มาราธอนขายหน้าโลก โคตรจะแมนใช้บิบผู้หญิงวิ่ง
การจัดงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน 2025 ที่สนามหลวงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 พ.ย.) นอกจากนักวิ่งกว่า 36,000 คน จะประสบปัญหาเรื่องการจัดการด้านเส้นทางวิ่ง จุดปฐมพยาบาล ห้องน้ำ อาหารและของว่างที่ยังบกพร่อง รวมไปถึงเสื้อ Finisher ที่แจกให้กับนักวิ่ง 42.195 และ 21.1 กิโลเมตร กลับมีข้อบกพร่องในการแจก นักวิ่งบางคนเห็นแก่ตัว วนไปรับเสื้อซ้ำแล้วเอาไปขาย ทำให้นักวิ่งที่มาทีหลังจำนวนมากไม่ได้รับแจกเสื้อ ผู้จัดการแข่งขันต้องให้นักวิ่งลงชื่อเอาไว้ แล้วจะส่งอีเมลแจ้งการส่งเสื้อภายหลัง
แต่ที่หนักที่สุดคือการที่นักวิ่งชายนำบิบ (BIB) หรือป้ายหมายเลขประจำตัวนักวิ่งของผู้หญิง ซึ่งไม่ตรงกับเพศและอายุไปวิ่ง ทำให้ผู้เข้าแข่งขันหญิงคนอื่นที่ทำตามกติกาเสียโอกาสในการเก็บสถิติและรับรางวัล เช่น นักวิ่งชายรายหนึ่ง เอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ ทำให้นักวิ่งหญิงที่ทำตามกติกาพลาดโอกาสได้รางวัลที่ 1 เพราะลำดับที่ 1 กลับไม่มารายงานตัว พอไปตรวจสอบเลขบิบย้อนหลังปรากฎว่าเป็นนักวิ่งชาย
รายต่อมามีทั้งนักวิ่งชายเอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ นักวิ่งหญิงที่วิ่งตามกติกานอกจากพลาดโอกาสในการรับรางวัลแล้ว ในแต่ละอันดับเงินรางวัลก็แตกต่างกันอีกด้วย ภายหลังมีการแก้ไขอันดับใหม่และขยับอันดับขึ้น รายที่สาม นักวิ่งชายเอาบิบระยะ 10 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลอันดับสอง นักวิ่งหญิงอีกคนพลาดโอกาสที่จะได้รางวัลที่สูงขึ้นเช่นกัน
ที่หนักที่สุด คือนักวิ่งชายรายหนึ่งถอดบิบออก เอาชิปที่ติดด้านหลังบิบใส่ไว้ในเสื้อ แล้ววิ่งโดยไม่ติดบิบ จนติดอันดับ 3 รุ่น Overall Thai female แล้วทำให้นักวิ่งหญิงคนอื่นเดือดร้อน เพราะมีชื่อที่ไม่คุ้น ทีแรกกรรมการอ้างว่าเช็กทุกคนว่าหญิงหรือชาย ไม่ยอมให้ดูรูปตอนเข้าเส้นชัย ภายหลังมีระบบผิดพลาดหลายรุ่นจึงยอมให้ดูรูป พบว่าเป็นผู้ชายเอาบิบผู้หญิงมาวิ่ง แล้วซ่อนบิบไว้ในเสื้อไม่เห็นอะไรเลย แต่เวลาตรงตามชื่อผู้หญิงคนที่เข้าเส้นชัย กรรมการจึงขยับผู้ที่ทำตามกติกาขึ้นมา
หลังจากที่เรื่องนี้ถูกตีแผ่ หญิงรายหนึ่งอ้างว่าเป็นแฟนของนักวิ่งชาย ส่งข้อความข่มขู่ให้ลบโพสต์ อ้างว่าแฟนเป็นตำรวจจะดำเนินคดี แต่ภายหลังนักวิ่งคนดังกล่าวอ้างว่าแจ้งเจ้าหน้าไปที่แล้วว่าซื้อบิบต่อมา และอ้างว่าไม่ทราบ ถ้ารับบิบต่อจากคนอื่นมาแล้วต้องแกะชิปออก ขอโทษที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ คนที่ข่มขู่จึงมีน้ำเสียงอ่อนลง
#Newskit
การจัดงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน 2025 ที่สนามหลวงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 พ.ย.) นอกจากนักวิ่งกว่า 36,000 คน จะประสบปัญหาเรื่องการจัดการด้านเส้นทางวิ่ง จุดปฐมพยาบาล ห้องน้ำ อาหารและของว่างที่ยังบกพร่อง รวมไปถึงเสื้อ Finisher ที่แจกให้กับนักวิ่ง 42.195 และ 21.1 กิโลเมตร กลับมีข้อบกพร่องในการแจก นักวิ่งบางคนเห็นแก่ตัว วนไปรับเสื้อซ้ำแล้วเอาไปขาย ทำให้นักวิ่งที่มาทีหลังจำนวนมากไม่ได้รับแจกเสื้อ ผู้จัดการแข่งขันต้องให้นักวิ่งลงชื่อเอาไว้ แล้วจะส่งอีเมลแจ้งการส่งเสื้อภายหลัง
แต่ที่หนักที่สุดคือการที่นักวิ่งชายนำบิบ (BIB) หรือป้ายหมายเลขประจำตัวนักวิ่งของผู้หญิง ซึ่งไม่ตรงกับเพศและอายุไปวิ่ง ทำให้ผู้เข้าแข่งขันหญิงคนอื่นที่ทำตามกติกาเสียโอกาสในการเก็บสถิติและรับรางวัล เช่น นักวิ่งชายรายหนึ่ง เอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ ทำให้นักวิ่งหญิงที่ทำตามกติกาพลาดโอกาสได้รางวัลที่ 1 เพราะลำดับที่ 1 กลับไม่มารายงานตัว พอไปตรวจสอบเลขบิบย้อนหลังปรากฎว่าเป็นนักวิ่งชาย
รายต่อมามีทั้งนักวิ่งชายเอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ นักวิ่งหญิงที่วิ่งตามกติกานอกจากพลาดโอกาสในการรับรางวัลแล้ว ในแต่ละอันดับเงินรางวัลก็แตกต่างกันอีกด้วย ภายหลังมีการแก้ไขอันดับใหม่และขยับอันดับขึ้น รายที่สาม นักวิ่งชายเอาบิบระยะ 10 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลอันดับสอง นักวิ่งหญิงอีกคนพลาดโอกาสที่จะได้รางวัลที่สูงขึ้นเช่นกัน
ที่หนักที่สุด คือนักวิ่งชายรายหนึ่งถอดบิบออก เอาชิปที่ติดด้านหลังบิบใส่ไว้ในเสื้อ แล้ววิ่งโดยไม่ติดบิบ จนติดอันดับ 3 รุ่น Overall Thai female แล้วทำให้นักวิ่งหญิงคนอื่นเดือดร้อน เพราะมีชื่อที่ไม่คุ้น ทีแรกกรรมการอ้างว่าเช็กทุกคนว่าหญิงหรือชาย ไม่ยอมให้ดูรูปตอนเข้าเส้นชัย ภายหลังมีระบบผิดพลาดหลายรุ่นจึงยอมให้ดูรูป พบว่าเป็นผู้ชายเอาบิบผู้หญิงมาวิ่ง แล้วซ่อนบิบไว้ในเสื้อไม่เห็นอะไรเลย แต่เวลาตรงตามชื่อผู้หญิงคนที่เข้าเส้นชัย กรรมการจึงขยับผู้ที่ทำตามกติกาขึ้นมา
หลังจากที่เรื่องนี้ถูกตีแผ่ หญิงรายหนึ่งอ้างว่าเป็นแฟนของนักวิ่งชาย ส่งข้อความข่มขู่ให้ลบโพสต์ อ้างว่าแฟนเป็นตำรวจจะดำเนินคดี แต่ภายหลังนักวิ่งคนดังกล่าวอ้างว่าแจ้งเจ้าหน้าไปที่แล้วว่าซื้อบิบต่อมา และอ้างว่าไม่ทราบ ถ้ารับบิบต่อจากคนอื่นมาแล้วต้องแกะชิปออก ขอโทษที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ คนที่ข่มขู่จึงมีน้ำเสียงอ่อนลง
#Newskit
มาราธอนขายหน้าโลก โคตรจะแมนใช้บิบผู้หญิงวิ่ง
การจัดงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน 2025 ที่สนามหลวงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 พ.ย.) นอกจากนักวิ่งกว่า 36,000 คน จะประสบปัญหาเรื่องการจัดการด้านเส้นทางวิ่ง จุดปฐมพยาบาล ห้องน้ำ อาหารและของว่างที่ยังบกพร่อง รวมไปถึงเสื้อ Finisher ที่แจกให้กับนักวิ่ง 42.195 และ 21.1 กิโลเมตร กลับมีข้อบกพร่องในการแจก นักวิ่งบางคนเห็นแก่ตัว วนไปรับเสื้อซ้ำแล้วเอาไปขาย ทำให้นักวิ่งที่มาทีหลังจำนวนมากไม่ได้รับแจกเสื้อ ผู้จัดการแข่งขันต้องให้นักวิ่งลงชื่อเอาไว้ แล้วจะส่งอีเมลแจ้งการส่งเสื้อภายหลัง
แต่ที่หนักที่สุดคือการที่นักวิ่งชายนำบิบ (BIB) หรือป้ายหมายเลขประจำตัวนักวิ่งของผู้หญิง ซึ่งไม่ตรงกับเพศและอายุไปวิ่ง ทำให้ผู้เข้าแข่งขันหญิงคนอื่นที่ทำตามกติกาเสียโอกาสในการเก็บสถิติและรับรางวัล เช่น นักวิ่งชายรายหนึ่ง เอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ ทำให้นักวิ่งหญิงที่ทำตามกติกาพลาดโอกาสได้รางวัลที่ 1 เพราะลำดับที่ 1 กลับไม่มารายงานตัว พอไปตรวจสอบเลขบิบย้อนหลังปรากฎว่าเป็นนักวิ่งชาย
รายต่อมามีทั้งนักวิ่งชายเอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ นักวิ่งหญิงที่วิ่งตามกติกานอกจากพลาดโอกาสในการรับรางวัลแล้ว ในแต่ละอันดับเงินรางวัลก็แตกต่างกันอีกด้วย ภายหลังมีการแก้ไขอันดับใหม่และขยับอันดับขึ้น รายที่สาม นักวิ่งชายเอาบิบระยะ 10 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลอันดับสอง นักวิ่งหญิงอีกคนพลาดโอกาสที่จะได้รางวัลที่สูงขึ้นเช่นกัน
ที่หนักที่สุด คือนักวิ่งชายรายหนึ่งถอดบิบออก เอาชิปที่ติดด้านหลังบิบใส่ไว้ในเสื้อ แล้ววิ่งโดยไม่ติดบิบ จนติดอันดับ 3 รุ่น Overall Thai female แล้วทำให้นักวิ่งหญิงคนอื่นเดือดร้อน เพราะมีชื่อที่ไม่คุ้น ทีแรกกรรมการอ้างว่าเช็กทุกคนว่าหญิงหรือชาย ไม่ยอมให้ดูรูปตอนเข้าเส้นชัย ภายหลังมีระบบผิดพลาดหลายรุ่นจึงยอมให้ดูรูป พบว่าเป็นผู้ชายเอาบิบผู้หญิงมาวิ่ง แล้วซ่อนบิบไว้ในเสื้อไม่เห็นอะไรเลย แต่เวลาตรงตามชื่อผู้หญิงคนที่เข้าเส้นชัย กรรมการจึงขยับผู้ที่ทำตามกติกาขึ้นมา
หลังจากที่เรื่องนี้ถูกตีแผ่ หญิงรายหนึ่งอ้างว่าเป็นแฟนของนักวิ่งชาย ส่งข้อความข่มขู่ให้ลบโพสต์ อ้างว่าแฟนเป็นตำรวจจะดำเนินคดี แต่ภายหลังนักวิ่งคนดังกล่าวอ้างว่าแจ้งเจ้าหน้าไปที่แล้วว่าซื้อบิบต่อมา และอ้างว่าไม่ทราบ ถ้ารับบิบต่อจากคนอื่นมาแล้วต้องแกะชิปออก ขอโทษที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ คนที่ข่มขู่จึงมีน้ำเสียงอ่อนลง
#Newskit
1 Comments
0 Shares
10 Views
0 Reviews