• แบงค์ชาติมีทั้งจังหวะฝ่ายดีบริหารจัดการ,มีทั้งฝ่ายไม่ดีอำนวยประโยชน์ให้แบงค์เอกชน,แต่สุดท้ายเอาเข้าจริงๆแบงค์ชาติคือจุดเปลี่ยนทั้งหมดของเศรษฐกิจไทย ,จุดเปลี่ยนทั้งหมดที่จะทำให้คนไทยร่ำรวยหรือยากจนเพราะดูแลเรื่องเงินเรื่องตังของจริง,ธุรกรรมชั่วเลวใดที่เข้าไทย จะออกจากไทย แบงค์ชาติสั่งอายัดและตรวจสอบก่อนได้ทั้งหมด ยกเว้นกรณีพวกมาเหนือกฎหมาย ใช้อำนาจเหนือกฎหมายกระทำการผ่านช่องทางออกอื่นๆ เช่นหลบหนีการตรวจสอบจากตม.ไทยได้ ขนเงินขนทองคำออกนอกประเทศผ่านเครื่องบิน บินไปฝากไปฟอกตังที่สิงคโปร์เป็นต้น หรือทั่วประเทศ โดยอาศัยชนชั้นศักดินาอำมาตย์พิเศษตน เจ้าสัวพิเศษตน ผู้ดีเก่าตน เจ้าขุนมูลนายเก่าตน มันผ่านระบบตรวจสอบได้แน่นอนจากแบงค์ชาติ แม้แต่เกาะฟอกเงินต่างประเทศแบงค์ชาติไม่รู้ไม่เชื่อมโยงระบบก็อาจเป็นไปไม่ได้,เกาะฟอกเงินอาจโอนเข้าไทยผ่านแบงค์ชาตินี้ล่ะ,เอกชนไทยและเอกชนแบงค์ต่างประเทศใดรับโอนมาแบงค์ชาติก็เห็นหมดล่ะ สั่งยึดอายัดได้หมด,แต่ความจริงเนื้องานไส้ในเราก็ไม่รู้ได้นั้นเอง.
    ..เงินทุนมากมายมาโจมตีไทย เข้าไทย ออกจากไทย ดูดจากไทย แบงค์ชาติรู้ภาพรวมยอดรวมต้นทางปลายทางหมดล่ะ,อำนาจทางการเงินของแบงค์ชาตินั้นเด็ดขาดได้,แต่จะเด็ดขาดกับอีลิทdeep stateนายตนเองคงยาก.
    ..แบงค์ชาติสามารถช่วยประชาชนคนไทยอยู่ดีมีสุขทางการเงินที่ใช้เงินจับจ่ายใช้สอยจริงได้ สามารถสร้างกลไกกองทุนหมู่บ้านที่มีประสิทธิภาพเสมือนสถาบันการเงินประจำหมู่บ้านนั้นๆได้ ตังจะหมุนเวียนในชุมชนแบงค์ชาติก็กำหนดเงื่อนไขกติกาได้,เชื่อมโยงระบบการตลาดกับแหล่งตลาดชุมชนแบบกองทุนร้านค้าชุมชนในหมู่บ้านได้,ประสานรัฐบาลได้ มิให้แบงค์เอกชนมายุ่งเกี่ยวเป็นอิสระได้,สังกัดทางตรงกับแบงค์ชาติได้,ฟรีดอกเบี้ยแก่ประชาชนในหมู่บ้านก็ได้อีก สร้างกฎกติกาเงื่อนไขพิเศษช่วยชุมชนได้ หรือง่ายๆ เอากำไรที่ได้จากทองคำ มาแบ่งช่วยหมู่บ้านชุมชนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบพิเศษฟรีดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ สามารถใช้จ่ายผ่านกองทุนร้านค้าหมู่บ้านตนเท่านั้นหากมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเกิดขึ้น เช่นคนละครึ่งแบบนี้ ใช้จ่ายได้แค่ในตลาดชุมชน ในร้านค้ากองทุนหมู่บ้านที่ลงทะเบียนกับทางรัฐบาล ตังจะหมุนเวียนในประเทศในชุมชนทันที,ไม่มีตลาดกองทุนชุมชนก็ก่อตั้งขึ้นโดยผู้นำหมู่บ้านตำบลอำ้ภอจังหวัดสิ,ใช้เป็นตลาดกระจายสินค้าก็ได้ ตลาดแบบตลาดเทศบาลนั้นล่ะแต่ปลอดภาษี,ประชาชนสามารถเอาสินค้าตนเองทางการเกษตรมาขายอิสระเสรีได้ มีแหล่งตลาดเป็นของตนเองจริง ตลาดระดับชุมชนขนาดอำเภอ จังหวัดก็ว่าไป สร้างระบบบริการจัดการแบบตลาดเทศบาลอำเภอเมืองไป,เกษตรมีแบงค์ชาติปล่อยเงินกู้หมู่บ้านละ1ล้านบาทก่อนเพื่อเป็นปฐมชัยมี80,000หมู่บ้านชุมชนก็80,000ล้านบาท ประชาชนมากู้คนละ10,000บาทแค่นั้นก่อน,ปลูกผักสวนครัวได้,ฟรีดอกเบี้ย ชำระเงินต้นในสองปีข้างหน้า,ก็ช่วยชาวบ้านได้100คนเลยนะไม่น้อยเลย,คืนแค่เงินต้น,บางคนทำขนมเอาไปขายในตลาดชุมชนตน ปลูกพืชผักสวนครัว สัมมาอาชีพสาระพัด มาแลกเปลี่ยนค้าขายในตลาดชุมชนตน,รวมกลุ่มส่งออกได้อีก,เช่นคนละ10,000รวมกลุ่มใหญ่ ปลูกนั้นนี้ ส่งออกได้กำไรมาอาจเกินล้านบาท,เช่นกัญชาเสรี,อาจไม่ต่ำกว่า10ล้านบาทต่อรอบการผลิตแบบไทบ้าน,ฝิ่นเสรีขายให้โรงพยาบาลสกัดยาแก้ปวดเองเป็นต้น555,คือมีสาระพัดวิธีทำให้ประชาชนยืนด้วยขาตนเองได้ไม่เอาเปรียบสถานะชิงฐานะร่ำรวยของประชาชนไปแบบยกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั่วประเทศทั้งบนบกและในทะเลสองฝั่งให้ต่างชาติ,เราทำเอง ขายน้ำมันราคาลิตร1-2บาทแบบอิหร่านนะ,วิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เรากำลังเจออยู่จะเป็นเรื่องขี้หมาทันที,ปากก็บอกชาติบ้านเมืองพบเจอวิกฤติเศรษฐกิจนะ วิกฤตินี้อันตรายมากพะนะ กระทบไทยแล้วมันมาจากยุโรปทางการเงินที่ล้มสลาย มุกจะก่อสงครามตัวแทนสู่สงครามโลกอีก.
    ..รัฐบาลชุดปัจจุบันสั่งกิจการในไทยทั้งหมดลดราคาน้ำมันลงเหลือลิตรละ10บาททุกๆชนิดดูสิ มีผลในพรุ่งนี้,เพราะต้นทุนผลิตจริงๆไม่กี่บาท,เช่นนั้นจะยกเลิกสัมปทานทั้งหมดจะเอกชนไทยหรือต่างประเทศเพราะไม่เคยนำเข้าสภาสส.สว.ไทยแม้แต่เคสสัมปทานเดียวและมันคือความมั่นคงทางอธิปไตยไทยด้านพลังงานชัดเจนด้วยที่ปล้นประเทศไทย,ยึดครองประเทศไทยผ่านmouสัญญาสัมปทานนี้นานกว่าเขมรยึด11จุดอีสานใต้อีก,ตั้งแต่ปี2522-23ไทยสมควรร่ำรวยนานแล้วโดยสามารถกระจายความร่ำรวยนี้แก่ภาคประชาชนคนไทยเราทุกๆคนไทยจนถึงปัจจุบัน,มันสามารถยกเลิกฝ่ายเดียวได้ทันทีเป็นเรื่องภายในอธิปไตยความมั่นคงภายในเราชัดเจนด้วย.,mouสัมปทานบ่อน้ำมัน นานกฯอนุทินยกเลิกทั้งหมดได้เพราะไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเรา,สส.สว.เราเลย,เป็นmouสัญญาที่ทุจริตปล้นประเทศไทยด้านทรัพยากรชาติไทยผ่านกระบวนกฎหมายไทยที่ทุจริตไม่ซื่อสัตย์ซื่อตรงต่อประเทศตนเองโดยราชการไทยที่ไม่ซื่อสัตย์ดำเนินการเองให้เกิดขึ้น จะด้วยคณะครม.ชุดอดีตที่ผ่านมาก็ตามในรัฐบาลในอดีตรวมอธิบดีพลังงานต้นเรื่องด้วยที่ไม่เสนอเรื่องใหญ่โตระดับชาติภัยความมั่นคงทางด้านพลังงานที่เป็นกลไกที่แท้จริงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระบบและกระทบทุกๆมิติด้วย แต่ข้าราชการเลวชั่วไม่สุจริตจึงก่อการวางแผนสร้างเงื่อนไขสัญญาเลวชั่วนี้ขึ้นให้เป็นภัยต่อแผ่นดินไทยตนจนถูกครอบงำผูกขาดการตลาดน้ำมันสิ้น,จึงต้องโมฆะทั้งหมดทันทีที่ชอบธรรม,นายกฯอนุทินเซ็นต์อนุมัติสั่งการผ่านคณะครม.ได้ทันที,มีผลอย่างเป็นทางการในสิ้นเดือนตุลา.68นี้ก็ได้ให้อีกฝ่ายเก็บของออกจากประเทศไทยไป,อย่าหยาบจึงใช้กำลังผลักดันขับไล่ออกนอกประเทศไทยไป,นี้คือแผ่นดินไทย คืออธิปไตยไทย ต่างชาติจะมาปล้นทรัพยากรไทยไม่ใช่ทำง่ายๆแบบอดีตอีกแล้ว มันคือการปลดแอกปลดปล่อยและกอบกู้ประเทศไทยที่แท้จริง,เรื่องเขมรฮุนเซนเป็นเรื่องขี้หมาปลีกย่อย เพราะไอ้สารเลวห่านี้ก็อยากได้บ่อน้ำมันในอ่าวไทยเราอันเดียวกัน บ่อทองคำด้วย,จึงตีมูลค่ากว่า20ล้านล้านบาทได้สบายมิใช่10ล้านล้านหรอก เผลอๆ100ล้านล้านบาทเลยเพราะคือส่วนหัวบ่อใหญ่เลย.

    https://youtube.com/shorts/MPch22srWUg?si=Z3hLWLwQ9iyzg1c3
    แบงค์ชาติมีทั้งจังหวะฝ่ายดีบริหารจัดการ,มีทั้งฝ่ายไม่ดีอำนวยประโยชน์ให้แบงค์เอกชน,แต่สุดท้ายเอาเข้าจริงๆแบงค์ชาติคือจุดเปลี่ยนทั้งหมดของเศรษฐกิจไทย ,จุดเปลี่ยนทั้งหมดที่จะทำให้คนไทยร่ำรวยหรือยากจนเพราะดูแลเรื่องเงินเรื่องตังของจริง,ธุรกรรมชั่วเลวใดที่เข้าไทย จะออกจากไทย แบงค์ชาติสั่งอายัดและตรวจสอบก่อนได้ทั้งหมด ยกเว้นกรณีพวกมาเหนือกฎหมาย ใช้อำนาจเหนือกฎหมายกระทำการผ่านช่องทางออกอื่นๆ เช่นหลบหนีการตรวจสอบจากตม.ไทยได้ ขนเงินขนทองคำออกนอกประเทศผ่านเครื่องบิน บินไปฝากไปฟอกตังที่สิงคโปร์เป็นต้น หรือทั่วประเทศ โดยอาศัยชนชั้นศักดินาอำมาตย์พิเศษตน เจ้าสัวพิเศษตน ผู้ดีเก่าตน เจ้าขุนมูลนายเก่าตน มันผ่านระบบตรวจสอบได้แน่นอนจากแบงค์ชาติ แม้แต่เกาะฟอกเงินต่างประเทศแบงค์ชาติไม่รู้ไม่เชื่อมโยงระบบก็อาจเป็นไปไม่ได้,เกาะฟอกเงินอาจโอนเข้าไทยผ่านแบงค์ชาตินี้ล่ะ,เอกชนไทยและเอกชนแบงค์ต่างประเทศใดรับโอนมาแบงค์ชาติก็เห็นหมดล่ะ สั่งยึดอายัดได้หมด,แต่ความจริงเนื้องานไส้ในเราก็ไม่รู้ได้นั้นเอง. ..เงินทุนมากมายมาโจมตีไทย เข้าไทย ออกจากไทย ดูดจากไทย แบงค์ชาติรู้ภาพรวมยอดรวมต้นทางปลายทางหมดล่ะ,อำนาจทางการเงินของแบงค์ชาตินั้นเด็ดขาดได้,แต่จะเด็ดขาดกับอีลิทdeep stateนายตนเองคงยาก. ..แบงค์ชาติสามารถช่วยประชาชนคนไทยอยู่ดีมีสุขทางการเงินที่ใช้เงินจับจ่ายใช้สอยจริงได้ สามารถสร้างกลไกกองทุนหมู่บ้านที่มีประสิทธิภาพเสมือนสถาบันการเงินประจำหมู่บ้านนั้นๆได้ ตังจะหมุนเวียนในชุมชนแบงค์ชาติก็กำหนดเงื่อนไขกติกาได้,เชื่อมโยงระบบการตลาดกับแหล่งตลาดชุมชนแบบกองทุนร้านค้าชุมชนในหมู่บ้านได้,ประสานรัฐบาลได้ มิให้แบงค์เอกชนมายุ่งเกี่ยวเป็นอิสระได้,สังกัดทางตรงกับแบงค์ชาติได้,ฟรีดอกเบี้ยแก่ประชาชนในหมู่บ้านก็ได้อีก สร้างกฎกติกาเงื่อนไขพิเศษช่วยชุมชนได้ หรือง่ายๆ เอากำไรที่ได้จากทองคำ มาแบ่งช่วยหมู่บ้านชุมชนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนแบบพิเศษฟรีดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ สามารถใช้จ่ายผ่านกองทุนร้านค้าหมู่บ้านตนเท่านั้นหากมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเกิดขึ้น เช่นคนละครึ่งแบบนี้ ใช้จ่ายได้แค่ในตลาดชุมชน ในร้านค้ากองทุนหมู่บ้านที่ลงทะเบียนกับทางรัฐบาล ตังจะหมุนเวียนในประเทศในชุมชนทันที,ไม่มีตลาดกองทุนชุมชนก็ก่อตั้งขึ้นโดยผู้นำหมู่บ้านตำบลอำ้ภอจังหวัดสิ,ใช้เป็นตลาดกระจายสินค้าก็ได้ ตลาดแบบตลาดเทศบาลนั้นล่ะแต่ปลอดภาษี,ประชาชนสามารถเอาสินค้าตนเองทางการเกษตรมาขายอิสระเสรีได้ มีแหล่งตลาดเป็นของตนเองจริง ตลาดระดับชุมชนขนาดอำเภอ จังหวัดก็ว่าไป สร้างระบบบริการจัดการแบบตลาดเทศบาลอำเภอเมืองไป,เกษตรมีแบงค์ชาติปล่อยเงินกู้หมู่บ้านละ1ล้านบาทก่อนเพื่อเป็นปฐมชัยมี80,000หมู่บ้านชุมชนก็80,000ล้านบาท ประชาชนมากู้คนละ10,000บาทแค่นั้นก่อน,ปลูกผักสวนครัวได้,ฟรีดอกเบี้ย ชำระเงินต้นในสองปีข้างหน้า,ก็ช่วยชาวบ้านได้100คนเลยนะไม่น้อยเลย,คืนแค่เงินต้น,บางคนทำขนมเอาไปขายในตลาดชุมชนตน ปลูกพืชผักสวนครัว สัมมาอาชีพสาระพัด มาแลกเปลี่ยนค้าขายในตลาดชุมชนตน,รวมกลุ่มส่งออกได้อีก,เช่นคนละ10,000รวมกลุ่มใหญ่ ปลูกนั้นนี้ ส่งออกได้กำไรมาอาจเกินล้านบาท,เช่นกัญชาเสรี,อาจไม่ต่ำกว่า10ล้านบาทต่อรอบการผลิตแบบไทบ้าน,ฝิ่นเสรีขายให้โรงพยาบาลสกัดยาแก้ปวดเองเป็นต้น555,คือมีสาระพัดวิธีทำให้ประชาชนยืนด้วยขาตนเองได้ไม่เอาเปรียบสถานะชิงฐานะร่ำรวยของประชาชนไปแบบยกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั่วประเทศทั้งบนบกและในทะเลสองฝั่งให้ต่างชาติ,เราทำเอง ขายน้ำมันราคาลิตร1-2บาทแบบอิหร่านนะ,วิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เรากำลังเจออยู่จะเป็นเรื่องขี้หมาทันที,ปากก็บอกชาติบ้านเมืองพบเจอวิกฤติเศรษฐกิจนะ วิกฤตินี้อันตรายมากพะนะ กระทบไทยแล้วมันมาจากยุโรปทางการเงินที่ล้มสลาย มุกจะก่อสงครามตัวแทนสู่สงครามโลกอีก. ..รัฐบาลชุดปัจจุบันสั่งกิจการในไทยทั้งหมดลดราคาน้ำมันลงเหลือลิตรละ10บาททุกๆชนิดดูสิ มีผลในพรุ่งนี้,เพราะต้นทุนผลิตจริงๆไม่กี่บาท,เช่นนั้นจะยกเลิกสัมปทานทั้งหมดจะเอกชนไทยหรือต่างประเทศเพราะไม่เคยนำเข้าสภาสส.สว.ไทยแม้แต่เคสสัมปทานเดียวและมันคือความมั่นคงทางอธิปไตยไทยด้านพลังงานชัดเจนด้วยที่ปล้นประเทศไทย,ยึดครองประเทศไทยผ่านmouสัญญาสัมปทานนี้นานกว่าเขมรยึด11จุดอีสานใต้อีก,ตั้งแต่ปี2522-23ไทยสมควรร่ำรวยนานแล้วโดยสามารถกระจายความร่ำรวยนี้แก่ภาคประชาชนคนไทยเราทุกๆคนไทยจนถึงปัจจุบัน,มันสามารถยกเลิกฝ่ายเดียวได้ทันทีเป็นเรื่องภายในอธิปไตยความมั่นคงภายในเราชัดเจนด้วย.,mouสัมปทานบ่อน้ำมัน นานกฯอนุทินยกเลิกทั้งหมดได้เพราะไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเรา,สส.สว.เราเลย,เป็นmouสัญญาที่ทุจริตปล้นประเทศไทยด้านทรัพยากรชาติไทยผ่านกระบวนกฎหมายไทยที่ทุจริตไม่ซื่อสัตย์ซื่อตรงต่อประเทศตนเองโดยราชการไทยที่ไม่ซื่อสัตย์ดำเนินการเองให้เกิดขึ้น จะด้วยคณะครม.ชุดอดีตที่ผ่านมาก็ตามในรัฐบาลในอดีตรวมอธิบดีพลังงานต้นเรื่องด้วยที่ไม่เสนอเรื่องใหญ่โตระดับชาติภัยความมั่นคงทางด้านพลังงานที่เป็นกลไกที่แท้จริงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระบบและกระทบทุกๆมิติด้วย แต่ข้าราชการเลวชั่วไม่สุจริตจึงก่อการวางแผนสร้างเงื่อนไขสัญญาเลวชั่วนี้ขึ้นให้เป็นภัยต่อแผ่นดินไทยตนจนถูกครอบงำผูกขาดการตลาดน้ำมันสิ้น,จึงต้องโมฆะทั้งหมดทันทีที่ชอบธรรม,นายกฯอนุทินเซ็นต์อนุมัติสั่งการผ่านคณะครม.ได้ทันที,มีผลอย่างเป็นทางการในสิ้นเดือนตุลา.68นี้ก็ได้ให้อีกฝ่ายเก็บของออกจากประเทศไทยไป,อย่าหยาบจึงใช้กำลังผลักดันขับไล่ออกนอกประเทศไทยไป,นี้คือแผ่นดินไทย คืออธิปไตยไทย ต่างชาติจะมาปล้นทรัพยากรไทยไม่ใช่ทำง่ายๆแบบอดีตอีกแล้ว มันคือการปลดแอกปลดปล่อยและกอบกู้ประเทศไทยที่แท้จริง,เรื่องเขมรฮุนเซนเป็นเรื่องขี้หมาปลีกย่อย เพราะไอ้สารเลวห่านี้ก็อยากได้บ่อน้ำมันในอ่าวไทยเราอันเดียวกัน บ่อทองคำด้วย,จึงตีมูลค่ากว่า20ล้านล้านบาทได้สบายมิใช่10ล้านล้านหรอก เผลอๆ100ล้านล้านบาทเลยเพราะคือส่วนหัวบ่อใหญ่เลย. https://youtube.com/shorts/MPch22srWUg?si=Z3hLWLwQ9iyzg1c3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ประชาชนดีหรือคนดีๆในสังคมไทยเราจะมีลักษณะนี้เกือบทุกๆคน,ซื่อสัตย์สุจริตแสวงหาไม่ฆ่าไม่ปล้นใครทำลายใครเพื่อดูแลชีวิตคนข้างหลังก็มาก,วัยรุ่น นักเรียนนักศึกษายุคต่างๆน่าจะซึ้ง หลายคนหาตังเล่าเรียนเองบวกกู้หนี้ยืมสินเล่าเรียนเพื่อได้ทำงานดีๆ,แต่ระบบอุปถัมภ์ในไทยและใต้โต๊ะซื้อซีซื้อตำแหน่งเด็กเส้นเด็กฝากเด็กมหาลัยกูมรึงรุ่นน้องใครมันรุ่นพี่ใครมรึงมากล้นเต็มระบบ,โอกาสคนอีก คลิปนี้บอกนัยยะอดีตผู้คนมากล้น อนาคตอาจกลับไปแบบนี้ทั้งประเทศก็ได้ อาทิภัยพิบัติธรรมชาติเต็มประเทศ น้ำท่วน แผ่นดินไหว ตึกถล่ม ลาวาใต้ดินตามรอยเลื่อนปะทุขึ้นมา ภาคเหนือไหลลงภาคกลาง อีสานบนไหลลงอีสานกลางสู่ใต้และตลอดแนวริมโขง,อาหารข้าปลาเสียหาย มีตังมากมายก็หาซื้อลำบากไม่ได้,ขาดแคลนไม่หมด ยิ่งน้ำสะอาดหลังภัยพิบัติอีกหรือขณะเจอแบบน้ำท่วม,ใครขุดอุโมงค์ใต้ดินก็ใช่จะรอด แผ่นดินไหวอาจบีดทำลายทางออกตายคาอุโมงค์ก็ได้ ระบบหายใจเสียหายขาดออกซิเจนไฟฟ้าไม่ทำงานแม้มีเครื่องช่วยหายใจก็ไม่รอดออกมาข้างบนไม่ได้ติดอุโมงค์นั้นล่ะ,แบบอุโมงค์รถไไฟ้าใต้ดินก็ด้วย,ปลอดภัยที่สุดอยู่ผิวดินถ้าไม่มีสงครามWWW3นิวเคลียร์นะ อาหารยิ่งอดอยากขาดแคลน1,000เท่า,ไม่รวมซอมบี้กลายพันธุ์จากวัคซีนโควิดอีก,วิกฤติยุโรปพังจากเจ้าสัวยุโรปเครือข่ายแม่ลูกมันก็โดนถึงเอเชียอาเชียนแล้ว,ตลาดการเงินพังแบบทรัมป์พังไม่มีตังจ่ายหนี้จึงรีดภาษีนำเข้าทั่วโลกไปจ่ายหนี้,
    ..จะต่างชาติแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานไทย ทุกๆคนชาวบ้านไทบ้านที่ยากจนจะไม่มาค้าแรงงานเป็นทาสรับใช้ใครหรอก,เพราะโลกนี้ถูกออกแบบมาอย่างคนชั่วเลวต้องการปกครอง คนดีคนซื่อจะถูกทำให้มีสถานะแบบนี้หมด,เช่น มีบ่อน้ำมันเต็มประเทศ ก็ไม่บริหารจัดการทรัพยากรน้ำมันให้คนไทยร่ำรวยถ้วนหน้า พัฒนาคนพัฒนาทรัพยากรชาติมุ่งความสุขแก่คนในชาติตนแต่รัฐฐะในอดีตเลวชั่วกลับมุ่งประโยชน์มุ่งความสุขให้คนชาติอื่นแทนชาติไทยตนเอง,ทรัพยากรแบบน้ำมันแค่ขุดเจาะเอง ตั้งบริษัทใหม่รับผิดชอบแทน ปตท. ตั้งกระทรวงใหม่พอขุดเจาะเองและรองรับที่โมฆะสัญญาใดๆที่ตกลงกับอีกฝ่าย มันสามารถคืนความยุติธรรมแต่คนไทยได้หมดล่ะ,แต่เพราะผู้นำเรากากกระจอกอ่อนแอเกินไป คนไทยจึงลำบากยากเย็นยากจนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา,บัตรคนจนก็บอกสถานะได้แล้วว่า คือบัตรคนจน และไม่ช่วยเหลืออะไรจริงห่าเหวเขาให้หยัดยืนพึ่งพาตนเองได้,ปล่อยวงเงินยืมแก่คนจนถือบัตรคนจนก็มีมั้ยให้เขานำไปประกอบอาชีพได้ เงินลงทุนปลูกผักสวนครัวขาย กัญชาเสรีส่งโรงพยาบาลเป็นต้น ไม่มีโครงการอะไรช่วยเหลือคนไทยจริงจังอะไรเลย,เลี้ยงพอกันตาย แต่มิให้เติบโตเพื่อปกครองง่าย,สไตล์วิถีปกครองที่เลวและล้มเหลว,ยุคนี้ ต้องวงเงินคนละ50,000บาทยืมได้เลยพร้อมในบัตร,กรอกวัตถุประสงค์การใช้ อนุมัติทันทีเขานำออกมาเตรียมวัตถุดิบอุปกรณ์ได้ค้าขายเลย,ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ผสมผสานพอเพียงก็ทำไป ขายของรถเข็ญก็ทำไป ซื้อผักผลไม้ทุเรียนขนุนมะพร้าวน้ำหอมผลไม้ปั่นชาไข่มุกก็ทำไป,จากนั้นอาจอัดวงเงินเพิ่มอีก10,000ฉุกเฉินให้เขายามจำเป็นได้,จากนั้นสามารถประเมอนผลงานได้ในอีก1-2ปีเสมือนวิจัยในตัว,แต่รัฐฐะกลับไม่ใส่ใจห่าอะไรเลย,จาก15ล้านคน คนละ10,000บาทก็ยังดีให้เขา ก็150,000ล้านบาทเอง,ทีจะช่วยเจ้าสัวนายทุนคนค้าส่วออกจากภาษีทรัมป์ยังจะช่วยพวกมันฟรีๆจากตังคลังหลวงชาติถึง200,000ล้านบาทเตรียมตังช่วยเหลือมันพะนะ,ตอนมันกำไรขึ้นท็อปเศรษฐี100อันดับแรก มันไม่เห็นส่งตังคืนเข้าคลังหลวงคืนประชาชนคนไทยจากภาษีที่จ่ายช่วยพวกมัน,ค่าล็อบบี้ยีสผีบ้านั้นอีกกว่า100ล้านบาทเสียไปฟรีๆนำมาช่วยปล่อยยืมให้คนถือบัตรคนจนอาจช่วยเหลือเขาได้หลายคนเลย,นี้คือการปกครองที่เป็นระบบปกครองที่พังและล้มเหลว.
    ..
    ..https://youtube.com/shorts/1Cr5nP5pkY0?si=GiMeKjXoH7vbhyUG
    ..ประชาชนดีหรือคนดีๆในสังคมไทยเราจะมีลักษณะนี้เกือบทุกๆคน,ซื่อสัตย์สุจริตแสวงหาไม่ฆ่าไม่ปล้นใครทำลายใครเพื่อดูแลชีวิตคนข้างหลังก็มาก,วัยรุ่น นักเรียนนักศึกษายุคต่างๆน่าจะซึ้ง หลายคนหาตังเล่าเรียนเองบวกกู้หนี้ยืมสินเล่าเรียนเพื่อได้ทำงานดีๆ,แต่ระบบอุปถัมภ์ในไทยและใต้โต๊ะซื้อซีซื้อตำแหน่งเด็กเส้นเด็กฝากเด็กมหาลัยกูมรึงรุ่นน้องใครมันรุ่นพี่ใครมรึงมากล้นเต็มระบบ,โอกาสคนอีก คลิปนี้บอกนัยยะอดีตผู้คนมากล้น อนาคตอาจกลับไปแบบนี้ทั้งประเทศก็ได้ อาทิภัยพิบัติธรรมชาติเต็มประเทศ น้ำท่วน แผ่นดินไหว ตึกถล่ม ลาวาใต้ดินตามรอยเลื่อนปะทุขึ้นมา ภาคเหนือไหลลงภาคกลาง อีสานบนไหลลงอีสานกลางสู่ใต้และตลอดแนวริมโขง,อาหารข้าปลาเสียหาย มีตังมากมายก็หาซื้อลำบากไม่ได้,ขาดแคลนไม่หมด ยิ่งน้ำสะอาดหลังภัยพิบัติอีกหรือขณะเจอแบบน้ำท่วม,ใครขุดอุโมงค์ใต้ดินก็ใช่จะรอด แผ่นดินไหวอาจบีดทำลายทางออกตายคาอุโมงค์ก็ได้ ระบบหายใจเสียหายขาดออกซิเจนไฟฟ้าไม่ทำงานแม้มีเครื่องช่วยหายใจก็ไม่รอดออกมาข้างบนไม่ได้ติดอุโมงค์นั้นล่ะ,แบบอุโมงค์รถไไฟ้าใต้ดินก็ด้วย,ปลอดภัยที่สุดอยู่ผิวดินถ้าไม่มีสงครามWWW3นิวเคลียร์นะ อาหารยิ่งอดอยากขาดแคลน1,000เท่า,ไม่รวมซอมบี้กลายพันธุ์จากวัคซีนโควิดอีก,วิกฤติยุโรปพังจากเจ้าสัวยุโรปเครือข่ายแม่ลูกมันก็โดนถึงเอเชียอาเชียนแล้ว,ตลาดการเงินพังแบบทรัมป์พังไม่มีตังจ่ายหนี้จึงรีดภาษีนำเข้าทั่วโลกไปจ่ายหนี้, ..จะต่างชาติแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานไทย ทุกๆคนชาวบ้านไทบ้านที่ยากจนจะไม่มาค้าแรงงานเป็นทาสรับใช้ใครหรอก,เพราะโลกนี้ถูกออกแบบมาอย่างคนชั่วเลวต้องการปกครอง คนดีคนซื่อจะถูกทำให้มีสถานะแบบนี้หมด,เช่น มีบ่อน้ำมันเต็มประเทศ ก็ไม่บริหารจัดการทรัพยากรน้ำมันให้คนไทยร่ำรวยถ้วนหน้า พัฒนาคนพัฒนาทรัพยากรชาติมุ่งความสุขแก่คนในชาติตนแต่รัฐฐะในอดีตเลวชั่วกลับมุ่งประโยชน์มุ่งความสุขให้คนชาติอื่นแทนชาติไทยตนเอง,ทรัพยากรแบบน้ำมันแค่ขุดเจาะเอง ตั้งบริษัทใหม่รับผิดชอบแทน ปตท. ตั้งกระทรวงใหม่พอขุดเจาะเองและรองรับที่โมฆะสัญญาใดๆที่ตกลงกับอีกฝ่าย มันสามารถคืนความยุติธรรมแต่คนไทยได้หมดล่ะ,แต่เพราะผู้นำเรากากกระจอกอ่อนแอเกินไป คนไทยจึงลำบากยากเย็นยากจนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา,บัตรคนจนก็บอกสถานะได้แล้วว่า คือบัตรคนจน และไม่ช่วยเหลืออะไรจริงห่าเหวเขาให้หยัดยืนพึ่งพาตนเองได้,ปล่อยวงเงินยืมแก่คนจนถือบัตรคนจนก็มีมั้ยให้เขานำไปประกอบอาชีพได้ เงินลงทุนปลูกผักสวนครัวขาย กัญชาเสรีส่งโรงพยาบาลเป็นต้น ไม่มีโครงการอะไรช่วยเหลือคนไทยจริงจังอะไรเลย,เลี้ยงพอกันตาย แต่มิให้เติบโตเพื่อปกครองง่าย,สไตล์วิถีปกครองที่เลวและล้มเหลว,ยุคนี้ ต้องวงเงินคนละ50,000บาทยืมได้เลยพร้อมในบัตร,กรอกวัตถุประสงค์การใช้ อนุมัติทันทีเขานำออกมาเตรียมวัตถุดิบอุปกรณ์ได้ค้าขายเลย,ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ผสมผสานพอเพียงก็ทำไป ขายของรถเข็ญก็ทำไป ซื้อผักผลไม้ทุเรียนขนุนมะพร้าวน้ำหอมผลไม้ปั่นชาไข่มุกก็ทำไป,จากนั้นอาจอัดวงเงินเพิ่มอีก10,000ฉุกเฉินให้เขายามจำเป็นได้,จากนั้นสามารถประเมอนผลงานได้ในอีก1-2ปีเสมือนวิจัยในตัว,แต่รัฐฐะกลับไม่ใส่ใจห่าอะไรเลย,จาก15ล้านคน คนละ10,000บาทก็ยังดีให้เขา ก็150,000ล้านบาทเอง,ทีจะช่วยเจ้าสัวนายทุนคนค้าส่วออกจากภาษีทรัมป์ยังจะช่วยพวกมันฟรีๆจากตังคลังหลวงชาติถึง200,000ล้านบาทเตรียมตังช่วยเหลือมันพะนะ,ตอนมันกำไรขึ้นท็อปเศรษฐี100อันดับแรก มันไม่เห็นส่งตังคืนเข้าคลังหลวงคืนประชาชนคนไทยจากภาษีที่จ่ายช่วยพวกมัน,ค่าล็อบบี้ยีสผีบ้านั้นอีกกว่า100ล้านบาทเสียไปฟรีๆนำมาช่วยปล่อยยืมให้คนถือบัตรคนจนอาจช่วยเหลือเขาได้หลายคนเลย,นี้คือการปกครองที่เป็นระบบปกครองที่พังและล้มเหลว. .. ..https://youtube.com/shorts/1Cr5nP5pkY0?si=GiMeKjXoH7vbhyUG
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 848 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัยที่ผมยังเด็ก...

    ลมหนาวจางๆ เริ่มพัดมาแล้ว...
    ระดับนํ้าในแม่นํ้าโขงเริ่มลดลง พอให้ชาวบ้านที่อยู่ติดริมนํ้าได้เริ่มลงมือปลูกผักสวนครัวไว้ใช้ในบ้าน

    เมื่อลมหนาว เริ่มพัดมา ก็หมายความว่า ฤดูฝนกำลังจะหมดไป
    งานบุญเดือน 11 กำลังมาถึง..

    งานบุญออกพรรษา...

    สิ่งที่มีมาคู่กับงานออกพรรษาคือ
    งานบุญแข่งเรือ

    ช่วงก่อนจะใกล้งานบุญแข่งเรือสักหนึ่งเดือน...
    ช่วงเย็นๆ ที่ลำนํ้าโขงจะปรากฎเสียงกระตุ้นเร้าเป็นระยะๆ ดังพร้อมๆ กับเสียงนกหวีด ให้ออกแรง พายจํ้า
    เรือแข่งหลายสิบฝีพาย หลายๆลำมักจะใช้แม่นํ้าโขงเป็นสนามฝึกซ้อม

    หน้าต่างฝั่งนํ้าโขงของบ้านผมนั้น เป็นที่ที่ผมปีนขึ้นไปนั่งได้อย่างสะดวก แค่เหยียบเก้าอี้ขึ้นไป ก็นั่งขอบหน้าต่างได้แล้ว

    ปกติแล้วผมมักจะชอบนั่งดูแม่นํ้าอยู่ริมหน้าต่างที่บ้านเก่า และบ่อยครั้งก็อุตริขึ้นไปนั่งอ่านนิยายที่ขอบหน้าต่าง

    คราวที่ กำลังง่วนกับการละเล่น พอได้ยินเสียงนกหวีดให้จังหวะฝีพาย ผมจะทิ้งทุกอย่างวิ่งมาเกาะหน้าต่างดู ฝีพายที่ขะมักเขม้น จ้วงพายลงในนํ้า ในจังหวะที่พร้อมเพรียงกัน

    ฝีพายทั้งหลายต่างพร้อมใจกันมาซ้อมทุกเช้าเย็น...

    จวบจนวันบุญแข่งเรือ และงานวันออกพรรษา มาถึง....

    ถนนสุนทรวิจิตร หน้าบ้านผมในสมัย40กว่าปีก่อนนั้น...
    นับได้ว่าเป็นถนนเศรษฐกิจเลยทีเดียว ทั้งรถราวิ่งกันขวักไขว่ ร้านอาหาร บาร์ ก็ผุดเป็นดอกเห็ดยามหน้าฝน
    เวลามีงานบุญต่างๆ ขบวนแห่ทั้งหลาย ก็ต้องผ่านเส้นนี้ทั้งนั้น

    วันออกพรรษา ที่เป็นวันเต็ง คือวันขึ้น15 คํ่าเดือน11 .....

    ลานหญ้าริมเขื่อนฝั่งโขง หน้าบ้านพักผู้พิพากษา ยาวไปถึงสถานีตำรวจ และเลยไปถึงโรงเรียนสุนทรวิจิตร
    จะเต็มไปด้วยซุ้มต่างๆของแต่ละอำเภอ แต่ละท้องถิ่น พากันมาออกร้าน ทั้งไม้ไผ่ ทางมะพร้าว ไพหญ้า ต่างถูกใช้เป็นวัสดุหลักในการทำโครงสร้างรวมทั้งการตกแต่ง ที่เรียบง่าย แต่น่าสนใจเหลือเกินสำหรับเด็กในวัย6-7ขวบอย่างผม

    ตั้งแต่เช้า....
    ผู้คนเริ่มทะยอยกัน ออกมาเดินเท้าบนถนน ถนนหน้าบ้านผมคราครํ่าไปด้วยผู้คน

    แม่บ้านที่เลี้ยงผมในยามนั้น
    แกชอบออกมานั่งดู ผู้คนเดินไปมา ผมซึ่งยังเป็นเด็กมากในขณะนั้นกลับรู้สึกว่า ไม่เห็นจะน่าสนใจอะไรเลย
    สู้ลูกโป่งสีสวยในมือพ่อค้าไม่ได้

    หรือเสาไม้ไผ่ที่พ่อค้าแบกพาดไว้บนไหล่ถูกเจาะรู รอบๆเป็นระยะๆ เอาไว้เสียบเครื่องเล่น ของเล่น นานาชนิด...

    เครื่องบินที่แพนหางเป็นกระดาษ ส่วนหัว มีเชือกป่านผูกกับปลายไม้ที่เป็นก้านจับ พอแกว่งให้ปะทะอากาศก็จะมีเสียงดังวี้ด ๆ

    ยังมี "จั๊กจั่น" ที่เป็นกล่องกระดาษทรงกระบอกเล็กๆ ฝั่งหนึ่งเจาะรูมีเชือกร้อยห้อยติดกับไม้ พอเหวี่ยงกล่องกระดาษที่ปลายมันจะเกิดเสียงแหลมๆคล้ายจั๊กจั่น

    และที่ลืมไม่ได้...
    ป๋องแป๋งกระดาษแก้ว..
    ที่หน้าของตัวป๋องแป๋งขึงด้วยการะดาษแก้วหลากสี
    ตัวป๋องแป๋งมีลักษณะคล้ายกลองขนาดเล็ก ขึงหน้าด้วยกระดาษแก้วสี ด้านข้างมีเชือกป่านร้อยไว้ทั้ง2ด้านปลายด้านหนึ่ง มีดินเหนียวแห้งเป็นตุ้มถ่วง พอแกว่งป๋องแป๋ง ดินเหนียวนี้ก็จะไปปะทะหน้าป๋องแป๋ง เกิดเสียงกังวานขึ้น
    เตี่ยผมเคย ช่วยซ่อมป๋องแป๋งนี้ในยามที่หน้ากระดาษแก้วมันหย่อน
    แกเอาผ้าชุบนํ้าพอหมาดๆ แล้วเช็ดหน้ากระดาษแก้วไวๆ น่าประหลาดที่มันกลับมาตึงและดังกังวานได้อีกครั้ง

    แกบอกว่า กระดาษแก้วพอถูกนํ้าจะตึงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ทำบ่อยๆก็ไม่ไหว มันจะหมดสภาพไป...
    .
    .
    .
    ฝูงชนยังคงคราครํ่า บนถนน...
    แม่บ้านผมก็ยังคงนั่งมองผู้คนอยู่อย่างนั้น...

    มาบัดนี้ ด้วยที่ผ่านวัยนั้นมา ผมเข้าใจแล้วว่า
    แกคงมองดูหนุ่มสาวที่มาด้วยกัน บางครั้งคงแอบมองหนุ่มๆที่มาคนเดียว หรือมาร่วมกลุ่มกัน นั่นก็คงทำให้แกมีความสุขเล็กๆได้
    .
    .
    พอตกบ่าย...
    หลังจากการแข่งเรือในท้องนํ้าที่กว้างใหญ่ผ่านไป
    มักจะมีเรือเล็กติดเครื่องยนต์ วิ่งไปมาใกล้ตลิ่ง
    หนุ่มๆบนเรือ บ้างก็เปลื้องผ้าท่อนบน บ้างก็มีสภาพมึนเมา บ่อยครั้งที่จะมีคำร้องกลอนพื้นบ้าน พร้อมเสียงกลองเสียงเคาะขวด ลอยตามเรือมาเป็นระยะๆ
    สาวบ้านไหนอยู่ในระยะสายตา มักจะโดนหนุ่มๆขี้เมาทั้งหลายในเรือลำจิ๋ว แซวไปซะทุกครั้ง และแน่นอน คำร้องแซว นั้น อยู่ในระดับ หยาบถึงหยาบมาก
    .
    .
    ขบวนแห่ปราสาทผึ้งเริ่มแล้ว
    การตกแต่ง ริ้วขบวนเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ทั้งดนตรีปี่กลอง ผู้ร่วมขบวนนั้นมีมากมาย และมีทุกวัย
    บางคราวก็จะเห็น ตา หรือ ยายแก่ๆ ฟ้อนเข้าจังหวะ แต่จังหวะสับขานั้นเต็มไปด้วยควมสับสนอาจจะเพราะฤทธิ์ 40 ดีกรี ที่ดวดเข้าไปเต็มคราบ ถึงกับถอยหน้าถอยหลัง ไปไม่ถึงไหน
    ร้อนถึงเพื่อน ในขบวนต้องช่วยกันรุนหลังให้ตามขบวนไป
    บ้างก็หมดสภาพขนาดเพื่อนๆ ต้องหิ้วปีกตามขบวนกันเลย ก็ยังเคยมีให้เห็น
    .
    .
    งานบุญแบบนี้ สิ่งที่เด็กๆอย่างผมตั้งตารอ ก็คงจะหนีไม่พ้น ขนม นม เนย ที่วางขายกัน

    ของกิน ของซื้อมากมายเหลือเกินในงานออกร้าน

    รถเข็นขายลูกชิ้นปิ้ง
    ซึ่งผมและเด็กอีกหลายๆคนมักจะทำคล้ายๆกัน คือ ใช้ไม้ที่มีลูกชิ้นนั้น จิ้มนํ้าจิ้ม และดูดกินนํ้าจิ้มนั้น เรื่อยๆก่อน เหมือนกลัวว่า ถ้ารีบกินลูกชิ้นนั้น จะหมดลงไวเกินไป อีกมือที่ว่างก็ล้วงไปที่ถุงพลาสติกที่มีกระหลํ่าปลีหั่น เอาออกมาจิ้มนํ้าจิ้มกินอย่างเอร็ดอร่อย
    จนควรแก่เวลา ถึงได้บรรเลงลูกชิ้นที่เหลือไว้ ลงท้อง

    รถเข็นขายซาละเปา
    ซาละเปาร้อนๆ หอมฉุยทุกครั้งที่เปิดฝาซึ้งที่ใช้นึ่งซาละเปา ยังมีขนมปังที่กินกับไอศครีมตัก พ่อค้านำมาประยุกต์ ใส่ไส้สังขยาลงไป แล้วเอามานึ่งพร้อมซาละเปา ก็อร่อยไปอีกแบบ

    และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานออกพรรษาสมัยนั้น คือ ลูกเดือยต้ม

    มันจะถูกแบ่งเป็นกำๆ กำหนึ่งมีหลายก้าน ปลายก้านจะมีลูกเดือยอยู่แต่มันถูกหุ้มด้วยเปลือกแข็งๆ ต้องแทะเปลือกออกถึงจะได้ลิ้มรส ไอ้ลูกเดือยนี่แหละทำให้คนกวาดถนนออกมาบ่นทุกครั้งที่จบงาน เพราะมันถูกทิ้งเกลื่อนและเปลือกมีขนาดเล็ก ทำให้ยากต่อการเก็บกวาด

    งานดำเนินไปค่อนคืน...
    งานเลี้ยงก็ถึงเวลาต้องเลิกรา...
    .
    .
    .
    หลายสิบปีผ่านไป...
    งานออกพรรษา เปลี่ยนไปแล้ว...

    ความเรียบง่ายแฝงเสน่ห์บ้านๆถูกแทนที่ด้วยความยิ่งใหญ่ จ้าแจ่ม ของความทันสมัยที่ถูกใส่เข้ามาแทนที่

    ของเล่นในวัยเด็กที่พ่อค้าแบกท่อนไม้ไผ่เจาะรู ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว

    ของกินที่แสนอร่อยในวัยเด็กถูกแทนที่ด้วยของกินหน้าตาแปลกใหม่ และอาจจะอร่อยกว่าของเดิม

    ลูกเดือยต้ม แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วในงานบุญออกพรรษา

    พร้อมๆกับที่ หนุ่มวัยรุ่นขี้เมาล่องเรือแซวสาว...
    ก็หายไปจากท้องนํ้า....
    .
    .
    .
    มีเพียงความทรงจำสีจางๆ...
    ภาพเก่าๆ ให้ระลึกถึง...

    ก็ทำให้ ใครบางคน...
    สถานที่บางสถานที่...
    ที่เคยสลายไปแล้วนั้น
    กลับมามีชีวิตอีกครั้ง...
    แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ก็ตาม....
    .
    .
    .
    ***ปล. ขอบคุณท่านเจ้าของภาพที่ผมนำมาใช้ประกอบบทความครับ

    ***ออกพรรษา
    เผยแพร่ครั้งแรก เมื่อ 7 ตุลาคม 2560 ที่เพจ ล ม ห ว น
    สมัยที่ผมยังเด็ก... ลมหนาวจางๆ เริ่มพัดมาแล้ว... ระดับนํ้าในแม่นํ้าโขงเริ่มลดลง พอให้ชาวบ้านที่อยู่ติดริมนํ้าได้เริ่มลงมือปลูกผักสวนครัวไว้ใช้ในบ้าน เมื่อลมหนาว เริ่มพัดมา ก็หมายความว่า ฤดูฝนกำลังจะหมดไป งานบุญเดือน 11 กำลังมาถึง.. งานบุญออกพรรษา... สิ่งที่มีมาคู่กับงานออกพรรษาคือ งานบุญแข่งเรือ ช่วงก่อนจะใกล้งานบุญแข่งเรือสักหนึ่งเดือน... ช่วงเย็นๆ ที่ลำนํ้าโขงจะปรากฎเสียงกระตุ้นเร้าเป็นระยะๆ ดังพร้อมๆ กับเสียงนกหวีด ให้ออกแรง พายจํ้า เรือแข่งหลายสิบฝีพาย หลายๆลำมักจะใช้แม่นํ้าโขงเป็นสนามฝึกซ้อม หน้าต่างฝั่งนํ้าโขงของบ้านผมนั้น เป็นที่ที่ผมปีนขึ้นไปนั่งได้อย่างสะดวก แค่เหยียบเก้าอี้ขึ้นไป ก็นั่งขอบหน้าต่างได้แล้ว ปกติแล้วผมมักจะชอบนั่งดูแม่นํ้าอยู่ริมหน้าต่างที่บ้านเก่า และบ่อยครั้งก็อุตริขึ้นไปนั่งอ่านนิยายที่ขอบหน้าต่าง คราวที่ กำลังง่วนกับการละเล่น พอได้ยินเสียงนกหวีดให้จังหวะฝีพาย ผมจะทิ้งทุกอย่างวิ่งมาเกาะหน้าต่างดู ฝีพายที่ขะมักเขม้น จ้วงพายลงในนํ้า ในจังหวะที่พร้อมเพรียงกัน ฝีพายทั้งหลายต่างพร้อมใจกันมาซ้อมทุกเช้าเย็น... จวบจนวันบุญแข่งเรือ และงานวันออกพรรษา มาถึง.... ถนนสุนทรวิจิตร หน้าบ้านผมในสมัย40กว่าปีก่อนนั้น... นับได้ว่าเป็นถนนเศรษฐกิจเลยทีเดียว ทั้งรถราวิ่งกันขวักไขว่ ร้านอาหาร บาร์ ก็ผุดเป็นดอกเห็ดยามหน้าฝน เวลามีงานบุญต่างๆ ขบวนแห่ทั้งหลาย ก็ต้องผ่านเส้นนี้ทั้งนั้น วันออกพรรษา ที่เป็นวันเต็ง คือวันขึ้น15 คํ่าเดือน11 ..... ลานหญ้าริมเขื่อนฝั่งโขง หน้าบ้านพักผู้พิพากษา ยาวไปถึงสถานีตำรวจ และเลยไปถึงโรงเรียนสุนทรวิจิตร จะเต็มไปด้วยซุ้มต่างๆของแต่ละอำเภอ แต่ละท้องถิ่น พากันมาออกร้าน ทั้งไม้ไผ่ ทางมะพร้าว ไพหญ้า ต่างถูกใช้เป็นวัสดุหลักในการทำโครงสร้างรวมทั้งการตกแต่ง ที่เรียบง่าย แต่น่าสนใจเหลือเกินสำหรับเด็กในวัย6-7ขวบอย่างผม ตั้งแต่เช้า.... ผู้คนเริ่มทะยอยกัน ออกมาเดินเท้าบนถนน ถนนหน้าบ้านผมคราครํ่าไปด้วยผู้คน แม่บ้านที่เลี้ยงผมในยามนั้น แกชอบออกมานั่งดู ผู้คนเดินไปมา ผมซึ่งยังเป็นเด็กมากในขณะนั้นกลับรู้สึกว่า ไม่เห็นจะน่าสนใจอะไรเลย สู้ลูกโป่งสีสวยในมือพ่อค้าไม่ได้ หรือเสาไม้ไผ่ที่พ่อค้าแบกพาดไว้บนไหล่ถูกเจาะรู รอบๆเป็นระยะๆ เอาไว้เสียบเครื่องเล่น ของเล่น นานาชนิด... เครื่องบินที่แพนหางเป็นกระดาษ ส่วนหัว มีเชือกป่านผูกกับปลายไม้ที่เป็นก้านจับ พอแกว่งให้ปะทะอากาศก็จะมีเสียงดังวี้ด ๆ ยังมี "จั๊กจั่น" ที่เป็นกล่องกระดาษทรงกระบอกเล็กๆ ฝั่งหนึ่งเจาะรูมีเชือกร้อยห้อยติดกับไม้ พอเหวี่ยงกล่องกระดาษที่ปลายมันจะเกิดเสียงแหลมๆคล้ายจั๊กจั่น และที่ลืมไม่ได้... ป๋องแป๋งกระดาษแก้ว.. ที่หน้าของตัวป๋องแป๋งขึงด้วยการะดาษแก้วหลากสี ตัวป๋องแป๋งมีลักษณะคล้ายกลองขนาดเล็ก ขึงหน้าด้วยกระดาษแก้วสี ด้านข้างมีเชือกป่านร้อยไว้ทั้ง2ด้านปลายด้านหนึ่ง มีดินเหนียวแห้งเป็นตุ้มถ่วง พอแกว่งป๋องแป๋ง ดินเหนียวนี้ก็จะไปปะทะหน้าป๋องแป๋ง เกิดเสียงกังวานขึ้น เตี่ยผมเคย ช่วยซ่อมป๋องแป๋งนี้ในยามที่หน้ากระดาษแก้วมันหย่อน แกเอาผ้าชุบนํ้าพอหมาดๆ แล้วเช็ดหน้ากระดาษแก้วไวๆ น่าประหลาดที่มันกลับมาตึงและดังกังวานได้อีกครั้ง แกบอกว่า กระดาษแก้วพอถูกนํ้าจะตึงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ทำบ่อยๆก็ไม่ไหว มันจะหมดสภาพไป... . . . ฝูงชนยังคงคราครํ่า บนถนน... แม่บ้านผมก็ยังคงนั่งมองผู้คนอยู่อย่างนั้น... มาบัดนี้ ด้วยที่ผ่านวัยนั้นมา ผมเข้าใจแล้วว่า แกคงมองดูหนุ่มสาวที่มาด้วยกัน บางครั้งคงแอบมองหนุ่มๆที่มาคนเดียว หรือมาร่วมกลุ่มกัน นั่นก็คงทำให้แกมีความสุขเล็กๆได้ . . พอตกบ่าย... หลังจากการแข่งเรือในท้องนํ้าที่กว้างใหญ่ผ่านไป มักจะมีเรือเล็กติดเครื่องยนต์ วิ่งไปมาใกล้ตลิ่ง หนุ่มๆบนเรือ บ้างก็เปลื้องผ้าท่อนบน บ้างก็มีสภาพมึนเมา บ่อยครั้งที่จะมีคำร้องกลอนพื้นบ้าน พร้อมเสียงกลองเสียงเคาะขวด ลอยตามเรือมาเป็นระยะๆ สาวบ้านไหนอยู่ในระยะสายตา มักจะโดนหนุ่มๆขี้เมาทั้งหลายในเรือลำจิ๋ว แซวไปซะทุกครั้ง และแน่นอน คำร้องแซว นั้น อยู่ในระดับ หยาบถึงหยาบมาก . . ขบวนแห่ปราสาทผึ้งเริ่มแล้ว การตกแต่ง ริ้วขบวนเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ทั้งดนตรีปี่กลอง ผู้ร่วมขบวนนั้นมีมากมาย และมีทุกวัย บางคราวก็จะเห็น ตา หรือ ยายแก่ๆ ฟ้อนเข้าจังหวะ แต่จังหวะสับขานั้นเต็มไปด้วยควมสับสนอาจจะเพราะฤทธิ์ 40 ดีกรี ที่ดวดเข้าไปเต็มคราบ ถึงกับถอยหน้าถอยหลัง ไปไม่ถึงไหน ร้อนถึงเพื่อน ในขบวนต้องช่วยกันรุนหลังให้ตามขบวนไป บ้างก็หมดสภาพขนาดเพื่อนๆ ต้องหิ้วปีกตามขบวนกันเลย ก็ยังเคยมีให้เห็น . . งานบุญแบบนี้ สิ่งที่เด็กๆอย่างผมตั้งตารอ ก็คงจะหนีไม่พ้น ขนม นม เนย ที่วางขายกัน ของกิน ของซื้อมากมายเหลือเกินในงานออกร้าน รถเข็นขายลูกชิ้นปิ้ง ซึ่งผมและเด็กอีกหลายๆคนมักจะทำคล้ายๆกัน คือ ใช้ไม้ที่มีลูกชิ้นนั้น จิ้มนํ้าจิ้ม และดูดกินนํ้าจิ้มนั้น เรื่อยๆก่อน เหมือนกลัวว่า ถ้ารีบกินลูกชิ้นนั้น จะหมดลงไวเกินไป อีกมือที่ว่างก็ล้วงไปที่ถุงพลาสติกที่มีกระหลํ่าปลีหั่น เอาออกมาจิ้มนํ้าจิ้มกินอย่างเอร็ดอร่อย จนควรแก่เวลา ถึงได้บรรเลงลูกชิ้นที่เหลือไว้ ลงท้อง รถเข็นขายซาละเปา ซาละเปาร้อนๆ หอมฉุยทุกครั้งที่เปิดฝาซึ้งที่ใช้นึ่งซาละเปา ยังมีขนมปังที่กินกับไอศครีมตัก พ่อค้านำมาประยุกต์ ใส่ไส้สังขยาลงไป แล้วเอามานึ่งพร้อมซาละเปา ก็อร่อยไปอีกแบบ และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานออกพรรษาสมัยนั้น คือ ลูกเดือยต้ม มันจะถูกแบ่งเป็นกำๆ กำหนึ่งมีหลายก้าน ปลายก้านจะมีลูกเดือยอยู่แต่มันถูกหุ้มด้วยเปลือกแข็งๆ ต้องแทะเปลือกออกถึงจะได้ลิ้มรส ไอ้ลูกเดือยนี่แหละทำให้คนกวาดถนนออกมาบ่นทุกครั้งที่จบงาน เพราะมันถูกทิ้งเกลื่อนและเปลือกมีขนาดเล็ก ทำให้ยากต่อการเก็บกวาด งานดำเนินไปค่อนคืน... งานเลี้ยงก็ถึงเวลาต้องเลิกรา... . . . หลายสิบปีผ่านไป... งานออกพรรษา เปลี่ยนไปแล้ว... ความเรียบง่ายแฝงเสน่ห์บ้านๆถูกแทนที่ด้วยความยิ่งใหญ่ จ้าแจ่ม ของความทันสมัยที่ถูกใส่เข้ามาแทนที่ ของเล่นในวัยเด็กที่พ่อค้าแบกท่อนไม้ไผ่เจาะรู ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว ของกินที่แสนอร่อยในวัยเด็กถูกแทนที่ด้วยของกินหน้าตาแปลกใหม่ และอาจจะอร่อยกว่าของเดิม ลูกเดือยต้ม แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วในงานบุญออกพรรษา พร้อมๆกับที่ หนุ่มวัยรุ่นขี้เมาล่องเรือแซวสาว... ก็หายไปจากท้องนํ้า.... . . . มีเพียงความทรงจำสีจางๆ... ภาพเก่าๆ ให้ระลึกถึง... ก็ทำให้ ใครบางคน... สถานที่บางสถานที่... ที่เคยสลายไปแล้วนั้น กลับมามีชีวิตอีกครั้ง... แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ก็ตาม.... . . . ***ปล. ขอบคุณท่านเจ้าของภาพที่ผมนำมาใช้ประกอบบทความครับ ***ออกพรรษา เผยแพร่ครั้งแรก เมื่อ 7 ตุลาคม 2560 ที่เพจ ล ม ห ว น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1297 มุมมอง 0 รีวิว