต์ที่แอบอ้างเป็นบริการทางการ เช่น วีซ่า หรือหน่วยงานรัฐบาล

    ✅ Google จะขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยไปยัง Android และเพิ่มการป้องกันประเภทการหลอกลวงใหม่ ๆ
    - รวมถึง การแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่มีการแจ้งเตือนที่เป็นอันตราย

    ✅ ผู้ใช้สามารถเปิด Enhanced Protection mode ได้ใน Chrome Settings
    - ไปที่ Settings > Privacy and Security > Security

    https://www.neowin.net/news/google-chrome-now-uses-gemini-nano-to-fight-online-scams/
    Google Chrome ใช้ AI Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Google ได้เปิดเผยว่า Chrome Enhanced Protection mode บนเดสก์ท็อปตอนนี้ใช้ Gemini Nano ซึ่งเป็น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ทำงานบนอุปกรณ์ เพื่อช่วย ตรวจจับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงและป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Gemini Nano สามารถ วิเคราะห์ข้อความจำนวนมากและระบุรูปแบบภาษาที่อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ทำให้สามารถ ป้องกันภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกตรวจพบมาก่อน นอกจากนี้ Google ยังใช้ AI ในการตรวจจับเว็บไซต์ที่หลอกลวงบน Google Search ซึ่งช่วยลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80% ✅ Chrome Enhanced Protection mode ใช้ Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ - ให้ การป้องกันแบบเรียลไทม์สำหรับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกพบมาก่อน ✅ Google ใช้ AI เพื่อปรับปรุงระบบตรวจจับเว็บไซต์หลอกลวงบน Google Search - ลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80% - ป้องกัน เว็บไซต์ที่แอบอ้างเป็นบริการทางการ เช่น วีซ่า หรือหน่วยงานรัฐบาล ✅ Google จะขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยไปยัง Android และเพิ่มการป้องกันประเภทการหลอกลวงใหม่ ๆ - รวมถึง การแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่มีการแจ้งเตือนที่เป็นอันตราย ✅ ผู้ใช้สามารถเปิด Enhanced Protection mode ได้ใน Chrome Settings - ไปที่ Settings > Privacy and Security > Security https://www.neowin.net/news/google-chrome-now-uses-gemini-nano-to-fight-online-scams/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Chrome now uses Gemini Nano to fight online scams
    Google has updated Chrome's Enhanced Protection mode. The feature uses Gemini to enable faster detection.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ ปลดพนักงานประมาณ 200 คน ในหน่วยธุรกิจระดับโลก ซึ่งรับผิดชอบด้าน การขายและการเป็นพันธมิตร โดยเป็นส่วนหนึ่งของ การปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สามารถ ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้นและให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การปลดพนักงานครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังลดการลงทุนในบางส่วน และ มุ่งเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลและการพัฒนา AI นอกจากนี้ Google ยังเคย ปลดพนักงานหลายร้อยคนในหน่วยแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึง Android, Pixel และ Chrome

    ✅ Google ปลดพนักงานประมาณ 200 คนในหน่วยธุรกิจระดับโลก
    - หน่วยนี้รับผิดชอบด้าน การขายและการเป็นพันธมิตร
    - เป็นส่วนหนึ่งของ การปรับโครงสร้างองค์กร

    ✅ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังลดการลงทุนในบางส่วนและมุ่งเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลและ AI
    - Google ลดการลงทุนในบางแผนกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

    ✅ Google เคยปลดพนักงานหลายร้อยคนในหน่วยแพลตฟอร์มและอุปกรณ์
    - รวมถึง Android, Pixel และ Chrome

    ✅ บริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ก็มีการปลดพนักงานเช่นกัน
    - Meta ปลดพนักงาน 5% ของกลุ่มที่มีผลงานต่ำสุด
    - Microsoft ปลดพนักงาน 650 คนในหน่วย Xbox
    - Amazon ปลดพนักงานในหลายหน่วยงาน รวมถึงฝ่ายสื่อสาร
    - Apple ลดตำแหน่งงานประมาณ 100 ตำแหน่งในกลุ่มบริการดิจิทัล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/google-cuts-about-200-staff-in-global-business-unit-the-information-reports
    Google ได้ ปลดพนักงานประมาณ 200 คน ในหน่วยธุรกิจระดับโลก ซึ่งรับผิดชอบด้าน การขายและการเป็นพันธมิตร โดยเป็นส่วนหนึ่งของ การปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สามารถ ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้นและให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การปลดพนักงานครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังลดการลงทุนในบางส่วน และ มุ่งเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลและการพัฒนา AI นอกจากนี้ Google ยังเคย ปลดพนักงานหลายร้อยคนในหน่วยแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึง Android, Pixel และ Chrome ✅ Google ปลดพนักงานประมาณ 200 คนในหน่วยธุรกิจระดับโลก - หน่วยนี้รับผิดชอบด้าน การขายและการเป็นพันธมิตร - เป็นส่วนหนึ่งของ การปรับโครงสร้างองค์กร ✅ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังลดการลงทุนในบางส่วนและมุ่งเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลและ AI - Google ลดการลงทุนในบางแผนกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ✅ Google เคยปลดพนักงานหลายร้อยคนในหน่วยแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ - รวมถึง Android, Pixel และ Chrome ✅ บริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ก็มีการปลดพนักงานเช่นกัน - Meta ปลดพนักงาน 5% ของกลุ่มที่มีผลงานต่ำสุด - Microsoft ปลดพนักงาน 650 คนในหน่วย Xbox - Amazon ปลดพนักงานในหลายหน่วยงาน รวมถึงฝ่ายสื่อสาร - Apple ลดตำแหน่งงานประมาณ 100 ตำแหน่งในกลุ่มบริการดิจิทัล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/google-cuts-about-200-staff-in-global-business-unit-the-information-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Google cuts about 200 staff in global business unit, The Information reports
    (Reuters) -Google on Tuesday cut about 200 jobs across its global business unit, which is responsible for sales and partnerships, The Information reported on Wednesday, citing a person with knowledge of the situation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • Perplexity AI กำลังเปิดตัว Comet ซึ่งเป็น เว็บเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ Google Chrome และช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Comet จะสามารถ เข้าถึงประวัติการค้นหาและติดตามการเรียกดูของผู้ใช้ เพื่อให้สามารถตอบคำถามตามบริบทได้ เช่น หากผู้ใช้ถามว่า "ฉันดูข้อมูลเกี่ยวกับนากทะเลเมื่อวันอังคารที่แล้วใช่ไหม?" Comet จะสามารถค้นหาบทความที่เกี่ยวข้องได้โดยไม่ต้องใช้คีย์เวิร์ดที่ซับซ้อน

    นอกจากนี้ Comet ยังมี การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว รวมถึง ระบบบล็อกโฆษณาในตัว และ ตัวเลือกในการปิดการแชร์ข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้

    ✅ Comet เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
    - ออกแบบมาเพื่อ ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น
    - สามารถ เข้าถึงประวัติการค้นหาและติดตามการเรียกดูของผู้ใช้

    ✅ สามารถค้นหาข้อมูลตามบริบทโดยไม่ต้องใช้คีย์เวิร์ดที่ซับซ้อน
    - ตัวอย่างเช่น ค้นหาบทความเกี่ยวกับนากทะเลที่ผู้ใช้ดูเมื่อวันอังคาร
    - ลดความยุ่งยากในการค้นหาข้อมูล

    ✅ มีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและระบบบล็อกโฆษณาในตัว
    - ผู้ใช้สามารถ ปิดการแชร์ข้อมูลได้
    - มี ระบบบล็อกโฆษณาเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

    ✅ Perplexity CEO ระบุว่า Comet จะสามารถแข่งขันกับ Chrome ได้
    - กล่าวว่า "Chrome กำลังจะหมดความนิยม"
    - Comet จะช่วยให้ การเปิดแท็บเก่าทำได้ง่ายขึ้น

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/perplexity-ais-comet-browser-will-streak-across-the-web-this-month
    Perplexity AI กำลังเปิดตัว Comet ซึ่งเป็น เว็บเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ Google Chrome และช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Comet จะสามารถ เข้าถึงประวัติการค้นหาและติดตามการเรียกดูของผู้ใช้ เพื่อให้สามารถตอบคำถามตามบริบทได้ เช่น หากผู้ใช้ถามว่า "ฉันดูข้อมูลเกี่ยวกับนากทะเลเมื่อวันอังคารที่แล้วใช่ไหม?" Comet จะสามารถค้นหาบทความที่เกี่ยวข้องได้โดยไม่ต้องใช้คีย์เวิร์ดที่ซับซ้อน นอกจากนี้ Comet ยังมี การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว รวมถึง ระบบบล็อกโฆษณาในตัว และ ตัวเลือกในการปิดการแชร์ข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้ ✅ Comet เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI - ออกแบบมาเพื่อ ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น - สามารถ เข้าถึงประวัติการค้นหาและติดตามการเรียกดูของผู้ใช้ ✅ สามารถค้นหาข้อมูลตามบริบทโดยไม่ต้องใช้คีย์เวิร์ดที่ซับซ้อน - ตัวอย่างเช่น ค้นหาบทความเกี่ยวกับนากทะเลที่ผู้ใช้ดูเมื่อวันอังคาร - ลดความยุ่งยากในการค้นหาข้อมูล ✅ มีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและระบบบล็อกโฆษณาในตัว - ผู้ใช้สามารถ ปิดการแชร์ข้อมูลได้ - มี ระบบบล็อกโฆษณาเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ✅ Perplexity CEO ระบุว่า Comet จะสามารถแข่งขันกับ Chrome ได้ - กล่าวว่า "Chrome กำลังจะหมดความนิยม" - Comet จะช่วยให้ การเปิดแท็บเก่าทำได้ง่ายขึ้น https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/perplexity-ais-comet-browser-will-streak-across-the-web-this-month
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึง ความจำเป็นของซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสแยกต่างหาก โดยผู้เขียนให้ความเห็นว่า ผู้ใช้ Windows 11 ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องซื้อซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสเพิ่มเติม เนื่องจาก Windows Defender มีฟีเจอร์ป้องกันภัยคุกคามที่ครอบคลุมอยู่แล้ว

    Microsoft และ Apple ต่างมี ระบบป้องกันไวรัสในตัว และเบราว์เซอร์อย่าง Google Chrome ก็มีระบบแจ้งเตือนเมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตราย นอกจากนี้ ผู้ให้บริการอีเมล เช่น Google, Microsoft และ Yahoo ยังมีระบบสแกนไฟล์แนบเพื่อป้องกันมัลแวร์

    ✅ Windows Defender มีฟีเจอร์ป้องกันภัยคุกคามที่ครอบคลุม
    - สามารถตรวจจับ ไวรัส, มัลแวร์ และภัยคุกคามออนไลน์
    - มี ระบบแจ้งเตือนและอัปเดตฐานข้อมูลไวรัสอัตโนมัติ

    ✅ เบราว์เซอร์และอีเมลมีระบบป้องกันในตัว
    - Google Chrome แจ้งเตือนเมื่อเข้าเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตราย
    - Google, Microsoft และ Yahoo สแกนไฟล์แนบในอีเมลเพื่อป้องกันมัลแวร์

    ✅ ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยเพิ่มเติม
    - สามารถใช้ Malwarebytes เพื่อตรวจสอบและลบมัลแวร์
    - ควรอัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ

    ✅ ข้อดีของการใช้ Windows Defender แทนซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสแยกต่างหาก
    - ไม่ทำให้ระบบช้าลงเหมือนซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสบางตัว
    - ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/opinion-do-you-really-need-separate-antivirus-software-probably-not
    บทความนี้กล่าวถึง ความจำเป็นของซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสแยกต่างหาก โดยผู้เขียนให้ความเห็นว่า ผู้ใช้ Windows 11 ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องซื้อซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสเพิ่มเติม เนื่องจาก Windows Defender มีฟีเจอร์ป้องกันภัยคุกคามที่ครอบคลุมอยู่แล้ว Microsoft และ Apple ต่างมี ระบบป้องกันไวรัสในตัว และเบราว์เซอร์อย่าง Google Chrome ก็มีระบบแจ้งเตือนเมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตราย นอกจากนี้ ผู้ให้บริการอีเมล เช่น Google, Microsoft และ Yahoo ยังมีระบบสแกนไฟล์แนบเพื่อป้องกันมัลแวร์ ✅ Windows Defender มีฟีเจอร์ป้องกันภัยคุกคามที่ครอบคลุม - สามารถตรวจจับ ไวรัส, มัลแวร์ และภัยคุกคามออนไลน์ - มี ระบบแจ้งเตือนและอัปเดตฐานข้อมูลไวรัสอัตโนมัติ ✅ เบราว์เซอร์และอีเมลมีระบบป้องกันในตัว - Google Chrome แจ้งเตือนเมื่อเข้าเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตราย - Google, Microsoft และ Yahoo สแกนไฟล์แนบในอีเมลเพื่อป้องกันมัลแวร์ ✅ ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยเพิ่มเติม - สามารถใช้ Malwarebytes เพื่อตรวจสอบและลบมัลแวร์ - ควรอัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ ✅ ข้อดีของการใช้ Windows Defender แทนซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสแยกต่างหาก - ไม่ทำให้ระบบช้าลงเหมือนซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสบางตัว - ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/opinion-do-you-really-need-separate-antivirus-software-probably-not
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Do you really need separate antivirus software? Probably not
    I had a conversation with a friend the other day at the gym. He is buying a new Windows PC and he's thinking of investing in new antivirus software, and he asked me what I used for antivirus software.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศว่าจะ ยกเลิกฟีเจอร์จัดการรหัสผ่านในแอป Authenticator ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายเพื่อ ผลักดันให้ผู้ใช้หันมาใช้ Microsoft Edge ซึ่งมีระบบจัดการรหัสผ่านที่ครอบคลุมมากกว่า

    การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้ ผู้ใช้ไม่สามารถบันทึกรหัสผ่านใหม่ใน Authenticator ได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน และในเดือนกรกฎาคม แอปจะหยุดการเติมข้อมูลอัตโนมัติในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน รวมถึง ลบข้อมูลการชำระเงินทั้งหมด สุดท้ายในเดือนสิงหาคม รหัสผ่านที่บันทึกไว้ทั้งหมดจะถูกลบออกจากแอป

    Microsoft ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้การจัดการรหัสผ่านง่ายขึ้น โดยแนะนำให้ผู้ใช้ ย้ายข้อมูลไปยัง Microsoft Edge หรือใช้ตัวจัดการรหัสผ่านอื่น ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2025

    =========================================

    🔍 วิธีการย้ายข้อมูลรหัสผ่านจาก Microsoft Authenticator
    ✅ ใช้ฟีเจอร์ Export ใน Microsoft Authenticator
    - เปิดแอป Microsoft Authenticator
    - ไปที่ Settings และเลือก Export Verified IDs
    - กด Export Now เพื่อบันทึกข้อมูล

    ✅ นำเข้าข้อมูลไปยังตัวจัดการรหัสผ่านอื่น
    - สามารถนำเข้าข้อมูลไปยัง Microsoft Edge หรือแอปจัดการรหัสผ่านอื่น
    - หากใช้ Google Chrome สามารถนำเข้าไฟล์ CSV ได้โดยตรง

    ✅ ตรวจสอบข้อมูลหลังการย้าย
    - ตรวจสอบว่ารหัสผ่านทั้งหมดถูกย้ายไปยังตัวจัดการรหัสผ่านใหม่เรียบร้อย
    - ลบข้อมูลจาก Microsoft Authenticator หลังจากย้ายเสร็จ

    =========================================

    ✅ Microsoft จะยกเลิกฟีเจอร์จัดการรหัสผ่านใน Authenticator
    - ตั้งแต่ มิถุนายน 2025 จะไม่สามารถบันทึกรหัสผ่านใหม่ได้
    - ตั้งแต่ กรกฎาคม 2025 แอปจะหยุดการเติมข้อมูลอัตโนมัติ
    - ตั้งแต่ สิงหาคม 2025 รหัสผ่านที่บันทึกไว้ทั้งหมดจะถูกลบ

    ✅ เหตุผลในการเปลี่ยนแปลง
    - Microsoft ต้องการ ผลักดันให้ผู้ใช้หันมาใช้ Edge
    - Edge มี ระบบจัดการรหัสผ่านที่ครอบคลุมมากกว่า

    ✅ แนวทางสำหรับผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ
    - สามารถ ย้ายข้อมูลไปยัง Microsoft Edge
    - หรือ ใช้ตัวจัดการรหัสผ่านอื่น ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2025

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้
    - ผู้ใช้ที่พึ่งพา Authenticator ในการจัดการรหัสผ่านต้อง หาทางเลือกใหม่
    - อาจต้อง เรียนรู้การใช้ Edge หรือแอปจัดการรหัสผ่านอื่น

    https://www.neowin.net/news/microsoft-is-killing-its-password-manager-in-authenticator-to-make-everyone-use-edge/
    Microsoft ได้ประกาศว่าจะ ยกเลิกฟีเจอร์จัดการรหัสผ่านในแอป Authenticator ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายเพื่อ ผลักดันให้ผู้ใช้หันมาใช้ Microsoft Edge ซึ่งมีระบบจัดการรหัสผ่านที่ครอบคลุมมากกว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้ ผู้ใช้ไม่สามารถบันทึกรหัสผ่านใหม่ใน Authenticator ได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน และในเดือนกรกฎาคม แอปจะหยุดการเติมข้อมูลอัตโนมัติในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน รวมถึง ลบข้อมูลการชำระเงินทั้งหมด สุดท้ายในเดือนสิงหาคม รหัสผ่านที่บันทึกไว้ทั้งหมดจะถูกลบออกจากแอป Microsoft ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้การจัดการรหัสผ่านง่ายขึ้น โดยแนะนำให้ผู้ใช้ ย้ายข้อมูลไปยัง Microsoft Edge หรือใช้ตัวจัดการรหัสผ่านอื่น ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2025 ========================================= 🔍 วิธีการย้ายข้อมูลรหัสผ่านจาก Microsoft Authenticator ✅ ใช้ฟีเจอร์ Export ใน Microsoft Authenticator - เปิดแอป Microsoft Authenticator - ไปที่ Settings และเลือก Export Verified IDs - กด Export Now เพื่อบันทึกข้อมูล ✅ นำเข้าข้อมูลไปยังตัวจัดการรหัสผ่านอื่น - สามารถนำเข้าข้อมูลไปยัง Microsoft Edge หรือแอปจัดการรหัสผ่านอื่น - หากใช้ Google Chrome สามารถนำเข้าไฟล์ CSV ได้โดยตรง ✅ ตรวจสอบข้อมูลหลังการย้าย - ตรวจสอบว่ารหัสผ่านทั้งหมดถูกย้ายไปยังตัวจัดการรหัสผ่านใหม่เรียบร้อย - ลบข้อมูลจาก Microsoft Authenticator หลังจากย้ายเสร็จ ========================================= ✅ Microsoft จะยกเลิกฟีเจอร์จัดการรหัสผ่านใน Authenticator - ตั้งแต่ มิถุนายน 2025 จะไม่สามารถบันทึกรหัสผ่านใหม่ได้ - ตั้งแต่ กรกฎาคม 2025 แอปจะหยุดการเติมข้อมูลอัตโนมัติ - ตั้งแต่ สิงหาคม 2025 รหัสผ่านที่บันทึกไว้ทั้งหมดจะถูกลบ ✅ เหตุผลในการเปลี่ยนแปลง - Microsoft ต้องการ ผลักดันให้ผู้ใช้หันมาใช้ Edge - Edge มี ระบบจัดการรหัสผ่านที่ครอบคลุมมากกว่า ✅ แนวทางสำหรับผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ - สามารถ ย้ายข้อมูลไปยัง Microsoft Edge - หรือ ใช้ตัวจัดการรหัสผ่านอื่น ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2025 ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ผู้ใช้ที่พึ่งพา Authenticator ในการจัดการรหัสผ่านต้อง หาทางเลือกใหม่ - อาจต้อง เรียนรู้การใช้ Edge หรือแอปจัดการรหัสผ่านอื่น https://www.neowin.net/news/microsoft-is-killing-its-password-manager-in-authenticator-to-make-everyone-use-edge/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft is killing its password manager in Authenticator to make everyone use Edge
    Microsoft is changing how its Authenticator app works, and you are not going to like it if you use it to store and autofill passwords.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึง Microsoft Edge ซึ่งกำลังเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขันกับ Google Chrome โดยแม้ว่า Microsoft จะพยายามโปรโมต Edge อย่างหนัก แต่ส่วนแบ่งตลาดของเบราว์เซอร์นี้ยังคงอยู่ที่ประมาณ 13% และไม่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ

