📌 แก่นของการปฏิบัติธรรม → ลดอัตตา ไม่ใช่เพิ่มอัตตา
🌱 ทางโลก: "ดีกว่า" มักเพิ่มอัตตา → ก่อทุกข์
คำว่า "ฉันเหนือกว่า" "ฉันรู้มากกว่า" "ฉันปฏิบัติดีกว่า"
ทำให้จิตใจยึดมั่นถือมั่น → เปราะบาง หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย
อัตตายิ่งโต → ความทุกข์ยิ่งมาก
ความสุขที่ได้จากการเหนือกว่าคนอื่น → สุขที่ไม่ยั่งยืน
🌿 ทางธรรม: "ดีกว่า" ควรเป็นการลดอัตตา → นำไปสู่ความสงบ
คำว่า "ปฏิบัติเพื่อคลายตัวกู"
ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งลดตัวตน → ใจเบา ใจสว่าง
ไม่เทียบใคร ไม่อวดดี ไม่แข่งธรรม
เป้าหมายสูงสุดของธรรมะ → พ้นจากอัตตา
---
📌 3 ระดับของการปฏิบัติธรรม
📍 ระดับที่ 1: ปฏิบัติธรรมเพื่อ "เอาบาป" (เพิ่มอัตตา)
🔴 ลักษณะของการปฏิบัติที่ผิดทาง
ใช้ธรรมะเป็นเครื่องมือ อวดดี ดูถูกคนอื่น
เชื่อว่าตัวเอง รู้มากกว่า ใจบริสุทธิ์กว่า ธรรมสูงส่งกว่า
แข่งขันเปรียบเทียบ "ใครปฏิบัติได้ลึกกว่า ใครเข้าถึงก่อน"
อัตตาหนาขึ้นเรื่อยๆ → หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย พูดจาหยาบคาย
ทำบุญไป แต่จิตยังเต็มไปด้วยมานะ
🚨 ผลลัพธ์:
กลายเป็นคนที่เคร่งศาสนาแต่ใจแข็งกระด้าง
ปฏิบัติแล้วใจ "ไม่เบา ไม่โปร่ง" → แปลว่าผิดทาง
จิตฟุ้งซ่าน เพราะธรรมะกลายเป็นการแข่งขัน
---
📍 ระดับที่ 2: ปฏิบัติธรรมเพื่อ "เอาบุญ" (ยึดติดปีติสุข)
⚪ ลักษณะของการปฏิบัติที่ก้าวหน้า แต่ยังติดสุข
ทำบุญ รักษาศีล นั่งสมาธิ เพื่อให้ใจสงบ
ติดสุขจากสมาธิ → หลงคิดว่าความสุขจากสมาธิคือเป้าหมาย
ถ้าวันไหนสมาธิดี → ดีใจ
ถ้าวันไหนสมาธิไม่ดี → หงุดหงิด
🚨 ปัญหา:
ยัง "ยึด" ปีติ สุข ความสงบ
ยังไม่เห็นว่า ปีติสุขก็ไม่เที่ยง
มีความสุขแต่ยัง "ติดสุข" → ไม่พร้อมปล่อย
---
📍 ระดับที่ 3: ปฏิบัติธรรมเพื่อ "เหนือบุญเหนือบาป" (ล้างตัวตน)
🟢 ลักษณะของการปฏิบัติที่ถูกต้อง
เห็นทุกอย่างเป็น "อนิจจัง - ทุกขัง - อนัตตา"
ไม่ยึดสุข ไม่ยึดทุกข์
สมาธิได้ก็รู้ → สมาธิหายก็รู้
สุขก็รู้ว่า เดี๋ยวหาย
ทุกข์ก็รู้ว่า เดี๋ยวผ่านไป
ไม่อวด ไม่แข่งขัน ไม่เปรียบเทียบ
ใจใส ใจโล่ง เบา ไม่มีภาระ
✅ เป้าหมายของการปฏิบัติธรรมที่แท้จริง
→ "ไม่เพิ่มอัตตา ไม่เพิ่มตัวกู"
→ "ไม่มีอะไรให้แข่ง ไม่มีอะไรให้ยึด"
→ "ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ"
---
📌 วิธีปฏิบัติธรรมให้ถูกทาง
1️⃣ หมั่นสังเกตจิต → ถามตัวเองเสมอ
ตอนนี้ใจเบาหรือหนัก?
กำลังเปรียบเทียบตัวเองกับใครไหม?
มีความพองตัว หยิ่งทะนงไหม?
