สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกามีคำสั่งห้ามการใช้งาน WhatsApp บนอุปกรณ์ทางการทั้งหมดอย่างเป็นทางการ
เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่รัฐสภาในวันนี้ว่าแอปส่งข้อความ WhatsApp ถูกแบนบนอุปกรณ์ของรัฐบาลทั้งหมด
คำสั่งนี้อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งได้ถือว่า WhatsApp มีความเสี่ยงสูงต่อผู้ใช้ เนื่องจากขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน
นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่าแอปดังกล่าวขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลที่ละเอียดอ่อน การแฮ็กในอดีต เช่น เหตุการณ์สปายแวร์ Pegasus ในปี 2019 เน้นย้ำถึงช่องโหว่ต่างๆ
“เจ้าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร จะต้องลบแอปพลิเคชันดังกล่าวทั้งในเวอร์ชันมือถือ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเว็บเบราว์เซอร์
สำหรับแอปพลิเคชันที่ยังได้รับอนุญาตให้ใช้ได้คือ Microsoft Teams, Wickr, Signal, iMessage และ FaceTime
เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่รัฐสภาในวันนี้ว่าแอปส่งข้อความ WhatsApp ถูกแบนบนอุปกรณ์ของรัฐบาลทั้งหมด
คำสั่งนี้อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งได้ถือว่า WhatsApp มีความเสี่ยงสูงต่อผู้ใช้ เนื่องจากขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน
นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่าแอปดังกล่าวขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลที่ละเอียดอ่อน การแฮ็กในอดีต เช่น เหตุการณ์สปายแวร์ Pegasus ในปี 2019 เน้นย้ำถึงช่องโหว่ต่างๆ
“เจ้าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร จะต้องลบแอปพลิเคชันดังกล่าวทั้งในเวอร์ชันมือถือ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเว็บเบราว์เซอร์
สำหรับแอปพลิเคชันที่ยังได้รับอนุญาตให้ใช้ได้คือ Microsoft Teams, Wickr, Signal, iMessage และ FaceTime
สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกามีคำสั่งห้ามการใช้งาน WhatsApp บนอุปกรณ์ทางการทั้งหมดอย่างเป็นทางการ
เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่รัฐสภาในวันนี้ว่าแอปส่งข้อความ WhatsApp ถูกแบนบนอุปกรณ์ของรัฐบาลทั้งหมด
คำสั่งนี้อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งได้ถือว่า WhatsApp มีความเสี่ยงสูงต่อผู้ใช้ เนื่องจากขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน
นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่าแอปดังกล่าวขาดความโปร่งใสในการปกป้องข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลที่ละเอียดอ่อน การแฮ็กในอดีต เช่น เหตุการณ์สปายแวร์ Pegasus ในปี 2019 เน้นย้ำถึงช่องโหว่ต่างๆ
“เจ้าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร จะต้องลบแอปพลิเคชันดังกล่าวทั้งในเวอร์ชันมือถือ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเว็บเบราว์เซอร์
สำหรับแอปพลิเคชันที่ยังได้รับอนุญาตให้ใช้ได้คือ Microsoft Teams, Wickr, Signal, iMessage และ FaceTime
0 Comments
0 Shares
48 Views
0 Reviews