"จิตคือแก่นแท้ของชีวิต: พลังของสมาธิและโทษของความฟุ้งซ่าน"---จิตที่ไหลลงต่ำ: กับดักที่สร้างเองจิตใจของมนุษย์มีธรรมชาติคล้ายน้ำ ที่พร้อมจะไหลลงสู่ที่ต่ำ หากปล่อยจิตตามใจชอบโดยไม่คิดทวนกระแสให้จิตขึ้นสูง ก็เปรียบเสมือนปล่อยชีวิตให้ไหลลงสู่ความตกต่ำโดยไม่รู้ตัวจุดเริ่มต้นของการตกต่ำไม่จำเป็นต้องมีอุปสรรคภายนอกเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เมื่อปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านและคิดวนเวียนไปเรื่อยผลลัพธ์: เสพติดการฟุ้งซ่าน ลดความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผล และเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิต---โทษของความฟุ้งซ่าน1. ความเครียดและแน่นในหัวใจเมื่อพยายามคิดขณะจิตฟุ้งซ่าน ความคิดจะวกวน ไม่เป็นระเบียบ ส่งผลให้เครียดและอึดอัด2. การรับสิ่งกระทบโดยไม่คัดกรองจิตที่ฟุ้งซ่านรับทุกอย่างทั้งดีและร้าย ทำให้ความคิดขาดความชัดเจน สร้างผลลัพธ์ที่ไม่ดี3. ลดประสิทธิภาพของการตัดสินใจยิ่งพยายามคิดมากเท่าไร กลับยิ่งสร้างผลเสียมากขึ้นเท่านั้น---พลังของสมาธิ: กุญแจสู่จิตปลอดโปร่งจิตที่เป็นสมาธิเปรียบเสมือนน้ำใสที่สะท้อนทุกสิ่งอย่างชัดเจนคุณลักษณะของจิตที่เป็นสมาธิ1. ความปลอดโปร่งและความโล่งใจคิดน้อย แต่ได้ผลลัพธ์มากจิตสามารถจับจุดสำคัญและแยกแยะสิ่งที่มีประโยชน์จากสิ่งที่เป็นโทษได้ง่าย2. ความสงบและการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพสมาธิช่วยให้เห็นสิ่งที่ควรทำและตัดสินใจได้อย่างชัดเจน---ฐานรากของสมาธิ: การใส่ใจภายในตนสมาธิที่แท้ ไม่ใช่การเพ่งสิ่งภายนอกชั่วครู่ แต่คือการใส่ใจสิ่งที่อยู่ในขอบเขตกายและจิตใจตนเองวิธีเริ่มต้นฝึกสมาธิ1. ถามตัวเองบ่อยๆ:กำลังหายใจเข้าหรือหายใจออก?วิธีนี้ช่วยให้เกิดความผูกพันกับลมหายใจ2. ฝึกความเคยชิน:การใส่ใจลมหายใจในแต่ละวันช่วยสร้างความพร้อมของจิตใจให้เข้าสู่สมาธิ3. จิตที่พร้อมจะเป็นสมาธิในทุกสถานการณ์:เมื่อฝึกจนชิน สมาธิจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ช่วยให้จิตนิ่ง สงบ และมีประสิทธิภาพ---บทสรุปชีวิตทั้งหมดสำเร็จด้วยจิต หากปล่อยจิตใจให้ฟุ้งซ่าน เท่ากับปล่อยชีวิตให้ตกต่ำ แต่หากฝึกจิตให้เป็นสมาธิ ก็เปรียบเสมือนการพาชีวิตไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ"เริ่มต้นจากการใส่ใจลมหายใจในทุกวัน แล้วสมาธิจะกลายเป็นเพื่อนแท้ ที่ช่วยให้คุณผ่านพ้นความวุ่นวายและความทุกข์ของชีวิตได้อย่างสง่างาม"
"จิตคือแก่นแท้ของชีวิต: พลังของสมาธิและโทษของความฟุ้งซ่าน"---จิตที่ไหลลงต่ำ: กับดักที่สร้างเองจิตใจของมนุษย์มีธรรมชาติคล้ายน้ำ ที่พร้อมจะไหลลงสู่ที่ต่ำ หากปล่อยจิตตามใจชอบโดยไม่คิดทวนกระแสให้จิตขึ้นสูง ก็เปรียบเสมือนปล่อยชีวิตให้ไหลลงสู่ความตกต่ำโดยไม่รู้ตัวจุดเริ่มต้นของการตกต่ำไม่จำเป็นต้องมีอุปสรรคภายนอกเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เมื่อปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านและคิดวนเวียนไปเรื่อยผลลัพธ์: เสพติดการฟุ้งซ่าน ลดความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผล และเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิต---โทษของความฟุ้งซ่าน1. ความเครียดและแน่นในหัวใจเมื่อพยายามคิดขณะจิตฟุ้งซ่าน ความคิดจะวกวน ไม่เป็นระเบียบ ส่งผลให้เครียดและอึดอัด2. การรับสิ่งกระทบโดยไม่คัดกรองจิตที่ฟุ้งซ่านรับทุกอย่างทั้งดีและร้าย ทำให้ความคิดขาดความชัดเจน สร้างผลลัพธ์ที่ไม่ดี3. ลดประสิทธิภาพของการตัดสินใจยิ่งพยายามคิดมากเท่าไร กลับยิ่งสร้างผลเสียมากขึ้นเท่านั้น---พลังของสมาธิ: กุญแจสู่จิตปลอดโปร่งจิตที่เป็นสมาธิเปรียบเสมือนน้ำใสที่สะท้อนทุกสิ่งอย่างชัดเจนคุณลักษณะของจิตที่เป็นสมาธิ1. ความปลอดโปร่งและความโล่งใจคิดน้อย แต่ได้ผลลัพธ์มากจิตสามารถจับจุดสำคัญและแยกแยะสิ่งที่มีประโยชน์จากสิ่งที่เป็นโทษได้ง่าย2. ความสงบและการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพสมาธิช่วยให้เห็นสิ่งที่ควรทำและตัดสินใจได้อย่างชัดเจน---ฐานรากของสมาธิ: การใส่ใจภายในตนสมาธิที่แท้ ไม่ใช่การเพ่งสิ่งภายนอกชั่วครู่ แต่คือการใส่ใจสิ่งที่อยู่ในขอบเขตกายและจิตใจตนเองวิธีเริ่มต้นฝึกสมาธิ1. ถามตัวเองบ่อยๆ:กำลังหายใจเข้าหรือหายใจออก?วิธีนี้ช่วยให้เกิดความผูกพันกับลมหายใจ2. ฝึกความเคยชิน:การใส่ใจลมหายใจในแต่ละวันช่วยสร้างความพร้อมของจิตใจให้เข้าสู่สมาธิ3. จิตที่พร้อมจะเป็นสมาธิในทุกสถานการณ์:เมื่อฝึกจนชิน สมาธิจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ช่วยให้จิตนิ่ง สงบ และมีประสิทธิภาพ---บทสรุปชีวิตทั้งหมดสำเร็จด้วยจิต หากปล่อยจิตใจให้ฟุ้งซ่าน เท่ากับปล่อยชีวิตให้ตกต่ำ แต่หากฝึกจิตให้เป็นสมาธิ ก็เปรียบเสมือนการพาชีวิตไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ"เริ่มต้นจากการใส่ใจลมหายใจในทุกวัน แล้วสมาธิจะกลายเป็นเพื่อนแท้ ที่ช่วยให้คุณผ่านพ้นความวุ่นวายและความทุกข์ของชีวิตได้อย่างสง่างาม"
0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews