• Google กำลังก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ด้วยโครงการ "100 Zeros" ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ Range Media Partners โดยมีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมเทคโนโลยีและปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์

    โครงการนี้จะช่วยให้ Google มีบทบาทในวงการบันเทิง โดยสนับสนุนทั้ง ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี นอกจากนี้ Google ยังต้องการให้ ตัวละครในภาพยนตร์ใช้ Android แทน iPhone เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้ชม

    Google เปิดตัวโครงการ "100 Zeros" เพื่อเข้าสู่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์
    - เป็นความร่วมมือกับ Range Media Partners
    - มีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมเทคโนโลยีและปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์

    สนับสนุนทั้งภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
    - Google หวังว่า โครงการนี้จะช่วยให้ผู้สร้างภาพยนตร์นำเทคโนโลยีของ Google ไปใช้
    - รวมถึง Immersive View ใน Maps และเครื่องมือ AI ต่าง ๆ

    Google ต้องการให้ตัวละครในภาพยนตร์ใช้ Android แทน iPhone
    - เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้ชม
    - อย่างไรก็ตาม Google ระบุว่าไม่ต้องการบังคับให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ของตนในภาพยนตร์

    YouTube จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้
    - Google ต้องการขายโครงการให้กับ สตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแบบดั้งเดิม

    โครงการ AI On Screen จะช่วยพัฒนาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ AI
    - Google และ Range จะใช้เวลา 18 เดือนในการพัฒนาและผลิตภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ AI

    https://www.techspot.com/news/107814-google-launches-100-zeros-movie-tv-venture-boost.html
    Google กำลังก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ด้วยโครงการ "100 Zeros" ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ Range Media Partners โดยมีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมเทคโนโลยีและปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ โครงการนี้จะช่วยให้ Google มีบทบาทในวงการบันเทิง โดยสนับสนุนทั้ง ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี นอกจากนี้ Google ยังต้องการให้ ตัวละครในภาพยนตร์ใช้ Android แทน iPhone เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้ชม ✅ Google เปิดตัวโครงการ "100 Zeros" เพื่อเข้าสู่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ - เป็นความร่วมมือกับ Range Media Partners - มีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมเทคโนโลยีและปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ✅ สนับสนุนทั้งภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี - Google หวังว่า โครงการนี้จะช่วยให้ผู้สร้างภาพยนตร์นำเทคโนโลยีของ Google ไปใช้ - รวมถึง Immersive View ใน Maps และเครื่องมือ AI ต่าง ๆ ✅ Google ต้องการให้ตัวละครในภาพยนตร์ใช้ Android แทน iPhone - เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้ชม - อย่างไรก็ตาม Google ระบุว่าไม่ต้องการบังคับให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ของตนในภาพยนตร์ ✅ YouTube จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ - Google ต้องการขายโครงการให้กับ สตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแบบดั้งเดิม ✅ โครงการ AI On Screen จะช่วยพัฒนาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ AI - Google และ Range จะใช้เวลา 18 เดือนในการพัฒนาและผลิตภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ AI https://www.techspot.com/news/107814-google-launches-100-zeros-movie-tv-venture-boost.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google launches "100 Zeros" movie and TV venture to boost its brand image
    Range Media Partners, the talent firm and production company that produced Longlegs and A Complete Unknown, has been tasked with finding both scripted and unscripted projects that...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังพัฒนา โหมดเดสก์ท็อปใหม่สำหรับ Android 16 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี โดยเชื่อมต่อกับ หน้าจอภายนอกผ่าน USB-C

    โหมดนี้คล้ายกับ Samsung DeX แต่ได้รับการออกแบบให้ รองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้ดีขึ้น โดยมี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป, หน้าต่างที่ปรับขนาดได้ และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป

    Google กำลังพัฒนาโหมดเดสก์ท็อปสำหรับ Android 16
    - ช่วยให้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี
    - รองรับ การเชื่อมต่อกับหน้าจอภายนอกผ่าน USB-C

    คล้ายกับ Samsung DeX แต่มีฟีเจอร์ที่ปรับปรุงใหม่
    - มี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป
    - รองรับ หน้าต่างที่ปรับขนาดได้และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป

    สามารถเปิดแอปหลายตัวพร้อมกันในหน้าต่างลอย
    - ช่วยให้ การทำงานแบบมัลติทาสก์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - แอปสามารถ จัดเรียงและปรับขนาดได้ตามต้องการ

    Google ทดสอบฟีเจอร์นี้บน Pixel 8 Pro ที่ใช้ Android 16 Beta
    - คาดว่า จะเปิดตัวใน Android 17 หากยังไม่พร้อมสำหรับ Android 16

    https://www.techspot.com/news/107810-android-16-beta-reveals-new-desktop-mode-turn.html
    Google กำลังพัฒนา โหมดเดสก์ท็อปใหม่สำหรับ Android 16 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี โดยเชื่อมต่อกับ หน้าจอภายนอกผ่าน USB-C โหมดนี้คล้ายกับ Samsung DeX แต่ได้รับการออกแบบให้ รองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้ดีขึ้น โดยมี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป, หน้าต่างที่ปรับขนาดได้ และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป ✅ Google กำลังพัฒนาโหมดเดสก์ท็อปสำหรับ Android 16 - ช่วยให้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี - รองรับ การเชื่อมต่อกับหน้าจอภายนอกผ่าน USB-C ✅ คล้ายกับ Samsung DeX แต่มีฟีเจอร์ที่ปรับปรุงใหม่ - มี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป - รองรับ หน้าต่างที่ปรับขนาดได้และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป ✅ สามารถเปิดแอปหลายตัวพร้อมกันในหน้าต่างลอย - ช่วยให้ การทำงานแบบมัลติทาสก์มีประสิทธิภาพมากขึ้น - แอปสามารถ จัดเรียงและปรับขนาดได้ตามต้องการ ✅ Google ทดสอบฟีเจอร์นี้บน Pixel 8 Pro ที่ใช้ Android 16 Beta - คาดว่า จะเปิดตัวใน Android 17 หากยังไม่พร้อมสำหรับ Android 16 https://www.techspot.com/news/107810-android-16-beta-reveals-new-desktop-mode-turn.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Android 16 beta reveals new desktop mode to turn your phone into a PC
    Google appears poised to bring a full-fledged desktop experience to Android users. The search giant recently enabled the new functionality on a Pixel 8 Pro running the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Sansec ได้เปิดเผยว่า การโจมตีซัพพลายเชนที่แฝงตัวมานานกว่า 6 ปี ได้ถูกเปิดใช้งาน ส่งผลกระทบต่อ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหลายร้อยแห่ง

    แฮกเกอร์ได้ แทรกแบ็คดอร์ลงในซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการเครื่องมืออีคอมเมิร์ซ ซึ่งรวมถึง Tigren, Magesolution และ Meetanshi โดยแบ็คดอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ขโมยข้อมูลการชำระเงินของผู้ใช้ ผ่านการโจมตีแบบ Magecart

    การโจมตีซัพพลายเชนแฝงตัวมานานกว่า 6 ปี ก่อนถูกเปิดใช้งาน
    - แฮกเกอร์ แทรกแบ็คดอร์ลงในซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการเครื่องมืออีคอมเมิร์ซ
    - ส่งผลกระทบต่อ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซระหว่าง 500–1,000 แห่ง

    แบ็คดอร์ถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลการชำระเงินของผู้ใช้
    - ใช้เทคนิค Magecart ซึ่งเป็นการโจมตีที่ ฝังโค้ดอันตรายในเว็บไซต์เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต
    - แฮกเกอร์สามารถ เข้าถึงข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดที่ใช้เว็บไซต์ที่ได้รับผลกระทบ

    ผู้ให้บริการที่ถูกโจมตี ได้แก่ Tigren, Magesolution และ Meetanshi
    - Tigren และ Magesolution ยังคงแจกจ่ายซอฟต์แวร์ที่ถูกแฮก แม้จะได้รับการแจ้งเตือน
    - Meetanshi ยอมรับว่าถูกโจมตี แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

    Sansec ได้เผยแพร่แนวทางตรวจสอบว่าระบบถูกโจมตีหรือไม่
    - หนึ่งในตัวบ่งชี้คือ ฟังก์ชัน PHP ที่พยายามโหลดไฟล์ $licenseFile ซึ่งนำไปสู่การฉีดโค้ดอันตราย

    https://www.techspot.com/news/107817-supply-chain-attack-lies-dormant-six-years-before.html
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Sansec ได้เปิดเผยว่า การโจมตีซัพพลายเชนที่แฝงตัวมานานกว่า 6 ปี ได้ถูกเปิดใช้งาน ส่งผลกระทบต่อ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหลายร้อยแห่ง แฮกเกอร์ได้ แทรกแบ็คดอร์ลงในซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการเครื่องมืออีคอมเมิร์ซ ซึ่งรวมถึง Tigren, Magesolution และ Meetanshi โดยแบ็คดอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ขโมยข้อมูลการชำระเงินของผู้ใช้ ผ่านการโจมตีแบบ Magecart ✅ การโจมตีซัพพลายเชนแฝงตัวมานานกว่า 6 ปี ก่อนถูกเปิดใช้งาน - แฮกเกอร์ แทรกแบ็คดอร์ลงในซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการเครื่องมืออีคอมเมิร์ซ - ส่งผลกระทบต่อ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซระหว่าง 500–1,000 แห่ง ✅ แบ็คดอร์ถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลการชำระเงินของผู้ใช้ - ใช้เทคนิค Magecart ซึ่งเป็นการโจมตีที่ ฝังโค้ดอันตรายในเว็บไซต์เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต - แฮกเกอร์สามารถ เข้าถึงข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดที่ใช้เว็บไซต์ที่ได้รับผลกระทบ ✅ ผู้ให้บริการที่ถูกโจมตี ได้แก่ Tigren, Magesolution และ Meetanshi - Tigren และ Magesolution ยังคงแจกจ่ายซอฟต์แวร์ที่ถูกแฮก แม้จะได้รับการแจ้งเตือน - Meetanshi ยอมรับว่าถูกโจมตี แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ✅ Sansec ได้เผยแพร่แนวทางตรวจสอบว่าระบบถูกโจมตีหรือไม่ - หนึ่งในตัวบ่งชี้คือ ฟังก์ชัน PHP ที่พยายามโหลดไฟล์ $licenseFile ซึ่งนำไปสู่การฉีดโค้ดอันตราย https://www.techspot.com/news/107817-supply-chain-attack-lies-dormant-six-years-before.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Supply-chain attack lies dormant for six years before striking hundreds of e-commerce sites
    At least three vendors of e-commerce software tools were compromised in a coordinated supply chain attack dating back at least six years. According to security firm Sansec,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักการเมืองสหรัฐฯ กำลังผลักดันร่างกฎหมายใหม่เพื่อ ติดตามชิป Nvidia ที่ถูกลักลอบนำเข้าสู่จีน โดยใช้ เทคโนโลยีติดตามที่ฝังอยู่ในชิป ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยเปิดเผยมาก่อน

    ร่างกฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อ ป้องกันไม่ให้จีนนำชิป Nvidia ไปใช้ในการฝึก AI ที่อาจเป็นภัยต่อสหรัฐฯ โดยนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรชิปบางรายระบุว่า Nvidia สามารถติดตามตำแหน่งของ GPU ประสิทธิภาพสูงได้แล้ว

    ร่างกฎหมายใหม่ของสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อติดตามชิป Nvidia ที่ถูกลักลอบนำเข้าสู่จีน
    - ใช้ เทคโนโลยีติดตามที่ฝังอยู่ในชิป ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยเปิดเผยมาก่อน
    - ป้องกัน การนำชิปไปใช้ในการฝึก AI ที่อาจเป็นภัยต่อสหรัฐฯ

    นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรชิประบุว่า Nvidia สามารถติดตามตำแหน่งของ GPU ได้แล้ว
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ สามารถระบุตำแหน่งของชิปได้ในระดับประเทศ
    - ใช้วิธี วัดเวลาการส่งข้อมูลระหว่างชิปกับเซิร์ฟเวอร์

    Bureau of Industry and Security (BIS) ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของชิปที่ถูกลักลอบนำเข้า
    - หากสามารถติดตามได้ จะช่วยให้ BIS สามารถบังคับใช้กฎหมายควบคุมการส่งออกได้ดีขึ้น

    นักการเมืองสหรัฐฯ กังวลว่าจีนอาจใช้ชิป Nvidia ในการพัฒนาอาวุธหรือ AI ขั้นสูง
    - อาจเป็นภัยคุกคามที่ ร้ายแรงเทียบเท่ากับเทคโนโลยีนิวเคลียร์

    https://www.techspot.com/news/107820-us-politicians-want-track-location-nvidia-chips-smuggled.html
    นักการเมืองสหรัฐฯ กำลังผลักดันร่างกฎหมายใหม่เพื่อ ติดตามชิป Nvidia ที่ถูกลักลอบนำเข้าสู่จีน โดยใช้ เทคโนโลยีติดตามที่ฝังอยู่ในชิป ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ร่างกฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อ ป้องกันไม่ให้จีนนำชิป Nvidia ไปใช้ในการฝึก AI ที่อาจเป็นภัยต่อสหรัฐฯ โดยนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรชิปบางรายระบุว่า Nvidia สามารถติดตามตำแหน่งของ GPU ประสิทธิภาพสูงได้แล้ว ✅ ร่างกฎหมายใหม่ของสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อติดตามชิป Nvidia ที่ถูกลักลอบนำเข้าสู่จีน - ใช้ เทคโนโลยีติดตามที่ฝังอยู่ในชิป ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยเปิดเผยมาก่อน - ป้องกัน การนำชิปไปใช้ในการฝึก AI ที่อาจเป็นภัยต่อสหรัฐฯ ✅ นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรชิประบุว่า Nvidia สามารถติดตามตำแหน่งของ GPU ได้แล้ว - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ สามารถระบุตำแหน่งของชิปได้ในระดับประเทศ - ใช้วิธี วัดเวลาการส่งข้อมูลระหว่างชิปกับเซิร์ฟเวอร์ ✅ Bureau of Industry and Security (BIS) ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของชิปที่ถูกลักลอบนำเข้า - หากสามารถติดตามได้ จะช่วยให้ BIS สามารถบังคับใช้กฎหมายควบคุมการส่งออกได้ดีขึ้น ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ กังวลว่าจีนอาจใช้ชิป Nvidia ในการพัฒนาอาวุธหรือ AI ขั้นสูง - อาจเป็นภัยคุกคามที่ ร้ายแรงเทียบเท่ากับเทคโนโลยีนิวเคลียร์ https://www.techspot.com/news/107820-us-politicians-want-track-location-nvidia-chips-smuggled.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US politicians want to track Nvidia chips smuggled to China
    A former particle physicist and chip designer is advocating for US authorities to adopt an effective method for tracking Nvidia GPUs. "The technology is already there," a...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตผู้บริหาร PlayStation Shuhei Yoshida ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การขึ้นราคาวิดีโอเกม โดยระบุว่า เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ คุณค่าของเกมที่ไม่สอดคล้องกับราคาที่เพิ่มขึ้น

    ปัจจุบัน เกม AAA หลายเกมมีราคาสูงถึง $70 หรือมากกว่า โดยผู้พัฒนาให้เหตุผลว่า ต้นทุนการพัฒนาเพิ่มขึ้นและเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจำนวนมาก เริ่มหลีกเลี่ยงการซื้อเกมวันแรก เนื่องจาก เกมใหม่หลายเกมไม่สามารถให้คุณค่าเทียบเท่ากับราคาที่ต้องจ่าย

    เกม AAA หลายเกมมีราคาสูงถึง $70 หรือมากกว่า
    - ผู้พัฒนาให้เหตุผลว่า ต้นทุนการพัฒนาเพิ่มขึ้นและเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญ
    - ผู้เล่นจำนวนมาก เริ่มหลีกเลี่ยงการซื้อเกมวันแรก

    Nintendo และ Microsoft กำลังปรับราคาขึ้น
    - เกมสำหรับ Nintendo Switch 2 อาจมีราคาสูงถึง $80
    - มีรายงานว่า GTA 6 อาจมีราคาสูงกว่า $100

    Shuhei Yoshida ระบุว่าผู้เล่นต้องการเกมที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้น แต่ไม่ต้องการให้ราคาสูงขึ้น
    - เขาเรียกสถานการณ์นี้ว่า "สมการที่เป็นไปไม่ได้"
    - ผู้เล่นต้องการ เกมที่มีคุณภาพสูงขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายแพงขึ้น

    เกมจากทีมพัฒนาเล็ก ๆ เช่น Clair Obscur: Expedition 33 แสดงให้เห็นว่าเกมคุณภาพสูงสามารถสร้างได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนมหาศาล
    - เกมนี้ถูกพัฒนาโดยทีม 30 คน และขายได้ 1 ล้านชุดภายใน 3 วัน
    - ต้นทุนต่ำกว่าการพัฒนาเกม AAA แต่ยังคงให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม

    Yoshida เชื่อว่า AI อาจช่วยลดต้นทุนการพัฒนาเกมในอนาคต
    - เขากล่าวว่า เครื่องมือ AI เช่น Microsoft's Muse อาจช่วยให้ทีมพัฒนาเกมขนาดเล็กสามารถสร้างเกมได้ง่ายขึ้น

    https://www.techspot.com/news/107821-former-playstation-boss-gaming-price-hikes-inevitable-but.html
    อดีตผู้บริหาร PlayStation Shuhei Yoshida ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การขึ้นราคาวิดีโอเกม โดยระบุว่า เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ คุณค่าของเกมที่ไม่สอดคล้องกับราคาที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบัน เกม AAA หลายเกมมีราคาสูงถึง $70 หรือมากกว่า โดยผู้พัฒนาให้เหตุผลว่า ต้นทุนการพัฒนาเพิ่มขึ้นและเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจำนวนมาก เริ่มหลีกเลี่ยงการซื้อเกมวันแรก เนื่องจาก เกมใหม่หลายเกมไม่สามารถให้คุณค่าเทียบเท่ากับราคาที่ต้องจ่าย ✅ เกม AAA หลายเกมมีราคาสูงถึง $70 หรือมากกว่า - ผู้พัฒนาให้เหตุผลว่า ต้นทุนการพัฒนาเพิ่มขึ้นและเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญ - ผู้เล่นจำนวนมาก เริ่มหลีกเลี่ยงการซื้อเกมวันแรก ✅ Nintendo และ Microsoft กำลังปรับราคาขึ้น - เกมสำหรับ Nintendo Switch 2 อาจมีราคาสูงถึง $80 - มีรายงานว่า GTA 6 อาจมีราคาสูงกว่า $100 ✅ Shuhei Yoshida ระบุว่าผู้เล่นต้องการเกมที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้น แต่ไม่ต้องการให้ราคาสูงขึ้น - เขาเรียกสถานการณ์นี้ว่า "สมการที่เป็นไปไม่ได้" - ผู้เล่นต้องการ เกมที่มีคุณภาพสูงขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายแพงขึ้น ✅ เกมจากทีมพัฒนาเล็ก ๆ เช่น Clair Obscur: Expedition 33 แสดงให้เห็นว่าเกมคุณภาพสูงสามารถสร้างได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนมหาศาล - เกมนี้ถูกพัฒนาโดยทีม 30 คน และขายได้ 1 ล้านชุดภายใน 3 วัน - ต้นทุนต่ำกว่าการพัฒนาเกม AAA แต่ยังคงให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ✅ Yoshida เชื่อว่า AI อาจช่วยลดต้นทุนการพัฒนาเกมในอนาคต - เขากล่าวว่า เครื่องมือ AI เช่น Microsoft's Muse อาจช่วยให้ทีมพัฒนาเกมขนาดเล็กสามารถสร้างเกมได้ง่ายขึ้น https://www.techspot.com/news/107821-former-playstation-boss-gaming-price-hikes-inevitable-but.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Former PlayStation boss says gaming price hikes are inevitable, but lack of value is the real issue
    Many players have opted out of day-one releases as big-name publishers rapidly raise game prices. Nintendo's upcoming Switch 2 titles will cost as much as $80, Microsoft...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia และ MediaTek กำลังเตรียมเปิดตัว AI PC รุ่นใหม่ ที่ใช้ ชิป Arm ในงาน Computex 2025 ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาด Windows บน Arm

    ก่อนหน้านี้ Nvidia เคยกล่าวว่า ให้รอหนึ่งปีสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AI PC และตอนนี้มีรายงานว่า บริษัทจะเปิดตัวชิป Arm สำหรับผู้บริโภค ในเดือนนี้ โดย MediaTek จะจัด Keynote ในวันที่ 20 พฤษภาคม หนึ่งวันหลังจาก Nvidia

    Nvidia และ MediaTek เตรียมเปิดตัว AI PC รุ่นใหม่ในงาน Computex 2025
    - อาจเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาด Windows บน Arm
    - MediaTek จะจัด Keynote ในวันที่ 20 พฤษภาคม หนึ่งวันหลังจาก Nvidia

    AI PC รุ่นใหม่จะใช้ชิป Arm และ GPU ของ Nvidia
    - อาจเป็น รุ่นที่มีราคาถูกกว่าตัวต้นแบบที่เปิดตัวใน CES 2025
    - อาจเป็น คู่แข่งของ Mac Mini ที่ใช้ชิป M4

    MediaTek ได้รับคำสั่งผลิตชิปแบบ FCBGA จำนวนมาก
    - บ่งชี้ว่า บริษัทกำลังเตรียมเปิดตัว PC ที่ใช้ชิปแบบฝัง

