• 🧠💥 สติก่อนคำ! หรือปากก่อนใจ?
    หลายคนมี “อาการปากไว ใจช้า”
    ยังไม่ทันตั้งสติ… ปากก็ไปก่อนแล้ว!
    และที่ร้ายกว่านั้น
    คือพอหลุดคำแรงๆ ออกไปแล้ว
    กลับ “ต้องยิงต่อให้จบ!”
    เหมือนง้างนกแล้ว ก็ต้องลั่นไก

    😶 คำเดียว...พังทั้งสัมพันธ์
    😮 คำเดียว...ทำใจอีกฝ่ายล้มทั้งยืน
    😔 คำเดียว...อาจทำลายศรัทธาที่กว่าจะสร้างใช้เวลาหลายปี

    ---

    📍แต่ธรรมะไม่ทิ้งใครนะครับ
    แม้จะหลุดแล้ว ก็ใช้ “โทสะ” เป็นครูได้
    แค่คุณ “เจริญสติ” อย่างจริงจัง
    ไม่ใช่แค่รู้ว่า “ฉันโกรธ”
    แต่ รู้ลึกลงไปในโครงสร้างของโทสะ

    ลองเช็กตัวเองเวลาเกิดอารมณ์ร้อน
    คุณเห็น 4 ข้อนี้ แค่ไหน? 👇

    ---

    ✅ ข้อที่ 1:
    คุณหลุดคำแรงที่สุดออกมาไหม
    ทั้งที่รู้ว่ามันร้ายแรง?
    ถ้ายับยั้งได้ – นั่นคือ “สติขั้นต้น” เกิดแล้ว

    ✅ ข้อที่ 2:
    ตอนกำลังโกรธ รู้ไหมว่ากำลังเป็นยักษ์?
    หรือแค่รู้เบลอๆ รู้ไม่ทัน?
    ถ้ารู้ชัดว่ายักษ์มา – นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

    ✅ ข้อที่ 3:
    คุณรู้จุดที่ความขัดเคือง “เริ่มเบาลง” ได้ไหม?
    (ฮินต์: ลมหายใจเริ่มเย็นลง รู้สึกหายใจได้ประณีตขึ้น)

    ✅ ข้อที่ 4:
    คุณเห็นไหมว่า…
    จิตก่อนโกรธ กับจิตหลังโกรธ มันเป็น “คนละดวงจิต”?
    ถ้าเห็นได้ – แปลว่าคุณกำลังก้าวเข้าสู่ “จิตตานุปัสสนา” แล้ว

    ---

    🌿 โทสะไม่ใช่ศัตรู
    ถ้าเรากล้า “อยู่กับมันอย่างรู้เท่าทัน”
    สติจะค่อยๆ แทรกซึม
    จนคุณเห็นว่า…
    “จิตที่เคยเป็นภูเขาไฟพ่นลาวา”
    สงบลงได้… โดยไม่ต้องฝืน

    นั่นแหละ
    ธรรมชาติของการเจริญสติที่แท้จริง
    ไม่ได้อยู่แค่ในถ้ำ หรือบนหมอนรองนั่ง
    แต่อยู่ใน “ตอนปากกับใจแยกกันทำงาน”
    แล้วคุณ...เลือกฝ่ายไหนดี?

    ---

    📌 อย่าลืมทบทวน 4 ข้อนี้
    หลังมีปากเสียงครั้งหน้า...
    คุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 🙏