2️⃣ ฝึกเห็น "อนิจจัง" ในทุกอย่าง
สมาธิได้ → ไม่ยึด
สมาธิหาย → ไม่หงุดหงิด
สุขได้ → ไม่หลง
ทุกข์มา → ไม่ต้าน
3️⃣ ลดเปรียบเทียบ → ไม่ต้องไปแข่งกับใคร
อย่ามองว่าตัวเองดีกว่าใคร
อย่ามองว่าตัวเองเข้าใจมากกว่าใคร
อย่ามองว่าตัวเองมีธรรมสูงกว่าใคร
4️⃣ ปฏิบัติธรรมแบบเงียบๆ → ไม่ต้องอวด ไม่ต้องโชว์
ไม่ต้องโพสต์ว่า "ฉันปฏิบัติดี"
ไม่ต้องบอกใครว่า "ฉันเข้าถึงธรรม"
ธรรมะไม่ใช่เรื่องโอ้อวด แต่เป็นเรื่องของการละวาง
---
📌 สรุป → ปฏิบัติธรรมให้ถูกต้อง
💡 อย่าปฏิบัติธรรมเพื่อสร้าง “ตัวกู” ที่สูงส่งขึ้นมาใหม่
💡 ปฏิบัติธรรมเพื่อให้ “ตัวกู” ค่อยๆจางหายไป
💡 ปฏิบัติธรรมแล้วใจควรเบา ไม่ใช่แข็งกระด้าง
💡 อย่าปฏิบัติเพื่อเปรียบเทียบ แต่ให้ปฏิบัติเพื่อลดอัตตา
👉 ถ้าปฏิบัติแล้วอัตตาลดลง → ถูกทาง
👉 ถ้าปฏิบัติแล้วอัตตาเพิ่มขึ้น → กลับไปเริ่มใหม่!
🌱 ทางโลก: "ดีกว่า" มักเพิ่มอัตตา → ก่อทุกข์
คำว่า "ฉันเหนือกว่า" "ฉันรู้มากกว่า" "ฉันปฏิบัติดีกว่า"
ทำให้จิตใจยึดมั่นถือมั่น → เปราะบาง หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย
อัตตายิ่งโต → ความทุกข์ยิ่งมาก
ความสุขที่ได้จากการเหนือกว่าคนอื่น → สุขที่ไม่ยั่งยืน
🌿 ทางธรรม: "ดีกว่า" ควรเป็นการลดอัตตา → นำไปสู่ความสงบ
คำว่า "ปฏิบัติเพื่อคลายตัวกู"
ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งลดตัวตน → ใจเบา ใจสว่าง
ไม่เทียบใคร ไม่อวดดี ไม่แข่งธรรม
เป้าหมายสูงสุดของธรรมะ → พ้นจากอัตตา
---
📌 3 ระดับของการปฏิบัติธรรม
📍 ระดับที่ 1: ปฏิบัติธรรมเพื่อ "เอาบาป" (เพิ่มอัตตา)
🔴 ลักษณะของการปฏิบัติที่ผิดทาง
ใช้ธรรมะเป็นเครื่องมือ อวดดี ดูถูกคนอื่น
เชื่อว่าตัวเอง รู้มากกว่า ใจบริสุทธิ์กว่า ธรรมสูงส่งกว่า
แข่งขันเปรียบเทียบ "ใครปฏิบัติได้ลึกกว่า ใครเข้าถึงก่อน"
อัตตาหนาขึ้นเรื่อยๆ → หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย พูดจาหยาบคาย
ทำบุญไป แต่จิตยังเต็มไปด้วยมานะ
🚨 ผลลัพธ์:
กลายเป็นคนที่เคร่งศาสนาแต่ใจแข็งกระด้าง
ปฏิบัติแล้วใจ "ไม่เบา ไม่โปร่ง" → แปลว่าผิดทาง
จิตฟุ้งซ่าน เพราะธรรมะกลายเป็นการแข่งขัน
---
📍 ระดับที่ 2: ปฏิบัติธรรมเพื่อ "เอาบุญ" (ยึดติดปีติสุข)
⚪ ลักษณะของการปฏิบัติที่ก้าวหน้า แต่ยังติดสุข
ทำบุญ รักษาศีล นั่งสมาธิ เพื่อให้ใจสงบ
ติดสุขจากสมาธิ → หลงคิดว่าความสุขจากสมาธิคือเป้าหมาย
ถ้าวันไหนสมาธิดี → ดีใจ
ถ้าวันไหนสมาธิไม่ดี → หงุดหงิด
🚨 ปัญหา:
ยัง "ยึด" ปีติ สุข ความสงบ
ยังไม่เห็นว่า ปีติสุขก็ไม่เที่ยง
มีความสุขแต่ยัง "ติดสุข" → ไม่พร้อมปล่อย
---
📍 ระดับที่ 3: ปฏิบัติธรรมเพื่อ "เหนือบุญเหนือบาป" (ล้างตัวตน)
🟢 ลักษณะของการปฏิบัติที่ถูกต้อง
เห็นทุกอย่างเป็น "อนิจจัง - ทุกขัง - อนัตตา"
ไม่ยึดสุข ไม่ยึดทุกข์
สมาธิได้ก็รู้ → สมาธิหายก็รู้
สุขก็รู้ว่า เดี๋ยวหาย
ทุกข์ก็รู้ว่า เดี๋ยวผ่านไป
ไม่อวด ไม่แข่งขัน ไม่เปรียบเทียบ
ใจใส ใจโล่ง เบา ไม่มีภาระ
✅ เป้าหมายของการปฏิบัติธรรมที่แท้จริง
→ "ไม่เพิ่มอัตตา ไม่เพิ่มตัวกู"
→ "ไม่มีอะไรให้แข่ง ไม่มีอะไรให้ยึด"
→ "ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ"
---
📌 วิธีปฏิบัติธรรมให้ถูกทาง
1️⃣ หมั่นสังเกตจิต → ถามตัวเองเสมอ
ตอนนี้ใจเบาหรือหนัก?
กำลังเปรียบเทียบตัวเองกับใครไหม?
มีความพองตัว หยิ่งทะนงไหม?
2️⃣ ฝึกเห็น "อนิจจัง" ในทุกอย่าง
สมาธิได้ → ไม่ยึด
สมาธิหาย → ไม่หงุดหงิด
สุขได้ → ไม่หลง
ทุกข์มา → ไม่ต้าน
3️⃣ ลดเปรียบเทียบ → ไม่ต้องไปแข่งกับใคร
อย่ามองว่าตัวเองดีกว่าใคร
อย่ามองว่าตัวเองเข้าใจมากกว่าใคร
อย่ามองว่าตัวเองมีธรรมสูงกว่าใคร
4️⃣ ปฏิบัติธรรมแบบเงียบๆ → ไม่ต้องอวด ไม่ต้องโชว์
ไม่ต้องโพสต์ว่า "ฉันปฏิบัติดี"
ไม่ต้องบอกใครว่า "ฉันเข้าถึงธรรม"
ธรรมะไม่ใช่เรื่องโอ้อวด แต่เป็นเรื่องของการละวาง
---
📌 สรุป → ปฏิบัติธรรมให้ถูกต้อง
💡 อย่าปฏิบัติธรรมเพื่อสร้าง “ตัวกู” ที่สูงส่งขึ้นมาใหม่
💡 ปฏิบัติธรรมเพื่อให้ “ตัวกู” ค่อยๆจางหายไป
💡 ปฏิบัติธรรมแล้วใจควรเบา ไม่ใช่แข็งกระด้าง
💡 อย่าปฏิบัติเพื่อเปรียบเทียบ แต่ให้ปฏิบัติเพื่อลดอัตตา
👉 ถ้าปฏิบัติแล้วอัตตาลดลง → ถูกทาง
👉 ถ้าปฏิบัติแล้วอัตตาเพิ่มขึ้น → กลับไปเริ่มใหม่!
📌 แก่นของการปฏิบัติธรรม → ลดอัตตา ไม่ใช่เพิ่มอัตตา
🌱 ทางโลก: "ดีกว่า" มักเพิ่มอัตตา → ก่อทุกข์
คำว่า "ฉันเหนือกว่า" "ฉันรู้มากกว่า" "ฉันปฏิบัติดีกว่า"
ทำให้จิตใจยึดมั่นถือมั่น → เปราะบาง หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย
อัตตายิ่งโต → ความทุกข์ยิ่งมาก
ความสุขที่ได้จากการเหนือกว่าคนอื่น → สุขที่ไม่ยั่งยืน
🌿 ทางธรรม: "ดีกว่า" ควรเป็นการลดอัตตา → นำไปสู่ความสงบ
คำว่า "ปฏิบัติเพื่อคลายตัวกู"
ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งลดตัวตน → ใจเบา ใจสว่าง
ไม่เทียบใคร ไม่อวดดี ไม่แข่งธรรม
เป้าหมายสูงสุดของธรรมะ → พ้นจากอัตตา
---
📌 3 ระดับของการปฏิบัติธรรม
📍 ระดับที่ 1: ปฏิบัติธรรมเพื่อ "เอาบาป" (เพิ่มอัตตา)
🔴 ลักษณะของการปฏิบัติที่ผิดทาง
ใช้ธรรมะเป็นเครื่องมือ อวดดี ดูถูกคนอื่น
เชื่อว่าตัวเอง รู้มากกว่า ใจบริสุทธิ์กว่า ธรรมสูงส่งกว่า
แข่งขันเปรียบเทียบ "ใครปฏิบัติได้ลึกกว่า ใครเข้าถึงก่อน"
อัตตาหนาขึ้นเรื่อยๆ → หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย พูดจาหยาบคาย
ทำบุญไป แต่จิตยังเต็มไปด้วยมานะ
🚨 ผลลัพธ์:
กลายเป็นคนที่เคร่งศาสนาแต่ใจแข็งกระด้าง
ปฏิบัติแล้วใจ "ไม่เบา ไม่โปร่ง" → แปลว่าผิดทาง
จิตฟุ้งซ่าน เพราะธรรมะกลายเป็นการแข่งขัน
---
📍 ระดับที่ 2: ปฏิบัติธรรมเพื่อ "เอาบุญ" (ยึดติดปีติสุข)
⚪ ลักษณะของการปฏิบัติที่ก้าวหน้า แต่ยังติดสุข
ทำบุญ รักษาศีล นั่งสมาธิ เพื่อให้ใจสงบ
ติดสุขจากสมาธิ → หลงคิดว่าความสุขจากสมาธิคือเป้าหมาย
ถ้าวันไหนสมาธิดี → ดีใจ
ถ้าวันไหนสมาธิไม่ดี → หงุดหงิด
🚨 ปัญหา:
ยัง "ยึด" ปีติ สุข ความสงบ
ยังไม่เห็นว่า ปีติสุขก็ไม่เที่ยง
มีความสุขแต่ยัง "ติดสุข" → ไม่พร้อมปล่อย
---
📍 ระดับที่ 3: ปฏิบัติธรรมเพื่อ "เหนือบุญเหนือบาป" (ล้างตัวตน)
🟢 ลักษณะของการปฏิบัติที่ถูกต้อง
เห็นทุกอย่างเป็น "อนิจจัง - ทุกขัง - อนัตตา"
ไม่ยึดสุข ไม่ยึดทุกข์
สมาธิได้ก็รู้ → สมาธิหายก็รู้
สุขก็รู้ว่า เดี๋ยวหาย
ทุกข์ก็รู้ว่า เดี๋ยวผ่านไป
ไม่อวด ไม่แข่งขัน ไม่เปรียบเทียบ
ใจใส ใจโล่ง เบา ไม่มีภาระ
✅ เป้าหมายของการปฏิบัติธรรมที่แท้จริง
→ "ไม่เพิ่มอัตตา ไม่เพิ่มตัวกู"
→ "ไม่มีอะไรให้แข่ง ไม่มีอะไรให้ยึด"
→ "ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ"
---
📌 วิธีปฏิบัติธรรมให้ถูกทาง
1️⃣ หมั่นสังเกตจิต → ถามตัวเองเสมอ
ตอนนี้ใจเบาหรือหนัก?
กำลังเปรียบเทียบตัวเองกับใครไหม?
มีความพองตัว หยิ่งทะนงไหม?
2️⃣ ฝึกเห็น "อนิจจัง" ในทุกอย่าง
สมาธิได้ → ไม่ยึด
สมาธิหาย → ไม่หงุดหงิด
สุขได้ → ไม่หลง
ทุกข์มา → ไม่ต้าน
3️⃣ ลดเปรียบเทียบ → ไม่ต้องไปแข่งกับใคร
อย่ามองว่าตัวเองดีกว่าใคร
อย่ามองว่าตัวเองเข้าใจมากกว่าใคร
อย่ามองว่าตัวเองมีธรรมสูงกว่าใคร
4️⃣ ปฏิบัติธรรมแบบเงียบๆ → ไม่ต้องอวด ไม่ต้องโชว์
ไม่ต้องโพสต์ว่า "ฉันปฏิบัติดี"
ไม่ต้องบอกใครว่า "ฉันเข้าถึงธรรม"
ธรรมะไม่ใช่เรื่องโอ้อวด แต่เป็นเรื่องของการละวาง
---
📌 สรุป → ปฏิบัติธรรมให้ถูกต้อง
💡 อย่าปฏิบัติธรรมเพื่อสร้าง “ตัวกู” ที่สูงส่งขึ้นมาใหม่
💡 ปฏิบัติธรรมเพื่อให้ “ตัวกู” ค่อยๆจางหายไป
💡 ปฏิบัติธรรมแล้วใจควรเบา ไม่ใช่แข็งกระด้าง
💡 อย่าปฏิบัติเพื่อเปรียบเทียบ แต่ให้ปฏิบัติเพื่อลดอัตตา
👉 ถ้าปฏิบัติแล้วอัตตาลดลง → ถูกทาง
👉 ถ้าปฏิบัติแล้วอัตตาเพิ่มขึ้น → กลับไปเริ่มใหม่!
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
44 มุมมอง
0 รีวิว