    Nvidia และ MediaTek เคยเปิดตัว Project Digits ซึ่งเป็น Mini PC สำหรับ AI
    - ใช้ CPU MediaTek 20-core GB10, RAM 128GB และ GPU Nvidia Blackwell
    - ออกแบบมาเพื่อ ทดสอบ AI โดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud

    https://www.techspot.com/news/107822-nvidia-mediatek-may-finally-unveil-their-ai-pc.html
    Nvidia และ MediaTek กำลังเตรียมเปิดตัว AI PC รุ่นใหม่ ที่ใช้ ชิป Arm ในงาน Computex 2025 ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาด Windows บน Arm ก่อนหน้านี้ Nvidia เคยกล่าวว่า ให้รอหนึ่งปีสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AI PC และตอนนี้มีรายงานว่า บริษัทจะเปิดตัวชิป Arm สำหรับผู้บริโภค ในเดือนนี้ โดย MediaTek จะจัด Keynote ในวันที่ 20 พฤษภาคม หนึ่งวันหลังจาก Nvidia ✅ Nvidia และ MediaTek เตรียมเปิดตัว AI PC รุ่นใหม่ในงาน Computex 2025 - อาจเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาด Windows บน Arm - MediaTek จะจัด Keynote ในวันที่ 20 พฤษภาคม หนึ่งวันหลังจาก Nvidia ✅ AI PC รุ่นใหม่จะใช้ชิป Arm และ GPU ของ Nvidia - อาจเป็น รุ่นที่มีราคาถูกกว่าตัวต้นแบบที่เปิดตัวใน CES 2025 - อาจเป็น คู่แข่งของ Mac Mini ที่ใช้ชิป M4 ✅ MediaTek ได้รับคำสั่งผลิตชิปแบบ FCBGA จำนวนมาก - บ่งชี้ว่า บริษัทกำลังเตรียมเปิดตัว PC ที่ใช้ชิปแบบฝัง ✅ Nvidia และ MediaTek เคยเปิดตัว Project Digits ซึ่งเป็น Mini PC สำหรับ AI - ใช้ CPU MediaTek 20-core GB10, RAM 128GB และ GPU Nvidia Blackwell - ออกแบบมาเพื่อ ทดสอบ AI โดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud https://www.techspot.com/news/107822-nvidia-mediatek-may-finally-unveil-their-ai-pc.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia and MediaTek may finally unveil their AI PC this month
    Nvidia and MediaTek are expected to introduce more affordable variants of the AI PC they showcased at CES last January, according to reports from both ComputerBase and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้ประกาศว่า CUDA Toolkit รุ่นถัดไปจะไม่รองรับสถาปัตยกรรม Maxwell, Pascal และ Volta ซึ่งหมายความว่า นักพัฒนาจะไม่สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่รองรับ GPU เหล่านี้ได้อีกต่อไป

    แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะ ไม่ส่งผลต่อไดรเวอร์ GeForce แต่จะมีผลต่อ การคอมไพล์โค้ดและการใช้ไลบรารี CUDA เช่น cuBLAS และ cuDNN ซึ่งจะไม่รองรับ GPU ที่ใช้สถาปัตยกรรมเหล่านี้อีกต่อไป

    CUDA Toolkit รุ่นถัดไปจะไม่รองรับสถาปัตยกรรม Maxwell, Pascal และ Volta
    - นักพัฒนาจะ ไม่สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่รองรับ GPU เหล่านี้ได้อีกต่อไป
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ส่งผลต่อไดรเวอร์ GeForce

    การคอมไพล์โค้ดและการใช้ไลบรารี CUDA จะได้รับผลกระทบ
    - ไลบรารีเช่น cuBLAS และ cuDNN จะไม่รองรับ GPU Maxwell, Pascal และ Volta
    - นักพัฒนาต้อง เปลี่ยนไปใช้สถาปัตยกรรมใหม่ เช่น Ampere หรือ Blackwell

    Maxwell, Pascal และ Volta เป็นสถาปัตยกรรมที่มีบทบาทสำคัญในอดีต
    - Maxwell (2014) ใช้ใน GTX 900 Series และ Nintendo Switch รุ่นแรก
    - Pascal (2016) เป็นพื้นฐานของ GTX 1080 Ti และ Tesla P4
    - Volta (2017) เปิดตัว Tensor Cores และเป็นรากฐานของ AI acceleration

    Nvidia ยังไม่ได้ระบุวันที่แน่นอนสำหรับการเปิดตัว CUDA Toolkit รุ่นใหม่
    - คาดว่าจะเป็น CUDA 13.x แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนรุ่นย่อยใน 12.9.x

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-to-drop-cuda-support-for-maxwell-pascal-and-volta-gpus-with-the-next-major-toolkit-release
    Nvidia ได้ประกาศว่า CUDA Toolkit รุ่นถัดไปจะไม่รองรับสถาปัตยกรรม Maxwell, Pascal และ Volta ซึ่งหมายความว่า นักพัฒนาจะไม่สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่รองรับ GPU เหล่านี้ได้อีกต่อไป แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะ ไม่ส่งผลต่อไดรเวอร์ GeForce แต่จะมีผลต่อ การคอมไพล์โค้ดและการใช้ไลบรารี CUDA เช่น cuBLAS และ cuDNN ซึ่งจะไม่รองรับ GPU ที่ใช้สถาปัตยกรรมเหล่านี้อีกต่อไป ✅ CUDA Toolkit รุ่นถัดไปจะไม่รองรับสถาปัตยกรรม Maxwell, Pascal และ Volta - นักพัฒนาจะ ไม่สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่รองรับ GPU เหล่านี้ได้อีกต่อไป - การเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ส่งผลต่อไดรเวอร์ GeForce ✅ การคอมไพล์โค้ดและการใช้ไลบรารี CUDA จะได้รับผลกระทบ - ไลบรารีเช่น cuBLAS และ cuDNN จะไม่รองรับ GPU Maxwell, Pascal และ Volta - นักพัฒนาต้อง เปลี่ยนไปใช้สถาปัตยกรรมใหม่ เช่น Ampere หรือ Blackwell ✅ Maxwell, Pascal และ Volta เป็นสถาปัตยกรรมที่มีบทบาทสำคัญในอดีต - Maxwell (2014) ใช้ใน GTX 900 Series และ Nintendo Switch รุ่นแรก - Pascal (2016) เป็นพื้นฐานของ GTX 1080 Ti และ Tesla P4 - Volta (2017) เปิดตัว Tensor Cores และเป็นรากฐานของ AI acceleration ✅ Nvidia ยังไม่ได้ระบุวันที่แน่นอนสำหรับการเปิดตัว CUDA Toolkit รุ่นใหม่ - คาดว่าจะเป็น CUDA 13.x แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนรุ่นย่อยใน 12.9.x https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-to-drop-cuda-support-for-maxwell-pascal-and-volta-gpus-with-the-next-major-toolkit-release
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arctic ได้อัปเดตระบบ MX Authenticity Check ซึ่งเป็น ระบบตรวจสอบความแท้ของสารนำความร้อน ผ่าน QR Code แบบขูด เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของตนได้อย่างรวดเร็ว

    บริษัทระบุว่า การปลอมแปลงสารนำความร้อนกำลังเพิ่มขึ้น และต้องการให้ลูกค้า มั่นใจว่าได้รับผลิตภัณฑ์ Arctic ของแท้ โดยกระบวนการตรวจสอบใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที

    Arctic อัปเดตระบบ MX Authenticity Check เพื่อป้องกันสารนำความร้อนปลอม
    - ใช้ QR Code แบบขูด เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของตนได้อย่างรวดเร็ว
    - กระบวนการตรวจสอบใช้เวลาเพียง ไม่กี่วินาที

    การปลอมแปลงสารนำความร้อนกำลังเพิ่มขึ้น
    - Arctic ต้องการให้ลูกค้า มั่นใจว่าได้รับผลิตภัณฑ์ของแท้
    - สารนำความร้อนมีบทบาทสำคัญในการ ถ่ายเทความร้อนจาก CPU ไปยังฮีตซิงก์

    กระบวนการตรวจสอบมี 4 ขั้นตอน
    - ตรวจสอบ ซีลของผลิตภัณฑ์
    - ขูดเพื่อเผย QR Code
    - สแกน QR Code ด้วยมือถือ
    - ตรวจสอบความแท้ผ่านเว็บไซต์ของ Arctic

    Arctic MX-4 และ MX-6 เป็นสารนำความร้อนที่ได้รับความนิยม
    - ใช้ในการทดสอบ CPU ของ Tom's Hardware
    - มีคุณสมบัติ ช่วยให้การถ่ายเทความร้อนมีประสิทธิภาพสูง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-paste/to-combat-counterfeit-thermal-paste-arctic-rolls-out-scratch-off-qr-code-authentication
    Arctic ได้อัปเดตระบบ MX Authenticity Check ซึ่งเป็น ระบบตรวจสอบความแท้ของสารนำความร้อน ผ่าน QR Code แบบขูด เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของตนได้อย่างรวดเร็ว บริษัทระบุว่า การปลอมแปลงสารนำความร้อนกำลังเพิ่มขึ้น และต้องการให้ลูกค้า มั่นใจว่าได้รับผลิตภัณฑ์ Arctic ของแท้ โดยกระบวนการตรวจสอบใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ✅ Arctic อัปเดตระบบ MX Authenticity Check เพื่อป้องกันสารนำความร้อนปลอม - ใช้ QR Code แบบขูด เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของตนได้อย่างรวดเร็ว - กระบวนการตรวจสอบใช้เวลาเพียง ไม่กี่วินาที ✅ การปลอมแปลงสารนำความร้อนกำลังเพิ่มขึ้น - Arctic ต้องการให้ลูกค้า มั่นใจว่าได้รับผลิตภัณฑ์ของแท้ - สารนำความร้อนมีบทบาทสำคัญในการ ถ่ายเทความร้อนจาก CPU ไปยังฮีตซิงก์ ✅ กระบวนการตรวจสอบมี 4 ขั้นตอน - ตรวจสอบ ซีลของผลิตภัณฑ์ - ขูดเพื่อเผย QR Code - สแกน QR Code ด้วยมือถือ - ตรวจสอบความแท้ผ่านเว็บไซต์ของ Arctic ✅ Arctic MX-4 และ MX-6 เป็นสารนำความร้อนที่ได้รับความนิยม - ใช้ในการทดสอบ CPU ของ Tom's Hardware - มีคุณสมบัติ ช่วยให้การถ่ายเทความร้อนมีประสิทธิภาพสูง https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-paste/to-combat-counterfeit-thermal-paste-arctic-rolls-out-scratch-off-qr-code-authentication
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    To combat counterfeit thermal paste, Arctic updates scratch-off QR code authentication
    The MX Authenticity Check online QR-code-based system will confirm whether your Arctic-branded MX-4 or MX-6 thermal compound purchase is genuine.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • OneChipBook-12 เป็น ชุดพัฒนา FPGA แบบพกพา ที่ออกแบบมาเพื่อ นักพัฒนาฮาร์ดแวร์และผู้ที่สนใจคอมพิวเตอร์ย้อนยุค โดยมี หน้าจอในตัวและคีย์บอร์ดแบบกลไก

    อุปกรณ์นี้ใช้ ชิป Altera Cyclone EP1C12Q240 ซึ่งมี 12,000 logic elements และ RAM 240kbits พร้อม SDRAM 32MB และช่องใส่ SD Card รองรับ FAT16 ทำให้เหมาะสำหรับ

    OneChipBook-12 เป็นชุดพัฒนา FPGA แบบพกพา
    - มี หน้าจอในตัวและคีย์บอร์ดแบบกลไก
    - ออกแบบมาเพื่อ นักพัฒนาฮาร์ดแวร์และผู้ที่สนใจคอมพิวเตอร์ย้อนยุค

    ใช้ชิป Altera Cyclone EP1C12Q240
    - มี 12,000 logic elements และ RAM 240kbits
    - รองรับ SDRAM 32MB และช่องใส่ SD Card (FAT16)

    มีพอร์ต I/O หลากหลาย
    - รองรับ PS/2, DB9 joystick, USB Type-A, VGA, S-Video และ composite video
    - มี ลำโพงสเตอริโอ, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และปุ่มปรับระดับเสียง

    สามารถซื้อได้ผ่าน Tindie, eBay และ AliExpress
    - ราคาอยู่ที่ $215–$235

    ไม่มีเฟิร์มแวร์ติดตั้งมาให้ แต่มี USB Blaster สำหรับโหลด FPGA cores
    - ผู้ใช้ต้อง แฟลชเฟิร์มแวร์เอง

    https://www.tomshardware.com/software/programming/the-onechipbook-12-is-a-retro-inspired-fpga-dev-kit-with-a-built-in-display-and-mechanical-keyboard
    OneChipBook-12 เป็น ชุดพัฒนา FPGA แบบพกพา ที่ออกแบบมาเพื่อ นักพัฒนาฮาร์ดแวร์และผู้ที่สนใจคอมพิวเตอร์ย้อนยุค โดยมี หน้าจอในตัวและคีย์บอร์ดแบบกลไก อุปกรณ์นี้ใช้ ชิป Altera Cyclone EP1C12Q240 ซึ่งมี 12,000 logic elements และ RAM 240kbits พร้อม SDRAM 32MB และช่องใส่ SD Card รองรับ FAT16 ทำให้เหมาะสำหรับ ✅ OneChipBook-12 เป็นชุดพัฒนา FPGA แบบพกพา - มี หน้าจอในตัวและคีย์บอร์ดแบบกลไก - ออกแบบมาเพื่อ นักพัฒนาฮาร์ดแวร์และผู้ที่สนใจคอมพิวเตอร์ย้อนยุค ✅ ใช้ชิป Altera Cyclone EP1C12Q240 - มี 12,000 logic elements และ RAM 240kbits - รองรับ SDRAM 32MB และช่องใส่ SD Card (FAT16) ✅ มีพอร์ต I/O หลากหลาย - รองรับ PS/2, DB9 joystick, USB Type-A, VGA, S-Video และ composite video - มี ลำโพงสเตอริโอ, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และปุ่มปรับระดับเสียง ✅ สามารถซื้อได้ผ่าน Tindie, eBay และ AliExpress - ราคาอยู่ที่ $215–$235 ✅ ไม่มีเฟิร์มแวร์ติดตั้งมาให้ แต่มี USB Blaster สำหรับโหลด FPGA cores - ผู้ใช้ต้อง แฟลชเฟิร์มแวร์เอง https://www.tomshardware.com/software/programming/the-onechipbook-12-is-a-retro-inspired-fpga-dev-kit-with-a-built-in-display-and-mechanical-keyboard
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้เป็นบันทึกประสบการณ์ของนักเขียนที่ ทดลองใช้ Ubuntu 25.04 เป็นระบบปฏิบัติการหลักแทน Windows 11 เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยเขาได้บันทึกข้อดีและข้อเสียของการเปลี่ยนมาใช้ Linux

    นักเขียนระบุว่า Windows 11 มีโฆษณาและฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็นมากขึ้น ทำให้เขาตัดสินใจลองใช้ Linux อย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม เขาพบว่า การติดตั้งไดรเวอร์และการตั้งค่าฮาร์ดแวร์บางอย่างบน Ubuntu 25.04 ยังคงซับซ้อนกว่าบน Windows

    Ubuntu 25.04 มีอินเทอร์เฟซที่สะอาดและไม่มีโฆษณา
    - แตกต่างจาก Windows 11 ที่มี โฆษณา Xbox Game Pass และฟีเจอร์ AI ที่ไม่จำเป็น

    การติดตั้ง Ubuntu 25.04 ทำได้ง่ายและรวดเร็ว
    - สามารถ ติดตั้งคู่กับ Windows ได้โดยใช้ตัวเลือก Dual Boot
    - ใช้เวลาเพียง 5 นาทีในการติดตั้ง

    การตั้งค่าฮาร์ดแวร์บางอย่างต้องใช้คำสั่งใน Terminal
    - เช่น การติดตั้งไดรเวอร์ DisplayLink สำหรับ docking station
    - ต้องใช้ Machine Owner Key (MOK) เพื่ออนุญาตให้ไดรเวอร์ทำงาน

    Ubuntu รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์พื้นฐาน เช่น เมาส์ Bluetooth ได้ง่าย
    - นักเขียนสามารถ เชื่อมต่อ Logitech MX Master 3 ได้ทันทีผ่านเมนู Bluetooth

    Ubuntu 25.04 มีตัวเลือกการติดตั้งแบบ Interactive และ Automated
    - นักเขียนเลือก Interactive เพื่อกำหนดค่าระบบเอง

    https://www.tomshardware.com/news/live/my-week-with-linux
    บทความนี้เป็นบันทึกประสบการณ์ของนักเขียนที่ ทดลองใช้ Ubuntu 25.04 เป็นระบบปฏิบัติการหลักแทน Windows 11 เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยเขาได้บันทึกข้อดีและข้อเสียของการเปลี่ยนมาใช้ Linux นักเขียนระบุว่า Windows 11 มีโฆษณาและฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็นมากขึ้น ทำให้เขาตัดสินใจลองใช้ Linux อย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม เขาพบว่า การติดตั้งไดรเวอร์และการตั้งค่าฮาร์ดแวร์บางอย่างบน Ubuntu 25.04 ยังคงซับซ้อนกว่าบน Windows ✅ Ubuntu 25.04 มีอินเทอร์เฟซที่สะอาดและไม่มีโฆษณา - แตกต่างจาก Windows 11 ที่มี โฆษณา Xbox Game Pass และฟีเจอร์ AI ที่ไม่จำเป็น ✅ การติดตั้ง Ubuntu 25.04 ทำได้ง่ายและรวดเร็ว - สามารถ ติดตั้งคู่กับ Windows ได้โดยใช้ตัวเลือก Dual Boot - ใช้เวลาเพียง 5 นาทีในการติดตั้ง ✅ การตั้งค่าฮาร์ดแวร์บางอย่างต้องใช้คำสั่งใน Terminal - เช่น การติดตั้งไดรเวอร์ DisplayLink สำหรับ docking station - ต้องใช้ Machine Owner Key (MOK) เพื่ออนุญาตให้ไดรเวอร์ทำงาน ✅ Ubuntu รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์พื้นฐาน เช่น เมาส์ Bluetooth ได้ง่าย - นักเขียนสามารถ เชื่อมต่อ Logitech MX Master 3 ได้ทันทีผ่านเมนู Bluetooth ✅ Ubuntu 25.04 มีตัวเลือกการติดตั้งแบบ Interactive และ Automated - นักเขียนเลือก Interactive เพื่อกำหนดค่าระบบเอง https://www.tomshardware.com/news/live/my-week-with-linux
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • Amazon เปิดเผยว่า ธุรกิจในสหราชอาณาจักรมีการนำ AI มาใช้ทุก ๆ 60 วินาที โดยอัตราการนำ AI มาใช้เพิ่มขึ้น 33% ในปีที่ผ่านมา ทำให้ 52% ของธุรกิจในสหราชอาณาจักรใช้ AI เทียบกับ 39% ในปีที่แล้ว

    แม้ว่าธุรกิจขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพจะมีอัตราการนำ AI มาใช้ใกล้เคียงกันที่ 55% และ 59% ตามลำดับ แต่สตาร์ทอัพมีความพร้อมมากกว่า โดย 31% มีแผนกลยุทธ์ด้าน AI ที่ชัดเจน เทียบกับ 15% ของธุรกิจขนาดใหญ่

    ธุรกิจในสหราชอาณาจักรนำ AI มาใช้ทุก ๆ 60 วินาที
    - อัตราการนำ AI มาใช้เพิ่มขึ้น 33% ในปีที่ผ่านมา
    - 52% ของธุรกิจในสหราชอาณาจักรใช้ AI เทียบกับ 39% ในปีที่แล้ว

    สตาร์ทอัพมีความพร้อมด้าน AI มากกว่าธุรกิจขนาดใหญ่
    - 31% ของสตาร์ทอัพมีแผนกลยุทธ์ด้าน AI เทียบกับ 15% ของธุรกิจขนาดใหญ่
    - ธุรกิจขนาดใหญ่ยังต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

    92% ของธุรกิจที่ใช้ AI รายงานว่ารายได้เพิ่มขึ้น
    - เทียบกับ 64% ในปี 2024

    AWS เปิดตัวโครงการฝึกอบรม AI ในสหราชอาณาจักร
    - ตั้งเป้า ฝึกอบรมประชาชน 100,000 คนภายในปี 2030
    - ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Exeter และ Manchester

    AI literacy จะเป็นทักษะที่สำคัญในตลาดแรงงาน
    - 47% ของตำแหน่งงานใหม่ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะต้องการทักษะด้าน AI

    https://www.techradar.com/pro/amazon-says-one-business-per-second-is-adopting-ai
    Amazon เปิดเผยว่า ธุรกิจในสหราชอาณาจักรมีการนำ AI มาใช้ทุก ๆ 60 วินาที โดยอัตราการนำ AI มาใช้เพิ่มขึ้น 33% ในปีที่ผ่านมา ทำให้ 52% ของธุรกิจในสหราชอาณาจักรใช้ AI เทียบกับ 39% ในปีที่แล้ว แม้ว่าธุรกิจขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพจะมีอัตราการนำ AI มาใช้ใกล้เคียงกันที่ 55% และ 59% ตามลำดับ แต่สตาร์ทอัพมีความพร้อมมากกว่า โดย 31% มีแผนกลยุทธ์ด้าน AI ที่ชัดเจน เทียบกับ 15% ของธุรกิจขนาดใหญ่ ✅ ธุรกิจในสหราชอาณาจักรนำ AI มาใช้ทุก ๆ 60 วินาที - อัตราการนำ AI มาใช้เพิ่มขึ้น 33% ในปีที่ผ่านมา - 52% ของธุรกิจในสหราชอาณาจักรใช้ AI เทียบกับ 39% ในปีที่แล้ว ✅ สตาร์ทอัพมีความพร้อมด้าน AI มากกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ - 31% ของสตาร์ทอัพมีแผนกลยุทธ์ด้าน AI เทียบกับ 15% ของธุรกิจขนาดใหญ่ - ธุรกิจขนาดใหญ่ยังต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ✅ 92% ของธุรกิจที่ใช้ AI รายงานว่ารายได้เพิ่มขึ้น - เทียบกับ 64% ในปี 2024 ✅ AWS เปิดตัวโครงการฝึกอบรม AI ในสหราชอาณาจักร - ตั้งเป้า ฝึกอบรมประชาชน 100,000 คนภายในปี 2030 - ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Exeter และ Manchester ✅ AI literacy จะเป็นทักษะที่สำคัญในตลาดแรงงาน - 47% ของตำแหน่งงานใหม่ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะต้องการทักษะด้าน AI https://www.techradar.com/pro/amazon-says-one-business-per-second-is-adopting-ai
    WWW.TECHRADAR.COM
    Amazon says one business per second is adopting AI
    AI adoption is strong across the UK, AWS finds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึง การโจมตีทางไซเบอร์ที่อ้างว่าเกิดขึ้นกับรัฐบาลเปรู โดยกลุ่มแฮกเกอร์ Rhysida ซึ่งอ้างว่าพวกเขา เจาะระบบและขโมยข้อมูลจากเว็บไซต์ gob.pe พร้อมเรียกค่าไถ่เป็น 5 Bitcoin (ประมาณ $471,000) อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเปรูปฏิเสธข้อกล่าวหา และยืนยันว่า ระบบของตนยังคงทำงานตามปกติ

    แม้ว่ารัฐบาลจะปฏิเสธการโจมตี แต่พวกเขายอมรับว่า มีเหตุการณ์ทางไซเบอร์เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ satp.gob.pe ซึ่งเป็น เว็บไซต์ของหน่วยงานจัดการภาษีในเมือง Piura โดยเหตุการณ์นี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานชั่วคราว แต่สามารถกู้คืนระบบได้ภายใน 48 ชั่วโมง

    กลุ่มแฮกเกอร์ Rhysida อ้างว่าพวกเขาเจาะระบบของรัฐบาลเปรู
    - อ้างว่า ขโมยข้อมูลจากเว็บไซต์ gob.pe
    - เรียกค่าไถ่เป็น 5 Bitcoin (ประมาณ $471,000)

    รัฐบาลเปรูปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่มีการโจมตี
    - ระบุว่า ระบบของตนยังคงทำงานตามปกติ
    - โพสต์แถลงการณ์บน Facebook เพื่อปฏิเสธข่าวลือ

    รัฐบาลยอมรับว่ามีเหตุการณ์ทางไซเบอร์เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ satp.gob.pe
    - เป็น เว็บไซต์ของหน่วยงานจัดการภาษีในเมือง Piura
    - ระบบถูกกู้คืนภายใน 48 ชั่วโมง

    ศูนย์ความปลอดภัยดิจิทัลแห่งชาติ (CNSD) ได้ดำเนินมาตรการป้องกันทันที
    - เปิดใช้งาน การแจ้งเตือนเชิงป้องกันเพื่อจำกัดความเสี่ยง
    - ประสานงานกับ หน่วยงานระดับชาติและนานาชาติเพื่อสืบสวนเหตุการณ์

    https://www.techradar.com/pro/security/peru-government-denies-ransomware-attack-despite-hacker-claims
    ข่าวนี้กล่าวถึง การโจมตีทางไซเบอร์ที่อ้างว่าเกิดขึ้นกับรัฐบาลเปรู โดยกลุ่มแฮกเกอร์ Rhysida ซึ่งอ้างว่าพวกเขา เจาะระบบและขโมยข้อมูลจากเว็บไซต์ gob.pe พร้อมเรียกค่าไถ่เป็น 5 Bitcoin (ประมาณ $471,000) อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเปรูปฏิเสธข้อกล่าวหา และยืนยันว่า ระบบของตนยังคงทำงานตามปกติ แม้ว่ารัฐบาลจะปฏิเสธการโจมตี แต่พวกเขายอมรับว่า มีเหตุการณ์ทางไซเบอร์เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ satp.gob.pe ซึ่งเป็น เว็บไซต์ของหน่วยงานจัดการภาษีในเมือง Piura โดยเหตุการณ์นี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานชั่วคราว แต่สามารถกู้คืนระบบได้ภายใน 48 ชั่วโมง ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ Rhysida อ้างว่าพวกเขาเจาะระบบของรัฐบาลเปรู - อ้างว่า ขโมยข้อมูลจากเว็บไซต์ gob.pe - เรียกค่าไถ่เป็น 5 Bitcoin (ประมาณ $471,000) ✅ รัฐบาลเปรูปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่มีการโจมตี - ระบุว่า ระบบของตนยังคงทำงานตามปกติ - โพสต์แถลงการณ์บน Facebook เพื่อปฏิเสธข่าวลือ ✅ รัฐบาลยอมรับว่ามีเหตุการณ์ทางไซเบอร์เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ satp.gob.pe - เป็น เว็บไซต์ของหน่วยงานจัดการภาษีในเมือง Piura - ระบบถูกกู้คืนภายใน 48 ชั่วโมง ✅ ศูนย์ความปลอดภัยดิจิทัลแห่งชาติ (CNSD) ได้ดำเนินมาตรการป้องกันทันที - เปิดใช้งาน การแจ้งเตือนเชิงป้องกันเพื่อจำกัดความเสี่ยง - ประสานงานกับ หน่วยงานระดับชาติและนานาชาติเพื่อสืบสวนเหตุการณ์ https://www.techradar.com/pro/security/peru-government-denies-ransomware-attack-despite-hacker-claims
    WWW.TECHRADAR.COM
    Peru government denies ransomware attack, despite hacker claims
    Rhysida operators claim they broke into a government portal and stole data
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 450 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ Helm charts ใน Kubernetes ที่อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว เนื่องจาก การตั้งค่าเริ่มต้นที่ไม่มีการรักษาความปลอดภัยเพียงพอ

    Helm เป็น เครื่องมือจัดการแพ็กเกจสำหรับ Kubernetes ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ติดตั้งและอัปเกรดแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม Helm charts บางตัวมีการตั้งค่าเริ่มต้นที่เปิดพอร์ตโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ หรือใช้ รหัสผ่านที่สามารถคาดเดาได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้ แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องใช้วิธีการเจาะระบบที่ซับซ้อน

    Helm charts บางตัวมีการตั้งค่าเริ่มต้นที่ไม่มีการรักษาความปลอดภัยเพียงพอ
    - อาจเปิดพอร์ตโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์
    - ใช้รหัสผ่านที่สามารถคาดเดาได้ง่าย

    Microsoft เตือนว่าการตั้งค่าเริ่มต้นอาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว
    - หากไม่ได้ตรวจสอบไฟล์ YAML manifests และ Helm charts อย่างละเอียด อาจทำให้ บริการที่ติดตั้งไม่มีการป้องกัน

    Helm charts ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ Apache Pinot, Meshery และ Selenium Grid
    - แอปพลิเคชันเหล่านี้สามารถ เรียก API ที่มีข้อมูลสำคัญ หรือดำเนินการในระดับผู้ดูแลระบบ

    แนวทางป้องกันที่แนะนำโดย Microsoft
    - หลีกเลี่ยงการใช้ การตั้งค่าเริ่มต้นของ Helm charts
    - ตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีการตรวจสอบสิทธิ์และการแยกเครือข่าย
    - ทำการสแกนระบบเป็นประจำเพื่อ ค้นหาการตั้งค่าที่อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหล

    https://www.techradar.com/pro/security/kubernetes-helm-charts-can-expose-data-without-users-ever-knowing
    Microsoft ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ Helm charts ใน Kubernetes ที่อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว เนื่องจาก การตั้งค่าเริ่มต้นที่ไม่มีการรักษาความปลอดภัยเพียงพอ Helm เป็น เครื่องมือจัดการแพ็กเกจสำหรับ Kubernetes ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ติดตั้งและอัปเกรดแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม Helm charts บางตัวมีการตั้งค่าเริ่มต้นที่เปิดพอร์ตโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ หรือใช้ รหัสผ่านที่สามารถคาดเดาได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้ แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องใช้วิธีการเจาะระบบที่ซับซ้อน ✅ Helm charts บางตัวมีการตั้งค่าเริ่มต้นที่ไม่มีการรักษาความปลอดภัยเพียงพอ - อาจเปิดพอร์ตโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ - ใช้รหัสผ่านที่สามารถคาดเดาได้ง่าย ✅ Microsoft เตือนว่าการตั้งค่าเริ่มต้นอาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว - หากไม่ได้ตรวจสอบไฟล์ YAML manifests และ Helm charts อย่างละเอียด อาจทำให้ บริการที่ติดตั้งไม่มีการป้องกัน ✅ Helm charts ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ Apache Pinot, Meshery และ Selenium Grid - แอปพลิเคชันเหล่านี้สามารถ เรียก API ที่มีข้อมูลสำคัญ หรือดำเนินการในระดับผู้ดูแลระบบ ✅ แนวทางป้องกันที่แนะนำโดย Microsoft - หลีกเลี่ยงการใช้ การตั้งค่าเริ่มต้นของ Helm charts - ตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีการตรวจสอบสิทธิ์และการแยกเครือข่าย - ทำการสแกนระบบเป็นประจำเพื่อ ค้นหาการตั้งค่าที่อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหล https://www.techradar.com/pro/security/kubernetes-helm-charts-can-expose-data-without-users-ever-knowing
    WWW.TECHRADAR.COM
    Kubernetes Helm charts can expose data without users ever knowing
    Microsoft experts sound the alarm on default configurations
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังเตรียมเปิดตัว Arc B770 GPU ซึ่งคาดว่าจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Nvidia RTX 5060 ในงาน Computex 2025 โดยมีจุดเด่นที่ VRAM ขนาด 16GB ซึ่งมากกว่า RTX 5060 ที่มีเพียง 8GB VRAM

    แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Nvidia แต่มีรายงานว่า RTX 5060 จะเปิดตัวในวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งใกล้เคียงกับกำหนดการเปิดตัวของ Arc B770 นอกจากนี้ AMD ก็เตรียมเปิดตัว Radeon RX 9060 XT ที่มี 16GB VRAM เช่นกัน ทำให้การแข่งขันในตลาด GPU ระดับกลางร้อนแรงขึ้น

    Intel Arc B770 คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex 2025
    - เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Nvidia RTX 5060
    - คาดว่าจะมี VRAM ขนาด 16GB และบัสหน่วยความจำ 256-bit

    RTX 5060 ของ Nvidia คาดว่าจะเปิดตัวในวันที่ 19 พฤษภาคม
    - มี VRAM ขนาด 8GB ซึ่งน้อยกว่า Arc B770 และ RX 9060 XT
    - อาจเผชิญกับการแข่งขันที่หนักขึ้นจาก Intel และ AMD

    AMD เตรียมเปิดตัว Radeon RX 9060 XT ที่มี 16GB VRAM
    - มีรุ่น 8GB และ 16GB เพื่อแข่งขันกับ RTX 5060

    Intel อาจใช้ GDDR7 VRAM ใน Arc B770
    - มีข่าวลือว่า Intel กำลังพัฒนา GPU ที่ใช้ GDDR7
    - อาจเป็นส่วนหนึ่งของ ซีรีส์ Celestial

    https://www.techradar.com/computing/gpu/intels-arc-b770-gpu-could-go-head-to-head-with-nvidias-rtx-5060-and-its-expected-to-be-revealed-at-computex
    Intel กำลังเตรียมเปิดตัว Arc B770 GPU ซึ่งคาดว่าจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Nvidia RTX 5060 ในงาน Computex 2025 โดยมีจุดเด่นที่ VRAM ขนาด 16GB ซึ่งมากกว่า RTX 5060 ที่มีเพียง 8GB VRAM แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Nvidia แต่มีรายงานว่า RTX 5060 จะเปิดตัวในวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งใกล้เคียงกับกำหนดการเปิดตัวของ Arc B770 นอกจากนี้ AMD ก็เตรียมเปิดตัว Radeon RX 9060 XT ที่มี 16GB VRAM เช่นกัน ทำให้การแข่งขันในตลาด GPU ระดับกลางร้อนแรงขึ้น ✅ Intel Arc B770 คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 - เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Nvidia RTX 5060 - คาดว่าจะมี VRAM ขนาด 16GB และบัสหน่วยความจำ 256-bit ✅ RTX 5060 ของ Nvidia คาดว่าจะเปิดตัวในวันที่ 19 พฤษภาคม - มี VRAM ขนาด 8GB ซึ่งน้อยกว่า Arc B770 และ RX 9060 XT - อาจเผชิญกับการแข่งขันที่หนักขึ้นจาก Intel และ AMD ✅ AMD เตรียมเปิดตัว Radeon RX 9060 XT ที่มี 16GB VRAM - มีรุ่น 8GB และ 16GB เพื่อแข่งขันกับ RTX 5060 ✅ Intel อาจใช้ GDDR7 VRAM ใน Arc B770 - มีข่าวลือว่า Intel กำลังพัฒนา GPU ที่ใช้ GDDR7 - อาจเป็นส่วนหนึ่งของ ซีรีส์ Celestial https://www.techradar.com/computing/gpu/intels-arc-b770-gpu-could-go-head-to-head-with-nvidias-rtx-5060-and-its-expected-to-be-revealed-at-computex
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pebble OS กำลังจะกลับมาอีกครั้งกับ Core 2 Duo Smartwatch ซึ่งเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ที่ใช้ ระบบปฏิบัติการ Pebble OS โดย Eric Migicovsky ผู้ก่อตั้ง Pebble ได้สาธิตต้นแบบของอุปกรณ์นี้ในพอดแคสต์ล่าสุด

    แม้ว่าตัวต้นแบบยังอยู่ในช่วงพัฒนาและ มีบางฟีเจอร์ที่ยังไม่เปิดใช้งาน แต่ Pebble OS ดูเหมือนจะทำงานได้ดี โดยใช้ ระบบปุ่ม 4 ปุ่มในการนำทาง และรองรับ หน้าปัดนาฬิกาที่สร้างโดยชุมชน

    Core 2 Duo Smartwatch ใช้ระบบปฏิบัติการ Pebble OS
    - เป็นการกลับมาของ Pebble OS หลังจากหายไปจากตลาดสมาร์ทวอทช์
    - ใช้ ระบบปุ่ม 4 ปุ่มในการนำทาง

    หน้าจอ e-paper ที่ใช้พลังงานต่ำช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 30 วัน
    - เปรียบเทียบกับ Apple Watch ที่มีแบตเตอรี่ใช้งานได้เพียง 36 ชั่วโมง

    รองรับหน้าปัดนาฬิกาที่สร้างโดยชุมชน
    - สามารถ เลือกหน้าปัดที่มีเอกลักษณ์ เช่น หน้าปัดรูปปลาหมึกถือไอศกรีม

    Core Devices วางแผนส่งมอบสินค้าในเดือนกรกฎาคม
    - อย่างไรก็ตาม ลูกค้าในสหรัฐฯ อาจต้องจ่ายเพิ่มเนื่องจากภาษีนำเข้า

    Pebble OS รองรับฟีเจอร์ Smart Alarm และการแจ้งเตือน
    - แม้ว่าฟีเจอร์บางอย่างยังไม่เปิดใช้งาน แต่ระบบทำงานได้ดีในต้นแบบ

    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-os-watch-core-2-duo-demoed-ahead-of-release-and-its-currently-being-held-together-with-tape
    Pebble OS กำลังจะกลับมาอีกครั้งกับ Core 2 Duo Smartwatch ซึ่งเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ที่ใช้ ระบบปฏิบัติการ Pebble OS โดย Eric Migicovsky ผู้ก่อตั้ง Pebble ได้สาธิตต้นแบบของอุปกรณ์นี้ในพอดแคสต์ล่าสุด แม้ว่าตัวต้นแบบยังอยู่ในช่วงพัฒนาและ มีบางฟีเจอร์ที่ยังไม่เปิดใช้งาน แต่ Pebble OS ดูเหมือนจะทำงานได้ดี โดยใช้ ระบบปุ่ม 4 ปุ่มในการนำทาง และรองรับ หน้าปัดนาฬิกาที่สร้างโดยชุมชน ✅ Core 2 Duo Smartwatch ใช้ระบบปฏิบัติการ Pebble OS - เป็นการกลับมาของ Pebble OS หลังจากหายไปจากตลาดสมาร์ทวอทช์ - ใช้ ระบบปุ่ม 4 ปุ่มในการนำทาง ✅ หน้าจอ e-paper ที่ใช้พลังงานต่ำช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 30 วัน - เปรียบเทียบกับ Apple Watch ที่มีแบตเตอรี่ใช้งานได้เพียง 36 ชั่วโมง ✅ รองรับหน้าปัดนาฬิกาที่สร้างโดยชุมชน - สามารถ เลือกหน้าปัดที่มีเอกลักษณ์ เช่น หน้าปัดรูปปลาหมึกถือไอศกรีม ✅ Core Devices วางแผนส่งมอบสินค้าในเดือนกรกฎาคม - อย่างไรก็ตาม ลูกค้าในสหรัฐฯ อาจต้องจ่ายเพิ่มเนื่องจากภาษีนำเข้า ✅ Pebble OS รองรับฟีเจอร์ Smart Alarm และการแจ้งเตือน - แม้ว่าฟีเจอร์บางอย่างยังไม่เปิดใช้งาน แต่ระบบทำงานได้ดีในต้นแบบ https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-os-watch-core-2-duo-demoed-ahead-of-release-and-its-currently-being-held-together-with-tape
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตึก สตง. ถล่มอาจไร้คนรับผิด เพราะไม่มีงบพิสูจน์ ตัด เคลื่อนย้าย หรือเก็บหลักฐาน จนดูเหมือนตั้งใจให้ไม่มีคนผิด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ตึก สตง. ถล่มอาจไร้คนรับผิด เพราะไม่มีงบพิสูจน์ ตัด เคลื่อนย้าย หรือเก็บหลักฐาน จนดูเหมือนตั้งใจให้ไม่มีคนผิด #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia กำลังขยายธุรกิจจาก AI compute ไปสู่การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้วยการเปิดตัว DOCA Argus ซึ่งเป็น เครื่องมือรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI

    DOCA Argus เป็นส่วนหนึ่งของ แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ DOCA และทำงานบน ฮาร์ดแวร์เครือข่าย BlueField โดยสามารถ ตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ

    DOCA Argus เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI
    - ทำงานบน ฮาร์ดแวร์เครือข่าย BlueField
    - สามารถ ตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ

    Cisco และ Nvidia ร่วมมือกันเพื่อสร้าง Secure AI Factory
    - มีเป้าหมายเพื่อ รักษาความปลอดภัยให้กับโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สามารถขยายตัวได้

    DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อตรวจจับภัยคุกคาม
    - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันแบบไม่มีตัวแทนถึง 1,000 เท่า

    ระบบสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ เช่น SIEM, SOAR และ XDR
    - ช่วยให้ องค์กรสามารถรวม DOCA Argus เข้ากับระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ได้ง่ายขึ้น

    DOCA Argus ได้รับการฝึกด้วยข้อมูลความปลอดภัยภายในของ Nvidia
    - ลดจำนวนการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด เพื่อให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามจริงได้เร็วขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/after-ai-nvidia-wants-to-own-a-slice-of-that-sweet-trillion-dollar-cybersecurity-pie-with-its-new-doca-software-platfom
    Nvidia กำลังขยายธุรกิจจาก AI compute ไปสู่การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้วยการเปิดตัว DOCA Argus ซึ่งเป็น เครื่องมือรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI DOCA Argus เป็นส่วนหนึ่งของ แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ DOCA และทำงานบน ฮาร์ดแวร์เครือข่าย BlueField โดยสามารถ ตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ ✅ DOCA Argus เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI - ทำงานบน ฮาร์ดแวร์เครือข่าย BlueField - สามารถ ตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ ✅ Cisco และ Nvidia ร่วมมือกันเพื่อสร้าง Secure AI Factory - มีเป้าหมายเพื่อ รักษาความปลอดภัยให้กับโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สามารถขยายตัวได้ ✅ DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อตรวจจับภัยคุกคาม - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันแบบไม่มีตัวแทนถึง 1,000 เท่า ✅ ระบบสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ เช่น SIEM, SOAR และ XDR - ช่วยให้ องค์กรสามารถรวม DOCA Argus เข้ากับระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ได้ง่ายขึ้น ✅ DOCA Argus ได้รับการฝึกด้วยข้อมูลความปลอดภัยภายในของ Nvidia - ลดจำนวนการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด เพื่อให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามจริงได้เร็วขึ้น https://www.techradar.com/pro/after-ai-nvidia-wants-to-own-a-slice-of-that-sweet-trillion-dollar-cybersecurity-pie-with-its-new-doca-software-platfom
    WWW.TECHRADAR.COM
    Nvidia’s DOCA Argus platform brings live threat detection to AI workloads without system drag
    Cisco is working with Nvidia to create a Secure AI Factory using its new architecture
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • Puget Systems ได้เปิดตัว 5-Node 6U Rackstation ซึ่งเป็นโซลูชันสำหรับ นักพัฒนาเกมและการทดสอบระบบ โดยสามารถรองรับ Ryzen 9000 และ EPYC 4005 ซึ่งเป็น ซีพียู Zen 5 รุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    Rackstation นี้สามารถ บรรจุ 5 ระบบในพื้นที่ของเดสก์ท็อปขนาดใหญ่ และสามารถ ติดตั้งได้สูงสุด 35 ระบบในตู้แร็คมาตรฐาน 42U ซึ่งช่วยให้ ประหยัดพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

    Puget Systems เปิดตัว 5-Node 6U Rackstation สำหรับนักพัฒนาเกมและการทดสอบระบบ
    - รองรับ Ryzen 9000 และ EPYC 4005
    - สามารถ บรรจุ 5 ระบบในพื้นที่ของเดสก์ท็อปขนาดใหญ่

    สามารถติดตั้งได้สูงสุด 35 ระบบในตู้แร็คมาตรฐาน 42U
    - ช่วยให้ ประหยัดพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

    EPYC 4005 เป็นซีพียู Zen 5 รุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
    - คาดว่า AMD จะเปิดตัว EPYC 4005 ในงาน Computex 2025

    Rackstation นี้ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน 3D Modeling และ Automated Testing
    - สามารถ เข้าถึงระบบจากระยะไกลผ่าน Parsec
    - QA Teams สามารถ ใช้เป็น Testbed ที่มีความยืดหยุ่นสูง

    https://www.techradar.com/pro/major-us-pc-vendor-hints-at-unannounced-amd-epyc-4005-mini-pc-being-used-in-huge-35-units-42u-racks
    Puget Systems ได้เปิดตัว 5-Node 6U Rackstation ซึ่งเป็นโซลูชันสำหรับ นักพัฒนาเกมและการทดสอบระบบ โดยสามารถรองรับ Ryzen 9000 และ EPYC 4005 ซึ่งเป็น ซีพียู Zen 5 รุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Rackstation นี้สามารถ บรรจุ 5 ระบบในพื้นที่ของเดสก์ท็อปขนาดใหญ่ และสามารถ ติดตั้งได้สูงสุด 35 ระบบในตู้แร็คมาตรฐาน 42U ซึ่งช่วยให้ ประหยัดพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ✅ Puget Systems เปิดตัว 5-Node 6U Rackstation สำหรับนักพัฒนาเกมและการทดสอบระบบ - รองรับ Ryzen 9000 และ EPYC 4005 - สามารถ บรรจุ 5 ระบบในพื้นที่ของเดสก์ท็อปขนาดใหญ่ ✅ สามารถติดตั้งได้สูงสุด 35 ระบบในตู้แร็คมาตรฐาน 42U - ช่วยให้ ประหยัดพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ✅ EPYC 4005 เป็นซีพียู Zen 5 รุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ - คาดว่า AMD จะเปิดตัว EPYC 4005 ในงาน Computex 2025 ✅ Rackstation นี้ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน 3D Modeling และ Automated Testing - สามารถ เข้าถึงระบบจากระยะไกลผ่าน Parsec - QA Teams สามารถ ใช้เป็น Testbed ที่มีความยืดหยุ่นสูง https://www.techradar.com/pro/major-us-pc-vendor-hints-at-unannounced-amd-epyc-4005-mini-pc-being-used-in-huge-35-units-42u-racks
    WWW.TECHRADAR.COM
    EPYC 4005 listed in Puget Systems' new Rackstation, weeks before AMD debuts it at Computex
    Puget System includes the Zen 5 processor in a listing weeks before official AMD reveal
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jeep กำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ของรถยนต์ ด้วยการเปิดตัว Compass รุ่นใหม่ ที่มีเฉพาะ ระบบไฮบริดและไฟฟ้า เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการ ยุติยุคของรถ SUV ที่กินน้ำมันมาก

    แม้ว่า Jeep จะเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ของ รถออฟโรดที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป แต่บริษัทกำลัง ขยายตลาดในยุโรป โดยใช้ แพลตฟอร์ม STLA Medium ของ Stellantis ซึ่งรองรับ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

    Jeep Compass รุ่นใหม่มีเฉพาะระบบไฮบริดและไฟฟ้า
    - ไม่มีรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเพียงอย่างเดียว
    - เป็นการ ปรับตัวให้เข้ากับตลาดยุโรปที่กำลังเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า

    ใช้แพลตฟอร์ม STLA Medium ของ Stellantis
    - เป็นแพลตฟอร์มเดียวกับ Peugeot, Vauxhall และ Citroen
    - รองรับ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

    รุ่นไฟฟ้ามีให้เลือกสองระดับกำลัง
    - 211 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ 73kWh (ระยะทาง 311 ไมล์)
    - 229 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ 96kWh (ระยะทาง 404 ไมล์)

    รุ่น 4xe มีมอเตอร์เสริมที่ล้อหลัง
    - ให้กำลังสูงสุด 370 แรงม้า
    - สามารถปีนทางลาดชัน 20% ได้แม้ไม่มีแรงฉุดที่ล้อหน้า

    รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 160kW
    - สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ได้ภายใน 30 นาที

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/jeep-signals-the-end-of-an-era-for-gas-guzzling-off-roaders-as-all-new-compass-goes-hybrid-or-electric-only
    Jeep กำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ของรถยนต์ ด้วยการเปิดตัว Compass รุ่นใหม่ ที่มีเฉพาะ ระบบไฮบริดและไฟฟ้า เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการ ยุติยุคของรถ SUV ที่กินน้ำมันมาก แม้ว่า Jeep จะเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ของ รถออฟโรดที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป แต่บริษัทกำลัง ขยายตลาดในยุโรป โดยใช้ แพลตฟอร์ม STLA Medium ของ Stellantis ซึ่งรองรับ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ✅ Jeep Compass รุ่นใหม่มีเฉพาะระบบไฮบริดและไฟฟ้า - ไม่มีรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเพียงอย่างเดียว - เป็นการ ปรับตัวให้เข้ากับตลาดยุโรปที่กำลังเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า ✅ ใช้แพลตฟอร์ม STLA Medium ของ Stellantis - เป็นแพลตฟอร์มเดียวกับ Peugeot, Vauxhall และ Citroen - รองรับ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ✅ รุ่นไฟฟ้ามีให้เลือกสองระดับกำลัง - 211 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ 73kWh (ระยะทาง 311 ไมล์) - 229 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ 96kWh (ระยะทาง 404 ไมล์) ✅ รุ่น 4xe มีมอเตอร์เสริมที่ล้อหลัง - ให้กำลังสูงสุด 370 แรงม้า - สามารถปีนทางลาดชัน 20% ได้แม้ไม่มีแรงฉุดที่ล้อหน้า ✅ รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 160kW - สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ได้ภายใน 30 นาที https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/jeep-signals-the-end-of-an-era-for-gas-guzzling-off-roaders-as-all-new-compass-goes-hybrid-or-electric-only
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจาก QNX ระบุว่า 77% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลกเชื่อมั่นในหุ่นยนต์สำหรับการทำงานที่สำคัญ และคาดการณ์ว่า หนึ่งในห้าของแรงงานอาจถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ภายในทศวรรษหน้า

    แม้ว่าการนำหุ่นยนต์มาใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ 32% ของผู้จัดการระบุว่าสถานที่ทำงานยังไม่พร้อมสำหรับหุ่นยนต์ และ 29% เคยประสบปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์

    77% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีเชื่อมั่นในหุ่นยนต์สำหรับการทำงานที่สำคัญ
    - คาดว่า หนึ่งในห้าของแรงงานอาจถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ภายในทศวรรษหน้า
    - 71% ขององค์กรกำลังใช้หรือวางแผนที่จะใช้หุ่นยนต์เร็ว ๆ นี้

    ตลาดหุ่นยนต์ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตถึง $163.9 พันล้านภายในปี 2030
    - เพิ่มขึ้นจาก $51 พันล้านในปี 2024

    การใช้งานหุ่นยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่
    - 50% ใช้สำหรับระบบอัตโนมัติ
    - 46% ใช้ในการผลิต
    - 36% ใช้ในงานสนับสนุน
    - 28% ใช้ในงานที่มีความเสี่ยงสูง

    ผู้จัดการมีระดับความสบายใจที่แตกต่างกันในการใช้หุ่นยนต์ในแต่ละงาน
    - 77% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานประกอบชิ้นส่วน
    - 73% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานขนส่งวัสดุ
    - 70% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานโลจิสติกส์และการส่งสินค้า
    - 51% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานทางการแพทย์
    - 55% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานบริการลูกค้า
    - 63% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานซ่อมบำรุง

    90% ของผู้จัดการเห็นว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีช่วยผลักดันการใช้หุ่นยนต์
    - 86% เชื่อว่าการปรับปรุงด้านความปลอดภัยช่วยให้หุ่นยนต์ได้รับการยอมรับมากขึ้น

    32% ของผู้จัดการระบุว่าสถานที่ทำงานยังไม่พร้อมสำหรับหุ่นยนต์
    - อาจต้องมี การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการฝึกอบรมพนักงาน

    29% ขององค์กรเคยประสบปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์
    - ต้องมี มาตรการป้องกันและการตรวจสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น

    58% ของผู้จัดการมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบหุ่นยนต์
    - อาจต้องมี การพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการใช้งาน

    92% ของผู้จัดการเชื่อว่าพนักงานควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้หุ่นยนต์
    - เพื่อให้เกิด ความเข้าใจและการยอมรับที่ดีขึ้นในองค์กร

    https://www.techradar.com/pro/companies-are-becoming-more-accepting-of-robotics-in-the-workplace-survey-finds-but-for-how-much-longer
    รายงานจาก QNX ระบุว่า 77% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลกเชื่อมั่นในหุ่นยนต์สำหรับการทำงานที่สำคัญ และคาดการณ์ว่า หนึ่งในห้าของแรงงานอาจถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ภายในทศวรรษหน้า แม้ว่าการนำหุ่นยนต์มาใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ 32% ของผู้จัดการระบุว่าสถานที่ทำงานยังไม่พร้อมสำหรับหุ่นยนต์ และ 29% เคยประสบปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ ✅ 77% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีเชื่อมั่นในหุ่นยนต์สำหรับการทำงานที่สำคัญ - คาดว่า หนึ่งในห้าของแรงงานอาจถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ภายในทศวรรษหน้า - 71% ขององค์กรกำลังใช้หรือวางแผนที่จะใช้หุ่นยนต์เร็ว ๆ นี้ ✅ ตลาดหุ่นยนต์ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตถึง $163.9 พันล้านภายในปี 2030 - เพิ่มขึ้นจาก $51 พันล้านในปี 2024 ✅ การใช้งานหุ่นยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ - 50% ใช้สำหรับระบบอัตโนมัติ - 46% ใช้ในการผลิต - 36% ใช้ในงานสนับสนุน - 28% ใช้ในงานที่มีความเสี่ยงสูง ✅ ผู้จัดการมีระดับความสบายใจที่แตกต่างกันในการใช้หุ่นยนต์ในแต่ละงาน - 77% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานประกอบชิ้นส่วน - 73% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานขนส่งวัสดุ - 70% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานโลจิสติกส์และการส่งสินค้า - 51% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานทางการแพทย์ - 55% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานบริการลูกค้า - 63% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานซ่อมบำรุง ✅ 90% ของผู้จัดการเห็นว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีช่วยผลักดันการใช้หุ่นยนต์ - 86% เชื่อว่าการปรับปรุงด้านความปลอดภัยช่วยให้หุ่นยนต์ได้รับการยอมรับมากขึ้น ‼️ 32% ของผู้จัดการระบุว่าสถานที่ทำงานยังไม่พร้อมสำหรับหุ่นยนต์ - อาจต้องมี การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการฝึกอบรมพนักงาน ‼️ 29% ขององค์กรเคยประสบปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ - ต้องมี มาตรการป้องกันและการตรวจสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น ‼️ 58% ของผู้จัดการมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบหุ่นยนต์ - อาจต้องมี การพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการใช้งาน ‼️ 92% ของผู้จัดการเชื่อว่าพนักงานควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้หุ่นยนต์ - เพื่อให้เกิด ความเข้าใจและการยอมรับที่ดีขึ้นในองค์กร https://www.techradar.com/pro/companies-are-becoming-more-accepting-of-robotics-in-the-workplace-survey-finds-but-for-how-much-longer
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI ได้เปิดเผยว่า โมเดล AI รุ่นใหม่ GPT o3 และ o4-mini มีอัตราการเกิดภาพหลอน (hallucinations) สูงกว่ารุ่นก่อนหน้า ซึ่งอาจส่งผลต่อ ความน่าเชื่อถือของ AI ในการใช้งานจริง

    แม้ว่าโมเดลใหม่จะถูกออกแบบให้ คิดอย่างเป็นขั้นตอนและมีเหตุผลมากขึ้น แต่ผลการทดสอบพบว่า GPT o3 มีอัตราการเกิดภาพหลอน 33% ในการทดสอบเกี่ยวกับบุคคลสาธารณะ ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า GPT o1 ที่มีอัตราเพียง 16% ส่วน GPT o4-mini มีอัตราสูงถึง 48%

    GPT o3 และ o4-mini มีอัตราการเกิดภาพหลอนสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า
    - GPT o3 มีอัตรา 33% ในการทดสอบเกี่ยวกับบุคคลสาธารณะ
    - GPT o4-mini มีอัตราสูงถึง 48% ในการทดสอบเดียวกัน

    OpenAI ออกแบบโมเดลใหม่ให้คิดอย่างเป็นขั้นตอนมากขึ้น
    - GPT o3 และ o4-mini ไม่ได้เน้นแค่การสร้างข้อความที่ลื่นไหล แต่พยายามคิดอย่างมีเหตุผล

    อัตราการเกิดภาพหลอนสูงขึ้นเมื่อทดสอบกับข้อมูลทั่วไป
    - GPT o3 มีอัตรา 51% ในการทดสอบ SimpleQA
    - GPT o4-mini มีอัตราสูงถึง 79% ในการทดสอบเดียวกัน

    OpenAI เชื่อว่าโมเดลที่มีความสามารถด้านเหตุผลมากขึ้น อาจมีโอกาสเกิดภาพหลอนสูงขึ้น
    - เนื่องจากต้อง ประเมินเส้นทางที่เป็นไปได้หลายทางและเชื่อมโยงข้อมูลที่แตกต่างกัน

    นักวิจัยบางคนเชื่อว่า AI ที่พยายามคิดอย่างมีเหตุผล อาจมีแนวโน้มที่จะ "สร้างข้อมูลขึ้นมา" มากขึ้น
    - เพราะต้อง คาดเดาและเชื่อมโยงข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-is-getting-smarter-but-its-hallucinations-are-spiraling
    OpenAI ได้เปิดเผยว่า โมเดล AI รุ่นใหม่ GPT o3 และ o4-mini มีอัตราการเกิดภาพหลอน (hallucinations) สูงกว่ารุ่นก่อนหน้า ซึ่งอาจส่งผลต่อ ความน่าเชื่อถือของ AI ในการใช้งานจริง แม้ว่าโมเดลใหม่จะถูกออกแบบให้ คิดอย่างเป็นขั้นตอนและมีเหตุผลมากขึ้น แต่ผลการทดสอบพบว่า GPT o3 มีอัตราการเกิดภาพหลอน 33% ในการทดสอบเกี่ยวกับบุคคลสาธารณะ ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า GPT o1 ที่มีอัตราเพียง 16% ส่วน GPT o4-mini มีอัตราสูงถึง 48% ✅ GPT o3 และ o4-mini มีอัตราการเกิดภาพหลอนสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า - GPT o3 มีอัตรา 33% ในการทดสอบเกี่ยวกับบุคคลสาธารณะ - GPT o4-mini มีอัตราสูงถึง 48% ในการทดสอบเดียวกัน ✅ OpenAI ออกแบบโมเดลใหม่ให้คิดอย่างเป็นขั้นตอนมากขึ้น - GPT o3 และ o4-mini ไม่ได้เน้นแค่การสร้างข้อความที่ลื่นไหล แต่พยายามคิดอย่างมีเหตุผล ✅ อัตราการเกิดภาพหลอนสูงขึ้นเมื่อทดสอบกับข้อมูลทั่วไป - GPT o3 มีอัตรา 51% ในการทดสอบ SimpleQA - GPT o4-mini มีอัตราสูงถึง 79% ในการทดสอบเดียวกัน ✅ OpenAI เชื่อว่าโมเดลที่มีความสามารถด้านเหตุผลมากขึ้น อาจมีโอกาสเกิดภาพหลอนสูงขึ้น - เนื่องจากต้อง ประเมินเส้นทางที่เป็นไปได้หลายทางและเชื่อมโยงข้อมูลที่แตกต่างกัน ✅ นักวิจัยบางคนเชื่อว่า AI ที่พยายามคิดอย่างมีเหตุผล อาจมีแนวโน้มที่จะ "สร้างข้อมูลขึ้นมา" มากขึ้น - เพราะต้อง คาดเดาและเชื่อมโยงข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-is-getting-smarter-but-its-hallucinations-are-spiraling
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้ไม่สู้ลอง แต่อย่ารีบสรุป ใช้ปรับไปเรื่อยๆอย่ามโน มองความจริงจึงมีจริง
    รู้ไม่สู้ลอง แต่อย่ารีบสรุป ใช้ปรับไปเรื่อยๆอย่ามโน มองความจริงจึงมีจริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • Gigabyte ได้เปิดตัว AI TOP 100 Z890 Desktop PC ซึ่งเป็น คอมพิวเตอร์ระดับสูงที่ออกแบบมาสำหรับงาน AI และเกมมิ่ง โดยมาพร้อมกับ GeForce RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 285K

    นอกจากนี้ ระบบยังมี SSD Cache ขนาด 320GB ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ การประมวลผล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมกับ ระบบระบายความร้อน AORUS WATERFORCE II 360 ที่ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนสะสม

    มาพร้อมกับ GeForce RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 285K
    - รองรับ DLSS 4.0 และ Multi Frame Generation
    - เหมาะสำหรับ งาน AI และเกมมิ่งระดับสูง

    มี SSD Cache ขนาด 320GB และ AORUS Gen4 7300 SSD ขนาด 2TB
    - ช่วยให้ การประมวลผล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - SSD มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าปกติถึง 150 เท่า

    รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
    - มี Thunderbolt 5, USB 3.2 Gen 2, HDMI, DisplayPort และ Wi-Fi 7
    - รองรับ Linux และ Windows 11 Pro

    ระบบระบายความร้อน AORUS WATERFORCE II 360
    - ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนสะสม

    AI TOP Utility รองรับโมเดล AI ขนาด 405B parameters
    - มี เครื่องมือสำหรับการสร้างชุดข้อมูลและการตรวจสอบโมเดลแบบเรียลไทม์

    https://www.techradar.com/pro/gigabyte-jumps-on-the-ai-bandwagon-with-rtx5090-toting-desktop-pc-that-has-a-mysterious-320gb-cache-ssd
    Gigabyte ได้เปิดตัว AI TOP 100 Z890 Desktop PC ซึ่งเป็น คอมพิวเตอร์ระดับสูงที่ออกแบบมาสำหรับงาน AI และเกมมิ่ง โดยมาพร้อมกับ GeForce RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 285K นอกจากนี้ ระบบยังมี SSD Cache ขนาด 320GB ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ การประมวลผล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมกับ ระบบระบายความร้อน AORUS WATERFORCE II 360 ที่ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนสะสม ✅ มาพร้อมกับ GeForce RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 285K - รองรับ DLSS 4.0 และ Multi Frame Generation - เหมาะสำหรับ งาน AI และเกมมิ่งระดับสูง ✅ มี SSD Cache ขนาด 320GB และ AORUS Gen4 7300 SSD ขนาด 2TB - ช่วยให้ การประมวลผล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - SSD มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าปกติถึง 150 เท่า ✅ รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย - มี Thunderbolt 5, USB 3.2 Gen 2, HDMI, DisplayPort และ Wi-Fi 7 - รองรับ Linux และ Windows 11 Pro ✅ ระบบระบายความร้อน AORUS WATERFORCE II 360 - ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนสะสม ✅ AI TOP Utility รองรับโมเดล AI ขนาด 405B parameters - มี เครื่องมือสำหรับการสร้างชุดข้อมูลและการตรวจสอบโมเดลแบบเรียลไทม์ https://www.techradar.com/pro/gigabyte-jumps-on-the-ai-bandwagon-with-rtx5090-toting-desktop-pc-that-has-a-mysterious-320gb-cache-ssd
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ส.อ.ชัยบุญ นวนจันทร์" สังกัด ร.23 พัน.4 คือ "ทหารไทย" ใจกล้า ที่ปะทะคารมกับ "ทหารเขมร" ขณะยกพวกป่วนปราสาทตาเมือนธมจนทหารเขมรต้องถอยกรูด

    ขณะที่ทหารเขมรต้องถอยเพราะทหารไทย แต่นายภูมิธรรม "นักการเมืองไทย" ที่ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กลับมีคำสั่งให้ทหารไทยถอนกำลังออกจากพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นเขตอธิปไตยของไทยเพื่อลดการปะทะลง

    แต่เหตุการณ์ปัจจุบันขณะนี้มีรายงานจาก คนไทยที่ขึ้นไปเที่ยวกลับพบว่า จนท. ทหารไทยยังอยู่ตรึงกำลังครบ ไม่มีทหารคนไหนถอยลงมาแม้แต่คนเดียว

    เครดิตคลิปจากเพจ Siam Drama Addict V3
    https://web.facebook.com/share/p/1KnsC2mkBD/
    "ส.อ.ชัยบุญ นวนจันทร์" สังกัด ร.23 พัน.4 คือ "ทหารไทย" ใจกล้า ที่ปะทะคารมกับ "ทหารเขมร" ขณะยกพวกป่วนปราสาทตาเมือนธมจนทหารเขมรต้องถอยกรูด ขณะที่ทหารเขมรต้องถอยเพราะทหารไทย แต่นายภูมิธรรม "นักการเมืองไทย" ที่ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กลับมีคำสั่งให้ทหารไทยถอนกำลังออกจากพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นเขตอธิปไตยของไทยเพื่อลดการปะทะลง แต่เหตุการณ์ปัจจุบันขณะนี้มีรายงานจาก คนไทยที่ขึ้นไปเที่ยวกลับพบว่า จนท. ทหารไทยยังอยู่ตรึงกำลังครบ ไม่มีทหารคนไหนถอยลงมาแม้แต่คนเดียว เครดิตคลิปจากเพจ Siam Drama Addict V3 https://web.facebook.com/share/p/1KnsC2mkBD/
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 761 มุมมอง 0 รีวิว
  • กิจการร่วมชั่ว ไอทีดี ซีอาร์อีซี เยียวยาเศษเงิน แลกสละสิทธิ์ฟ้องร้องดำเนินคดี ไม่เรียกเงินเพิ่ม ผู้เสียชีวิตพูดไม่ได้แล้ว ยังปิดปากญาติเค้าอีก เลวตั้งแต่ต้นสายยันปลายน้ำ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ตึกสตง
    กิจการร่วมชั่ว ไอทีดี ซีอาร์อีซี เยียวยาเศษเงิน แลกสละสิทธิ์ฟ้องร้องดำเนินคดี ไม่เรียกเงินเพิ่ม ผู้เสียชีวิตพูดไม่ได้แล้ว ยังปิดปากญาติเค้าอีก เลวตั้งแต่ต้นสายยันปลายน้ำ #คิงส์โพธิ์แดง #ตึกสตง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 485 มุมมอง 0 รีวิว