"ทียังงี้ยุโรปจะมาโวยวาย ทำเป็นงอแงรับไม่ได้ ทีตอนลงมติเรื่อง 112 เรื่องส่งอุยกูร์กลับจีน นั่นก็มาบีบบังคับให้ไทยต้องปฎิบัติตามเหมือนกัน สมน้ำหน้า!!!"

.

ยุโรปโวยวายหลังสหรัฐบีบให้บริษัทในสหภาพยุโรปยกเลิกนโยบาย DEL (นโยบายความหลากหลาย ความเท่าเทียมทางเพศ) และต้องปฏิบัติตามคำสั่งต่อต้านความหลากหลายสหรัฐ

รัฐบาลสหรัฐส่งจดหมายผ่านสถานทูตของตนไปยังบริษัทต่างๆในยุโรปที่ทำธุรกิจกับสหรัฐ แจ้งให้แบนการทำ หรือ ส่งเสริมกิจกรรม DEI (ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการรวมเป็นหนึ่งเดียว) เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งประธานาธิบดีที่ทรัมป์ได้ลงนามไปแล้ว

"แล้วต้องลงชื่อตอบกลับด้วย!!"

ในจดหมายมีข้อความให้ผู้รับ ต้องอ่านและทำความเข้าใจแล้วลงนามรับทราบ ยืนยันว่าบริษัทไม่มีโปรแกรมดังกล่าว ไม่มีกิจกรรมที่สนับสนุนส่งเสริม DEI

แต่ถ้าไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในจดหมายก็ขอเหตุผลด้วยว่าทำไม สหรัฐจะได้พิจารณาดำเนินการขั้นต่อไป


เบื้องต้น รัฐบาลสหรัฐจะบังคับโดยตรงให้ไปยังบริษัทในยุโรปที่ทำธุรกิจกับรัฐบาลก่อนเป็นลำดับต้นๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ จะต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลสหรัฐ

แน่นอนว่างานนี้ชาวยุโรปไม่ถูกใจอย่างแรง เพราะคงไม่มีใครชอบถูกคนอื่นไปบังคับให้ปฎิบัติตาม (เพราะเคยชินกับการบังคับผู้อื่น)


ฝรั่งเศสดูท่าจะเดือดร้อนกว่าใคร หลังจาก รมต.ความเท่าเทียมระหว่างชายหญิงและการเลือกปฎิบัติของฝรั่งเศส โวยว่า เป็นการแทรกแซงกิจการภายในอย่างชัดเจน เป็นการบังคับสั่งการการดำเนินกิจการของฝรั่งเศสโดยที่เราไม่เต็มใจ
"ทียังงี้ยุโรปจะมาโวยวาย ทำเป็นงอแงรับไม่ได้ ทีตอนลงมติเรื่อง 112 เรื่องส่งอุยกูร์กลับจีน นั่นก็มาบีบบังคับให้ไทยต้องปฎิบัติตามเหมือนกัน สมน้ำหน้า!!!" . ยุโรปโวยวายหลังสหรัฐบีบให้บริษัทในสหภาพยุโรปยกเลิกนโยบาย DEL (นโยบายความหลากหลาย ความเท่าเทียมทางเพศ) และต้องปฏิบัติตามคำสั่งต่อต้านความหลากหลายสหรัฐ รัฐบาลสหรัฐส่งจดหมายผ่านสถานทูตของตนไปยังบริษัทต่างๆในยุโรปที่ทำธุรกิจกับสหรัฐ แจ้งให้แบนการทำ หรือ ส่งเสริมกิจกรรม DEI (ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการรวมเป็นหนึ่งเดียว) เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งประธานาธิบดีที่ทรัมป์ได้ลงนามไปแล้ว "แล้วต้องลงชื่อตอบกลับด้วย!!" ในจดหมายมีข้อความให้ผู้รับ ต้องอ่านและทำความเข้าใจแล้วลงนามรับทราบ ยืนยันว่าบริษัทไม่มีโปรแกรมดังกล่าว ไม่มีกิจกรรมที่สนับสนุนส่งเสริม DEI แต่ถ้าไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในจดหมายก็ขอเหตุผลด้วยว่าทำไม สหรัฐจะได้พิจารณาดำเนินการขั้นต่อไป เบื้องต้น รัฐบาลสหรัฐจะบังคับโดยตรงให้ไปยังบริษัทในยุโรปที่ทำธุรกิจกับรัฐบาลก่อนเป็นลำดับต้นๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ จะต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลสหรัฐ แน่นอนว่างานนี้ชาวยุโรปไม่ถูกใจอย่างแรง เพราะคงไม่มีใครชอบถูกคนอื่นไปบังคับให้ปฎิบัติตาม (เพราะเคยชินกับการบังคับผู้อื่น) ฝรั่งเศสดูท่าจะเดือดร้อนกว่าใคร หลังจาก รมต.ความเท่าเทียมระหว่างชายหญิงและการเลือกปฎิบัติของฝรั่งเศส โวยว่า เป็นการแทรกแซงกิจการภายในอย่างชัดเจน เป็นการบังคับสั่งการการดำเนินกิจการของฝรั่งเศสโดยที่เราไม่เต็มใจ
0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews