• 0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • Newsstory : หลิว จงอี้ ลุยจีนเทา ทำ1 ได้ถึง2 ทั้งปราบปรามและกดดันรัฐบาลไทย
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #หลิวจงอี้
    Newsstory : หลิว จงอี้ ลุยจีนเทา ทำ1 ได้ถึง2 ทั้งปราบปรามและกดดันรัฐบาลไทย #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #หลิวจงอี้
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 898 Views 12 0 Reviews
  • Newsstory : ไทยสุดกล้ำกลืน เจอ4ข้อเสนอ รัฐบาลจีน ใครเกี้ยเซี้ยพม่าคงหนาวหลังแน่
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #งานนี้มีหนาว
    Newsstory : ไทยสุดกล้ำกลืน เจอ4ข้อเสนอ รัฐบาลจีน ใครเกี้ยเซี้ยพม่าคงหนาวหลังแน่ #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #งานนี้มีหนาว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 733 Views 13 0 Reviews
  • 16 ทีมสุดท้ายในยูโรป้า 21/02/68 #ฟุตบอล #ยูโรปา ลีก #16 ทีมสุดท้าย #การแข่งขันฟุตบอล
    16 ทีมสุดท้ายในยูโรป้า 21/02/68 #ฟุตบอล #ยูโรปา ลีก #16 ทีมสุดท้าย #การแข่งขันฟุตบอล
    Like
    7
    0 Comments 0 Shares 1306 Views 54 0 Reviews
  • ผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดของพรรคการเมืองในเยอรมนีล่าสุด ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 นี้:

    อันดับหนึ่ง พรรคคริสเตียนเดโมแครตยูเนียน (Christian Democratic Union - CDU) ซึ่งเป็นพรรคเมืองสายกลาง-ขวา ของ ฟรีดริช เมิร์ซ (Friedrich Merz) มีคะแนนนำในทุกโพล

    อันดับสอง ตามมาด้วยพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี หรือ AfD (Alternative for Germany / Alternative für Deutschland) ของ อลิซ ไวเดล (Alice Weidel) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขวาจัด (อนุรักษนิยม)

    อันดับที่สาม เป็นของพรรค SPD (Social Democratic Party of Germany) ของ โอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน


    สำหรับ ฟรีดริช เมิร์ซ ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนใหม่ ประกาศอย่างชัดเจนว่าหากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะยังคงนโยบายเคียงข้างยูเครนต่อไป และประกาศจะส่งมอบขีปนาวุธร่อน Taurus ที่มีพิสัยยิงมากกว่า 500 กม. ซึ่งเป็นสิ่งที่ โอลาฟ ชอลซ์ ไม่กล้าตัดสินใจ

    ส่วนอลิซ ไวเดล ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะกลับมามีความสัมพันธ์ที่เป็นปกติกับรัสเซีย และพร้อมจะกลับมาใช้บริการก๊าซจากรัสเซียเช่นเดิม นอกจากนี้เธอจะใช้นโยบายที่แข็งกร้าวต่อผู้อพยพเข้าเมืองเช่นเดียวกับทรัมป์

    ในช่วงแรก พรรค AfD มีคะแนนนิยมนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากต่อพันธมิตรในยุโรป มีการปลุกระดมข่าวสาร เพื่อโจมตีไวเดลเกี่ยวกับนโยบายที่แข็งกร้าวด้านต่อต้านผู้อพยพ ทำให้เกิดการประท้วงเป็นวงกว้างในเยอรมนีเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งในกรุงเบอร์ลิน และในเมืองอื่นๆ ของเยอรมนี ส่งผลให้คะแนนนิยมของเธอตกลงมาอย่างชัดเจน

    อีลอน มัสก์ คนสนิทของทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนพรรค AfD ของไวเดล

    แม้ว่าคะแนนนิยมของพรรค AfD ยังเป็นรองคู่แข่งจากพรรค CDU แต่ไม่ได้หมายความว่า ไวเดลหมดโอกาสชนะ เนื่องจากคะแนนนิยมที่ใกล้เคียงกัน และยังมีประชาชนเยอรมนีอีกมากที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งอาจทำให้ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

    โดยรวมแล้ว หลังการเลือกตั้งจบสิ้นลง รัฐบาลของเยอรมันยังคงเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคการเมืองเช่นเดิม


    ผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดของพรรคการเมืองในเยอรมนีล่าสุด ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 นี้: อันดับหนึ่ง พรรคคริสเตียนเดโมแครตยูเนียน (Christian Democratic Union - CDU) ซึ่งเป็นพรรคเมืองสายกลาง-ขวา ของ ฟรีดริช เมิร์ซ (Friedrich Merz) มีคะแนนนำในทุกโพล อันดับสอง ตามมาด้วยพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี หรือ AfD (Alternative for Germany / Alternative für Deutschland) ของ อลิซ ไวเดล (Alice Weidel) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขวาจัด (อนุรักษนิยม) อันดับที่สาม เป็นของพรรค SPD (Social Democratic Party of Germany) ของ โอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน สำหรับ ฟรีดริช เมิร์ซ ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนใหม่ ประกาศอย่างชัดเจนว่าหากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะยังคงนโยบายเคียงข้างยูเครนต่อไป และประกาศจะส่งมอบขีปนาวุธร่อน Taurus ที่มีพิสัยยิงมากกว่า 500 กม. ซึ่งเป็นสิ่งที่ โอลาฟ ชอลซ์ ไม่กล้าตัดสินใจ ส่วนอลิซ ไวเดล ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะกลับมามีความสัมพันธ์ที่เป็นปกติกับรัสเซีย และพร้อมจะกลับมาใช้บริการก๊าซจากรัสเซียเช่นเดิม นอกจากนี้เธอจะใช้นโยบายที่แข็งกร้าวต่อผู้อพยพเข้าเมืองเช่นเดียวกับทรัมป์ ในช่วงแรก พรรค AfD มีคะแนนนิยมนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากต่อพันธมิตรในยุโรป มีการปลุกระดมข่าวสาร เพื่อโจมตีไวเดลเกี่ยวกับนโยบายที่แข็งกร้าวด้านต่อต้านผู้อพยพ ทำให้เกิดการประท้วงเป็นวงกว้างในเยอรมนีเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งในกรุงเบอร์ลิน และในเมืองอื่นๆ ของเยอรมนี ส่งผลให้คะแนนนิยมของเธอตกลงมาอย่างชัดเจน อีลอน มัสก์ คนสนิทของทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนพรรค AfD ของไวเดล แม้ว่าคะแนนนิยมของพรรค AfD ยังเป็นรองคู่แข่งจากพรรค CDU แต่ไม่ได้หมายความว่า ไวเดลหมดโอกาสชนะ เนื่องจากคะแนนนิยมที่ใกล้เคียงกัน และยังมีประชาชนเยอรมนีอีกมากที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งอาจทำให้ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยรวมแล้ว หลังการเลือกตั้งจบสิ้นลง รัฐบาลของเยอรมันยังคงเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคการเมืองเช่นเดิม
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 1003 Views 0 Reviews
  • Newsstory : ประเทศไทย จะพินาศ ไม่ใช่เพราะรัฐประหาร แต่เพราะ...
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
    Newsstory : ประเทศไทย จะพินาศ ไม่ใช่เพราะรัฐประหาร แต่เพราะ... #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 781 Views 15 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • Newsstory : "สนธิ" ฝากถึง "โรม" ตรวจท่าเรือเฮียกวง ผู้มีอิทธิพลในฝั่งชายแดน
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #โรม #ท่าเรือเฮียกวง
    Newsstory : "สนธิ" ฝากถึง "โรม" ตรวจท่าเรือเฮียกวง ผู้มีอิทธิพลในฝั่งชายแดน #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #โรม #ท่าเรือเฮียกวง
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 802 Views 12 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • "ปานเทพ" ลั่น "เบิร์ด" รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแตงโม! ฟันธง "กระติกโกหก!" 21/02/68 #ปานเทพ #เบิร์ด #กระติก #แตงโม #คดีแตงโม
    "ปานเทพ" ลั่น "เบิร์ด" รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแตงโม! ฟันธง "กระติกโกหก!" 21/02/68 #ปานเทพ #เบิร์ด #กระติก #แตงโม #คดีแตงโม
    Like
    Love
    Sad
    14
    0 Comments 0 Shares 1420 Views 62 1 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • น้องสาวแน่น ฟิตเปรี๊ยะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
    .
    คืนความมั่นใจและความกระชับให้น้องสาวของคุณ ด้วยเทคโนโลยีการดูแลเฉพาะ ผลลัพธ์ที่สัมผัสได้ตั้งแต่ครั้งแรก ทั้งฟิตกระชับ สุขภาพดี และเพิ่มความมั่นใจในทุกกิจกรรม 🩷 มั่นใจในมาตรฐานและความปลอดภัยที่พร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอน อย่าปล่อยให้ความกังวลเป็นอุปสรรคในชีวิต !
    .
    สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองคิวใน Comment
    .
    #ตรวจภายใน #ดูแลสุขภาพผู้หญิง #ฟื้นฟูความมั่นใจ #การดูแลสุขภาพ #ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ #สุขภาพผู้ #ตรวจเพื่อป้องกัน #ผู้หญิงยุคใหม่ #Ultrasound #VagiRejuCO2Laser #DrJim #VagiClinic
    💖 น้องสาวแน่น ฟิตเปรี๊ยะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ✨ . คืนความมั่นใจและความกระชับให้น้องสาวของคุณ ด้วยเทคโนโลยีการดูแลเฉพาะ 💎 ผลลัพธ์ที่สัมผัสได้ตั้งแต่ครั้งแรก ทั้งฟิตกระชับ สุขภาพดี และเพิ่มความมั่นใจในทุกกิจกรรม 🩷 มั่นใจในมาตรฐานและความปลอดภัยที่พร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอน อย่าปล่อยให้ความกังวลเป็นอุปสรรคในชีวิต ! . สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองคิวใน Comment . #ตรวจภายใน #ดูแลสุขภาพผู้หญิง #ฟื้นฟูความมั่นใจ #การดูแลสุขภาพ #ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ #สุขภาพผู้ #ตรวจเพื่อป้องกัน #ผู้หญิงยุคใหม่ #Ultrasound #VagiRejuCO2Laser #DrJim #VagiClinic
    0 Comments 0 Shares 1285 Views 2 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • 'ประเสริฐ' ป้อง 'พิชัย' โดน สส.รัฐบาล เขย่าเก้าอี้ รุมถล่มแก้ราคาข้าวตกต่ำไม่ได้
    https://www.thai-tai.tv/news/17296/
    'ประเสริฐ' ป้อง 'พิชัย' โดน สส.รัฐบาล เขย่าเก้าอี้ รุมถล่มแก้ราคาข้าวตกต่ำไม่ได้ https://www.thai-tai.tv/news/17296/
    0 Comments 0 Shares 255 Views 0 Reviews
  • เมษาหนาวแน่! ! "ปานเทพ" แง้ม มีแจ้งคดีคนบนเรือและเครือข่ายเพิ่ม! (21/02/68) #news1 #อ.ปานเทพ #คดีแตงโม #คนบนเรือ
    เมษาหนาวแน่! ! "ปานเทพ" แง้ม มีแจ้งคดีคนบนเรือและเครือข่ายเพิ่ม! (21/02/68) #news1 #อ.ปานเทพ #คดีแตงโม #คนบนเรือ
    Like
    Love
    18
    0 Comments 1 Shares 1549 Views 71 2 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews
  • เพื่อนซี้ส่วนตัว
    เพื่อนซี้ส่วนตัว
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ South China Morning Post (SCMP) รายงานว่า ทางการจีนตรวจพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโควิด-19 ในค้างคาว โดยไวรัสดังกล่าวจัดอยู่ในสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ HKU5 ซึ่งถูกระบุในฮ่องกงในค้างคาวสายพันธุ์ Japanese pigistrelle โดยนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ผลการวิจัยเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ไวรัสเมอร์เบโคในค้างคาวมีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่กระจายสู่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผ่านการถ่ายทอดโดยตรงหรือผ่านโฮสต์ตัวกลาง อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ไวรัสยังไม่ถือว่ากำลังแพร่ระบาด แต่นักวิจัยได้ย้ำถึงความจำเป็นในการวิจัยอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น

    -ชาวนาขอประกัน 1.2 หมื่น
    -ภาระสูงหยุดจับแก๊งคอล
    -นี่หรือเมืองพุทธ
    -ค้านทรัมป์ยึดฉนวนกาซา
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ South China Morning Post (SCMP) รายงานว่า ทางการจีนตรวจพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโควิด-19 ในค้างคาว โดยไวรัสดังกล่าวจัดอยู่ในสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ HKU5 ซึ่งถูกระบุในฮ่องกงในค้างคาวสายพันธุ์ Japanese pigistrelle โดยนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ผลการวิจัยเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ไวรัสเมอร์เบโคในค้างคาวมีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่กระจายสู่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผ่านการถ่ายทอดโดยตรงหรือผ่านโฮสต์ตัวกลาง อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ไวรัสยังไม่ถือว่ากำลังแพร่ระบาด แต่นักวิจัยได้ย้ำถึงความจำเป็นในการวิจัยอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น -ชาวนาขอประกัน 1.2 หมื่น -ภาระสูงหยุดจับแก๊งคอล -นี่หรือเมืองพุทธ -ค้านทรัมป์ยึดฉนวนกาซา
    Like
    Sad
    9
    0 Comments 0 Shares 1525 Views 78 0 Reviews
  • วางแผนการเดิน "พระราชวังต้องห้าม" (ปักกิ่ง) ในวันเดียว

    ประวัติ "พระราชวังต้องห้าม" “จื่อจิ้นเฉิง”(紫禁城)
    ‘จื่อ’ (紫)แปลว่า สีม่วง ในวัฒนธรรมจีน หมายถึง ความศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงฐานะอันสูงส่งของฮ่องเต้ อย่างเช่นเวลาที่ฮ่องเต้เสด็จ ราชรถก็จะชูธงสีม่วงขึ้น ดังนั้น สีม่วงจึงใช้เป็นสัญลักษณ์ของราชสำนักอีกด้วย

    ‘จื่อ’ (紫) จากคำว่า จื่อจิ้นเฉิง(紫禁城) มาจาก จื่อเวยซิง(紫薇星)ที่เป็นชื่อดาวเหนือ เป็นเหมือนดาวพระราชา ดังนั้นเลยสื่อได้ว่า คนจีนในสมัยก่อนมองว่า จื่อจิ้นเฉิง หรือ พระราชวังต้องห้าม ถือเป็นศูนย์กลางของโลก และภายหลังจึงเปลี่ยนมาเรียก กู้กง(故宫) ที่มาจากคำว่า 故宫博物馆 หรือแปลว่า พิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามนั่นเอง

    พระราชวังต้องห้ามสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1368 ตรงกับสมัยจักรพรรดิองค์ที่ 3 ของราชวงศ์หมิง หรือจักรพรรดิหย่งเล่อ(永乐)ในตอนนั้นเมืองหลวงของจีนอยู่ที่เมืองหนานจิง(南京)หรือที่เรารู้จักกันว่านานกิง แต่ตอนนั้นฮ่องเต้ต้องการจะย้ายเมืองหลวงมาไว้ที่ปักกิ่ง(北京)

    สาเหตุก็เพราะต้องการถอนรากถอนโคนอำนาจเดิม เลยสร้างพระราชวังนี้ขึ้นมาในเมืองหลวงใหม่อย่างปักกิ่ง เพื่อใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์เท่านั้น ไม่อนุญาตให้ประชาชนคนนอกเข้ามาได้ และนี่ก็เลยเป็นที่มาของคำว่า ‘ต้องห้าม’ ในพระราชวังต้องห้ามนั่นเอง

    ในส่วนของตัวพระราชวังต้องห้าม พระราชวังต้องห้ามถือว่าเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก โครงสร้างจะแบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นป้อมปราการที่มีกำแพงสูงกั้นไว้ ชั้นพระราชฐานชั้นนอกที่ฮ่องเต้ใช้ประกอบพิธีต่าง ๆ และสุดท้ายจะเป็นพระราชฐานชั้นใน เป็นที่ประทับของฮ่องเต้และเหล่าสนม

    นางกำนัล รวมแล้ว 9,000 คนและขันทีอีก 70,000 คน เรียกได้ว่าแม้จะพูดว่าห้ามคนนอกเข้า แต่ข้างในก็คนเยอะมาก

    ต่อมาสมัยราชวงศ์ชิง จริง ๆ ราชวงศ์หมิงสร้างพระราชวังต้องห้ามได้อย่างอลังการมากจนภายหลังราชวงศ์ชิงสามารถเข้าไปใช้ต่อได้เลย แต่กับฮ่องเต้บางพระองค์ก็จะไม่ค่อยประทับที่พระราชวังต้องห้าม เพราะราชวงศ์ชิงเป็นชาวแมนจู ซึ่งเป็นชนเผ่าที่อาศัยตามทุ่งหญ้าและป่าเขา ชอบขี่ม้า เลี้ยงสัตว์ พอมาอยู่ในพระราชวังต้องห้ามก็รู้สึกอึดอัด จนต้องไปสร้างพระราชวัง หรือ อุทยานอื่นในการประทับอยู่แทน อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะอยู่ที่พระราชวังต้องห้ามแห่งนี้กัน

    สมัยชิงสามารถยกให้เป็นสมัยแห่งการต่อเติมพระราชวังต้องห้ามให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้เลย ที่เด่น ๆ จะเป็นสมัยของฮ่องเต้เฉียนหลง (ในเรื่องหรูอี้แหละ ยุคนั้น) ที่มีการสร้างอุทยานหนิงโซ่วกง (寧壽宮) หรือที่เราเรียกกันว่า สวนเฉียนหลง ไว้ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวังต้องห้าม เพื่อใช้ประทับยามชรา
    เป็นอุทยานที่มีเอกลักษณ์มาก ๆ เพราะทุกอาคารเชื่อมถึงกัน มีภูเขาจำลองที่ประกอบไปด้วยทิวทัศน์ของต้นสน ต้นไผ่ ต้นเหมย อันเป็นสัญลักษณ์ของความสันโดษ ที่พระองค์ตั้งให้เป็นเหมือนแนวคิดหลักของอุทยานแห่งนี้ค่ะ (และนี่จะโยงกับเรื่องที่ว่าทำไมฝรั่งไม่เผาพระราชวังต้องห้าม)

    ไฮไลท์ อื่น ๆ ของพระราชวังต้องห้ามที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ประตูอู่เหมิน(午门)เป็นประตูที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวังต้องห้าม ในอดีตที่ประตูนี้เป็นที่รวมตัวกันของข้าราชการฝ่ายพลเรือนและทหารเพื่อฟังพระราชโองการหรือประกาศกำหนดการณ์ต่างๆ

    พระที่นั่งไท่เหอ(太和殿)โด่งดังมาก เพราะถือเป็นพระที่นั่งที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวังต้องห้าม เป็นจุดศูนย์กลางและเป็นจุดสูงสุดของพระราชวังแห่งนี้เลย และยังมีอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในจีนอีกด้วย พระที่นั่งไท่เหอจะใช้ในงานพระราชพิธีสำคัญของราชสำนัก

    จัตุรัสเทียนอันเหมิน(天安门)อยู่ทางทิศเหนือของเขตพระราชวังต้องห้าม (ถ้าเข้าทางประตูอู่เหมินจะเจอเทียนอันเหมินก่อน) จะเห็นได้จากอนุสรณ์สถานประธานเหมาที่ตั้งอยู่อย่างเป็นเอกลักษณ์ในจัตุรัสแห่งนี้ ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองของจีนมากทีเดียว เพราะเป็นอนุสรณ์ถึงความเสียสละเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย


    วางแผนการเดิน "พระราชวังต้องห้าม" (ปักกิ่ง) ในวันเดียว ประวัติ "พระราชวังต้องห้าม" “จื่อจิ้นเฉิง”(紫禁城) ‘จื่อ’ (紫)แปลว่า สีม่วง ในวัฒนธรรมจีน หมายถึง ความศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงฐานะอันสูงส่งของฮ่องเต้ อย่างเช่นเวลาที่ฮ่องเต้เสด็จ ราชรถก็จะชูธงสีม่วงขึ้น ดังนั้น สีม่วงจึงใช้เป็นสัญลักษณ์ของราชสำนักอีกด้วย ‘จื่อ’ (紫) จากคำว่า จื่อจิ้นเฉิง(紫禁城) มาจาก จื่อเวยซิง(紫薇星)ที่เป็นชื่อดาวเหนือ เป็นเหมือนดาวพระราชา ดังนั้นเลยสื่อได้ว่า คนจีนในสมัยก่อนมองว่า จื่อจิ้นเฉิง หรือ พระราชวังต้องห้าม ถือเป็นศูนย์กลางของโลก และภายหลังจึงเปลี่ยนมาเรียก กู้กง(故宫) ที่มาจากคำว่า 故宫博物馆 หรือแปลว่า พิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามนั่นเอง พระราชวังต้องห้ามสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1368 ตรงกับสมัยจักรพรรดิองค์ที่ 3 ของราชวงศ์หมิง หรือจักรพรรดิหย่งเล่อ(永乐)ในตอนนั้นเมืองหลวงของจีนอยู่ที่เมืองหนานจิง(南京)หรือที่เรารู้จักกันว่านานกิง แต่ตอนนั้นฮ่องเต้ต้องการจะย้ายเมืองหลวงมาไว้ที่ปักกิ่ง(北京) สาเหตุก็เพราะต้องการถอนรากถอนโคนอำนาจเดิม เลยสร้างพระราชวังนี้ขึ้นมาในเมืองหลวงใหม่อย่างปักกิ่ง เพื่อใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์เท่านั้น ไม่อนุญาตให้ประชาชนคนนอกเข้ามาได้ และนี่ก็เลยเป็นที่มาของคำว่า ‘ต้องห้าม’ ในพระราชวังต้องห้ามนั่นเอง ในส่วนของตัวพระราชวังต้องห้าม พระราชวังต้องห้ามถือว่าเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก โครงสร้างจะแบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นป้อมปราการที่มีกำแพงสูงกั้นไว้ ชั้นพระราชฐานชั้นนอกที่ฮ่องเต้ใช้ประกอบพิธีต่าง ๆ และสุดท้ายจะเป็นพระราชฐานชั้นใน เป็นที่ประทับของฮ่องเต้และเหล่าสนม นางกำนัล รวมแล้ว 9,000 คนและขันทีอีก 70,000 คน เรียกได้ว่าแม้จะพูดว่าห้ามคนนอกเข้า แต่ข้างในก็คนเยอะมาก ต่อมาสมัยราชวงศ์ชิง จริง ๆ ราชวงศ์หมิงสร้างพระราชวังต้องห้ามได้อย่างอลังการมากจนภายหลังราชวงศ์ชิงสามารถเข้าไปใช้ต่อได้เลย แต่กับฮ่องเต้บางพระองค์ก็จะไม่ค่อยประทับที่พระราชวังต้องห้าม เพราะราชวงศ์ชิงเป็นชาวแมนจู ซึ่งเป็นชนเผ่าที่อาศัยตามทุ่งหญ้าและป่าเขา ชอบขี่ม้า เลี้ยงสัตว์ พอมาอยู่ในพระราชวังต้องห้ามก็รู้สึกอึดอัด จนต้องไปสร้างพระราชวัง หรือ อุทยานอื่นในการประทับอยู่แทน อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่จะอยู่ที่พระราชวังต้องห้ามแห่งนี้กัน สมัยชิงสามารถยกให้เป็นสมัยแห่งการต่อเติมพระราชวังต้องห้ามให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้เลย ที่เด่น ๆ จะเป็นสมัยของฮ่องเต้เฉียนหลง (ในเรื่องหรูอี้แหละ ยุคนั้น) ที่มีการสร้างอุทยานหนิงโซ่วกง (寧壽宮) หรือที่เราเรียกกันว่า สวนเฉียนหลง ไว้ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวังต้องห้าม เพื่อใช้ประทับยามชรา เป็นอุทยานที่มีเอกลักษณ์มาก ๆ เพราะทุกอาคารเชื่อมถึงกัน มีภูเขาจำลองที่ประกอบไปด้วยทิวทัศน์ของต้นสน ต้นไผ่ ต้นเหมย อันเป็นสัญลักษณ์ของความสันโดษ ที่พระองค์ตั้งให้เป็นเหมือนแนวคิดหลักของอุทยานแห่งนี้ค่ะ (และนี่จะโยงกับเรื่องที่ว่าทำไมฝรั่งไม่เผาพระราชวังต้องห้าม) ไฮไลท์ อื่น ๆ ของพระราชวังต้องห้ามที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ประตูอู่เหมิน(午门)เป็นประตูที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวังต้องห้าม ในอดีตที่ประตูนี้เป็นที่รวมตัวกันของข้าราชการฝ่ายพลเรือนและทหารเพื่อฟังพระราชโองการหรือประกาศกำหนดการณ์ต่างๆ พระที่นั่งไท่เหอ(太和殿)โด่งดังมาก เพราะถือเป็นพระที่นั่งที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวังต้องห้าม เป็นจุดศูนย์กลางและเป็นจุดสูงสุดของพระราชวังแห่งนี้เลย และยังมีอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในจีนอีกด้วย พระที่นั่งไท่เหอจะใช้ในงานพระราชพิธีสำคัญของราชสำนัก จัตุรัสเทียนอันเหมิน(天安门)อยู่ทางทิศเหนือของเขตพระราชวังต้องห้าม (ถ้าเข้าทางประตูอู่เหมินจะเจอเทียนอันเหมินก่อน) จะเห็นได้จากอนุสรณ์สถานประธานเหมาที่ตั้งอยู่อย่างเป็นเอกลักษณ์ในจัตุรัสแห่งนี้ ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองของจีนมากทีเดียว เพราะเป็นอนุสรณ์ถึงความเสียสละเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
    0 Comments 0 Shares 882 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • ตัดเอง3ครั้งก้อได้เครื่องนี้
    ตัดเอง3ครั้งก้อได้เครื่องนี้
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews