ความหมายของคำว่า "ตายอย่างเสือ ดีกว่าอยู่อย่างหมา"
คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยได้ยินคำนี้ออกมาจากปากของคนดีสักเท่าไหร่นัก ถ้าเค้าไม่เหลืออด หรือ สุดที่จะทนกับบางสิ่งบางอย่างที่เค้ากำลังต่อสู้อยู่กับสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าชีวิตของตัวเอง ยิ่งเป็นยุคสมัยนี้ที่คนเรามีค่านิยมที่ผิดๆและสังคมเสื่อมทรามลงไปทุกทีที่คนเราขาดธรรมะในจิตวิญญาณ หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า "คุณธรรม,ศีลธรรม,จริยธรรม,จรรยาบรรณ" หรือคำพูดสวยหรูต่างๆนาๆที่คนทั่วไปเค้าชอบพูดกันเพื่อทำให้ตัวเองดูดีมีความรู้สูงส่งนั่นเอง ในยุคสมัยนี้นั้น น้อยคนนักที่จะมีจิตวิญญาณในการเป็นคนดี คิดดี พูดดี และทำดีในสิ่งต่างๆมากนัก
คำว่า "ตายอย่างเสือ ดีกว่าอยู่อย่างหมา" นั้น มันเป็นคำพูดที่มีความหมายในตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่น้อยคนนักที่จะทำอย่างที่พูดไว้ได้ เพราะเค้าคนนั้นจะต้องมีจิตสาธารณะ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว หรือที่คนทั่วไปเค้าเรียกกันว่าทำเพื่อส่วนรวมนั่นเอง เพราะว่าเค้าคนนั้นต้องเป็นคนที่เสียสละชีวิตของตนเองเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า และสิ่งที่มีค่าที่ยิ่งใหญ่กว่าชีวิตของเค้านั้นมันคืออะไรกัน ผมจะยกตัวอย่างให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจโดยง่าย เช่น ประเทศชาติ หรือ บุคคลสำคัญที่ควรค่าแก่การปกป้อง ซึ่งก็คือประมุขของชาตินั้นๆ และหรือสิ่งต่างๆที่เป็นของส่วนรวมที่ควรค่าแก่การปกปักษ์รักษาไว้ให้คนรุ่นต่อๆไปในภายหลัง และการกระทำอย่างนี้คนทั่วไปเค้าเรียกกันว่าเป็นคนที่มี "อุดมการณ์ หรือ อุดมคติ" ยกตัวอย่างเช่น บรรพชนของเราที่พวกเค้าเหล่านั้นได้เคยเสียสละมาแล้ว เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลังได้ใช้ได้เข้าใจ ซึ่งก็คือ ผืนแผ่นดินเกิดและทรัพยากรทางธรรมชาติหรือขนบธรรมเนียมประเพณีของทุกคนในชาติ
แค่นี้คุณผู้อ่านคงพอจะเข้าใจบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
ผมอยากจะส่งต่อเจตจำนงนี้ให้กับคุณ มันเรียกว่า "เจตจำนงของบรรพชน" ซึ่งคุณควรที่จะสานต่อและปกปักษ์รักษามันไว้ให้แก่คนรุ่นหลังได้มีต่อไป เหมือนกับที่บรรพชนของเราได้เคยกระทำไว้และส่งต่อให้กับรุ่นของเรานั่นเอง
ความหมายของคำว่า "ตายอย่างเสือ ดีกว่าอยู่อย่างหมา" คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยได้ยินคำนี้ออกมาจากปากของคนดีสักเท่าไหร่นัก ถ้าเค้าไม่เหลืออด หรือ สุดที่จะทนกับบางสิ่งบางอย่างที่เค้ากำลังต่อสู้อยู่กับสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าชีวิตของตัวเอง ยิ่งเป็นยุคสมัยนี้ที่คนเรามีค่านิยมที่ผิดๆและสังคมเสื่อมทรามลงไปทุกทีที่คนเราขาดธรรมะในจิตวิญญาณ หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า "คุณธรรม,ศีลธรรม,จริยธรรม,จรรยาบรรณ" หรือคำพูดสวยหรูต่างๆนาๆที่คนทั่วไปเค้าชอบพูดกันเพื่อทำให้ตัวเองดูดีมีความรู้สูงส่งนั่นเอง ในยุคสมัยนี้นั้น น้อยคนนักที่จะมีจิตวิญญาณในการเป็นคนดี คิดดี พูดดี และทำดีในสิ่งต่างๆมากนัก คำว่า "ตายอย่างเสือ ดีกว่าอยู่อย่างหมา" นั้น มันเป็นคำพูดที่มีความหมายในตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่น้อยคนนักที่จะทำอย่างที่พูดไว้ได้ เพราะเค้าคนนั้นจะต้องมีจิตสาธารณะ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว หรือที่คนทั่วไปเค้าเรียกกันว่าทำเพื่อส่วนรวมนั่นเอง เพราะว่าเค้าคนนั้นต้องเป็นคนที่เสียสละชีวิตของตนเองเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า และสิ่งที่มีค่าที่ยิ่งใหญ่กว่าชีวิตของเค้านั้นมันคืออะไรกัน ผมจะยกตัวอย่างให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจโดยง่าย เช่น ประเทศชาติ หรือ บุคคลสำคัญที่ควรค่าแก่การปกป้อง ซึ่งก็คือประมุขของชาตินั้นๆ และหรือสิ่งต่างๆที่เป็นของส่วนรวมที่ควรค่าแก่การปกปักษ์รักษาไว้ให้คนรุ่นต่อๆไปในภายหลัง และการกระทำอย่างนี้คนทั่วไปเค้าเรียกกันว่าเป็นคนที่มี "อุดมการณ์ หรือ อุดมคติ" ยกตัวอย่างเช่น บรรพชนของเราที่พวกเค้าเหล่านั้นได้เคยเสียสละมาแล้ว เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลังได้ใช้ได้เข้าใจ ซึ่งก็คือ ผืนแผ่นดินเกิดและทรัพยากรทางธรรมชาติหรือขนบธรรมเนียมประเพณีของทุกคนในชาติ แค่นี้คุณผู้อ่านคงพอจะเข้าใจบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ผมอยากจะส่งต่อเจตจำนงนี้ให้กับคุณ มันเรียกว่า "เจตจำนงของบรรพชน" ซึ่งคุณควรที่จะสานต่อและปกปักษ์รักษามันไว้ให้แก่คนรุ่นหลังได้มีต่อไป เหมือนกับที่บรรพชนของเราได้เคยกระทำไว้และส่งต่อให้กับรุ่นของเรานั่นเอง
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว