พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องกรรมไว้อย่างชัดเจนว่า "เรามีกรรมเป็นของตน" นั่นหมายความว่าทุกการกระทำที่เราทำไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา หรือใจ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราต้องรับผลจากมันเอง ไม่ว่ากรรมที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว สัตว์ทั้งหลายจะได้รับผลของการกระทำนั้นอย่างแน่นอน
ภิกษุผู้ฟังพระธรรมเทศนานี้ย่อมตระหนักถึงการมีชีวิตอยู่บนเส้นทางของกรรม พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นว่า การที่เราก่อกรรมใดๆ จะส่งผลตามกรรมอย่างแน่นอน จึงทำให้ภิกษุทั้งหลายเกิดความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต การฟังธรรมนี้ย่อมทำให้เขาระลึกถึงกรรมที่ยังไม่สมบูรณ์บริบูรณ์ และพยายามละเลิกทุจริตทั้งหลาย
ในทางกลับกัน เมื่อเราในฐานะคนธรรมดาพิจารณาชีวิตของตนเองที่ผ่านมานั้น เห็นได้ว่า ชีวิตคนหนึ่งเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ ทั้งความคิดและการกระทำ แต่กรรมที่ทำไว้ในอดีตยังคงตามมาให้ผลเสมอ แม้เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเมื่อก่อน ความคิดและการกระทำในอดีตยังคงส่งผลต่อเราในปัจจุบัน นี่คือความจริงของกรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเพราะบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นผลจากการกระทำที่ผ่านมา
การพิจารณาถึงเรื่องกรรมและผลกรรมในชีวิตของเรานั้น จะทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของการระวังในการกระทำทั้งปวง เพราะทุกสิ่งที่เราทำในวันนี้ ล้วนส่งผลต่ออนาคตของเราอย่างแน่นอน
ภิกษุผู้ฟังพระธรรมเทศนานี้ย่อมตระหนักถึงการมีชีวิตอยู่บนเส้นทางของกรรม พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นว่า การที่เราก่อกรรมใดๆ จะส่งผลตามกรรมอย่างแน่นอน จึงทำให้ภิกษุทั้งหลายเกิดความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต การฟังธรรมนี้ย่อมทำให้เขาระลึกถึงกรรมที่ยังไม่สมบูรณ์บริบูรณ์ และพยายามละเลิกทุจริตทั้งหลาย
ในทางกลับกัน เมื่อเราในฐานะคนธรรมดาพิจารณาชีวิตของตนเองที่ผ่านมานั้น เห็นได้ว่า ชีวิตคนหนึ่งเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ ทั้งความคิดและการกระทำ แต่กรรมที่ทำไว้ในอดีตยังคงตามมาให้ผลเสมอ แม้เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเมื่อก่อน ความคิดและการกระทำในอดีตยังคงส่งผลต่อเราในปัจจุบัน นี่คือความจริงของกรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเพราะบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นผลจากการกระทำที่ผ่านมา
การพิจารณาถึงเรื่องกรรมและผลกรรมในชีวิตของเรานั้น จะทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของการระวังในการกระทำทั้งปวง เพราะทุกสิ่งที่เราทำในวันนี้ ล้วนส่งผลต่ออนาคตของเราอย่างแน่นอน
พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องกรรมไว้อย่างชัดเจนว่า "เรามีกรรมเป็นของตน" นั่นหมายความว่าทุกการกระทำที่เราทำไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา หรือใจ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราต้องรับผลจากมันเอง ไม่ว่ากรรมที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว สัตว์ทั้งหลายจะได้รับผลของการกระทำนั้นอย่างแน่นอน
ภิกษุผู้ฟังพระธรรมเทศนานี้ย่อมตระหนักถึงการมีชีวิตอยู่บนเส้นทางของกรรม พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นว่า การที่เราก่อกรรมใดๆ จะส่งผลตามกรรมอย่างแน่นอน จึงทำให้ภิกษุทั้งหลายเกิดความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต การฟังธรรมนี้ย่อมทำให้เขาระลึกถึงกรรมที่ยังไม่สมบูรณ์บริบูรณ์ และพยายามละเลิกทุจริตทั้งหลาย
ในทางกลับกัน เมื่อเราในฐานะคนธรรมดาพิจารณาชีวิตของตนเองที่ผ่านมานั้น เห็นได้ว่า ชีวิตคนหนึ่งเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ ทั้งความคิดและการกระทำ แต่กรรมที่ทำไว้ในอดีตยังคงตามมาให้ผลเสมอ แม้เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเมื่อก่อน ความคิดและการกระทำในอดีตยังคงส่งผลต่อเราในปัจจุบัน นี่คือความจริงของกรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเพราะบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นผลจากการกระทำที่ผ่านมา
การพิจารณาถึงเรื่องกรรมและผลกรรมในชีวิตของเรานั้น จะทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของการระวังในการกระทำทั้งปวง เพราะทุกสิ่งที่เราทำในวันนี้ ล้วนส่งผลต่ออนาคตของเราอย่างแน่นอน
0 Comments
0 Shares
88 Views
0 Reviews