• 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จพิมพ์สามชั้น เนื้อผง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ปี 2515
    สมเด็จพิมพ์สามชั้น เนื้อผง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ปี 2515
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศในมือนายกฯฟันน้ำนม

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000090396
    ประเทศในมือนายกฯฟันน้ำนม บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000090396
    MGRONLINE.COM
    ประเทศในมือนายกฯ ฟันน้ำนม
    อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร แสดงบทบาทของนายกรัฐมนตรีมาเดือนกว่าแล้ว การ์ตูนนิสต์บัญชา-คามินของเครือผู้จัดการ ตั้งชื่อชุดการ์ตูนของเขาในยุคนี้ว่า ยุคนายกฯ ฟันน้ำนม บทบาทที่เธอสวมบทเป็นนายกรัฐมนตรีก็พอจะดูได้ด้วยคอสตูมเลิศหรูที่เธอแ
    Like
    Love
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัดพระแก้ว ไทยแลนด์✌️
    วัดพระแก้ว ไทยแลนด์✌️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัดภูผาสูง นครราชสีมา
    วัดภูผาสูง นครราชสีมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครู ผู้พัฒนา โนราสู่สากล
    ผศ.ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์
    ศิลปินแห่งชาติ ปี2564
    ☆ “โนราบ้าน 168” เริ่มต้นเปิดสอนองค์ความรู้เกี่ยวกับโนรา ณ บ้านเลขที่ 168 ถ.นครใน จ.สงขลา เผยแพร่สู่เด็กและเยาวชนและผู้สนใจทั่วไป
    ☆"โนรา" ศิลปะแห่งวิถีชีวิตโบราณ ในพื้นถิ่นปักษ์ใต้ของไทย ที่ผนวกเอาความเชื่อ วิถีชีวิตชุมชน และเรื่องราวการสืบทอดส่งต่อแบบเหนือจริงเข้าไว้ด้วยกัน ได้ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเกิดเป็นนาฏศิลป์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ.2564

    #โนราบ้าน168 #โนรา #สงขลา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ครู ผู้พัฒนา โนราสู่สากล ผศ.ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ศิลปินแห่งชาติ ปี2564 ☆ “โนราบ้าน 168” เริ่มต้นเปิดสอนองค์ความรู้เกี่ยวกับโนรา ณ บ้านเลขที่ 168 ถ.นครใน จ.สงขลา เผยแพร่สู่เด็กและเยาวชนและผู้สนใจทั่วไป ☆"โนรา" ศิลปะแห่งวิถีชีวิตโบราณ ในพื้นถิ่นปักษ์ใต้ของไทย ที่ผนวกเอาความเชื่อ วิถีชีวิตชุมชน และเรื่องราวการสืบทอดส่งต่อแบบเหนือจริงเข้าไว้ด้วยกัน ได้ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเกิดเป็นนาฏศิลป์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ.2564 #โนราบ้าน168 #โนรา #สงขลา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    Love
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1037 มุมมอง 162 0 รีวิว
  • เขื่อนลำพระเพลิง ปักธงชัย นครราชสีมา
    เขื่อนลำพระเพลิง ปักธงชัย นครราชสีมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัดจีนปากช่อง
    วัดจีนปากช่อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยวซีอาน จีน ตุลา66
    เที่ยวซีอาน จีน ตุลา66
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธรรมชาติ ดูดียามเย็นเห็นต้นไม้เป็นพระพุทธรูป
    ธรรมชาติ ดูดียามเย็นเห็นต้นไม้เป็นพระพุทธรูป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • กว่าจะได้มาแต่ละรีวิวการท่องเที่ยว-///-
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    กว่าจะได้มาแต่ละรีวิวการท่องเที่ยว-///- #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1014 มุมมอง 174 0 รีวิว
  • เที่ยวแชงกีลา คุนหมิง จีน 3เมษา67
    เที่ยวแชงกีลา คุนหมิง จีน 3เมษา67
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮอกไกโด 26พย66
    ฮอกไกโด 26พย66
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรียกสามีกลับ ให้ร้อนรน ลุ่มหลง เสน่ห์หา
    เรียกสามีกลับ ให้ร้อนรน ลุ่มหลง เสน่ห์หา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • ☆หมุดโลก บนยอดเขาสะแกกรัง จ.อุทัยธานี
    ☆หมุดโลก” หรือชื่อทางการว่า “หมุดศูนย์กำเนิดพื้นหลักฐาน” สร้างขึ้นเพื่อใช้คำนวณและแบ่งแนวเขตในการลงพิกัดแผนที่โลก ซึ่งในทวีปเอเชียมี 3 แห่งด้วยกัน คือ

    ●จุดที่ 1 (หมุดที่ 90) อยู่ที่เขากาเรียนเปอร์ ประเทศอินเดีย
    ●จุดที่ 2 (หมุดที่ 91) อยู่ที่เขาสะแกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    ●จุดที่ 3 (หมุดที่ 92) อยู่ที่ประเทศเวียดนาม
    ■■■■■■■■
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #หมุดโลกบนยอดเขาสะแกกรัง #อุทัยธานี
    ☆หมุดโลก บนยอดเขาสะแกกรัง จ.อุทัยธานี ☆หมุดโลก” หรือชื่อทางการว่า “หมุดศูนย์กำเนิดพื้นหลักฐาน” สร้างขึ้นเพื่อใช้คำนวณและแบ่งแนวเขตในการลงพิกัดแผนที่โลก ซึ่งในทวีปเอเชียมี 3 แห่งด้วยกัน คือ ●จุดที่ 1 (หมุดที่ 90) อยู่ที่เขากาเรียนเปอร์ ประเทศอินเดีย ●จุดที่ 2 (หมุดที่ 91) อยู่ที่เขาสะแกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ●จุดที่ 3 (หมุดที่ 92) อยู่ที่ประเทศเวียดนาม ■■■■■■■■ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #หมุดโลกบนยอดเขาสะแกกรัง #อุทัยธานี
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1045 มุมมอง 175 0 รีวิว
  • #ออกกำลังกาย #กินดีอยู่ดี #entireaging
    #ออกกำลังกาย #กินดีอยู่ดี #entireaging
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • PCB EP 3 ( link คุยกัน https://line.me/ti/g2/marK9LFwFRzO3nnM-w48SIuF46Eudg8_jE6gbA?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=defaultEverything PCBแนะนำ และ เรียนรู้ เกี่ยวกับ PCB )
    PCB EP 3 ( link คุยกัน https://line.me/ti/g2/marK9LFwFRzO3nnM-w48SIuF46Eudg8_jE6gbA?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=defaultEverything PCBแนะนำ และ เรียนรู้ เกี่ยวกับ PCB )
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระวังเฟซบุ๊กปลอม! "คุยทุกเรื่องกับสนธิ"
    ทักชวนบริจาคเงิน อย่าหลงเชื่อ
    .
    มิจฉาชีพปลอมเพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ ทักชวนบริจาคเงิน เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ ยืนยันไม่เคยมีการทักข้อความไปทางไลน์ หรือ แอปฯ สนทนาใด ๆ พร้อมเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
    .
    วันนี้ (26 ก.ย.) มีแฟนรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิได้แจ้งข่าวว่า มีมิจฉาชีพได้สร้าง เฟซบุ๊กปลอมของรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คุยทุกเรื่อง กับสนธิ" (มีเว้นวรรคตรงกลาง) โดยปัจจุบันมีเพื่อน (Friends) อยู่มากถึง 2,400 คน ทั้งนี้เฟซบุ๊กดังกล่าวมีพฤติกรรมในการทักข้อความไปหา "เพื่อน" เพื่อชักชวนร่วมทำบุญ โดยอ้างว่ามาจากเพจสนธิ ลิ้มทองกุล โดยล่อลวงให้ผู้หลงเชื่อ add LINE ผ่านการสแกนคิวอาร์โคด
    .
    ทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ จึงแจ้งว่ารายการคุยทุกเรื่องกับสนธินั้นมีเฟซบุ๊กเพจ เพียงเพจเฟซบุ๊กเพียงเดียว โดยสังเกตเพจจริงได้ในหลายๆ จุดด้วยกันคือ
    • มีคนคลิก Like อยู่ 1.3 ล้านคน
    • มีคนติดตาม Followers อยู่มากกว่า 3.8 ล้านคน
    • ท้ายชื่อเพจมีเครื่องหมาย Verified สีน้ำเงิน (✔️) ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นเพจจริงจากเฟซบุ๊ก
    .
    ทั้งนี้ ที่ผ่านมารายการคุยทุกเรื่องกับสนธิไม่เคยมีการทักข้อความไปทาง แอปพลิเคชัน LINE หรื แอปฯ สนทนาใด ๆ เพื่อชักชวนให้มีการบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น และในกรณีนี้ทางรายการฯ ได้ดำเนินการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อหาผู้กระทำผิดต่อไป
    .
    คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9670000090441
    ......
    Sondhi X
    ระวังเฟซบุ๊กปลอม! "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ทักชวนบริจาคเงิน อย่าหลงเชื่อ . มิจฉาชีพปลอมเพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ ทักชวนบริจาคเงิน เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ ยืนยันไม่เคยมีการทักข้อความไปทางไลน์ หรือ แอปฯ สนทนาใด ๆ พร้อมเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว . วันนี้ (26 ก.ย.) มีแฟนรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิได้แจ้งข่าวว่า มีมิจฉาชีพได้สร้าง เฟซบุ๊กปลอมของรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คุยทุกเรื่อง กับสนธิ" (มีเว้นวรรคตรงกลาง) โดยปัจจุบันมีเพื่อน (Friends) อยู่มากถึง 2,400 คน ทั้งนี้เฟซบุ๊กดังกล่าวมีพฤติกรรมในการทักข้อความไปหา "เพื่อน" เพื่อชักชวนร่วมทำบุญ โดยอ้างว่ามาจากเพจสนธิ ลิ้มทองกุล โดยล่อลวงให้ผู้หลงเชื่อ add LINE ผ่านการสแกนคิวอาร์โคด . ทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ จึงแจ้งว่ารายการคุยทุกเรื่องกับสนธินั้นมีเฟซบุ๊กเพจ เพียงเพจเฟซบุ๊กเพียงเดียว โดยสังเกตเพจจริงได้ในหลายๆ จุดด้วยกันคือ • มีคนคลิก Like อยู่ 1.3 ล้านคน • มีคนติดตาม Followers อยู่มากกว่า 3.8 ล้านคน • ท้ายชื่อเพจมีเครื่องหมาย Verified สีน้ำเงิน (✔️) ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นเพจจริงจากเฟซบุ๊ก . ทั้งนี้ ที่ผ่านมารายการคุยทุกเรื่องกับสนธิไม่เคยมีการทักข้อความไปทาง แอปพลิเคชัน LINE หรื แอปฯ สนทนาใด ๆ เพื่อชักชวนให้มีการบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น และในกรณีนี้ทางรายการฯ ได้ดำเนินการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อหาผู้กระทำผิดต่อไป . คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9670000090441 ...... Sondhi X
    Like
    Angry
    21
    1 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 1854 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔹️แพ็กคู่ซีรีส์ชุด พิกัดต่อไปใครเป็นศพ❗

    คำเตือน เนื้อหายาวมากถึงมากที่สุด

    1 #พิกัดต่อไปใครเป็นศพ #masqueradehotel

    อ่านจนจบในวันเดียว หนาถึง 547 หน้า ดีที่ขนาดไม่เทอะทะแม้หนาแต่ไม่หนัก ตอนตัดสินใจเลือกยืมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยชมที่สร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน พออ่านไปได้ไม่กี่หน้าเริ่มรู้สึกฉากช่างคุ้นเคย เนื้อเรื่องเหมือนเคยรู้มาก่อน ทบทวนความทรงจำตนเองจึงค่อยจำได้ว่าคือเรื่องเดียวกับหนังที่ดูจบแล้วชอบมากนั่นเอง แต่ห้วงเวลาที่ชมนั้นไม่เคยทราบว่าสร้างจากนิยายเล่มนี้ ดูเพราะชอบนักแสดงหลักทั้งสองคนเลยคือ ทาคูยะ และมาซามิ และก็ไม่ผิดหวังทั้งคู่แสดงในบทบาทที่ได้รับได้ดีมาก พระนางมีการขัดแย้งในความเห็นอย่างที่เรียกว่าคู่กัด แต่ก็ห่วงใยช่วยเหลือกันมีความน่ารักปนน่าหมั่นไส้ โรงแรมที่ใช้เป็นฉากก็หรูหราโอ่โถงงดงามน่าใช้บริการอย่างมากครับ

    📚วกกลับมาเข้าเรื่องในหนังสือ

    สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 425 บาท
    ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน
    อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล

    เนื้อหาในเล่มกล่าวถึงชีวิตของพนักงานโรงแรมคอร์เทเชียโตเกียวสุดหรูที่มีนามว่า ยามางิชิ นาโอมิ ซึ่งเป็นตัวเอกที่ดำเนินเรื่องหลักของนิยายเล่มนี้ ที่ฉากแรกปรากฏก็เปิดตัวอย่างสง่างามสมกับความเป็นพนักงานต้อนรับมืออาชีพยิ่ง เพราะมีลูกค้าชายประเภทที่จงใจก่อปัญหาเพื่อหวังจะได้เข้าพักในห้องราคาสูงกว่าที่ตนได้เลือกจองไว้ จนพนักงานยกกระเป๋าที่เข็นของไปให้ ต้องโทร.ลงมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งเธอสามารถบริหารจัดการให้ผ่านพ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าลงได้อย่างสวยงาม

    จากนั้นเรื่องจึงนำพาผู้อ่านเข้าสู่ประเด็นของที่มาอันกลายเป็นชื่อเรื่องคือ ทางผู้จัดการใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลพนักงานในโรงแรมทั้งหมด ได้รับการติดต่อขอความร่วมมือจากกรมตำรวจนครบาลโตเกียว ในการสืบสวนคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ ที่มีแนวโน้มเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโดยคนร้ายรายเดียวกัน

    🏨

    รายละเอียดของคดีคือ มีการพบศพผู้ตาย 3 ราย ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 6-7 วันนับจากศพแรก ทราบชื่อผู้ตายทั้งสาม เป็นชาย2หญิง1 สาเหตุเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยการตีจากด้านหลังบ้าง รัดคอบ้าง ทุกรายพบตัวเลขปริศนา2ชุดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อหรือไม่อย่างไร แต่ตำรวจมั่นใจว่าคนร้ายหมายตาที่จะก่อเหตุในครั้งต่อไป โดยเล็งเป้าหมายคือโรงแรมที่นาโอมิทำงานอยู่ ปัญหาใหญ่คือไม่ทราบว่าใครที่คนร้ายหมายจะฆ่า ทำไมถึงเลือกที่นี่ และคนร้ายคือใคร ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้ ฝ่ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้คุยตกลงกันกับผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมแล้ว ดังนั้นจึงเรียกตัว หัวหน้าจากหลายฝ่ายให้มาร่วมประชุม ไม่ว่าฝ่ายห้องพัก ฝ่ายเข็นสัมภาระลูกค้าไปส่งห้อง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และในการนี้นาโอมิยังถูกระบุให้เข้าร่วมประชุมแม้จะเป็นแค่เพียง พนักงานระดับปฏิบัติการณ์ฝ่ายต้อนรับเท่านั้น

    🏨

    เหตุผลเพราะหัวหน้างานไว้วางใจ เชื่อมั่นในคุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอจะสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับตำรวจ ที่จะปลอมเข้ามาเป็นพนักงานเพื่อเฝ้าสังเกตบุคคลที่มาใช้บริการโรงแรม ซึ่งแผนกต้อนรับเองนาโอมิถูกเลือกให้จับคู่กับรองสารวัตรนิตตะ ส่วนแผนกอื่นก็มีตำรวจปลอมตัวเข้าไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็มีตำรวจส่วนหนึ่งที่ถูกสั่งการให้ปะปนเข้ามาเป็นคนใช้บริการหรือจับตาความเคลื่อนไหวบริเวณโถงรับแขก ห้องอาหาร และอื่นๆ

    🏨

    นั่นคือจุดเริ่มแห่งความหรรษา เพราะนิตตะไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธีการ แต่จำใจต้องเชื่อฟังนาโอมิที่อายุน้อยกว่า ตั้งแต่เรื่องชุดพนักงาน ท่าทีการพูดจา บุคลิกภายนอกที่ต้องถูกปรับให้กลายจากความเป็นตำรวจมาเป็นพนักงานต้อนรับให้สมจริงมากที่สุด ทั้งคู่จึงมีการกระทบกระทั่งทางความคิดที่ไม่ตรงกัน จนมีการโต้เถียงบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความบันเทิงประการหนึ่ง ด้วยคู่นี้มีความน่ารัก น่าลุ้น ที่จะกลายมาเป็นคู่ใจในอนาคตได้

    🏨

    ระหว่างนั้น นาโอมิมีข้อสงสัยมากมายหลายประการ เธอมักถามนิตตะที่ทราบรายละเอียดของคดีมากกว่าที่พนักงานโรงแรมทราบ แต่นิตตะไม่บอกเล่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นความลับของทางราชการไม่อาจให้คนนอกทราบได้

    งานบริการของนาโอมิยังคงต้องดำเนินต่อไป เกิดปัญหาจากความต้องการของลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาพักเป็นระยะ ซึ่งเธอและนิตตะต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านพ้น ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับในตัวตนและงานของอีกฝ่ายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อแรกพบหน้า ลูกค้าบางคนดูไม่น่าไว้ใจและมีท่าทางแปลกจนนิตตะจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยสัญชาตญาณของนักสืบ

    🏨

    ขณะที่มีตำรวจวัยเลยกลางคนไปแล้ว ซึ่งเป็นตำรวจในท้องที่เกิดเหตุคนหนึ่งที่รู้จักกับนิตตะ และได้รับการมอบหมายให้เป็นคู่หูสืบคดีก่อนที่นิตตะจะต้องปลอมตัวมาเป็นพนักงานต้อนรับนั้น มีน้ำใจที่อยากจะช่วยเหลือ จึงมักอาสาช่วยสืบเรื่องราวต่าง ๆ จากด้านนอก ตามที่นิตตะมีความสงสัยด้วยอีกทางหนึ่ง

    ในที่สุดนิตตะก็ทนรบเร้าจากนาโอมิไม่ไหว อีกทั้งเริ่มมีความไว้ใจเธอมากขึ้น จนยอมเล่าให้ทราบถึงปริศนาของชุดตัวเลขที่ปรากฏทุกครั้งในสถานที่พบศพอันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตำรวจตัดสินใจปะปนเข้ามาในโรงแรม ทำให้เธอเริ่มเกิดความตื่นตัวและทึ่งในความสามารถของเขา รวมถึงมีความกังวลถึงเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้จนส่งผลต่อสุขภาพและงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ

    🏨

    อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตัวคนร้ายคือคนที่คิดไม่ถึง ซึ่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าจะวางแผนการณ์ได้อย่างแยบยลขนาดนั้น แต่แรงจูงใจในการก่อคดียังรู้สึกว่ามีน้ำหนักน้อยไปสักหน่อย คงเพราะความที่คนร้ายเป็นคนประเภทมีจิตรุนแรงในพื้นนิสัย ทำให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยนิตตะและนาโอมิในตอนที่เนื้อเรื่องเปิดเผยให้คนอ่านทราบแล้วว่าเป็นใคร ทั้งสองจะปลอดภัยหรือไม่ จะจับตัวคนร้ายได้ไหม ใครจะถูกฆ่าเป็นรายถัดไปหรือเปล่า ต้องตามอ่านต่อในพิกัดต่อไปใครเป็นศพครับ

    🖋วิจารณ์หลังจบเรื่อง

    เป็นการเล่าในมุมมองบุคคลที่สามคือมุมมองพระเจ้า ฉากหลักตลอดทั้งเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงแรม ตัวละครที่มีการเอ่ยชื่อและมีบทบาทสำคัญไม่เยอะจนเกินไป จึงทำให้คนอ่านจดจำและรู้สึกใกล้ชิดกับตัวเอก ไปจนตัวรองที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ ได้ไม่ยาก ความจริงในส่วนของคดีที่เกิดในเล่มนี้นั้น พูดตามจริงแล้วไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร รูปแบบการฆ่าก็ธรรมดาเกินกว่าจะดูน่ากลัวหรือลึกลับ เพียงแต่มีจุดเด่นตรงชุดตัวเลขปริศนาว่าหมายถึงอะไร และชวนน่าสงสัยเล็กน้อยว่าคนร้ายจะฆ่าคนไปทำไม เพราะดูเหมือนตำรวจมีข้อมูลน้อยมาก จนการสืบสวนแทบไม่เดินหน้าไปไหนเลย

    🏨

    เป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่คงจะต้องการให้โทนของเรื่องออกมาในลักษณะนี้ คือไม่เน้นที่การสืบสวนคลี่คลายปมเป็นพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องผูกเรื่องราวของคดีที่เกิดขึ้นให้มีความอลังการ จนดึงดูดความสนใจกระหายใคร่รู้ และกระตุ้มต่อมนักสืบของคนอ่านจนพุ่งสูงด้วยความเข้มข้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ แต่กลับเลือกที่จะให้ดูเป็นคดีทั่วไป ไม่มีความโชกเลือดหรือบ้าคลั่งของฆาตกรเป็นที่ปรากฏออกมาในบรรยากาศ ซึ่งในแง่นี้ถือว่านักอ่านหลายคนอาจถูกภาพปกของหนังสือหลอกเอาได้ เพราะโทนสีดำแดง กับเลือดเปรอะกระจายบนแผนที่ อีกทั้งชื่อเรื่องชวนค้นหาว่าคงจะดำเนินไปในแนวทางน่าตื่นเต้นกับการตามสืบอะไรทำนองนั้น ซึ่งใครที่คาดหวังมากก็อาจผิดหวังเมื่อพบว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ตนคาดว่าจะได้พบเจอ

    🏨

    แต่นี่ไม่มีปัญหากับผม ส่วนตัวชอบมาก แทบไม่ได้สนใจในคดีด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นคนร้าย ใครเป็นเป้าหมายที่กำลังจะถูกฆ่า และทำไมต้องฆ่า คืออ่านไปได้เรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน ชอบในความที่เนื้อหาเจาะลึกถึงวงการคนโรงแรม ทำให้เราได้รู้ข้อมูลหลายอย่าง สิ่งที่พนักงานต้องแบกรับและพบเจอที่เป็นเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยได้คำนึงถึงและไม่เคยมองในมุมของคนทำงานเหล่านั้น จึงเป็นความบันเทิงที่สามารถได้รู้เรื่องราวอินไซด์โดยผ่านการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของนาโอมิ กับประเด็นต่าง ๆ ที่เข้ามามากมาย คล้ายกำลังได้ติดตามดูซีรีส์ชีวิตการทำงานในอาชีพด้านการบริหารโรงแรมดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง ซึ่งอดีตเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เคยได้รับชมมาบ้างทั้งของญี่ปุ่นและเกาหลี

    🏨

    จุดเด่นในการดำเนินเรื่องคือเราจะได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของสองตัวละครหลัก ในระหว่างร่วมกันแก้ไขปัญหา แม้มีความขัดแย้งจากความเห็นมุมมองที่ต่างสถานะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดีเสียอีกทำให้ต่างฝ่ายได้เรียนรู้เพิ่ม เป็นประสบการณ์ใหม่และเปิดมุมมองอีกด้านที่ตนไม่เคยใส่ใจ จนเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจ และเชื่อใจกันโดยไม่รู้ตัว แม้นภายนอกเหมือนไม่ชอบหน้ากันก็ตาม ที่สำคัญคือแม้เรื่องแนวทางการสืบหาตัวคนร้ายเหมือนไม่คืบหน้าไปไหน แต่เมื่อนาโอมิแก้ปัญหาลูกค้าไปทีละเรื่องต่อเนื่องไป ทำให้นิตตะเองสะดุดคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกี่ยวโยงไปถึงคดีได้อย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งคำพูดของนาโอมิเองช่วงสนทนากับนิตตะ ไปจุดประกายให้เขาพลันนึกอะไรได้ขึ้นมาอย่างกะทันหันก็มี รวมถึงคู่หูนายตำรวจท้องที่ผู้มีอายุมากกว่าเขา ก็ยังมีส่วนช่วยอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ทำให้เห็นถึงพลังของความช่วยเหลือกันและกันของความเป็นเพื่อน แม้เพิ่งทำความรู้จักกันชั่วระยะเวลาไม่นาน นี่จึงไม่ใช่นิยายสืบสวนที่เน้นความเก่งฉกาจของนักสืบที่รับผิดชอบคดีแบบฉายเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความเชื่อใจระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นที่มีของตนคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอ

    หากพิจารณาให้ดี จะได้เห็นถึงความสำคัญของบุคคลแวดล้อมที่ดูราวกับไม่มีส่วนสำคัญ แต่แท้จริงถ้าไม่ได้ความคิดเห็นหรือความช่วยเหลือของเขา พระเอกของเราก็ยังคงไม่อาจฉุกใจได้คิด จนนำไปสู่การรู้ตัวคนร้ายในช่วงท้ายของเรื่อง

    บทสรุปก่อนจบ มีแนวโน้มให้คนอ่านได้ลุ้นว่านิตตะกับนาโอมิ จะมีความเป็นไปได้ในการเป็นคู่รักหรือไม่ แต่ที่มั่นใจคือน่าจะมีเล่มต่อให้ได้ติดตามกันอย่างแน่นอน.

    .........................................

    2. #พิกัดต่อไปใครเป็นศพตอนลางร้ายใต้หน้ากาก #masqueradeeve

    เล่มที่สองของซีรีส์ ที่ยังคงความสนุกได้ไม่แพ้เล่มแรก แต่ความหนาน้อยลงเหลือ 352 หน้า

    สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 345 บาท
    ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน
    อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล

    เนื้อหาย่อของเล่มนี้

    ถึงจะออกมาเป็นเล่มที่สองของชุด แต่เหตุการณ์เป็นเรื่องก่อนหน้าคดีในเล่มแรก คือย้อนไปเล่าสมัยที่นาโอมิเพิ่งจะเข้าทำงานใน คอร์เทเชียโตเกียวได้แค่สี่ปี และย้ายแผนกมาอยู่ฝ่ายต้อนรับไม่นาน ยังเห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องที่ไม่คล่องตัว ยังไม่มีความเชื่อมั่นในประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญดังภาพที่ปรากฏในเล่มก่อนหน้า ทว่าก็ยังคงบุคลิกที่มุ่งมั่นในการให้บริการ และมีหัวใจในการคิดถึงและเอาใจใส่ต่อลูกค้าทุกคนอย่างซื่อสัตย์

    🏨

    เริ่มต้นมา นาโอมิก็ได้แสดงความสามารถที่ทำให้เห็นถึงความมีไหวพริบปฏิภาณ และช่างสังเกต อันเป็นคุณสมบัติที่ควรต้องมีในคนที่ทำอาชีพเช่นเธอ โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนาโอมิจดจำได้ว่าเป็นอดีตแฟนที่เคยคบหากันชั่วเวลาหนึ่งสมัยที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย แต่มีเหตุให้ต้องเลิกราแยกย้ายกันไปคนละเส้นทาง เขามากับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักกีฬาเบสบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมาก โดยทำหน้าที่เป็นผจก.ส่วนตัวนักกีฬาชาย แล้วได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในขณะที่ทั้งสองมาพักอยู่ในโรงแรม จนเป็นเหตุให้แฟนเก่าคนนี้โทร.ตามตัวนาโอมิจากหน้าฟรอนต์ให้มาช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเธอไม่เต็มใจนักแต่ต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออก แล้วสวมหัวใจพนักงานฝ่ายต้อนรับที่ต้องช่วยเหลือบริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายเธอก็สามารถจัดการกับปัญหาให้จบลงด้วยดี

    🏨

    ทางด้านนิตตะนั้น เพิ่งเริ่มต้นอาชีพด้วยการเข้าเป็นน้องใหม่ในสังกัดกรมตำรวจหลังกลับมาจากต่างประเทศไม่นาน โดยมีรุ่นพี่โมโตมิยะ(ปรากฏตัวในเล่มแรกด้วย โดยเป็นหนึ่งที่ปลอมตัวเข้าไปในโรงแรม) ที่เป็นคู่หูและพี่เลี้ยง ซึ่งคดีแรกที่เขาต้องคลี่คลายคือ คดีฆาตกรรมวันไวต์เดย์ โดยตำรวจได้รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าสามีของตนออกไปวิ่งออกกำลังตอนกลางดึกแต่ยังไม่กลับถึงบ้านตามเวลา สุดท้ายมีการพบว่าสามีของเธอกลายเป็นศพอยู่ในสวน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกแทงที่ท้องและหลัง มีอะไรหลายอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลที่ตำรวจได้สืบทราบมา ที่รบกวนใจของนิตตะ เขาได้แสดงความสามารถออกมาเป็นที่ปรากฏจนรุ่นพี่ออกจะไม่พอใจและหมั่นไส้อยู่บ้าง ด้วยสิ่งที่นิตตะคาดคะเนและวิเคราะห์ทำให้ตำรวจสามารถพบตัวของผู้ก่อเหตุได้ในเวลาไม่นาน แต่คดีนี้มีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่าสิ่งที่ตำรวจรู้

    🏨

    ตัดมาที่การปฏิบัติงานของนาโอมิ ในเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายหลายคน มาจองห้องพักและมีพฤติการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าแปลกพิกล ต่อมาทราบว่าที่แท้คนกลุ่มนี้หวังที่จะมาเฝ้ารอเพื่อจะได้พบเจอกับนักเขียนนิยายที่โด่งดังนามว่า ทาจิบานะ ซากุระซึ่งเขียนแนวประโลมโลก และจะเข้ามาพักที่โรงแรมเพื่อเขียนงานใหม่ เนื่องจากเหล่าสาวกที่ชื่นชอบงานเขียนของซากุระ ไปเห็นรูปที่ถูกระบุว่าเป็นนักเขียนหญิงคนดังในโซเชียลมีเดีย พอเห็นว่าเป็นสาวสวยจึงหาวิธีที่จะได้พบเจอตัวจริงให้ได้ จึงเป็นหน้าที่ของนาโอมิ ที่จะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวรวมถึงความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ความยุ่งยากจึงเกิดขึ้น

    🏨

    ตอนสุดท้าย นาโอมิได้รับการขอจากผู้จัดการให้ช่วยไปสอนงานให้กับพนักงานแผนกต้อนรับที่สาขาโอซาก้า ซึ่งเพิ่งเปิดโรงแรมได้ไม่นาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่เกินครึ่งปี ในขณะที่นิตตะมีคดีใหม่ที่ต้องรับผิดชอบกับรุ่นพี่โมโตมิยะ คือการตายของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องทางสิทยาศาสตร์ โดยพบศพในห้องทำงาน คดีนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นบุคคลคนหนึ่ง แต่ทว่าเขากลับมีหลักฐานยืนยันที่อยู่ชัดเจนในช่วงเวลาที่คาดว่าเหยื่อถูกฆ่าตาย ซึ่งเจ้าตัวเข้าใจว่าตนเองรอดพ้นแน่แต่แท้จริงเบื้องหลังยังมีอะไรที่ไม่เป็นดังที่คิด ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่า

    ในกรณีทีมสืบสวนเอง ผู้ใหญ่ได้สั่งการลงมาให้นิตตะจับคู่กันกับตำรวจหญิงวัยละอ่อน ที่เป็นตำรวจท้องที่มีนามว่า ริสะ ที่ถูกย้ายมาจากแผนกความปลอดภัยชุมชน ให้มาร่วมในทีมเป็นครั้งแรก นิตตะไม่พอใจนักแต่จำใจต้องทำตาม แม้จะดูเหมือนเป็นตำรวจหญิงที่อ่อนต่อโลก พูดเป็นต่อยหอย และขาดไหวพริบม แต่ริสะก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นใส่ใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่เธอได้รับคำสั่งจากนิตตะให้ไปสืบเช็กข้อมูลจากโรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้า เพื่อยืนยันคำพูดจากปากของชายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ทำให้ริสะได้พบกับนาโอมิ อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาถึงผลลัพธ์ในภายหลัง

    🖋วิเคราะห์หลังอ่านจบ

    เล่มนี้เล่าเรื่องโดยแยกเนื้อหาระหว่างการแก้ปัญหาในโรงแรมของนาโอมิ กับการไขคดีของนิตตะออกจากกันชัดเจนเป็นตอนที่จบในตัว เริ่มจากตอนของนาโอมิก่อน จากนั้นสลับไปเล่าฝั่งนิตตะ แต่ในตอนสุดท้ายจะผนวกสองฝั่งให้เชื่อมถึงกันในคดีที่มีผู้เกี่ยวข้องได้ไปเข้าพักที่โรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้าซึ่งนาโอมิกำลังอยู่ในช่วงที่สอนงานให้พนักงานที่นั่น

    ทั้งคู่ไม่ได้พบกันเลย เพราะการพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นในเล่มแรก แต่ผู้เขียนมีความสามารถในการผูกโยงเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นคนทั้งสองอย่างใกล้ชิด และได้เห็นบุคลิกกับอุปนิสัยส่วนตัวของนาโอมิกับนิตตะมากขึ้น

    นิตตะในเล่มนี้ มีโอกาสได้แสดงฝีมือในการคิดวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์กับข้อมูลที่ใช้หาตัวคนร้าย ได้เด่นชัดกว่าเล่มแรก สมกับที่เป็นระดับหัวกะทิที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่เราก็จะได้เห็นถึงข้อเสียใหญ่ของเขาที่ไม่น่ารักเช่นกัน คือเป็นคนมั่นใจในความฉลาดของตนมากจนเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะความคิดที่เห็นว่าผู้หญิงเป็นตัวถ่วง สู้ผู้ชายไม่ได้ ดังที่นิตตะแสดงออกทางสีหน้าท่าทางและคำพูดต่อเด็กใหม่อย่างริสะ ที่เหมือนเป็นได้แค่ลูกไล่ไร้ประโยชน์ ซึ่งต่างจากนาโอมิ ที่แม้จะมองออกว่าริสะเป็นตำรวจที่ความสามารถไม่ถึงขั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญ กลับมองเห็นถึงมุมที่เป็นความอดทน ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดของตำรวจหญิงในการพยายามค้นหาความจริงให้ได้ ความมุ่งมั่นของริสะจึงเอาชนะใจของนาโอมิ จนยอมช่วยเหลือด้วยการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนให้ริสะทราบ

    ในส่วนของการคลี่คลายคดี ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนจนเกินไป แต่เล่มนี้จะเน้นไปที่คดีที่น่าจะเป็นที่มาของชื่อตอน (ลางร้ายใต้หน้ากาก) ถึงสองคดีด้วยกันครับ ถ้าได้อ่านแล้วจะเข้าใจ และน่าจะเห็นตรงกันว่าภายใต้หน้ากากที่ภายนอกดูไม่ได้รู้เลยว่าจะกลายเป็นคนร้ายได้ สุดท้ายก็แอบซ่อนความบิดเบี้ยวของใจที่โดนกิเลสเข้าครอบงำได้อย่างน่ากลัว

    ตัวละครในเรื่อง สำหรับเล่มนี้ รู้สึกว่าริสะที่แม้จะมีบทบาทเพียงแค่ช่วงคดีสุดท้ายนั้น เป็นตัวละครที่เขียนมาได้น่าสนใจมาก โผล่มาทีไรก็ทำให้คนอ่านอย่างผมอดขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปต่อในเล่มอื่น ๆ ของชุดนี้หรือไม่ ส่วนนาโอมินั้นยังคงเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เช่นเดิม เทียบกับนิตตะแล้วส่วนตัวมีความรู้สึกชอบนาโอมิมากกว่า

