#นับจากนี้ไปคนไทยจะตาสว่างเสียที
ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส ในประเทศไทย
มีมาโดยตลอด แต่อดีตจะทำแบบแอบๆทำ รู้กันเฉพาะกลุ่ม
ภายใต้หนังสือและเว็บไซต์ที่ชื่อฟ้าเดียวกันที่มีเนื้อหา
ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ให้ร้ายต่อสถาบันกษัตรย์
คาดว่าในเวลานั้น ธนาธรใช้ทุนส่วนตัวในการเคลื่อนไหวอย่างไม่กระโตกกระตากนัก โดยมีนายชัยธวัชหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสุดท้ายก่อนถูกยุบเป็นบรรณาธิการอย่างเปิดเผย
แต่วันหนึ่ง ธนาธร ช่อ และปิยบุตร เหมือนได้พลังวิเศษ
คิดใหญ่ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในช่วงแรก
คนไทยยังรู้สึกถึงความหวังว่าการเมืองในประเทศไทย
น่าจะเปลี่ยนไปได้ด้วยมือของคนรุ่นใหม่
ทำให้ได้คะแนนเสียงมากอย่างน่าตกใจ
รวมถึงการนำระบบไอโอบอท มาใช้ก่อนใคร
ปั้นกระแสทวิตเตอร์ กำหนดเทรนให้มีแต่เรื่องราวของพรรคอนาคตใหม่
ทำให้สื่อทุกสำนักวนเวียนอยู่แต่กับพรรคและคนของพรรคอนาคตใหม่เวลานั้น จนทำให้เกิดอุปทานหมู่ เวลาใครไปคอมเม้นตรงข้าม ก็ใช้บอทไอโอเข้าไปถล่ม จนคนคิดต่างไม่กล้าไปยุ่งเพราะเข้าใจว่า บอทไอโอคือคนจริงๆ
เกิดปรากฏการคอมเม้นเป็นรูปส้มพร้อมกัน
แต่เรื่องก็มาแตก ที่วิโรจน์ถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์มือถือหลายสิบเครื่องที่เป็นอุปกรณ์บอทไอโอที่นำเข้าระบบมาจากเวียดนาม
แต่ตอนนี้ ทุกแพลตฟอร์มต่างปรับตัวและป้องกันบอทไอโอและลบแอคเค้าบอทออกจากระบบแทบเกลี้ยง ทำให้ทุกวันนี้แม้แต่ไลฟ์สดของหัวหน้าพรรคเอง หรือนายพิธาก็ยังมีคนดูแค่สามสี่ร้อยคน
ยังรวมไปถึงการที่พรรคก้าวไกลไม่กล้าทำในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อกฏหมาย
ก็ยังมีงบจำนวนมหาศาลที่มีหลักฐานและพยานว่าบุ้งได้รับมาจากการส่งภาพการก่อความวุ่นวายจากสมุน และได้ตังมาก็เอามาเปย์ผู้ และให้เด็กในสังกัดกินอดๆอยากๆ แต่ต้นทางน้ำมานั้น จำนวนมหาศาล ถึงขนาดที่ตรวจสอบบัญชีเพนกวิ้น มีไม่ต่ำกว่า ุ60 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับเซิทหาได้เป็นข้อมูลจากทางการไทยเองและทรายเจริญปุระ ก็เคยออกมาคอนเฟิร์มเองด้วยซ้ำ
คำถามว่า งบทำบอทไอโอ งบสร้างความวุ่นวายในนามกลุ่มทะลุวัง หรือ งบในการสร้างพรรค มันเอามาจากไหนกันนะ
ก็พบว่ามีการสืบเส้นทางการเงินมีองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งของต่างชาติ เป็นจุดเชื่อมโยงเงินจากบางคนในสหรัฐเข้ากระเป๋าคนเหล่านี้
จนในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิด ด้วยการที่ผู้นำจิตวิญญาณของอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล ต่างเข้านอกออกในสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทยเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่เสี่ยเพนกวิ้นเช่นกัน
จนมาถึงวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ก้าวไกลเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข
องค์กรแอมเนสตี้ ถึงขนาดออกอาการเหิมเกริม สั่งศาลรัฐธรรมนูญให้รีบกลับคำตัดสิน ซึ่งไม่เคยมีเหตุการละเมิดศาลจากองค์กรต่างชาติแบบนี้มาก่อนในประเทศไทย
นอกจากนั้น ทูต 18 ประเทศ ที่ทำเกินหน้าที่การเป็นทูตประจำประเทศไทย รวมไปถึง สว.สหรัฐก็ออกมาขู่ศาลไทย อย่างกร่างๆ
ดังนั้น ที่คิงส์โพธิ์แดงเคยให้ข้อมูลว่า เมกาคือผู้อยู่เ้บื้องหลัง
ความพยายามในการก้าวก่าย และให้การสนับสนุนส่งเสริมกลุ่มคนที่ให้ร้ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตรย์มาโดยตลอดนั้น ก็คือสหรัฐอเมริกา
ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขม.112 นั้น มีความชัดเจนแม้ว่าหากตัดข้อนี้ไปพรรคอื่นๆก็พร้อมร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เพราะเหตุใดทั้งพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล จึงยืนยันในจุดยืนนี้มาตลอด
นั่นก็เพราะงบประมาณที่ให้การสนับสนุน ก็ให้มาทำเรื่องนี้โดยตรง
เพราะการที่แก้ไขม112 โดยการให้ร้าย บิดเบือน พระมหากษัตย์ได้โดยผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยท ก็คุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่จะปั้นแต่งปลุกปั่นให้คนไทยรุ่นใหม่ มีความชิงชังสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสหรัฐไม่มีฐานทัพในโซนนี้ หากได้ประเทศไทยในการตั้งฐานทัพด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ก็จะสามารถส่งจรวดไปจีนได้ในระยะวิถีกรณีมีความขัดแย้งกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ (ซึ่งข้อมูลเรื่องสหรัฐมีเป้าหมายตั้งฐานทัพในประเทศไทย มีหลักฐานอยู่ทั้งที่วิทยาลัยป้องกันราชอนาจักร และฝ่ายความมั่นคงจำนวนไม่น้อย)
....และโดยเฉพาะตอนนี้ จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้ใช้สูตรทางเศรษฐกิจและการลงทุนเข้ามาขายอนาเขตแบบเนียนๆทั้งกำพูชา สปปลาว และพม่าแล้ว เหลือแค่ไทยที่ขยับเข้ามาได้ยากกว่าประเทศเพื่อนบ้านมากนักแต่ก็มาแล้วพอสมควรทีเดียว
แต่สหรัฐที่ยังไม่สามารถมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยหรือยึดประเทศไทยได้นั้น เพราะประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตรที่ทรงอยู่เหนือการเมือง เป็นผู้ทรงให้ทรงเมตตาต่อพสกนิกรในทุกยุคทุกรัชสมัยจวบถึงปัจจุบัน มีผู้จงรักษภักดีต่อพระองค์ที่รักษาปกป้องไว้ซึ่งสามสถาบันหลักที่ยืนหยัดมั่นคงในความเป็นชาติได้ ดังนั้น ม.112 จึงเป็นกูญแจสำคัญที่ก้าวไกลและอนาคตใหม่พยายามผลักดันกฏหมายด้วยวาทะกรรมต่างๆให้ผู้หมิ่นสถาบันผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยตามกฏหมายนั่นเอง ไม่มีสถาบันกษัตริย์ก็สิ้นชาติ
หากสังเกตุให้ดีแม้กระทั่งมีเป้าหมายลดกำลังทหาร ก็เพื่อบั่นทอนความมั่นคงของชาติ โดยนำจุดบกพร่องเพียงส่วนน้อย มาตีให้เป็นเรื่อง่ส่วนใหญ่ เพื่อสร้างความชอบธรรมและได้คะแนนเสียงกับกลุ่มเด็กโตที่กำลังจะเกณฑ์และกลัวการเป็นทหารมาเป็นคะแนนเสียงร่วม และพฤติกรรมที่สร้างแนวคิดไม่ให้ลูกมีความกตัญญูกับพ่อแม่ นั่นก็เพราะเมื่อเด็กห่างอกพ่อแม่ก็จะสามารถชักจูงได้โดยง่าย และเป็นฐานมวลชนที่พวกเขาเหล่านี้จูงไปไหนก็ไป
ดังนั้น ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คิงส์โพธิ์แดง นำเสนอมาโดยตลอด และทุกอย่างในข้อมูลของโพสนี้ได้มอบให้นั้น ล้วนมีหลักฐาน มีพยานที่หาได้ไม่ยากเลย
ยกตัวอย่างเช่น ภาพเพนกวิ้น ที่เข้านอกออกในสถานฑุตสหรัฐก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น
ดังนั้นพี่น้องชาวไทยอย่าแปลกใจถึงการเคลื่อนไหวขององค์กรอิสระต่างชาติ หรือแม้กระทั่ง นาโต้ un รวมถึงความพยายามกดดันโดนทูตตะวันตกประจำประเทศไทย นั่นเพราะเรามีกลุ่มค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส-ต-ก-ยุ-ค อย่าธร ข่อ ปิยะบุตร และตัวแม่อย่างเจี๊ยบอมรัตน์ที่คิดว่าจะห-ล-อ-ก ใช้งบและอำนาจของสหรัฐและกลุ่มยุโรปเพื่อสานฝันของตัวเอง แต่แท้ที่จริงกลับถูกเค้าใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือยึดประเทศไทยเป็นฐานไม่รู้ตัว และมีคนอยากดังแบบพิธา ไอติม และสก็อยอย่างไอซ์ คนไม่อยากเป็นทหารอย่างจิรัฐ ก็มั่วๆรวมๆกันอยู่และยอมแลกความมั่นคงของชาติกับผลประโยชน์ส่วนตัว
นับจากวันที่ 7 สิงหา 67 นี้ไป เราจะถูกรุมวิจารณ์และกดดันจากสหรัฐและพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงองค์กรอิสระมากมาย
คิงส์โพธิ์แดงจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยผู้รักชาติรับสถาบันร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตรย์ และ
ช่วยเผยแพร่ความรู้นี้สู่พี่น้องชาวไทยเพื่อให้ประเทศไทยยังคงอยู่สืบไปนานเท่านาน
#คิงส์โพธิ์แดง
ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส ในประเทศไทย
มีมาโดยตลอด แต่อดีตจะทำแบบแอบๆทำ รู้กันเฉพาะกลุ่ม
ภายใต้หนังสือและเว็บไซต์ที่ชื่อฟ้าเดียวกันที่มีเนื้อหา
ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ให้ร้ายต่อสถาบันกษัตรย์
คาดว่าในเวลานั้น ธนาธรใช้ทุนส่วนตัวในการเคลื่อนไหวอย่างไม่กระโตกกระตากนัก โดยมีนายชัยธวัชหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสุดท้ายก่อนถูกยุบเป็นบรรณาธิการอย่างเปิดเผย
แต่วันหนึ่ง ธนาธร ช่อ และปิยบุตร เหมือนได้พลังวิเศษ
คิดใหญ่ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในช่วงแรก
คนไทยยังรู้สึกถึงความหวังว่าการเมืองในประเทศไทย
น่าจะเปลี่ยนไปได้ด้วยมือของคนรุ่นใหม่
ทำให้ได้คะแนนเสียงมากอย่างน่าตกใจ
รวมถึงการนำระบบไอโอบอท มาใช้ก่อนใคร
ปั้นกระแสทวิตเตอร์ กำหนดเทรนให้มีแต่เรื่องราวของพรรคอนาคตใหม่
ทำให้สื่อทุกสำนักวนเวียนอยู่แต่กับพรรคและคนของพรรคอนาคตใหม่เวลานั้น จนทำให้เกิดอุปทานหมู่ เวลาใครไปคอมเม้นตรงข้าม ก็ใช้บอทไอโอเข้าไปถล่ม จนคนคิดต่างไม่กล้าไปยุ่งเพราะเข้าใจว่า บอทไอโอคือคนจริงๆ
เกิดปรากฏการคอมเม้นเป็นรูปส้มพร้อมกัน
แต่เรื่องก็มาแตก ที่วิโรจน์ถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์มือถือหลายสิบเครื่องที่เป็นอุปกรณ์บอทไอโอที่นำเข้าระบบมาจากเวียดนาม
แต่ตอนนี้ ทุกแพลตฟอร์มต่างปรับตัวและป้องกันบอทไอโอและลบแอคเค้าบอทออกจากระบบแทบเกลี้ยง ทำให้ทุกวันนี้แม้แต่ไลฟ์สดของหัวหน้าพรรคเอง หรือนายพิธาก็ยังมีคนดูแค่สามสี่ร้อยคน
ยังรวมไปถึงการที่พรรคก้าวไกลไม่กล้าทำในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อกฏหมาย
ก็ยังมีงบจำนวนมหาศาลที่มีหลักฐานและพยานว่าบุ้งได้รับมาจากการส่งภาพการก่อความวุ่นวายจากสมุน และได้ตังมาก็เอามาเปย์ผู้ และให้เด็กในสังกัดกินอดๆอยากๆ แต่ต้นทางน้ำมานั้น จำนวนมหาศาล ถึงขนาดที่ตรวจสอบบัญชีเพนกวิ้น มีไม่ต่ำกว่า ุ60 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับเซิทหาได้เป็นข้อมูลจากทางการไทยเองและทรายเจริญปุระ ก็เคยออกมาคอนเฟิร์มเองด้วยซ้ำ
คำถามว่า งบทำบอทไอโอ งบสร้างความวุ่นวายในนามกลุ่มทะลุวัง หรือ งบในการสร้างพรรค มันเอามาจากไหนกันนะ
ก็พบว่ามีการสืบเส้นทางการเงินมีองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งของต่างชาติ เป็นจุดเชื่อมโยงเงินจากบางคนในสหรัฐเข้ากระเป๋าคนเหล่านี้
จนในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิด ด้วยการที่ผู้นำจิตวิญญาณของอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล ต่างเข้านอกออกในสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทยเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่เสี่ยเพนกวิ้นเช่นกัน
จนมาถึงวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ก้าวไกลเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข
องค์กรแอมเนสตี้ ถึงขนาดออกอาการเหิมเกริม สั่งศาลรัฐธรรมนูญให้รีบกลับคำตัดสิน ซึ่งไม่เคยมีเหตุการละเมิดศาลจากองค์กรต่างชาติแบบนี้มาก่อนในประเทศไทย
นอกจากนั้น ทูต 18 ประเทศ ที่ทำเกินหน้าที่การเป็นทูตประจำประเทศไทย รวมไปถึง สว.สหรัฐก็ออกมาขู่ศาลไทย อย่างกร่างๆ
ดังนั้น ที่คิงส์โพธิ์แดงเคยให้ข้อมูลว่า เมกาคือผู้อยู่เ้บื้องหลัง
ความพยายามในการก้าวก่าย และให้การสนับสนุนส่งเสริมกลุ่มคนที่ให้ร้ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตรย์มาโดยตลอดนั้น ก็คือสหรัฐอเมริกา
ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขม.112 นั้น มีความชัดเจนแม้ว่าหากตัดข้อนี้ไปพรรคอื่นๆก็พร้อมร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เพราะเหตุใดทั้งพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล จึงยืนยันในจุดยืนนี้มาตลอด
