**“ฉลาดทางโลก…อาจนำพาลงเหว

แต่ฉลาดทางธรรม…เท่านั้น ที่พาข้ามพ้น”**

เกิดเป็นมนุษย์นั้นไม่ใช่เรื่องฟลุก
ไม่ใช่แค่เพราะฟ้าลิขิต
แต่เป็นเพราะ…บุญตกแต่งมาแล้ว

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ปุณณกมาณวกปัญหา ว่า

> ความเป็นมนุษย์จะเกิดขึ้นไม่ได้
หากกรรมที่เคยทำมา
เกิดจากโลภะ โทสะ โมหะล้วนๆ

นั่นหมายความว่า

> แม้จะหลง แม้จะผิด
แต่ต้องมีช่วงหนึ่งที่ใจเรา “ตั้งมั่นเพื่อความดี”
ถึงได้อาศัยจังหวะนั้นกลับมาเกิดเป็นคนอีกครั้ง

---

บุญแต่งความฉลาดได้…แต่ฉลาดแบบไหน?

คนฉลาดในโลกมีเยอะ
แต่คนฉลาดเพื่อออกจากทุกข์…มีน้อย

บางคนใช้ความฉลาดระดับอัจฉริยะ
คิดค้นเครื่องมือหลอกลวง ขายของลวงโลก
โกงคนเป็นร้อยเป็นพันจนร่ำรวยมหาศาล
นั่นคือฉลาดแบบโลกจัด แต่ ไม่ฉลาดแบบธรรมเลย

ยิ่งน่าหดหู่เมื่อเห็นคนฉลาดระดับหัวกะทิ
อุทิศทั้งชีวิตให้กับการสร้างอาวุธล้างเผ่าพันธุ์
ทั้งที่รู้ว่าผลงานของตนมีไว้เพื่อทำลาย ไม่ใช่สร้างสรรค์
แต่เขากลับมองว่านั่นคือ "ความสำเร็จในชีวิต"

ลองคิดดูเถิด...
สมองดี แต่ใช้สร้างนรกไว้ล่วงหน้าให้ตัวเอง

> นั่นไม่ใช่ ‘ผู้รู้’
แต่คือ ‘ผู้หลงในความฉลาดของตนเอง’

---

ฉลาดจริง…ต้องรู้ว่าความดีคือเส้นทางรอด

แม้เกิดมาแล้วมีปัญญา
หากใช้ปัญญาในทางผิดซ้ำๆ
มันจะกลายเป็นพันธะ
ดึงให้วนเวียนกลับไปทำบาปแบบเดิมอีกครั้ง

> เว้นแต่ชาตินี้จะมีโอกาส
ได้เห็นแสงธรรมของพระพุทธเจ้า
ได้รู้ว่า ความฉลาดที่แท้คือการรู้ว่า
อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ

และเลือกเดินในทางที่ปลอดภัยจากบาป

---

บทสรุปของการเป็น “ผู้ฉลาดทางธรรม”

> คนฉลาดทางโลก…อาจรวยล้นฟ้า แต่ล้มเหลวทางใจ
คนฉลาดทางธรรม…อาจเรียบง่ายแต่ใจกว้างใหญ่เกินวัดได้

และคนที่รู้ทันว่า ความฉลาดใดนำไปสู่นรก
ย่อมไม่อวดฉลาดแบบเดิม

เขาจะใช้ปัญญาที่มี สร้างบุญใหม่
และค่อยๆถอนตัวออกจากเส้นทางกรรมเก่า

จนวันหนึ่ง ความฉลาดนั้น
พาเขาพ้นจากทุกข์ได้จริง
**“ฉลาดทางโลก…อาจนำพาลงเหว แต่ฉลาดทางธรรม…เท่านั้น ที่พาข้ามพ้น”** เกิดเป็นมนุษย์นั้นไม่ใช่เรื่องฟลุก ไม่ใช่แค่เพราะฟ้าลิขิต แต่เป็นเพราะ…บุญตกแต่งมาแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ปุณณกมาณวกปัญหา ว่า > ความเป็นมนุษย์จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากกรรมที่เคยทำมา เกิดจากโลภะ โทสะ โมหะล้วนๆ นั่นหมายความว่า > แม้จะหลง แม้จะผิด แต่ต้องมีช่วงหนึ่งที่ใจเรา “ตั้งมั่นเพื่อความดี” ถึงได้อาศัยจังหวะนั้นกลับมาเกิดเป็นคนอีกครั้ง --- บุญแต่งความฉลาดได้…แต่ฉลาดแบบไหน? คนฉลาดในโลกมีเยอะ แต่คนฉลาดเพื่อออกจากทุกข์…มีน้อย บางคนใช้ความฉลาดระดับอัจฉริยะ คิดค้นเครื่องมือหลอกลวง ขายของลวงโลก โกงคนเป็นร้อยเป็นพันจนร่ำรวยมหาศาล นั่นคือฉลาดแบบโลกจัด แต่ ไม่ฉลาดแบบธรรมเลย ยิ่งน่าหดหู่เมื่อเห็นคนฉลาดระดับหัวกะทิ อุทิศทั้งชีวิตให้กับการสร้างอาวุธล้างเผ่าพันธุ์ ทั้งที่รู้ว่าผลงานของตนมีไว้เพื่อทำลาย ไม่ใช่สร้างสรรค์ แต่เขากลับมองว่านั่นคือ "ความสำเร็จในชีวิต" ลองคิดดูเถิด... สมองดี แต่ใช้สร้างนรกไว้ล่วงหน้าให้ตัวเอง > นั่นไม่ใช่ ‘ผู้รู้’ แต่คือ ‘ผู้หลงในความฉลาดของตนเอง’ --- ฉลาดจริง…ต้องรู้ว่าความดีคือเส้นทางรอด แม้เกิดมาแล้วมีปัญญา หากใช้ปัญญาในทางผิดซ้ำๆ มันจะกลายเป็นพันธะ ดึงให้วนเวียนกลับไปทำบาปแบบเดิมอีกครั้ง > เว้นแต่ชาตินี้จะมีโอกาส ได้เห็นแสงธรรมของพระพุทธเจ้า ได้รู้ว่า ความฉลาดที่แท้คือการรู้ว่า อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ และเลือกเดินในทางที่ปลอดภัยจากบาป --- บทสรุปของการเป็น “ผู้ฉลาดทางธรรม” > คนฉลาดทางโลก…อาจรวยล้นฟ้า แต่ล้มเหลวทางใจ คนฉลาดทางธรรม…อาจเรียบง่ายแต่ใจกว้างใหญ่เกินวัดได้ และคนที่รู้ทันว่า ความฉลาดใดนำไปสู่นรก ย่อมไม่อวดฉลาดแบบเดิม เขาจะใช้ปัญญาที่มี สร้างบุญใหม่ และค่อยๆถอนตัวออกจากเส้นทางกรรมเก่า จนวันหนึ่ง ความฉลาดนั้น พาเขาพ้นจากทุกข์ได้จริง
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว