• จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือ จังหวัดเกาะกง

    เมืองปัจจันตคิรีเขตร
    เมือง
    พ.ศ. 2398 – 2447
    ยุคทางประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์
    • ก่อตั้ง
    พ.ศ. 2398
    • ฝรั่งเศสไม่ยอมคืนดินแดน
    30 ธันวาคม พ.ศ. 2447

    เมืองตราด
    กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส
    ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ กัมพูชา
    จังหวัดปัจจันตคิรีเขตรChoawalit Chotwattanaphong หรือบางเอกสารจะเรียกว่า ปัตจันตคีรีเขตร์ บ้าง ประจันต์คิรีเขตต์ บ้าง[2] เป็นเมืองเดิมของราชอาณาจักรสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีความสำคัญเทียบเท่าจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ในอดีต มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะกง เขตจังหวัดเกาะกงในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน ดินแดนจังหวัดนี้ตกเป็นของฝรั่งเศสพร้อมกับหัวเมืองฝั่งขวาแม่น้ำโขง คือ แขวงไชยบุรีและแขวงจำปาศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2447

    ประวัติ

    Map of Siam in 1900
    แต่เดิมมาเกาะกงเป็นจังหวัดของราชอาณาจักรเขมร แต่มาถึงสมัยที่เขมรตกเป็นประเทศราชอยู่ในอำนาจของสยาม พระเจ้ากรุงสยามก็มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกงให้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองตราด

    เมื่อปี พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกง โดยพระราชทานนามเมืองนี้ว่า เมืองปัจจันตคีรีเขตต์ เพื่อให้เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีเขตติดต่อกับเขมรและญวน

    เหตุที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามเกาะกงว่า ปัจจันตคิรีเขตร ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ทางด้านภาคตะวันตกของไทย ซึ่งตั้งอยู่ในแนวรุ้ง (Latitude) เดียวกัน[3]

    ถึง พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์จัดตั้งสถานีทหารเรือขึ้นตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่เมืองชลบุรี บางพระ อำเภอบางละมุง เมืองระยอง เมืองแกลง เมืองจันทบุรี อำเภอขลุง เมืองตราด เมืองปัจจันตคิรีเขตร และเกาะเสม็ดนอก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสทางทะเล

    ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ฝรั่งเศสได้เริ่มดำเนินการทางทหารใช้กำลังเข้าบีบบังคับสยาม โดยยกกองทัพมาเข้าขับไล่ทหารไทยให้ถอยร่นออกจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ทำให้ความยุ่งยากทางชายแดนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการปรึกษาการป้องกันพระราชอาณาเขตขึ้น และจัดกองบัญชาการทัพอยู่ตามหัวเมืองชายทะเลแต่ละด้านขึ้นด้วย

    ในปี พ.ศ. 2436 รัฐบาลสยามได้แต่งตั้งให้นายพลเรือจัตวาพระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plésis de Richelieu) เป็นผู้จัดการป้องกันพระราชอาณาเขตทางหัวเมืองฝ่ายตะวันออก ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีคำสั่งมายังผู้ว่าราชการเมืองแถบนี้ ซึ่งรวมทั้งเมืองตราดและเมืองปัจจันตคิรีเขตรด้วย ให้ช่วยพระยาชลยุทธโยธินทร์จัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาเขต

    การเสียดินแดนจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร

    การส่งมอบตราดให้กับฝรั่งเศส
    วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศสสามารถฝ่าแนวป้องกันของสยามเข้ามาทอดสมอในกรุงเทพฯ ได้ ฝ่ายฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตามเมื่อ 20 กรกฎาคม โดยให้เวลาตอบ 48 ชั่วโมง ฝ่ายไทยได้ตอบข้อเรียกร้องเมื่อ 22 กรกฎาคม แต่ไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายฝรั่งเศส ดังนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ฝรั่งเศสจึงประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย สองวันถัดมา (26 กรกฎาคม) ฝรั่งเศสได้สั่งให้ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันออกไกลที่ไซ่ง่อนปิดล้อมอ่าวไทย ตั้งแต่แหลมเจ้าลายถึงบริเวณแหลมกระบัง และในวันที่ 29 กรกฎาคม ฝรั่งเศสได้ประกาศปิดล้อมอ่าวไทยครั้งที่ 2 โดยขยายเขตเพิ่มบริเวณเกาะเสม็ด จนถึงแหลมสิง รวม 2 เขต ฝ่ายไทยจำต้องยอมรับคำขาดของฝรั่งเศสที่ยื่นไว้แต่เดิมในวันเดียวกันนั้นเอง แต่ในวันรุ่งขึ้นฝรั่งเศสถือโอกาสยื่นคำขาดเพิ่มเติมอีก โดยประกาศยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน และบังคับให้ไทยถอนตัวออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอีกด้วย ไทยจำเป็นต้องยอมรับโดยไม่มีทางเลือก เมื่อฝ่ายไทยปฏิบัติตามคำขาดนั้นแล้ว ฝรั่งเศสจึงได้ยกเลิกการปิดอ่าวในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 12.00 น. แต่การยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรียังคงยึดไว้ตามเดิม

    ต่อมาได้มีการทำสัญญาสงบศึกกันโดยหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) ในหนังสือสัญญาฉบับนี้ มีข้อความระบุไว้ในอนุสัญญาผนวกต่อท้ายหนังสือสัญญาข้อ 6 ว่า "คอนเวอนแมนต์ (Government - รัฐบาล) ฝรั่งเศสจะได้ตั้งอยู่ต่อไปที่เมืองจันทบุรี จนกว่าจะได้ทำการสำเร็จแล้วตามข้อความในหนังสือสัญญานี้…"

    แม้ทางฝ่ายไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ฝรั่งเศสบีบบังคับทุกอย่าง ฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอมถอนทหาร ยังคงยึดจันทบุรีไว้อีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี เป็นเหตุให้ต้องมีการตกลงทำสัญญาขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่งคือ อนุสัญญาลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2445 แต่หนังสือฉบับนี้ฝรั่งเศสไม่ยอมให้สัตยาบันและไม่ถอนกำลังออกจากจันทบุรี จึงได้ตกลงมีสัญญาอีกฉบับหนึ่ง คือ สัญญาลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 คราวนี้ฝรั่งเศสจึงถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่ได้เข้ายึดครองเมืองตราดและบรรดาเกาะทั้งหลายภายใต้แหลมสิงลงไปซึ่งรวมถึงเกาะกงแทน ฝ่ายไทยจำต้องมอบเมืองตราดและเมืองประจันตคีรีเขตให้แก่ฝรั่งเศส ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447

    พื้นที่ดังกล่าวได้ตกอยู่ในการยึดครองของฝรั่งเศส จนถึงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 จึงได้มีการตกลงทำหนังสือสัญญาขึ้นอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า "หนังสือสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเปรสสิเดนต์แห่งรีปัปลิคฝรั่งเศส" ฝรั่งเศสจึงคืนเมืองตราดให้ไทยตามเดิม แต่ฝ่ายไทยจะต้องยอมยกดินแดนเขมรส่วนใน (มณฑลบูรพา) คือ เมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน แต่ปรากฏว่าเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) นั้นฝรั่งเศสมิได้คืนให้ไทยแต่ประการใด ปัจจุบันเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาไปโดยปริยาย[4]

    การสูญเสียแผ่นดินเกาะกงในสมัยนั้น ประวัติศาสตร์ของชาติไทยมิได้มีบันทึกการเสียดินแดนเกาะกงไว้แต่อย่างใด คงกล่าวโดยรวมในกรณีของดินแดนจังหวัดตราดเท่านั้น เพราะในขณะนั้นไทยต้องการดินแดนเขมรสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือดินแดนอีสานตอนใต้ในปัจจุบัน โดยให้ยึดทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นเขตแดน ซึ่งฝรั่งเศสก็ยินยอม



    จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือ จังหวัดเกาะกง เมืองปัจจันตคิรีเขตร เมือง พ.ศ. 2398 – 2447 ยุคทางประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์ • ก่อตั้ง พ.ศ. 2398 • ฝรั่งเศสไม่ยอมคืนดินแดน 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447 เมืองตราด กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ กัมพูชา จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร[1] หรือบางเอกสารจะเรียกว่า ปัตจันตคีรีเขตร์ บ้าง ประจันต์คิรีเขตต์ บ้าง[2] เป็นเมืองเดิมของราชอาณาจักรสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีความสำคัญเทียบเท่าจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ในอดีต มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะกง เขตจังหวัดเกาะกงในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน ดินแดนจังหวัดนี้ตกเป็นของฝรั่งเศสพร้อมกับหัวเมืองฝั่งขวาแม่น้ำโขง คือ แขวงไชยบุรีและแขวงจำปาศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2447 ประวัติ Map of Siam in 1900 แต่เดิมมาเกาะกงเป็นจังหวัดของราชอาณาจักรเขมร แต่มาถึงสมัยที่เขมรตกเป็นประเทศราชอยู่ในอำนาจของสยาม พระเจ้ากรุงสยามก็มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกงให้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองตราด เมื่อปี พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกง โดยพระราชทานนามเมืองนี้ว่า เมืองปัจจันตคีรีเขตต์ เพื่อให้เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีเขตติดต่อกับเขมรและญวน เหตุที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามเกาะกงว่า ปัจจันตคิรีเขตร ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ทางด้านภาคตะวันตกของไทย ซึ่งตั้งอยู่ในแนวรุ้ง (Latitude) เดียวกัน[3] ถึง พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์จัดตั้งสถานีทหารเรือขึ้นตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่เมืองชลบุรี บางพระ อำเภอบางละมุง เมืองระยอง เมืองแกลง เมืองจันทบุรี อำเภอขลุง เมืองตราด เมืองปัจจันตคิรีเขตร และเกาะเสม็ดนอก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสทางทะเล ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ฝรั่งเศสได้เริ่มดำเนินการทางทหารใช้กำลังเข้าบีบบังคับสยาม โดยยกกองทัพมาเข้าขับไล่ทหารไทยให้ถอยร่นออกจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ทำให้ความยุ่งยากทางชายแดนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการปรึกษาการป้องกันพระราชอาณาเขตขึ้น และจัดกองบัญชาการทัพอยู่ตามหัวเมืองชายทะเลแต่ละด้านขึ้นด้วย ในปี พ.ศ. 2436 รัฐบาลสยามได้แต่งตั้งให้นายพลเรือจัตวาพระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plésis de Richelieu) เป็นผู้จัดการป้องกันพระราชอาณาเขตทางหัวเมืองฝ่ายตะวันออก ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีคำสั่งมายังผู้ว่าราชการเมืองแถบนี้ ซึ่งรวมทั้งเมืองตราดและเมืองปัจจันตคิรีเขตรด้วย ให้ช่วยพระยาชลยุทธโยธินทร์จัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาเขต การเสียดินแดนจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร การส่งมอบตราดให้กับฝรั่งเศส วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศสสามารถฝ่าแนวป้องกันของสยามเข้ามาทอดสมอในกรุงเทพฯ ได้ ฝ่ายฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตามเมื่อ 20 กรกฎาคม โดยให้เวลาตอบ 48 ชั่วโมง ฝ่ายไทยได้ตอบข้อเรียกร้องเมื่อ 22 กรกฎาคม แต่ไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายฝรั่งเศส ดังนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ฝรั่งเศสจึงประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย สองวันถัดมา (26 กรกฎาคม) ฝรั่งเศสได้สั่งให้ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันออกไกลที่ไซ่ง่อนปิดล้อมอ่าวไทย ตั้งแต่แหลมเจ้าลายถึงบริเวณแหลมกระบัง และในวันที่ 29 กรกฎาคม ฝรั่งเศสได้ประกาศปิดล้อมอ่าวไทยครั้งที่ 2 โดยขยายเขตเพิ่มบริเวณเกาะเสม็ด จนถึงแหลมสิง รวม 2 เขต ฝ่ายไทยจำต้องยอมรับคำขาดของฝรั่งเศสที่ยื่นไว้แต่เดิมในวันเดียวกันนั้นเอง แต่ในวันรุ่งขึ้นฝรั่งเศสถือโอกาสยื่นคำขาดเพิ่มเติมอีก โดยประกาศยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน และบังคับให้ไทยถอนตัวออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอีกด้วย ไทยจำเป็นต้องยอมรับโดยไม่มีทางเลือก เมื่อฝ่ายไทยปฏิบัติตามคำขาดนั้นแล้ว ฝรั่งเศสจึงได้ยกเลิกการปิดอ่าวในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 12.00 น. แต่การยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรียังคงยึดไว้ตามเดิม ต่อมาได้มีการทำสัญญาสงบศึกกันโดยหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) ในหนังสือสัญญาฉบับนี้ มีข้อความระบุไว้ในอนุสัญญาผนวกต่อท้ายหนังสือสัญญาข้อ 6 ว่า "คอนเวอนแมนต์ (Government - รัฐบาล) ฝรั่งเศสจะได้ตั้งอยู่ต่อไปที่เมืองจันทบุรี จนกว่าจะได้ทำการสำเร็จแล้วตามข้อความในหนังสือสัญญานี้…" แม้ทางฝ่ายไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ฝรั่งเศสบีบบังคับทุกอย่าง ฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอมถอนทหาร ยังคงยึดจันทบุรีไว้อีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี เป็นเหตุให้ต้องมีการตกลงทำสัญญาขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่งคือ อนุสัญญาลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2445 แต่หนังสือฉบับนี้ฝรั่งเศสไม่ยอมให้สัตยาบันและไม่ถอนกำลังออกจากจันทบุรี จึงได้ตกลงมีสัญญาอีกฉบับหนึ่ง คือ สัญญาลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 คราวนี้ฝรั่งเศสจึงถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่ได้เข้ายึดครองเมืองตราดและบรรดาเกาะทั้งหลายภายใต้แหลมสิงลงไปซึ่งรวมถึงเกาะกงแทน ฝ่ายไทยจำต้องมอบเมืองตราดและเมืองประจันตคีรีเขตให้แก่ฝรั่งเศส ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447 พื้นที่ดังกล่าวได้ตกอยู่ในการยึดครองของฝรั่งเศส จนถึงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 จึงได้มีการตกลงทำหนังสือสัญญาขึ้นอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า "หนังสือสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเปรสสิเดนต์แห่งรีปัปลิคฝรั่งเศส" ฝรั่งเศสจึงคืนเมืองตราดให้ไทยตามเดิม แต่ฝ่ายไทยจะต้องยอมยกดินแดนเขมรส่วนใน (มณฑลบูรพา) คือ เมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน แต่ปรากฏว่าเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) นั้นฝรั่งเศสมิได้คืนให้ไทยแต่ประการใด ปัจจุบันเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาไปโดยปริยาย[4] การสูญเสียแผ่นดินเกาะกงในสมัยนั้น ประวัติศาสตร์ของชาติไทยมิได้มีบันทึกการเสียดินแดนเกาะกงไว้แต่อย่างใด คงกล่าวโดยรวมในกรณีของดินแดนจังหวัดตราดเท่านั้น เพราะในขณะนั้นไทยต้องการดินแดนเขมรสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือดินแดนอีสานตอนใต้ในปัจจุบัน โดยให้ยึดทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นเขตแดน ซึ่งฝรั่งเศสก็ยินยอม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงพ่อมอญหลังหลวงปู่ทิม วัดแกลงบน จ.ระยอง

    หลวงพ่อมอญหลังหลวงปู่ทิม เนื้อผงพุทธคุณ วัดแกลงบน จ.ระยอง //พระคู่บ้านคู่เมืองคนกะเฉด พระดีพิธีใหญ่ หลวงปู่ทิมร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ขอได้ ไหว์รับ บนบานของสิ่งที่ต้องการ ก็ได้สมปรารถนา เสริมดวงชะตา มีบารมี เมตตาและความสำเร็จ เด่นด้านนิรันตราย ทำมาค้าขาย ดีนัก >>

    ** วัดแกลงบน เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดระยอง หลวงพ่อมอญ วัดแกลงบน พระคู่บ้านคู่เมืองคนกะเฉด “หลวงพ่อมอญ” สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อตอนเสียกรุงครั้งหลัง ขณะที่พระเจ้าตากสินได้ยกทัพผ่านมาทางทิศตะวันออกและให้ทหารตั้งค่ายพักแรมอยู่ ณ บริเวณแห่งนี้ พร้อมทั้งให้ทหารตำข้าวและหาเสบียงอาหารในบริเวณนั้น ปัจจุบันชาวบ้านแถบนี้เรียกว่า “หนองตำข้าว”และสันนิษฐานว่าคงจะให้ทหารช่วยกันสร้างวิหาร“หลวงพ่อมอญ” นี้ขึ้นมา >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อมอญหลังหลวงปู่ทิม วัดแกลงบน จ.ระยอง หลวงพ่อมอญหลังหลวงปู่ทิม เนื้อผงพุทธคุณ วัดแกลงบน จ.ระยอง //พระคู่บ้านคู่เมืองคนกะเฉด พระดีพิธีใหญ่ หลวงปู่ทิมร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ขอได้ ไหว์รับ บนบานของสิ่งที่ต้องการ ก็ได้สมปรารถนา เสริมดวงชะตา มีบารมี เมตตาและความสำเร็จ เด่นด้านนิรันตราย ทำมาค้าขาย ดีนัก >> ** วัดแกลงบน เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดระยอง หลวงพ่อมอญ วัดแกลงบน พระคู่บ้านคู่เมืองคนกะเฉด “หลวงพ่อมอญ” สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อตอนเสียกรุงครั้งหลัง ขณะที่พระเจ้าตากสินได้ยกทัพผ่านมาทางทิศตะวันออกและให้ทหารตั้งค่ายพักแรมอยู่ ณ บริเวณแห่งนี้ พร้อมทั้งให้ทหารตำข้าวและหาเสบียงอาหารในบริเวณนั้น ปัจจุบันชาวบ้านแถบนี้เรียกว่า “หนองตำข้าว”และสันนิษฐานว่าคงจะให้ทหารช่วยกันสร้างวิหาร“หลวงพ่อมอญ” นี้ขึ้นมา >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 491 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569
    วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024)

    Photo Album Set 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดถ้ำหมีนอน อ.แกลง จ.ระยอง
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    02. วัดทดราษฎร์เจริญมณีฤทธิ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    03. วัดทรายแดงวนาราม อ.เมือง จ.ระนอง
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    04. วัดทับกระดาษ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    05. วัดท่าฟืน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    06. วัดทำเลไทย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    07. วัดนาคหงษา อ.ผาขาว จ.เลย
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    08. วัดบางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    09. วัดบ้านน้ำมุด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    10. วัดบ้านไผ่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569 วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024) Photo Album Set 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดถ้ำหมีนอน อ.แกลง จ.ระยอง (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 02. วัดทดราษฎร์เจริญมณีฤทธิ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 03. วัดทรายแดงวนาราม อ.เมือง จ.ระนอง (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 04. วัดทับกระดาษ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 05. วัดท่าฟืน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 06. วัดทำเลไทย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 07. วัดนาคหงษา อ.ผาขาว จ.เลย (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 08. วัดบางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 09. วัดบ้านน้ำมุด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 10. วัดบ้านไผ่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 570 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569
    วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024)

    Photo Album Set 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดถ้ำหมีนอน อ.แกลง จ.ระยอง
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    02. วัดทดราษฎร์เจริญมณีฤทธิ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    03. วัดทรายแดงวนาราม อ.เมือง จ.ระนอง
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    04. วัดทับกระดาษ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    05. วัดท่าฟืน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    06. วัดทำเลไทย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    07. วัดนาคหงษา อ.ผาขาว จ.เลย
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    08. วัดบางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    09. วัดบ้านน้ำมุด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    10. วัดบ้านไผ่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569 วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024) Photo Album Set 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดถ้ำหมีนอน อ.แกลง จ.ระยอง (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 02. วัดทดราษฎร์เจริญมณีฤทธิ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 03. วัดทรายแดงวนาราม อ.เมือง จ.ระนอง (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 04. วัดทับกระดาษ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 05. วัดท่าฟืน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 06. วัดทำเลไทย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 07. วัดนาคหงษา อ.ผาขาว จ.เลย (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 08. วัดบางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 09. วัดบ้านน้ำมุด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 10. วัดบ้านไผ่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 560 มุมมอง 0 รีวิว
  • #MomentVillaRayong
    🏖...

    สำรองห้องพัก จัดเลี้ยง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @momentvillarayong หรือ โทร 092-925-6469 (รองรับได้300ท่าน มีลานกิจกรรม ห้องประชุม เล็กใหญ่)

    #ที่พักระยอง #ที่พักติดทะเล #แหลมแม่พิมพ์ #แกลง #ระยอง #ทะเลระยอง
    #MomentVillaRayong 🏖... 📍สำรองห้องพัก จัดเลี้ยง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @momentvillarayong หรือ โทร 092-925-6469 (รองรับได้300ท่าน มีลานกิจกรรม ห้องประชุม เล็กใหญ่) #ที่พักระยอง #ที่พักติดทะเล #แหลมแม่พิมพ์ #แกลง #ระยอง #ทะเลระยอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 904 มุมมอง 28 0 รีวิว