นาย ก. บอกว่านาย ข. เอาเงินนาย ก. ไป และทวงเงินคืน แต่นาย ข. บอกว่า นาย ก. ให้โดยเสน่หา

นาย ก. บอกว่าไม่ได้ให้โดยเสน่หา ขอให้ นาย ข. คืนเงิน นาย ข. ยืนยันว่าไม่คืนเพราะนาย ก. ให้โดยเสน่หาแล้ว

ปรากฎว่านาย ก. มีหลักฐานว่าไม่ได้ให้โดยเสน่หา จึงได้แจ้งความว่าถูก นาย ข. หลอกลวงเอาเงินไป

นาย ข. กลับบอกว่า ไม่เป็นการให้โดยเสน่หาก็ได้ งั้นเป็นการยืมเพื่อลงทุน อย่างนี้ก็ได้เหรอ น่าเชือถือเหรอ งง?

เอาเงินไปซื้อบ้านอยู่อาศัยเอง ไม่ได้เอาไปเพื่อประกอบกิจการหารายได้ มันจะเป็นการลงทุนเหรอ เป็นการหลอกลวงไหม

หากฟังได้ว่าเงินที่นาย ข. เอาไปนั้นเป็นเงินยืม ภาระภาษีนาย ข. ที่มีต่อเงินที่ได้มาของนาย ข. ยังจะมีอยู่เหรอ ตรงกันข้ามผู้ให้ยืมกลับต้องรับภาระดอกเบี้ยภาษีด้วยมิใช่เหรอ

ถ้าเป็นเช่นนั้น นาย ข. ได้เงินแล้วแถมยังทำร้ายนาย ก. ซ้ำเข้าไปอีก มิใช่เหรอ
นาย ก. บอกว่านาย ข. เอาเงินนาย ก. ไป และทวงเงินคืน แต่นาย ข. บอกว่า นาย ก. ให้โดยเสน่หา นาย ก. บอกว่าไม่ได้ให้โดยเสน่หา ขอให้ นาย ข. คืนเงิน นาย ข. ยืนยันว่าไม่คืนเพราะนาย ก. ให้โดยเสน่หาแล้ว ปรากฎว่านาย ก. มีหลักฐานว่าไม่ได้ให้โดยเสน่หา จึงได้แจ้งความว่าถูก นาย ข. หลอกลวงเอาเงินไป นาย ข. กลับบอกว่า ไม่เป็นการให้โดยเสน่หาก็ได้ งั้นเป็นการยืมเพื่อลงทุน อย่างนี้ก็ได้เหรอ น่าเชือถือเหรอ งง? เอาเงินไปซื้อบ้านอยู่อาศัยเอง ไม่ได้เอาไปเพื่อประกอบกิจการหารายได้ มันจะเป็นการลงทุนเหรอ เป็นการหลอกลวงไหม หากฟังได้ว่าเงินที่นาย ข. เอาไปนั้นเป็นเงินยืม ภาระภาษีนาย ข. ที่มีต่อเงินที่ได้มาของนาย ข. ยังจะมีอยู่เหรอ ตรงกันข้ามผู้ให้ยืมกลับต้องรับภาระดอกเบี้ยภาษีด้วยมิใช่เหรอ ถ้าเป็นเช่นนั้น นาย ข. ได้เงินแล้วแถมยังทำร้ายนาย ก. ซ้ำเข้าไปอีก มิใช่เหรอ
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว