สรุปเช็คเด้งในวงการพระ...หลัก พันล้าน บาท...อ่านจบ..เข้าใจทันที...
..คือการซื้อพระหลักล้าน..ไม่ว่าชิ้นเดียว หรือหล่ยชิ้นรวมกัน...ที่กระทำกันมาตลอด..คือ ซอยเช็คซื้อ...คือ เอาพระมาขายก่อน..สมมุติ ซื้อ 10 ล้าน..ซอยเช็ค 10 ใบๆ ละ ล้าน..ทุก 15 วัน...เจ้าของพระอยากขายได้ ก็ยอม...ทีนี้ เวลาไปขาย คนซื้อ..ก็ขอ ซอยเช็ค ล่วงหน้า เช่นกัน....ทีนี้ก็อยู่ที่ระบบริหารจัดการ "หลังบ้าน" แล้ว......ทีนี้เมื่อผู้จายรับเช็คมา...หลายคนก็ไม่รอ ดิวเช็ค..คือ ขายลดเช็คไปเลย..มีกันตั้งแต่ หัก3-10% ...ขึ้นอยู่ที่ว่าใครรับ...และข้อตกลงระหว่างกัน....ทีนี้ ขายมาก ก็ซื้อมาก..หมุนไปมา..ก็จะไม่มีปัญหา..ถ้าเช็คไม่เด้ง.....ทีนี้สภาวะเศรษฐกิจแบบที่เราเห็น...เช็คผู้ซื้อเด้ง....ก็ทำให้เช็คผู้ขายที่ตีให้คนอื่นไป..เด้งด้วย...เช็คที่ขายลดเช็คไปก็เด้ง.....บางคนถามทำไมยอดไปถึงพันล้าน...ต้องบอกว่า ..ก็เป็นการ "เอืัอสภาพคล่องกัน" เพื่อแลกกับผลประโยชน์ จากกำไรที่ขายของได้ ...กำไรจากรับขายลดเช็ค..ก็ปล่อยยอดไป...ทีนี้ ดินพอกหางหมู....ที่หวังว่าจะมียอดมาเติม..ก็ไม่มี...และก็เหมือนทุกธุรกิจ...คือถ้าหมดสภาพคล่องเมื่อไหร่...ก็ไปต่อไม่ได้....
...และถามว่าจะจบอย่างไร? ..ก็คงต้องประนอมยืดหยุ่นกันไป...เพราะปัจจุบัน พรบ.เช็ค ..ไม่เป็นคดีอาญาแล้ว (ถ้าไม่ใช่เช็คที่ชำระหนี้..ที่มีสัญญาชัดเจน) ...พอเป็นคดีแพ่ง..การบังคับคดี..ก็มีความเสี่ยงมากขึ้น...
#ทั้งหมดมาจาก2 เหตุผลหลักคือ
1. สภาวะเศรษฐกิจ
2. ระบบบริหารจัดการ..หน้าบ้าน หลังบ้าน...ไม่ดีพอ ...
..คือการซื้อพระหลักล้าน..ไม่ว่าชิ้นเดียว หรือหล่ยชิ้นรวมกัน...ที่กระทำกันมาตลอด..คือ ซอยเช็คซื้อ...คือ เอาพระมาขายก่อน..สมมุติ ซื้อ 10 ล้าน..ซอยเช็ค 10 ใบๆ ละ ล้าน..ทุก 15 วัน...เจ้าของพระอยากขายได้ ก็ยอม...ทีนี้ เวลาไปขาย คนซื้อ..ก็ขอ ซอยเช็ค ล่วงหน้า เช่นกัน....ทีนี้ก็อยู่ที่ระบบริหารจัดการ "หลังบ้าน" แล้ว......ทีนี้เมื่อผู้จายรับเช็คมา...หลายคนก็ไม่รอ ดิวเช็ค..คือ ขายลดเช็คไปเลย..มีกันตั้งแต่ หัก3-10% ...ขึ้นอยู่ที่ว่าใครรับ...และข้อตกลงระหว่างกัน....ทีนี้ ขายมาก ก็ซื้อมาก..หมุนไปมา..ก็จะไม่มีปัญหา..ถ้าเช็คไม่เด้ง.....ทีนี้สภาวะเศรษฐกิจแบบที่เราเห็น...เช็คผู้ซื้อเด้ง....ก็ทำให้เช็คผู้ขายที่ตีให้คนอื่นไป..เด้งด้วย...เช็คที่ขายลดเช็คไปก็เด้ง.....บางคนถามทำไมยอดไปถึงพันล้าน...ต้องบอกว่า ..ก็เป็นการ "เอืัอสภาพคล่องกัน" เพื่อแลกกับผลประโยชน์ จากกำไรที่ขายของได้ ...กำไรจากรับขายลดเช็ค..ก็ปล่อยยอดไป...ทีนี้ ดินพอกหางหมู....ที่หวังว่าจะมียอดมาเติม..ก็ไม่มี...และก็เหมือนทุกธุรกิจ...คือถ้าหมดสภาพคล่องเมื่อไหร่...ก็ไปต่อไม่ได้....
...และถามว่าจะจบอย่างไร? ..ก็คงต้องประนอมยืดหยุ่นกันไป...เพราะปัจจุบัน พรบ.เช็ค ..ไม่เป็นคดีอาญาแล้ว (ถ้าไม่ใช่เช็คที่ชำระหนี้..ที่มีสัญญาชัดเจน) ...พอเป็นคดีแพ่ง..การบังคับคดี..ก็มีความเสี่ยงมากขึ้น...
#ทั้งหมดมาจาก2 เหตุผลหลักคือ
1. สภาวะเศรษฐกิจ
2. ระบบบริหารจัดการ..หน้าบ้าน หลังบ้าน...ไม่ดีพอ ...
สรุปเช็คเด้งในวงการพระ...หลัก พันล้าน บาท...อ่านจบ..เข้าใจทันที...
..คือการซื้อพระหลักล้าน..ไม่ว่าชิ้นเดียว หรือหล่ยชิ้นรวมกัน...ที่กระทำกันมาตลอด..คือ ซอยเช็คซื้อ...คือ เอาพระมาขายก่อน..สมมุติ ซื้อ 10 ล้าน..ซอยเช็ค 10 ใบๆ ละ ล้าน..ทุก 15 วัน...เจ้าของพระอยากขายได้ ก็ยอม...ทีนี้ เวลาไปขาย คนซื้อ..ก็ขอ ซอยเช็ค ล่วงหน้า เช่นกัน....ทีนี้ก็อยู่ที่ระบบริหารจัดการ "หลังบ้าน" แล้ว......ทีนี้เมื่อผู้จายรับเช็คมา...หลายคนก็ไม่รอ ดิวเช็ค..คือ ขายลดเช็คไปเลย..มีกันตั้งแต่ หัก3-10% ...ขึ้นอยู่ที่ว่าใครรับ...และข้อตกลงระหว่างกัน....ทีนี้ ขายมาก ก็ซื้อมาก..หมุนไปมา..ก็จะไม่มีปัญหา..ถ้าเช็คไม่เด้ง.....ทีนี้สภาวะเศรษฐกิจแบบที่เราเห็น...เช็คผู้ซื้อเด้ง....ก็ทำให้เช็คผู้ขายที่ตีให้คนอื่นไป..เด้งด้วย...เช็คที่ขายลดเช็คไปก็เด้ง.....บางคนถามทำไมยอดไปถึงพันล้าน...ต้องบอกว่า ..ก็เป็นการ "เอืัอสภาพคล่องกัน" เพื่อแลกกับผลประโยชน์ จากกำไรที่ขายของได้ ...กำไรจากรับขายลดเช็ค..ก็ปล่อยยอดไป...ทีนี้ ดินพอกหางหมู....ที่หวังว่าจะมียอดมาเติม..ก็ไม่มี...และก็เหมือนทุกธุรกิจ...คือถ้าหมดสภาพคล่องเมื่อไหร่...ก็ไปต่อไม่ได้....
...และถามว่าจะจบอย่างไร? ..ก็คงต้องประนอมยืดหยุ่นกันไป...เพราะปัจจุบัน พรบ.เช็ค ..ไม่เป็นคดีอาญาแล้ว (ถ้าไม่ใช่เช็คที่ชำระหนี้..ที่มีสัญญาชัดเจน) ...พอเป็นคดีแพ่ง..การบังคับคดี..ก็มีความเสี่ยงมากขึ้น...
#ทั้งหมดมาจาก2 เหตุผลหลักคือ
1. สภาวะเศรษฐกิจ
2. ระบบบริหารจัดการ..หน้าบ้าน หลังบ้าน...ไม่ดีพอ ...
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
64 มุมมอง
0 รีวิว