    Microsoft ได้พยายามเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้กับ Edge เช่น การรวม Copilot AI และการปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อให้เบราว์เซอร์ทำงานเร็วขึ้น แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังคงรู้สึกว่า Edge ถูกบังคับให้ใช้งานใน Windows 11 ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจ

    ✅ ส่วนแบ่งตลาดของ Edge
    - อยู่ที่ 13.29% ในเดือนเมษายน 2025
    - ลดลง 0.08% จากเดือนมีนาคม 2025

    ✅ กลยุทธ์ของ Microsoft ในการโปรโมต Edge
    - เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น Copilot AI
    - ปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อลดการใช้ทรัพยากรระบบ

    ✅ ปัญหาที่ผู้ใช้พบกับ Edge
    - Microsoft พยายาม บังคับให้ Edge เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นใน Windows 11
    - ผู้ใช้บางรายรู้สึกว่า การโปรโมต Edge มากเกินไปเป็นเรื่องน่ารำคาญ

    ✅ แนวทางที่ Microsoft ควรพิจารณา
    - ลดการโปรโมต Edge ใน Windows 11

    https://www.techradar.com/computing/edge/edges-doomed-challenge-to-chrome-is-embarrassing-for-microsoft-is-it-time-to-stop-forcing-the-browser-on-us-in-windows-11
    บทความนี้กล่าวถึง Microsoft Edge ซึ่งกำลังเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขันกับ Google Chrome โดยแม้ว่า Microsoft จะพยายามโปรโมต Edge อย่างหนัก แต่ส่วนแบ่งตลาดของเบราว์เซอร์นี้ยังคงอยู่ที่ประมาณ 13% และไม่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ Microsoft ได้พยายามเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้กับ Edge เช่น การรวม Copilot AI และการปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อให้เบราว์เซอร์ทำงานเร็วขึ้น แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังคงรู้สึกว่า Edge ถูกบังคับให้ใช้งานใน Windows 11 ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจ ✅ ส่วนแบ่งตลาดของ Edge - อยู่ที่ 13.29% ในเดือนเมษายน 2025 - ลดลง 0.08% จากเดือนมีนาคม 2025 ✅ กลยุทธ์ของ Microsoft ในการโปรโมต Edge - เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น Copilot AI - ปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อลดการใช้ทรัพยากรระบบ ✅ ปัญหาที่ผู้ใช้พบกับ Edge - Microsoft พยายาม บังคับให้ Edge เป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นใน Windows 11 - ผู้ใช้บางรายรู้สึกว่า การโปรโมต Edge มากเกินไปเป็นเรื่องน่ารำคาญ ✅ แนวทางที่ Microsoft ควรพิจารณา - ลดการโปรโมต Edge ใน Windows 11 https://www.techradar.com/computing/edge/edges-doomed-challenge-to-chrome-is-embarrassing-for-microsoft-is-it-time-to-stop-forcing-the-browser-on-us-in-windows-11
    WWW.TECHRADAR.COM
    Edge’s doomed challenge to Chrome is embarrassing for Microsoft – is it time to stop forcing the browser on us in Windows 11?
    Edge has gone stale, despite Microsoft’s best efforts to promote the browser – or perhaps because of this
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุดจากการสำรวจของ TechRadar Pro โดย 39% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เลือกใช้บริการนี้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีอยู่ใน Chrome และ Android

