**“เหนื่อย…แต่ไม่ไร้ค่า”
แรงที่เผาผลาญไปวันนี้ คุ้มค่าแค่ไหน?**
คุณรู้ไหมว่า
ทุกวันไม่ว่าคุณจะกินอาหารมากแค่ไหน
สมองคุณจะขอส่วนแบ่งพลังงานจากอาหารไปถึง 20% เสมอ
ใช่…
แม้คุณจะไม่ได้ขยับแขนขา
แม้คุณจะนั่งเฉยๆเพียงแค่ “คิด”
สมองคุณก็กินพลังงานมากกว่าอวัยวะอื่นทั้งหมด
เพราะแบบนี้
แค่คิดมาก…ก็เหนื่อยได้จริง
ไม่ใช่แค่รู้สึกไปเอง
แต่คือความจริงระดับชีววิทยา
---
แต่สิ่งที่สำคัญกว่า “คิดมากหรือคิดน้อย” ก็คือ… “คิดไปเพื่ออะไร?”
ถ้าสมองคุณกำลังทำงานแบบมีเป้าหมาย
แม้จะเหนื่อย ก็จะรู้ว่าเหนื่อยไปเพื่ออะไร
รู้สึกคุ้ม แม้จะล้า
แต่หากคุณใช้พลังสมองไปกับการคิดฟุ้ง
คิดซ้ำ คิดวน คิดไร้เป้าหมาย
แรงทั้งหมดที่เผาผลาญออกไป
จะเหลือไว้เพียง “หมอกในหัว”
และความรู้สึกเศร้าใจว่า
> “วันนี้หมดแรงไป…แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย”
---
สิ่งที่มนุษย์ลืมคิดกันคือ… “พลังงานของฉันไม่ได้มาฟรี”
สัตว์หลายตัวเสียชีวิต
เพื่อแปรรูปเป็นอาหารให้คุณกิน
อาหารเหล่านั้นถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน
พลังงานเหล่านั้นถูกส่งเข้าสู่สมอง
สมองถูกใช้เพื่อ “นั่งฟุ้งอยู่กับความสงสารตัวเอง”…
เมื่อคิดได้อย่างนี้
บางคนที่เคยนั่งเศร้าโดยไม่มีเป้าหมาย
จะเริ่มเกรงใจ…เกรงใจสิ่งมีชีวิตอื่น
ที่ต้องตายไปเพื่อป้อนพลังให้เรามาใช้เปล่าๆ
---
คราวหน้า เมื่อรู้สึกเหนื่อย…ให้ลองถามตัวเองว่า
> “แรงที่ฉันใช้ไปเมื่อครู่นี้ แปรเป็นอะไรดีๆแล้วหรือยัง?”
หากคำตอบคือ
> “ได้คิดสิ่งดีๆ ได้เขียนสิ่งดีๆ ได้เข้าใจใครบางคนมากขึ้น”
คุณจะเริ่มรู้สึกอิ่มใจ คุ้มค่า
แต่ถ้าคำตอบคือ
> “เอาไปคิดซ้ำ คิดวน คิดแย่กับตัวเองไม่หยุด”
ก็แค่รู้ตัว แล้วเปลี่ยนทิศทางความคิดใหม่อีกครั้ง
---
**อย่าให้สมองระดับสูงที่สุดของโลก…
ถูกใช้ไปกับเรื่องไร้สาระในใจคนเพียงคนเดียว**
ในทางโลก
คุณอาจลุกขึ้นมาสร้างสิ่งดีๆ
ให้เพื่อนมนุษย์ได้เห็นแสงบ้าง
ในทางธรรม
คุณอาจเริ่มเจริญสติทีละลมหายใจ
เพื่อค่อยๆปลดเปลื้องตัวเอง
จาก “ความเบียดเบียนโดยไม่รู้ตัว”
> จนกระทั่งวันหนึ่ง
คุณจะกลายเป็นมนุษย์ที่ “ไม่มีใครต้องตายเพื่อเราอีก”
เพราะเราไม่ฟุ้ง ไม่ฟุ้งซ่าน
แต่ใช้ชีวิตอย่างรู้คุณ…และรู้ค่า
แรงที่เผาผลาญไปวันนี้ คุ้มค่าแค่ไหน?**
คุณรู้ไหมว่า
ทุกวันไม่ว่าคุณจะกินอาหารมากแค่ไหน
สมองคุณจะขอส่วนแบ่งพลังงานจากอาหารไปถึง 20% เสมอ
ใช่…
แม้คุณจะไม่ได้ขยับแขนขา
แม้คุณจะนั่งเฉยๆเพียงแค่ “คิด”
สมองคุณก็กินพลังงานมากกว่าอวัยวะอื่นทั้งหมด
เพราะแบบนี้
แค่คิดมาก…ก็เหนื่อยได้จริง
ไม่ใช่แค่รู้สึกไปเอง
แต่คือความจริงระดับชีววิทยา
---
แต่สิ่งที่สำคัญกว่า “คิดมากหรือคิดน้อย” ก็คือ… “คิดไปเพื่ออะไร?”
ถ้าสมองคุณกำลังทำงานแบบมีเป้าหมาย
แม้จะเหนื่อย ก็จะรู้ว่าเหนื่อยไปเพื่ออะไร
รู้สึกคุ้ม แม้จะล้า
แต่หากคุณใช้พลังสมองไปกับการคิดฟุ้ง
คิดซ้ำ คิดวน คิดไร้เป้าหมาย
แรงทั้งหมดที่เผาผลาญออกไป
จะเหลือไว้เพียง “หมอกในหัว”
และความรู้สึกเศร้าใจว่า
> “วันนี้หมดแรงไป…แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย”
---
สิ่งที่มนุษย์ลืมคิดกันคือ… “พลังงานของฉันไม่ได้มาฟรี”
สัตว์หลายตัวเสียชีวิต
เพื่อแปรรูปเป็นอาหารให้คุณกิน
อาหารเหล่านั้นถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน
พลังงานเหล่านั้นถูกส่งเข้าสู่สมอง
สมองถูกใช้เพื่อ “นั่งฟุ้งอยู่กับความสงสารตัวเอง”…
เมื่อคิดได้อย่างนี้
บางคนที่เคยนั่งเศร้าโดยไม่มีเป้าหมาย
จะเริ่มเกรงใจ…เกรงใจสิ่งมีชีวิตอื่น
ที่ต้องตายไปเพื่อป้อนพลังให้เรามาใช้เปล่าๆ
---
คราวหน้า เมื่อรู้สึกเหนื่อย…ให้ลองถามตัวเองว่า
> “แรงที่ฉันใช้ไปเมื่อครู่นี้ แปรเป็นอะไรดีๆแล้วหรือยัง?”
หากคำตอบคือ
> “ได้คิดสิ่งดีๆ ได้เขียนสิ่งดีๆ ได้เข้าใจใครบางคนมากขึ้น”
คุณจะเริ่มรู้สึกอิ่มใจ คุ้มค่า
แต่ถ้าคำตอบคือ
> “เอาไปคิดซ้ำ คิดวน คิดแย่กับตัวเองไม่หยุด”
ก็แค่รู้ตัว แล้วเปลี่ยนทิศทางความคิดใหม่อีกครั้ง
---
**อย่าให้สมองระดับสูงที่สุดของโลก…
ถูกใช้ไปกับเรื่องไร้สาระในใจคนเพียงคนเดียว**
ในทางโลก
คุณอาจลุกขึ้นมาสร้างสิ่งดีๆ
ให้เพื่อนมนุษย์ได้เห็นแสงบ้าง
ในทางธรรม
คุณอาจเริ่มเจริญสติทีละลมหายใจ
เพื่อค่อยๆปลดเปลื้องตัวเอง
จาก “ความเบียดเบียนโดยไม่รู้ตัว”
> จนกระทั่งวันหนึ่ง
คุณจะกลายเป็นมนุษย์ที่ “ไม่มีใครต้องตายเพื่อเราอีก”
เพราะเราไม่ฟุ้ง ไม่ฟุ้งซ่าน
แต่ใช้ชีวิตอย่างรู้คุณ…และรู้ค่า
**“เหนื่อย…แต่ไม่ไร้ค่า”
แรงที่เผาผลาญไปวันนี้ คุ้มค่าแค่ไหน?**
คุณรู้ไหมว่า
ทุกวันไม่ว่าคุณจะกินอาหารมากแค่ไหน
สมองคุณจะขอส่วนแบ่งพลังงานจากอาหารไปถึง 20% เสมอ
ใช่…
แม้คุณจะไม่ได้ขยับแขนขา
แม้คุณจะนั่งเฉยๆเพียงแค่ “คิด”
สมองคุณก็กินพลังงานมากกว่าอวัยวะอื่นทั้งหมด
เพราะแบบนี้
แค่คิดมาก…ก็เหนื่อยได้จริง
ไม่ใช่แค่รู้สึกไปเอง
แต่คือความจริงระดับชีววิทยา
---
แต่สิ่งที่สำคัญกว่า “คิดมากหรือคิดน้อย” ก็คือ… “คิดไปเพื่ออะไร?”
ถ้าสมองคุณกำลังทำงานแบบมีเป้าหมาย
แม้จะเหนื่อย ก็จะรู้ว่าเหนื่อยไปเพื่ออะไร
รู้สึกคุ้ม แม้จะล้า
แต่หากคุณใช้พลังสมองไปกับการคิดฟุ้ง
คิดซ้ำ คิดวน คิดไร้เป้าหมาย
แรงทั้งหมดที่เผาผลาญออกไป
จะเหลือไว้เพียง “หมอกในหัว”
และความรู้สึกเศร้าใจว่า
> “วันนี้หมดแรงไป…แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย”
---
สิ่งที่มนุษย์ลืมคิดกันคือ… “พลังงานของฉันไม่ได้มาฟรี”
สัตว์หลายตัวเสียชีวิต
เพื่อแปรรูปเป็นอาหารให้คุณกิน
อาหารเหล่านั้นถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน
พลังงานเหล่านั้นถูกส่งเข้าสู่สมอง
สมองถูกใช้เพื่อ “นั่งฟุ้งอยู่กับความสงสารตัวเอง”…
เมื่อคิดได้อย่างนี้
บางคนที่เคยนั่งเศร้าโดยไม่มีเป้าหมาย
จะเริ่มเกรงใจ…เกรงใจสิ่งมีชีวิตอื่น
ที่ต้องตายไปเพื่อป้อนพลังให้เรามาใช้เปล่าๆ
---
คราวหน้า เมื่อรู้สึกเหนื่อย…ให้ลองถามตัวเองว่า
> “แรงที่ฉันใช้ไปเมื่อครู่นี้ แปรเป็นอะไรดีๆแล้วหรือยัง?”
หากคำตอบคือ
> “ได้คิดสิ่งดีๆ ได้เขียนสิ่งดีๆ ได้เข้าใจใครบางคนมากขึ้น”
คุณจะเริ่มรู้สึกอิ่มใจ คุ้มค่า
แต่ถ้าคำตอบคือ
> “เอาไปคิดซ้ำ คิดวน คิดแย่กับตัวเองไม่หยุด”
ก็แค่รู้ตัว แล้วเปลี่ยนทิศทางความคิดใหม่อีกครั้ง
---
**อย่าให้สมองระดับสูงที่สุดของโลก…
ถูกใช้ไปกับเรื่องไร้สาระในใจคนเพียงคนเดียว**
ในทางโลก
คุณอาจลุกขึ้นมาสร้างสิ่งดีๆ
ให้เพื่อนมนุษย์ได้เห็นแสงบ้าง
ในทางธรรม
คุณอาจเริ่มเจริญสติทีละลมหายใจ
เพื่อค่อยๆปลดเปลื้องตัวเอง
จาก “ความเบียดเบียนโดยไม่รู้ตัว”
> จนกระทั่งวันหนึ่ง
คุณจะกลายเป็นมนุษย์ที่ “ไม่มีใครต้องตายเพื่อเราอีก”
เพราะเราไม่ฟุ้ง ไม่ฟุ้งซ่าน
แต่ใช้ชีวิตอย่างรู้คุณ…และรู้ค่า