    นอกจากนี้ยังชอบตอนจบของเรื่อง ที่มีการโยงถึงเหตุการณ์ที่เป็นต้นตอนำไปสู่ความอาฆาตแค้นของฆาตกรในคดีที่เกิดขึ้นในเล่มแรก สรุปว่าอ่านจบเล่มสองแล้วก็จะไปต่อเหตุการณ์ของเล่มแรกพอดี

    ใครเริ่มอ่านจากเล่มนี้ก่อน สามารถอ่านเล่มแรกต่อเนื่องได้เลย

    📌คำเตือน : สำหรับคนที่ชอบการสืบคดีแบบเข้มข้น มีวิธีการฆ่าที่ค่อนข้างแปลกพิสดารหรือโหดสยอง และมีกลวิธีในการอำพรางซ่อนเร้นที่ไม่ธรรมดา ซีรีส์ชุดนี้อาจไม่ตอบโจทย์ แล้วเลยพาลจะไม่ชอบหรือหมดสนุกได้ง่าย แต่ถ้าชอบแนวได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพของตัวเอกควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการไขคดีที่ไม่โลดโผน ชุดนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณได้ไม่ยากครับ

    ป.ล. มีปกใหม่ออกมาที่คิดว่าทำได้ดีตรงกับแนวเรื่องและชื่อตอนมากกว่าปกฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกด้วย เพราะปกของเล่มสองนี้ดูเหมือนน่าจะโหดมาก แต่เนื้อในไม่ใช่อย่างที่คิด

    ใครอ่านตั้งแต่ต้นมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ได้ขอได้รับความขอบคุณจากผมด้วยครับ

    #thaitimes
    #หนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #นิยายสืบสวน
    #สืบสวน
    #คดีฆาตกรรม
    #งานโรงแรม
    #พนักงานต้อนรับ
    #ตำรวจ
    #นักสืบ
    #ลูกค้า
    #งานบริการ
    #อาชีพ
    #ฮิงาชิโนะเคโงะ
    🔹️แพ็กคู่ซีรีส์ชุด พิกัดต่อไปใครเป็นศพ❗ คำเตือน เนื้อหายาวมากถึงมากที่สุด 1 #พิกัดต่อไปใครเป็นศพ #masqueradehotel อ่านจนจบในวันเดียว หนาถึง 547 หน้า ดีที่ขนาดไม่เทอะทะแม้หนาแต่ไม่หนัก ตอนตัดสินใจเลือกยืมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยชมที่สร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน พออ่านไปได้ไม่กี่หน้าเริ่มรู้สึกฉากช่างคุ้นเคย เนื้อเรื่องเหมือนเคยรู้มาก่อน ทบทวนความทรงจำตนเองจึงค่อยจำได้ว่าคือเรื่องเดียวกับหนังที่ดูจบแล้วชอบมากนั่นเอง แต่ห้วงเวลาที่ชมนั้นไม่เคยทราบว่าสร้างจากนิยายเล่มนี้ ดูเพราะชอบนักแสดงหลักทั้งสองคนเลยคือ ทาคูยะ และมาซามิ และก็ไม่ผิดหวังทั้งคู่แสดงในบทบาทที่ได้รับได้ดีมาก พระนางมีการขัดแย้งในความเห็นอย่างที่เรียกว่าคู่กัด แต่ก็ห่วงใยช่วยเหลือกันมีความน่ารักปนน่าหมั่นไส้ โรงแรมที่ใช้เป็นฉากก็หรูหราโอ่โถงงดงามน่าใช้บริการอย่างมากครับ 📚วกกลับมาเข้าเรื่องในหนังสือ สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 425 บาท ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล เนื้อหาในเล่มกล่าวถึงชีวิตของพนักงานโรงแรมคอร์เทเชียโตเกียวสุดหรูที่มีนามว่า ยามางิชิ นาโอมิ ซึ่งเป็นตัวเอกที่ดำเนินเรื่องหลักของนิยายเล่มนี้ ที่ฉากแรกปรากฏก็เปิดตัวอย่างสง่างามสมกับความเป็นพนักงานต้อนรับมืออาชีพยิ่ง เพราะมีลูกค้าชายประเภทที่จงใจก่อปัญหาเพื่อหวังจะได้เข้าพักในห้องราคาสูงกว่าที่ตนได้เลือกจองไว้ จนพนักงานยกกระเป๋าที่เข็นของไปให้ ต้องโทร.ลงมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งเธอสามารถบริหารจัดการให้ผ่านพ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าลงได้อย่างสวยงาม จากนั้นเรื่องจึงนำพาผู้อ่านเข้าสู่ประเด็นของที่มาอันกลายเป็นชื่อเรื่องคือ ทางผู้จัดการใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลพนักงานในโรงแรมทั้งหมด ได้รับการติดต่อขอความร่วมมือจากกรมตำรวจนครบาลโตเกียว ในการสืบสวนคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ ที่มีแนวโน้มเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโดยคนร้ายรายเดียวกัน 🏨 รายละเอียดของคดีคือ มีการพบศพผู้ตาย 3 ราย ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 6-7 วันนับจากศพแรก ทราบชื่อผู้ตายทั้งสาม เป็นชาย2หญิง1 สาเหตุเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยการตีจากด้านหลังบ้าง รัดคอบ้าง ทุกรายพบตัวเลขปริศนา2ชุดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อหรือไม่อย่างไร แต่ตำรวจมั่นใจว่าคนร้ายหมายตาที่จะก่อเหตุในครั้งต่อไป โดยเล็งเป้าหมายคือโรงแรมที่นาโอมิทำงานอยู่ ปัญหาใหญ่คือไม่ทราบว่าใครที่คนร้ายหมายจะฆ่า ทำไมถึงเลือกที่นี่ และคนร้ายคือใคร ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้ ฝ่ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้คุยตกลงกันกับผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมแล้ว ดังนั้นจึงเรียกตัว หัวหน้าจากหลายฝ่ายให้มาร่วมประชุม ไม่ว่าฝ่ายห้องพัก ฝ่ายเข็นสัมภาระลูกค้าไปส่งห้อง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และในการนี้นาโอมิยังถูกระบุให้เข้าร่วมประชุมแม้จะเป็นแค่เพียง พนักงานระดับปฏิบัติการณ์ฝ่ายต้อนรับเท่านั้น 🏨 เหตุผลเพราะหัวหน้างานไว้วางใจ เชื่อมั่นในคุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอจะสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับตำรวจ ที่จะปลอมเข้ามาเป็นพนักงานเพื่อเฝ้าสังเกตบุคคลที่มาใช้บริการโรงแรม ซึ่งแผนกต้อนรับเองนาโอมิถูกเลือกให้จับคู่กับรองสารวัตรนิตตะ ส่วนแผนกอื่นก็มีตำรวจปลอมตัวเข้าไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็มีตำรวจส่วนหนึ่งที่ถูกสั่งการให้ปะปนเข้ามาเป็นคนใช้บริการหรือจับตาความเคลื่อนไหวบริเวณโถงรับแขก ห้องอาหาร และอื่นๆ 🏨 นั่นคือจุดเริ่มแห่งความหรรษา เพราะนิตตะไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธีการ แต่จำใจต้องเชื่อฟังนาโอมิที่อายุน้อยกว่า ตั้งแต่เรื่องชุดพนักงาน ท่าทีการพูดจา บุคลิกภายนอกที่ต้องถูกปรับให้กลายจากความเป็นตำรวจมาเป็นพนักงานต้อนรับให้สมจริงมากที่สุด ทั้งคู่จึงมีการกระทบกระทั่งทางความคิดที่ไม่ตรงกัน จนมีการโต้เถียงบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความบันเทิงประการหนึ่ง ด้วยคู่นี้มีความน่ารัก น่าลุ้น ที่จะกลายมาเป็นคู่ใจในอนาคตได้ 🏨 ระหว่างนั้น นาโอมิมีข้อสงสัยมากมายหลายประการ เธอมักถามนิตตะที่ทราบรายละเอียดของคดีมากกว่าที่พนักงานโรงแรมทราบ แต่นิตตะไม่บอกเล่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นความลับของทางราชการไม่อาจให้คนนอกทราบได้ งานบริการของนาโอมิยังคงต้องดำเนินต่อไป เกิดปัญหาจากความต้องการของลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาพักเป็นระยะ ซึ่งเธอและนิตตะต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านพ้น ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับในตัวตนและงานของอีกฝ่ายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อแรกพบหน้า ลูกค้าบางคนดูไม่น่าไว้ใจและมีท่าทางแปลกจนนิตตะจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยสัญชาตญาณของนักสืบ 🏨 ขณะที่มีตำรวจวัยเลยกลางคนไปแล้ว ซึ่งเป็นตำรวจในท้องที่เกิดเหตุคนหนึ่งที่รู้จักกับนิตตะ และได้รับการมอบหมายให้เป็นคู่หูสืบคดีก่อนที่นิตตะจะต้องปลอมตัวมาเป็นพนักงานต้อนรับนั้น มีน้ำใจที่อยากจะช่วยเหลือ จึงมักอาสาช่วยสืบเรื่องราวต่าง ๆ จากด้านนอก ตามที่นิตตะมีความสงสัยด้วยอีกทางหนึ่ง ในที่สุดนิตตะก็ทนรบเร้าจากนาโอมิไม่ไหว อีกทั้งเริ่มมีความไว้ใจเธอมากขึ้น จนยอมเล่าให้ทราบถึงปริศนาของชุดตัวเลขที่ปรากฏทุกครั้งในสถานที่พบศพอันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตำรวจตัดสินใจปะปนเข้ามาในโรงแรม ทำให้เธอเริ่มเกิดความตื่นตัวและทึ่งในความสามารถของเขา รวมถึงมีความกังวลถึงเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้จนส่งผลต่อสุขภาพและงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ 🏨 อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตัวคนร้ายคือคนที่คิดไม่ถึง ซึ่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าจะวางแผนการณ์ได้อย่างแยบยลขนาดนั้น แต่แรงจูงใจในการก่อคดียังรู้สึกว่ามีน้ำหนักน้อยไปสักหน่อย คงเพราะความที่คนร้ายเป็นคนประเภทมีจิตรุนแรงในพื้นนิสัย ทำให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยนิตตะและนาโอมิในตอนที่เนื้อเรื่องเปิดเผยให้คนอ่านทราบแล้วว่าเป็นใคร ทั้งสองจะปลอดภัยหรือไม่ จะจับตัวคนร้ายได้ไหม ใครจะถูกฆ่าเป็นรายถัดไปหรือเปล่า ต้องตามอ่านต่อในพิกัดต่อไปใครเป็นศพครับ 🖋วิจารณ์หลังจบเรื่อง เป็นการเล่าในมุมมองบุคคลที่สามคือมุมมองพระเจ้า ฉากหลักตลอดทั้งเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงแรม ตัวละครที่มีการเอ่ยชื่อและมีบทบาทสำคัญไม่เยอะจนเกินไป จึงทำให้คนอ่านจดจำและรู้สึกใกล้ชิดกับตัวเอก ไปจนตัวรองที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ ได้ไม่ยาก ความจริงในส่วนของคดีที่เกิดในเล่มนี้นั้น พูดตามจริงแล้วไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร รูปแบบการฆ่าก็ธรรมดาเกินกว่าจะดูน่ากลัวหรือลึกลับ เพียงแต่มีจุดเด่นตรงชุดตัวเลขปริศนาว่าหมายถึงอะไร และชวนน่าสงสัยเล็กน้อยว่าคนร้ายจะฆ่าคนไปทำไม เพราะดูเหมือนตำรวจมีข้อมูลน้อยมาก จนการสืบสวนแทบไม่เดินหน้าไปไหนเลย 🏨 เป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่คงจะต้องการให้โทนของเรื่องออกมาในลักษณะนี้ คือไม่เน้นที่การสืบสวนคลี่คลายปมเป็นพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องผูกเรื่องราวของคดีที่เกิดขึ้นให้มีความอลังการ จนดึงดูดความสนใจกระหายใคร่รู้ และกระตุ้มต่อมนักสืบของคนอ่านจนพุ่งสูงด้วยความเข้มข้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ แต่กลับเลือกที่จะให้ดูเป็นคดีทั่วไป ไม่มีความโชกเลือดหรือบ้าคลั่งของฆาตกรเป็นที่ปรากฏออกมาในบรรยากาศ ซึ่งในแง่นี้ถือว่านักอ่านหลายคนอาจถูกภาพปกของหนังสือหลอกเอาได้ เพราะโทนสีดำแดง กับเลือดเปรอะกระจายบนแผนที่ อีกทั้งชื่อเรื่องชวนค้นหาว่าคงจะดำเนินไปในแนวทางน่าตื่นเต้นกับการตามสืบอะไรทำนองนั้น ซึ่งใครที่คาดหวังมากก็อาจผิดหวังเมื่อพบว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ตนคาดว่าจะได้พบเจอ 🏨 แต่นี่ไม่มีปัญหากับผม ส่วนตัวชอบมาก แทบไม่ได้สนใจในคดีด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นคนร้าย ใครเป็นเป้าหมายที่กำลังจะถูกฆ่า และทำไมต้องฆ่า คืออ่านไปได้เรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน ชอบในความที่เนื้อหาเจาะลึกถึงวงการคนโรงแรม ทำให้เราได้รู้ข้อมูลหลายอย่าง สิ่งที่พนักงานต้องแบกรับและพบเจอที่เป็นเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยได้คำนึงถึงและไม่เคยมองในมุมของคนทำงานเหล่านั้น จึงเป็นความบันเทิงที่สามารถได้รู้เรื่องราวอินไซด์โดยผ่านการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของนาโอมิ กับประเด็นต่าง ๆ ที่เข้ามามากมาย คล้ายกำลังได้ติดตามดูซีรีส์ชีวิตการทำงานในอาชีพด้านการบริหารโรงแรมดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง ซึ่งอดีตเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เคยได้รับชมมาบ้างทั้งของญี่ปุ่นและเกาหลี 🏨 จุดเด่นในการดำเนินเรื่องคือเราจะได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของสองตัวละครหลัก ในระหว่างร่วมกันแก้ไขปัญหา แม้มีความขัดแย้งจากความเห็นมุมมองที่ต่างสถานะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดีเสียอีกทำให้ต่างฝ่ายได้เรียนรู้เพิ่ม เป็นประสบการณ์ใหม่และเปิดมุมมองอีกด้านที่ตนไม่เคยใส่ใจ จนเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจ และเชื่อใจกันโดยไม่รู้ตัว แม้นภายนอกเหมือนไม่ชอบหน้ากันก็ตาม ที่สำคัญคือแม้เรื่องแนวทางการสืบหาตัวคนร้ายเหมือนไม่คืบหน้าไปไหน แต่เมื่อนาโอมิแก้ปัญหาลูกค้าไปทีละเรื่องต่อเนื่องไป ทำให้นิตตะเองสะดุดคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกี่ยวโยงไปถึงคดีได้อย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งคำพูดของนาโอมิเองช่วงสนทนากับนิตตะ ไปจุดประกายให้เขาพลันนึกอะไรได้ขึ้นมาอย่างกะทันหันก็มี รวมถึงคู่หูนายตำรวจท้องที่ผู้มีอายุมากกว่าเขา ก็ยังมีส่วนช่วยอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ทำให้เห็นถึงพลังของความช่วยเหลือกันและกันของความเป็นเพื่อน แม้เพิ่งทำความรู้จักกันชั่วระยะเวลาไม่นาน นี่จึงไม่ใช่นิยายสืบสวนที่เน้นความเก่งฉกาจของนักสืบที่รับผิดชอบคดีแบบฉายเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความเชื่อใจระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นที่มีของตนคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอ หากพิจารณาให้ดี จะได้เห็นถึงความสำคัญของบุคคลแวดล้อมที่ดูราวกับไม่มีส่วนสำคัญ แต่แท้จริงถ้าไม่ได้ความคิดเห็นหรือความช่วยเหลือของเขา พระเอกของเราก็ยังคงไม่อาจฉุกใจได้คิด จนนำไปสู่การรู้ตัวคนร้ายในช่วงท้ายของเรื่อง บทสรุปก่อนจบ มีแนวโน้มให้คนอ่านได้ลุ้นว่านิตตะกับนาโอมิ จะมีความเป็นไปได้ในการเป็นคู่รักหรือไม่ แต่ที่มั่นใจคือน่าจะมีเล่มต่อให้ได้ติดตามกันอย่างแน่นอน. ......................................... 2. #พิกัดต่อไปใครเป็นศพตอนลางร้ายใต้หน้ากาก #masqueradeeve เล่มที่สองของซีรีส์ ที่ยังคงความสนุกได้ไม่แพ้เล่มแรก แต่ความหนาน้อยลงเหลือ 352 หน้า สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 345 บาท ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล เนื้อหาย่อของเล่มนี้ ถึงจะออกมาเป็นเล่มที่สองของชุด แต่เหตุการณ์เป็นเรื่องก่อนหน้าคดีในเล่มแรก คือย้อนไปเล่าสมัยที่นาโอมิเพิ่งจะเข้าทำงานใน คอร์เทเชียโตเกียวได้แค่สี่ปี และย้ายแผนกมาอยู่ฝ่ายต้อนรับไม่นาน ยังเห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องที่ไม่คล่องตัว ยังไม่มีความเชื่อมั่นในประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญดังภาพที่ปรากฏในเล่มก่อนหน้า ทว่าก็ยังคงบุคลิกที่มุ่งมั่นในการให้บริการ และมีหัวใจในการคิดถึงและเอาใจใส่ต่อลูกค้าทุกคนอย่างซื่อสัตย์ 🏨 เริ่มต้นมา นาโอมิก็ได้แสดงความสามารถที่ทำให้เห็นถึงความมีไหวพริบปฏิภาณ และช่างสังเกต อันเป็นคุณสมบัติที่ควรต้องมีในคนที่ทำอาชีพเช่นเธอ โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนาโอมิจดจำได้ว่าเป็นอดีตแฟนที่เคยคบหากันชั่วเวลาหนึ่งสมัยที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย แต่มีเหตุให้ต้องเลิกราแยกย้ายกันไปคนละเส้นทาง เขามากับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักกีฬาเบสบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมาก โดยทำหน้าที่เป็นผจก.ส่วนตัวนักกีฬาชาย แล้วได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในขณะที่ทั้งสองมาพักอยู่ในโรงแรม จนเป็นเหตุให้แฟนเก่าคนนี้โทร.ตามตัวนาโอมิจากหน้าฟรอนต์ให้มาช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเธอไม่เต็มใจนักแต่ต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออก แล้วสวมหัวใจพนักงานฝ่ายต้อนรับที่ต้องช่วยเหลือบริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายเธอก็สามารถจัดการกับปัญหาให้จบลงด้วยดี 🏨 ทางด้านนิตตะนั้น เพิ่งเริ่มต้นอาชีพด้วยการเข้าเป็นน้องใหม่ในสังกัดกรมตำรวจหลังกลับมาจากต่างประเทศไม่นาน โดยมีรุ่นพี่โมโตมิยะ(ปรากฏตัวในเล่มแรกด้วย โดยเป็นหนึ่งที่ปลอมตัวเข้าไปในโรงแรม) ที่เป็นคู่หูและพี่เลี้ยง ซึ่งคดีแรกที่เขาต้องคลี่คลายคือ คดีฆาตกรรมวันไวต์เดย์ โดยตำรวจได้รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าสามีของตนออกไปวิ่งออกกำลังตอนกลางดึกแต่ยังไม่กลับถึงบ้านตามเวลา สุดท้ายมีการพบว่าสามีของเธอกลายเป็นศพอยู่ในสวน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกแทงที่ท้องและหลัง มีอะไรหลายอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลที่ตำรวจได้สืบทราบมา ที่รบกวนใจของนิตตะ เขาได้แสดงความสามารถออกมาเป็นที่ปรากฏจนรุ่นพี่ออกจะไม่พอใจและหมั่นไส้อยู่บ้าง ด้วยสิ่งที่นิตตะคาดคะเนและวิเคราะห์ทำให้ตำรวจสามารถพบตัวของผู้ก่อเหตุได้ในเวลาไม่นาน แต่คดีนี้มีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่าสิ่งที่ตำรวจรู้ 🏨 ตัดมาที่การปฏิบัติงานของนาโอมิ ในเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายหลายคน มาจองห้องพักและมีพฤติการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าแปลกพิกล ต่อมาทราบว่าที่แท้คนกลุ่มนี้หวังที่จะมาเฝ้ารอเพื่อจะได้พบเจอกับนักเขียนนิยายที่โด่งดังนามว่า ทาจิบานะ ซากุระซึ่งเขียนแนวประโลมโลก และจะเข้ามาพักที่โรงแรมเพื่อเขียนงานใหม่ เนื่องจากเหล่าสาวกที่ชื่นชอบงานเขียนของซากุระ ไปเห็นรูปที่ถูกระบุว่าเป็นนักเขียนหญิงคนดังในโซเชียลมีเดีย พอเห็นว่าเป็นสาวสวยจึงหาวิธีที่จะได้พบเจอตัวจริงให้ได้ จึงเป็นหน้าที่ของนาโอมิ ที่จะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวรวมถึงความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ความยุ่งยากจึงเกิดขึ้น 🏨 ตอนสุดท้าย นาโอมิได้รับการขอจากผู้จัดการให้ช่วยไปสอนงานให้กับพนักงานแผนกต้อนรับที่สาขาโอซาก้า ซึ่งเพิ่งเปิดโรงแรมได้ไม่นาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่เกินครึ่งปี ในขณะที่นิตตะมีคดีใหม่ที่ต้องรับผิดชอบกับรุ่นพี่โมโตมิยะ คือการตายของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องทางสิทยาศาสตร์ โดยพบศพในห้องทำงาน คดีนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นบุคคลคนหนึ่ง แต่ทว่าเขากลับมีหลักฐานยืนยันที่อยู่ชัดเจนในช่วงเวลาที่คาดว่าเหยื่อถูกฆ่าตาย ซึ่งเจ้าตัวเข้าใจว่าตนเองรอดพ้นแน่แต่แท้จริงเบื้องหลังยังมีอะไรที่ไม่เป็นดังที่คิด ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่า ในกรณีทีมสืบสวนเอง ผู้ใหญ่ได้สั่งการลงมาให้นิตตะจับคู่กันกับตำรวจหญิงวัยละอ่อน ที่เป็นตำรวจท้องที่มีนามว่า ริสะ ที่ถูกย้ายมาจากแผนกความปลอดภัยชุมชน ให้มาร่วมในทีมเป็นครั้งแรก นิตตะไม่พอใจนักแต่จำใจต้องทำตาม แม้จะดูเหมือนเป็นตำรวจหญิงที่อ่อนต่อโลก พูดเป็นต่อยหอย และขาดไหวพริบม แต่ริสะก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นใส่ใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่เธอได้รับคำสั่งจากนิตตะให้ไปสืบเช็กข้อมูลจากโรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้า เพื่อยืนยันคำพูดจากปากของชายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ทำให้ริสะได้พบกับนาโอมิ อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาถึงผลลัพธ์ในภายหลัง 🖋วิเคราะห์หลังอ่านจบ เล่มนี้เล่าเรื่องโดยแยกเนื้อหาระหว่างการแก้ปัญหาในโรงแรมของนาโอมิ กับการไขคดีของนิตตะออกจากกันชัดเจนเป็นตอนที่จบในตัว เริ่มจากตอนของนาโอมิก่อน จากนั้นสลับไปเล่าฝั่งนิตตะ แต่ในตอนสุดท้ายจะผนวกสองฝั่งให้เชื่อมถึงกันในคดีที่มีผู้เกี่ยวข้องได้ไปเข้าพักที่โรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้าซึ่งนาโอมิกำลังอยู่ในช่วงที่สอนงานให้พนักงานที่นั่น ทั้งคู่ไม่ได้พบกันเลย เพราะการพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นในเล่มแรก แต่ผู้เขียนมีความสามารถในการผูกโยงเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นคนทั้งสองอย่างใกล้ชิด และได้เห็นบุคลิกกับอุปนิสัยส่วนตัวของนาโอมิกับนิตตะมากขึ้น นิตตะในเล่มนี้ มีโอกาสได้แสดงฝีมือในการคิดวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์กับข้อมูลที่ใช้หาตัวคนร้าย ได้เด่นชัดกว่าเล่มแรก สมกับที่เป็นระดับหัวกะทิที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่เราก็จะได้เห็นถึงข้อเสียใหญ่ของเขาที่ไม่น่ารักเช่นกัน คือเป็นคนมั่นใจในความฉลาดของตนมากจนเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะความคิดที่เห็นว่าผู้หญิงเป็นตัวถ่วง สู้ผู้ชายไม่ได้ ดังที่นิตตะแสดงออกทางสีหน้าท่าทางและคำพูดต่อเด็กใหม่อย่างริสะ ที่เหมือนเป็นได้แค่ลูกไล่ไร้ประโยชน์ ซึ่งต่างจากนาโอมิ ที่แม้จะมองออกว่าริสะเป็นตำรวจที่ความสามารถไม่ถึงขั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญ กลับมองเห็นถึงมุมที่เป็นความอดทน ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดของตำรวจหญิงในการพยายามค้นหาความจริงให้ได้ ความมุ่งมั่นของริสะจึงเอาชนะใจของนาโอมิ จนยอมช่วยเหลือด้วยการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนให้ริสะทราบ ในส่วนของการคลี่คลายคดี ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนจนเกินไป แต่เล่มนี้จะเน้นไปที่คดีที่น่าจะเป็นที่มาของชื่อตอน (ลางร้ายใต้หน้ากาก) ถึงสองคดีด้วยกันครับ ถ้าได้อ่านแล้วจะเข้าใจ และน่าจะเห็นตรงกันว่าภายใต้หน้ากากที่ภายนอกดูไม่ได้รู้เลยว่าจะกลายเป็นคนร้ายได้ สุดท้ายก็แอบซ่อนความบิดเบี้ยวของใจที่โดนกิเลสเข้าครอบงำได้อย่างน่ากลัว ตัวละครในเรื่อง สำหรับเล่มนี้ รู้สึกว่าริสะที่แม้จะมีบทบาทเพียงแค่ช่วงคดีสุดท้ายนั้น เป็นตัวละครที่เขียนมาได้น่าสนใจมาก โผล่มาทีไรก็ทำให้คนอ่านอย่างผมอดขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปต่อในเล่มอื่น ๆ ของชุดนี้หรือไม่ ส่วนนาโอมินั้นยังคงเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เช่นเดิม เทียบกับนิตตะแล้วส่วนตัวมีความรู้สึกชอบนาโอมิมากกว่า นอกจากนี้ยังชอบตอนจบของเรื่อง ที่มีการโยงถึงเหตุการณ์ที่เป็นต้นตอนำไปสู่ความอาฆาตแค้นของฆาตกรในคดีที่เกิดขึ้นในเล่มแรก สรุปว่าอ่านจบเล่มสองแล้วก็จะไปต่อเหตุการณ์ของเล่มแรกพอดี ใครเริ่มอ่านจากเล่มนี้ก่อน สามารถอ่านเล่มแรกต่อเนื่องได้เลย 📌คำเตือน : สำหรับคนที่ชอบการสืบคดีแบบเข้มข้น มีวิธีการฆ่าที่ค่อนข้างแปลกพิสดารหรือโหดสยอง และมีกลวิธีในการอำพรางซ่อนเร้นที่ไม่ธรรมดา ซีรีส์ชุดนี้อาจไม่ตอบโจทย์ แล้วเลยพาลจะไม่ชอบหรือหมดสนุกได้ง่าย แต่ถ้าชอบแนวได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพของตัวเอกควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการไขคดีที่ไม่โลดโผน ชุดนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณได้ไม่ยากครับ ป.ล. มีปกใหม่ออกมาที่คิดว่าทำได้ดีตรงกับแนวเรื่องและชื่อตอนมากกว่าปกฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกด้วย เพราะปกของเล่มสองนี้ดูเหมือนน่าจะโหดมาก แต่เนื้อในไม่ใช่อย่างที่คิด ใครอ่านตั้งแต่ต้นมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ได้ขอได้รับความขอบคุณจากผมด้วยครับ #thaitimes #หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #นิยายสืบสวน #สืบสวน #คดีฆาตกรรม #งานโรงแรม #พนักงานต้อนรับ #ตำรวจ #นักสืบ #ลูกค้า #งานบริการ #อาชีพ #ฮิงาชิโนะเคโงะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 927 มุมมอง 0 รีวิว
  • *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....*****

    *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....*****

    *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....*****
    *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....*****
    *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....*****

    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****

    #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....***** *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....***** *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....***** *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....***** *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เทคโนโลยี
    "สมรรถภาพ​ของ​แบตเตอรี่​ไม่ใช่​สาระสำคัญ​"
    สิ่ง​ที่​ช่วย​ตัดสินใจ​ให้​ซื้อ​รถ​ EREV​ คือ​ ระบบ​ขับ​เคลื่อน​อัจฉริยะ​ (ADAS
    : Advanced Driver – Assistance Systems) ตั้งแต่​ระดับ​ ๔ ที่​มี​ Valet Parking​ เป็น​ขั้นต่ำ​ อีก​ทั้ง​สมรรถนะ​ของ​รถยนต์​ต้อง​สามารถ​รองรับ​ควอนตัม​คอมพิวเตอร์​ ที่​กำลัง​จะ​เริ่ม​ใช้งาน​เร็ว​ๆ​ นี้​ และ​ระบบ​ดาวเทียม​ได้​ด้วย​
    ดังนั้น​ รถยนต์​ของ​จีน​จึง​ดูเหมือนเข้าใกล้​เป้าหมาย​มาก​ที่สุด​ ด้วย​สนนราคา​ที่​น่าสนใจ
    #เทคโนโลยี "สมรรถภาพ​ของ​แบตเตอรี่​ไม่ใช่​สาระสำคัญ​" สิ่ง​ที่​ช่วย​ตัดสินใจ​ให้​ซื้อ​รถ​ EREV​ คือ​ ระบบ​ขับ​เคลื่อน​อัจฉริยะ​ (ADAS : Advanced Driver – Assistance Systems) ตั้งแต่​ระดับ​ ๔ ที่​มี​ Valet Parking​ เป็น​ขั้นต่ำ​ อีก​ทั้ง​สมรรถนะ​ของ​รถยนต์​ต้อง​สามารถ​รองรับ​ควอนตัม​คอมพิวเตอร์​ ที่​กำลัง​จะ​เริ่ม​ใช้งาน​เร็ว​ๆ​ นี้​ และ​ระบบ​ดาวเทียม​ได้​ด้วย​ ดังนั้น​ รถยนต์​ของ​จีน​จึง​ดูเหมือนเข้าใกล้​เป้าหมาย​มาก​ที่สุด​ ด้วย​สนนราคา​ที่​น่าสนใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนึ่งตัวอย่างของเด็กที่มีความพยายาม ในการแสดงความสามารถด้านดนตรีไทย ของน้อง อนัญญา จาก โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายมัธยม)
    #ไทยโหมโรง #สยามเด็กเล่น #เดี่ยวจะเข้ #ศรีวัฒนธรรม #thaitimes #thaitimesวัฒนธรรม
    หนึ่งตัวอย่างของเด็กที่มีความพยายาม ในการแสดงความสามารถด้านดนตรีไทย ของน้อง อนัญญา จาก โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายมัธยม) #ไทยโหมโรง #สยามเด็กเล่น #เดี่ยวจะเข้ #ศรีวัฒนธรรม #thaitimes #thaitimesวัฒนธรรม
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 742 มุมมอง 155 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • กิจกรรม SBAC OPEN HOUSE 2024 ปล่อยจอย ตะลุยแดนชาติพันธุ์ จอยๆกับน้องๆโรงเรียนเทศบาลท่าโขลง 1
    โดย SBAC Saphanmai
    #DEKSBAC68 #SBACDigitalGreenSkills #SBAC #ปวช #ปวส #ทวิภาคี #openhouse #สยามเด็กเล่น #siamplayground #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesเยาวชน
    กิจกรรม SBAC OPEN HOUSE 2024 ปล่อยจอย ตะลุยแดนชาติพันธุ์ จอยๆกับน้องๆโรงเรียนเทศบาลท่าโขลง 1 โดย SBAC Saphanmai #DEKSBAC68 #SBACDigitalGreenSkills #SBAC #ปวช #ปวส #ทวิภาคี #openhouse #สยามเด็กเล่น #siamplayground #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesเยาวชน
    Love
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 768 มุมมอง 149 0 รีวิว
  • คือเราขี้กียจพิมพ์ซ้ำน่ะ..
    คือเราขี้กียจพิมพ์ซ้ำน่ะ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิจฉาชีพได้สร้าง เฟซบุ๊กปลอมของ รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คุยทุกเรื่อง กับสนธิ" (มีเว้นวรรคตรงกลาง) โดยปัจจุบันมีเพื่อน (Friends) อยู่มากถึง 2,400 คน ทั้งนี้เฟซบุ๊กดังกล่าวมีพฤติกรรมในการทักข้อความไปหา "เพื่อน" เพื่อชักชวนร่วมทำบุญ โดยอ้างว่ามาจากเพจสนธิ ลิ้มทองกุล โดยล่อลวงให้ผู้หลงเชื่อ add LINE ผ่านการสแกนคิวอาร์โคด

    ทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ จึงแจ้งว่ารายการคุยทุกเรื่องกับสนธินั้นมีเฟซบุ๊กเพจ เพียงเพจเฟซบุ๊กเพียงเดียว โดยสังเกตเพจจริงได้ในหลายๆ จุดด้วยกันคือ
    • มีคนคลิก Like อยู่ 1.3 ล้านคน
    • มีคนติดตาม Followers อยู่มากกว่า 3.8 ล้านคน
    • ท้ายชื่อเพจมีเครื่องหมาย Verified สีน้ำเงิน (✔️) ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นเพจจริงจากเฟซบุ๊ก
    มิจฉาชีพได้สร้าง เฟซบุ๊กปลอมของ รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คุยทุกเรื่อง กับสนธิ" (มีเว้นวรรคตรงกลาง) โดยปัจจุบันมีเพื่อน (Friends) อยู่มากถึง 2,400 คน ทั้งนี้เฟซบุ๊กดังกล่าวมีพฤติกรรมในการทักข้อความไปหา "เพื่อน" เพื่อชักชวนร่วมทำบุญ โดยอ้างว่ามาจากเพจสนธิ ลิ้มทองกุล โดยล่อลวงให้ผู้หลงเชื่อ add LINE ผ่านการสแกนคิวอาร์โคด ทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ จึงแจ้งว่ารายการคุยทุกเรื่องกับสนธินั้นมีเฟซบุ๊กเพจ เพียงเพจเฟซบุ๊กเพียงเดียว โดยสังเกตเพจจริงได้ในหลายๆ จุดด้วยกันคือ • มีคนคลิก Like อยู่ 1.3 ล้านคน • มีคนติดตาม Followers อยู่มากกว่า 3.8 ล้านคน • ท้ายชื่อเพจมีเครื่องหมาย Verified สีน้ำเงิน (✔️) ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นเพจจริงจากเฟซบุ๊ก
    ระวังเฟซบุ๊กปลอม! "คุยทุกเรื่องกับสนธิ"
    ทักชวนบริจาคเงิน อย่าหลงเชื่อ
    .
    มิจฉาชีพปลอมเพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ ทักชวนบริจาคเงิน เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ ยืนยันไม่เคยมีการทักข้อความไปทางไลน์ หรือ แอปฯ สนทนาใด ๆ พร้อมเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
    .
    วันนี้ (26 ก.ย.) มีแฟนรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิได้แจ้งข่าวว่า มีมิจฉาชีพได้สร้าง เฟซบุ๊กปลอมของรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คุยทุกเรื่อง กับสนธิ" (มีเว้นวรรคตรงกลาง) โดยปัจจุบันมีเพื่อน (Friends) อยู่มากถึง 2,400 คน ทั้งนี้เฟซบุ๊กดังกล่าวมีพฤติกรรมในการทักข้อความไปหา "เพื่อน" เพื่อชักชวนร่วมทำบุญ โดยอ้างว่ามาจากเพจสนธิ ลิ้มทองกุล โดยล่อลวงให้ผู้หลงเชื่อ add LINE ผ่านการสแกนคิวอาร์โคด
    .
    ทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ จึงแจ้งว่ารายการคุยทุกเรื่องกับสนธินั้นมีเฟซบุ๊กเพจ เพียงเพจเฟซบุ๊กเพียงเดียว โดยสังเกตเพจจริงได้ในหลายๆ จุดด้วยกันคือ
    • มีคนคลิก Like อยู่ 1.3 ล้านคน
    • มีคนติดตาม Followers อยู่มากกว่า 3.8 ล้านคน
    • ท้ายชื่อเพจมีเครื่องหมาย Verified สีน้ำเงิน (✔️) ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นเพจจริงจากเฟซบุ๊ก
    .
    ทั้งนี้ ที่ผ่านมารายการคุยทุกเรื่องกับสนธิไม่เคยมีการทักข้อความไปทาง แอปพลิเคชัน LINE หรื แอปฯ สนทนาใด ๆ เพื่อชักชวนให้มีการบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น และในกรณีนี้ทางรายการฯ ได้ดำเนินการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อหาผู้กระทำผิดต่อไป
    .
    คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9670000090441
    ......
    Sondhi X
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1098 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🍊 Sweet Orange Essential oil

    ...น้ำมันหอมระเหย Sweet Orange มีสรรพคุณหลากหลาย อาทิเช่น..
    • ช่วยอาการนอนไม่หลับ
    • ช่วยบรรเทาความเครียด วิตกกังวล กังวลใจ กลัว
    • ช่วยลดหวัด
    • ช่วยปรับความสมดุลทางอารมณ์วัยหมดประจำเดือน

    และอีกมากมาย

    ... น้ำมันหอมระเหยของร้าน Telvada เป็นน้ำมันเกรดบำบัด ออแกนิค 100 %...

    #telvada #essentialoils #everydayuse #น้ำมันหอมระเหย #สังคมต้องรู้ #tiktokuni #tiktokuni_th #aromatherapy #รู้หรือไม่ #tiktokแนะแนว #fyp #viral #tiktokthailand #foryourpage #fypシ#thaitimes
    🍊 Sweet Orange Essential oil ...น้ำมันหอมระเหย Sweet Orange มีสรรพคุณหลากหลาย อาทิเช่น.. • ช่วยอาการนอนไม่หลับ • ช่วยบรรเทาความเครียด วิตกกังวล กังวลใจ กลัว • ช่วยลดหวัด • ช่วยปรับความสมดุลทางอารมณ์วัยหมดประจำเดือน และอีกมากมาย ... น้ำมันหอมระเหยของร้าน Telvada เป็นน้ำมันเกรดบำบัด ออแกนิค 100 %... #telvada #essentialoils #everydayuse #น้ำมันหอมระเหย #สังคมต้องรู้ #tiktokuni #tiktokuni_th #aromatherapy #รู้หรือไม่ #tiktokแนะแนว #fyp #viral #tiktokthailand #foryourpage #fypシ゚ #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 750 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาจารย์พีรพันธุ์ รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาแจ้งข่าวให้ทราบครับ💙💙💙💙
    อาจารย์พีรพันธุ์ รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาแจ้งข่าวให้ทราบครับ💙💙💙💙
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 38 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ โทนี่เตรียมเขมือบ แหล่งปิโตรเลียม พื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา
    #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 112 0 รีวิว
  • น้ำมาแรงและเร็ว
    จัดหนัก
    เชียงใหม่ ไม่รอด น้ำท่วมแล้วคับ
    น้ำมาแรงและเร็ว จัดหนัก เชียงใหม่ ไม่รอด น้ำท่วมแล้วคับ
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนใจเลี่ยมกรอบพระ..ใส่ใจใคร่เรียนรู้ ทักถามได้ตามอัธยาศัยครับ
    สนใจเลี่ยมกรอบพระ..ใส่ใจใคร่เรียนรู้ ทักถามได้ตามอัธยาศัยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • hello i am pablo
    hello i am pablo
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • #savethailand🇹🇭
    อย่าชะล่าใจกับพม่าอพยพเข้าไทยมันมากเกินไปที่คนไทยจะรับไหว #7 ล้านคน มันไม่ใช่น้อยเลย
    แถมมาเรียกี้องสิทธิเทียบเท่าคนไทย อีก
    #savethailand🇹🇭 อย่าชะล่าใจกับพม่าอพยพเข้าไทยมันมากเกินไปที่คนไทยจะรับไหว #7 ล้านคน มันไม่ใช่น้อยเลย แถมมาเรียกี้องสิทธิเทียบเท่าคนไทย อีก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 38 0 รีวิว
  • 26 กันยายน 2567-ทัศนะของดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์สาเหตุน้ำท่วมภาคเหนือว่า

    “ ปลูกพืช ทำเกษตรกรรมบนภูเขาทำได้อย่างไร? กฎหมายชัดเจนแต่ปล่อยปะละเลย สาเหตุหลักของการทำให้เกิดน้ำท่วมภาคเหนือรุนแรงในปีนี้

    1..คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2528 เห็นชอบด้วยกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามมติของคณะกรรมการสิ่งแวด
    ล้อมแห่งชาติ กำหนดให้พื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไปเป็นพื้นที่ป่าไม้โดยไม่อนุญาตให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเป็นพื้นที่ที่มีการชะล้างหน้าดินสูงไม่เหมาะสมแก่ การทำเกษตรกรรม สมควรเป็นพื้นที่ป่าไม้และไม่อนุญาตให้มีการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินซึ่งผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายที่ดินคือครอบครองมาก่อนอย่างถูกกฎหมายก่อนวันที่1ธค. 2497หรือมีหลักฐานครอบครอง เช่น นส 3 ก หรือ สค.1

    2. กฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497ข้อ14 (2)กำหนดให้พื้นที่เขา ที่ภูเขาและปริมณ ฑลรอบที่เขาหรือภูเขาระยะ40เมตร เป็นพื้นที่ต้องห้ามไม่ให้ออกโฉนดที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินที่ผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบตามประมวลกฎหมายที่ ดิน(ได้มาก่อน1ธค.2497)

    3.คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 พฤษภา คม 2538กำหนดนิยามของ เขา หมายถึง ส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบ ๆ (Surrounding) น้อยกว่า 600 เมตร ปรากฎในแผนที่ว่าเป็นเขา พื้นลาดชันร้อยละ 20- 35และที่ภูเขา หมายถึงส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบๆ (Surrounding) ตั้งแต่ 600 เมตร ขึ้นไปพื้นที่ลาดชันมากกว่าร้อยละ 35

    4.ผู้บุกรุกป่าที่ถูกจับในกรณีแผ่วถ้างหรือเผาป่า เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดินนั้นในเขตอุทยานแห่งชาติ หรืออุทยานต่างๆ ของประเทศไทยจะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือปรับสูงถึง 2 ล้านบาท นอกจากนี้ห้ามยึดถือ/ครอบครอง/ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย/ก่อสร้าง/แผ้วถาง/เผาป่า/ทำไม้/เก็บหาของป่า หรือทำให้ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมสภาพ บทลงโทษ : จำคุก 1 – 10 ปี และปรับ 20,000 – 200,000 บาท

    5. จากกฎหมายดังกล่าว ประชาชนได้บุก รุกภูเขาไปปลูกพืช ทำเกษตรกรรมได้อย่างไร? หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลพื้นที่ยินยอมได้อย่างไร?..สุดท้าย ฝนตกหนัก น้ำป่าจากภูเขาไหลเชี่ยวกราก พัดพาดินโคลนจากภูเขามาถล่มเมืองในพื้นที่ราบ ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน ลำปาง เป็นต้นในปี2567เพราะทำลายทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โค่นป่า ปลูกพืชล้มลุกบนภูเขาทำผิดกฎหมายแต่เจ้าหน้าปล่อยปะละเลย”

    #Thaitimes
    26 กันยายน 2567-ทัศนะของดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์สาเหตุน้ำท่วมภาคเหนือว่า “ ปลูกพืช ทำเกษตรกรรมบนภูเขาทำได้อย่างไร? กฎหมายชัดเจนแต่ปล่อยปะละเลย สาเหตุหลักของการทำให้เกิดน้ำท่วมภาคเหนือรุนแรงในปีนี้ 1..คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2528 เห็นชอบด้วยกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามมติของคณะกรรมการสิ่งแวด ล้อมแห่งชาติ กำหนดให้พื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไปเป็นพื้นที่ป่าไม้โดยไม่อนุญาตให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเป็นพื้นที่ที่มีการชะล้างหน้าดินสูงไม่เหมาะสมแก่ การทำเกษตรกรรม สมควรเป็นพื้นที่ป่าไม้และไม่อนุญาตให้มีการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินซึ่งผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายที่ดินคือครอบครองมาก่อนอย่างถูกกฎหมายก่อนวันที่1ธค. 2497หรือมีหลักฐานครอบครอง เช่น นส 3 ก หรือ สค.1 2. กฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497ข้อ14 (2)กำหนดให้พื้นที่เขา ที่ภูเขาและปริมณ ฑลรอบที่เขาหรือภูเขาระยะ40เมตร เป็นพื้นที่ต้องห้ามไม่ให้ออกโฉนดที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินที่ผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบตามประมวลกฎหมายที่ ดิน(ได้มาก่อน1ธค.2497) 3.คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 พฤษภา คม 2538กำหนดนิยามของ เขา หมายถึง ส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบ ๆ (Surrounding) น้อยกว่า 600 เมตร ปรากฎในแผนที่ว่าเป็นเขา พื้นลาดชันร้อยละ 20- 35และที่ภูเขา หมายถึงส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบๆ (Surrounding) ตั้งแต่ 600 เมตร ขึ้นไปพื้นที่ลาดชันมากกว่าร้อยละ 35 4.ผู้บุกรุกป่าที่ถูกจับในกรณีแผ่วถ้างหรือเผาป่า เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดินนั้นในเขตอุทยานแห่งชาติ หรืออุทยานต่างๆ ของประเทศไทยจะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือปรับสูงถึง 2 ล้านบาท นอกจากนี้ห้ามยึดถือ/ครอบครอง/ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย/ก่อสร้าง/แผ้วถาง/เผาป่า/ทำไม้/เก็บหาของป่า หรือทำให้ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมสภาพ บทลงโทษ : จำคุก 1 – 10 ปี และปรับ 20,000 – 200,000 บาท 5. จากกฎหมายดังกล่าว ประชาชนได้บุก รุกภูเขาไปปลูกพืช ทำเกษตรกรรมได้อย่างไร? หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลพื้นที่ยินยอมได้อย่างไร?..สุดท้าย ฝนตกหนัก น้ำป่าจากภูเขาไหลเชี่ยวกราก พัดพาดินโคลนจากภูเขามาถล่มเมืองในพื้นที่ราบ ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน ลำปาง เป็นต้นในปี2567เพราะทำลายทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โค่นป่า ปลูกพืชล้มลุกบนภูเขาทำผิดกฎหมายแต่เจ้าหน้าปล่อยปะละเลย” #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1493 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ นายกฯป๋าเปรมตอบสื่อ "กลับบ้านเถอะลูก"
    นายกฯลุงชวนตอบสื่อ "ยังไม่ได้รับรายงาน"
    รองนายกฯลุงป้อมตอบสื่อ "ม่ายลู้วๆ"
    แต่ถ้าตอบแบบ นายกฯแม้ว "ค่าเงินไม่ใช่พ่อ แข็งค่าก็ช่างพ่อ"
    #7ดอกจิก
    ♣ นายกฯป๋าเปรมตอบสื่อ "กลับบ้านเถอะลูก" นายกฯลุงชวนตอบสื่อ "ยังไม่ได้รับรายงาน" รองนายกฯลุงป้อมตอบสื่อ "ม่ายลู้วๆ" แต่ถ้าตอบแบบ นายกฯแม้ว "ค่าเงินไม่ใช่พ่อ แข็งค่าก็ช่างพ่อ" #7ดอกจิก
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิปโก้บอกลา สับปะรดกระป๋อง

    บริษัท ทิปโก้ ไพน์แอบเปิ้ล จํากัด ผู้ผลิตสับปะรดกระป๋องเพื่อการส่งออกมาตั้งแต่ปี 2519 ตั้งอยู่ที่ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ บริษัทย่อยของ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO ซึ่งมีรายได้ประมาณ 22% ของรายได้รวม ตัดสินใจหยุดดำเนินงานในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสับปะรดกระป๋อง สาเหตุหลักเนื่องจากผลการดําเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง และสภาวะความผันผวนของปริมาณและราคาของผลสับปะรดสด ในช่วงเวลาที่ผ่านมา

    คณะกรรมการของบริษัทย่อย อยู่ระหว่างการพิจารณาแผนการจัดการสื่อสาร และแจ้งให้คู่ค้า เจ้าหนี้ ลูกจ้าง พนักงาน ผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ ให้ทราบและดําเนินการให้เป็นธรรม สอดคล้องกับกฎหมาย การหยุดการดําเนินงานในธุรกิจดังกล่าวเป็นการปรับกลยุทธ์การดําเนินธุรกิจภายในของบริษัทฯ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดําเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ ที่ดําเนินการอยู่

    ถือเป็นผู้ผลิตรายใหญ่รายที่สอง ที่เปลี่ยนแปลงธุรกิจสับปะรดกระป๋องในไทย ต่อจาก บริษัท โดลไทยแลนด์ จำกัด มีโรงงานอยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเมื่อปี 2517 โรงงานชุมพร อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เปิดเมื่อปี 2535 และโรงงานระยอง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้ยุติการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป เครื่องหมายการค้าโดล (Dole) ช่องทางค้าปลีกและฟูดเซอร์วิสในประเทศไทย ยังคงดำเนินการผลิตตามปกติ แต่เน้นส่งออกต่างประเทศเพียงอย่างเดียว

    ปัจจุบัน ในประเทศไทย มีผลิตภัณฑ์สับปะรดกระป๋องจำหน่าย เช่น สับปะรดเต็มแว่นในน้ำเชื่อมเข้มข้น ตราแม็กกาแรต (McGarrett) ผลิตโดย บริษัท ผลไม้กระป๋องประจวบ จำกัด (PRAFT) ก่อตั้งเมื่อปี 2528 ตั้งอยู่ใน อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ สับปะรดแว่นในน้ำเชื่อม ตรามาลี (MALEE) ผลิตโดย บริษัท กุยบุรีผลไม้กระป๋อง จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2535 ตั้งอยู่ใน อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ สับปะรดแว่นในน้ำเชื่อม ตราโคลี่ (KOLLY) ผลิตโดย บริษัท เถกิงอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋อง จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2536 ตั้งอยู่ใน อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น

    ข้อมูลจากศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร เมื่อปี 2563 ระบุว่า ประเทศไทยมีโรงงานแปรรูปสับปะรด 38 แห่ง เน้นไปที่ส่งออก 75% จำหน่ายในประเทศ 25% โดยพบว่าส่งออกสับปะรดกระป๋องมากที่สุด 71% กำลังการผลิตเฉพาะสับปะรดกระป๋อง 1.28 ล้านตัน ตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา 33% สหภาพยุโรป 21.2% รัสเซีย 5.9% จีน 4.2% ญี่ปุ่น 4.2% โดยไทยเป็นผู้ส่งออกสับปะรดอันดับ 3 รองจากคอสตาริกา และฟิลิปปินส์ และยังมีคู่แข่งอย่างเนเธอร์แลนด์และอินโดนีเซีย

    #Newskit #Tipco #สับปะรดกระป๋อง
    ทิปโก้บอกลา สับปะรดกระป๋อง บริษัท ทิปโก้ ไพน์แอบเปิ้ล จํากัด ผู้ผลิตสับปะรดกระป๋องเพื่อการส่งออกมาตั้งแต่ปี 2519 ตั้งอยู่ที่ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ บริษัทย่อยของ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO ซึ่งมีรายได้ประมาณ 22% ของรายได้รวม ตัดสินใจหยุดดำเนินงานในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสับปะรดกระป๋อง สาเหตุหลักเนื่องจากผลการดําเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง และสภาวะความผันผวนของปริมาณและราคาของผลสับปะรดสด ในช่วงเวลาที่ผ่านมา คณะกรรมการของบริษัทย่อย อยู่ระหว่างการพิจารณาแผนการจัดการสื่อสาร และแจ้งให้คู่ค้า เจ้าหนี้ ลูกจ้าง พนักงาน ผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ ให้ทราบและดําเนินการให้เป็นธรรม สอดคล้องกับกฎหมาย การหยุดการดําเนินงานในธุรกิจดังกล่าวเป็นการปรับกลยุทธ์การดําเนินธุรกิจภายในของบริษัทฯ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดําเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ ที่ดําเนินการอยู่ ถือเป็นผู้ผลิตรายใหญ่รายที่สอง ที่เปลี่ยนแปลงธุรกิจสับปะรดกระป๋องในไทย ต่อจาก บริษัท โดลไทยแลนด์ จำกัด มีโรงงานอยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเมื่อปี 2517 โรงงานชุมพร อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เปิดเมื่อปี 2535 และโรงงานระยอง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้ยุติการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป เครื่องหมายการค้าโดล (Dole) ช่องทางค้าปลีกและฟูดเซอร์วิสในประเทศไทย ยังคงดำเนินการผลิตตามปกติ แต่เน้นส่งออกต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ปัจจุบัน ในประเทศไทย มีผลิตภัณฑ์สับปะรดกระป๋องจำหน่าย เช่น สับปะรดเต็มแว่นในน้ำเชื่อมเข้มข้น ตราแม็กกาแรต (McGarrett) ผลิตโดย บริษัท ผลไม้กระป๋องประจวบ จำกัด (PRAFT) ก่อตั้งเมื่อปี 2528 ตั้งอยู่ใน อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ สับปะรดแว่นในน้ำเชื่อม ตรามาลี (MALEE) ผลิตโดย บริษัท กุยบุรีผลไม้กระป๋อง จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2535 ตั้งอยู่ใน อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ สับปะรดแว่นในน้ำเชื่อม ตราโคลี่ (KOLLY) ผลิตโดย บริษัท เถกิงอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋อง จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2536 ตั้งอยู่ใน อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ข้อมูลจากศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร เมื่อปี 2563 ระบุว่า ประเทศไทยมีโรงงานแปรรูปสับปะรด 38 แห่ง เน้นไปที่ส่งออก 75% จำหน่ายในประเทศ 25% โดยพบว่าส่งออกสับปะรดกระป๋องมากที่สุด 71% กำลังการผลิตเฉพาะสับปะรดกระป๋อง 1.28 ล้านตัน ตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา 33% สหภาพยุโรป 21.2% รัสเซีย 5.9% จีน 4.2% ญี่ปุ่น 4.2% โดยไทยเป็นผู้ส่งออกสับปะรดอันดับ 3 รองจากคอสตาริกา และฟิลิปปินส์ และยังมีคู่แข่งอย่างเนเธอร์แลนด์และอินโดนีเซีย #Newskit #Tipco #สับปะรดกระป๋อง
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ มาเป็นรองนายกฯ ด้วยคุณสมบัติอะไร ภูมิธรรมชี้ หากประชาชนนำเงินหมื่นไปใช้หนี้นอกระบบถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล
    #7ดอกจิก
    ♣️ มาเป็นรองนายกฯ ด้วยคุณสมบัติอะไร ภูมิธรรมชี้ หากประชาชนนำเงินหมื่นไปใช้หนี้นอกระบบถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล #7ดอกจิก
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • เริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจกันแล้ว ได้เงินหมื่นมาก็จัดเลย #เงินหมื่น #ดิจิตอลวอลเลต
    เริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจกันแล้ว ได้เงินหมื่นมาก็จัดเลย #เงินหมื่น #ดิจิตอลวอลเลต
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • คงคิดกัน..ทำไมยัยนี่จะมาเปลี่ยนความคิดเรื่อง มะเขือเทศ ทำไมพูดมากพิมพ์มาก ว่ามะเขือเทผศอันตราย..ก็สอนกันมาว่าช่วยผิวดีบ้าง และประโยชน์สารพัด

    ถูกหลอกอยู่ ยังไม่รู้ตัวกัน ปีนี้ปี 2024จะเห็นอะไรมากมายทยอยออกมาเรื่อยๆ..คนที่ต้องซี้ไปก่อน จะมากมายเรื่อยๆไม่กระทันหันแต่จะทยอยไปเพราะกินดื่ม แย่ๆแฝงไว้ แถมไปรับ สิ่งไม่ดีฉีดในตัวมาอีก..รับแบบไร้สติ ไม่ตรอง ไม่ศึกษา..โตแล้ว แก่กันแล้วก้อตายๆไม่เปนไรแต่เด็กๆล่ะ..อนาคตพวกเขาจะอยู่แบบไหนเด็กกำพร้าก็เต็มไปหมด..กำพร้าผัว กำพร้าเมีย ก็เยอะ..เหมือนหุ่นยนต์กันไปทุกวัน ไร้ความรู้สึก..เพ้อเจ้อ สติแตก หลงๆลืมๆ

    กว่าจะรู้ตัวก็ช้าไปแล้ว คนแนะนำสิ่งดีดีก็ไม่เชื่อเขา..

    ย้อนมาเครื่องมะเขือเทศ(ศ..มันทพใก้ในร่างกายอักเสบ ติดเชื้อง่าย..

    Tomato was very high in lectin..
    คงคิดกัน..ทำไมยัยนี่จะมาเปลี่ยนความคิดเรื่อง มะเขือเทศ ทำไมพูดมากพิมพ์มาก ว่ามะเขือเทผศอันตราย..ก็สอนกันมาว่าช่วยผิวดีบ้าง และประโยชน์สารพัด ถูกหลอกอยู่ ยังไม่รู้ตัวกัน ปีนี้ปี 2024จะเห็นอะไรมากมายทยอยออกมาเรื่อยๆ..คนที่ต้องซี้ไปก่อน จะมากมายเรื่อยๆไม่กระทันหันแต่จะทยอยไปเพราะกินดื่ม แย่ๆแฝงไว้ แถมไปรับ สิ่งไม่ดีฉีดในตัวมาอีก..รับแบบไร้สติ ไม่ตรอง ไม่ศึกษา..โตแล้ว แก่กันแล้วก้อตายๆไม่เปนไรแต่เด็กๆล่ะ..อนาคตพวกเขาจะอยู่แบบไหนเด็กกำพร้าก็เต็มไปหมด..กำพร้าผัว กำพร้าเมีย ก็เยอะ..เหมือนหุ่นยนต์กันไปทุกวัน ไร้ความรู้สึก..เพ้อเจ้อ สติแตก หลงๆลืมๆ กว่าจะรู้ตัวก็ช้าไปแล้ว คนแนะนำสิ่งดีดีก็ไม่เชื่อเขา.. ย้อนมาเครื่องมะเขือเทศ(ศ..มันทพใก้ในร่างกายอักเสบ ติดเชื้อง่าย.. Tomato was very high in lectin..
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว