เมื่อไหร่ที่เราทำความดี
เมื่อนั้นจะต้องผจญมาร ๕ประการ

🪷การให้ทาน ถือเป็นความดีขั้นธรรมดา

🪷การรักษาศีล เป็นความดีขั้นสูงกว่าทาน

🪷การบำเพ็ญภาวนา เช่นการนั่งสมาธิ การเดินจงกรม ถือเป็นความดีขั้นสูงสุด

เมื่อไหร่ที่เราทำความดี
เมื่อนั้นจะต้องผจญมาร มารมี ๕ ประเภทด้วยกันคือ

๑. ขันธมาร
ได้แก่ ความปวดเมื่อย คันตรงโน้น เจ็บตรงนี้

๒. กิเลสมาร
ได้แก่ กิเลสต่างๆ เช่น นั่งแล้วอยากเห็นเลข ก็เป็นโลภะ นึกเคียดแค้นคนอื่นก็เป็นโทสะ หรือนั่งเพลินๆ คิดเป็นสุขก็เป็นโมหะ

๓. เทวปุตมาร
ก็เช่นเห็นเทพบุตร เทพธิดา เห็นนรกสวรรค์

๔. อภิสังขารมาร
ได้แก่ ความคิดปรุงแต่ง อยากเห็นโน่นเห็นนี่ อยากได้ "เห็นหนอ"อยากสำเร็จพระอรหันต์

๕. มัจจุมาร
อันนี้ร้ายที่สุด เพราะถ้าตายเสียแล้ว โอกาสที่จะมานั่งพอง-หนอ ยุบ-หนอ ก็ไม่มี เพราะฉนั้นจะต้องรู้เท่าทันมารเหล่านี้

สาธุธรรมหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

#ศิษย์พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม (วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี)
เมื่อไหร่ที่เราทำความดี เมื่อนั้นจะต้องผจญมาร ๕ประการ 🪷การให้ทาน ถือเป็นความดีขั้นธรรมดา 🪷การรักษาศีล เป็นความดีขั้นสูงกว่าทาน 🪷การบำเพ็ญภาวนา เช่นการนั่งสมาธิ การเดินจงกรม ถือเป็นความดีขั้นสูงสุด เมื่อไหร่ที่เราทำความดี เมื่อนั้นจะต้องผจญมาร มารมี ๕ ประเภทด้วยกันคือ 🐝๑. ขันธมาร ได้แก่ ความปวดเมื่อย คันตรงโน้น เจ็บตรงนี้ 🐝๒. กิเลสมาร ได้แก่ กิเลสต่างๆ เช่น นั่งแล้วอยากเห็นเลข ก็เป็นโลภะ นึกเคียดแค้นคนอื่นก็เป็นโทสะ หรือนั่งเพลินๆ คิดเป็นสุขก็เป็นโมหะ 🐝๓. เทวปุตมาร ก็เช่นเห็นเทพบุตร เทพธิดา เห็นนรกสวรรค์ 🐝๔. อภิสังขารมาร ได้แก่ ความคิดปรุงแต่ง อยากเห็นโน่นเห็นนี่ อยากได้ "เห็นหนอ"อยากสำเร็จพระอรหันต์ 🐝๕. มัจจุมาร อันนี้ร้ายที่สุด เพราะถ้าตายเสียแล้ว โอกาสที่จะมานั่งพอง-หนอ ยุบ-หนอ ก็ไม่มี เพราะฉนั้นจะต้องรู้เท่าทันมารเหล่านี้ สาธุธรรมหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม #ศิษย์พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม (วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี)
Love
1
0 Comments 0 Shares 490 Views 0 Reviews