นั่นก็เพราะงบประมาณที่ให้การสนับสนุน ก็ให้มาทำเรื่องนี้โดยตรง
เพราะการที่แก้ไขม112 โดยการให้ร้าย บิดเบือน พระมหากษัตย์ได้โดยผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยท ก็คุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่จะปั้นแต่งปลุกปั่นให้คนไทยรุ่นใหม่ มีความชิงชังสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสหรัฐไม่มีฐานทัพในโซนนี้ หากได้ประเทศไทยในการตั้งฐานทัพด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ก็จะสามารถส่งจรวดไปจีนได้ในระยะวิถีกรณีมีความขัดแย้งกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ (ซึ่งข้อมูลเรื่องสหรัฐมีเป้าหมายตั้งฐานทัพในประเทศไทย มีหลักฐานอยู่ทั้งที่วิทยาลัยป้องกันราชอนาจักร และฝ่ายความมั่นคงจำนวนไม่น้อย)
....และโดยเฉพาะตอนนี้ จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้ใช้สูตรทางเศรษฐกิจและการลงทุนเข้ามาขายอนาเขตแบบเนียนๆทั้งกำพูชา สปปลาว และพม่าแล้ว เหลือแค่ไทยที่ขยับเข้ามาได้ยากกว่าประเทศเพื่อนบ้านมากนักแต่ก็มาแล้วพอสมควรทีเดียว
แต่สหรัฐที่ยังไม่สามารถมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยหรือยึดประเทศไทยได้นั้น เพราะประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตรที่ทรงอยู่เหนือการเมือง เป็นผู้ทรงให้ทรงเมตตาต่อพสกนิกรในทุกยุคทุกรัชสมัยจวบถึงปัจจุบัน มีผู้จงรักษภักดีต่อพระองค์ที่รักษาปกป้องไว้ซึ่งสามสถาบันหลักที่ยืนหยัดมั่นคงในความเป็นชาติได้ ดังนั้น ม.112 จึงเป็นกูญแจสำคัญที่ก้าวไกลและอนาคตใหม่พยายามผลักดันกฏหมายด้วยวาทะกรรมต่างๆให้ผู้หมิ่นสถาบันผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยตามกฏหมายนั่นเอง ไม่มีสถาบันกษัตริย์ก็สิ้นชาติ
หากสังเกตุให้ดีแม้กระทั่งมีเป้าหมายลดกำลังทหาร ก็เพื่อบั่นทอนความมั่นคงของชาติ โดยนำจุดบกพร่องเพียงส่วนน้อย มาตีให้เป็นเรื่อง่ส่วนใหญ่ เพื่อสร้างความชอบธรรมและได้คะแนนเสียงกับกลุ่มเด็กโตที่กำลังจะเกณฑ์และกลัวการเป็นทหารมาเป็นคะแนนเสียงร่วม และพฤติกรรมที่สร้างแนวคิดไม่ให้ลูกมีความกตัญญูกับพ่อแม่ นั่นก็เพราะเมื่อเด็กห่างอกพ่อแม่ก็จะสามารถชักจูงได้โดยง่าย และเป็นฐานมวลชนที่พวกเขาเหล่านี้จูงไปไหนก็ไป
ดังนั้น ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คิงส์โพธิ์แดง นำเสนอมาโดยตลอด และทุกอย่างในข้อมูลของโพสนี้ได้มอบให้นั้น ล้วนมีหลักฐาน มีพยานที่หาได้ไม่ยากเลย
ยกตัวอย่างเช่น ภาพเพนกวิ้น ที่เข้านอกออกในสถานฑุตสหรัฐก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น
ดังนั้นพี่น้องชาวไทยอย่าแปลกใจถึงการเคลื่อนไหวขององค์กรอิสระต่างชาติ หรือแม้กระทั่ง นาโต้ un รวมถึงความพยายามกดดันโดนทูตตะวันตกประจำประเทศไทย นั่นเพราะเรามีกลุ่มค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส-ต-ก-ยุ-ค อย่าธร ข่อ ปิยะบุตร และตัวแม่อย่างเจี๊ยบอมรัตน์ที่คิดว่าจะห-ล-อ-ก ใช้งบและอำนาจของสหรัฐและกลุ่มยุโรปเพื่อสานฝันของตัวเอง แต่แท้ที่จริงกลับถูกเค้าใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือยึดประเทศไทยเป็นฐานไม่รู้ตัว และมีคนอยากดังแบบพิธา ไอติม และสก็อยอย่างไอซ์ คนไม่อยากเป็นทหารอย่างจิรัฐ ก็มั่วๆรวมๆกันอยู่และยอมแลกความมั่นคงของชาติกับผลประโยชน์ส่วนตัว
นับจากวันที่ 7 สิงหา 67 นี้ไป เราจะถูกรุมวิจารณ์และกดดันจากสหรัฐและพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงองค์กรอิสระมากมาย
คิงส์โพธิ์แดงจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยผู้รักชาติรับสถาบันร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตรย์ และ
ช่วยเผยแพร่ความรู้นี้สู่พี่น้องชาวไทยเพื่อให้ประเทศไทยยังคงอยู่สืบไปนานเท่านาน
#คิงส์โพธิ์แดง
#นับจากนี้ไปคนไทยจะตาสว่างเสียที
ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส ในประเทศไทย
มีมาโดยตลอด แต่อดีตจะทำแบบแอบๆทำ รู้กันเฉพาะกลุ่ม
ภายใต้หนังสือและเว็บไซต์ที่ชื่อฟ้าเดียวกันที่มีเนื้อหา
ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ให้ร้ายต่อสถาบันกษัตรย์
คาดว่าในเวลานั้น ธนาธรใช้ทุนส่วนตัวในการเคลื่อนไหวอย่างไม่กระโตกกระตากนัก โดยมีนายชัยธวัชหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสุดท้ายก่อนถูกยุบเป็นบรรณาธิการอย่างเปิดเผย
แต่วันหนึ่ง ธนาธร ช่อ และปิยบุตร เหมือนได้พลังวิเศษ
คิดใหญ่ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในช่วงแรก
คนไทยยังรู้สึกถึงความหวังว่าการเมืองในประเทศไทย
น่าจะเปลี่ยนไปได้ด้วยมือของคนรุ่นใหม่
ทำให้ได้คะแนนเสียงมากอย่างน่าตกใจ
รวมถึงการนำระบบไอโอบอท มาใช้ก่อนใคร
ปั้นกระแสทวิตเตอร์ กำหนดเทรนให้มีแต่เรื่องราวของพรรคอนาคตใหม่
ทำให้สื่อทุกสำนักวนเวียนอยู่แต่กับพรรคและคนของพรรคอนาคตใหม่เวลานั้น จนทำให้เกิดอุปทานหมู่ เวลาใครไปคอมเม้นตรงข้าม ก็ใช้บอทไอโอเข้าไปถล่ม จนคนคิดต่างไม่กล้าไปยุ่งเพราะเข้าใจว่า บอทไอโอคือคนจริงๆ
เกิดปรากฏการคอมเม้นเป็นรูปส้มพร้อมกัน
แต่เรื่องก็มาแตก ที่วิโรจน์ถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์มือถือหลายสิบเครื่องที่เป็นอุปกรณ์บอทไอโอที่นำเข้าระบบมาจากเวียดนาม
แต่ตอนนี้ ทุกแพลตฟอร์มต่างปรับตัวและป้องกันบอทไอโอและลบแอคเค้าบอทออกจากระบบแทบเกลี้ยง ทำให้ทุกวันนี้แม้แต่ไลฟ์สดของหัวหน้าพรรคเอง หรือนายพิธาก็ยังมีคนดูแค่สามสี่ร้อยคน
ยังรวมไปถึงการที่พรรคก้าวไกลไม่กล้าทำในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อกฏหมาย
ก็ยังมีงบจำนวนมหาศาลที่มีหลักฐานและพยานว่าบุ้งได้รับมาจากการส่งภาพการก่อความวุ่นวายจากสมุน และได้ตังมาก็เอามาเปย์ผู้ และให้เด็กในสังกัดกินอดๆอยากๆ แต่ต้นทางน้ำมานั้น จำนวนมหาศาล ถึงขนาดที่ตรวจสอบบัญชีเพนกวิ้น มีไม่ต่ำกว่า ุ60 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับเซิทหาได้เป็นข้อมูลจากทางการไทยเองและทรายเจริญปุระ ก็เคยออกมาคอนเฟิร์มเองด้วยซ้ำ
คำถามว่า งบทำบอทไอโอ งบสร้างความวุ่นวายในนามกลุ่มทะลุวัง หรือ งบในการสร้างพรรค มันเอามาจากไหนกันนะ
ก็พบว่ามีการสืบเส้นทางการเงินมีองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งของต่างชาติ เป็นจุดเชื่อมโยงเงินจากบางคนในสหรัฐเข้ากระเป๋าคนเหล่านี้
จนในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิด ด้วยการที่ผู้นำจิตวิญญาณของอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล ต่างเข้านอกออกในสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทยเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่เสี่ยเพนกวิ้นเช่นกัน
จนมาถึงวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ก้าวไกลเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข
องค์กรแอมเนสตี้ ถึงขนาดออกอาการเหิมเกริม สั่งศาลรัฐธรรมนูญให้รีบกลับคำตัดสิน ซึ่งไม่เคยมีเหตุการละเมิดศาลจากองค์กรต่างชาติแบบนี้มาก่อนในประเทศไทย
นอกจากนั้น ทูต 18 ประเทศ ที่ทำเกินหน้าที่การเป็นทูตประจำประเทศไทย รวมไปถึง สว.สหรัฐก็ออกมาขู่ศาลไทย อย่างกร่างๆ
ดังนั้น ที่คิงส์โพธิ์แดงเคยให้ข้อมูลว่า เมกาคือผู้อยู่เ้บื้องหลัง
ความพยายามในการก้าวก่าย และให้การสนับสนุนส่งเสริมกลุ่มคนที่ให้ร้ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตรย์มาโดยตลอดนั้น ก็คือสหรัฐอเมริกา
ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขม.112 นั้น มีความชัดเจนแม้ว่าหากตัดข้อนี้ไปพรรคอื่นๆก็พร้อมร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เพราะเหตุใดทั้งพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล จึงยืนยันในจุดยืนนี้มาตลอด
นั่นก็เพราะงบประมาณที่ให้การสนับสนุน ก็ให้มาทำเรื่องนี้โดยตรง
เพราะการที่แก้ไขม112 โดยการให้ร้าย บิดเบือน พระมหากษัตย์ได้โดยผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยท ก็คุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่จะปั้นแต่งปลุกปั่นให้คนไทยรุ่นใหม่ มีความชิงชังสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสหรัฐไม่มีฐานทัพในโซนนี้ หากได้ประเทศไทยในการตั้งฐานทัพด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ก็จะสามารถส่งจรวดไปจีนได้ในระยะวิถีกรณีมีความขัดแย้งกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ (ซึ่งข้อมูลเรื่องสหรัฐมีเป้าหมายตั้งฐานทัพในประเทศไทย มีหลักฐานอยู่ทั้งที่วิทยาลัยป้องกันราชอนาจักร และฝ่ายความมั่นคงจำนวนไม่น้อย)
....และโดยเฉพาะตอนนี้ จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้ใช้สูตรทางเศรษฐกิจและการลงทุนเข้ามาขายอนาเขตแบบเนียนๆทั้งกำพูชา สปปลาว และพม่าแล้ว เหลือแค่ไทยที่ขยับเข้ามาได้ยากกว่าประเทศเพื่อนบ้านมากนักแต่ก็มาแล้วพอสมควรทีเดียว
แต่สหรัฐที่ยังไม่สามารถมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยหรือยึดประเทศไทยได้นั้น เพราะประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตรที่ทรงอยู่เหนือการเมือง เป็นผู้ทรงให้ทรงเมตตาต่อพสกนิกรในทุกยุคทุกรัชสมัยจวบถึงปัจจุบัน มีผู้จงรักษภักดีต่อพระองค์ที่รักษาปกป้องไว้ซึ่งสามสถาบันหลักที่ยืนหยัดมั่นคงในความเป็นชาติได้ ดังนั้น ม.112 จึงเป็นกูญแจสำคัญที่ก้าวไกลและอนาคตใหม่พยายามผลักดันกฏหมายด้วยวาทะกรรมต่างๆให้ผู้หมิ่นสถาบันผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยตามกฏหมายนั่นเอง ไม่มีสถาบันกษัตริย์ก็สิ้นชาติ
หากสังเกตุให้ดีแม้กระทั่งมีเป้าหมายลดกำลังทหาร ก็เพื่อบั่นทอนความมั่นคงของชาติ โดยนำจุดบกพร่องเพียงส่วนน้อย มาตีให้เป็นเรื่อง่ส่วนใหญ่ เพื่อสร้างความชอบธรรมและได้คะแนนเสียงกับกลุ่มเด็กโตที่กำลังจะเกณฑ์และกลัวการเป็นทหารมาเป็นคะแนนเสียงร่วม และพฤติกรรมที่สร้างแนวคิดไม่ให้ลูกมีความกตัญญูกับพ่อแม่ นั่นก็เพราะเมื่อเด็กห่างอกพ่อแม่ก็จะสามารถชักจูงได้โดยง่าย และเป็นฐานมวลชนที่พวกเขาเหล่านี้จูงไปไหนก็ไป
ดังนั้น ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คิงส์โพธิ์แดง นำเสนอมาโดยตลอด และทุกอย่างในข้อมูลของโพสนี้ได้มอบให้นั้น ล้วนมีหลักฐาน มีพยานที่หาได้ไม่ยากเลย
ยกตัวอย่างเช่น ภาพเพนกวิ้น ที่เข้านอกออกในสถานฑุตสหรัฐก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น
ดังนั้นพี่น้องชาวไทยอย่าแปลกใจถึงการเคลื่อนไหวขององค์กรอิสระต่างชาติ หรือแม้กระทั่ง นาโต้ un รวมถึงความพยายามกดดันโดนทูตตะวันตกประจำประเทศไทย นั่นเพราะเรามีกลุ่มค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส-ต-ก-ยุ-ค อย่าธร ข่อ ปิยะบุตร และตัวแม่อย่างเจี๊ยบอมรัตน์ที่คิดว่าจะห-ล-อ-ก ใช้งบและอำนาจของสหรัฐและกลุ่มยุโรปเพื่อสานฝันของตัวเอง แต่แท้ที่จริงกลับถูกเค้าใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือยึดประเทศไทยเป็นฐานไม่รู้ตัว และมีคนอยากดังแบบพิธา ไอติม และสก็อยอย่างไอซ์ คนไม่อยากเป็นทหารอย่างจิรัฐ ก็มั่วๆรวมๆกันอยู่และยอมแลกความมั่นคงของชาติกับผลประโยชน์ส่วนตัว
นับจากวันที่ 7 สิงหา 67 นี้ไป เราจะถูกรุมวิจารณ์และกดดันจากสหรัฐและพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงองค์กรอิสระมากมาย
คิงส์โพธิ์แดงจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยผู้รักชาติรับสถาบันร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตรย์ และ
ช่วยเผยแพร่ความรู้นี้สู่พี่น้องชาวไทยเพื่อให้ประเทศไทยยังคงอยู่สืบไปนานเท่านาน
#คิงส์โพธิ์แดง
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
1287 มุมมอง
0 รีวิว