• #พุทธคุณพระเครื่อง# #ร่างทรง#
    ....ประสบการณ์ส่วนตัว ย้อนไป 40 กว่าปีก่อน สมัยผู้เขียนอายุ 12_13 ปี ...
    ...คุณลุงของผู้เขียนเป็นทหารอยู่ลพบุรี ...ขี่มอเตอร์ไซด์...หลับใน ประสานงา กับรถกระบะ....เสียชีวิตคาที่....แต่ที่น่าสนใจคือ คอหัก แขนขาหัก.. แต่ไม่มีเลือดสักหยด...คือเหนียวแต่ข้างนอก....ข้างในไม่เหนียวด้วย...ผู้เขียนจึงถามน้องชายคุณลุงอีกคนว่า ห้อยพระอะไร...ได้รับคำตอบว่า ซุ้มกอกำแพงเพชร องค์เดียว...ก็เลยจำไว้ว่า .วันนึงจะต้องหามาให้ได้ ..
    ...หลังจากจัดการงานศพเสร็จ...ก็มีการเข้าทรง...และบันทึกเทป (สมัยนั้น เป็นม้วนกลมๆ 2 ม้วน เขาเรียกเทปรีล หรืออะไร .จำไม่ได้..ยังไม่มีตลับเทปคาสเซ็ท) ...แต่ตอนเข้าทรงผู้เขียนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์...หลังจากวันเข้าทรง...บรรดาญาติก็เอาทีที่บันทึกไว้มาเปิด และฟังพร้อมกัน...จำนวนหลายๆคน....ได้ยินครั้งแรก..ตกใจ...เสียงลุงเราจริงๆ....ญาติถามคนทรงว่า เป็นไงบ้าง อยู่ที่ไหน ...เสียงตอบมาว่า ไม่ต้องห่วง พี่อยู่กับพ่อพระกาฬแล้ว (ศาลพระกาฬลพบุรี) ฝากลูกๆพี่ด้วยนะ.......ตกใจครั้งที่ 2 ....คือ ร่างทรง...เป็นผู้หญิง....!!! ..แต่เสียงผู้ชาย ลุงเรา 100% ......
    ....วิทยาศาสตร์มีคำตอบไหม..สิ่งนี้ ...
    ...ส่วนตัวมีประสบการณ์รอดตายมาก็หลายครั้ง ....เชื่อมั่น 100% ......แต่....ต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบว่า...ใครสร้าง ...ใครเสก ..มีความสามารถจริงไหม..ที่จะทำให้มีพุทธานุภาพจริง............ไม่ใช่เชื่อโดยการปั่น หรือการตลาด.....แน่นอน..
    ...อีกนิด เมื่อก่อน ร่างทรงจริงเก๊ เขาพิสูจน์กันง่ายๆ ถ้าลงทรง จุดธูปแดงๆสักกำมือ ...จี้เลย....ถ้าเก๊ก็สะดุ้งแน่...ถ้าของจริงนิ่งเฉย (ร่างทรงจตุคามยุคแรกเป็นแบบนี้น นิ่ง)
    #พุทธคุณพระเครื่อง# #ร่างทรง# ....ประสบการณ์ส่วนตัว ย้อนไป 40 กว่าปีก่อน สมัยผู้เขียนอายุ 12_13 ปี ... ...คุณลุงของผู้เขียนเป็นทหารอยู่ลพบุรี ...ขี่มอเตอร์ไซด์...หลับใน ประสานงา กับรถกระบะ....เสียชีวิตคาที่....แต่ที่น่าสนใจคือ คอหัก แขนขาหัก.. แต่ไม่มีเลือดสักหยด...คือเหนียวแต่ข้างนอก....ข้างในไม่เหนียวด้วย...ผู้เขียนจึงถามน้องชายคุณลุงอีกคนว่า ห้อยพระอะไร...ได้รับคำตอบว่า ซุ้มกอกำแพงเพชร องค์เดียว...ก็เลยจำไว้ว่า .วันนึงจะต้องหามาให้ได้ .. ...หลังจากจัดการงานศพเสร็จ...ก็มีการเข้าทรง...และบันทึกเทป (สมัยนั้น เป็นม้วนกลมๆ 2 ม้วน เขาเรียกเทปรีล หรืออะไร .จำไม่ได้..ยังไม่มีตลับเทปคาสเซ็ท) ...แต่ตอนเข้าทรงผู้เขียนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์...หลังจากวันเข้าทรง...บรรดาญาติก็เอาทีที่บันทึกไว้มาเปิด และฟังพร้อมกัน...จำนวนหลายๆคน....ได้ยินครั้งแรก..ตกใจ...เสียงลุงเราจริงๆ....ญาติถามคนทรงว่า เป็นไงบ้าง อยู่ที่ไหน ...เสียงตอบมาว่า ไม่ต้องห่วง พี่อยู่กับพ่อพระกาฬแล้ว (ศาลพระกาฬลพบุรี) ฝากลูกๆพี่ด้วยนะ.......ตกใจครั้งที่ 2 ....คือ ร่างทรง...เป็นผู้หญิง....!!! ..แต่เสียงผู้ชาย ลุงเรา 100% ...... ....วิทยาศาสตร์มีคำตอบไหม..สิ่งนี้ ... ...ส่วนตัวมีประสบการณ์รอดตายมาก็หลายครั้ง ....เชื่อมั่น 100% ......แต่....ต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบว่า...ใครสร้าง ...ใครเสก ..มีความสามารถจริงไหม..ที่จะทำให้มีพุทธานุภาพจริง............ไม่ใช่เชื่อโดยการปั่น หรือการตลาด.....แน่นอน.. ...อีกนิด เมื่อก่อน ร่างทรงจริงเก๊ เขาพิสูจน์กันง่ายๆ ถ้าลงทรง จุดธูปแดงๆสักกำมือ ...จี้เลย....ถ้าเก๊ก็สะดุ้งแน่...ถ้าของจริงนิ่งเฉย (ร่างทรงจตุคามยุคแรกเป็นแบบนี้น นิ่ง)
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌳 #EP3
    ..คุยกับอดีตโจรคนนึง...แกหนี และยิงสู้กับตำรวจ...ถูกยิง 3 นัด หน้าอก 1 นัด แค่ช้ำ ผิวไหม้ เสื้อขาด แต่ไม่เข้า...ที่ท้อง เช่นกันกับหน้าอก...
    แต่อีกนัด เข้าที่ต้นขา กระสุนฝัง...
    อันนี้ ห้อย หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก.จ สุพรรณ...
    ...เดี๋ยวจะยาวไป...ตั้งแต่เก็บข้อมูลมาหลายปี..ผู้เขียนเป็นนักสถิติ เชื่อสถิติ และข้อมูลจากหลายส่วน...พุทธคุณพระเครื่องมีจริง...แต่ให้ผลไม่เหมือนกัน...ทั้งเรื่องของแต่ละบุคคล หรือแต่ละเกจิอาจารย์ ..มันมีเรื่อง "โฉลก" และ "บุญกรรม" มาเกี่ยวข้อง...2 สิ่งนี้ คือ คำอธิบายว่า ทำไมจึงให้ผล...ไม่เหมือนกัน..ในทุกคน....
    🌳 #EP3 ..คุยกับอดีตโจรคนนึง...แกหนี และยิงสู้กับตำรวจ...ถูกยิง 3 นัด หน้าอก 1 นัด แค่ช้ำ ผิวไหม้ เสื้อขาด แต่ไม่เข้า...ที่ท้อง เช่นกันกับหน้าอก... แต่อีกนัด เข้าที่ต้นขา กระสุนฝัง... อันนี้ ห้อย หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก.จ สุพรรณ... ...เดี๋ยวจะยาวไป...ตั้งแต่เก็บข้อมูลมาหลายปี..ผู้เขียนเป็นนักสถิติ เชื่อสถิติ และข้อมูลจากหลายส่วน...พุทธคุณพระเครื่องมีจริง...แต่ให้ผลไม่เหมือนกัน...ทั้งเรื่องของแต่ละบุคคล หรือแต่ละเกจิอาจารย์ ..มันมีเรื่อง "โฉลก" และ "บุญกรรม" มาเกี่ยวข้อง...2 สิ่งนี้ คือ คำอธิบายว่า ทำไมจึงให้ผล...ไม่เหมือนกัน..ในทุกคน....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • สักครู่ดูคลิป อ.คนดัง...ออกมาพูดว่า พุทธคุณพระเครื่อง ถ้ามีจริง ต้องใช้ได้กับทุกคนสิ....เอาประสบการณ์ของผู้เขียนเอง. และพบเจอกับมหาเศรษญีเมืองไทย นักเลง โจร ก็มากมาย....
    ..ผู้เขียน ขับรถ หลับใน ครั้งแรก รถกำลังจะขึ้นเกาะกลาง..มีคนกระชากตัวอย่างแรง จนตื่น หักพวงมาลัยทัน....
    ..ครั้งที่ 2 หลับเช่นเคย 6 โมงเช้า เพิ่งเลิกดื่ม...อยู่บนทางด่วน..รถเองแถไป..กำลังจะพุงลงทางด่วน...เช่นเคย มีคนกระขากจนตื่น...หักพวงมาลัยกลับทัน..และรถข้างๆที่หักไปหาเขาก็หลบเราทันด้วย...
    ....2 ครั้งนี้ พระองค์เดียวกัน คือ หลวงปู่ทวด...
    ..อีกครั้งนึง เราทำธุรกิจ แล้วมีศัตรู...ปกติทุกเช้า จะออกจากบ้าน 9.00 น. คือ รอให้รถหายติดก่อน....วันนั้นก็เช่นเคย...มีลางสังหรณ์ว่า อย่าเพิ่งออกไป...ก็กลับมากินกาแฟ อ่านหนังสือ อะไรไปเรื่อยจนถึง 10.30 น. ....พอเปิดรั้ว..เห็นก้นบุหรี่จำนวนมาก..เลยเดินไปถามบ้านตรงข้ามว่า ใครมายืนสูบและทิ้งตรงนี้ ...ได้คำตอบว่า มีคนแต่งกายเหมือนทหาร..ครึ่งท่อน 3 คน..เดินวนไปมา .ตั้งนานแล้ว..เพิ่งไปเมื้อสักครู่....ก็อ่อเลย..คือ จะมาดักอุ้มเราแน่...
    ..ตอนนั้น ห้อย เสือเผ่น ปี 17 หลวงพ่อสุดวัดกาหลง เดี๋ยวๆเลย.
    ,...ต่อ Ep 2
    สักครู่ดูคลิป อ.คนดัง...ออกมาพูดว่า พุทธคุณพระเครื่อง ถ้ามีจริง ต้องใช้ได้กับทุกคนสิ....เอาประสบการณ์ของผู้เขียนเอง. และพบเจอกับมหาเศรษญีเมืองไทย นักเลง โจร ก็มากมาย.... ..ผู้เขียน ขับรถ หลับใน ครั้งแรก รถกำลังจะขึ้นเกาะกลาง..มีคนกระชากตัวอย่างแรง จนตื่น หักพวงมาลัยทัน.... ..ครั้งที่ 2 หลับเช่นเคย 6 โมงเช้า เพิ่งเลิกดื่ม...อยู่บนทางด่วน..รถเองแถไป..กำลังจะพุงลงทางด่วน...เช่นเคย มีคนกระขากจนตื่น...หักพวงมาลัยกลับทัน..และรถข้างๆที่หักไปหาเขาก็หลบเราทันด้วย... ....2 ครั้งนี้ พระองค์เดียวกัน คือ หลวงปู่ทวด... ..อีกครั้งนึง เราทำธุรกิจ แล้วมีศัตรู...ปกติทุกเช้า จะออกจากบ้าน 9.00 น. คือ รอให้รถหายติดก่อน....วันนั้นก็เช่นเคย...มีลางสังหรณ์ว่า อย่าเพิ่งออกไป...ก็กลับมากินกาแฟ อ่านหนังสือ อะไรไปเรื่อยจนถึง 10.30 น. ....พอเปิดรั้ว..เห็นก้นบุหรี่จำนวนมาก..เลยเดินไปถามบ้านตรงข้ามว่า ใครมายืนสูบและทิ้งตรงนี้ ...ได้คำตอบว่า มีคนแต่งกายเหมือนทหาร..ครึ่งท่อน 3 คน..เดินวนไปมา .ตั้งนานแล้ว..เพิ่งไปเมื้อสักครู่....ก็อ่อเลย..คือ จะมาดักอุ้มเราแน่... ..ตอนนั้น ห้อย เสือเผ่น ปี 17 หลวงพ่อสุดวัดกาหลง เดี๋ยวๆเลย. ,...ต่อ Ep 2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว


  • ในวงการเซียนพระทราบกันดีว่า จะไม่มี “พระเบญจภาคี” ได้เลย หากปราศจากบุคคลที่ชื่อ “ตรียัมปวาย” อันเป็นนามปากกาของปรมาจารย์ด้านพระเครื่องผู้มีชื่อเสียงโด่งดังระหว่างช่วงทศวรรษ 2490-2520 และเป็นแบบแผน และหลักยึดของเซียนพระต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

    เนื่องจากเขาผู้นี้เอง เป็นผู้รวบรวมพระพิมพ์รุ่นเด่นๆ 5 สกุลมาบัญญัตินามเฉพาะขึ้นว่า “พระเบญจภาคี”

    นามจริงของตรียัมปวายคือ พันเอกพิเศษผจญ กิตติประวัติ



    ท่านเป็นคนเขียนบทความในหนังสือชุด “ปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง” โดยใช้นามปากกาว่า ตรียัมปวาย อันมาจากพิธีโล้ชิงช้า ที่สิ้นสุดไปในปี พศ 2478

    พุทธคุณพระเครื่อง

    ความนิยมของพระเครื่องเริ่มต้นขึ้นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (พศ.2485) อันเป็นยุคที่ทั่วทุกหัวระแหงผู้คนอดอยากยากแค้น และหวาดระแวง เรื่องความปลอดภัยในชีวิต ผู้คนจึงต่างเสาะแสวงหาของดีมาคุ้มครองป้องกัน และเมื่อมีความนิยม มีราคาซื้อขาย อาชีพใหม่ก็เกิดขึ้น การลักลอบขุดกรุขโมยพระเครื่องมาขายผู้ดีบางกอกเพื่อประทังชีพ ความกลัวของผู้คน รวมถึงชายชาติทหารที่ต้องถูกเกณฑ์ไปออกรบ ก็จำเป็นต้องหาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ



    ความหมายแห่งเบญจภาคี

    ตอนแรกตรียัมปวายเคยกำหนดว่าบรรดาพระเครื่องที่โดดเด่นในสยามนั้น ที่สุดของที่สุดมีแค่ 3 พิมพ์ทรง ได้แก่ พระสมเด็จวัดระฆัง พระนางพญาพิษณุโลก และพระรอดลำพูน รวมเรียกว่า “ไตรภาค” หรือ “ไตรภาคี”

    แต่แล้วจากนั้นไม่นานก็เพิ่มมาอีก 2 สกุลคือ พระซุ้มกอกำแพงเพชร กับพระผงสุพรรณ บัญญัตินามใหม่ว่า “เบญจภาคี” ราวต้นทศวรรษ 2490

    สำหรับการเลือกพระพิมพ์ 5 สกุลนี้มาเป็น “เพชรในเรือนมงกุฎ” นั้น ตรียัมปวายให้เหตุผลว่า เพราะมีความโดดเด่นด้านพุทธคุณ ด้านพุทธศิลป์ มีประวัติการสร้างหรือจารึกที่สืบค้นได้

    เนื่องจากในยุคนั้น ยังไม่เคยมีหลักยึดในการเล่นหาสะสมซื้อขขายอย่างหนึ่งอย่างใดเลย หลักการนี้ จึงเป็นหลักการแรก ในแง่ความนิยม ซึ่งยึดถือ และสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน







    ในวงการเซียนพระทราบกันดีว่า จะไม่มี “พระเบญจภาคี” ได้เลย หากปราศจากบุคคลที่ชื่อ “ตรียัมปวาย” อันเป็นนามปากกาของปรมาจารย์ด้านพระเครื่องผู้มีชื่อเสียงโด่งดังระหว่างช่วงทศวรรษ 2490-2520 และเป็นแบบแผน และหลักยึดของเซียนพระต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเขาผู้นี้เอง เป็นผู้รวบรวมพระพิมพ์รุ่นเด่นๆ 5 สกุลมาบัญญัตินามเฉพาะขึ้นว่า “พระเบญจภาคี” นามจริงของตรียัมปวายคือ พันเอกพิเศษผจญ กิตติประวัติ ท่านเป็นคนเขียนบทความในหนังสือชุด “ปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง” โดยใช้นามปากกาว่า ตรียัมปวาย อันมาจากพิธีโล้ชิงช้า ที่สิ้นสุดไปในปี พศ 2478 พุทธคุณพระเครื่อง ความนิยมของพระเครื่องเริ่มต้นขึ้นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (พศ.2485) อันเป็นยุคที่ทั่วทุกหัวระแหงผู้คนอดอยากยากแค้น และหวาดระแวง เรื่องความปลอดภัยในชีวิต ผู้คนจึงต่างเสาะแสวงหาของดีมาคุ้มครองป้องกัน และเมื่อมีความนิยม มีราคาซื้อขาย อาชีพใหม่ก็เกิดขึ้น การลักลอบขุดกรุขโมยพระเครื่องมาขายผู้ดีบางกอกเพื่อประทังชีพ ความกลัวของผู้คน รวมถึงชายชาติทหารที่ต้องถูกเกณฑ์ไปออกรบ ก็จำเป็นต้องหาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ความหมายแห่งเบญจภาคี ตอนแรกตรียัมปวายเคยกำหนดว่าบรรดาพระเครื่องที่โดดเด่นในสยามนั้น ที่สุดของที่สุดมีแค่ 3 พิมพ์ทรง ได้แก่ พระสมเด็จวัดระฆัง พระนางพญาพิษณุโลก และพระรอดลำพูน รวมเรียกว่า “ไตรภาค” หรือ “ไตรภาคี” แต่แล้วจากนั้นไม่นานก็เพิ่มมาอีก 2 สกุลคือ พระซุ้มกอกำแพงเพชร กับพระผงสุพรรณ บัญญัตินามใหม่ว่า “เบญจภาคี” ราวต้นทศวรรษ 2490 สำหรับการเลือกพระพิมพ์ 5 สกุลนี้มาเป็น “เพชรในเรือนมงกุฎ” นั้น ตรียัมปวายให้เหตุผลว่า เพราะมีความโดดเด่นด้านพุทธคุณ ด้านพุทธศิลป์ มีประวัติการสร้างหรือจารึกที่สืบค้นได้ เนื่องจากในยุคนั้น ยังไม่เคยมีหลักยึดในการเล่นหาสะสมซื้อขขายอย่างหนึ่งอย่างใดเลย หลักการนี้ จึงเป็นหลักการแรก ในแง่ความนิยม ซึ่งยึดถือ และสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว