• ฉันไม่สามารถที่จะย้อนเวลากลับไปเมื่อวานได้
    เพราะตัวฉันเอง
    ได้กลายเป็นอีกคน
    ที่ต่างไปจากเมื่อวานแล้ว

    จากหนังสือ | Alice in Wonderland, Lewis Carroll

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes
    ฉันไม่สามารถที่จะย้อนเวลากลับไปเมื่อวานได้ เพราะตัวฉันเอง ได้กลายเป็นอีกคน ที่ต่างไปจากเมื่อวานแล้ว จากหนังสือ | Alice in Wonderland, Lewis Carroll #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 491 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิ่งที่เจ็บปวดที่สุด
    คือการสูญเสียตัวเราเองจากการที่เรารักใครบางคนมากไป
    ...จนลืมไปว่า
    *ตัวเราเองก็มีความพิเศษเช่นกัน

    จากหนังสือ | Men Without Women, Ernest Hemingway

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes
    สิ่งที่เจ็บปวดที่สุด คือการสูญเสียตัวเราเองจากการที่เรารักใครบางคนมากไป ...จนลืมไปว่า *ตัวเราเองก็มีความพิเศษเช่นกัน จากหนังสือ | Men Without Women, Ernest Hemingway #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 678 มุมมอง 0 รีวิว
  • Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว

  • HAARP​ weapon​ in​ Thailand​
    #Weather​Modification​Warfare​
    #GeoEngineering
    #BlockTheSun
    #climatechange
    #climatecrisis
    #climatechangechallenge
    #solarradiationmanagement
    #mistmachine
    #icecrystalengineering
    #StratosphericAerosolInjection
    #aerosolassault
    #aerosalspraying
    #weatherman
    #climateemergency
    #climateactionnow
    #ClimateScam
    #ClimateChangeHoax
    #globalwarming
    #chemtrailclouds
    #chemtrailspraying
    #chemtrailsworldwide
    #chemtrailsplanets
    #cloudseeding
    #toxiccloud
    #HAARP
    #haarpweapon
    #earthquakegenerator
    #earthquakemachine
    #skyquake
    #thaitimes
    #thaitimesfreespeech
    #thaitimesknowledge
    #thaitimes.co
    #ไทยไทม์​อย่าปิดกั้นการมองเห็น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 269 0 รีวิว
  • ..555
    ..ขอแสดงความยินดีกับคนจนที่ได้รับตัง10,000บาทครับ,ยุคนี้ลำบากโคตรๆวิกฤติโลกกระทบไทยด้วย,น้ำท่วมอีก หมดเนื้อหมดตัวกันมาก ยิ่งคนจนอีก ไร้เงินเดือนประจำแบบข้าราชการหรือเอกชนยิ่งอนาถ รายได้สม่ำเสมอฝันไปเลย,อย่างน้อยสมเหตุสมผลกว่าผีบ้ายุคแจกตังดิจิดัลอีก เขาแฉการโกงกินแหลกลาน คุกคือที่ไปของครม.ทั้งพรรคร่วมแน่นอน.,แบงค์ชาติก็เห็นด้วยหากจะช่วยเหลือกลุ่มอ่อนแอนี้ก่อน เป้าหมายสมเหตุสมผลช่วยเยียวยาในยุคลำบากนี้,ถ้าเป็นโครงการUBIจริงมีตังต่อเนื่องอัดตังลงมาสม่ำเสมอพร้อมอัดโครงการเศรษฐกิจพอเพียงด้วย,ไม่เกิน1ปี คนไทยจะมีกินมีใช้พึ่งพาตนเองได้แน่นอน เพราะตังอาจเดือนละ25,000บาท จากแบงค์ชาติรับมาจริงที่เป็นTอะไรๆก็เถอะ&ถ้าใช่หรือMใดๆก็ด้วยก็ว่า,กว่า120,000ล้านล้านบาทเข้ามาไทยที่อยู่กับแบงค์ชาติจริงๆมันจะยอดเยี่ยมมากๆ,คนไทยมีพื้นฐานพึ่งพาตนเองแบบอยู่สมถะพอเพียงด้วย,จะมีตังซื้อนั้นนี้เพียงพอเพื่อเตรียมความพร้อมพึ่งพาตนเองแม้ไม่มีตังในอนาคต,แต่มีกินมีใช้&อิ่มปากอิ่มท้องกันทั้งประเทศไทย เหลือแบ่งปันให้จนฟรีดั่งในอดีตโน้น,ไปบ้านไหนทุกๆบ้านของกินของใช้ผักผลไม้ปลอดภัยมีทุกๆตารางนิ้วทั่วไทยเราและทุกๆบ้าน อนาคตธนาคารฟรีๆเมล็ดพันธุ์สู่ความมั่นคงทางอาหารจริงจังก็ว่า ตามสถานะชีวิตพื้นฐานกายเนื้อเราที่ต้องพึ่งกายหยาบกินอยู่ขับถ่ายนี้เป็นกิจวัตรประจำวันก็ว่า.
    ..ระเบิดพลังเลย.
    ..555 ..ขอแสดงความยินดีกับคนจนที่ได้รับตัง10,000บาทครับ,ยุคนี้ลำบากโคตรๆวิกฤติโลกกระทบไทยด้วย,น้ำท่วมอีก หมดเนื้อหมดตัวกันมาก ยิ่งคนจนอีก ไร้เงินเดือนประจำแบบข้าราชการหรือเอกชนยิ่งอนาถ รายได้สม่ำเสมอฝันไปเลย,อย่างน้อยสมเหตุสมผลกว่าผีบ้ายุคแจกตังดิจิดัลอีก เขาแฉการโกงกินแหลกลาน คุกคือที่ไปของครม.ทั้งพรรคร่วมแน่นอน.,แบงค์ชาติก็เห็นด้วยหากจะช่วยเหลือกลุ่มอ่อนแอนี้ก่อน เป้าหมายสมเหตุสมผลช่วยเยียวยาในยุคลำบากนี้,ถ้าเป็นโครงการUBIจริงมีตังต่อเนื่องอัดตังลงมาสม่ำเสมอพร้อมอัดโครงการเศรษฐกิจพอเพียงด้วย,ไม่เกิน1ปี คนไทยจะมีกินมีใช้พึ่งพาตนเองได้แน่นอน เพราะตังอาจเดือนละ25,000บาท จากแบงค์ชาติรับมาจริงที่เป็นTอะไรๆก็เถอะ&ถ้าใช่หรือMใดๆก็ด้วยก็ว่า,กว่า120,000ล้านล้านบาทเข้ามาไทยที่อยู่กับแบงค์ชาติจริงๆมันจะยอดเยี่ยมมากๆ,คนไทยมีพื้นฐานพึ่งพาตนเองแบบอยู่สมถะพอเพียงด้วย,จะมีตังซื้อนั้นนี้เพียงพอเพื่อเตรียมความพร้อมพึ่งพาตนเองแม้ไม่มีตังในอนาคต,แต่มีกินมีใช้&อิ่มปากอิ่มท้องกันทั้งประเทศไทย เหลือแบ่งปันให้จนฟรีดั่งในอดีตโน้น,ไปบ้านไหนทุกๆบ้านของกินของใช้ผักผลไม้ปลอดภัยมีทุกๆตารางนิ้วทั่วไทยเราและทุกๆบ้าน อนาคตธนาคารฟรีๆเมล็ดพันธุ์สู่ความมั่นคงทางอาหารจริงจังก็ว่า ตามสถานะชีวิตพื้นฐานกายเนื้อเราที่ต้องพึ่งกายหยาบกินอยู่ขับถ่ายนี้เป็นกิจวัตรประจำวันก็ว่า. ..ระเบิดพลังเลย.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 894 มุมมอง 167 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 25-9-67
    .
    เช้าวันนี้อากาศสบายๆ คุณสนธิมาเล่าเรื่องต่าง ๆ เป็นเมดเลย์ แต่จะเรื่องอะไรต้องไปฟังเอง
    .
    คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=EcVpvbcZBiI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
  • 25 กันยายน 2567-รายงานข่าว TNN ระบุว่าอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวกับบรรดาผู้นำประเทศ ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UNGA) เมื่อวันอังคาร 24 กันยายนนี้ ได้กล่าวประณามสงครามในจุดต่างๆว่า ตอนนี้ มีรัฐบาลของหลายประเทศ และกลุ่มต่างๆที่พวกเขาคิดว่าตัวเองมี “บัตรออกจากคุกฟรี”

    “พวกเขาแทรกแซงกฎหมายระหว่างประเทศ พวกเขาละเมิดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ พวกเขาสามารถเข้าแทรกแซงประเทศอื่น ไปทำให้สังคมเขาเสียหาย ทำให้สวัสดิภาพของประชาชนมีปัญหา .. และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” พร้อมชี้ว่า การไม่ได้รับบทลงโทษเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในทางศีลธรรมถ้อยแถลงของกูแตร์เรส อ้างอิงถึงสงครามที่ยืดเยื้อนานเกือบ 1 ปีเต็มระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ที่ตอนนี้กำลังขยายวงไปสู่สมรภูมิในเลบานอน ในขณะที่อิสราเอลพุ่งเป้าโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์หลายพันจุดตั้งแต่วันจันทร์ (23 กันยายน) ที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย

    “เลบานอนอยู่ภาวะยากลำบาก ผู้คนในเลบานอน, อิสราเอล และผู้คนทั่วโลก ไม่สามารถทำให้เลบานอนกลายเป็นกาซาอีกจุดหนึ่งได้” กูแตร์เรสกล่าว ส่วนสถานการณ์ที่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปี 2022 และสถานการณ์ขยายวงสู่การที่ยูเครนเข้ายึดดินแดนในภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซีย ตลอดจนการระดมโจมตีกันด้วยโดรนและขีปนาวุธนั้น เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุว่า คนที่ต้องสูญเสียคือพลเรือน จำนวนผู้เสียชีวิตสูงขึ้น และนี่ควรจะถึงเวลาสำหรับสันติภาพที่ยุติธรรมตามกฎบัตรสหประชาชาติ, กฎหมายระหว่างประเทศ และตามมติของสหประชาชาติได้แล้ว

    “ความแตกแยกของภูมิรัฐศาสตร์โลกร้าวลึกยิ่งขึ้น, โลกก็ร้อนขึ้น และสงครามก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ ตลอดจนความท้าทายด้านนิวเคลียร์ และอาวุธชนิดใหม่ ๆ ก็มีขึ้นอยู่เสมอ .. เรากำลังเข้าสู่ยุคที่จินตนาการไม่ถูก แต่นี่คือความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อโลกใบนี้” เลขาธิการสหประชาชาติกล่าว

    คลิป https://youtu.be/xF7iI1IpAFk?si=4YAmuf1EsSJoG8yp

    #Thaitimes
    25 กันยายน 2567-รายงานข่าว TNN ระบุว่าอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวกับบรรดาผู้นำประเทศ ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UNGA) เมื่อวันอังคาร 24 กันยายนนี้ ได้กล่าวประณามสงครามในจุดต่างๆว่า ตอนนี้ มีรัฐบาลของหลายประเทศ และกลุ่มต่างๆที่พวกเขาคิดว่าตัวเองมี “บัตรออกจากคุกฟรี” “พวกเขาแทรกแซงกฎหมายระหว่างประเทศ พวกเขาละเมิดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ พวกเขาสามารถเข้าแทรกแซงประเทศอื่น ไปทำให้สังคมเขาเสียหาย ทำให้สวัสดิภาพของประชาชนมีปัญหา .. และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” พร้อมชี้ว่า การไม่ได้รับบทลงโทษเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในทางศีลธรรมถ้อยแถลงของกูแตร์เรส อ้างอิงถึงสงครามที่ยืดเยื้อนานเกือบ 1 ปีเต็มระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ที่ตอนนี้กำลังขยายวงไปสู่สมรภูมิในเลบานอน ในขณะที่อิสราเอลพุ่งเป้าโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์หลายพันจุดตั้งแต่วันจันทร์ (23 กันยายน) ที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย “เลบานอนอยู่ภาวะยากลำบาก ผู้คนในเลบานอน, อิสราเอล และผู้คนทั่วโลก ไม่สามารถทำให้เลบานอนกลายเป็นกาซาอีกจุดหนึ่งได้” กูแตร์เรสกล่าว ส่วนสถานการณ์ที่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปี 2022 และสถานการณ์ขยายวงสู่การที่ยูเครนเข้ายึดดินแดนในภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซีย ตลอดจนการระดมโจมตีกันด้วยโดรนและขีปนาวุธนั้น เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุว่า คนที่ต้องสูญเสียคือพลเรือน จำนวนผู้เสียชีวิตสูงขึ้น และนี่ควรจะถึงเวลาสำหรับสันติภาพที่ยุติธรรมตามกฎบัตรสหประชาชาติ, กฎหมายระหว่างประเทศ และตามมติของสหประชาชาติได้แล้ว “ความแตกแยกของภูมิรัฐศาสตร์โลกร้าวลึกยิ่งขึ้น, โลกก็ร้อนขึ้น และสงครามก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ ตลอดจนความท้าทายด้านนิวเคลียร์ และอาวุธชนิดใหม่ ๆ ก็มีขึ้นอยู่เสมอ .. เรากำลังเข้าสู่ยุคที่จินตนาการไม่ถูก แต่นี่คือความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อโลกใบนี้” เลขาธิการสหประชาชาติกล่าว คลิป https://youtu.be/xF7iI1IpAFk?si=4YAmuf1EsSJoG8yp #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 939 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ใครหลงใครลืมกุญแจบ้านแบบยุคเดิมๆสไตล์เราบ้าง,วิธีนี้อาจช่วยเปิดประตูเข้าบ้านตัวเองได้,กรณีใช้เพื่อสร้างสรรค์นะ.
    ..ใครหลงใครลืมกุญแจบ้านแบบยุคเดิมๆสไตล์เราบ้าง,วิธีนี้อาจช่วยเปิดประตูเข้าบ้านตัวเองได้,กรณีใช้เพื่อสร้างสรรค์นะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 59 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายครั้งก็แอบคิดคนเดียวบ่อย ๆ
    ผู้มีพระคุณเดือดร้อนแต่เรากลับช่วยอะไรไม่ได้เลย มันก็เสียใจอยู่ลึก ๆ ในขณะเดียวกันมันก็เหมือนเป็นดั่งแรงพลักดัน วันข้างหน้าเราคงเป็นได้มากกว่านี้...ใช่เปล่าวะ555 (สลดได้แปบเดียวแล้วก็กลับมานั่งยิ้มกับตัวเอง) lit nit ก็เป็นซะแบบนี้
    #ขลุกกับทุกข์อยู่นิดหน่อยขณะเดียวกันก็ชอบมองหาโอกาสคละเคล้ากันไป
    หลายครั้งก็แอบคิดคนเดียวบ่อย ๆ ผู้มีพระคุณเดือดร้อนแต่เรากลับช่วยอะไรไม่ได้เลย มันก็เสียใจอยู่ลึก ๆ ในขณะเดียวกันมันก็เหมือนเป็นดั่งแรงพลักดัน วันข้างหน้าเราคงเป็นได้มากกว่านี้...ใช่เปล่าวะ555 (สลดได้แปบเดียวแล้วก็กลับมานั่งยิ้มกับตัวเอง) lit nit ก็เป็นซะแบบนี้ #ขลุกกับทุกข์อยู่นิดหน่อยขณะเดียวกันก็ชอบมองหาโอกาสคละเคล้ากันไป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวเลี้ยวแห่งความเป็นใหญ่……หัวต่อแห่งความโหดร้าย………
    ติ่งขา……พี่ปูแบกไว้ทั้งหมด……!!

    ตอนสิบสี่………ปีแห่งประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกและจดจำ…….!!!

    หลังจากที่ปูตินได้ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกสมัย
    วันที่ 1 กันยายน 2004 ได้เดินทางไปที่ Sochi อีกครั้งเพื่อหวังว่าจะได้พักร่าง พักสมอง เพราะที่ผ่านมาต้องพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆจนไม่มีเวลาพักผ่อน เช่น กับ Jacques Chirac (ฝรั่งเศส) Gerhard Schröder (เยอรมัน)
    ผู้คนส่วนใหญ่จะพักร้อนกันในเดือนสิงหาคม……แต่ปูตินไม่ได้พักเลยเพราะกลุ่มกบฏในเชเชนได้ก่อตัวขึ้นในการปฎิบัติการก่อการร้ายที่หนักข้อขึ้นทุกวัน โดยมีตัวการเป็นหญิงสาวสี่คน คือ Rosa Nagayeva และน้องสาว Amanat….โดยมีเพื่อนสาว Satsita Dzhbirkhanova และ Maryam Taburova ที่ร่วมมือกันวางระเบิดก่อความไม่สงบในหลายพื้นที่

    ในวันที่ปิดหีบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้น ได้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อาจเปรียบเสมือนลางร้ายของผู้นำคนใหม่ นั่นคือ ไฟไหม้ที่ อาคาร Manezh ที่ตั้งอยู่ใน Alexsandr Gardens ที่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ตรงข้ามกับเครมลิน ไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จนทะลายลงมาทั้งหลัง
    ปูตินได้ยืนมองดูเหตุการณ์อยู่ที่ขั้นบนของสภา การกล่าวคำปราศรัยต้องเลื่อนออกไป เพราะไม่เช่นนั้นฉากหลังของการปราศรัยจะเป็นฉากที่เพลิงลุกไหม้ที่พร่าชีวิตของนักดับเพลิงไปสองนาย……

    เพื่อแสดงสปิริตของความเป็นนักการเมืองประชาธิปไตยรุ่นใหม่ เขาจึงลดกระแสด้วยการปล่อยตัว MK ให้มาสู้คดีหลังจากที่อยู่ในที่คุมขังประมาณห้าเดือน
    และ……นั่นคือการเปิดศึกระหว่าง ผู้ที่มีอำนาจกับผู้ที่มีเงิน (จนถึงทุกวันนี้)

    เป็นช่วงเดียวกันกับที่ปูตินกำลังก้าวขึ้นมาในเส้นทางของนักการเมืองเต็มตัว โดยที่ไม่มีพี่เลี้ยงคอยประกบเหมือนเมื่อก่อน (เยลซิน)
    และนับว่าเป็นปีทดสอบความเป็นผู้นำที่แสนโหด และแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเอาตัวและชาติรอดมาได้อย่างไร..…?!!
    เริ่มจาก กระแสความเคลื่อนไหวในการจับกุม MK อภิมหาเศรษฐีคนดัง
    ที่แม้แต่นายกรัฐมนตรีของเขาเอง Mikhaïl Kesyanov ก็ยังแสดงความไม่พอใจ ถึงกับไปให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ ว่า MK ไม่ได้โกงภาษี…เพียงแต่ใช้ช่องว่างของกฎหมายเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เท่านั้น……

    อย่างไรก็ตาม……ไม่ได้มีใครสนใจกับข้อโต้แย้งของเขานัก เพราะทั้งรัสเซียกำลังตื่นเต้นกับ ราคาน้ำมันส่งออกทะยานขึ้นเกินสิบเท่าของที่เคยได้ จาก หกพันล้าน พุ่งขึ้นมาเป็น แปดหมื่นล้านเหรียญ
    และรัสเซียได้กลายมาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้าซาอุดิ อะเรเบีย
    และสินค้าอื่นๆเริ่มมีใบสั่งเข้ามายาวเป็นหางว่าว……
    แต่ปูตินไม่ได้ปล่อยให้ความคิดเห็นคัดค้านของนายกฯผ่านไป
    วันที่ 23 กุมภาพันธุ์ หลังจากการประชุมบอร์ดผ่านไป ปูตินให้ นายกฯ
    คาเซียนอฟ เข้ามาพบ และพูดสั้นๆว่า……
    “ต่อไปนี้……คุณหมดหน้าที่แล้วนะ” เป็นการไล่ออกแบบง่ายๆที่ไม่ต้องมีพิธีรีตอง……
    และ……ไม่มีการประกาศว่า ใครจะมาแทน…ผู้คนก็เดากันไปต่างๆนานา
    ว่าอาจจะเป็นคนนั้นคนนี้ จนอาทิตย์หนึ่งผ่านไป ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่ง คือ
    Mikhaïl Fradkov ที่แสน”โนเนม”จากปีเตอร์สเบอร์ก

    แต่ไม่โนเนมสำหรับปูติน เพราะ MF (Mikhaïl Fradkov) คนนี้เคยเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในสมัยเยลซิน เป็นผู้เชี่ยวชาญในหลายภาษา เป็นคนตรง…สมถะ และ ไม่สนใจในการเมือง
    ในขณะที่ปูตินติดต่อไปให้มารับตำแหน่ง ตอนนั้น MF อยู่ที่ Brussels กำลังทำหน้าที่เป็นทูตพานิชย์รัสเซียประจำ EU
    เมื่อเขาบินมาถึงมอสโคว์ในวันต่อมา เพื่อเข้ารับตำแหน่ง นัดข่าวได้ถามถึงนโยบายในการทำงาน เขาตอบสั้นๆว่า
    “ก็ทำตามนโยบายของท่านประธานาธิบดี……”

    วันที่ 1 กันยายน เป็นช่วงเวลาที่เด็กๆกลับเข้าโรงเรียน ที่มีธรรมเนียมที่น่ารัก คือเด็กๆแต่งตัวกันสวยงาม เตรียมของขวัญเล็กๆน้อยๆไปสวัสดีคุณครู
    ผู้ปกครองพากันตื่นเต้น จูงลูก พาหลานไปพบปะสังสรรกันที่หอประชุมโรงเรียนในวันเปิดเทอมวันแรก
    ที่เมือง Beslan, North-Ossetia (คอเคซัส) ก็เช่นกัน เหตุการณ์ที่ควรจะเป็นภาพสวยงามนี้ ได้กลายมาเป็นโศกนาฏกรรม

    ผู้คนประมาณหลายร้อยคนได้ชุมนุมกันที่ลานหน้าโรงเรียน ทันใดนั้น ได้มีรถบรรทุกวิ่งผ่าเข้ามา……ผ่าใบคลุมหลังรถได้เปิดออก กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ตะโกนเรียกพระนาม แล้วกระโดดลงมาพร้อมอาวุธ
    ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน กลุ่มกบฎได้ต้อนทุกคนเข้าไปอยู่ในโรงยิม ……
    กลุ่มกบฏ……มีผู้หญิงสองคนรวมอยู่ด้วย นั่นคือ Maryam Taburova และ Rosa Negayeva

    เป็นการกระทำที่อุกอาจที่ไม่มีใครคาดคิด เพราะเมื่อวันที่ 9 เดือนพฤษภาที่ผ่านมา……ที่เป็นวันฉลองชัยชนะของรัสเซีย ประธานาธิบดีเชเชน Akhmad Kadyrov ที่เพิ่งรับตำแหน่งสดๆร้อนๆได้ไปเป็นประธานในพิธี ได้ถูกลอบวางระเบิดที่กลางงานจนเสียชีวิต เหลือไว้คือลูกชายวัย 27 Ramzan ที่มีเลือดพ่อเต็มร้อย พร้อมลงสานต่อ แต่อายุยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะเป็นผู้นำ
    จึงต้องคอยไปก่อน ปูตินแต่งตั้งให้ Aslan Maskhadov ขึ้นมาแทนไปก่อน
    แต่กลุ่มกบฏ……ก็ได้ให้คำเตือนมาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า……Ramzan จะเป็นรายต่อไป…เมื่อมีโอกาส…!!

    คราวนี้ที่ Beslan ที่ฝ่ายกบฏได้ยื่นความประสงค์กับปูตินว่า
    กองทัพรัสเซียจะต้องออกไปจากพื้นที่ และประกาศให้เชเชนเป็นเอกราช ซึ่งเชเชนจะร่วมเป็นพันธมิตรและยังคงใช้รูเบิ้ลเป็นสกุลเงินตรา
    เชเชนจะร่วมมือกับรัสเซียในการพัฒนากองกำลังและฟื้นฟูประเทศ (ที่เป็นเอกราช)

    ในนามของพระเจ้า
    ลงชื่อ Shamil Basayev

    ซึ่ง ชามิลตัวหัวหน้า……มาแต่เพียงในนาม ไม่ได้อยู่รวมในกลุ่ม และข้อเสนอนั้น ……เป็นไปไม่ได้ที่ทางรัสเซียจะยอมรับ

    การกักตัวผู้คนจำนวนหลายร้อยในที่ที่จำกัด ได้สร้างความทุกข์ทรมานให้กับเด็กๆอย่างแสนสาหัส เพราะไม่มีอาการ ไม่มีน้ำ
    ผู้ที่ขัดขืนได้ถูกยิงทิ้ง แล้วนำศพโยนออกมาทางหน้าต่าง……จำนวนหลายศพ

    ในที่สุด วันที่สองของการควบคุมตัว ได้มีการเจรจาขอให้ปล่อยเด็กเล็กกว่าสามสิบคนออกมาได้

    วันที่สาม……ฝ่ายเจรจาขอให้มีการนำรถพยาบาลเข้าไปรับศพที่เริ่มบวมออกมาจากสถานที่
    ในเวลาตีหนึ่ง ที่หน่วยพยาบาลสี่คนได้เข้าไปพร้อมรถตามกำหนดการ
    เมื่อไปถึง……เพียงสองนาทีผ่านไป…..ได้เกิดระเบิดขึ้น ที่ทำให้ผนังของโรงยิมได้เปิดออก หลังคาเปิง
    คราวนี้……ฝ่ายกบฏได้เปิดฉากยิงมั่วซั่ว ขว้างระเบิดมือท่ามกลางฝุ่นที่ตลบคลุ้ง
    เป็นการโกลาหลจนสุดบรรยาย เพราะผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นเชลยไม่อยู่ในสภาพที่จะหลบหนีได้ พวกเขาอ่อนเปลี้ยจนเกินไป

    เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไป ทั้งหมดในนั้นเสียชีวิต จำนวนเชลย 334 คน (เด็กโต 186 คน) คอมมานโด 10 คน ผู้ก่อการ 30 คน (ผู้หญิง 2)
    อันเป็นข่าวที่น่าสลดใจไปยังรอบโลก ที่มีการค้นหาความจริง ว่า
    ระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น มาจากระเบิดที่ทางฝ่ายคณะผู้ก่อการได้วางสายเอาไว้แล้วเกิดการผิดพลาด…จนเป็นที่มาของโศกนาฏกรรมหมู่
    ปูติน..พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้มีการสูญเสีย เพราะประสบการณ์จากโรงละครที่ทำให้เขาไม่ยอมใช้วิธีการยาสลบพ่นเข้าไป
    เขาหวังในการเจรจา……ที่ควรจะมีการต่อรองกับ Shamil โดยตรง ไม่ผ่านตัวกลาง
    แต่นั่นหมายถึงว่า แม้ว่าเขาจะเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับการสูญเสียครั้งใหญ่เขายังต้องตอบคำถามที่หลั่งไหลเข้ามาจากนักข่าว
    โดยเฉพาะฝ่ายศัตรูที่คอยเล่นงานทิ่มแทง

    วันที่ 13 กันยายน หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญโลกที่ Beslan
    พวกที่นั่งในสภา 150 ที่นั่งที่ได้รับเลือกตั้งมา (จากต่างพรรค)
    ที่ปูตินเรียกสัมภาษณ์รายคน ถึง จุดมุ่งหมายในความคิดและนโยบายที่มีต่อประเทศ แต่ละรายเพ้อเจ้อในเรื่องของความเป็นประชาธิปไตยที่เอนเอียงไปในทางที่จะให้เอกราชกับเชเชน…

    ปูตินจีงประกาศสั่งระงับการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอ หรือ นายกเทศมนตรี ทุกอย่างขะงักกึก………
    เท่ากับว่า มอสโคว์คือศูนย์กลางของการปกครองเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เปรียบได้ว่าการปกครองได้กลับเข้าไปสู่ยุคของคอมมิวนิสต์
    เพราะเขาได้ประกาศว่า……
    “ประชากรชาวรัสเชี่ยนของเรา ยังมีความคิดล้าหลัง ยังไม่ปรับตัวให้ทันกับสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตยที่มาถึงพร้อมกับความชั่วร้าย ……เราต้องใช้เวลากับการทำความรู้จักกับมัน……เพราะสิ่งที่จะใช้ได้ผลที่สุดในยามนี้
    คือการยืนค่อนไปทางซ้าย..(ระบอบคอมมิวนิสต์)”

    พรรคฝ่ายซ้ายขานรับกันจ้าละหวั่น และ เสนอตัวกันอย่างแข็งขันในการร่วมมือ …

    ~~~หลังจากการก่อการร้ายของ Shamil Basayev ที่ได้สร้างความเขย่าขวัญนานหลายปี ตั้งแต่วางแผนจับตัวประกันที่โรงละคร และ ที่โรงเรียน
    รวมทั้งที่อื่นๆทั่วรัสเซียนานกว่าสิบปี
    ฝ่าย FSB ได้ถือว่า ชามิล คือ อาชญากรที่ทางแารรัสเซียต้องการตัวที่สุด
    ในที่สุด การ”ล่อซื้อ” ได้เกิดขึ้น ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2006 นั่นคือ การค้าขายอาวุธให้กับกลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่เป็นล๊อตขนาดใหญ่ ที่มีจุดรับของที่หมู่บ้าน Ekazhevo
    ชามิล และคณะมารอรับ และเมื่อรถบรรทุกอาวุธที่ว่ามาถึง ระหว่างที่มีการตรวจคุณภาพของกัน รถบรรทุกได้เกิดระเบิดขึ้น คร่าชีวิตของชามิลและคณะนับสิบคน…ตามวัตถุประสงค์ของ FSB ……!!!

    Wiwanda W. Vichit
    หัวเลี้ยวแห่งความเป็นใหญ่……หัวต่อแห่งความโหดร้าย……… ติ่งขา……พี่ปูแบกไว้ทั้งหมด……!! ตอนสิบสี่………ปีแห่งประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกและจดจำ…….!!! หลังจากที่ปูตินได้ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกสมัย วันที่ 1 กันยายน 2004 ได้เดินทางไปที่ Sochi อีกครั้งเพื่อหวังว่าจะได้พักร่าง พักสมอง เพราะที่ผ่านมาต้องพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆจนไม่มีเวลาพักผ่อน เช่น กับ Jacques Chirac (ฝรั่งเศส) Gerhard Schröder (เยอรมัน) ผู้คนส่วนใหญ่จะพักร้อนกันในเดือนสิงหาคม……แต่ปูตินไม่ได้พักเลยเพราะกลุ่มกบฏในเชเชนได้ก่อตัวขึ้นในการปฎิบัติการก่อการร้ายที่หนักข้อขึ้นทุกวัน โดยมีตัวการเป็นหญิงสาวสี่คน คือ Rosa Nagayeva และน้องสาว Amanat….โดยมีเพื่อนสาว Satsita Dzhbirkhanova และ Maryam Taburova ที่ร่วมมือกันวางระเบิดก่อความไม่สงบในหลายพื้นที่ ในวันที่ปิดหีบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้น ได้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อาจเปรียบเสมือนลางร้ายของผู้นำคนใหม่ นั่นคือ ไฟไหม้ที่ อาคาร Manezh ที่ตั้งอยู่ใน Alexsandr Gardens ที่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ตรงข้ามกับเครมลิน ไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จนทะลายลงมาทั้งหลัง ปูตินได้ยืนมองดูเหตุการณ์อยู่ที่ขั้นบนของสภา การกล่าวคำปราศรัยต้องเลื่อนออกไป เพราะไม่เช่นนั้นฉากหลังของการปราศรัยจะเป็นฉากที่เพลิงลุกไหม้ที่พร่าชีวิตของนักดับเพลิงไปสองนาย…… เพื่อแสดงสปิริตของความเป็นนักการเมืองประชาธิปไตยรุ่นใหม่ เขาจึงลดกระแสด้วยการปล่อยตัว MK ให้มาสู้คดีหลังจากที่อยู่ในที่คุมขังประมาณห้าเดือน และ……นั่นคือการเปิดศึกระหว่าง ผู้ที่มีอำนาจกับผู้ที่มีเงิน (จนถึงทุกวันนี้) เป็นช่วงเดียวกันกับที่ปูตินกำลังก้าวขึ้นมาในเส้นทางของนักการเมืองเต็มตัว โดยที่ไม่มีพี่เลี้ยงคอยประกบเหมือนเมื่อก่อน (เยลซิน) และนับว่าเป็นปีทดสอบความเป็นผู้นำที่แสนโหด และแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเอาตัวและชาติรอดมาได้อย่างไร..…?!! เริ่มจาก กระแสความเคลื่อนไหวในการจับกุม MK อภิมหาเศรษฐีคนดัง ที่แม้แต่นายกรัฐมนตรีของเขาเอง Mikhaïl Kesyanov ก็ยังแสดงความไม่พอใจ ถึงกับไปให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ ว่า MK ไม่ได้โกงภาษี…เพียงแต่ใช้ช่องว่างของกฎหมายเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เท่านั้น…… อย่างไรก็ตาม……ไม่ได้มีใครสนใจกับข้อโต้แย้งของเขานัก เพราะทั้งรัสเซียกำลังตื่นเต้นกับ ราคาน้ำมันส่งออกทะยานขึ้นเกินสิบเท่าของที่เคยได้ จาก หกพันล้าน พุ่งขึ้นมาเป็น แปดหมื่นล้านเหรียญ และรัสเซียได้กลายมาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้าซาอุดิ อะเรเบีย และสินค้าอื่นๆเริ่มมีใบสั่งเข้ามายาวเป็นหางว่าว…… แต่ปูตินไม่ได้ปล่อยให้ความคิดเห็นคัดค้านของนายกฯผ่านไป วันที่ 23 กุมภาพันธุ์ หลังจากการประชุมบอร์ดผ่านไป ปูตินให้ นายกฯ คาเซียนอฟ เข้ามาพบ และพูดสั้นๆว่า…… “ต่อไปนี้……คุณหมดหน้าที่แล้วนะ” เป็นการไล่ออกแบบง่ายๆที่ไม่ต้องมีพิธีรีตอง…… และ……ไม่มีการประกาศว่า ใครจะมาแทน…ผู้คนก็เดากันไปต่างๆนานา ว่าอาจจะเป็นคนนั้นคนนี้ จนอาทิตย์หนึ่งผ่านไป ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่ง คือ Mikhaïl Fradkov ที่แสน”โนเนม”จากปีเตอร์สเบอร์ก แต่ไม่โนเนมสำหรับปูติน เพราะ MF (Mikhaïl Fradkov) คนนี้เคยเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในสมัยเยลซิน เป็นผู้เชี่ยวชาญในหลายภาษา เป็นคนตรง…สมถะ และ ไม่สนใจในการเมือง ในขณะที่ปูตินติดต่อไปให้มารับตำแหน่ง ตอนนั้น MF อยู่ที่ Brussels กำลังทำหน้าที่เป็นทูตพานิชย์รัสเซียประจำ EU เมื่อเขาบินมาถึงมอสโคว์ในวันต่อมา เพื่อเข้ารับตำแหน่ง นัดข่าวได้ถามถึงนโยบายในการทำงาน เขาตอบสั้นๆว่า “ก็ทำตามนโยบายของท่านประธานาธิบดี……” วันที่ 1 กันยายน เป็นช่วงเวลาที่เด็กๆกลับเข้าโรงเรียน ที่มีธรรมเนียมที่น่ารัก คือเด็กๆแต่งตัวกันสวยงาม เตรียมของขวัญเล็กๆน้อยๆไปสวัสดีคุณครู ผู้ปกครองพากันตื่นเต้น จูงลูก พาหลานไปพบปะสังสรรกันที่หอประชุมโรงเรียนในวันเปิดเทอมวันแรก ที่เมือง Beslan, North-Ossetia (คอเคซัส) ก็เช่นกัน เหตุการณ์ที่ควรจะเป็นภาพสวยงามนี้ ได้กลายมาเป็นโศกนาฏกรรม ผู้คนประมาณหลายร้อยคนได้ชุมนุมกันที่ลานหน้าโรงเรียน ทันใดนั้น ได้มีรถบรรทุกวิ่งผ่าเข้ามา……ผ่าใบคลุมหลังรถได้เปิดออก กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ตะโกนเรียกพระนาม แล้วกระโดดลงมาพร้อมอาวุธ ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน กลุ่มกบฎได้ต้อนทุกคนเข้าไปอยู่ในโรงยิม …… กลุ่มกบฏ……มีผู้หญิงสองคนรวมอยู่ด้วย นั่นคือ Maryam Taburova และ Rosa Negayeva เป็นการกระทำที่อุกอาจที่ไม่มีใครคาดคิด เพราะเมื่อวันที่ 9 เดือนพฤษภาที่ผ่านมา……ที่เป็นวันฉลองชัยชนะของรัสเซีย ประธานาธิบดีเชเชน Akhmad Kadyrov ที่เพิ่งรับตำแหน่งสดๆร้อนๆได้ไปเป็นประธานในพิธี ได้ถูกลอบวางระเบิดที่กลางงานจนเสียชีวิต เหลือไว้คือลูกชายวัย 27 Ramzan ที่มีเลือดพ่อเต็มร้อย พร้อมลงสานต่อ แต่อายุยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะเป็นผู้นำ จึงต้องคอยไปก่อน ปูตินแต่งตั้งให้ Aslan Maskhadov ขึ้นมาแทนไปก่อน แต่กลุ่มกบฏ……ก็ได้ให้คำเตือนมาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า……Ramzan จะเป็นรายต่อไป…เมื่อมีโอกาส…!! คราวนี้ที่ Beslan ที่ฝ่ายกบฏได้ยื่นความประสงค์กับปูตินว่า กองทัพรัสเซียจะต้องออกไปจากพื้นที่ และประกาศให้เชเชนเป็นเอกราช ซึ่งเชเชนจะร่วมเป็นพันธมิตรและยังคงใช้รูเบิ้ลเป็นสกุลเงินตรา เชเชนจะร่วมมือกับรัสเซียในการพัฒนากองกำลังและฟื้นฟูประเทศ (ที่เป็นเอกราช) ในนามของพระเจ้า ลงชื่อ Shamil Basayev ซึ่ง ชามิลตัวหัวหน้า……มาแต่เพียงในนาม ไม่ได้อยู่รวมในกลุ่ม และข้อเสนอนั้น ……เป็นไปไม่ได้ที่ทางรัสเซียจะยอมรับ การกักตัวผู้คนจำนวนหลายร้อยในที่ที่จำกัด ได้สร้างความทุกข์ทรมานให้กับเด็กๆอย่างแสนสาหัส เพราะไม่มีอาการ ไม่มีน้ำ ผู้ที่ขัดขืนได้ถูกยิงทิ้ง แล้วนำศพโยนออกมาทางหน้าต่าง……จำนวนหลายศพ ในที่สุด วันที่สองของการควบคุมตัว ได้มีการเจรจาขอให้ปล่อยเด็กเล็กกว่าสามสิบคนออกมาได้ วันที่สาม……ฝ่ายเจรจาขอให้มีการนำรถพยาบาลเข้าไปรับศพที่เริ่มบวมออกมาจากสถานที่ ในเวลาตีหนึ่ง ที่หน่วยพยาบาลสี่คนได้เข้าไปพร้อมรถตามกำหนดการ เมื่อไปถึง……เพียงสองนาทีผ่านไป…..ได้เกิดระเบิดขึ้น ที่ทำให้ผนังของโรงยิมได้เปิดออก หลังคาเปิง คราวนี้……ฝ่ายกบฏได้เปิดฉากยิงมั่วซั่ว ขว้างระเบิดมือท่ามกลางฝุ่นที่ตลบคลุ้ง เป็นการโกลาหลจนสุดบรรยาย เพราะผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นเชลยไม่อยู่ในสภาพที่จะหลบหนีได้ พวกเขาอ่อนเปลี้ยจนเกินไป เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไป ทั้งหมดในนั้นเสียชีวิต จำนวนเชลย 334 คน (เด็กโต 186 คน) คอมมานโด 10 คน ผู้ก่อการ 30 คน (ผู้หญิง 2) อันเป็นข่าวที่น่าสลดใจไปยังรอบโลก ที่มีการค้นหาความจริง ว่า ระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น มาจากระเบิดที่ทางฝ่ายคณะผู้ก่อการได้วางสายเอาไว้แล้วเกิดการผิดพลาด…จนเป็นที่มาของโศกนาฏกรรมหมู่ ปูติน..พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้มีการสูญเสีย เพราะประสบการณ์จากโรงละครที่ทำให้เขาไม่ยอมใช้วิธีการยาสลบพ่นเข้าไป เขาหวังในการเจรจา……ที่ควรจะมีการต่อรองกับ Shamil โดยตรง ไม่ผ่านตัวกลาง แต่นั่นหมายถึงว่า แม้ว่าเขาจะเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับการสูญเสียครั้งใหญ่เขายังต้องตอบคำถามที่หลั่งไหลเข้ามาจากนักข่าว โดยเฉพาะฝ่ายศัตรูที่คอยเล่นงานทิ่มแทง วันที่ 13 กันยายน หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญโลกที่ Beslan พวกที่นั่งในสภา 150 ที่นั่งที่ได้รับเลือกตั้งมา (จากต่างพรรค) ที่ปูตินเรียกสัมภาษณ์รายคน ถึง จุดมุ่งหมายในความคิดและนโยบายที่มีต่อประเทศ แต่ละรายเพ้อเจ้อในเรื่องของความเป็นประชาธิปไตยที่เอนเอียงไปในทางที่จะให้เอกราชกับเชเชน… ปูตินจีงประกาศสั่งระงับการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอ หรือ นายกเทศมนตรี ทุกอย่างขะงักกึก……… เท่ากับว่า มอสโคว์คือศูนย์กลางของการปกครองเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เปรียบได้ว่าการปกครองได้กลับเข้าไปสู่ยุคของคอมมิวนิสต์ เพราะเขาได้ประกาศว่า…… “ประชากรชาวรัสเชี่ยนของเรา ยังมีความคิดล้าหลัง ยังไม่ปรับตัวให้ทันกับสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตยที่มาถึงพร้อมกับความชั่วร้าย ……เราต้องใช้เวลากับการทำความรู้จักกับมัน……เพราะสิ่งที่จะใช้ได้ผลที่สุดในยามนี้ คือการยืนค่อนไปทางซ้าย..(ระบอบคอมมิวนิสต์)” พรรคฝ่ายซ้ายขานรับกันจ้าละหวั่น และ เสนอตัวกันอย่างแข็งขันในการร่วมมือ … ~~~หลังจากการก่อการร้ายของ Shamil Basayev ที่ได้สร้างความเขย่าขวัญนานหลายปี ตั้งแต่วางแผนจับตัวประกันที่โรงละคร และ ที่โรงเรียน รวมทั้งที่อื่นๆทั่วรัสเซียนานกว่าสิบปี ฝ่าย FSB ได้ถือว่า ชามิล คือ อาชญากรที่ทางแารรัสเซียต้องการตัวที่สุด ในที่สุด การ”ล่อซื้อ” ได้เกิดขึ้น ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2006 นั่นคือ การค้าขายอาวุธให้กับกลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่เป็นล๊อตขนาดใหญ่ ที่มีจุดรับของที่หมู่บ้าน Ekazhevo ชามิล และคณะมารอรับ และเมื่อรถบรรทุกอาวุธที่ว่ามาถึง ระหว่างที่มีการตรวจคุณภาพของกัน รถบรรทุกได้เกิดระเบิดขึ้น คร่าชีวิตของชามิลและคณะนับสิบคน…ตามวัตถุประสงค์ของ FSB ……!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1261 มุมมอง 0 รีวิว
  • Like
    Love
    Yay
    Wow
    126
    6 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 7768 มุมมอง 1 รีวิว