การปล่อยวางในแบบที่แท้จริงตามพุทธศาสนา ไม่ใช่แค่การนึกเอาหรือทำให้ตัวเองรู้สึกเบาลงชั่วคราว แต่เป็นการฝึกจิตให้เกิดความเข้าใจในธรรมชาติของความไม่เที่ยง ความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในกายและจิต เมื่อเราสังเกตลมหายใจ อารมณ์ ความคิด หรือความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนเห็นว่าทุกอย่างไม่คงที่ ไม่ใช่ตัวตนที่ถาวร การปล่อยวางที่แท้จริงจึงเกิดขึ้นจากการเจริญสติรู้ชัดในกายใจ ไม่ใช่จากการแกล้งทำให้รู้สึกดีชั่วคราวด้วยความคิด
การฝึกจิตในทางนี้ คือการค่อยๆ เจริญสติอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งจิตเกิดความเข้าใจในความไม่เที่ยงจนถึงจุดที่สามารถปล่อยวางได้จริง ไม่ใช่ปล่อยวางชั่วคราวแล้วกลับไปหนักอกอีกครั้งเมื่อเจอปัญหาใหม่ แต่เป็นการปล่อยวางแบบถาวรที่เกิดจากการเห็นความจริงในกายใจโดยไม่ยึดติดในสิ่งใด
การฝึกจิตในทางนี้ คือการค่อยๆ เจริญสติอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งจิตเกิดความเข้าใจในความไม่เที่ยงจนถึงจุดที่สามารถปล่อยวางได้จริง ไม่ใช่ปล่อยวางชั่วคราวแล้วกลับไปหนักอกอีกครั้งเมื่อเจอปัญหาใหม่ แต่เป็นการปล่อยวางแบบถาวรที่เกิดจากการเห็นความจริงในกายใจโดยไม่ยึดติดในสิ่งใด
การปล่อยวางในแบบที่แท้จริงตามพุทธศาสนา ไม่ใช่แค่การนึกเอาหรือทำให้ตัวเองรู้สึกเบาลงชั่วคราว แต่เป็นการฝึกจิตให้เกิดความเข้าใจในธรรมชาติของความไม่เที่ยง ความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในกายและจิต เมื่อเราสังเกตลมหายใจ อารมณ์ ความคิด หรือความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนเห็นว่าทุกอย่างไม่คงที่ ไม่ใช่ตัวตนที่ถาวร การปล่อยวางที่แท้จริงจึงเกิดขึ้นจากการเจริญสติรู้ชัดในกายใจ ไม่ใช่จากการแกล้งทำให้รู้สึกดีชั่วคราวด้วยความคิด
การฝึกจิตในทางนี้ คือการค่อยๆ เจริญสติอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งจิตเกิดความเข้าใจในความไม่เที่ยงจนถึงจุดที่สามารถปล่อยวางได้จริง ไม่ใช่ปล่อยวางชั่วคราวแล้วกลับไปหนักอกอีกครั้งเมื่อเจอปัญหาใหม่ แต่เป็นการปล่อยวางแบบถาวรที่เกิดจากการเห็นความจริงในกายใจโดยไม่ยึดติดในสิ่งใด
0 Comments
0 Shares
15 Views
0 Reviews