    อย่างไรก็ตาม 20% ของผู้ใช้ยังคงเลือกจัดการรหัสผ่านด้วยตนเอง แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจะเตือนว่าการใช้รหัสผ่านซ้ำและไม่เปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์

    Apple Passwords เป็นตัวเลือกอันดับสอง โดย 23% ของผู้ใช้เลือกใช้บริการนี้ ซึ่งมีฟีเจอร์ตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลและสุขภาพของรหัสผ่าน

    ✅ Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุด
    - 39% ของผู้ใช้เลือกใช้ เนื่องจากใช้งานง่ายและมีอยู่ใน Chrome และ Android
    - มีฟีเจอร์ช่วยจัดการรหัสผ่านและแจ้งเตือนเมื่อพบข้อมูลรั่วไหล

    ✅ Apple Passwords เป็นตัวเลือกอันดับสอง
    - 23% ของผู้ใช้เลือกใช้
    - มีฟีเจอร์ตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลและสุขภาพของรหัสผ่าน

    ✅ ผู้ใช้บางส่วนยังคงจัดการรหัสผ่านด้วยตนเอง
    - 20% ของผู้ใช้เลือกไม่ใช้ Password Manager
    - ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้รหัสผ่านซ้ำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี

    ✅ ข้อเสนอพิเศษจากผู้ให้บริการ Password Manager
    - Keeper ลดราคาสูงสุด 50% สำหรับแผน Personal และ Family
    - RoboForm Premium ลดราคา 60% พร้อมฟีเจอร์ 2FA และ Cloud Backup
    - NordPass Business ลดราคา 20% เมื่อใช้โค้ด PASSDAY20

    https://www.techradar.com/pro/security/google-password-manager-is-a-favourite-amongst-techradar-pro-readers-whats-yours
    Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุดจากการสำรวจของ TechRadar Pro โดย 39% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เลือกใช้บริการนี้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีอยู่ใน Chrome และ Android อย่างไรก็ตาม 20% ของผู้ใช้ยังคงเลือกจัดการรหัสผ่านด้วยตนเอง แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจะเตือนว่าการใช้รหัสผ่านซ้ำและไม่เปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ Apple Passwords เป็นตัวเลือกอันดับสอง โดย 23% ของผู้ใช้เลือกใช้บริการนี้ ซึ่งมีฟีเจอร์ตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลและสุขภาพของรหัสผ่าน ✅ Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุด - 39% ของผู้ใช้เลือกใช้ เนื่องจากใช้งานง่ายและมีอยู่ใน Chrome และ Android - มีฟีเจอร์ช่วยจัดการรหัสผ่านและแจ้งเตือนเมื่อพบข้อมูลรั่วไหล ✅ Apple Passwords เป็นตัวเลือกอันดับสอง - 23% ของผู้ใช้เลือกใช้ - มีฟีเจอร์ตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลและสุขภาพของรหัสผ่าน ✅ ผู้ใช้บางส่วนยังคงจัดการรหัสผ่านด้วยตนเอง - 20% ของผู้ใช้เลือกไม่ใช้ Password Manager - ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้รหัสผ่านซ้ำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ✅ ข้อเสนอพิเศษจากผู้ให้บริการ Password Manager - Keeper ลดราคาสูงสุด 50% สำหรับแผน Personal และ Family - RoboForm Premium ลดราคา 60% พร้อมฟีเจอร์ 2FA และ Cloud Backup - NordPass Business ลดราคา 20% เมื่อใช้โค้ด PASSDAY20 https://www.techradar.com/pro/security/google-password-manager-is-a-favourite-amongst-techradar-pro-readers-whats-yours
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • Acer ได้เปิดตัว Reliability Promise ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวน หากอุปกรณ์ที่ซื้อมีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน

    นโยบายนี้ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro รวมถึง จอภาพและโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะรุ่นที่มี เทคโนโลยี Vero และ SpatialLabs 3D ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Acer ไม่ได้จำกัดข้อเสนอเฉพาะอุปกรณ์ระดับเริ่มต้น

    ธุรกิจที่ต้องการใช้สิทธิ์ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า และสามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ไม่ครอบคลุมถึง ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม

    Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม และกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกันของตนเอง

    ✅ เงื่อนไขการรับเงินคืน
    - หากอุปกรณ์มีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน
    - ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro, จอภาพ และโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ

    ✅ ข้อกำหนดในการลงทะเบียน
    - ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า
    - สามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม

    ✅ ข้อจำกัดของนโยบาย
    - ไม่ครอบคลุม ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม
    - ใช้ได้เฉพาะธุรกิจที่ลงทะเบียน VAT เท่านั้น

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม
    - อาจกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกัน

    https://www.techradar.com/pro/acer-just-did-something-that-all-computer-vendors-should-copy-right-now-heres-what-you-need-to-know-about-its-game-changing-move
    Acer ได้เปิดตัว Reliability Promise ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวน หากอุปกรณ์ที่ซื้อมีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน นโยบายนี้ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro รวมถึง จอภาพและโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะรุ่นที่มี เทคโนโลยี Vero และ SpatialLabs 3D ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Acer ไม่ได้จำกัดข้อเสนอเฉพาะอุปกรณ์ระดับเริ่มต้น ธุรกิจที่ต้องการใช้สิทธิ์ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า และสามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ไม่ครอบคลุมถึง ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม และกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกันของตนเอง ✅ เงื่อนไขการรับเงินคืน - หากอุปกรณ์มีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน - ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro, จอภาพ และโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ ✅ ข้อกำหนดในการลงทะเบียน - ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า - สามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม ✅ ข้อจำกัดของนโยบาย - ไม่ครอบคลุม ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม - ใช้ได้เฉพาะธุรกิจที่ลงทะเบียน VAT เท่านั้น ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม - อาจกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกัน https://www.techradar.com/pro/acer-just-did-something-that-all-computer-vendors-should-copy-right-now-heres-what-you-need-to-know-about-its-game-changing-move
    WWW.TECHRADAR.COM
    Your company’s next laptop could pay for itself if it fails — Acer’s wild refund plan explained
    Acer's new Reliability Promise offers a full refund if your professional device hardware fails
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Edge ยังคงมีส่วนแบ่งตลาดที่ค่อนข้างคงที่ แม้ว่าจะเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นใน Windows 10 และ 11 และมีการผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Chrome อย่างต่อเนื่อง

    จากข้อมูลของ Statcounter พบว่าในเดือนเมษายน 2025 Google Chrome ครองตลาดเบราว์เซอร์เดสก์ท็อปด้วยส่วนแบ่ง 65.02% ลดลง 0.62 จุด จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ Microsoft Edge มีส่วนแบ่ง 13.29% ลดลง 0.08 จุด ในเดือนเดียวกัน แต่เพิ่มขึ้น 0.32 จุด เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

    แม้ว่า Edge จะมีส่วนแบ่งตลาดที่ค่อนข้างต่ำทั่วโลก แต่ในบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร มีส่วนแบ่ง 21.78% ขณะที่ใน อินเดีย Chrome ครองตลาดถึง 86.22% และ Edge มีเพียง 5.65%

    เบราว์เซอร์อื่นๆ ที่ติดอันดับ ได้แก่ Safari (7.95%), Firefox (6.14%) และ Opera (3.04%) ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในเดือนเมษายน 2025

    ✅ ส่วนแบ่งตลาดของเบราว์เซอร์เดสก์ท็อป
    - Google Chrome ครองตลาดด้วย 65.02%
    - Microsoft Edge มีส่วนแบ่ง 13.29% ลดลงเล็กน้อยในเดือนเมษายน 2025

    ✅ แนวโน้มของ Microsoft Edge
    - ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 0.32 จุด เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
    - มีส่วนแบ่งสูงขึ้นในบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร (21.78%)

    ✅ สถานการณ์ของเบราว์เซอร์อื่นๆ
    - Safari มีส่วนแบ่ง 7.95%
    - Firefox มีส่วนแบ่ง 6.14%
    - Opera มีส่วนแบ่ง 3.04%

    ✅ กลยุทธ์ของ Microsoft
    - ผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Chrome ผ่านการแจ้งเตือนและการตั้งค่าเริ่มต้น
    - Edge ยังคงเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นใน Windows 10 และ 11

    https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-is-not-going-anywhere-with-its-market-share/
    Microsoft Edge ยังคงมีส่วนแบ่งตลาดที่ค่อนข้างคงที่ แม้ว่าจะเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นใน Windows 10 และ 11 และมีการผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Chrome อย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของ Statcounter พบว่าในเดือนเมษายน 2025 Google Chrome ครองตลาดเบราว์เซอร์เดสก์ท็อปด้วยส่วนแบ่ง 65.02% ลดลง 0.62 จุด จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ Microsoft Edge มีส่วนแบ่ง 13.29% ลดลง 0.08 จุด ในเดือนเดียวกัน แต่เพิ่มขึ้น 0.32 จุด เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม้ว่า Edge จะมีส่วนแบ่งตลาดที่ค่อนข้างต่ำทั่วโลก แต่ในบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร มีส่วนแบ่ง 21.78% ขณะที่ใน อินเดีย Chrome ครองตลาดถึง 86.22% และ Edge มีเพียง 5.65% เบราว์เซอร์อื่นๆ ที่ติดอันดับ ได้แก่ Safari (7.95%), Firefox (6.14%) และ Opera (3.04%) ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในเดือนเมษายน 2025 ✅ ส่วนแบ่งตลาดของเบราว์เซอร์เดสก์ท็อป - Google Chrome ครองตลาดด้วย 65.02% - Microsoft Edge มีส่วนแบ่ง 13.29% ลดลงเล็กน้อยในเดือนเมษายน 2025 ✅ แนวโน้มของ Microsoft Edge - ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 0.32 จุด เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว - มีส่วนแบ่งสูงขึ้นในบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร (21.78%) ✅ สถานการณ์ของเบราว์เซอร์อื่นๆ - Safari มีส่วนแบ่ง 7.95% - Firefox มีส่วนแบ่ง 6.14% - Opera มีส่วนแบ่ง 3.04% ✅ กลยุทธ์ของ Microsoft - ผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Chrome ผ่านการแจ้งเตือนและการตั้งค่าเริ่มต้น - Edge ยังคงเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้นใน Windows 10 และ 11 https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-is-not-going-anywhere-with-its-market-share/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft Edge is not going anywhere with its market share
    Competing with Chrome is very hard, and even Microsoft is struggling to make a dent in Chrome's market share.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ในคดีต่อต้านการผูกขาดเกี่ยวกับตลาดการค้นหาออนไลน์ โดย DOJ ได้เสนอแนวทางแก้ไขที่อาจส่งผลกระทบต่อการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของ Google รวมถึงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี

    Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ให้การในศาลว่า การบังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง อาจทำให้บริษัทสูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และส่งผลกระทบต่อการลงทุนใน R&D ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองทศวรรษ

    นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google หยุดจ่ายเงินให้กับบริษัทต่างๆ เช่น Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น และยังมีข้อเสนอให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome ให้กับผู้ซื้อรายอื่น ซึ่ง OpenAI, Perplexity และ Yahoo ได้แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome

    Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Google Chrome ได้ให้การในศาลเพื่อปกป้องการเป็นเจ้าของ Chrome โดยระบุว่า Google เป็นบริษัทเดียวที่สามารถดำเนินการ Chrome ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของเบราว์เซอร์ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google

    ✅ ข้อกล่าวหาจาก DOJ
    - DOJ กล่าวหา Google ว่าผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์
    - ศาลรับรองข้อกล่าวหาในปี 2024

    ✅ แนวทางแก้ไขที่เสนอโดย DOJ
    - บังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง
    - หยุดจ่ายเงินให้ Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น
    - บังคับให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome

    ✅ การตอบสนองของ Google
    - Sundar Pichai ระบุว่าการแชร์ข้อมูลจะทำให้ Google สูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม
    - Parisa Tabriz ให้การว่าฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของ Chrome ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google

    ✅ ผู้สนใจซื้อ Chrome
    - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome

    https://www.neowin.net/news/sundar-pichai-warns-proposed-remedies-by-doj-could-kill-googles-rd-and-innovation/
    Google กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ในคดีต่อต้านการผูกขาดเกี่ยวกับตลาดการค้นหาออนไลน์ โดย DOJ ได้เสนอแนวทางแก้ไขที่อาจส่งผลกระทบต่อการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของ Google รวมถึงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ให้การในศาลว่า การบังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง อาจทำให้บริษัทสูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และส่งผลกระทบต่อการลงทุนใน R&D ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองทศวรรษ นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google หยุดจ่ายเงินให้กับบริษัทต่างๆ เช่น Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น และยังมีข้อเสนอให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome ให้กับผู้ซื้อรายอื่น ซึ่ง OpenAI, Perplexity และ Yahoo ได้แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Google Chrome ได้ให้การในศาลเพื่อปกป้องการเป็นเจ้าของ Chrome โดยระบุว่า Google เป็นบริษัทเดียวที่สามารถดำเนินการ Chrome ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของเบราว์เซอร์ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google ✅ ข้อกล่าวหาจาก DOJ - DOJ กล่าวหา Google ว่าผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ - ศาลรับรองข้อกล่าวหาในปี 2024 ✅ แนวทางแก้ไขที่เสนอโดย DOJ - บังคับให้ Google แชร์ข้อมูลดัชนีการค้นหาและข้อมูลคำค้นหากับคู่แข่ง - หยุดจ่ายเงินให้ Apple และ Samsung เพื่อรักษาตำแหน่งเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น - บังคับให้ Google ขายเบราว์เซอร์ Chrome ✅ การตอบสนองของ Google - Sundar Pichai ระบุว่าการแชร์ข้อมูลจะทำให้ Google สูญเสียความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม - Parisa Tabriz ให้การว่าฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวของ Chrome ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานของ Google ✅ ผู้สนใจซื้อ Chrome - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome https://www.neowin.net/news/sundar-pichai-warns-proposed-remedies-by-doj-could-kill-googles-rd-and-innovation/
    WWW.NEOWIN.NET
    Sundar Pichai warns proposed remedies by DOJ could kill Google's R&D and innovation
    Google's CEO believes the DOJ demands, including sharing search data with rival companies, could stifle Google's innovation and harm its R&D efforts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts