#เรื่องลับของสายลับ
ตอนที่ 2 CIA ในคราบอาจารย์มหาวิทยาลัย
โดย #อัษฎางค์ยมนาค
ความเป็นไปได้ที่ มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายในมหาวิทยาลัยอาจมีความเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับ CIA ในบางกรณี โดยเฉพาะหากมีการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์บางอย่าง แต่ในกรณีส่วนใหญ่ การดำเนินการของ CIA มักจะมีการปกปิดอย่างดีเพื่อให้ไม่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างมหาวิทยาลัยกับปฏิบัติการของ CIA เนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้ว่าอาจมีคนในมหาวิทยาลัยรู้เห็นกับ CIA
1. ในบางประเทศ หน่วยข่าวกรองท้องถิ่นหรือรัฐบาลเองอาจมีความร่วมมือกับ CIA และส่งเสริมการแฝงตัวในมหาวิทยาลัยหรือองค์กรวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง การแทรกซึม หรือการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่น
2. มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจมีการร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือวิชาการ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบาย หรือการวิจัยในด้านที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศต้นทางของ CIA
3. ในบางกรณีอาจมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่เป็น “สายของ CIA” หรือได้รับการสนับสนุนให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของ CIA ในการเข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัย เช่น การสนับสนุนในการปลอมเอกสาร รับรองความถูกต้องของประวัติ หรือการแนะนำงานวิจัยที่เอื้อต่อภารกิจข่าวกรอง
4. สร้าง “cover story” ที่น่าเชื่อถือ การมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่รู้เห็นสามารถช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ CIA ในการสร้างประวัติที่น่าเชื่อถือ เช่น การรับรองผลงานทางวิชาการ หรือสนับสนุนการวิจัยเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานภายใต้บทบาทนักวิชาการได้โดยไม่ต้องสงสัย
ทำไมมหาวิทยาลัยหรือบุคคลบางคนอาจร่วมมือกับ CIA:
• ผลประโยชน์ส่วนตัว: อาจมีการเสนอผลประโยชน์ทางการเงินหรือทางวิชาการให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือ CIA
• ความร่วมมือระหว่างประเทศ: รัฐบาลหรือหน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นอาจมีข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือทำงานร่วมกับ CIA เพื่อผลประโยชน์ทางความมั่นคง
• การสร้างชื่อเสียง: มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจยินดีต้อนรับบุคคลจากต่างประเทศหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นอาจารย์หรือนักวิจัย เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของสถาบัน
ข้อสังเกต:
แม้ว่าการแทรกซึมของ CIA ในมหาวิทยาลัยอาจเกิดขึ้นได้ แต่การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมาเป็นเรื่องยาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการเมืองและอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและประเทศที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น ในกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า CIA อาจส่งเจ้าหน้าที่มาในบทบาทนักวิชาการและมีการรู้เห็นจากคนภายในมหาวิทยาลัยนั้น เป็นไปได้ แต่ส่วนใหญ่กระบวนการเหล่านี้จะถูกปกปิดอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเชื่อมโยงโดยตรง
ปฏิบัติการที่ CIA ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวในบทบาทต่างๆ เช่น นักวิชาการ โดยมักมีจุดประสงค์หลักที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ
การแสวงหาพันธมิตร เช่น ใช้โอกาสในการสร้างเครือข่ายกับบุคคลที่มีอำนาจในประเทศนั้นๆ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการชั้นนำ หรือผู้นำองค์กรต่างๆ นักวิชาการที่แฝงตัวอาจมีหน้าที่เผยแพร่แนวคิดหรือข้อมูลที่สนับสนุนนโยบายของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ CIA ที่มีบทบาทในวงการสื่อหรือนักวิชาการอาจทำหน้าที่ควบคุมหรือชี้นำการอภิปรายเรื่องบางประเด็น เพื่อส่งผลต่อความเห็นของประชาชนในประเทศนั้นๆ ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ
ที่สำคัญ ที่พบบ่อยและชัดเจนที่สุดคือ การแทรกแซงหรือสร้างอิทธิพลในเหตุการณ์ทางการเมือง โดย CIA อาจแฝงตัวเพื่อสนับสนุนหรือขัดขวางการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศเป้าหมาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การสร้างความไม่สงบ หรือการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ
โปรดติดตามตอนต่อไป
#TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft
ตอนที่ 1: https://www.facebook.com/share/p/TDwfDjQV53w8dia3/?mibextid=WC7FNe
ที่มา https://www.facebook.com/100070260068883/posts/606278728390791/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
ตอนที่ 2 CIA ในคราบอาจารย์มหาวิทยาลัย
โดย #อัษฎางค์ยมนาค
ความเป็นไปได้ที่ มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายในมหาวิทยาลัยอาจมีความเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับ CIA ในบางกรณี โดยเฉพาะหากมีการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์บางอย่าง แต่ในกรณีส่วนใหญ่ การดำเนินการของ CIA มักจะมีการปกปิดอย่างดีเพื่อให้ไม่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างมหาวิทยาลัยกับปฏิบัติการของ CIA เนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้ว่าอาจมีคนในมหาวิทยาลัยรู้เห็นกับ CIA
1. ในบางประเทศ หน่วยข่าวกรองท้องถิ่นหรือรัฐบาลเองอาจมีความร่วมมือกับ CIA และส่งเสริมการแฝงตัวในมหาวิทยาลัยหรือองค์กรวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง การแทรกซึม หรือการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่น
2. มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจมีการร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือวิชาการ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบาย หรือการวิจัยในด้านที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศต้นทางของ CIA
3. ในบางกรณีอาจมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่เป็น “สายของ CIA” หรือได้รับการสนับสนุนให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของ CIA ในการเข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัย เช่น การสนับสนุนในการปลอมเอกสาร รับรองความถูกต้องของประวัติ หรือการแนะนำงานวิจัยที่เอื้อต่อภารกิจข่าวกรอง
4. สร้าง “cover story” ที่น่าเชื่อถือ การมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่รู้เห็นสามารถช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ CIA ในการสร้างประวัติที่น่าเชื่อถือ เช่น การรับรองผลงานทางวิชาการ หรือสนับสนุนการวิจัยเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานภายใต้บทบาทนักวิชาการได้โดยไม่ต้องสงสัย
ทำไมมหาวิทยาลัยหรือบุคคลบางคนอาจร่วมมือกับ CIA:
• ผลประโยชน์ส่วนตัว: อาจมีการเสนอผลประโยชน์ทางการเงินหรือทางวิชาการให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือ CIA
• ความร่วมมือระหว่างประเทศ: รัฐบาลหรือหน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นอาจมีข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือทำงานร่วมกับ CIA เพื่อผลประโยชน์ทางความมั่นคง
• การสร้างชื่อเสียง: มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจยินดีต้อนรับบุคคลจากต่างประเทศหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นอาจารย์หรือนักวิจัย เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของสถาบัน
ข้อสังเกต:
แม้ว่าการแทรกซึมของ CIA ในมหาวิทยาลัยอาจเกิดขึ้นได้ แต่การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมาเป็นเรื่องยาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการเมืองและอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและประเทศที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น ในกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า CIA อาจส่งเจ้าหน้าที่มาในบทบาทนักวิชาการและมีการรู้เห็นจากคนภายในมหาวิทยาลัยนั้น เป็นไปได้ แต่ส่วนใหญ่กระบวนการเหล่านี้จะถูกปกปิดอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเชื่อมโยงโดยตรง
ปฏิบัติการที่ CIA ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวในบทบาทต่างๆ เช่น นักวิชาการ โดยมักมีจุดประสงค์หลักที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ
การแสวงหาพันธมิตร เช่น ใช้โอกาสในการสร้างเครือข่ายกับบุคคลที่มีอำนาจในประเทศนั้นๆ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการชั้นนำ หรือผู้นำองค์กรต่างๆ นักวิชาการที่แฝงตัวอาจมีหน้าที่เผยแพร่แนวคิดหรือข้อมูลที่สนับสนุนนโยบายของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ CIA ที่มีบทบาทในวงการสื่อหรือนักวิชาการอาจทำหน้าที่ควบคุมหรือชี้นำการอภิปรายเรื่องบางประเด็น เพื่อส่งผลต่อความเห็นของประชาชนในประเทศนั้นๆ ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ
ที่สำคัญ ที่พบบ่อยและชัดเจนที่สุดคือ การแทรกแซงหรือสร้างอิทธิพลในเหตุการณ์ทางการเมือง โดย CIA อาจแฝงตัวเพื่อสนับสนุนหรือขัดขวางการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศเป้าหมาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การสร้างความไม่สงบ หรือการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ
โปรดติดตามตอนต่อไป
#TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft
ตอนที่ 1: https://www.facebook.com/share/p/TDwfDjQV53w8dia3/?mibextid=WC7FNe
ที่มา https://www.facebook.com/100070260068883/posts/606278728390791/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
#เรื่องลับของสายลับ
ตอนที่ 2 CIA ในคราบอาจารย์มหาวิทยาลัย
โดย #อัษฎางค์ยมนาค
ความเป็นไปได้ที่ มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายในมหาวิทยาลัยอาจมีความเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับ CIA ในบางกรณี โดยเฉพาะหากมีการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์บางอย่าง แต่ในกรณีส่วนใหญ่ การดำเนินการของ CIA มักจะมีการปกปิดอย่างดีเพื่อให้ไม่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างมหาวิทยาลัยกับปฏิบัติการของ CIA เนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้ว่าอาจมีคนในมหาวิทยาลัยรู้เห็นกับ CIA
1. ในบางประเทศ หน่วยข่าวกรองท้องถิ่นหรือรัฐบาลเองอาจมีความร่วมมือกับ CIA และส่งเสริมการแฝงตัวในมหาวิทยาลัยหรือองค์กรวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง การแทรกซึม หรือการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่น
2. มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจมีการร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือวิชาการ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบาย หรือการวิจัยในด้านที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศต้นทางของ CIA
3. ในบางกรณีอาจมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่เป็น “สายของ CIA” หรือได้รับการสนับสนุนให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของ CIA ในการเข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัย เช่น การสนับสนุนในการปลอมเอกสาร รับรองความถูกต้องของประวัติ หรือการแนะนำงานวิจัยที่เอื้อต่อภารกิจข่าวกรอง
4. สร้าง “cover story” ที่น่าเชื่อถือ การมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่รู้เห็นสามารถช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ CIA ในการสร้างประวัติที่น่าเชื่อถือ เช่น การรับรองผลงานทางวิชาการ หรือสนับสนุนการวิจัยเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานภายใต้บทบาทนักวิชาการได้โดยไม่ต้องสงสัย
ทำไมมหาวิทยาลัยหรือบุคคลบางคนอาจร่วมมือกับ CIA:
• ผลประโยชน์ส่วนตัว: อาจมีการเสนอผลประโยชน์ทางการเงินหรือทางวิชาการให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือ CIA
• ความร่วมมือระหว่างประเทศ: รัฐบาลหรือหน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นอาจมีข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือทำงานร่วมกับ CIA เพื่อผลประโยชน์ทางความมั่นคง
• การสร้างชื่อเสียง: มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจยินดีต้อนรับบุคคลจากต่างประเทศหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นอาจารย์หรือนักวิจัย เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของสถาบัน
ข้อสังเกต:
แม้ว่าการแทรกซึมของ CIA ในมหาวิทยาลัยอาจเกิดขึ้นได้ แต่การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมาเป็นเรื่องยาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการเมืองและอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและประเทศที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น ในกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า CIA อาจส่งเจ้าหน้าที่มาในบทบาทนักวิชาการและมีการรู้เห็นจากคนภายในมหาวิทยาลัยนั้น เป็นไปได้ แต่ส่วนใหญ่กระบวนการเหล่านี้จะถูกปกปิดอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเชื่อมโยงโดยตรง
ปฏิบัติการที่ CIA ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวในบทบาทต่างๆ เช่น นักวิชาการ โดยมักมีจุดประสงค์หลักที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ
การแสวงหาพันธมิตร เช่น ใช้โอกาสในการสร้างเครือข่ายกับบุคคลที่มีอำนาจในประเทศนั้นๆ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการชั้นนำ หรือผู้นำองค์กรต่างๆ นักวิชาการที่แฝงตัวอาจมีหน้าที่เผยแพร่แนวคิดหรือข้อมูลที่สนับสนุนนโยบายของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ CIA ที่มีบทบาทในวงการสื่อหรือนักวิชาการอาจทำหน้าที่ควบคุมหรือชี้นำการอภิปรายเรื่องบางประเด็น เพื่อส่งผลต่อความเห็นของประชาชนในประเทศนั้นๆ ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ
ที่สำคัญ ที่พบบ่อยและชัดเจนที่สุดคือ การแทรกแซงหรือสร้างอิทธิพลในเหตุการณ์ทางการเมือง โดย CIA อาจแฝงตัวเพื่อสนับสนุนหรือขัดขวางการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศเป้าหมาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การสร้างความไม่สงบ หรือการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ
โปรดติดตามตอนต่อไป
#TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft
ตอนที่ 1: https://www.facebook.com/share/p/TDwfDjQV53w8dia3/?mibextid=WC7FNe
ที่มา https://www.facebook.com/100070260068883/posts/606278728390791/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
0 Comments
0 Shares
252 Views
0 Reviews