• ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก 'ครูใหญ่ อรรถพล' 3 ปี คดี ม.112 ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง ที่แยกราชประสงค์ ปี 63
    https://www.thai-tai.tv/news/21688/
    .
    #ครูใหญ่อรรถพล #มาตรา112 #แยกราชประสงค์ #ปารีณาไกรคุปต์ #นักกิจกรรมการเมือง #การเมืองไทย #นับโทษต่อ

    ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก 'ครูใหญ่ อรรถพล' 3 ปี คดี ม.112 ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง ที่แยกราชประสงค์ ปี 63 https://www.thai-tai.tv/news/21688/ . #ครูใหญ่อรรถพล #มาตรา112 #แยกราชประสงค์ #ปารีณาไกรคุปต์ #นักกิจกรรมการเมือง #การเมืองไทย #นับโทษต่อ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาทนายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์อดีตผู้บริหารและคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับพวก ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในไตรมาส 3/2561 รวมทั้งสิ้น 8คดี ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี นั้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1926/2565 ว่า จำเลยบางคนมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา และ/หรือ ความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯจำนวน 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคคีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565 อีกทั้งพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯ อีก 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และจำคุกกรรมการบริษัทคู่ค้า 1 คน เป็นระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน พร้อมให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565
    “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาทนายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์อดีตผู้บริหารและคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับพวก ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในไตรมาส 3/2561 รวมทั้งสิ้น 8คดี ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี นั้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1926/2565 ว่า จำเลยบางคนมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา และ/หรือ ความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯจำนวน 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคคีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565 อีกทั้งพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯ อีก 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และจำคุกกรรมการบริษัทคู่ค้า 1 คน เป็นระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน พร้อมให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 492 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญาสั่งจำคุกอีก 4 ปี ไม่รอลงอาญา “อานนท์ นำภา” ทนายม็อบราษฎร โพสต์หมิ่นเบื้องสูง ตามม.112 นับโทษต่ออีก 3 คดีรวมคุก 14 ปีเศษ

    25 กรกฎาคม 2567 -ที่ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำอ.735/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญาเป็นโจทก์ฟ้องนายอานนท์ นำภา ทนายความกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลอาญามาตรา112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง

    โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุป ว่า เมื่อวันที่ 11มกราคม 2564 จำเลยได้ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเจตนาให้ผู้พบเห็นหลงเชื่อ ทำนองว่า การที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ลงมาบริหารประเทศด้วยตนเอง ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย และเมื่อคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาพูดก็โดนมาตรา 112 และข้อความอื่นๆ ซึ่งเป็นความเท็จ ความจริงแล้วสถาบันกษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงและฝ่าฝืนกฎหมาย
    ศาลอาญาสั่งจำคุกอีก 4 ปี ไม่รอลงอาญา “อานนท์ นำภา” ทนายม็อบราษฎร โพสต์หมิ่นเบื้องสูง ตามม.112 นับโทษต่ออีก 3 คดีรวมคุก 14 ปีเศษ 25 กรกฎาคม 2567 -ที่ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำอ.735/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญาเป็นโจทก์ฟ้องนายอานนท์ นำภา ทนายความกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลอาญามาตรา112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุป ว่า เมื่อวันที่ 11มกราคม 2564 จำเลยได้ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเจตนาให้ผู้พบเห็นหลงเชื่อ ทำนองว่า การที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ลงมาบริหารประเทศด้วยตนเอง ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย และเมื่อคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาพูดก็โดนมาตรา 112 และข้อความอื่นๆ ซึ่งเป็นความเท็จ ความจริงแล้วสถาบันกษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงและฝ่าฝืนกฎหมาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 874 มุมมอง 0 รีวิว