บันทึกความจำเรื่องตัว H
15 พ.ย. 2567 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสคุยกับเด็ก ป.1 ได้ถามว่าครูสอนอะไรบ้าง หนูน้อยตอบว่าตัวอักษร ภาษาอังกฤษ ข้าพเจ้าเลยให้หนูน้อยท่องให้ฟัง นร.สามารถท่องได้ A-Z แต่ก็สะดุดที่ตัว H เพราะออกเสียงว่า เฮ็ด และ เฮ็ด ทุกครั้งที่ท่อง ทำให้นึกถึงในวัยเด็ก
ข้าพเจ้าเคยเรียนระดับอนุบาลและประถมต้นโรงเรียนเอกชนมาสองแห่ง ครูจะสอนให้ออกเสียง เอช เมื่อต้องย้ายโรงเรียนใหม่ ตอน ป.4 ในวิชาภาษาอังกฤษ เพื่อนๆ เพิ่งจะเริ่มท่องภาษาอังกฤษ และเป็นครั้งแรกที่ได้ยิน "เฮ็ด" เมื่อครูให้ท่องที่ละคน บทสนทนาของข้าพเจ้ากับครูจึงเป็นประมาณนี้
ข้าพเจ้า: เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เอช
ครู: ไม่ใช่!... เอช เฮ็ด! ออกเสียงว่า เฮ็ด เอาใหม่
ข้าพเจ้า: เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เอช
ครู: เฮ็ด! เอาใหม่
ข้าพเจ้า: (เฮ็ด ก็ เฮ็ด) เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เฮ็ด
ครู: อืม! ถูกต้อง ต่อไป
และมันยิ่งสนุกมากขึ้น เมื่อเข้ามัธยม ในอีกภูมิภาคหนึ่ง เพราะ "เฮ็ด" ไม่ใช่ เฮ็ด ธรรมดาแล้ว มันเป็น "เฮ็ดชฺ" มีเสียง ชึๆ ท้ายเสียง เมื่อครูให้ข้าพเจ้าสะกดคำ เช่น Hand
ข้าพเจ้า: เอช เอ .....
ครู: เดี๋ยว! ตัวนี้ออกเสียง เฮ็ดชฺ
ข้าพเจ้า: เอช เอ เอ็น ดีแฮนด์ มือ
ครู: นั่น! ก็ออกเสียง แฮนด์ แล้วทำไมเสียงอักขระผิด ลองสะกดคำว่า House ซิ
ข้าพเจ้า: เอช โอ ยู......
ครู: ไม่ใช่....เฮ็ดชฺ เฮ็ดชฺ(ครูย้ำ)
ข้าพเจ้า: (เฮ็ดชฺ ก็ เฮ็ดชฺ) เฮ็ดชฺ โอ ยู เอส อี เฮ้าสฺ บ้าน
ครู: (พยักหน้า = ผ่าน)
เมื่อหมดคาบ ข้าพเจ้าบอกเพื่อนว่าตัวนี้อ่านว่า เอช เพื่อนบอก เฮ็ดชฺ เพื่อนอีกคน บอกว่า เฮ็ดชุ ข้าพเจ้าเถียงว่า เอช เพื่อนบอกว่า ไปถามใครในโรงเรียนนี้ก็ได้ ว่าออกเสียงอย่างไร ข้าพเจ้ายอมแพ้ เพราะรู้ว่าอยู่ในดง เฮ็ดชฺ
แม้ว่าเมื่อโตขึ้นจะรู้ว่า สามารถออกเสียงได้อีกแบบว่า เฮช แต่ก็ไม่ใกล้เคียง เฮ็ดหรือเฮ็ดชฺ เลย หรือว่าจริงจริง เฮ็ด หรือ เฮ็ดชุ ก็ใช้ได้ ในเมื่อมันผ่านมาสี่สิบกว่าปีแล้ว(นับจากอายุข้าพเจ้า) อักษรนี้ จะเป็นการออกเสียงเฉพาะสำเนียงไทยเท่านั้น ประมาณไทยลิช เหมือนสิงลิช ของสิงคโปร์
ข้าพเจ้าไม่ใช่ นักภาษาศาสตร์ แต่เท่าที่ค้นคว้าดู จะออกเสียงได้ 2 แบบคือ เอช หรือ เฮชส่วนเรื่อง เฮ็ด/เฮ็ดชฺ ก็คงจะใช้ได้ เพราะคณะที่ผลิตครู และผ่านประกันคุณภาพการศึกษาอย่างเข้มข้น ผลิตครูภาษาอังกฤษ ที่ออกเสียง เฮ็ด มาสอนเด็กได้ (พวกสูซิเฮ็ดหยัง ก็เฮ็ดกันไปเด้อ) แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว เรื่องภาษา ยึดหลักว่า มันไม่ใช่ปัญหาของคนพูด มันเป็นปัญหาของคนฟัง
15 พ.ย. 2567 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสคุยกับเด็ก ป.1 ได้ถามว่าครูสอนอะไรบ้าง หนูน้อยตอบว่าตัวอักษร ภาษาอังกฤษ ข้าพเจ้าเลยให้หนูน้อยท่องให้ฟัง นร.สามารถท่องได้ A-Z แต่ก็สะดุดที่ตัว H เพราะออกเสียงว่า เฮ็ด และ เฮ็ด ทุกครั้งที่ท่อง ทำให้นึกถึงในวัยเด็ก
ข้าพเจ้าเคยเรียนระดับอนุบาลและประถมต้นโรงเรียนเอกชนมาสองแห่ง ครูจะสอนให้ออกเสียง เอช เมื่อต้องย้ายโรงเรียนใหม่ ตอน ป.4 ในวิชาภาษาอังกฤษ เพื่อนๆ เพิ่งจะเริ่มท่องภาษาอังกฤษ และเป็นครั้งแรกที่ได้ยิน "เฮ็ด" เมื่อครูให้ท่องที่ละคน บทสนทนาของข้าพเจ้ากับครูจึงเป็นประมาณนี้
ข้าพเจ้า: เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เอช
ครู: ไม่ใช่!... เอช เฮ็ด! ออกเสียงว่า เฮ็ด เอาใหม่
ข้าพเจ้า: เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เอช
ครู: เฮ็ด! เอาใหม่
ข้าพเจ้า: (เฮ็ด ก็ เฮ็ด) เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เฮ็ด
ครู: อืม! ถูกต้อง ต่อไป
และมันยิ่งสนุกมากขึ้น เมื่อเข้ามัธยม ในอีกภูมิภาคหนึ่ง เพราะ "เฮ็ด" ไม่ใช่ เฮ็ด ธรรมดาแล้ว มันเป็น "เฮ็ดชฺ" มีเสียง ชึๆ ท้ายเสียง เมื่อครูให้ข้าพเจ้าสะกดคำ เช่น Hand
ข้าพเจ้า: เอช เอ .....
ครู: เดี๋ยว! ตัวนี้ออกเสียง เฮ็ดชฺ
ข้าพเจ้า: เอช เอ เอ็น ดีแฮนด์ มือ
ครู: นั่น! ก็ออกเสียง แฮนด์ แล้วทำไมเสียงอักขระผิด ลองสะกดคำว่า House ซิ
ข้าพเจ้า: เอช โอ ยู......
ครู: ไม่ใช่....เฮ็ดชฺ เฮ็ดชฺ(ครูย้ำ)
ข้าพเจ้า: (เฮ็ดชฺ ก็ เฮ็ดชฺ) เฮ็ดชฺ โอ ยู เอส อี เฮ้าสฺ บ้าน
ครู: (พยักหน้า = ผ่าน)
เมื่อหมดคาบ ข้าพเจ้าบอกเพื่อนว่าตัวนี้อ่านว่า เอช เพื่อนบอก เฮ็ดชฺ เพื่อนอีกคน บอกว่า เฮ็ดชุ ข้าพเจ้าเถียงว่า เอช เพื่อนบอกว่า ไปถามใครในโรงเรียนนี้ก็ได้ ว่าออกเสียงอย่างไร ข้าพเจ้ายอมแพ้ เพราะรู้ว่าอยู่ในดง เฮ็ดชฺ
แม้ว่าเมื่อโตขึ้นจะรู้ว่า สามารถออกเสียงได้อีกแบบว่า เฮช แต่ก็ไม่ใกล้เคียง เฮ็ดหรือเฮ็ดชฺ เลย หรือว่าจริงจริง เฮ็ด หรือ เฮ็ดชุ ก็ใช้ได้ ในเมื่อมันผ่านมาสี่สิบกว่าปีแล้ว(นับจากอายุข้าพเจ้า) อักษรนี้ จะเป็นการออกเสียงเฉพาะสำเนียงไทยเท่านั้น ประมาณไทยลิช เหมือนสิงลิช ของสิงคโปร์
ข้าพเจ้าไม่ใช่ นักภาษาศาสตร์ แต่เท่าที่ค้นคว้าดู จะออกเสียงได้ 2 แบบคือ เอช หรือ เฮชส่วนเรื่อง เฮ็ด/เฮ็ดชฺ ก็คงจะใช้ได้ เพราะคณะที่ผลิตครู และผ่านประกันคุณภาพการศึกษาอย่างเข้มข้น ผลิตครูภาษาอังกฤษ ที่ออกเสียง เฮ็ด มาสอนเด็กได้ (พวกสูซิเฮ็ดหยัง ก็เฮ็ดกันไปเด้อ) แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว เรื่องภาษา ยึดหลักว่า มันไม่ใช่ปัญหาของคนพูด มันเป็นปัญหาของคนฟัง
บันทึกความจำเรื่องตัว H
15 พ.ย. 2567 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสคุยกับเด็ก ป.1 ได้ถามว่าครูสอนอะไรบ้าง หนูน้อยตอบว่าตัวอักษร ภาษาอังกฤษ ข้าพเจ้าเลยให้หนูน้อยท่องให้ฟัง นร.สามารถท่องได้ A-Z แต่ก็สะดุดที่ตัว H เพราะออกเสียงว่า เฮ็ด และ เฮ็ด ทุกครั้งที่ท่อง ทำให้นึกถึงในวัยเด็ก
ข้าพเจ้าเคยเรียนระดับอนุบาลและประถมต้นโรงเรียนเอกชนมาสองแห่ง ครูจะสอนให้ออกเสียง เอช เมื่อต้องย้ายโรงเรียนใหม่ ตอน ป.4 ในวิชาภาษาอังกฤษ เพื่อนๆ เพิ่งจะเริ่มท่องภาษาอังกฤษ และเป็นครั้งแรกที่ได้ยิน "เฮ็ด" เมื่อครูให้ท่องที่ละคน บทสนทนาของข้าพเจ้ากับครูจึงเป็นประมาณนี้
ข้าพเจ้า: เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เอช
ครู: ไม่ใช่!... เอช เฮ็ด! ออกเสียงว่า เฮ็ด เอาใหม่
ข้าพเจ้า: เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เอช
ครู: เฮ็ด! เอาใหม่
ข้าพเจ้า: (เฮ็ด ก็ เฮ็ด) เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี เฮ็ด
ครู: อืม! ถูกต้อง ต่อไป
และมันยิ่งสนุกมากขึ้น เมื่อเข้ามัธยม ในอีกภูมิภาคหนึ่ง เพราะ "เฮ็ด" ไม่ใช่ เฮ็ด ธรรมดาแล้ว มันเป็น "เฮ็ดชฺ" มีเสียง ชึๆ ท้ายเสียง เมื่อครูให้ข้าพเจ้าสะกดคำ เช่น Hand
ข้าพเจ้า: เอช เอ .....
ครู: เดี๋ยว! ตัวนี้ออกเสียง เฮ็ดชฺ
ข้าพเจ้า: เอช เอ เอ็น ดีแฮนด์ มือ
ครู: นั่น! ก็ออกเสียง แฮนด์ แล้วทำไมเสียงอักขระผิด ลองสะกดคำว่า House ซิ
ข้าพเจ้า: เอช โอ ยู......
ครู: ไม่ใช่....เฮ็ดชฺ เฮ็ดชฺ(ครูย้ำ)
ข้าพเจ้า: (เฮ็ดชฺ ก็ เฮ็ดชฺ) เฮ็ดชฺ โอ ยู เอส อี เฮ้าสฺ บ้าน
ครู: (พยักหน้า = ผ่าน)
เมื่อหมดคาบ ข้าพเจ้าบอกเพื่อนว่าตัวนี้อ่านว่า เอช เพื่อนบอก เฮ็ดชฺ เพื่อนอีกคน บอกว่า เฮ็ดชุ ข้าพเจ้าเถียงว่า เอช เพื่อนบอกว่า ไปถามใครในโรงเรียนนี้ก็ได้ ว่าออกเสียงอย่างไร ข้าพเจ้ายอมแพ้ เพราะรู้ว่าอยู่ในดง เฮ็ดชฺ
แม้ว่าเมื่อโตขึ้นจะรู้ว่า สามารถออกเสียงได้อีกแบบว่า เฮช แต่ก็ไม่ใกล้เคียง เฮ็ดหรือเฮ็ดชฺ เลย หรือว่าจริงจริง เฮ็ด หรือ เฮ็ดชุ ก็ใช้ได้ ในเมื่อมันผ่านมาสี่สิบกว่าปีแล้ว(นับจากอายุข้าพเจ้า) อักษรนี้ จะเป็นการออกเสียงเฉพาะสำเนียงไทยเท่านั้น ประมาณไทยลิช เหมือนสิงลิช ของสิงคโปร์
ข้าพเจ้าไม่ใช่ นักภาษาศาสตร์ แต่เท่าที่ค้นคว้าดู จะออกเสียงได้ 2 แบบคือ เอช หรือ เฮชส่วนเรื่อง เฮ็ด/เฮ็ดชฺ ก็คงจะใช้ได้ เพราะคณะที่ผลิตครู และผ่านประกันคุณภาพการศึกษาอย่างเข้มข้น ผลิตครูภาษาอังกฤษ ที่ออกเสียง เฮ็ด มาสอนเด็กได้ (พวกสูซิเฮ็ดหยัง ก็เฮ็ดกันไปเด้อ) แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว เรื่องภาษา ยึดหลักว่า มันไม่ใช่ปัญหาของคนพูด มันเป็นปัญหาของคนฟัง