"เอาคืนทุกดอก แล้วบอกรักประชาธิปไตย"
หลังจากทรัมป์เพิ่งประกาศเพิกถอนใบอนุญาตด้านความปลอดภัยของโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสรุปข่าวกรองประจำวันได้ โดยอ้างเหตุผลด้านความจำ จนทำให้ไม่สามารถไว้วางใจให้ไบเดนดูแลข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้อีกต่อไป
ล่าสุดวันนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่าทรัมป์เพิ่งยกเลิกใบอนุญาตด้านความปลอดภัยอีกครั้ง ทำให้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยของประเทศ ไดแก่
"แอนโธนี บลิงเคน" รัฐมนตรีต่างประเทศ
"เลติเทีย เจมส์" อัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์ก
"อัลวิน แบร็ก" อัยการเขตแมนฮัตตัน
ทรัมป์ยังมีคำสั่งห้ามพวกเขาเข้าไปในอาคารของรัฐบาลกลางโดยอ้างว่าเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติจากอดีตนักการเมือง
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ยังมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่ทรัมป์เล็งเป้า เช่น เจค ซัลลิแวน อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน ซึ่งไม่น่าจะรอดพ้นเงื้อมมือของทรัมป์ไปได้
การกระทำของทรัมป์กำลังถูกวิจารณ์จากสื่อฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกา ซึ่งทรัมป์มุ่งเป้าหมายไปที่การแก้แค้นส่วนตัวและกำจัดศัตรูทางการเมือง ซึ่งถือเป็นการทำลายหลักนิติธรรมที่สหรัฐเชิดชูมาอย่างยาวนาน และยังเป็นแบบอย่างให้กับหลานประเทศทั่วโลก
หลังจากทรัมป์เพิ่งประกาศเพิกถอนใบอนุญาตด้านความปลอดภัยของโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสรุปข่าวกรองประจำวันได้ โดยอ้างเหตุผลด้านความจำ จนทำให้ไม่สามารถไว้วางใจให้ไบเดนดูแลข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้อีกต่อไป
ล่าสุดวันนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่าทรัมป์เพิ่งยกเลิกใบอนุญาตด้านความปลอดภัยอีกครั้ง ทำให้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยของประเทศ ไดแก่
"แอนโธนี บลิงเคน" รัฐมนตรีต่างประเทศ
"เลติเทีย เจมส์" อัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์ก
"อัลวิน แบร็ก" อัยการเขตแมนฮัตตัน
ทรัมป์ยังมีคำสั่งห้ามพวกเขาเข้าไปในอาคารของรัฐบาลกลางโดยอ้างว่าเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติจากอดีตนักการเมือง
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ยังมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่ทรัมป์เล็งเป้า เช่น เจค ซัลลิแวน อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน ซึ่งไม่น่าจะรอดพ้นเงื้อมมือของทรัมป์ไปได้
การกระทำของทรัมป์กำลังถูกวิจารณ์จากสื่อฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกา ซึ่งทรัมป์มุ่งเป้าหมายไปที่การแก้แค้นส่วนตัวและกำจัดศัตรูทางการเมือง ซึ่งถือเป็นการทำลายหลักนิติธรรมที่สหรัฐเชิดชูมาอย่างยาวนาน และยังเป็นแบบอย่างให้กับหลานประเทศทั่วโลก
"เอาคืนทุกดอก แล้วบอกรักประชาธิปไตย"
หลังจากทรัมป์เพิ่งประกาศเพิกถอนใบอนุญาตด้านความปลอดภัยของโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสรุปข่าวกรองประจำวันได้ โดยอ้างเหตุผลด้านความจำ จนทำให้ไม่สามารถไว้วางใจให้ไบเดนดูแลข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้อีกต่อไป
ล่าสุดวันนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่าทรัมป์เพิ่งยกเลิกใบอนุญาตด้านความปลอดภัยอีกครั้ง ทำให้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยของประเทศ ไดแก่
"แอนโธนี บลิงเคน" รัฐมนตรีต่างประเทศ
"เลติเทีย เจมส์" อัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์ก
"อัลวิน แบร็ก" อัยการเขตแมนฮัตตัน
ทรัมป์ยังมีคำสั่งห้ามพวกเขาเข้าไปในอาคารของรัฐบาลกลางโดยอ้างว่าเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติจากอดีตนักการเมือง
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ยังมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่ทรัมป์เล็งเป้า เช่น เจค ซัลลิแวน อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน ซึ่งไม่น่าจะรอดพ้นเงื้อมมือของทรัมป์ไปได้
การกระทำของทรัมป์กำลังถูกวิจารณ์จากสื่อฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกา ซึ่งทรัมป์มุ่งเป้าหมายไปที่การแก้แค้นส่วนตัวและกำจัดศัตรูทางการเมือง ซึ่งถือเป็นการทำลายหลักนิติธรรมที่สหรัฐเชิดชูมาอย่างยาวนาน และยังเป็นแบบอย่างให้กับหลานประเทศทั่วโลก
![Like](https://cdn.thaitimes.co/uploads/reactions/like.png)