๑๔ กันยายน วันบุรฉัตร

"... มีพระนิสัยยิ่งด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตมั่นในพระกมลสันดาน ทรงวิจารณญาณประจักษ์แจ้งในชั้นเชิงคมนาคม เศรษฐกิจ พาณิชโยบาย..."

พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

วันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของนายพลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวงพระองค์แรก พระบิดาแห่งกิจการรถไฟยุคใหม่ ทรงดำรงตำแหน่ง ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๖๐-๒๔๗๑

“....ข้าพเจ้ายังจำติดตาว่า เวลาเขาเอาเปลหามสำหรับคนป่วยมารับเสด็จพ่อที่แท่นพระบรรทม เสด็จพ่อไม่ได้รับสั่งอะไร นอกจากทอดพระเนตรไปรอบๆห้องเหมือนหนึ่งจะสั่งลาบ้านที่พำนักเป็นครั้งสุดท้าย เสด็จพ่อทอดพระเนตรอยู่เช่นนั้น จนกระทั่งลงพ้นบันไดไปขึ้นรถพยาบาล มีแม่เล็กกับข้าพเจ้านั่งไปด้วยกับประนอม ทุมมานนท์ อีกคนหนึ่ง ในระหว่างที่อยู่ในรถจากบ้านไปโรงพยาบาล เสด็จพ่อเพ้อไปตลอดทาง แต่จับถ้อยคำไม่ได้ว่ารับสั่งอย่างใด ถึงเพียงนั้นเราก็ยังไม่สงสัยว่าประชวรมาก โดยเข้าใจว่าเป็นพิษไข้ เมื่อไปถึงโรงพยาบาล นายแพทย์ก็จัดการนำเสด็จพ่อไปไว้ในห้องพิเศษ

ข้าพเจ้าเข้าไปยืนอยู่ใกล้ๆ เสด็จพ่อเพ้ออีกครั้ง รับสั่งว่าเห็นวอและขบวนแห่อย่างหรูหรามารับบนเพดานห้อง ระหว่างที่รับสั่งพระเนตรก็จ้องเป๋งบนเพดานนั้น พวกเรายืนอย่างตกตะลึงเพราะไม่แน่ใจว่าทอดพระเนตรเห็นอะไร สักครู่หมอมาบอกว่าให้พวกเรากลับบ้านได้ พรุ่งนี้จึงให้มารับใหม่ เราจึงเชื่อหมอและกลับบ้านกัน

พอถึงบ้านยังไม่ทันจะได้ถอดเครื่องแต่งกาย ก็มีคนโทรศัพท์มาจากโรงพยาบาลว่าให้รีบกลับไปอีกครั้งหนึ่งโดยด่วน เราจึงรีบเรียกคนรถสั่งให้เขากลับไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดที่จะเร็วได้ แต่.... เมื่อเราไปพบแพทย์ เขาบอกว่าเสด็จพ่อสิ้นพระชนม์เสียแล้ว...."

พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงมยุรฉัตร ทรงบันทึก เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๔๗๙
วันที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน สิ้นพระชนม์

จากหนังสือ “บุรฉัตรรำลึก”
การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดพิมพ์
๑๔ กันยายน วันบุรฉัตร "... มีพระนิสัยยิ่งด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตมั่นในพระกมลสันดาน ทรงวิจารณญาณประจักษ์แจ้งในชั้นเชิงคมนาคม เศรษฐกิจ พาณิชโยบาย..." พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว วันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของนายพลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวงพระองค์แรก พระบิดาแห่งกิจการรถไฟยุคใหม่ ทรงดำรงตำแหน่ง ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๖๐-๒๔๗๑ “....ข้าพเจ้ายังจำติดตาว่า เวลาเขาเอาเปลหามสำหรับคนป่วยมารับเสด็จพ่อที่แท่นพระบรรทม เสด็จพ่อไม่ได้รับสั่งอะไร นอกจากทอดพระเนตรไปรอบๆห้องเหมือนหนึ่งจะสั่งลาบ้านที่พำนักเป็นครั้งสุดท้าย เสด็จพ่อทอดพระเนตรอยู่เช่นนั้น จนกระทั่งลงพ้นบันไดไปขึ้นรถพยาบาล มีแม่เล็กกับข้าพเจ้านั่งไปด้วยกับประนอม ทุมมานนท์ อีกคนหนึ่ง ในระหว่างที่อยู่ในรถจากบ้านไปโรงพยาบาล เสด็จพ่อเพ้อไปตลอดทาง แต่จับถ้อยคำไม่ได้ว่ารับสั่งอย่างใด ถึงเพียงนั้นเราก็ยังไม่สงสัยว่าประชวรมาก โดยเข้าใจว่าเป็นพิษไข้ เมื่อไปถึงโรงพยาบาล นายแพทย์ก็จัดการนำเสด็จพ่อไปไว้ในห้องพิเศษ ข้าพเจ้าเข้าไปยืนอยู่ใกล้ๆ เสด็จพ่อเพ้ออีกครั้ง รับสั่งว่าเห็นวอและขบวนแห่อย่างหรูหรามารับบนเพดานห้อง ระหว่างที่รับสั่งพระเนตรก็จ้องเป๋งบนเพดานนั้น พวกเรายืนอย่างตกตะลึงเพราะไม่แน่ใจว่าทอดพระเนตรเห็นอะไร สักครู่หมอมาบอกว่าให้พวกเรากลับบ้านได้ พรุ่งนี้จึงให้มารับใหม่ เราจึงเชื่อหมอและกลับบ้านกัน พอถึงบ้านยังไม่ทันจะได้ถอดเครื่องแต่งกาย ก็มีคนโทรศัพท์มาจากโรงพยาบาลว่าให้รีบกลับไปอีกครั้งหนึ่งโดยด่วน เราจึงรีบเรียกคนรถสั่งให้เขากลับไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดที่จะเร็วได้ แต่.... เมื่อเราไปพบแพทย์ เขาบอกว่าเสด็จพ่อสิ้นพระชนม์เสียแล้ว...." พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าหญิงมยุรฉัตร ทรงบันทึก เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๔๗๙ วันที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน สิ้นพระชนม์ จากหนังสือ “บุรฉัตรรำลึก” การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดพิมพ์
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว