คำคมใหม่ แต่เป็นสัจธรรมเก่า 42
“ความชั่ว น่ากลัวกว่า ความมืด”
เหตุก็เพราะว่า ความมืดนั้น แค่ทำให้เรามองไม่เห็นทางหรือในสิ่งต่างๆที่อยู่รอบกายข้างตัวเรา แต่ความชั่วนั้น แม้ในความสว่างก็ยังจะทิ่มแทงใจเราอยู่เสมอๆตลอดเวลา ถึงแม้ว่าคนอื่นๆเค้านั้นจะไม่ได้รับรู้หรือไม่เห็นในการกระทำในสิ่งต่างๆของเราก็ตามที แต่พอเรามานึกคิดถึงในใจขึ้นมาได้เมื่อไหร่ ก็จะทำให้เราเจ็บปวดในการกระทำสิ่งต่างๆของเราที่ไม่ดีไม่งามไม่น่าอภัยและไม่น่าคิดที่จะกระทำลงไปเลยแม้แต่น้อยเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสามารถที่จะล่วงรู้ในการกระทำในสิ่งต่างๆของเราที่ไม่ดีไม่งามนั้นก็ตามที แต่เราก็ไม่สามารถที่จะปิดบังจิตใจตัวตนที่แท้จริงของเรานั้นเองได้หรอกว่า เราได้กระทำการใดๆที่ไม่ดีไม่งามนั้นลงไป “สักวันมันต้องชดใช้ในสิ่งที่มันได้กระทำลงไป” เปรียบเสมือนกับ “กรรม” ซึ่งก็คือ “การกระทำ” โดยเฉพาะกรรมชั่วที่เราได้กระทำลงไปไว้แล้วนั้น สักวันนั้นจะต้องชดใช้ในกรรมเก่าในสิ่งที่เรานั้นได้เคยกระทำลงไปไว้แล้วนั้นอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นในชาตินี้หรือจะเป็นในชาติหน้านั่นเอง หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า “กรรมตามสนอง” (ไม่มีเว้นในแม้แต่กรรมชั่วกรรมดี) นั่นหล่ะครับ
“ความชั่ว น่ากลัวกว่า ความมืด”
เหตุก็เพราะว่า ความมืดนั้น แค่ทำให้เรามองไม่เห็นทางหรือในสิ่งต่างๆที่อยู่รอบกายข้างตัวเรา แต่ความชั่วนั้น แม้ในความสว่างก็ยังจะทิ่มแทงใจเราอยู่เสมอๆตลอดเวลา ถึงแม้ว่าคนอื่นๆเค้านั้นจะไม่ได้รับรู้หรือไม่เห็นในการกระทำในสิ่งต่างๆของเราก็ตามที แต่พอเรามานึกคิดถึงในใจขึ้นมาได้เมื่อไหร่ ก็จะทำให้เราเจ็บปวดในการกระทำสิ่งต่างๆของเราที่ไม่ดีไม่งามไม่น่าอภัยและไม่น่าคิดที่จะกระทำลงไปเลยแม้แต่น้อยเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสามารถที่จะล่วงรู้ในการกระทำในสิ่งต่างๆของเราที่ไม่ดีไม่งามนั้นก็ตามที แต่เราก็ไม่สามารถที่จะปิดบังจิตใจตัวตนที่แท้จริงของเรานั้นเองได้หรอกว่า เราได้กระทำการใดๆที่ไม่ดีไม่งามนั้นลงไป “สักวันมันต้องชดใช้ในสิ่งที่มันได้กระทำลงไป” เปรียบเสมือนกับ “กรรม” ซึ่งก็คือ “การกระทำ” โดยเฉพาะกรรมชั่วที่เราได้กระทำลงไปไว้แล้วนั้น สักวันนั้นจะต้องชดใช้ในกรรมเก่าในสิ่งที่เรานั้นได้เคยกระทำลงไปไว้แล้วนั้นอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นในชาตินี้หรือจะเป็นในชาติหน้านั่นเอง หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า “กรรมตามสนอง” (ไม่มีเว้นในแม้แต่กรรมชั่วกรรมดี) นั่นหล่ะครับ
คำคมใหม่ แต่เป็นสัจธรรมเก่า 42
“ความชั่ว น่ากลัวกว่า ความมืด”
เหตุก็เพราะว่า ความมืดนั้น แค่ทำให้เรามองไม่เห็นทางหรือในสิ่งต่างๆที่อยู่รอบกายข้างตัวเรา แต่ความชั่วนั้น แม้ในความสว่างก็ยังจะทิ่มแทงใจเราอยู่เสมอๆตลอดเวลา ถึงแม้ว่าคนอื่นๆเค้านั้นจะไม่ได้รับรู้หรือไม่เห็นในการกระทำในสิ่งต่างๆของเราก็ตามที แต่พอเรามานึกคิดถึงในใจขึ้นมาได้เมื่อไหร่ ก็จะทำให้เราเจ็บปวดในการกระทำสิ่งต่างๆของเราที่ไม่ดีไม่งามไม่น่าอภัยและไม่น่าคิดที่จะกระทำลงไปเลยแม้แต่น้อยเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสามารถที่จะล่วงรู้ในการกระทำในสิ่งต่างๆของเราที่ไม่ดีไม่งามนั้นก็ตามที แต่เราก็ไม่สามารถที่จะปิดบังจิตใจตัวตนที่แท้จริงของเรานั้นเองได้หรอกว่า เราได้กระทำการใดๆที่ไม่ดีไม่งามนั้นลงไป “สักวันมันต้องชดใช้ในสิ่งที่มันได้กระทำลงไป” เปรียบเสมือนกับ “กรรม” ซึ่งก็คือ “การกระทำ” โดยเฉพาะกรรมชั่วที่เราได้กระทำลงไปไว้แล้วนั้น สักวันนั้นจะต้องชดใช้ในกรรมเก่าในสิ่งที่เรานั้นได้เคยกระทำลงไปไว้แล้วนั้นอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นในชาตินี้หรือจะเป็นในชาติหน้านั่นเอง หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า “กรรมตามสนอง” (ไม่มีเว้นในแม้แต่กรรมชั่วกรรมดี) นั่นหล่ะครับ
0 Comments
0 Shares
49 Views
0 Reviews