ผลกระทบของการทำผิดศีลและการฝืนความจริงต่อตัวเอง โดยเปรียบเทียบการทำงานของสมองและจิตใจระหว่างการมีสติ มีสมาธิ กับการทำผิดศีล

เมื่อเรามีสติและสมาธิ สมองจะทำงานง่ายดายเพราะมีเป้าหมายเดียว คิดเรื่องเดียว เหมือนกับการรักษาสมดุลบนจักรยาน ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย รู้สึกสบาย แต่เมื่อต้องทำสิ่งที่ขัดกับความจริง เช่น โกหก สมองต้องใช้ความพยายามสูงมากขึ้นเพราะต้องจัดการกับความจริงที่รับรู้และพยายามสร้างเรื่องเท็จที่ไม่หลุดลอย การโกหกหรือทำผิดศีลจึงเหมือนการเดินบนเส้นเชือกโดยที่ต้องควบคุมความกลัวไปด้วย ทำให้รู้สึกตึงเครียดและไม่เป็นธรรมชาติ

ยิ่งถ้าความรู้สึกผิดตกค้างอยู่ในจิตใจ เมื่อนั่งสมาธิจะยิ่งรู้สึกถึงความเครียดแน่นค้าง หากเรามีความคาดหวังว่าสมาธิจะทำให้ผ่อนคลายทันที ก็อาจทำให้เกิดความเครียดซ้ำเติม เพราะปัญหาที่ยังแก้ไม่เสร็จจะทำให้สมองและจิตใจฝืนตัวเองอย่างหนัก สุดท้ายสำหรับคนที่มีปมขัดแย้งกับจิตเพียงเล็กน้อย การนั่งสมาธิอาจทำให้รู้สึกถึงความหม่นหมองหรือฟุ้งซ่านที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้ยากที่จะรักษาความสงบและสมาธิที่ผ่องใส

ผลกระทบของการทำผิดศีลและการฝืนความจริงต่อตัวเอง โดยเปรียบเทียบการทำงานของสมองและจิตใจระหว่างการมีสติ มีสมาธิ กับการทำผิดศีล เมื่อเรามีสติและสมาธิ สมองจะทำงานง่ายดายเพราะมีเป้าหมายเดียว คิดเรื่องเดียว เหมือนกับการรักษาสมดุลบนจักรยาน ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย รู้สึกสบาย แต่เมื่อต้องทำสิ่งที่ขัดกับความจริง เช่น โกหก สมองต้องใช้ความพยายามสูงมากขึ้นเพราะต้องจัดการกับความจริงที่รับรู้และพยายามสร้างเรื่องเท็จที่ไม่หลุดลอย การโกหกหรือทำผิดศีลจึงเหมือนการเดินบนเส้นเชือกโดยที่ต้องควบคุมความกลัวไปด้วย ทำให้รู้สึกตึงเครียดและไม่เป็นธรรมชาติ ยิ่งถ้าความรู้สึกผิดตกค้างอยู่ในจิตใจ เมื่อนั่งสมาธิจะยิ่งรู้สึกถึงความเครียดแน่นค้าง หากเรามีความคาดหวังว่าสมาธิจะทำให้ผ่อนคลายทันที ก็อาจทำให้เกิดความเครียดซ้ำเติม เพราะปัญหาที่ยังแก้ไม่เสร็จจะทำให้สมองและจิตใจฝืนตัวเองอย่างหนัก สุดท้ายสำหรับคนที่มีปมขัดแย้งกับจิตเพียงเล็กน้อย การนั่งสมาธิอาจทำให้รู้สึกถึงความหม่นหมองหรือฟุ้งซ่านที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้ยากที่จะรักษาความสงบและสมาธิที่ผ่องใส
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว