• ✅ วัคซีนฝีดาษลิง จำเป็นแค่ไหน?
    ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767
    ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/
    ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง”
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615
    ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://thaitimes.co/posts/14521
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1050540056439694/?
    ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674
    ✍️เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653
    ✍️ ดร. เชอร์รี เทนเพนนี : https://drtenpenny.com ใช้เวลามากกว่า 24 ปีและใช้เวลามากกว่า 40,000 ชั่วโมงในการค้นคว้า บันทึก และเปิดเผยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ท่านเป็นวิทยากรประจำในการประชุมระดับชาติและระดับนานาชาติ และเป็นแขกประจำในรายการวิทยุ พอดแคสต์ และรายการทีวี โดยแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับการวิจัยอย่างสูงของท่านว่าเหตุใดเราจึงควรปฏิเสธวัคซีน สัมภาษณ์โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.rookon.com/?p=1173
    ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903
    ✍️ “หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470
    ✍️24เม.ย.2568เริ่มกระหน่ำคนไทยอีกรอบด้วยวซ.ฝีดาษลิง เริ่มที่ด่านหน้าก่อน
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/684107170971610/?
    รวบรวมโดย
    ทีมแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅ วัคซีนฝีดาษลิง จำเป็นแค่ไหน? ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435 ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767 ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/ ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง” https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615 ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://thaitimes.co/posts/14521 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1050540056439694/? ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674 ✍️เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653 ✍️ ดร. เชอร์รี เทนเพนนี : https://drtenpenny.com ใช้เวลามากกว่า 24 ปีและใช้เวลามากกว่า 40,000 ชั่วโมงในการค้นคว้า บันทึก และเปิดเผยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ท่านเป็นวิทยากรประจำในการประชุมระดับชาติและระดับนานาชาติ และเป็นแขกประจำในรายการวิทยุ พอดแคสต์ และรายการทีวี โดยแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับการวิจัยอย่างสูงของท่านว่าเหตุใดเราจึงควรปฏิเสธวัคซีน สัมภาษณ์โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.rookon.com/?p=1173 ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903 ✍️ “หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม? https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470 ✍️24เม.ย.2568เริ่มกระหน่ำคนไทยอีกรอบด้วยวซ.ฝีดาษลิง เริ่มที่ด่านหน้าก่อน https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/684107170971610/? รวบรวมโดย ทีมแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • 🌿 โอเมก้า-3 เดินทางจากจานอาหาร…สู่สมอง ลำไส้ และยีนของคุณ

    โอเมก้า-3 อาจเริ่มต้นจากจานปลาย่างในมือคุณ หรือเมล็ดแฟลกซ์เล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในข้าวต้มตอนเช้า

    แต่มันไม่ได้หยุดแค่ที่ลำไส้

    เมื่อคุณเคี้ยวกลืน และดูดซึม…โอเมก้า-3 จะออกเดินทางอย่างเงียบงาม

    ไปจนถึงเยื่อหุ้มเซลล์ของหัวใจ

    ไปจนถึงตับที่ผลิตไขมัน
    และแม้แต่สมองที่คุณใช้คิด พูด ร้องไห้ และให้อภัย

    โอเมก้า-3 จึงไม่ใช่ “สารอาหารเฉพาะทาง”…

    แต่มันคือผู้ประสานความสัมพันธ์ของอวัยวะทั้งร่างกายให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง

    🔬 กลไกเชิงลึก: เส้นทางของโอเมก้า-3 ในร่างกาย

    1. 🧠 จากปลา…สู่สมอง

    โอเมก้า-3 โดยเฉพาะ DHA เป็นกรดไขมันหลักใน เยื่อหุ้มเซลล์สมองและตา

    ช่วยเสริมความยืดหยุ่นของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท → การส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ดีขึ้น

    ลดการอักเสบในสมองผ่านการยับยั้ง MAPK และ NF-κB

    มีผลต่อ PPARγ และกระตุ้นการตายของเซลล์ผิดปกติ (apoptosis) ในเซลล์มะเร็ง

    🧠 โอเมก้า-3 จึงทั้ง “ปกป้อง” สมอง และ “คัดแยก” เซลล์ที่ไม่ควรอยู่

    2. 🍽 จากจานอาหาร…สู่ระบบย่อยและลำไส้

    เมื่อเรารับประทานโอเมก้า-3 → ร่างกายดูดซึมผ่าน ลำไส้เล็ก

    จากนั้นเข้าสู่กระแสเลือดผ่านระบบหลอดเลือด (vasculature) → ส่งไปยังอวัยวะต่างๆ

    โอเมก้า-3 ที่ไปถึงลำไส้ใหญ่ → เปลี่ยนแปลงสมดุลของจุลินทรีย์

    เพิ่มแบคทีเรียที่ผลิต butyrate และ SCFAs

    ลดเชื้อร้าย เช่น E. coli, S. aureus, Pseudomonas

    🧠 โอเมก้า-3 เหมือนผู้ดูแลชุมชนจุลินทรีย์ในลำไส้...ให้สงบ ไม่ก่อไฟอักเสบเรื้อรัง

    3. 🫀 จากลำไส้…สู่หลอดเลือด

    โอเมก้า-3 ลดการแข็งตัวของเลือด, ลดความหนืด

    เสริมความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด → ความดันโลหิตลดลง

    ลดสารกระตุ้นการอักเสบ เช่น LTB₄ และ TXA₂

    4. 🧬 จากเซลล์ลำไส้…สู่ตับและยีน

    ตับคือจุดศูนย์กลางของการเผาผลาญไขมัน

    โอเมก้า-3 ปรับสมดุล omega-3:omega-6 ratio → ลดไขมันสะสมในตับ (NAFLD)

    กระตุ้น PPARα และ PPARγ → ควบคุมการเผาผลาญและลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน

    ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วนจากอาหารไขมันสูง

    🧠 นี่ไม่ใช่แค่การลดน้ำหนัก…แต่คือการเปลี่ยน “สภาวะยีน” ของตับให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง

    🍽 เมนูอบอุ่นที่ส่งโอเมก้า-3 ไปถึงหัวใจของคุณ

    ปลาทะเล (ย่างพริกไทยดำ, ต้มส้ม, ปลาทูต้มเค็มใส่กระเทียม)

    แฟลกซ์ซีดบดผสมน้ำมะนาว/น้ำผึ้ง

    ไข่ไก่โอเมก้า-3

    ข้าวยำใส่ปลาทู + เมล็ดเจียเล็กน้อย

    🧭 คำแนะนำการใช้

    หากรับประทานโอเมก้า-3จากปลา

    แนะนำอย่างน้อย 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อให้ได้ DHA และ EPA อย่างพอเพียง
    (ปลาทะเลน้ำลึก เช่น แซลมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน เป็นแหล่งดี)

    หากรับประทานในรูปแบบน้ำมันปลา (เสริม)

    เริ่มจาก 1000–2000 มก./วัน (รวม EPA + DHA)
    และควรเลือกแบบ Triglyceride form หรือจากปลาเล็ก เพื่อความปลอดภัยและดูดซึมได้ดี

    โอเมก้า-3 จากพืช (ALA) เช่น เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย

    สามารถใช้เสริมได้ แต่ควรกินเป็นประจำ และอาจไม่เพียงพอหากต้องการผลลึกด้านสมองหรือภูมิคุ้มกัน

    ❗ ข้อควรระวัง

    ผู้ที่ใช้ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin, aspirin ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

    เพราะโอเมก้า-3 มีฤทธิ์ทำให้เลือดไหลลื่นขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออก

    ผู้ที่มี โรคตับรุนแรง, โรคแพ้อาหารทะเล, หรือใช้ยาเบาหวานบางชนิด ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ก่อนเริ่มเสริมโอเมก้า-3

    หากมีภาวะ ภูมิคุ้มกันต่ำ, ลำไส้แปรปรวนรุนแรง, หรือเคยมีปัญหาแพ้น้ำมันปลา

    ควรเริ่มจากปริมาณน้อย และเลือกแหล่งที่บริสุทธิ์ ผ่านการตรวจโลหะหนัก

    ❓ คำถามชวนคิด

    Q: ถ้าไม่กินปลาเลย ควรทำอย่างไร?

    A: ใช้แฟลกซ์ซีดบด + เมล็ดเจีย + น้ำมันงาขี้ม่อน (ALA) ร่วมกับ DHA จากสาหร่าย

    Q: หากเป็นเบาหวานหรือ NAFLD แล้ว จะช่วยจริงไหม?

    A: งานวิจัยนี้ระบุว่าโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบของตับและลำไส้ และลดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้

    🌿 สมุนไพรที่เสริมกลไกนี้

    ขมิ้นชัน → ช่วยลดการอักเสบในลำไส้และตับผ่าน NF-κB

    กระเทียม → เสริมภูมิคุ้มกันในลำไส้

    ใบหม่อน → ปรับสมดุลจุลินทรีย์ และลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน

    พริกไทยดำ → เสริมการดูดซึมโอเมก้า-3 และสารอื่นๆ

    🤍 ปลอบโยนหัวใจ

    ร่างกายของคุณมีทางเชื่อมลับ ๆ มากมาย
    ที่สมองพูดคุยกับลำไส้

    ที่ตับส่งสัญญาณถึงหลอดเลือด
    และที่จุลินทรีย์นับล้านกำลังตัดสินว่าคุณจะอักเสบหรือหายดีในวันนี้หรือไม่

    โอเมก้า-3 จึงไม่ใช่แค่ไขมันชนิดหนึ่ง

    แต่มันคือ “สะพานเชื่อมระหว่างอวัยวะ…ด้วยความสงบ”

    ขอให้คุณใช้มื้ออาหารเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟู

    และให้โอเมก้า-3 พาคุณกลับไปหาความสงบในแบบที่คุณเคยลืมไปนานแล้ว 🌿

    ⚠️ คำเตือน

    บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษาเชิงกลไกทางชีวภาพเท่านั้น
    ไม่ได้มีเจตนาให้ใช้แทนการรักษา หรือคำแนะนำทางการแพทย์

    ผู้ที่มีโรคตับ โรคเบาหวาน หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
    ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้โอเมก้า-3 หรือสมุนไพรเสริมใดๆ

    📚 อ้างอิง

    Fu Y, Wang Y, Zhang Y, et al. (2021). Associations among Dietary Omega‐3 Polyunsaturated Fatty Acids, the Gut Microbiota, and Intestinal Immunity. Mediators of Inflammation, 2021, Article ID 8879227. https://doi.org/10.1155/2021/8879227
    🌿 โอเมก้า-3 เดินทางจากจานอาหาร…สู่สมอง ลำไส้ และยีนของคุณ โอเมก้า-3 อาจเริ่มต้นจากจานปลาย่างในมือคุณ หรือเมล็ดแฟลกซ์เล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในข้าวต้มตอนเช้า แต่มันไม่ได้หยุดแค่ที่ลำไส้ เมื่อคุณเคี้ยวกลืน และดูดซึม…โอเมก้า-3 จะออกเดินทางอย่างเงียบงาม ไปจนถึงเยื่อหุ้มเซลล์ของหัวใจ ไปจนถึงตับที่ผลิตไขมัน และแม้แต่สมองที่คุณใช้คิด พูด ร้องไห้ และให้อภัย โอเมก้า-3 จึงไม่ใช่ “สารอาหารเฉพาะทาง”… แต่มันคือผู้ประสานความสัมพันธ์ของอวัยวะทั้งร่างกายให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง 🔬 กลไกเชิงลึก: เส้นทางของโอเมก้า-3 ในร่างกาย 1. 🧠 จากปลา…สู่สมอง โอเมก้า-3 โดยเฉพาะ DHA เป็นกรดไขมันหลักใน เยื่อหุ้มเซลล์สมองและตา ช่วยเสริมความยืดหยุ่นของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท → การส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ดีขึ้น ลดการอักเสบในสมองผ่านการยับยั้ง MAPK และ NF-κB มีผลต่อ PPARγ และกระตุ้นการตายของเซลล์ผิดปกติ (apoptosis) ในเซลล์มะเร็ง 🧠 โอเมก้า-3 จึงทั้ง “ปกป้อง” สมอง และ “คัดแยก” เซลล์ที่ไม่ควรอยู่ 2. 🍽 จากจานอาหาร…สู่ระบบย่อยและลำไส้ เมื่อเรารับประทานโอเมก้า-3 → ร่างกายดูดซึมผ่าน ลำไส้เล็ก จากนั้นเข้าสู่กระแสเลือดผ่านระบบหลอดเลือด (vasculature) → ส่งไปยังอวัยวะต่างๆ โอเมก้า-3 ที่ไปถึงลำไส้ใหญ่ → เปลี่ยนแปลงสมดุลของจุลินทรีย์ เพิ่มแบคทีเรียที่ผลิต butyrate และ SCFAs ลดเชื้อร้าย เช่น E. coli, S. aureus, Pseudomonas 🧠 โอเมก้า-3 เหมือนผู้ดูแลชุมชนจุลินทรีย์ในลำไส้...ให้สงบ ไม่ก่อไฟอักเสบเรื้อรัง 3. 🫀 จากลำไส้…สู่หลอดเลือด โอเมก้า-3 ลดการแข็งตัวของเลือด, ลดความหนืด เสริมความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด → ความดันโลหิตลดลง ลดสารกระตุ้นการอักเสบ เช่น LTB₄ และ TXA₂ 4. 🧬 จากเซลล์ลำไส้…สู่ตับและยีน ตับคือจุดศูนย์กลางของการเผาผลาญไขมัน โอเมก้า-3 ปรับสมดุล omega-3:omega-6 ratio → ลดไขมันสะสมในตับ (NAFLD) กระตุ้น PPARα และ PPARγ → ควบคุมการเผาผลาญและลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วนจากอาหารไขมันสูง 🧠 นี่ไม่ใช่แค่การลดน้ำหนัก…แต่คือการเปลี่ยน “สภาวะยีน” ของตับให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง 🍽 เมนูอบอุ่นที่ส่งโอเมก้า-3 ไปถึงหัวใจของคุณ ปลาทะเล (ย่างพริกไทยดำ, ต้มส้ม, ปลาทูต้มเค็มใส่กระเทียม) แฟลกซ์ซีดบดผสมน้ำมะนาว/น้ำผึ้ง ไข่ไก่โอเมก้า-3 ข้าวยำใส่ปลาทู + เมล็ดเจียเล็กน้อย 🧭 คำแนะนำการใช้ หากรับประทานโอเมก้า-3จากปลา แนะนำอย่างน้อย 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อให้ได้ DHA และ EPA อย่างพอเพียง (ปลาทะเลน้ำลึก เช่น แซลมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน เป็นแหล่งดี) หากรับประทานในรูปแบบน้ำมันปลา (เสริม) เริ่มจาก 1000–2000 มก./วัน (รวม EPA + DHA) และควรเลือกแบบ Triglyceride form หรือจากปลาเล็ก เพื่อความปลอดภัยและดูดซึมได้ดี โอเมก้า-3 จากพืช (ALA) เช่น เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย สามารถใช้เสริมได้ แต่ควรกินเป็นประจำ และอาจไม่เพียงพอหากต้องการผลลึกด้านสมองหรือภูมิคุ้มกัน ❗ ข้อควรระวัง ผู้ที่ใช้ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin, aspirin ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะโอเมก้า-3 มีฤทธิ์ทำให้เลือดไหลลื่นขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงเลือดออก ผู้ที่มี โรคตับรุนแรง, โรคแพ้อาหารทะเล, หรือใช้ยาเบาหวานบางชนิด ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ก่อนเริ่มเสริมโอเมก้า-3 หากมีภาวะ ภูมิคุ้มกันต่ำ, ลำไส้แปรปรวนรุนแรง, หรือเคยมีปัญหาแพ้น้ำมันปลา ควรเริ่มจากปริมาณน้อย และเลือกแหล่งที่บริสุทธิ์ ผ่านการตรวจโลหะหนัก ❓ คำถามชวนคิด Q: ถ้าไม่กินปลาเลย ควรทำอย่างไร? A: ใช้แฟลกซ์ซีดบด + เมล็ดเจีย + น้ำมันงาขี้ม่อน (ALA) ร่วมกับ DHA จากสาหร่าย Q: หากเป็นเบาหวานหรือ NAFLD แล้ว จะช่วยจริงไหม? A: งานวิจัยนี้ระบุว่าโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบของตับและลำไส้ และลดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ 🌿 สมุนไพรที่เสริมกลไกนี้ ขมิ้นชัน → ช่วยลดการอักเสบในลำไส้และตับผ่าน NF-κB กระเทียม → เสริมภูมิคุ้มกันในลำไส้ ใบหม่อน → ปรับสมดุลจุลินทรีย์ และลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน พริกไทยดำ → เสริมการดูดซึมโอเมก้า-3 และสารอื่นๆ 🤍 ปลอบโยนหัวใจ ร่างกายของคุณมีทางเชื่อมลับ ๆ มากมาย ที่สมองพูดคุยกับลำไส้ ที่ตับส่งสัญญาณถึงหลอดเลือด และที่จุลินทรีย์นับล้านกำลังตัดสินว่าคุณจะอักเสบหรือหายดีในวันนี้หรือไม่ โอเมก้า-3 จึงไม่ใช่แค่ไขมันชนิดหนึ่ง แต่มันคือ “สะพานเชื่อมระหว่างอวัยวะ…ด้วยความสงบ” ขอให้คุณใช้มื้ออาหารเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟู และให้โอเมก้า-3 พาคุณกลับไปหาความสงบในแบบที่คุณเคยลืมไปนานแล้ว 🌿 ⚠️ คำเตือน บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษาเชิงกลไกทางชีวภาพเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้ใช้แทนการรักษา หรือคำแนะนำทางการแพทย์ ผู้ที่มีโรคตับ โรคเบาหวาน หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้โอเมก้า-3 หรือสมุนไพรเสริมใดๆ 📚 อ้างอิง Fu Y, Wang Y, Zhang Y, et al. (2021). Associations among Dietary Omega‐3 Polyunsaturated Fatty Acids, the Gut Microbiota, and Intestinal Immunity. Mediators of Inflammation, 2021, Article ID 8879227. https://doi.org/10.1155/2021/8879227
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายสูงมาก แต่ปัญหาคือเป็นสมุนไพรที่ละลายน้ำยาก ผลที่ตามมาคือเมื่อเข้าไปสู่ร่างกายจะดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้น้อย
    🏆ขมิ้นชัน dG นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีละลายน้ำได้ถึง 40,000 เท่า งานวิจัยเหรียญทองจากยุโรป คือคำตอบ
    https://youtu.be/moSyA9rgqIw
    Line: @t1herb
    #ขมิ้นชันdg #ขมิ้นชันดรออย
    ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายสูงมาก แต่ปัญหาคือเป็นสมุนไพรที่ละลายน้ำยาก ผลที่ตามมาคือเมื่อเข้าไปสู่ร่างกายจะดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้น้อย 🏆ขมิ้นชัน dG นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีละลายน้ำได้ถึง 40,000 เท่า งานวิจัยเหรียญทองจากยุโรป คือคำตอบ https://youtu.be/moSyA9rgqIw Line: @t1herb #ขมิ้นชันdg #ขมิ้นชันดรออย
    0 Comments 0 Shares 422 Views 0 Reviews
  • ขมิ้นชันเป็นสุดยอดสมุนไพรที่ดีมาก
    ถ้าเราได้กินขมิ้นชัน DG ที่มีการละลายน้ำได้มากถึง 40,000 เท่าจะดีขนาดไหน
    https://www.youtube.com/watch?v=ROsI_VDmeYc
    #ขมิ้นชันdg #ขมิ้นชันดรออย
    ขมิ้นชันเป็นสุดยอดสมุนไพรที่ดีมาก ถ้าเราได้กินขมิ้นชัน DG ที่มีการละลายน้ำได้มากถึง 40,000 เท่าจะดีขนาดไหน https://www.youtube.com/watch?v=ROsI_VDmeYc #ขมิ้นชันdg #ขมิ้นชันดรออย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 361 Views 0 Reviews
  • 🏅ผลิตภัณฑ์ G-Fight ดูแลกรดไหลย้อน นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี
    ต้านการอักเสบ ช่วยเรื่องท้องอืดท้องเฟ้อ ต้านอนุมูลอิสระ
    ส่วนประกอบของ G-Fight
    🌿 ขมิ้นชัน
    🌿มัลเบอร์รี่
    🌿มะขามป้อม
    🌿อาร์ติโชค
    🌿L-Cysteine
    🌿Glycine
    🌿ผงแอปเปิ้ล
    🌿ผงสับปะรด
    🌿วิตามิน บี
    🌿วิตามิน ซี
    มีสารสกัดขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบหลัก กระบวนการผลิตด้วยนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี เพื่อแก้ไขข้อจำกัดสมุนไพร และเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
    https://gfight.t1team.com
    LIne: @t1herb
    #gfight #สมุนไพรดรออย #ขมิ้นชันดรออย
    🏅ผลิตภัณฑ์ G-Fight ดูแลกรดไหลย้อน นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี ต้านการอักเสบ ช่วยเรื่องท้องอืดท้องเฟ้อ ต้านอนุมูลอิสระ ส่วนประกอบของ G-Fight 🌿 ขมิ้นชัน 🌿มัลเบอร์รี่ 🌿มะขามป้อม 🌿อาร์ติโชค 🌿L-Cysteine 🌿Glycine 🌿ผงแอปเปิ้ล 🌿ผงสับปะรด 🌿วิตามิน บี 🌿วิตามิน ซี มีสารสกัดขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบหลัก กระบวนการผลิตด้วยนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี เพื่อแก้ไขข้อจำกัดสมุนไพร และเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด https://gfight.t1team.com LIne: @t1herb #gfight #สมุนไพรดรออย #ขมิ้นชันดรออย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 738 Views 0 Reviews
  • 🏅ผลิตภัณฑ์ G-Fight ดูแลกรดไหลย้อน นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี
    ต้านการอักเสบ ช่วยเรื่องท้องอืดท้องเฟ้อ ต้านอนุมูลอิสระ
    ส่วนประกอบของ G-Fight
    🌿 ขมิ้นชัน
    🌿มัลเบอร์รี่
    🌿มะขามป้อม
    🌿อาร์ติโชค
    🌿L-Cysteine
    🌿Glycine
    🌿ผงแอปเปิ้ล
    🌿ผงสับปะรด
    🌿วิตามิน บี
    🌿วิตามิน ซี
    มีสารสกัดขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบหลัก กระบวนการผลิตด้วยนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี เพื่อแก้ไขข้อจำกัดสมุนไพร และเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
    https://gfight.t1team.com
    LIne: @t1herb
    #gfight #สมุนไพรดรออย #ขมิ้นชันดรออย
    🏅ผลิตภัณฑ์ G-Fight ดูแลกรดไหลย้อน นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี ต้านการอักเสบ ช่วยเรื่องท้องอืดท้องเฟ้อ ต้านอนุมูลอิสระ ส่วนประกอบของ G-Fight 🌿 ขมิ้นชัน 🌿มัลเบอร์รี่ 🌿มะขามป้อม 🌿อาร์ติโชค 🌿L-Cysteine 🌿Glycine 🌿ผงแอปเปิ้ล 🌿ผงสับปะรด 🌿วิตามิน บี 🌿วิตามิน ซี มีสารสกัดขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบหลัก กระบวนการผลิตด้วยนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี เพื่อแก้ไขข้อจำกัดสมุนไพร และเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด https://gfight.t1team.com LIne: @t1herb #gfight #สมุนไพรดรออย #ขมิ้นชันดรออย
    0 Comments 0 Shares 735 Views 0 Reviews
  • ภาพบรรยากาศงาน OPP ที่บริษัท T1 TEAM HERBAL INNOVATION วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568
    https://www.youtube.com/watch?v=ql2NkpZN0VM
    #t1team #ขมิ้นชันดรออย
    ภาพบรรยากาศงาน OPP ที่บริษัท T1 TEAM HERBAL INNOVATION วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 https://www.youtube.com/watch?v=ql2NkpZN0VM #t1team #ขมิ้นชันดรออย
    0 Comments 0 Shares 439 Views 0 Reviews
  • ภาพบรรยากาศงาน OPP ที่บริษัท T1 TEAM HERBAL INNOVATION วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568
    https://www.youtube.com/watch?v=ql2NkpZN0VM
    #t1team #ขมิ้นชันดรออย
    ภาพบรรยากาศงาน OPP ที่บริษัท T1 TEAM HERBAL INNOVATION วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 https://www.youtube.com/watch?v=ql2NkpZN0VM #t1team #ขมิ้นชันดรออย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 430 Views 0 Reviews
  • สุขภาพดีจากภายใน ด้วยสารสกัดจากใบแปะก๊วย หนึ่งในสารสกัดสำคัญที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ DG สูตร พรีเมี่ยม
    #ขมิ้นชันดีจี #ขมิ้นชันดรออย
    สุขภาพดีจากภายใน ด้วยสารสกัดจากใบแปะก๊วย หนึ่งในสารสกัดสำคัญที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ DG สูตร พรีเมี่ยม #ขมิ้นชันดีจี #ขมิ้นชันดรออย
    0 Comments 0 Shares 392 Views 0 Reviews
  • DG เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาในรูปแบบแคปซูล ที่มีสารสกัดสมุนไพรซึ่งผ่านการพัฒนาโดยนาโนเทคโนโลยี เพิ่มความสามารถในการละลายน้ำของเคอร์คูมินจากขมิ้นชันได้มากถึง 40,000 เท่า ทำให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีขึ้น
    DG ประกอบด้วยสารสกัดสมุนไพร ขมิ้นชัน ตังกุย อบเชย ขิง พริกไทยดำ และกะเพรา
    ช่วยบรรเทาปัญหาทางเดินอาหาร ดูแลข้อและตับ ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ป้องกันมะเร็ง และลดการอักเสบ
    รายละเอียดผลิตภัณฑ์ DG 👉 https://dg.t1team.com/
    DG เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาในรูปแบบแคปซูล ที่มีสารสกัดสมุนไพรซึ่งผ่านการพัฒนาโดยนาโนเทคโนโลยี เพิ่มความสามารถในการละลายน้ำของเคอร์คูมินจากขมิ้นชันได้มากถึง 40,000 เท่า ทำให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีขึ้น DG ประกอบด้วยสารสกัดสมุนไพร ขมิ้นชัน ตังกุย อบเชย ขิง พริกไทยดำ และกะเพรา ช่วยบรรเทาปัญหาทางเดินอาหาร ดูแลข้อและตับ ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ป้องกันมะเร็ง และลดการอักเสบ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ DG 👉 https://dg.t1team.com/
    0 Comments 0 Shares 656 Views 0 Reviews
  • DG เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาในรูปแบบแคปซูล ที่มีสารสกัดสมุนไพรซึ่งผ่านการพัฒนาโดยนาโนเทคโนโลยี เพิ่มความสามารถในการละลายน้ำของเคอร์คูมินจากขมิ้นชันได้มากถึง 40,000 เท่า ทำให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีขึ้น
    DG ประกอบด้วยสารสกัดสมุนไพร ขมิ้นชัน ตังกุย อบเชย ขิง พริกไทยดำ และกะเพรา
    ช่วยบรรเทาปัญหาทางเดินอาหาร ดูแลข้อและตับ ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ป้องกันมะเร็ง และลดการอักเสบ
    รายละเอียดผลิตภัณฑ์ DG 👉 https://dg.t1team.com/
    DG เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาในรูปแบบแคปซูล ที่มีสารสกัดสมุนไพรซึ่งผ่านการพัฒนาโดยนาโนเทคโนโลยี เพิ่มความสามารถในการละลายน้ำของเคอร์คูมินจากขมิ้นชันได้มากถึง 40,000 เท่า ทำให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีขึ้น DG ประกอบด้วยสารสกัดสมุนไพร ขมิ้นชัน ตังกุย อบเชย ขิง พริกไทยดำ และกะเพรา ช่วยบรรเทาปัญหาทางเดินอาหาร ดูแลข้อและตับ ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ป้องกันมะเร็ง และลดการอักเสบ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ DG 👉 https://dg.t1team.com/
    0 Comments 0 Shares 621 Views 0 Reviews
  • 3 สมุนไพรช่วยให้หลับสบาย คลายเครียด
    https://youtu.be/WowA7WhyS4c
    Line: @t1herb
    #ดรออย #ขมิ้นชันดรออย #ทีวันทีม #สมุนไพรไทย
    3 สมุนไพรช่วยให้หลับสบาย คลายเครียด https://youtu.be/WowA7WhyS4c Line: @t1herb #ดรออย #ขมิ้นชันดรออย #ทีวันทีม #สมุนไพรไทย
    0 Comments 0 Shares 435 Views 0 Reviews
  • 3 สมุนไพรช่วยให้หลับสบาย คลายเครียด
    https://youtu.be/WowA7WhyS4c
    Line: @t1herb
    #ดรออย #ขมิ้นชันดรออย #ทีวันทีม #สมุนไพรไทย
    3 สมุนไพรช่วยให้หลับสบาย คลายเครียด https://youtu.be/WowA7WhyS4c Line: @t1herb #ดรออย #ขมิ้นชันดรออย #ทีวันทีม #สมุนไพรไทย
    0 Comments 0 Shares 424 Views 0 Reviews
  • โรคสะเก็ดเงิน หลังจากได้ทาครีมนวด ดร.ออย สูตรเย็น และกินผลิตภัณฑ์ขมิ้นชัน DG
    https://dg.t1team.com/
    #ขมิ้นชันdg #ขมิ้นชันดรออย
    โรคสะเก็ดเงิน หลังจากได้ทาครีมนวด ดร.ออย สูตรเย็น และกินผลิตภัณฑ์ขมิ้นชัน DG https://dg.t1team.com/ #ขมิ้นชันdg #ขมิ้นชันดรออย
    0 Comments 0 Shares 510 Views 0 Reviews
  • #การอักเสบ

    ส่งผลกระทบต่อทุกแง่มุมด้านสุขภาพของคุณได้อย่างไร

    การอักเสบควบคุมชีวิตของเรา ถ้าคุณหรือคนที่คุณรักกำลังต่อสู้กับอาการปวด โรคอ้วน โรคสมาธิสั้น ปลายประสาทอักเสบ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ไมเกรน ปัญหาต่อมไทรอยด์ ปัญหาทางทันตกรรมหรือโรคมะเร็ง

    น่าเศร้าที่คนส่วนใหญ่กำลังทุกข์ทรมานจากหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งของความผิดปกติเหล่านี้ แต่ไม่มีแนวความคิดหรือวิธีการที่จะกำจัดการอักเสบ แพทย์ส่วนใหญ่ใช้ยาแทนการมุ่งเป้าไปที่ต้นตอของสาเหตุ

    มันมักจะดูเหมือนว่า..มันเป็นเรื่องแปลกเป็นอย่างยิ่งเมื่อตระหนักว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของการอักเสบเริ่มต้นในลำไส้จากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันซึ่งจะดำเนินการอักเสบไปยังระบบต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการจัดการอย่างแท้จริงและหวังว่าจะเอาชนะโรค

    การมองให้ลึกถึงขั้นตอนแห่งการเริ่มต้นเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุด

    ....การอักเสบเริ่มต้นที่ใด.....

    ลำไส้ของคุณประกอบขึ้นด้วยเยื่อบุกึ่งซึมผ่านที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ พื้นที่ผิวของลำไส้ของคุณสามารถครอบคลุมพื้นที่เท่ากับสนามเทนนิส 2 สนามเมื่อแผ่ออกให้แบน

    ระดับของการซึมผ่านผันผวนตามการตอบสนองต่อความหลากหลายของสภาพสารเคมี... ตัวอย่างเช่นเมื่อฮอร์โมน cortisol สูงขึ้นเนื่องจากความเครียดจากการโต้แย้งหรือระดับฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ของคุณเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการเผาผลาญน้ำมันในตอนเที่ยงคืน เยื่อบุลำไส้ของคุณจะซึมผ่านได้มากขึ้น ณ เวลานั้น ๆ

    จากนั้นเมื่อกินอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้บางส่วน อาหารที่มีสารพิษ... ไวรัส ยีสต์และแบคทีเรียก็มีโอกาสที่จะผ่านลำไส้และการเข้าไปยังกระแสเลือด..สิ่งนี้รู้จักกันว่าเป็นกลุ่มอาการของโรคลำไส้รั่วหรือ leaky gut syndrome (LGS)

    เมื่อเยื่อบุลำไส้ได้รับความเสียหายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เซลล์ที่เสียหายเรียกกันว่า microvilli จะไม่สามารถทำงานของพวกเขาได้อย่างถูกต้อง พวกเขาไม่สามารถดำเนินการและใช้ประโยชน์จากสารอาหารและเอนไซม์ที่มีความสำคัญในการย่อยอาหารที่เหมาะสม ในท้ายที่สุดการย่อยอาหารและการดูดซึมของสารอาหารจะลดลง นี่คือผลกระทบในเชิงลบ เมื่อเยื่อบุลำไส้ของคุณสัมผัสกับสิ่งที่กล่าวมามากขึ้น..ร่างกายของคุณก็เริ่มต้นการถูกโจมตีจากผู้รุกรานเหล่านี้ และร่างกายจะตอบสนองด้วยการอักเสบที่ก่อให้เกิด ภูมิแพ้ แพ้ภูมิ และอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคอีกมากมาย

    ดังนั้นคุณอาจจะถามว่า : การอักเสบเป็นอันตรายได้อย่างไรและเกิดอาการแพ้อย่างต่อเนื่องหรือไม่

    มันอาจฟังดูเหมือนว่าค่อนข้างจะไม่อันตรายสักเท่าไหร่..แต่สถานการณ์นี้สามารถนำไปสู่โรคร้ายแรงและบั่นทอนได้อีกมากมาย เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะมีภาระมากเกินไป การอักเสบเหล่านี้จะเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่องผ่านทางเลือดของคุณที่พวกเขาสามารถส่งผลกระทบต่อเส้นประสาท อวัยวะ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ข้อต่อและกล้ามเนื้อ

    การอักเสบก่ออาการของโรคอื่นๆ

    การปรากฏตัวของการอักเสบเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดโรคส่วนใหญ่ มันมักจะเกิดขึ้นมานานหลายปีก่อนที่มันจะอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนหรือมีนัยสำคัญทางคลินิก

    รายการต่อไปนี้มีความเกี่ยวข้องกับการอักเสบเสมอ

    โรคภูมิแพ้----ภูมิคุ้มกัน 4 ประเภท + ความไว..ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการอักเสบ

    อัลไซม์เมอร์----การอักเสบเรื้อรังทำลายเซลล์สมอง

    โรคโลหิตจาง---- cytokinesที่กระตุ้นการอักเสบโจมตีการผลิต erythropoietin

    Ankylosing Spondylitis (โรคกระดูกสันหลังอักเสบยึดติด)----cytokines ที่กระตุ้นการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองในข้อต่างๆ

    หอบหืด---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิกิริยาของภูมิต้านทานให้ตอบสนองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ

    ออทิสติก---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิกิริยาของภูมิต้านทานที่ผิดปกติเข้าไปควบคุมการพัฒนาสมองซีกขวา

    โรคข้ออักเสบ---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำลายกระดูกอ่อนและของเหลว synovial

    Carpal Tunnel Syndrome (โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ) เกิดจากการอักเสบเรื้อรังในความเครียดของกล้ามเนื้อที่มากเกินไปทำให้เส้นเอ็นแขนหดตัวและข้อมือบีบอัดเส้นประสาท

    Celiac Chronic (โรคแพ้กลูเตน)----ภูมิคุ้มกันจัดการกับความเสียหายและก่อให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุลำไส้

    โรค Crohn ----โรคเรื้อรังจากระบบภูมิคุ้มกันเกิดความเสียหายและเกิดการอักเสบเยื่อบุลำไส้

    หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน----การอักเสบเรื้อรังก่อให้เกิดการเสียหายต่อกล้ามเนื้อหัวใจ

    กลาก สิวเอ็กซิม่า----การอักเสบเรื้อรังของลำไส้และตับกำจัดสารพิษได้ไม่ดีและมักจะเกิดจากแอนติบอดีต่อสู้กับ Transglutaminase-3

    Fibromyalgia (ปวดทั่วสรรพางค์กาย)---- เนื้อเยื่อเกี่ยวพันอักเสบ เกิดจากความเป็นกรดของร่างกายที่ยินยอมให้จุลชีพฝั่งเลวเข้าเล่นงานเนื้อเยื่ออ่อนและมาจากความไม่สมดุลทางโภชนาการและระบบประสาทรอง

    โรคปอดอักเสบ---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเข้าโจมตีเนื้อเยื่อที่บอบช้ำ

    โรคถุงน้ำดี----การอักเสบของท่อน้ำดีหรือคอเลสเตอรอลส่วนเกินที่เกิดขึ้นจากการตอบสนองต่อการอักเสบในลำไส้

    โรคกรดไหลย้อน----การอักเสบของหลอดอาหารและระบบทางเดินอาหารเกือบตลอดเวลา ความไวต่ออาหารและค่า pH เป็นตัวขับเคลื่อน

    โรคจีบีเอส โรคกิลแลงบาร์เร GBS Guillain-Barre syndrome ภูมิคุ้มกันอัตโนมัติเข้าโจมตีระบบประสาทมักจะเกิดโดยการตอบสนองของ autoimmune ต่อความเครียดภายนอกเช่นการฉีดวัคซีน

    Hashimoto's Thyroiditis (ต่อมไทรอยด์อักเสบ)----ภูมิคุ้มกันเกิดปฏิกิริยาในลำไส้โดยเรียกแอนติบอดีมาต่อต้านเอนไซม์และของต่อมไทรอยด์และโปรตีน

    หัวใจวาย----การอักเสบเรื้อรังก่อให้เกิดหลอดเลือดหัวใจตีบ

    ไตวาย----cytokines ที่ก่อการอักเสบจำกัด การไหลเวียนและก่อความเสียหายต่อ nephrons และท่อไต

    โรคลูปัส พุ่มพวง SLE---- cytokines ที่ก่ออักเสบเหนี่ยวนำให้ autoimmune เกิดการโจมตีต่อเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

    โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง Multiple Sclerosis ----cytokinesที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับไมอีลิน myelin

    โรคระบบประสาท---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับไมอีลินและหลอดเลือดและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งทำให้ระคายเคืองเส้นประสาท

    ตับอ่อนอักเสบ---- cytokinesที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดการบาดเจ็บของเซลล์ตับอ่อน

    โรคสะเก็ดเงิน Psoriasis ----การอักเสบเรื้อรังของลำไส้และตับล้างพิษได้ไม่เต็มความสามารถ

    ปวดกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออ่อนเหตุอักเสบเรื้อรัง Polymyalgia rheumatic PMR ----cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

    โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับข้อต่อ

    โรคหนังแข็ง scleroderma---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้ autoimmune เกิดการโจมตีกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

    โรคหลอดเลือดสมอง----การอักเสบเรื้อรังส่งเสริมให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน

    ทำไมการอักเสบจะต้องอยู่ที่รากเหง้าของปัญหา

    ความจริงที่ว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณขับเคลื่อนกระบวนการอักเสบในโรคต่างๆเป็นที่ยอมรับกันมานาน แต่น่าเสียดายที่การแพทย์ตะวันตกมีคำตอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในการจัดการหรือการเอาชนะกระบวนการของภูมิต้านทานน้อยเกินไป

    วิธีการโดยทั่วไปในการรักษาคือการปราบปรามการตอบสนองของภูมิคุ้มกันด้วยยาปราบภูมิคุ้มกันหรือบางครั้งก็สเตียรอยด์ วิธีการทั้งสองได้รับการออกแบบเพื่อลดการอักเสบ แต่ไม่ได้หยุดกระบวนการของโรคประจำตัวหรือช่วยให้เนื้อเยื่อที่เสียหายได้รับการกู้คืน

    ถ้าคุณปิดกั้นสาเหตุที่แท้จริงของการก่อโรค (การอักเสบ) ทั้งหมดที่คุณต้องทำคือการหยุดการทำลายเซลล์ทุกเซลล์ของร่างกายและปล่อยให้ร่างกายของคุณสร้างเซลล์ใหม่ที่ไม่ก่อการอักเสบ

    การเชื่อมโยงระหว่างการทำงานที่ผิดปกติของลำไส้และโรคทั้งหลายที่มาจากการอักเสบ

    คำว่าการอักเสบมักจะไม่ค่อยทำให้ใครหลายคนนึกเห็นภาพที่ถูกต้องอย่างแท้จริงในใจของพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะประสบกับมันจริงๆ จากนั้นก็จะเริ่มทำให้รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ

    จะเห็นได้ว่าหลายโรคที่เกิดจากการอักเสบและสร้างความทุกข์ทรมาน มันมาจากลำไส้

    แต่การรักษาทั่วไปไม่นำเสนอประเด็นนี้.. Dr. Maios Hadjivassiliou แห่งอังกฤษ- ผู้ค้นพบกลูแตน-ได้รายงานใน The Lancet ว่า"ความไวต่อกลูแตนสามารถเป็นหลักในการวินิจฉัยเบื้องต้นและในบางครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคทางระบบประสาท" ซึ่งหมายความว่าคนที่ไวต่อกลูแตนจะมีปัญหากับการทำงานของสมองแม้จะไม่มีปัญหาระบบทางเดินอาหารแต่อย่างใด ดร. Hadjivassiliou แสดงให้เห็นว่าแอนติบอดี้จะเกิดขึ้นในร่างกายเมื่อพวกเขามีความไวต่อกลูแตนและสามารถส่งความเป็นพิษเข้าสู่สมองได้โดยตรง สำหรับสิ่งนี้การทดสอบพิเศษจึงถูกพัฒนาขึ้น

    ผู้เขียนอีกคนที่ตีพิมพ์ในฉบับล่าสุดของ Pediatrics กล่าวว่า "การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าความแปรปรวนของความผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นในโรคแพ้กลูแตนขยายวงกว้างกว่ารายงานที่มีก่อนหน้านี้และรวมถึงความผิดปกติของระบบประสาทรวมทั้งอาการปวดหัวเรื้อรัง พัฒนาการล่าช้า hypotonia(ความตึงตัวของกล้ามเนื้อต่ำ) และความผิดปกติของการเรียนรู้หรือ ADHD " เห็นได้ชัดว่าเราควรจะขยายเกณฑ์การประเมินของเราและบางทีความหมายของโรคเมื่อผู้ป่วยมีอาการไม่เหมาะสมกับการวินิจฉัยตามกรอบทางคลินิกทั่วไป

    วิธีการประเมินโรคที่เกี่ยวกับการอักเสบ

    เนื่องจากการอักเสบโดยทั่วไปผ่านมาจากลำไส้ซึ่งมันควรจะเป็นจุดเริ่มต้นของตรรกะในขั้นตอนการประเมินผู้ป่วยใด ๆ

    มี 7 พื้นที่ที่ควรพิจารณาเพื่อมองไปที่ปัจจัยอันก่อให้เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารเพื่อประเมินสภาพแวดล้อมสำหรับการอักเสบเรื้อรัง รายการด้านล่างนี้เป็นส่วนสำคัญในหมวดหมู่ของของอาหารและการประเมินอื่น ๆ :

    อาหาร: เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กลูแตน เคซีน อาหารแปรรูป น้ำตาล นม เห็ด ผลไม้หวานไขมันโอเมก้า 6 ไขมันทรานส์ อาหารจานด่วน

    ยา: Corticosteroids ยาปฏิชีวนะ ยาลดกรด สารแปลกปลอม(ผงปรุสรส สารให้ความหวานเทียม และอื่น ๆ )

    การติดเชื้อ: เช่น H-Pylori ยีสต์ หรือแบคทีเรียมากเกินขนาด ไวรัสหรือการติดเชื้อปรสิต

    ความเครียด :เพิ่มฮอร์โมน Cortisol และ catecholamines
    ฮอร์โมน : ไทรอยด์ โพรเจสเตอโรน เอสโตรเจน เทสโทสเทอโรน

    ระบบประสาท : สมองบาดเจ็บ โรคหลอดเลือดสมอง ประสาทเสื่อม

    เมตาบอลิก: Glycosylated End Products (ผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ก่อการอักเสบจากการเผาผลาญน้ำตาล) ลำไส้อักเสบ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง

    โรคจากการอักเสบและโรคภูมิต้านทาน

    ความจริงของสถานการณ์นี้ล้วนมาจากอาหาร-การซึมผ่านในลำไส้ที่มากเกินไปโดยไม่คำนึงถึงว่าคุณจะสามารถจะรู้สึกได้หรือไม่มักจะเป็นสาเหตุสำคัญของการเติบโตของเงื่อนไขที่ก่อโรคต่าง ๆ รายการที่กล่าวมาด้านบน (อาหาร ยา การติดเชื้อ ความเครียดฮอร์โมน ระบบประสาทหรือการเผาผลาญ) สามารถทำลายการซึมผ่านของลำไส้ ก่อการอักเสบและสุดท้ายช่วยให้กลไกของลำไส้รั่วเริ่มต้น

    Autoimmunity (การไม่ตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อแอนติเจนของตนเอง) สามารถปรับเปลี่ยนได้และจะมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งรวมทั้งให้ชีวิตที่ดีขึ้นถ้าวิถีชีวิตเปลี่ยน

    มันเคยเชื่อกันว่า "รักษาไม่หาย" แต่มันไม่จริงด้วยความรู้ที่เปลี่ยนไป

    ดังนั้น ถ้าใครกำลังทนทุกข์ทรมานจากโรคที่กล่าวมาแล้ว แนะนำให้ระงับเหตุ ก่อนที่สารเคมีหรือยาใด ๆ ซึ่งไม่ใช่ส่วนประกอบของร่างกายตั้งแต่เริ่มต้นจะเล่นงานคุณ

    อาหารต้านการอักเสบที่ดี

    อาหาร เช่น ผลไม้ ผัก และเครื่องเทศ มีสารต้านการอักเสบและอาจช่วยลดการอักเสบได้ อาหารต้านการอักเสบที่ดีที่สุด ได้แก่:

    • เบอร์รี่

    • ปลาที่มีไขมันโอเมก้า3

    • บรอกโคลี

    • อะโวคาโด

    • ชาเขียว

    • พริก

    • ขมิ้น

    • น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ

    • ช็อกโกแลตดำและโกโก้

    • มะเขือเทศ

    • เชอร์รี่

    เบอร์รี่

    เบอร์รี่เป็นผลไม้ขนาดเล็กที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุ

    มีมากมายหลายพันธุ์ โดยพันธุ์ที่พบมากที่สุด ได้แก่:

    • สตรอว์เบอร์รี่

    • บลูเบอร์รี่

    • ราสเบอร์รี

    • แบล็กเบอร์รี่

    เบอร์รี่

    มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าแอนโธไซยานิน สารเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้

    บทวิจารณ์การวิจัยในปี 2018 แสดงให้เห็นว่าไฟโตเคมีคัลที่พบในผลเบอร์รี่อาจช่วยชะลอการพัฒนาและการลุกลามของมะเร็ง แม้ว่าจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม แต่ไฟโตเคมีคัลอาจเป็นประโยชน์ต่อภูมิคุ้มกันบำบัด

    ร่างกายของคุณสร้างเซลล์ NK ตามธรรมชาติ และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างถูกต้อง

    ในการศึกษาวิจัยอีกกรณีหนึ่ง พบว่าผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินซึ่งกิน
    สตรอเบอร์รี่มีระดับของเครื่องหมายการอักเสบเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้กิน

    ปลาที่มีไขมันโอเมก้า3

    ปลาที่มีไขมันเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและกรดไขมันโอเมก้า 3 สายยาว เช่น กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA)
    แม้ว่าปลาทุกชนิดจะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่บ้าง แต่ปลาที่มีไขมันเหล่านี้ก็เป็นแหล่งที่ดีที่สุด:

    • ปลาแซลมอน

    • ปลาซาร์ดีน

    • ปลาแมกเคอเรล

    • ปลาสวาย

    EPA และ DHA ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น :

    • กลุ่มอาการเมตาบอลิก

    • โรคหัวใจ

    • โรคเบาหวาน

    • โรคไต

    ร่างกายของคุณเผาผลาญกรดไขมันเหล่านี้เป็นสารประกอบที่เรียกว่าเรโซลวินและโปรเทกติน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

    จากการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานปลาแซลมอนหรืออาหารเสริม EPA และ DHA มีปริมาณโปรตีนซีรีแอคทีฟ (CRP) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อาการอักเสบลดลง

    อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะซึ่งรับประทาน EPA และ DHA ทุกวันไม่พบความแตกต่างในตัวบ่งชี้การอักเสบเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับยาหลอก

    บร็อคโคลี

    บร็อคโคลีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

    เป็นผักตระกูลกะหล่ำเช่นเดียวกับกะหล่ำดอก กะหล่ำบรัสเซลส์ และคะน้า

    การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับประทานผักตระกูลกะหล่ำหลายชนิดมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและมะเร็งที่ลดลง
    ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับผลต้านการอักเสบของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในผักเหล่านั้น

    บร็อคโคลีอุดมไปด้วยซัลโฟราเฟน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ลดการอักเสบโดยลดระดับไซโตไคน์และแฟกเตอร์นิวเคลียร์แคปปาบี (NF-κB) ซึ่งเป็นโมเลกุลที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกายของคุณ

    อะโวคาโด

    มีโพแทสเซียม แมกนีเซียม ไฟเบอร์ และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่มีประโยชน์ต่อหัวใจ ยังมีแคโรทีนอยด์และโทโคฟีรอล ซึ่งเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งและโรคหัวใจที่ลดลง
    นอกจากนี้ สารประกอบชนิดหนึ่งในอะโวคาโดอาจช่วยลดการอักเสบในเซลล์ผิวหนังที่เพิ่งก่อตัวได้

    ในการศึกษาคุณภาพสูงครั้งหนึ่งซึ่งทำการศึกษากับผู้ใหญ่ 51 คนที่มีน้ำหนักเกิน พบว่าผู้ที่รับประทานอะโวคาโดเป็นเวลา 12 สัปดาห์มีระดับของสารบ่งชี้การอักเสบอย่างอินเตอร์ลิวคิน 1 เบตา (IL-1β) และซีอาร์พี ลดลง

    ชาเขียว

    งานวิจัยพบว่าการดื่มชาเขียวช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ โรคอ้วน และโรคอื่นๆ

    ประโยชน์หลายประการของชาเขียวมาจากคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ โดยเฉพาะสารที่เรียกว่า epigallocatechin-3-gallate (EGCG)

    EGCG ยับยั้งการอักเสบโดยลดการผลิตไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบและความเสียหายต่อกรดไขมันในเซลล์ของคุณ

    พริก

    พริกหยวกและพริกชี้ฟ้าอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบอย่างทรงพลัง

    พริกหยวกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระเคอร์ซิตินซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน

    พริกมีกรดซินาปิกและกรดเฟอรูลิกซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบและช่วยให้มีอายุยืนยาวขึ้น

    ขมิ้น

    ขมิ้นเป็นเครื่องเทศที่มีรสชาติอบอุ่นและมีกลิ่นดิน มักใช้ในแกงและอาหารอื่นๆ

    ขมิ้นได้รับความสนใจมากเนื่องจากมีสารเคอร์คูมิน ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพ

    การวิจัยแสดงให้เห็นว่าขมิ้นชันช่วยลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ เบาหวาน และโรคอื่นๆ

    จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่มีอาการเมตาบอลิกซินโดรมรับประทานเคอร์คูมิน 1 กรัมต่อวันร่วมกับไพเพอรีนจากพริกไทยดำ พบว่าระดับซีอาร์พี ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อาการอักเสบลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

    การได้รับเคอร์คูมินจากขมิ้นเพียงอย่างเดียวอาจเป็นเรื่องยากที่จะเห็นผลชัดเจน การรับประทานอาหารเสริมที่มีเคอร์คูมินแยกเดี่ยวอาจมีประสิทธิภาพมากกว่ามาก

    อาหารเสริมเคอร์คูมินมักประกอบด้วยไพเพอรีน ซึ่งสามารถกระตุ้นการดูดซึมเคอร์คูมินได้ถึง 2,000%

    น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ

    น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษเป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุดชนิดหนึ่งที่คุณสามารถรับประทานได้

    น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเป็นอาหารหลักในอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

    การศึกษาวิจัยแนะนำว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็งสมอง โรคอ้วน และปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆ ได้

    การวิจัยแนะนำว่าการรับประทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนและการเสริมด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษสามารถลดตัวบ่งชี้การอักเสบได้อย่างมาก

    ผลของโอเลโอแคนธัล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในน้ำมันมะกอก ได้รับการเปรียบเทียบกับยาต้านการอักเสบ เช่น ไอบูโพรเฟน

    โปรดจำไว้ว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษมีประโยชน์ในการต้านการอักเสบมากกว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์

    ช็อกโกแลตดำและโกโก้

    ช็อกโกแลตดำมีรสชาติอร่อย เข้มข้น และน่าพอใจ

    นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคและนำไปสู่การมีอายุยืนยาวขึ้น

    ฟลาโวนอลเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบของช็อกโกแลต และช่วยให้เซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือดแดงแข็งแรง

    มะเขือเทศ

    มะเขือเทศเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง

    มะเขือเทศมีวิตามินซี โพแทสเซียม และไลโคปีนสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่น่าประทับใจ

    ไลโคปีนอาจมีประโยชน์อย่างยิ่งในการลดสารประกอบที่ก่อให้เกิดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งหลายชนิด

    การปรุงมะเขือเทศในน้ำมันมะกอกสามารถช่วยให้คุณดูดซึมไลโคปีนได้มากขึ้น

    นั่นเป็นเพราะไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ดูดซึมได้ดีกว่าในแหล่งของไขมันและโปรดควักไส้มะเขือเทศทิ้งเมื่อประกอบอาหาร

    เชอร์รี่

    เชอร์รี่มีรสชาติดีและอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโธไซยานินและคาเทชิน ซึ่งช่วยลดการอักเสบ

    แม้ว่าจะมีการศึกษาวิจัยคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของเชอร์รี่เปรี้ยวมากกว่าพันธุ์อื่น แต่เชอร์รี่หวานก็อาจมีประโยชน์เช่นกัน

    การศึกษาวิจัยในปี 2019 ที่ทำการศึกษาผู้สูงอายุ 37 คน พบว่าผู้ที่ดื่มน้ำเชอร์รี่ทาร์ต 16 ออนซ์ (480 มล.) ทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ มีระดับของสารบ่งชี้การอักเสบ CRP ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

    อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยอีกกรณีหนึ่งพบว่าน้ำเชอร์รี่ทาร์ตไม่มีผลต่อการอักเสบในผู้ใหญ่ที่อายุน้อยที่มีสุขภาพแข็งแรง หลังจากที่พวกเขาดื่มน้ำเชอร์รี่ทาร์ตทุกวันเป็นเวลา 30 วัน

    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำ

    ถ้าอักเสบจากน้ำตาลและผลไม้หรือแอลกอฮอล์: K cal
    ถ้าอักเสบในลำไส้จากการกินเห็ดและยีสต์: Paa vill,Synbc
    ถ้าอักเสบจากการกินของปิ้งย่างหรือน้ำมันโอเมก้า 6:Paa super h
    ถ้าเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อ:Glube,Whole c
    ถ้าอักเสบจากการใช้งานร่างกายหรืออวัยวะมากเกินไป:ชาขิงขมิ้น
    ถ้าอักเสบในดวงตาและระบบสืบพันธุ์:Glap
    ถ้าอักเสบในหลอดเลือด: โกโก้ป๋า

    ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

    Cr. Santi Manadee
    #การอักเสบ ส่งผลกระทบต่อทุกแง่มุมด้านสุขภาพของคุณได้อย่างไร การอักเสบควบคุมชีวิตของเรา ถ้าคุณหรือคนที่คุณรักกำลังต่อสู้กับอาการปวด โรคอ้วน โรคสมาธิสั้น ปลายประสาทอักเสบ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ไมเกรน ปัญหาต่อมไทรอยด์ ปัญหาทางทันตกรรมหรือโรคมะเร็ง น่าเศร้าที่คนส่วนใหญ่กำลังทุกข์ทรมานจากหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งของความผิดปกติเหล่านี้ แต่ไม่มีแนวความคิดหรือวิธีการที่จะกำจัดการอักเสบ แพทย์ส่วนใหญ่ใช้ยาแทนการมุ่งเป้าไปที่ต้นตอของสาเหตุ มันมักจะดูเหมือนว่า..มันเป็นเรื่องแปลกเป็นอย่างยิ่งเมื่อตระหนักว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของการอักเสบเริ่มต้นในลำไส้จากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันซึ่งจะดำเนินการอักเสบไปยังระบบต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการจัดการอย่างแท้จริงและหวังว่าจะเอาชนะโรค การมองให้ลึกถึงขั้นตอนแห่งการเริ่มต้นเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุด ....การอักเสบเริ่มต้นที่ใด..... ลำไส้ของคุณประกอบขึ้นด้วยเยื่อบุกึ่งซึมผ่านที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ พื้นที่ผิวของลำไส้ของคุณสามารถครอบคลุมพื้นที่เท่ากับสนามเทนนิส 2 สนามเมื่อแผ่ออกให้แบน ระดับของการซึมผ่านผันผวนตามการตอบสนองต่อความหลากหลายของสภาพสารเคมี... ตัวอย่างเช่นเมื่อฮอร์โมน cortisol สูงขึ้นเนื่องจากความเครียดจากการโต้แย้งหรือระดับฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ของคุณเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการเผาผลาญน้ำมันในตอนเที่ยงคืน เยื่อบุลำไส้ของคุณจะซึมผ่านได้มากขึ้น ณ เวลานั้น ๆ จากนั้นเมื่อกินอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้บางส่วน อาหารที่มีสารพิษ... ไวรัส ยีสต์และแบคทีเรียก็มีโอกาสที่จะผ่านลำไส้และการเข้าไปยังกระแสเลือด..สิ่งนี้รู้จักกันว่าเป็นกลุ่มอาการของโรคลำไส้รั่วหรือ leaky gut syndrome (LGS) เมื่อเยื่อบุลำไส้ได้รับความเสียหายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เซลล์ที่เสียหายเรียกกันว่า microvilli จะไม่สามารถทำงานของพวกเขาได้อย่างถูกต้อง พวกเขาไม่สามารถดำเนินการและใช้ประโยชน์จากสารอาหารและเอนไซม์ที่มีความสำคัญในการย่อยอาหารที่เหมาะสม ในท้ายที่สุดการย่อยอาหารและการดูดซึมของสารอาหารจะลดลง นี่คือผลกระทบในเชิงลบ เมื่อเยื่อบุลำไส้ของคุณสัมผัสกับสิ่งที่กล่าวมามากขึ้น..ร่างกายของคุณก็เริ่มต้นการถูกโจมตีจากผู้รุกรานเหล่านี้ และร่างกายจะตอบสนองด้วยการอักเสบที่ก่อให้เกิด ภูมิแพ้ แพ้ภูมิ และอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคอีกมากมาย ดังนั้นคุณอาจจะถามว่า : การอักเสบเป็นอันตรายได้อย่างไรและเกิดอาการแพ้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ มันอาจฟังดูเหมือนว่าค่อนข้างจะไม่อันตรายสักเท่าไหร่..แต่สถานการณ์นี้สามารถนำไปสู่โรคร้ายแรงและบั่นทอนได้อีกมากมาย เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะมีภาระมากเกินไป การอักเสบเหล่านี้จะเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่องผ่านทางเลือดของคุณที่พวกเขาสามารถส่งผลกระทบต่อเส้นประสาท อวัยวะ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ข้อต่อและกล้ามเนื้อ การอักเสบก่ออาการของโรคอื่นๆ การปรากฏตัวของการอักเสบเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดโรคส่วนใหญ่ มันมักจะเกิดขึ้นมานานหลายปีก่อนที่มันจะอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนหรือมีนัยสำคัญทางคลินิก รายการต่อไปนี้มีความเกี่ยวข้องกับการอักเสบเสมอ โรคภูมิแพ้----ภูมิคุ้มกัน 4 ประเภท + ความไว..ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการอักเสบ อัลไซม์เมอร์----การอักเสบเรื้อรังทำลายเซลล์สมอง โรคโลหิตจาง---- cytokinesที่กระตุ้นการอักเสบโจมตีการผลิต erythropoietin Ankylosing Spondylitis (โรคกระดูกสันหลังอักเสบยึดติด)----cytokines ที่กระตุ้นการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองในข้อต่างๆ หอบหืด---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิกิริยาของภูมิต้านทานให้ตอบสนองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ ออทิสติก---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิกิริยาของภูมิต้านทานที่ผิดปกติเข้าไปควบคุมการพัฒนาสมองซีกขวา โรคข้ออักเสบ---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำลายกระดูกอ่อนและของเหลว synovial Carpal Tunnel Syndrome (โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ) เกิดจากการอักเสบเรื้อรังในความเครียดของกล้ามเนื้อที่มากเกินไปทำให้เส้นเอ็นแขนหดตัวและข้อมือบีบอัดเส้นประสาท Celiac Chronic (โรคแพ้กลูเตน)----ภูมิคุ้มกันจัดการกับความเสียหายและก่อให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุลำไส้ โรค Crohn ----โรคเรื้อรังจากระบบภูมิคุ้มกันเกิดความเสียหายและเกิดการอักเสบเยื่อบุลำไส้ หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน----การอักเสบเรื้อรังก่อให้เกิดการเสียหายต่อกล้ามเนื้อหัวใจ กลาก สิวเอ็กซิม่า----การอักเสบเรื้อรังของลำไส้และตับกำจัดสารพิษได้ไม่ดีและมักจะเกิดจากแอนติบอดีต่อสู้กับ Transglutaminase-3 Fibromyalgia (ปวดทั่วสรรพางค์กาย)---- เนื้อเยื่อเกี่ยวพันอักเสบ เกิดจากความเป็นกรดของร่างกายที่ยินยอมให้จุลชีพฝั่งเลวเข้าเล่นงานเนื้อเยื่ออ่อนและมาจากความไม่สมดุลทางโภชนาการและระบบประสาทรอง โรคปอดอักเสบ---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเข้าโจมตีเนื้อเยื่อที่บอบช้ำ โรคถุงน้ำดี----การอักเสบของท่อน้ำดีหรือคอเลสเตอรอลส่วนเกินที่เกิดขึ้นจากการตอบสนองต่อการอักเสบในลำไส้ โรคกรดไหลย้อน----การอักเสบของหลอดอาหารและระบบทางเดินอาหารเกือบตลอดเวลา ความไวต่ออาหารและค่า pH เป็นตัวขับเคลื่อน โรคจีบีเอส โรคกิลแลงบาร์เร GBS Guillain-Barre syndrome ภูมิคุ้มกันอัตโนมัติเข้าโจมตีระบบประสาทมักจะเกิดโดยการตอบสนองของ autoimmune ต่อความเครียดภายนอกเช่นการฉีดวัคซีน Hashimoto's Thyroiditis (ต่อมไทรอยด์อักเสบ)----ภูมิคุ้มกันเกิดปฏิกิริยาในลำไส้โดยเรียกแอนติบอดีมาต่อต้านเอนไซม์และของต่อมไทรอยด์และโปรตีน หัวใจวาย----การอักเสบเรื้อรังก่อให้เกิดหลอดเลือดหัวใจตีบ ไตวาย----cytokines ที่ก่อการอักเสบจำกัด การไหลเวียนและก่อความเสียหายต่อ nephrons และท่อไต โรคลูปัส พุ่มพวง SLE---- cytokines ที่ก่ออักเสบเหนี่ยวนำให้ autoimmune เกิดการโจมตีต่อเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง Multiple Sclerosis ----cytokinesที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับไมอีลิน myelin โรคระบบประสาท---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับไมอีลินและหลอดเลือดและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งทำให้ระคายเคืองเส้นประสาท ตับอ่อนอักเสบ---- cytokinesที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดการบาดเจ็บของเซลล์ตับอ่อน โรคสะเก็ดเงิน Psoriasis ----การอักเสบเรื้อรังของลำไส้และตับล้างพิษได้ไม่เต็มความสามารถ ปวดกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออ่อนเหตุอักเสบเรื้อรัง Polymyalgia rheumatic PMR ----cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับข้อต่อ โรคหนังแข็ง scleroderma---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้ autoimmune เกิดการโจมตีกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โรคหลอดเลือดสมอง----การอักเสบเรื้อรังส่งเสริมให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน ทำไมการอักเสบจะต้องอยู่ที่รากเหง้าของปัญหา ความจริงที่ว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณขับเคลื่อนกระบวนการอักเสบในโรคต่างๆเป็นที่ยอมรับกันมานาน แต่น่าเสียดายที่การแพทย์ตะวันตกมีคำตอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในการจัดการหรือการเอาชนะกระบวนการของภูมิต้านทานน้อยเกินไป วิธีการโดยทั่วไปในการรักษาคือการปราบปรามการตอบสนองของภูมิคุ้มกันด้วยยาปราบภูมิคุ้มกันหรือบางครั้งก็สเตียรอยด์ วิธีการทั้งสองได้รับการออกแบบเพื่อลดการอักเสบ แต่ไม่ได้หยุดกระบวนการของโรคประจำตัวหรือช่วยให้เนื้อเยื่อที่เสียหายได้รับการกู้คืน ถ้าคุณปิดกั้นสาเหตุที่แท้จริงของการก่อโรค (การอักเสบ) ทั้งหมดที่คุณต้องทำคือการหยุดการทำลายเซลล์ทุกเซลล์ของร่างกายและปล่อยให้ร่างกายของคุณสร้างเซลล์ใหม่ที่ไม่ก่อการอักเสบ การเชื่อมโยงระหว่างการทำงานที่ผิดปกติของลำไส้และโรคทั้งหลายที่มาจากการอักเสบ คำว่าการอักเสบมักจะไม่ค่อยทำให้ใครหลายคนนึกเห็นภาพที่ถูกต้องอย่างแท้จริงในใจของพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะประสบกับมันจริงๆ จากนั้นก็จะเริ่มทำให้รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ จะเห็นได้ว่าหลายโรคที่เกิดจากการอักเสบและสร้างความทุกข์ทรมาน มันมาจากลำไส้ แต่การรักษาทั่วไปไม่นำเสนอประเด็นนี้.. Dr. Maios Hadjivassiliou แห่งอังกฤษ- ผู้ค้นพบกลูแตน-ได้รายงานใน The Lancet ว่า"ความไวต่อกลูแตนสามารถเป็นหลักในการวินิจฉัยเบื้องต้นและในบางครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคทางระบบประสาท" ซึ่งหมายความว่าคนที่ไวต่อกลูแตนจะมีปัญหากับการทำงานของสมองแม้จะไม่มีปัญหาระบบทางเดินอาหารแต่อย่างใด ดร. Hadjivassiliou แสดงให้เห็นว่าแอนติบอดี้จะเกิดขึ้นในร่างกายเมื่อพวกเขามีความไวต่อกลูแตนและสามารถส่งความเป็นพิษเข้าสู่สมองได้โดยตรง สำหรับสิ่งนี้การทดสอบพิเศษจึงถูกพัฒนาขึ้น ผู้เขียนอีกคนที่ตีพิมพ์ในฉบับล่าสุดของ Pediatrics กล่าวว่า "การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าความแปรปรวนของความผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นในโรคแพ้กลูแตนขยายวงกว้างกว่ารายงานที่มีก่อนหน้านี้และรวมถึงความผิดปกติของระบบประสาทรวมทั้งอาการปวดหัวเรื้อรัง พัฒนาการล่าช้า hypotonia(ความตึงตัวของกล้ามเนื้อต่ำ) และความผิดปกติของการเรียนรู้หรือ ADHD " เห็นได้ชัดว่าเราควรจะขยายเกณฑ์การประเมินของเราและบางทีความหมายของโรคเมื่อผู้ป่วยมีอาการไม่เหมาะสมกับการวินิจฉัยตามกรอบทางคลินิกทั่วไป วิธีการประเมินโรคที่เกี่ยวกับการอักเสบ เนื่องจากการอักเสบโดยทั่วไปผ่านมาจากลำไส้ซึ่งมันควรจะเป็นจุดเริ่มต้นของตรรกะในขั้นตอนการประเมินผู้ป่วยใด ๆ มี 7 พื้นที่ที่ควรพิจารณาเพื่อมองไปที่ปัจจัยอันก่อให้เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารเพื่อประเมินสภาพแวดล้อมสำหรับการอักเสบเรื้อรัง รายการด้านล่างนี้เป็นส่วนสำคัญในหมวดหมู่ของของอาหารและการประเมินอื่น ๆ : อาหาร: เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กลูแตน เคซีน อาหารแปรรูป น้ำตาล นม เห็ด ผลไม้หวานไขมันโอเมก้า 6 ไขมันทรานส์ อาหารจานด่วน ยา: Corticosteroids ยาปฏิชีวนะ ยาลดกรด สารแปลกปลอม(ผงปรุสรส สารให้ความหวานเทียม และอื่น ๆ ) การติดเชื้อ: เช่น H-Pylori ยีสต์ หรือแบคทีเรียมากเกินขนาด ไวรัสหรือการติดเชื้อปรสิต ความเครียด :เพิ่มฮอร์โมน Cortisol และ catecholamines ฮอร์โมน : ไทรอยด์ โพรเจสเตอโรน เอสโตรเจน เทสโทสเทอโรน ระบบประสาท : สมองบาดเจ็บ โรคหลอดเลือดสมอง ประสาทเสื่อม เมตาบอลิก: Glycosylated End Products (ผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ก่อการอักเสบจากการเผาผลาญน้ำตาล) ลำไส้อักเสบ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคจากการอักเสบและโรคภูมิต้านทาน ความจริงของสถานการณ์นี้ล้วนมาจากอาหาร-การซึมผ่านในลำไส้ที่มากเกินไปโดยไม่คำนึงถึงว่าคุณจะสามารถจะรู้สึกได้หรือไม่มักจะเป็นสาเหตุสำคัญของการเติบโตของเงื่อนไขที่ก่อโรคต่าง ๆ รายการที่กล่าวมาด้านบน (อาหาร ยา การติดเชื้อ ความเครียดฮอร์โมน ระบบประสาทหรือการเผาผลาญ) สามารถทำลายการซึมผ่านของลำไส้ ก่อการอักเสบและสุดท้ายช่วยให้กลไกของลำไส้รั่วเริ่มต้น Autoimmunity (การไม่ตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อแอนติเจนของตนเอง) สามารถปรับเปลี่ยนได้และจะมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งรวมทั้งให้ชีวิตที่ดีขึ้นถ้าวิถีชีวิตเปลี่ยน มันเคยเชื่อกันว่า "รักษาไม่หาย" แต่มันไม่จริงด้วยความรู้ที่เปลี่ยนไป ดังนั้น ถ้าใครกำลังทนทุกข์ทรมานจากโรคที่กล่าวมาแล้ว แนะนำให้ระงับเหตุ ก่อนที่สารเคมีหรือยาใด ๆ ซึ่งไม่ใช่ส่วนประกอบของร่างกายตั้งแต่เริ่มต้นจะเล่นงานคุณ อาหารต้านการอักเสบที่ดี อาหาร เช่น ผลไม้ ผัก และเครื่องเทศ มีสารต้านการอักเสบและอาจช่วยลดการอักเสบได้ อาหารต้านการอักเสบที่ดีที่สุด ได้แก่: • เบอร์รี่ • ปลาที่มีไขมันโอเมก้า3 • บรอกโคลี • อะโวคาโด • ชาเขียว • พริก • ขมิ้น • น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ • ช็อกโกแลตดำและโกโก้ • มะเขือเทศ • เชอร์รี่ เบอร์รี่ เบอร์รี่เป็นผลไม้ขนาดเล็กที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุ มีมากมายหลายพันธุ์ โดยพันธุ์ที่พบมากที่สุด ได้แก่: • สตรอว์เบอร์รี่ • บลูเบอร์รี่ • ราสเบอร์รี • แบล็กเบอร์รี่ เบอร์รี่ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าแอนโธไซยานิน สารเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ บทวิจารณ์การวิจัยในปี 2018 แสดงให้เห็นว่าไฟโตเคมีคัลที่พบในผลเบอร์รี่อาจช่วยชะลอการพัฒนาและการลุกลามของมะเร็ง แม้ว่าจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม แต่ไฟโตเคมีคัลอาจเป็นประโยชน์ต่อภูมิคุ้มกันบำบัด ร่างกายของคุณสร้างเซลล์ NK ตามธรรมชาติ และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างถูกต้อง ในการศึกษาวิจัยอีกกรณีหนึ่ง พบว่าผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินซึ่งกิน สตรอเบอร์รี่มีระดับของเครื่องหมายการอักเสบเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้กิน ปลาที่มีไขมันโอเมก้า3 ปลาที่มีไขมันเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและกรดไขมันโอเมก้า 3 สายยาว เช่น กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) แม้ว่าปลาทุกชนิดจะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่บ้าง แต่ปลาที่มีไขมันเหล่านี้ก็เป็นแหล่งที่ดีที่สุด: • ปลาแซลมอน • ปลาซาร์ดีน • ปลาแมกเคอเรล • ปลาสวาย EPA และ DHA ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น : • กลุ่มอาการเมตาบอลิก • โรคหัวใจ • โรคเบาหวาน • โรคไต ร่างกายของคุณเผาผลาญกรดไขมันเหล่านี้เป็นสารประกอบที่เรียกว่าเรโซลวินและโปรเทกติน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จากการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานปลาแซลมอนหรืออาหารเสริม EPA และ DHA มีปริมาณโปรตีนซีรีแอคทีฟ (CRP) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อาการอักเสบลดลง อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะซึ่งรับประทาน EPA และ DHA ทุกวันไม่พบความแตกต่างในตัวบ่งชี้การอักเสบเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับยาหลอก บร็อคโคลี บร็อคโคลีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นผักตระกูลกะหล่ำเช่นเดียวกับกะหล่ำดอก กะหล่ำบรัสเซลส์ และคะน้า การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับประทานผักตระกูลกะหล่ำหลายชนิดมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและมะเร็งที่ลดลง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับผลต้านการอักเสบของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในผักเหล่านั้น บร็อคโคลีอุดมไปด้วยซัลโฟราเฟน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ลดการอักเสบโดยลดระดับไซโตไคน์และแฟกเตอร์นิวเคลียร์แคปปาบี (NF-κB) ซึ่งเป็นโมเลกุลที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกายของคุณ อะโวคาโด มีโพแทสเซียม แมกนีเซียม ไฟเบอร์ และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่มีประโยชน์ต่อหัวใจ ยังมีแคโรทีนอยด์และโทโคฟีรอล ซึ่งเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งและโรคหัวใจที่ลดลง นอกจากนี้ สารประกอบชนิดหนึ่งในอะโวคาโดอาจช่วยลดการอักเสบในเซลล์ผิวหนังที่เพิ่งก่อตัวได้ ในการศึกษาคุณภาพสูงครั้งหนึ่งซึ่งทำการศึกษากับผู้ใหญ่ 51 คนที่มีน้ำหนักเกิน พบว่าผู้ที่รับประทานอะโวคาโดเป็นเวลา 12 สัปดาห์มีระดับของสารบ่งชี้การอักเสบอย่างอินเตอร์ลิวคิน 1 เบตา (IL-1β) และซีอาร์พี ลดลง ชาเขียว งานวิจัยพบว่าการดื่มชาเขียวช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ โรคอ้วน และโรคอื่นๆ ประโยชน์หลายประการของชาเขียวมาจากคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ โดยเฉพาะสารที่เรียกว่า epigallocatechin-3-gallate (EGCG) EGCG ยับยั้งการอักเสบโดยลดการผลิตไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบและความเสียหายต่อกรดไขมันในเซลล์ของคุณ พริก พริกหยวกและพริกชี้ฟ้าอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบอย่างทรงพลัง พริกหยวกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระเคอร์ซิตินซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน พริกมีกรดซินาปิกและกรดเฟอรูลิกซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบและช่วยให้มีอายุยืนยาวขึ้น ขมิ้น ขมิ้นเป็นเครื่องเทศที่มีรสชาติอบอุ่นและมีกลิ่นดิน มักใช้ในแกงและอาหารอื่นๆ ขมิ้นได้รับความสนใจมากเนื่องจากมีสารเคอร์คูมิน ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าขมิ้นชันช่วยลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ เบาหวาน และโรคอื่นๆ จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่มีอาการเมตาบอลิกซินโดรมรับประทานเคอร์คูมิน 1 กรัมต่อวันร่วมกับไพเพอรีนจากพริกไทยดำ พบว่าระดับซีอาร์พี ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อาการอักเสบลดลงอย่างมีนัยสำคัญ การได้รับเคอร์คูมินจากขมิ้นเพียงอย่างเดียวอาจเป็นเรื่องยากที่จะเห็นผลชัดเจน การรับประทานอาหารเสริมที่มีเคอร์คูมินแยกเดี่ยวอาจมีประสิทธิภาพมากกว่ามาก อาหารเสริมเคอร์คูมินมักประกอบด้วยไพเพอรีน ซึ่งสามารถกระตุ้นการดูดซึมเคอร์คูมินได้ถึง 2,000% น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษเป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุดชนิดหนึ่งที่คุณสามารถรับประทานได้ น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเป็นอาหารหลักในอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การศึกษาวิจัยแนะนำว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็งสมอง โรคอ้วน และปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆ ได้ การวิจัยแนะนำว่าการรับประทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนและการเสริมด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษสามารถลดตัวบ่งชี้การอักเสบได้อย่างมาก ผลของโอเลโอแคนธัล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในน้ำมันมะกอก ได้รับการเปรียบเทียบกับยาต้านการอักเสบ เช่น ไอบูโพรเฟน โปรดจำไว้ว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษมีประโยชน์ในการต้านการอักเสบมากกว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ช็อกโกแลตดำและโกโก้ ช็อกโกแลตดำมีรสชาติอร่อย เข้มข้น และน่าพอใจ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคและนำไปสู่การมีอายุยืนยาวขึ้น ฟลาโวนอลเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบของช็อกโกแลต และช่วยให้เซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือดแดงแข็งแรง มะเขือเทศ มะเขือเทศเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มะเขือเทศมีวิตามินซี โพแทสเซียม และไลโคปีนสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่น่าประทับใจ ไลโคปีนอาจมีประโยชน์อย่างยิ่งในการลดสารประกอบที่ก่อให้เกิดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งหลายชนิด การปรุงมะเขือเทศในน้ำมันมะกอกสามารถช่วยให้คุณดูดซึมไลโคปีนได้มากขึ้น นั่นเป็นเพราะไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ดูดซึมได้ดีกว่าในแหล่งของไขมันและโปรดควักไส้มะเขือเทศทิ้งเมื่อประกอบอาหาร เชอร์รี่ เชอร์รี่มีรสชาติดีและอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโธไซยานินและคาเทชิน ซึ่งช่วยลดการอักเสบ แม้ว่าจะมีการศึกษาวิจัยคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของเชอร์รี่เปรี้ยวมากกว่าพันธุ์อื่น แต่เชอร์รี่หวานก็อาจมีประโยชน์เช่นกัน การศึกษาวิจัยในปี 2019 ที่ทำการศึกษาผู้สูงอายุ 37 คน พบว่าผู้ที่ดื่มน้ำเชอร์รี่ทาร์ต 16 ออนซ์ (480 มล.) ทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ มีระดับของสารบ่งชี้การอักเสบ CRP ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยอีกกรณีหนึ่งพบว่าน้ำเชอร์รี่ทาร์ตไม่มีผลต่อการอักเสบในผู้ใหญ่ที่อายุน้อยที่มีสุขภาพแข็งแรง หลังจากที่พวกเขาดื่มน้ำเชอร์รี่ทาร์ตทุกวันเป็นเวลา 30 วัน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำ ถ้าอักเสบจากน้ำตาลและผลไม้หรือแอลกอฮอล์: K cal ถ้าอักเสบในลำไส้จากการกินเห็ดและยีสต์: Paa vill,Synbc ถ้าอักเสบจากการกินของปิ้งย่างหรือน้ำมันโอเมก้า 6:Paa super h ถ้าเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อ:Glube,Whole c ถ้าอักเสบจากการใช้งานร่างกายหรืออวัยวะมากเกินไป:ชาขิงขมิ้น ถ้าอักเสบในดวงตาและระบบสืบพันธุ์:Glap ถ้าอักเสบในหลอดเลือด: โกโก้ป๋า ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr. Santi Manadee
    0 Comments 0 Shares 2075 Views 0 Reviews
  • ลองดู 📌ส่งฟรี! โคโค่มิน มิกซ์ (Cocomin mix) เข้มข้น📌 น้ำมันมะพร้าวผสมขมิ้นชัน ✅️งานวิจัย ดร.เพ็ญศรี เพ็ญประไพ (มีรูปในคอมเม้น)
    ✅️ ในราคา ฿312 - ฿1,285
    📌 ที่ Shopee https://s.shopee.co.th/9f60wAzgzX
    ลองดู 📌ส่งฟรี! โคโค่มิน มิกซ์ (Cocomin mix) เข้มข้น📌 น้ำมันมะพร้าวผสมขมิ้นชัน ✅️งานวิจัย ดร.เพ็ญศรี เพ็ญประไพ (มีรูปในคอมเม้น) ✅️ ในราคา ฿312 - ฿1,285 📌 ที่ Shopee https://s.shopee.co.th/9f60wAzgzX
    4 Comments 0 Shares 284 Views 0 Reviews
  • ขมิ้นชันมีงานวิจัยช่วยต้านเซลล์มะเร็ง
    dG สารสกัดขมิ้นชัน นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี ละลายน้ำ 40,000 เท่า งานวิจัยเหรียญทองระดับโลก จากประเทศโรมาเนียและแคนาดาปี 2020
    https://youtube.com/shorts/rOry6KYygfI?si=UYPbinfnDDx8fUfk
    #ขมิ้นชันdg #ขมิ้นชันดรออย
    👉ขมิ้นชัน dG https://dg.t1team.com/
    ขมิ้นชันมีงานวิจัยช่วยต้านเซลล์มะเร็ง dG สารสกัดขมิ้นชัน นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี ละลายน้ำ 40,000 เท่า งานวิจัยเหรียญทองระดับโลก จากประเทศโรมาเนียและแคนาดาปี 2020 https://youtube.com/shorts/rOry6KYygfI?si=UYPbinfnDDx8fUfk #ขมิ้นชันdg #ขมิ้นชันดรออย 👉ขมิ้นชัน dG https://dg.t1team.com/
    0 Comments 0 Shares 495 Views 0 Reviews
  • ขมิ้นชันมีงานวิจัยช่วยต้านเซลล์มะเร็ง
    dG สารสกัดขมิ้นชัน นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี ละลายน้ำ 40,000 เท่า งานวิจัยเหรียญทองระดับโลก จากประเทศโรมาเนียและแคนาดาปี 2020
    https://youtube.com/shorts/rOry6KYygfI?si=UYPbinfnDDx8fUfk
    #ขมิ้นชันdg #ขมิ้นชันดรออย
    👉ขมิ้นชัน dG https://dg.t1team.com/
    ขมิ้นชันมีงานวิจัยช่วยต้านเซลล์มะเร็ง dG สารสกัดขมิ้นชัน นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี ละลายน้ำ 40,000 เท่า งานวิจัยเหรียญทองระดับโลก จากประเทศโรมาเนียและแคนาดาปี 2020 https://youtube.com/shorts/rOry6KYygfI?si=UYPbinfnDDx8fUfk #ขมิ้นชันdg #ขมิ้นชันดรออย 👉ขมิ้นชัน dG https://dg.t1team.com/
    0 Comments 0 Shares 475 Views 0 Reviews
  • ขมิ้นชัน DG สารสกัดขมิ้นชัน นวัตกรรมนาโผลิตภัณฑ์ DG ขมิ้นชันละลายน้ำ 40,000 เท่า ต้านการอักเสบระดับเซลล์ งานวิจัยเหรียญทองระดับโลก
    https://dg.t1team.com/
    ข้อมูลจาก https://web.facebook.com/share/p/18wpV7nb7a/
    #dg #ขมิ้นชันดรออย
    ขมิ้นชัน DG สารสกัดขมิ้นชัน นวัตกรรมนาโผลิตภัณฑ์ DG ขมิ้นชันละลายน้ำ 40,000 เท่า ต้านการอักเสบระดับเซลล์ งานวิจัยเหรียญทองระดับโลก https://dg.t1team.com/ ข้อมูลจาก https://web.facebook.com/share/p/18wpV7nb7a/ #dg #ขมิ้นชันดรออย
    0 Comments 0 Shares 447 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระอุปัชฌาย์กรัก รุ่นแรก วัดอัมพวัน จ.ลพบุรี ปี2469

    เหรียญพระอุปัชฌาย์กรัก รุ่นแรก วัดอัมพวัน จ.ลพบุรี ปี2469 //เหรียญเก่า พศ.ลึก เหรียญหายากที่ไม่ค่อยพบเจอ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครอบจักรวาล มีทั้งเมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยม คนชมชอบ เป็นที่รักใคร่แก่เทพเทวดา และคนทั่วไป ใครเห็นใครรัก ใครเห็นเมตตา เป็นมงคลมีความเย็นอยู่ในตัว หนุนดวงชะตา เน้นเสริมโภคทรัพย์ การงานธุรกิจค้าขายเจริญรุ่งเรือง สำเร็จสมปราถนา >>

    ** พระอุปัชฌาย์กรัก พระเกจิเชื้อสายรามัญผู้ขมังเวทย์แนวหน้าแห่งเมืองละโว้ ท่านจะเป็นพระภิกษุที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว ทางด้านวิทยาคมนั้นนับว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าของลพบุรีทีเดียว ท่านมีความขลังในด้านลงกระหม่อมด้วยขมิ้นชัน ขนาดถูกตีจนหัวน่วมก็ไม่แตก พระอุปัชฌาย์กรัก มรณภาพในปี พ.ศ. 2483 สิริอายุได้ 85 ปี พรรษาที่ 65 เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อสร้างในปีพ.ศ. 2469 เป็นเหรียญรูปท่านนั่งเต็มองค์ มีทั้งเหรียญกลมพร้อมด้วยเหรียญรูปไข่ ด้านหลังท่านจะลงด้วยคาถา ทุ สะ นิ มะ คือย่อมาจาก ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เพื่อให้มีความหมายถึงการสั่งสอนศิษย์ให้รู้ว่าทุกข์คือการไม่สบายใจและกาย สมุทัยคือ ต้นเหตุแห่งการเกิดทุกข์ ได้แก่กิเลสตัณหาต่างๆ นิโรธคือ แนว ทางที่จะปฏิบัติให้ดับทุกข์ มรรคคือ วัตรปฏิบัติเพื่อจะมุ่งพระนิพพานอย่างแท้จริง คาถาล้อมรอบในกลีบดอกบัวก็คือ มะอะอุ อะอุมะ อุมะอะ สลับกลับไปกลับมา ส่วนที่ด้านหน้า ระบุปี พ.ศ. 2469 >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระอุปัชฌาย์กรัก รุ่นแรก วัดอัมพวัน จ.ลพบุรี ปี2469 เหรียญพระอุปัชฌาย์กรัก รุ่นแรก วัดอัมพวัน จ.ลพบุรี ปี2469 //เหรียญเก่า พศ.ลึก เหรียญหายากที่ไม่ค่อยพบเจอ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครอบจักรวาล มีทั้งเมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยม คนชมชอบ เป็นที่รักใคร่แก่เทพเทวดา และคนทั่วไป ใครเห็นใครรัก ใครเห็นเมตตา เป็นมงคลมีความเย็นอยู่ในตัว หนุนดวงชะตา เน้นเสริมโภคทรัพย์ การงานธุรกิจค้าขายเจริญรุ่งเรือง สำเร็จสมปราถนา >> ** พระอุปัชฌาย์กรัก พระเกจิเชื้อสายรามัญผู้ขมังเวทย์แนวหน้าแห่งเมืองละโว้ ท่านจะเป็นพระภิกษุที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว ทางด้านวิทยาคมนั้นนับว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าของลพบุรีทีเดียว ท่านมีความขลังในด้านลงกระหม่อมด้วยขมิ้นชัน ขนาดถูกตีจนหัวน่วมก็ไม่แตก พระอุปัชฌาย์กรัก มรณภาพในปี พ.ศ. 2483 สิริอายุได้ 85 ปี พรรษาที่ 65 เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อสร้างในปีพ.ศ. 2469 เป็นเหรียญรูปท่านนั่งเต็มองค์ มีทั้งเหรียญกลมพร้อมด้วยเหรียญรูปไข่ ด้านหลังท่านจะลงด้วยคาถา ทุ สะ นิ มะ คือย่อมาจาก ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เพื่อให้มีความหมายถึงการสั่งสอนศิษย์ให้รู้ว่าทุกข์คือการไม่สบายใจและกาย สมุทัยคือ ต้นเหตุแห่งการเกิดทุกข์ ได้แก่กิเลสตัณหาต่างๆ นิโรธคือ แนว ทางที่จะปฏิบัติให้ดับทุกข์ มรรคคือ วัตรปฏิบัติเพื่อจะมุ่งพระนิพพานอย่างแท้จริง คาถาล้อมรอบในกลีบดอกบัวก็คือ มะอะอุ อะอุมะ อุมะอะ สลับกลับไปกลับมา ส่วนที่ด้านหน้า ระบุปี พ.ศ. 2469 >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 512 Views 0 Reviews
  • ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 กลับมาทำร้ายสุขภาพเราอีกแล้ว❗
    โดยหลายจังหวัดในประเทศไทยมีค่า AQI หรือค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงเกินมาตรฐาน
    ดังนั้น นอกจากการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นพิษแล้ว สารอาหารที่เหมาะสมก็มีส่วนช่วยต้านฝุ่นพิษได้เช่นเดียวกัน

    👉 วิตามินซี
    เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกาย ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยลดภาวะการอักเสบ และป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายได้ อีกทั้งยังช่วยชะลอการเสื่อมสมรรถภาพของเซลส์ ปกป้องปอดจากมลพิษ

    👉 น้ำมันปลา
    โอเมก้า 3 มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อ ช่วยลดการเกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง และช่วยเสริมสร้างผนังเซลล์ในร่างกาย จึงมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษได้ด้วย

    👉 ผักผลไม้ 5 สี
    ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ควรเน้นบริโภคผักผลไม้ ให้ได้วันละ 400 กรัมขึ้นไป จะทำให้ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถต้านการอักเสบของเซลล์ได้

    👉 สาหร่ายสไปรูลิน่า
    อุดมไปด้วยสารพฤษเคมี ทั้งคลอโรฟิลล์ ไฟโคไซยานิน และแคโรทีนอยด์ มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มระบบภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของปอดให้ดีขึ้น

    👉 ว่านหางจระเข้
    อุดมด้วยสารโพลีแซคคาไรด์ ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ อีกทั้งยังช่วยสร้างเมือกในทางเดินหายใจ ช่วยในการดักจับอนุภาคฝุ่นพิษขนาดเล็ก และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

    👉 ขมิ้นชัน
    มีสารคอร์คิวมิน ช่วยต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องเซลล์ทางเดินหายใจและเซลล์ปอด
    เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทักได้เลยนะครับ
    ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 กลับมาทำร้ายสุขภาพเราอีกแล้ว❗ โดยหลายจังหวัดในประเทศไทยมีค่า AQI หรือค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงเกินมาตรฐาน ดังนั้น นอกจากการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นพิษแล้ว สารอาหารที่เหมาะสมก็มีส่วนช่วยต้านฝุ่นพิษได้เช่นเดียวกัน 👉 วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกาย ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยลดภาวะการอักเสบ และป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายได้ อีกทั้งยังช่วยชะลอการเสื่อมสมรรถภาพของเซลส์ ปกป้องปอดจากมลพิษ 👉 น้ำมันปลา โอเมก้า 3 มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อ ช่วยลดการเกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง และช่วยเสริมสร้างผนังเซลล์ในร่างกาย จึงมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษได้ด้วย 👉 ผักผลไม้ 5 สี ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ควรเน้นบริโภคผักผลไม้ ให้ได้วันละ 400 กรัมขึ้นไป จะทำให้ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถต้านการอักเสบของเซลล์ได้ 👉 สาหร่ายสไปรูลิน่า อุดมไปด้วยสารพฤษเคมี ทั้งคลอโรฟิลล์ ไฟโคไซยานิน และแคโรทีนอยด์ มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มระบบภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของปอดให้ดีขึ้น 👉 ว่านหางจระเข้ อุดมด้วยสารโพลีแซคคาไรด์ ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ อีกทั้งยังช่วยสร้างเมือกในทางเดินหายใจ ช่วยในการดักจับอนุภาคฝุ่นพิษขนาดเล็ก และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน 👉 ขมิ้นชัน มีสารคอร์คิวมิน ช่วยต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องเซลล์ทางเดินหายใจและเซลล์ปอด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทักได้เลยนะครับ
    0 Comments 0 Shares 724 Views 0 Reviews
  • นอโรไวรัส norovirus
    กินร้อน ช้อนกลางของตน ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ บ่อยๆ

    มีมานานแล้ว เมืองไทย เมืองนอก อ๊วก ท้องเสียจู๊ดๆ
    • กินร้อนช้อนกลางป้องกันได้
    • ไวรัสไม่ฆ่าด้วยแอลกอฮอล์ เพราะไม่มีเปลือกไขมัน
    • ใช้น้ำและสบู่พอ
    • อยู่บนพื้นผิว ได้ 14 วัน
    • คนดูแล ทำความสะอาด อ๊วก หรือ ท้องเสีย ติดไม้ติดมือไป เลยติดไปด้วย
    ที่เป็นในเมืองจีน สองช่วงอายุ เด็กอนุบาล เด็กเล็ก
    เด็กประถม มัธยมดูไม่เป็นไร
    สูงวัย ติดง่าย เป็นได้

    • ทำไมเมืองจีนดูติดมาก
    การศึกษาตั้งแต่ปี 1997 ถึง 2023 พบว่ามีคนติดเชื้อไวรัสตัวนี้ โดยไม่มีอาการ โดยเฉลี่ยประมาณ 20%
    ดังนั้นถ้าเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วไม่ได้ล้างมือ เอามือไปป้าย นู่นนี่นั่น และเราไปแปะต่อ เอาเข้าปาก ก็ติดได้

    • ไม่มียา ใจเย็นๆ ถ้ามีวัคซีนออกมา เป็น mRNA ถอยไว้ก่อนปลอดภัย
    • ขมิ้นชันทดสอบในหลอดทดลองพบว่าสามารถระงับยับยั้งไวรัสได้ 91%
    • ขมิ้นชันหาได้ไหม? หาได้แน่นอน มีตั้งหลายยี่ห้อ ทานนานก็ได้
    • อย่าลืมว่าทุกคนดูเหมือนจะอ่อนแอเพราะวัคซีนมาเข็มจะลดปราการด่านหน้าในการต่อสู้กับเชื้อ

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    นอโรไวรัส norovirus กินร้อน ช้อนกลางของตน ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ บ่อยๆ มีมานานแล้ว เมืองไทย เมืองนอก อ๊วก ท้องเสียจู๊ดๆ • กินร้อนช้อนกลางป้องกันได้ • ไวรัสไม่ฆ่าด้วยแอลกอฮอล์ เพราะไม่มีเปลือกไขมัน • ใช้น้ำและสบู่พอ • อยู่บนพื้นผิว ได้ 14 วัน • คนดูแล ทำความสะอาด อ๊วก หรือ ท้องเสีย ติดไม้ติดมือไป เลยติดไปด้วย ที่เป็นในเมืองจีน สองช่วงอายุ เด็กอนุบาล เด็กเล็ก เด็กประถม มัธยมดูไม่เป็นไร สูงวัย ติดง่าย เป็นได้ • ทำไมเมืองจีนดูติดมาก การศึกษาตั้งแต่ปี 1997 ถึง 2023 พบว่ามีคนติดเชื้อไวรัสตัวนี้ โดยไม่มีอาการ โดยเฉลี่ยประมาณ 20% ดังนั้นถ้าเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วไม่ได้ล้างมือ เอามือไปป้าย นู่นนี่นั่น และเราไปแปะต่อ เอาเข้าปาก ก็ติดได้ • ไม่มียา ใจเย็นๆ ถ้ามีวัคซีนออกมา เป็น mRNA ถอยไว้ก่อนปลอดภัย • ขมิ้นชันทดสอบในหลอดทดลองพบว่าสามารถระงับยับยั้งไวรัสได้ 91% • ขมิ้นชันหาได้ไหม? หาได้แน่นอน มีตั้งหลายยี่ห้อ ทานนานก็ได้ • อย่าลืมว่าทุกคนดูเหมือนจะอ่อนแอเพราะวัคซีนมาเข็มจะลดปราการด่านหน้าในการต่อสู้กับเชื้อ ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    0 Comments 0 Shares 659 Views 0 Reviews
  • เด็กรายงานด็กบราซิลตายหลังฉีดวัคซีนศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิตรายงานในวารสารการแพทย์13 กุมภาพันธ์ 2024การยืนยันสาเหตุ ความเกี่ยวข้อง จากวัคซีน ประกอบด้วยการชันสูตรศพอย่างละเอียด ร่วมกับเงื่อนเวลาหลังฉีด ลักษณะ ผลกระทบที่มีลักษณะ เฉพาะตัวของวัคซีน ตามที่มีการรวบรวมรายงานไว้ (พร้อมทั้งมีการแจกแจงกลไกการเกิดแล้ว)และการแยกโรคอื่นออกไปในกรณีที่ยังไม่เสียชีวิตการพิสูจน์ในลักษณะเช่นนี้ ที่เราเคยทำมาต้องเสียค่าใช้จ่ายเกือบครึ่งล้านบาท ต่อคน และเมื่อเสียชีวิต การชันสูตรศพในลักษณะดังกล่าวต้องกระทำอย่างละเอียดอย่างเช่น รายงานในเด็กตายรายนี้ แต่ถ้าทำการวิเคราะห์เจาะลึกตามที่นักวิทยาศาสตร์เยอรมันรายงาน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลมากกว่านี้และนี่เป็นสิ่งที่ทางการ นำมากล่าวเป็นข้ออ้างว่าไม่มีข้อพิสูจน์ อย่างอำมหิตจาก “คนปกติ” ที่ได้รับวัคซีนเพราะได้รับคำยืนยันว่าปลอดภัยและป้องกันโรคได้ กลับต้องเสียชีวิต พิการ มีผลกระทบตามติดมาหลังจากนั้นมากมาย ไม่นับคนเปราะบางซึ่งหวังว่าจะได้รับการปกป้องจากวัคซีนกลับเสียชีวิตเร็วขึ้นและมีคำอธิบายว่ามีโรคประจำตัวเปราะบางอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเสียชีวิตไปก็เป็นข้ออธิบายได้!!!!1- หยุดฉีดโควิดวัคซีน ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อให้ฉีดซ้ำ และในเด็กตั้งแต่หกเดือนขึ้นไป2- หยุดเทคโนโลยีนี้ ที่นำมาใช้กับวัคซีนชนิดอื่นทั้งหมด จนกว่าที่จะปรับปรุงอันตรายและพิสูจน์ว่าปลอดภัยจริง3- คนที่ได้รับผลกระทบต้องได้รับการเยียวยาและพร้อมกับลงโทษคนที่ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวพันและปฏิเสธความช่วยเหลือที่ ต้องให้แก่ครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้4-ไม่มีใครปลอดภัยจริงแม้ว่าขณะนี้ยังดูปกติ เพราะโรคต่างๆเกิดขึ้นได้แม้ฉีดไปแล้วเป็นปี ดังเช่น การตายกระทันหันเฉียบพลัน เส้นเลือดตัน แตก ในสมอง การปะทุของมะเร็งที่หายแล้วเป็น 10 ปี รวมทั้งมะเร็งที่เกิดขึ้นชนิดร้ายแรงในคนอายุน้อยและไม่มีประวัติครอบครัว โรคสมองอักเสบไขสันหลังอักเสบ สมองเสื่อม พากินสัน โรคลมชัก5-คนที่รอดชีวิตถึงขณะนี้ รักษาตัวให้ดีที่สุดโรคประจำตัวต้องคุมได้ 100% กินหรือเข้าใกล้การกินแบบมังสวิรัติ งดเนื้อสัตว์บก แป้งน้อย ขนมน้อยที่สุด ออกกำลังตากแดด ขิงข่าตะไคร้ขมิ้นชันกระชายขาวพริกไทยดำ กินเป็นยาถอนพิษ และรวมถึง กันชง และควบคุมด้วยกัญชาในปริมาณน้อยขึ้นอยู่กับกรณีเด็กบราซิลที่ตายจากหัวใจอักเสบในรายงานนี้โรคหัวใจอักเสบในวัยเด็กเป็นโรคที่ ”พบได้น้อย” ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ คณะ ได้รายงานกรณีการเสียชีวิตของเด็กจากโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังจากได้รับวัคซีน mRNA เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 เด็กชายอายุ 7 ขวบได้รับวัคซีน COVIDmRNA เข็มแรก และมีอาการข้ออักเสบและมีไข้ที่ไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเม็ดเลือดขาวสูง ระดับโปรตีนซีรีแอคทีฟสูง (C reactive protein) อาการเลวลงอย่างรวดเร็วและผู้ป่วยเสียชีวิต การชันสูตรศพ พบการสะสมของไฟบรินในเยื่อหุ้มหัวใจ และบริเวณที่มีเลือดออกในกล้ามเนื้อหัวใจ แต่ลิ้นหัวใจปกติ พบการอักเสบกล้ามเนื้อหัวใจกระจายทั่วไป ซึ่งประกอบด้วยลิมโฟไซต์ T CD8+ และฮิสทิโอไซต์ ปริมาณแอนติสเตรปโตไลซิน O (ASO) ไทเตอร์สูง ทำให้ต้องพิจารณาว่าการมีโรคข้ออักเสบ และระดับ ASO สูง และหัวใจอักเสบ เข้าเกณฑ์ การวินิจฉัย ของไข้รูมาติก (rheumatic fever) หรือไม่แต่ เด็กรายนี้ “ไม่พบลักษณะสำคัญ” ของไข้รูมาติค ที่เมื่อมีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบแล้ว ตาม เกณฑ์การวินิจฉัย ควรจะต้องพบ ลิ้นหัวใจผิดปกติ และ Aschoff nodule ร้อยละ 90 ในกรณี ผู้เสียชีวิตรายนี้ ความสัมพันธ์ตามเวลาหลังฉีดวัคซีน mRNA ทำให้ ระบุการเป็นสาเหตุของหัวใจอักเสบ และต่อจากนี้ เมื่อเกิดมีหัวใจอักเสบเกิดขึ้น ต้องรวมวัคซีนเป็นหนึ่งในสาเหตุด้วยกลไก น่าจะอธิบาย แบบเดียวกันกับเอ็กโซโซมและอนุภาคนาโนไขมัน ซึ่งนำไปสู่พายุไซโตไคน์ (cytokine storm) ได้ จากที่มีรายงานพิสูจน์กลไกมาแล้วสาเหตุความ ผิดปกติและเสียชีวิต ต้อง คำนึงถึงวัคซีน COVID-19mRNA เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุตรง หรือเป็น ปัจจัยสนับสนุน
    เด็กรายงานด็กบราซิลตายหลังฉีดวัคซีนศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิตรายงานในวารสารการแพทย์13 กุมภาพันธ์ 2024การยืนยันสาเหตุ ความเกี่ยวข้อง จากวัคซีน ประกอบด้วยการชันสูตรศพอย่างละเอียด ร่วมกับเงื่อนเวลาหลังฉีด ลักษณะ ผลกระทบที่มีลักษณะ เฉพาะตัวของวัคซีน ตามที่มีการรวบรวมรายงานไว้ (พร้อมทั้งมีการแจกแจงกลไกการเกิดแล้ว)และการแยกโรคอื่นออกไปในกรณีที่ยังไม่เสียชีวิตการพิสูจน์ในลักษณะเช่นนี้ ที่เราเคยทำมาต้องเสียค่าใช้จ่ายเกือบครึ่งล้านบาท ต่อคน และเมื่อเสียชีวิต การชันสูตรศพในลักษณะดังกล่าวต้องกระทำอย่างละเอียดอย่างเช่น รายงานในเด็กตายรายนี้ แต่ถ้าทำการวิเคราะห์เจาะลึกตามที่นักวิทยาศาสตร์เยอรมันรายงาน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลมากกว่านี้และนี่เป็นสิ่งที่ทางการ นำมากล่าวเป็นข้ออ้างว่าไม่มีข้อพิสูจน์ อย่างอำมหิตจาก “คนปกติ” ที่ได้รับวัคซีนเพราะได้รับคำยืนยันว่าปลอดภัยและป้องกันโรคได้ กลับต้องเสียชีวิต พิการ มีผลกระทบตามติดมาหลังจากนั้นมากมาย ไม่นับคนเปราะบางซึ่งหวังว่าจะได้รับการปกป้องจากวัคซีนกลับเสียชีวิตเร็วขึ้นและมีคำอธิบายว่ามีโรคประจำตัวเปราะบางอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเสียชีวิตไปก็เป็นข้ออธิบายได้!!!!1- หยุดฉีดโควิดวัคซีน ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อให้ฉีดซ้ำ และในเด็กตั้งแต่หกเดือนขึ้นไป2- หยุดเทคโนโลยีนี้ ที่นำมาใช้กับวัคซีนชนิดอื่นทั้งหมด จนกว่าที่จะปรับปรุงอันตรายและพิสูจน์ว่าปลอดภัยจริง3- คนที่ได้รับผลกระทบต้องได้รับการเยียวยาและพร้อมกับลงโทษคนที่ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวพันและปฏิเสธความช่วยเหลือที่ ต้องให้แก่ครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้4-ไม่มีใครปลอดภัยจริงแม้ว่าขณะนี้ยังดูปกติ เพราะโรคต่างๆเกิดขึ้นได้แม้ฉีดไปแล้วเป็นปี ดังเช่น การตายกระทันหันเฉียบพลัน เส้นเลือดตัน แตก ในสมอง การปะทุของมะเร็งที่หายแล้วเป็น 10 ปี รวมทั้งมะเร็งที่เกิดขึ้นชนิดร้ายแรงในคนอายุน้อยและไม่มีประวัติครอบครัว โรคสมองอักเสบไขสันหลังอักเสบ สมองเสื่อม พากินสัน โรคลมชัก5-คนที่รอดชีวิตถึงขณะนี้ รักษาตัวให้ดีที่สุดโรคประจำตัวต้องคุมได้ 100% กินหรือเข้าใกล้การกินแบบมังสวิรัติ งดเนื้อสัตว์บก แป้งน้อย ขนมน้อยที่สุด ออกกำลังตากแดด ขิงข่าตะไคร้ขมิ้นชันกระชายขาวพริกไทยดำ กินเป็นยาถอนพิษ และรวมถึง กันชง และควบคุมด้วยกัญชาในปริมาณน้อยขึ้นอยู่กับกรณีเด็กบราซิลที่ตายจากหัวใจอักเสบในรายงานนี้โรคหัวใจอักเสบในวัยเด็กเป็นโรคที่ ”พบได้น้อย” ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ คณะ ได้รายงานกรณีการเสียชีวิตของเด็กจากโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังจากได้รับวัคซีน mRNA เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 เด็กชายอายุ 7 ขวบได้รับวัคซีน COVIDmRNA เข็มแรก และมีอาการข้ออักเสบและมีไข้ที่ไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเม็ดเลือดขาวสูง ระดับโปรตีนซีรีแอคทีฟสูง (C reactive protein) อาการเลวลงอย่างรวดเร็วและผู้ป่วยเสียชีวิต การชันสูตรศพ พบการสะสมของไฟบรินในเยื่อหุ้มหัวใจ และบริเวณที่มีเลือดออกในกล้ามเนื้อหัวใจ แต่ลิ้นหัวใจปกติ พบการอักเสบกล้ามเนื้อหัวใจกระจายทั่วไป ซึ่งประกอบด้วยลิมโฟไซต์ T CD8+ และฮิสทิโอไซต์ ปริมาณแอนติสเตรปโตไลซิน O (ASO) ไทเตอร์สูง ทำให้ต้องพิจารณาว่าการมีโรคข้ออักเสบ และระดับ ASO สูง และหัวใจอักเสบ เข้าเกณฑ์ การวินิจฉัย ของไข้รูมาติก (rheumatic fever) หรือไม่แต่ เด็กรายนี้ “ไม่พบลักษณะสำคัญ” ของไข้รูมาติค ที่เมื่อมีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบแล้ว ตาม เกณฑ์การวินิจฉัย ควรจะต้องพบ ลิ้นหัวใจผิดปกติ และ Aschoff nodule ร้อยละ 90 ในกรณี ผู้เสียชีวิตรายนี้ ความสัมพันธ์ตามเวลาหลังฉีดวัคซีน mRNA ทำให้ ระบุการเป็นสาเหตุของหัวใจอักเสบ และต่อจากนี้ เมื่อเกิดมีหัวใจอักเสบเกิดขึ้น ต้องรวมวัคซีนเป็นหนึ่งในสาเหตุด้วยกลไก น่าจะอธิบาย แบบเดียวกันกับเอ็กโซโซมและอนุภาคนาโนไขมัน ซึ่งนำไปสู่พายุไซโตไคน์ (cytokine storm) ได้ จากที่มีรายงานพิสูจน์กลไกมาแล้วสาเหตุความ ผิดปกติและเสียชีวิต ต้อง คำนึงถึงวัคซีน COVID-19mRNA เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุตรง หรือเป็น ปัจจัยสนับสนุน
    Like
    Sad
    7
    0 Comments 1 Shares 1424 Views 0 Reviews
  • #โรคเกาต์สามารถทำให้เกิดโรคไตได้หลายแบบ เช่น ✅ทำให้เกิดนิ่วในไต " และ" 👉ทำให้เกิดไตวายเป็นผลมาจากการที่กรดยูริกในเลือดได้มีการกรองผ่านไต และทำการขับออกทางไตมากกว่าปกติ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดไตวายได้📍กรดยูริก มาจากไหน❓👉กรดยูริก (Uric Acid) เป็นสารที่เกิดจากกระบวนการทางเคมีในร่างกายตามธรรมชาติ ✅ในขณะที่มีการสร้างหรือซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ยอดผัก ถั่วต่างๆ หรือการดื่มเครื่องดื่ม เช่น เบียร์ น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลฟรุคโตส (FRUCTOSE)👉ถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา อาการโรคเก๊าจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น และอาจเป็นอันตรายต่อข้อต่อ เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อไตเสื่อม นิ่วในไต "จะดีกว่าไหมให้ดีเก๊าท์ดูแลคุณสิคะ"🍀ดีเก๊าท์จะช่วยคนที่เป็นโรคเก๊าท์อย่างไร❓1. ขับและลดปริมาณกรดยูริคซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเก๊าท์2. ลดอาการปวดตามข้อในผู้ป่วยโรคเก๊าท์3. บํารุงไตให้แข็งแรงลดภาวะไตเสื่อมปรับสมดุลกรดยูริคในร่างกาย4. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลน้ำตาลและไขมันในเลือดและช่วยปรับระดับความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ5. บำรุงระบบไหลเวียนโลหิตและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย📍D-KOUT ดี-เก๊าท์👉สินค้าพร้อมส่ง ของแท้👉บ.จัดส่งเองถึงหน้าบ้านท่าน✅ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง 3 แผง แผงละ 10 เม็ด รวม 30 เม็ด ↪ อย. 10-1-15456-5-0018☎️สอบถามสั่งซื้อ 062-704-7711 คุณอ้อ.#โรคเก๊าท์ #เกาต์ #เก๊าท์ #ไต #ปวดตามข้อ #ปวดนิ้วมือ #ปวดเท้า #ปวดข้อ #ยาเกาต์ #ลดกรดยูริค #Dkout #บำรุงไต #ลดปวดบวมแดง #แก้โรคเก๊าท์ #ดีเค๊าท์ #หยุดเก๊าท์ #หยุดปวด #ฟื้นฟูไต #ปูดบวม #คุณอ้อดีเก๊าท์ #ดีเก๊าท์ของแท้ #รูมาตอยด์ #ข้ออักเสบ #สมุนไพร #ขมิ้นชัน
    #โรคเกาต์สามารถทำให้เกิดโรคไตได้หลายแบบ เช่น ✅ทำให้เกิดนิ่วในไต " และ" 👉ทำให้เกิดไตวายเป็นผลมาจากการที่กรดยูริกในเลือดได้มีการกรองผ่านไต และทำการขับออกทางไตมากกว่าปกติ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดไตวายได้📍กรดยูริก มาจากไหน❓👉กรดยูริก (Uric Acid) เป็นสารที่เกิดจากกระบวนการทางเคมีในร่างกายตามธรรมชาติ ✅ในขณะที่มีการสร้างหรือซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ยอดผัก ถั่วต่างๆ หรือการดื่มเครื่องดื่ม เช่น เบียร์ น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลฟรุคโตส (FRUCTOSE)👉ถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา อาการโรคเก๊าจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น และอาจเป็นอันตรายต่อข้อต่อ เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อไตเสื่อม นิ่วในไต "จะดีกว่าไหมให้ดีเก๊าท์ดูแลคุณสิคะ"🍀ดีเก๊าท์จะช่วยคนที่เป็นโรคเก๊าท์อย่างไร❓1. ขับและลดปริมาณกรดยูริคซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเก๊าท์2. ลดอาการปวดตามข้อในผู้ป่วยโรคเก๊าท์3. บํารุงไตให้แข็งแรงลดภาวะไตเสื่อมปรับสมดุลกรดยูริคในร่างกาย4. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลน้ำตาลและไขมันในเลือดและช่วยปรับระดับความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ5. บำรุงระบบไหลเวียนโลหิตและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย📍D-KOUT ดี-เก๊าท์👉สินค้าพร้อมส่ง ของแท้👉บ.จัดส่งเองถึงหน้าบ้านท่าน✅ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง 3 แผง แผงละ 10 เม็ด รวม 30 เม็ด ↪ อย. 10-1-15456-5-0018☎️สอบถามสั่งซื้อ 062-704-7711 คุณอ้อ.#โรคเก๊าท์ #เกาต์ #เก๊าท์ #ไต #ปวดตามข้อ #ปวดนิ้วมือ #ปวดเท้า #ปวดข้อ #ยาเกาต์ #ลดกรดยูริค #Dkout #บำรุงไต #ลดปวดบวมแดง #แก้โรคเก๊าท์ #ดีเค๊าท์ #หยุดเก๊าท์ #หยุดปวด #ฟื้นฟูไต #ปูดบวม #คุณอ้อดีเก๊าท์ #ดีเก๊าท์ของแท้ #รูมาตอยด์ #ข้ออักเสบ #สมุนไพร #ขมิ้นชัน
    0 Comments 0 Shares 1975 Views 0 Reviews
  • 🍀วิวัฒนาการของโรคเก๊าท์❓อย่าปล่อยไว้อาจเสียชีวิต...❗"โรคเก๊าท์" และภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น❗✅ปวดข้อ✅ข้อเสื่อม✅นิ่วในไต✅ความดันสูง✅ไตวาย✅เส้นเลือดตีบตัน✅เบาหวาน✅เสียชีวิต✅ตุ่มโคฟัส บ่งบอกถึง โรคเก๊าขั้นรุนแรง!:🍀ดีเก๊าห์ D-KOบT เหมาะกับใคร?ผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์ผู้ที่มีค่ากรดยูริกมากกว่า 7.3 mgผู้ที่มีอาการอักเสบตามข้อต่างๆผู้ที่เป็นโรคไต มีภาวะไตเสื่อมผู้ที่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ผู้ที่ชอบทานเนื้อสัตว์ปีกและเครื่องในเป็นประจำ:- บำรุงไตให้แข็งแรง- ลดภาวะไตเสื่อม- ช่วยปรับความดัน- ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ- ลดปริมาณกรดยูริก- ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเก๊าท์- ช่วยลดคอเลสเตอรอล และไขมันในเลือด- ลดอาการปวดตามข้อในผู้ป่วยโรคเก๊าท์- บำรุงระบบไหลเวียนเลือดและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย📍D-KOUT ดี-เก๊าท์👉สินค้าพร้อมส่ง ของแท้👉บ.จัดส่งเองถึงหน้าบ้านท่าน✅ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง 3 แผง แผงละ 10 เม็ด รวม 30 เม็ด ↪ อย. 10-1-15456-5-0018☎️สอบถามสั่งซื้อ 062-704-7711 คุณอ้อ.#โรคเก๊าท์ #เกาต์ #เก๊าท์ #ไต #ปวดตามข้อ #ปวดนิ้วมือ #ปวดเท้า #ปวดข้อ #ยาเกาต์ #ลดกรดยูริค #Dkout #บำรุงไต #ลดปวดบวมแดง #แก้โรคเก๊าท์ #ดีเค๊าท์ #หยุดเก๊าท์ #หยุดปวด #ฟื้นฟูไต #ปูดบวม #คุณอ้อดีเก๊าท์ #ดีเก๊าท์ของแท้ #รูมาตอยด์ #ข้ออักเสบ #สมุนไพร #ขมิ้นชัน
    🍀วิวัฒนาการของโรคเก๊าท์❓อย่าปล่อยไว้อาจเสียชีวิต...❗"โรคเก๊าท์" และภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น❗✅ปวดข้อ✅ข้อเสื่อม✅นิ่วในไต✅ความดันสูง✅ไตวาย✅เส้นเลือดตีบตัน✅เบาหวาน✅เสียชีวิต✅ตุ่มโคฟัส บ่งบอกถึง โรคเก๊าขั้นรุนแรง!:🍀ดีเก๊าห์ D-KOบT เหมาะกับใคร?ผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์ผู้ที่มีค่ากรดยูริกมากกว่า 7.3 mgผู้ที่มีอาการอักเสบตามข้อต่างๆผู้ที่เป็นโรคไต มีภาวะไตเสื่อมผู้ที่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ผู้ที่ชอบทานเนื้อสัตว์ปีกและเครื่องในเป็นประจำ:- บำรุงไตให้แข็งแรง- ลดภาวะไตเสื่อม- ช่วยปรับความดัน- ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ- ลดปริมาณกรดยูริก- ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเก๊าท์- ช่วยลดคอเลสเตอรอล และไขมันในเลือด- ลดอาการปวดตามข้อในผู้ป่วยโรคเก๊าท์- บำรุงระบบไหลเวียนเลือดและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย📍D-KOUT ดี-เก๊าท์👉สินค้าพร้อมส่ง ของแท้👉บ.จัดส่งเองถึงหน้าบ้านท่าน✅ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง 3 แผง แผงละ 10 เม็ด รวม 30 เม็ด ↪ อย. 10-1-15456-5-0018☎️สอบถามสั่งซื้อ 062-704-7711 คุณอ้อ.#โรคเก๊าท์ #เกาต์ #เก๊าท์ #ไต #ปวดตามข้อ #ปวดนิ้วมือ #ปวดเท้า #ปวดข้อ #ยาเกาต์ #ลดกรดยูริค #Dkout #บำรุงไต #ลดปวดบวมแดง #แก้โรคเก๊าท์ #ดีเค๊าท์ #หยุดเก๊าท์ #หยุดปวด #ฟื้นฟูไต #ปูดบวม #คุณอ้อดีเก๊าท์ #ดีเก๊าท์ของแท้ #รูมาตอยด์ #ข้ออักเสบ #สมุนไพร #ขมิ้นชัน
    0 Comments 0 Shares 1973 Views 0 Reviews
More Results