    #เจริญสติในชีวิตจริง
    #โทสะไม่ใช่ศัตรูถ้ารู้ทัน
    #ปากไวใจเร็วต้องฝึกให้ทัน
    #ธรรมะเข้าใจง่าย
    #รู้เท่าทันจิต
    #มองโทสะเป็นครู
    #MindfulConflict
    🧠💥 สติก่อนคำ! หรือปากก่อนใจ? หลายคนมี “อาการปากไว ใจช้า” ยังไม่ทันตั้งสติ… ปากก็ไปก่อนแล้ว! และที่ร้ายกว่านั้น คือพอหลุดคำแรงๆ ออกไปแล้ว กลับ “ต้องยิงต่อให้จบ!” เหมือนง้างนกแล้ว ก็ต้องลั่นไก 😶 คำเดียว...พังทั้งสัมพันธ์ 😮 คำเดียว...ทำใจอีกฝ่ายล้มทั้งยืน 😔 คำเดียว...อาจทำลายศรัทธาที่กว่าจะสร้างใช้เวลาหลายปี --- 📍แต่ธรรมะไม่ทิ้งใครนะครับ แม้จะหลุดแล้ว ก็ใช้ “โทสะ” เป็นครูได้ แค่คุณ “เจริญสติ” อย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่รู้ว่า “ฉันโกรธ” แต่ รู้ลึกลงไปในโครงสร้างของโทสะ ลองเช็กตัวเองเวลาเกิดอารมณ์ร้อน คุณเห็น 4 ข้อนี้ แค่ไหน? 👇 --- ✅ ข้อที่ 1: คุณหลุดคำแรงที่สุดออกมาไหม ทั้งที่รู้ว่ามันร้ายแรง? ถ้ายับยั้งได้ – นั่นคือ “สติขั้นต้น” เกิดแล้ว ✅ ข้อที่ 2: ตอนกำลังโกรธ รู้ไหมว่ากำลังเป็นยักษ์? หรือแค่รู้เบลอๆ รู้ไม่ทัน? ถ้ารู้ชัดว่ายักษ์มา – นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ✅ ข้อที่ 3: คุณรู้จุดที่ความขัดเคือง “เริ่มเบาลง” ได้ไหม? (ฮินต์: ลมหายใจเริ่มเย็นลง รู้สึกหายใจได้ประณีตขึ้น) ✅ ข้อที่ 4: คุณเห็นไหมว่า… จิตก่อนโกรธ กับจิตหลังโกรธ มันเป็น “คนละดวงจิต”? ถ้าเห็นได้ – แปลว่าคุณกำลังก้าวเข้าสู่ “จิตตานุปัสสนา” แล้ว --- 🌿 โทสะไม่ใช่ศัตรู ถ้าเรากล้า “อยู่กับมันอย่างรู้เท่าทัน” สติจะค่อยๆ แทรกซึม จนคุณเห็นว่า… “จิตที่เคยเป็นภูเขาไฟพ่นลาวา” สงบลงได้… โดยไม่ต้องฝืน นั่นแหละ ธรรมชาติของการเจริญสติที่แท้จริง ไม่ได้อยู่แค่ในถ้ำ หรือบนหมอนรองนั่ง แต่อยู่ใน “ตอนปากกับใจแยกกันทำงาน” แล้วคุณ...เลือกฝ่ายไหนดี? --- 📌 อย่าลืมทบทวน 4 ข้อนี้ หลังมีปากเสียงครั้งหน้า... คุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 🙏 #เจริญสติในชีวิตจริง #โทสะไม่ใช่ศัตรูถ้ารู้ทัน #ปากไวใจเร็วต้องฝึกให้ทัน #ธรรมะเข้าใจง่าย #รู้เท่าทันจิต #มองโทสะเป็นครู #MindfulConflict
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • ความสุขและความพอใจที่แท้จริง

    การเข้าใจธรรมชาติของ ความอยาก และการเจริญสติรู้เท่าทันจิตใจเป็นหัวใจสำคัญของการปลดเปลื้องตัวเองจากความทุกข์


    ---

    1. ต้นเหตุของความทุกข์คือความอยาก

    ความอยากในกาม: การปรารถนาสิ่งที่น่าพอใจผ่านตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

    ความอยากมี อยากเป็น: การดิ้นรนเพื่อให้ได้สถานะ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน หรือสิ่งที่ปรารถนา

    ความไม่อยากมี ไม่อยากเป็น: การปฏิเสธหรือผลักไสสิ่งที่ไม่พอใจ


    สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันที่ทำให้จิตใจไม่สงบ เกิดความกระวนกระวายและทุกข์อย่างต่อเนื่อง


    ---

    2. ความอยากทำให้จิตเพี้ยน

    มองสิ่งที่อยากได้ผิดเพี้ยน: เมื่ออยากได้มาก สิ่งนั้นจะดูดีเกินจริง มีเสน่ห์เกินจริง

    ความหลงที่เกิดจากความอยาก: จิตที่ถูกครอบงำด้วยความอยากจะฟุ้งซ่าน ขาดความเป็นกลาง และไร้เหตุผล

    เมื่อได้มาแล้ว ความอยากนั้นจะลดลง และค่าของสิ่งที่ได้มาเริ่มจางหาย กลายเป็นธรรมดา



    ---

    3. การเจริญสติรู้ทันความอยาก

    สังเกตความอยาก: เมื่อความอยากเกิดขึ้น ให้รู้ทันว่าความอยากนั้นกำลังทำให้จิตใจผิดเพี้ยน

    เห็นธรรมชาติของจิต: เห็นว่าจิตแปรปรวนไปตามความอยาก และสุดท้ายจะลงเอยด้วยความรู้สึก “เฉยๆ”

    สติชั้นสูง: การสังเกตความอยากจนเกิดความเข้าใจในความเป็นธรรมดาของสิ่งต่างๆ จะทำให้จิตสงบและลดการยึดมั่น



    ---

    4. วิธีฝึกใจให้พอจริง

    ฝึกมองสิ่งที่มีด้วยใจเปิดกว้าง: เห็นคุณค่าในสิ่งที่มีอยู่โดยไม่ปรุงแต่ง

    ยอมรับความธรรมดา: ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือเลว เห็นมันตามที่เป็น ไม่ใช่ตามที่ใจปรุงแต่ง

    อยู่กับปัจจุบัน: หายใจเข้า-ออก พร้อมกับรู้ตัวในสิ่งที่ทำในขณะนั้น



    ---

    สรุป

    ความสุขที่แท้จริงเกิดจากการฝึกจิตให้รู้เท่าทันความอยาก และไม่ปล่อยให้มันครอบงำใจ การรู้จักพอใจในสิ่งที่มี และการมองทุกสิ่งด้วยสายตาที่เป็นกลาง จะทำให้คุณพบกับความสงบสุขและความอิ่มเอมในชีวิตอย่างยั่งยืน!

    ความสุขและความพอใจที่แท้จริง การเข้าใจธรรมชาติของ ความอยาก และการเจริญสติรู้เท่าทันจิตใจเป็นหัวใจสำคัญของการปลดเปลื้องตัวเองจากความทุกข์ --- 1. ต้นเหตุของความทุกข์คือความอยาก ความอยากในกาม: การปรารถนาสิ่งที่น่าพอใจผ่านตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ความอยากมี อยากเป็น: การดิ้นรนเพื่อให้ได้สถานะ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน หรือสิ่งที่ปรารถนา ความไม่อยากมี ไม่อยากเป็น: การปฏิเสธหรือผลักไสสิ่งที่ไม่พอใจ สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันที่ทำให้จิตใจไม่สงบ เกิดความกระวนกระวายและทุกข์อย่างต่อเนื่อง --- 2. ความอยากทำให้จิตเพี้ยน มองสิ่งที่อยากได้ผิดเพี้ยน: เมื่ออยากได้มาก สิ่งนั้นจะดูดีเกินจริง มีเสน่ห์เกินจริง ความหลงที่เกิดจากความอยาก: จิตที่ถูกครอบงำด้วยความอยากจะฟุ้งซ่าน ขาดความเป็นกลาง และไร้เหตุผล เมื่อได้มาแล้ว ความอยากนั้นจะลดลง และค่าของสิ่งที่ได้มาเริ่มจางหาย กลายเป็นธรรมดา --- 3. การเจริญสติรู้ทันความอยาก สังเกตความอยาก: เมื่อความอยากเกิดขึ้น ให้รู้ทันว่าความอยากนั้นกำลังทำให้จิตใจผิดเพี้ยน เห็นธรรมชาติของจิต: เห็นว่าจิตแปรปรวนไปตามความอยาก และสุดท้ายจะลงเอยด้วยความรู้สึก “เฉยๆ” สติชั้นสูง: การสังเกตความอยากจนเกิดความเข้าใจในความเป็นธรรมดาของสิ่งต่างๆ จะทำให้จิตสงบและลดการยึดมั่น --- 4. วิธีฝึกใจให้พอจริง ฝึกมองสิ่งที่มีด้วยใจเปิดกว้าง: เห็นคุณค่าในสิ่งที่มีอยู่โดยไม่ปรุงแต่ง ยอมรับความธรรมดา: ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือเลว เห็นมันตามที่เป็น ไม่ใช่ตามที่ใจปรุงแต่ง อยู่กับปัจจุบัน: หายใจเข้า-ออก พร้อมกับรู้ตัวในสิ่งที่ทำในขณะนั้น --- สรุป ความสุขที่แท้จริงเกิดจากการฝึกจิตให้รู้เท่าทันความอยาก และไม่ปล่อยให้มันครอบงำใจ การรู้จักพอใจในสิ่งที่มี และการมองทุกสิ่งด้วยสายตาที่เป็นกลาง จะทำให้คุณพบกับความสงบสุขและความอิ่มเอมในชีวิตอย่างยั่งยืน!
    0 Comments 0 Shares 337 Views 0 Reviews
  • ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์วรภัทร์ ภู่เจริญ ผู้เป็นอาจารย์ทั้งทางโลก และทางธรรมครับ
    ฝึกสติให้รู้เท่าทันจิต แยกวิญญาณออกมา มีสติรู้ แค่รู้เท่าทันอารมณ์
    : คบบัณฑิต-เกิดศรัทธา-ลงมือปฏิบัติ-ทำความเพียรให้รู้แจ้ง
    credit : “ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ” จากนาซ่า สู่ร่มกาสาวพัสตร์ (uncut version) | คนค้นฅน The Explorer
    ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์วรภัทร์ ภู่เจริญ ผู้เป็นอาจารย์ทั้งทางโลก และทางธรรมครับ ฝึกสติให้รู้เท่าทันจิต แยกวิญญาณออกมา มีสติรู้ แค่รู้เท่าทันอารมณ์ : คบบัณฑิต-เกิดศรัทธา-ลงมือปฏิบัติ-ทำความเพียรให้รู้แจ้ง credit : “ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ” จากนาซ่า สู่ร่มกาสาวพัสตร์ (uncut version) | คนค้นฅน The Explorer
    0 Comments 0 Shares 277 Views 45 0 Reviews