ObsidianOS ดิสโทรใหม่ที่พลิกโฉมการจัดการระบบด้วย A/B Partition
ObsidianOS เป็นดิสโทร Linux สาย Arch ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการอัปเดตและการย้อนกลับระบบ โดยใช้แนวคิด A/B Partitioning ซึ่งปกติพบใน ChromeOS และ Android แต่ครั้งนี้ถูกนำมาใช้กับ Linux Desktop อย่างเต็มรูปแบบ จุดเด่นคือเมื่ออัปเดต ระบบจะเขียนข้อมูลไปยังพาร์ทิชันที่ไม่ได้ใช้งาน หากเกิดปัญหาสามารถบูตกลับไปยังพาร์ทิชันเดิมที่ทำงานได้ทันที ลดความเสี่ยงจากการอัปเดตที่ล้มเหลว
นอกจากนั้น ObsidianOS ยังมีฟีเจอร์ User-Mode Overlays ที่พัฒนาในภาษา Rust เพื่อสร้างเลเยอร์ไฟล์ระบบในระดับผู้ใช้ โดยไม่ต้องแก้ไข Kernel หรือใช้ไฟล์ระบบพิเศษ ทำให้สามารถทดลองปรับแต่งระบบได้โดยไม่กระทบฐานข้อมูลหลัก ฟีเจอร์นี้ยังเชื่อมโยงกับ opm (Overlaid Package Manager) ที่ทำงานร่วมกับ pacman เพื่อจัดการแพ็กเกจในรูปแบบ Overlay ลดความเสี่ยงจากการติดตั้งแพ็กเกจที่อาจทำให้ระบบเสียหาย
ObsidianOS ยังมาพร้อม ObsidianOS Plugins ซึ่งเป็นระบบจัดการเหตุการณ์ เช่น การเปลี่ยนสถานะแบตเตอรี่ หรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ โดยรวมเข้ากับเฟรมเวิร์กที่ใช้งานง่ายกว่าการแก้ไข systemd units แบบเดิม ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งระบบได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ ObsidianOS ยังอยู่ในช่วงพัฒนาและถูกมองว่าเป็น experimental distro ที่เหมาะสำหรับการทดสอบใน VM หรือเครื่องสำรองมากกว่าการใช้งานจริงในระบบหลัก อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานในการนำแนวคิดใหม่ ๆ เช่น A/B Partition และ Rust-based overlays เข้ามาใน Linux Desktop ทำให้ ObsidianOS ถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่น่าสนใจที่สุดในอนาคต
สรุปสาระสำคัญ
แนวคิดหลักของ ObsidianOS
ใช้ A/B Partitioning เพื่อความปลอดภัยในการอัปเดตและการย้อนกลับระบบ
ลดความเสี่ยงจากการบูตล้มเหลวหลังอัปเดต
ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น
User-Mode Overlays เขียนด้วย Rust สำหรับการปรับแต่งระบบ
opm (Overlaid Package Manager) ทำงานร่วมกับ pacman
ระบบจัดการเหตุการณ์
ObsidianOS Plugins สำหรับการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของฮาร์ดแวร์และการเชื่อมต่อ
ใช้งานง่ายกว่าการแก้ไข systemd units
ข้อควรระวัง
ยังเป็น experimental distro ไม่เหมาะกับการใช้งานจริงในระบบหลัก
ฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างยังอยู่ในขั้นทดลอง อาจมีบั๊กหรือความไม่เสถียร
https://itsfoss.com/obsidianos-review/
ObsidianOS เป็นดิสโทร Linux สาย Arch ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการอัปเดตและการย้อนกลับระบบ โดยใช้แนวคิด A/B Partitioning ซึ่งปกติพบใน ChromeOS และ Android แต่ครั้งนี้ถูกนำมาใช้กับ Linux Desktop อย่างเต็มรูปแบบ จุดเด่นคือเมื่ออัปเดต ระบบจะเขียนข้อมูลไปยังพาร์ทิชันที่ไม่ได้ใช้งาน หากเกิดปัญหาสามารถบูตกลับไปยังพาร์ทิชันเดิมที่ทำงานได้ทันที ลดความเสี่ยงจากการอัปเดตที่ล้มเหลว
นอกจากนั้น ObsidianOS ยังมีฟีเจอร์ User-Mode Overlays ที่พัฒนาในภาษา Rust เพื่อสร้างเลเยอร์ไฟล์ระบบในระดับผู้ใช้ โดยไม่ต้องแก้ไข Kernel หรือใช้ไฟล์ระบบพิเศษ ทำให้สามารถทดลองปรับแต่งระบบได้โดยไม่กระทบฐานข้อมูลหลัก ฟีเจอร์นี้ยังเชื่อมโยงกับ opm (Overlaid Package Manager) ที่ทำงานร่วมกับ pacman เพื่อจัดการแพ็กเกจในรูปแบบ Overlay ลดความเสี่ยงจากการติดตั้งแพ็กเกจที่อาจทำให้ระบบเสียหาย
ObsidianOS ยังมาพร้อม ObsidianOS Plugins ซึ่งเป็นระบบจัดการเหตุการณ์ เช่น การเปลี่ยนสถานะแบตเตอรี่ หรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ โดยรวมเข้ากับเฟรมเวิร์กที่ใช้งานง่ายกว่าการแก้ไข systemd units แบบเดิม ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งระบบได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ ObsidianOS ยังอยู่ในช่วงพัฒนาและถูกมองว่าเป็น experimental distro ที่เหมาะสำหรับการทดสอบใน VM หรือเครื่องสำรองมากกว่าการใช้งานจริงในระบบหลัก อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานในการนำแนวคิดใหม่ ๆ เช่น A/B Partition และ Rust-based overlays เข้ามาใน Linux Desktop ทำให้ ObsidianOS ถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่น่าสนใจที่สุดในอนาคต
สรุปสาระสำคัญ
แนวคิดหลักของ ObsidianOS
ใช้ A/B Partitioning เพื่อความปลอดภัยในการอัปเดตและการย้อนกลับระบบ
ลดความเสี่ยงจากการบูตล้มเหลวหลังอัปเดต
ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น
User-Mode Overlays เขียนด้วย Rust สำหรับการปรับแต่งระบบ
opm (Overlaid Package Manager) ทำงานร่วมกับ pacman
ระบบจัดการเหตุการณ์
ObsidianOS Plugins สำหรับการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของฮาร์ดแวร์และการเชื่อมต่อ
ใช้งานง่ายกว่าการแก้ไข systemd units
ข้อควรระวัง
ยังเป็น experimental distro ไม่เหมาะกับการใช้งานจริงในระบบหลัก
ฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างยังอยู่ในขั้นทดลอง อาจมีบั๊กหรือความไม่เสถียร
https://itsfoss.com/obsidianos-review/
💻 ObsidianOS ดิสโทรใหม่ที่พลิกโฉมการจัดการระบบด้วย A/B Partition
ObsidianOS เป็นดิสโทร Linux สาย Arch ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการอัปเดตและการย้อนกลับระบบ โดยใช้แนวคิด A/B Partitioning ซึ่งปกติพบใน ChromeOS และ Android แต่ครั้งนี้ถูกนำมาใช้กับ Linux Desktop อย่างเต็มรูปแบบ จุดเด่นคือเมื่ออัปเดต ระบบจะเขียนข้อมูลไปยังพาร์ทิชันที่ไม่ได้ใช้งาน หากเกิดปัญหาสามารถบูตกลับไปยังพาร์ทิชันเดิมที่ทำงานได้ทันที ลดความเสี่ยงจากการอัปเดตที่ล้มเหลว
นอกจากนั้น ObsidianOS ยังมีฟีเจอร์ User-Mode Overlays ที่พัฒนาในภาษา Rust เพื่อสร้างเลเยอร์ไฟล์ระบบในระดับผู้ใช้ โดยไม่ต้องแก้ไข Kernel หรือใช้ไฟล์ระบบพิเศษ ทำให้สามารถทดลองปรับแต่งระบบได้โดยไม่กระทบฐานข้อมูลหลัก ฟีเจอร์นี้ยังเชื่อมโยงกับ opm (Overlaid Package Manager) ที่ทำงานร่วมกับ pacman เพื่อจัดการแพ็กเกจในรูปแบบ Overlay ลดความเสี่ยงจากการติดตั้งแพ็กเกจที่อาจทำให้ระบบเสียหาย
ObsidianOS ยังมาพร้อม ObsidianOS Plugins ซึ่งเป็นระบบจัดการเหตุการณ์ เช่น การเปลี่ยนสถานะแบตเตอรี่ หรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ โดยรวมเข้ากับเฟรมเวิร์กที่ใช้งานง่ายกว่าการแก้ไข systemd units แบบเดิม ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งระบบได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ ObsidianOS ยังอยู่ในช่วงพัฒนาและถูกมองว่าเป็น experimental distro ที่เหมาะสำหรับการทดสอบใน VM หรือเครื่องสำรองมากกว่าการใช้งานจริงในระบบหลัก อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานในการนำแนวคิดใหม่ ๆ เช่น A/B Partition และ Rust-based overlays เข้ามาใน Linux Desktop ทำให้ ObsidianOS ถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่น่าสนใจที่สุดในอนาคต
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ แนวคิดหลักของ ObsidianOS
➡️ ใช้ A/B Partitioning เพื่อความปลอดภัยในการอัปเดตและการย้อนกลับระบบ
➡️ ลดความเสี่ยงจากการบูตล้มเหลวหลังอัปเดต
✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น
➡️ User-Mode Overlays เขียนด้วย Rust สำหรับการปรับแต่งระบบ
➡️ opm (Overlaid Package Manager) ทำงานร่วมกับ pacman
✅ ระบบจัดการเหตุการณ์
➡️ ObsidianOS Plugins สำหรับการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของฮาร์ดแวร์และการเชื่อมต่อ
➡️ ใช้งานง่ายกว่าการแก้ไข systemd units
‼️ ข้อควรระวัง
⛔ ยังเป็น experimental distro ไม่เหมาะกับการใช้งานจริงในระบบหลัก
⛔ ฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างยังอยู่ในขั้นทดลอง อาจมีบั๊กหรือความไม่เสถียร
https://itsfoss.com/obsidianos-review/
0 Comments
0 Shares
33 Views
0 Reviews