รัสเซียเปิดตัวสื่อการสอนเล่มใหม่ด้านประวัติศาสตร์การทหาร ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย
สื่อการสอนชุดใหม่นี้ จะช่วยให้เด็กนักเรียนเข้าใจอดีตได้ดีขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซีย ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือ 3 เล่ม เริ่มเรียนตั้งแต่เกรด 6 จนถึงเกรด 11
หนังสือ "ประวัติศาสตร์ด้านการทหารของรัสเซีย" ทั้ง 3 เล่มได้รับการแก้ไขโดยวลาดิเมียร์ เมดินสกี (Vladimir Medinsky) ผู้ช่วยของปูติน และยังเป็นผู้ร่วมเขียนตำราประวัติศาสตร์หลักของรัสเซียอีกด้วย
บางส่วนของหนังสือเรียนทั้งสามเล่มนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย ซึ่งรัสเซียถูกกดดันให้เข้าสู่ปฏิบัติการครั้งนี้ โดยกล่าวถึงสาเหตุของการต่อสู้ ว่าเกิดขึ้นอย่างไร ความกล้าหาญในสนามรบของทหารรัสเซีย และกลยุทธของกองทัพรัสเซียสมัยใหม่ที่บางครั้งนำวิธีการในยุคกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมาประยุกต์ใช้
ในหนังสือยังได้อ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยกล่าวว่า สงครามครั้งนี้ซึ่งรัสเซียเรียกอย่างเป็นทางการว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่มีความจำเป็นต้องเปิดศึกกับยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต สงครามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อขยายอิทธิพลของชาติตะวันตกที่กำลังเสื่อมโทรม ซึ่งพยายามทำลายและแบ่งแยกรัสเซียออกเป็นชิ้น
นอกจากนี้ ในหนังสือยังบรรยายถึงวิธีการโค่นล้มประธานาธิบดีของยูเครนที่เป็นมิตรกับรัสเซียโดยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในปี 2557 ซึ่งส่งผลให้ยูเครนกลายเป็นที่มั่นของยุโรปเพื่อต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรง
สื่อการสอนชุดใหม่นี้ จะช่วยให้เด็กนักเรียนเข้าใจอดีตได้ดีขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซีย ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือ 3 เล่ม เริ่มเรียนตั้งแต่เกรด 6 จนถึงเกรด 11
หนังสือ "ประวัติศาสตร์ด้านการทหารของรัสเซีย" ทั้ง 3 เล่มได้รับการแก้ไขโดยวลาดิเมียร์ เมดินสกี (Vladimir Medinsky) ผู้ช่วยของปูติน และยังเป็นผู้ร่วมเขียนตำราประวัติศาสตร์หลักของรัสเซียอีกด้วย
บางส่วนของหนังสือเรียนทั้งสามเล่มนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย ซึ่งรัสเซียถูกกดดันให้เข้าสู่ปฏิบัติการครั้งนี้ โดยกล่าวถึงสาเหตุของการต่อสู้ ว่าเกิดขึ้นอย่างไร ความกล้าหาญในสนามรบของทหารรัสเซีย และกลยุทธของกองทัพรัสเซียสมัยใหม่ที่บางครั้งนำวิธีการในยุคกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมาประยุกต์ใช้
ในหนังสือยังได้อ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยกล่าวว่า สงครามครั้งนี้ซึ่งรัสเซียเรียกอย่างเป็นทางการว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่มีความจำเป็นต้องเปิดศึกกับยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต สงครามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อขยายอิทธิพลของชาติตะวันตกที่กำลังเสื่อมโทรม ซึ่งพยายามทำลายและแบ่งแยกรัสเซียออกเป็นชิ้น
นอกจากนี้ ในหนังสือยังบรรยายถึงวิธีการโค่นล้มประธานาธิบดีของยูเครนที่เป็นมิตรกับรัสเซียโดยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในปี 2557 ซึ่งส่งผลให้ยูเครนกลายเป็นที่มั่นของยุโรปเพื่อต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรง
รัสเซียเปิดตัวสื่อการสอนเล่มใหม่ด้านประวัติศาสตร์การทหาร ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย
สื่อการสอนชุดใหม่นี้ จะช่วยให้เด็กนักเรียนเข้าใจอดีตได้ดีขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซีย ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือ 3 เล่ม เริ่มเรียนตั้งแต่เกรด 6 จนถึงเกรด 11
หนังสือ "ประวัติศาสตร์ด้านการทหารของรัสเซีย" ทั้ง 3 เล่มได้รับการแก้ไขโดยวลาดิเมียร์ เมดินสกี (Vladimir Medinsky) ผู้ช่วยของปูติน และยังเป็นผู้ร่วมเขียนตำราประวัติศาสตร์หลักของรัสเซียอีกด้วย
บางส่วนของหนังสือเรียนทั้งสามเล่มนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย ซึ่งรัสเซียถูกกดดันให้เข้าสู่ปฏิบัติการครั้งนี้ โดยกล่าวถึงสาเหตุของการต่อสู้ ว่าเกิดขึ้นอย่างไร ความกล้าหาญในสนามรบของทหารรัสเซีย และกลยุทธของกองทัพรัสเซียสมัยใหม่ที่บางครั้งนำวิธีการในยุคกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมาประยุกต์ใช้
ในหนังสือยังได้อ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยกล่าวว่า สงครามครั้งนี้ซึ่งรัสเซียเรียกอย่างเป็นทางการว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่มีความจำเป็นต้องเปิดศึกกับยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต สงครามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อขยายอิทธิพลของชาติตะวันตกที่กำลังเสื่อมโทรม ซึ่งพยายามทำลายและแบ่งแยกรัสเซียออกเป็นชิ้น
นอกจากนี้ ในหนังสือยังบรรยายถึงวิธีการโค่นล้มประธานาธิบดีของยูเครนที่เป็นมิตรกับรัสเซียโดยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในปี 2557 ซึ่งส่งผลให้ยูเครนกลายเป็นที่มั่นของยุโรปเพื่อต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรง