• ย้อนมองพรรคประชาธิปัตย์ จากเสาหลักสู่อนาคตที่เลือนราง

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000108553
    ย้อนมองพรรคประชาธิปัตย์ จากเสาหลักสู่อนาคตที่เลือนราง บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000108553
    MGRONLINE.COM
    ย้อนมองพรรคประชาธิปัตย์ จากเสาหลักสู่อนาคตที่เลือนราง
    ผมน่าจะเป็นคนที่พูดถึงพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุดคนหนึ่ง เหนือเหตุผลอื่นใดคือ ผมมีความผูกพันกับพรรคนี้มาตั้งแต่เด็กๆ
    0 Comments 0 Shares 4 Views 0 Reviews
  • คลิปเสียงฉาว! 'พันตรีชุน' ผู้พันเขมร สั่งวาง 'ทุ่นระเบิด PMN-2' ก่อน 'พลทหาร ธนพัฒน์' เหยียบในพื้นที่ 'ช่องบก', เพจทหารเผยคลิปเสียงอ้างเป็นคำสั่งวางทุ่นระเบิด PMN-2 ในช่องบก ก่อนเหตุพลทหารไทยเหยียบได้รับบาดเจ็บสาหัส ชี้อาจเป็นการวางระเบิดใหม่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108647
    .
    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #กัมพูชา #ชายแดน #ทุ่นระเบิด #truthfromthailand #newsupdate
    คลิปเสียงฉาว! 'พันตรีชุน' ผู้พันเขมร สั่งวาง 'ทุ่นระเบิด PMN-2' ก่อน 'พลทหาร ธนพัฒน์' เหยียบในพื้นที่ 'ช่องบก', เพจทหารเผยคลิปเสียงอ้างเป็นคำสั่งวางทุ่นระเบิด PMN-2 ในช่องบก ก่อนเหตุพลทหารไทยเหยียบได้รับบาดเจ็บสาหัส ชี้อาจเป็นการวางระเบิดใหม่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108647 . #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #กัมพูชา #ชายแดน #ทุ่นระเบิด #truthfromthailand #newsupdate
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews
  • เพจ ทบ.จับโป๊ะ “เขมรตุยทิพย์” ตั้งศพเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานตอนแดดยังจ้า แต่เหตุการณ์ยุติตอน 5 โมงเย็น, เพจ “กองทัพบก ทันกระแส” ตั้งข้อสังเกตหลายจุดพิรุธกรณีกัมพูชาอ้างชาวบ้านถูกทหารไทยยิงตาย ทั้งภาพงานศพที่โพสต์ตั้งแต่ช่วงบ่ายก่อนเหตุปะทะจะยุติ ยันไม่มีภาพผู้เสียชีวิตและเผาศพภายในไม่ถึง 24 ชั่วโมง
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108690
    .
    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #ชายแดน #กัมพูชา #truthfromthailand #newsupdate
    เพจ ทบ.จับโป๊ะ “เขมรตุยทิพย์” ตั้งศพเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานตอนแดดยังจ้า แต่เหตุการณ์ยุติตอน 5 โมงเย็น, เพจ “กองทัพบก ทันกระแส” ตั้งข้อสังเกตหลายจุดพิรุธกรณีกัมพูชาอ้างชาวบ้านถูกทหารไทยยิงตาย ทั้งภาพงานศพที่โพสต์ตั้งแต่ช่วงบ่ายก่อนเหตุปะทะจะยุติ ยันไม่มีภาพผู้เสียชีวิตและเผาศพภายในไม่ถึง 24 ชั่วโมง . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108690 . #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #ชายแดน #กัมพูชา #truthfromthailand #newsupdate
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • “โจ๊ก-โรม”เปิดเวที กมธ.ปฏิบัติการ “ข้าขั่ว เอ็งก็เลว” ให้ “พิมพ์วิไล” โยนชั่วส่งส่วยตำรวจคู่แค้น ** ปัญหาเล่ห์เขมรจ้องฮุบแหล่งก๊าซในทะเล “พีระพันธุ์” ตอนเป็นรัฐบาลไม่พูด ทำไมเพิ่งมาพูดเอาตอนนี้, เวทีกมธ.ความมั่นคงเดือด “โจ๊ก–โรม” เปิดพื้นที่ให้พิมพ์วิไลโยงเส้นเงินส่วยเว็บพนันใส่ตำรวจคู่ขัดแย้ง อีกด้าน “พีระพันธุ์” เตือนเขมรจ้องขยับเส้นเขตแดนฮุบแหล่งก๊าซ แต่ถูกย้อนว่าทำไมเงียบตอนยังเป็นรัฐบาล
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108719
    .
    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #การเมือง #ตำรวจ #ชายแดน #truthfromthailand #newsupdate
    “โจ๊ก-โรม”เปิดเวที กมธ.ปฏิบัติการ “ข้าขั่ว เอ็งก็เลว” ให้ “พิมพ์วิไล” โยนชั่วส่งส่วยตำรวจคู่แค้น ** ปัญหาเล่ห์เขมรจ้องฮุบแหล่งก๊าซในทะเล “พีระพันธุ์” ตอนเป็นรัฐบาลไม่พูด ทำไมเพิ่งมาพูดเอาตอนนี้, เวทีกมธ.ความมั่นคงเดือด “โจ๊ก–โรม” เปิดพื้นที่ให้พิมพ์วิไลโยงเส้นเงินส่วยเว็บพนันใส่ตำรวจคู่ขัดแย้ง อีกด้าน “พีระพันธุ์” เตือนเขมรจ้องขยับเส้นเขตแดนฮุบแหล่งก๊าซ แต่ถูกย้อนว่าทำไมเงียบตอนยังเป็นรัฐบาล . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108719 . #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #การเมือง #ตำรวจ #ชายแดน #truthfromthailand #newsupdate
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • เผยชื่อแล้ว!สหรัฐฯคว่ำบาตรบริษัทไทยและคนไทย ฐานเกี่ยวข้องสแกมเมอร์, สหรัฐฯคว่ำบาตรบุคคล 5 รายและบริษัท 3 แห่งในไทย–พม่า กล่าวหาพัวพันศูนย์สแกมออนไลน์และแรงงานบังคับ รวมถึงบริษัทไทยที่เชื่อมโยงเครือข่ายอาชญากรรมต่างชาติ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108715
    .
    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #สหรัฐฯ #คว่ำบาตร #สแกมเมอร์ #truthfromthailand #newsupdate
    เผยชื่อแล้ว!สหรัฐฯคว่ำบาตรบริษัทไทยและคนไทย ฐานเกี่ยวข้องสแกมเมอร์, สหรัฐฯคว่ำบาตรบุคคล 5 รายและบริษัท 3 แห่งในไทย–พม่า กล่าวหาพัวพันศูนย์สแกมออนไลน์และแรงงานบังคับ รวมถึงบริษัทไทยที่เชื่อมโยงเครือข่ายอาชญากรรมต่างชาติ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108715 . #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #ข่าว #สหรัฐฯ #คว่ำบาตร #สแกมเมอร์ #truthfromthailand #newsupdate
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • เปิดสัมพันธ์ “สนธิ-โจ๊ก” Ep319 (live)
    .
    SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep319 (live)
    เปิดสัมพันธ์ “สนธิ–โจ๊ก” กับความจริงจากปากสนธิ ที่หลายคนไม่เคยได้ยิน!
    .
    คลิก https://www.youtube.com/watch?v=erQdgIZUelM
    .
    สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    🔴เปิดสัมพันธ์ “สนธิ-โจ๊ก” Ep319 (live) . SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep319 (live) เปิดสัมพันธ์ “สนธิ–โจ๊ก” กับความจริงจากปากสนธิ ที่หลายคนไม่เคยได้ยิน! . คลิก https://www.youtube.com/watch?v=erQdgIZUelM . สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • ข่าวเด่น: Google เตรียมตรวจสอบการ Sideload แอป Android พร้อมช่องทางพิเศษสำหรับ Power Users

    Google ประกาศนโยบายใหม่ที่จะบังคับให้แอปที่ติดตั้งนอก Play Store ต้องผ่านการตรวจสอบตัวตนและการเซ็นโค้ดก่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของแอปที่เป็นอันตราย โดยมีการเตรียม “ช่องทางพิเศษ” สำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ระดับสูงที่ยังต้องการติดตั้งแอปโดยไม่ผ่านการตรวจสอบเต็มรูปแบบ

    นโยบายนี้สร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก เนื่องจากอาจกระทบต่อความเปิดกว้างของระบบ Android ที่เคยเป็นจุดแข็ง แต่ Google ยืนยันว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการหลอกลวงและการโจมตีทางไซเบอร์ที่กำลังแพร่หลาย โดยเฉพาะในภูมิภาคที่ผู้ใช้ใหม่จำนวนมากเพิ่งเข้าถึงโลกดิจิทัล

    นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่า Google จะจัดทำบัญชีพิเศษสำหรับนักเรียนและผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการทดลอง เพื่อให้สามารถแจกจ่ายแอปได้ในวงจำกัดโดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบเต็มรูปแบบ

    สาระเพิ่มเติมจาก Internet
    แนวโน้มการควบคุมการ sideload แอปกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เช่น Apple ก็มีมาตรการเข้มงวดกับการติดตั้งแอปนอก App Store
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่าการบังคับตรวจสอบอาจช่วยลดการโจมตีแบบ phishing และ malware ได้ แต่ก็อาจทำให้ผู้ใช้สูญเสียเสรีภาพในการเลือกใช้แอป
    มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมแอปพลิเคชันอิสระ (indie apps) อาจได้รับผลกระทบหนัก เพราะต้นทุนการตรวจสอบและการยืนยันตัวตนสูงขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    นโยบายใหม่ของ Google เกี่ยวกับการ sideload แอป Android
    ต้องมีการตรวจสอบตัวตนและการเซ็นโค้ดก่อนติดตั้ง
    มีช่องทางพิเศษสำหรับนักพัฒนาและ Power Users

    บัญชีพิเศษสำหรับนักเรียนและผู้ใช้ทั่วไป
    สามารถแจกจ่ายแอปได้ในวงจำกัดโดยไม่ต้องตรวจสอบเต็มรูปแบบ

    เป้าหมายหลักของนโยบาย
    ลดการแพร่กระจายของแอปที่เป็นอันตราย
    ป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการหลอกลวง

    คำเตือนจากนักวิจัยด้านความปลอดภัย
    ผู้ใช้ทั่วไปอาจสูญเสียเสรีภาพในการติดตั้งแอปจากแหล่งใดก็ได้
    อุตสาหกรรมแอปอิสระอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนการตรวจสอบที่สูงขึ้น

    https://securityonline.info/android-sideloading-crackdown-google-to-verify-all-apps-but-promises-power-user-bypass/
    🛡️ ข่าวเด่น: Google เตรียมตรวจสอบการ Sideload แอป Android พร้อมช่องทางพิเศษสำหรับ Power Users Google ประกาศนโยบายใหม่ที่จะบังคับให้แอปที่ติดตั้งนอก Play Store ต้องผ่านการตรวจสอบตัวตนและการเซ็นโค้ดก่อน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของแอปที่เป็นอันตราย โดยมีการเตรียม “ช่องทางพิเศษ” สำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ระดับสูงที่ยังต้องการติดตั้งแอปโดยไม่ผ่านการตรวจสอบเต็มรูปแบบ นโยบายนี้สร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก เนื่องจากอาจกระทบต่อความเปิดกว้างของระบบ Android ที่เคยเป็นจุดแข็ง แต่ Google ยืนยันว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการหลอกลวงและการโจมตีทางไซเบอร์ที่กำลังแพร่หลาย โดยเฉพาะในภูมิภาคที่ผู้ใช้ใหม่จำนวนมากเพิ่งเข้าถึงโลกดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่า Google จะจัดทำบัญชีพิเศษสำหรับนักเรียนและผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการทดลอง เพื่อให้สามารถแจกจ่ายแอปได้ในวงจำกัดโดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบเต็มรูปแบบ 🔎 สาระเพิ่มเติมจาก Internet 🔰 แนวโน้มการควบคุมการ sideload แอปกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เช่น Apple ก็มีมาตรการเข้มงวดกับการติดตั้งแอปนอก App Store 🔰 นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่าการบังคับตรวจสอบอาจช่วยลดการโจมตีแบบ phishing และ malware ได้ แต่ก็อาจทำให้ผู้ใช้สูญเสียเสรีภาพในการเลือกใช้แอป 🔰 มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมแอปพลิเคชันอิสระ (indie apps) อาจได้รับผลกระทบหนัก เพราะต้นทุนการตรวจสอบและการยืนยันตัวตนสูงขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ นโยบายใหม่ของ Google เกี่ยวกับการ sideload แอป Android ➡️ ต้องมีการตรวจสอบตัวตนและการเซ็นโค้ดก่อนติดตั้ง ➡️ มีช่องทางพิเศษสำหรับนักพัฒนาและ Power Users ✅ บัญชีพิเศษสำหรับนักเรียนและผู้ใช้ทั่วไป ➡️ สามารถแจกจ่ายแอปได้ในวงจำกัดโดยไม่ต้องตรวจสอบเต็มรูปแบบ ✅ เป้าหมายหลักของนโยบาย ➡️ ลดการแพร่กระจายของแอปที่เป็นอันตราย ➡️ ป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการหลอกลวง ‼️ คำเตือนจากนักวิจัยด้านความปลอดภัย ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปอาจสูญเสียเสรีภาพในการติดตั้งแอปจากแหล่งใดก็ได้ ⛔ อุตสาหกรรมแอปอิสระอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนการตรวจสอบที่สูงขึ้น https://securityonline.info/android-sideloading-crackdown-google-to-verify-all-apps-but-promises-power-user-bypass/
    SECURITYONLINE.INFO
    Android Sideloading Crackdown: Google to Verify All Apps, But Promises Power-User Bypass
    Google will soon require all sideloaded Android apps to pass verification and code signing to combat fraud. However, the company is developing an "advanced process" for power users to bypass this.
    0 Comments 0 Shares 1 Views 0 Reviews
  • Seagate Exos 4U100 – ยุคใหม่ของการจัดเก็บข้อมูล AI และ Edge

    Seagate เปิดตัวแพลตฟอร์ม Exos 4U100 และ 4U74 JBOD ก่อนงาน SC25 Supercomputing Conference โดยชูจุดเด่นคือความสามารถในการรองรับข้อมูลมหาศาลที่เกิดจากการใช้งาน Generative AI และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบกระจาย (distributed storage architectures)

    คุณสมบัติหลักที่น่าสนใจ:
    ความจุสูงสุด 3.2 PB ในแชสซีเดียว
    เทคโนโลยี Mozaic HAMR และสถาปัตยกรรม SAS-4 JBOD
    ประสิทธิภาพการระบายความร้อนดีขึ้น 70% และลดการใช้พลังงานลง 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
    รองรับทั้ง SAS และ SATA พร้อมดีไซน์ tool-less สำหรับการบำรุงรักษา
    ระบบความปลอดภัยระดับองค์กร เช่น Secure Boot, Seagate Secure, Redfish management และการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้าน data sovereignty

    สรุปสาระสำคัญ
    Seagate Exos 4U100 เปิดตัวเพื่อรองรับ AI และ Edge Data Center
    ความจุสูงถึง 3.2 PB ในแชสซีเดียว
    ใช้เทคโนโลยี Mozaic HAMR และ SAS-4 JBOD

    ประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน
    การระบายความร้อนดีขึ้น 70%
    ลดการใช้พลังงานลง 30%

    ความยืดหยุ่นในการติดตั้งและบำรุงรักษา
    รองรับ SAS/SATA และ rack depth หลากหลาย
    ดีไซน์ tool-less ลดเวลาในการซ่อมบำรุง

    ระบบความปลอดภัยและการจัดการข้อมูล
    Secure Boot และ Seagate Secure
    รองรับ Redfish management และ data sovereignty

    คำเตือนจากแนวโน้มอุตสาหกรรม
    ความต้องการจัดเก็บข้อมูล AI ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานสูงขึ้น
    หากองค์กรไม่ปรับตัว อาจเสี่ยงต่อการขาดความสามารถในการแข่งขันด้านข้อมูล

    https://securityonline.info/seagate-exos-4u100-unveiled-3-2-pb-storage-density-for-ai-and-edge-data-centers/
    💾 Seagate Exos 4U100 – ยุคใหม่ของการจัดเก็บข้อมูล AI และ Edge Seagate เปิดตัวแพลตฟอร์ม Exos 4U100 และ 4U74 JBOD ก่อนงาน SC25 Supercomputing Conference โดยชูจุดเด่นคือความสามารถในการรองรับข้อมูลมหาศาลที่เกิดจากการใช้งาน Generative AI และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบกระจาย (distributed storage architectures) คุณสมบัติหลักที่น่าสนใจ: 🔰 ความจุสูงสุด 3.2 PB ในแชสซีเดียว 🔰 เทคโนโลยี Mozaic HAMR และสถาปัตยกรรม SAS-4 JBOD 🔰 ประสิทธิภาพการระบายความร้อนดีขึ้น 70% และลดการใช้พลังงานลง 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน 🔰 รองรับทั้ง SAS และ SATA พร้อมดีไซน์ tool-less สำหรับการบำรุงรักษา 🔰 ระบบความปลอดภัยระดับองค์กร เช่น Secure Boot, Seagate Secure, Redfish management และการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้าน data sovereignty 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Seagate Exos 4U100 เปิดตัวเพื่อรองรับ AI และ Edge Data Center ➡️ ความจุสูงถึง 3.2 PB ในแชสซีเดียว ➡️ ใช้เทคโนโลยี Mozaic HAMR และ SAS-4 JBOD ✅ ประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน ➡️ การระบายความร้อนดีขึ้น 70% ➡️ ลดการใช้พลังงานลง 30% ✅ ความยืดหยุ่นในการติดตั้งและบำรุงรักษา ➡️ รองรับ SAS/SATA และ rack depth หลากหลาย ➡️ ดีไซน์ tool-less ลดเวลาในการซ่อมบำรุง ✅ ระบบความปลอดภัยและการจัดการข้อมูล ➡️ Secure Boot และ Seagate Secure ➡️ รองรับ Redfish management และ data sovereignty ‼️ คำเตือนจากแนวโน้มอุตสาหกรรม ⛔ ความต้องการจัดเก็บข้อมูล AI ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานสูงขึ้น ⛔ หากองค์กรไม่ปรับตัว อาจเสี่ยงต่อการขาดความสามารถในการแข่งขันด้านข้อมูล https://securityonline.info/seagate-exos-4u100-unveiled-3-2-pb-storage-density-for-ai-and-edge-data-centers/
    SECURITYONLINE.INFO
    Seagate Exos 4U100 Unveiled: 3.2 PB Storage Density for AI and Edge Data Centers
    Seagate's new Exos 4U100 JBOD system offers 3.2 PB of high-density storage in a single chassis for AI and edge data centers, featuring HAMR and 30% lower power use.
    0 Comments 0 Shares 1 Views 0 Reviews
  • Windows 11 รวมพลังกับ Password Manager – ยุคใหม่ของ Passkeys

    Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ Passkeys ที่เก็บไว้ใน Password Manager โดยตรงในการล็อกอินเข้าสู่ระบบและเว็บไซต์ โดยไม่ต้องสร้าง Passkey แยกสำหรับ Windows อีกต่อไป

    รายละเอียดสำคัญ:
    ก่อนหน้านี้ Windows 11 ต้องการให้ผู้ใช้สร้าง Passkey แยกที่ผูกกับอุปกรณ์
    ในอัปเดตล่าสุด ผู้ใช้สามารถใช้ Passkey ที่จัดเก็บใน Password Manager ได้ทันที
    ระบบยังคงใช้ Windows Hello (PIN หรือ Face Unlock) เพื่อยืนยันตัวตน แต่การตรวจสอบจะดำเนินการผ่าน Password Manager
    ฟีเจอร์นี้เริ่มรองรับใน 1Password และ Bitwarden และจะขยายไปยังผู้ให้บริการอื่นในอนาคต
    จุดเด่นคือ ความสะดวกในการซิงก์ Passkeys ข้ามอุปกรณ์ และลดความซับซ้อนในการจัดการ

    สรุปสาระสำคัญ
    Windows 11 เพิ่ม API สำหรับ Password Manager
    ใช้ Passkeys ที่จัดเก็บใน Password Manager ได้โดยตรง
    ไม่ต้องสร้าง Passkey แยกสำหรับ Windows

    การทำงานร่วมกับ Windows Hello
    ยังคงใช้ PIN หรือ Face Unlock เพื่อยืนยันตัวตน
    การตรวจสอบดำเนินการผ่าน Password Manager

    ผู้ให้บริการที่รองรับแล้ว
    1Password
    Bitwarden

    ข้อดีของฟีเจอร์ใหม่
    ลดความซับซ้อนในการจัดการ Passkeys
    ซิงก์ข้ามอุปกรณ์ได้สะดวกขึ้น

    คำเตือนและข้อจำกัด
    ฟีเจอร์ยังอยู่ในช่วงทดสอบ อาจมีปัญหาการยืนยันตัวตนล้มเหลว
    ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้พัฒนา Password Manager เพื่อปรับปรุงต่อเนื่อง

    https://securityonline.info/no-more-separate-passkeys-windows-11-adds-api-for-password-manager-integration/
    🔐 Windows 11 รวมพลังกับ Password Manager – ยุคใหม่ของ Passkeys Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ Passkeys ที่เก็บไว้ใน Password Manager โดยตรงในการล็อกอินเข้าสู่ระบบและเว็บไซต์ โดยไม่ต้องสร้าง Passkey แยกสำหรับ Windows อีกต่อไป รายละเอียดสำคัญ: 🔰 ก่อนหน้านี้ Windows 11 ต้องการให้ผู้ใช้สร้าง Passkey แยกที่ผูกกับอุปกรณ์ 🔰 ในอัปเดตล่าสุด ผู้ใช้สามารถใช้ Passkey ที่จัดเก็บใน Password Manager ได้ทันที 🔰 ระบบยังคงใช้ Windows Hello (PIN หรือ Face Unlock) เพื่อยืนยันตัวตน แต่การตรวจสอบจะดำเนินการผ่าน Password Manager 🔰 ฟีเจอร์นี้เริ่มรองรับใน 1Password และ Bitwarden และจะขยายไปยังผู้ให้บริการอื่นในอนาคต 🔰 จุดเด่นคือ ความสะดวกในการซิงก์ Passkeys ข้ามอุปกรณ์ และลดความซับซ้อนในการจัดการ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Windows 11 เพิ่ม API สำหรับ Password Manager ➡️ ใช้ Passkeys ที่จัดเก็บใน Password Manager ได้โดยตรง ➡️ ไม่ต้องสร้าง Passkey แยกสำหรับ Windows ✅ การทำงานร่วมกับ Windows Hello ➡️ ยังคงใช้ PIN หรือ Face Unlock เพื่อยืนยันตัวตน ➡️ การตรวจสอบดำเนินการผ่าน Password Manager ✅ ผู้ให้บริการที่รองรับแล้ว ➡️ 1Password ➡️ Bitwarden ✅ ข้อดีของฟีเจอร์ใหม่ ➡️ ลดความซับซ้อนในการจัดการ Passkeys ➡️ ซิงก์ข้ามอุปกรณ์ได้สะดวกขึ้น ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ ฟีเจอร์ยังอยู่ในช่วงทดสอบ อาจมีปัญหาการยืนยันตัวตนล้มเหลว ⛔ ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้พัฒนา Password Manager เพื่อปรับปรุงต่อเนื่อง https://securityonline.info/no-more-separate-passkeys-windows-11-adds-api-for-password-manager-integration/
    SECURITYONLINE.INFO
    No More Separate Passkeys: Windows 11 Adds API for Password Manager Integration
    Windows 11 now supports a new API allowing password managers (like 1Password, Bitwarden) to handle passkey authentication directly, simplifying cross-platform sign-in.
    0 Comments 0 Shares 0 Views 0 Reviews
  • Microsoft กำลังผลักดัน Windows 11 ให้กลายเป็น Agentic OS

    Microsoft กำลังผลักดัน Windows 11 ให้กลายเป็น Agentic OS ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ผ่าน Copilot Vision และ Model Context Protocol (MCP) แต่แนวคิดนี้กำลังเผชิญกระแสต้านจากผู้ใช้จำนวนมากที่กังวลเรื่องความซับซ้อน ความบวมของระบบ และความปลอดภัย.

    Windows Agentic OS: ยุคใหม่ของระบบปฏิบัติการ
    Microsoft เปิดตัวแนวคิด Agentic OS โดยมีเป้าหมายให้ Windows 11 ไม่ใช่แค่ระบบปฏิบัติการทั่วไป แต่เป็นแพลตฟอร์มที่ AI สามารถ “เข้าใจเจตนา” ของผู้ใช้และทำงานแทนได้ เช่น การจัดการไฟล์ การเปิดแอป หรือแม้แต่การวิเคราะห์ข้อมูลบนหน้าจอผ่าน Copilot Vision. ฟีเจอร์นี้จะทำให้ Windows สามารถ “เห็น” และ “ช่วยคิด” ได้มากกว่าที่เคย.

    Model Context Protocol (MCP): กุญแจเชื่อมต่อ AI กับแอป
    หัวใจสำคัญของ Agentic OS คือ MCP ซึ่งเป็นโปรโตคอลมาตรฐานที่เปิดโอกาสให้ AI agents เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Windows ได้โดยตรง เช่น Word, Excel หรือแม้แต่แอป third-party. MCP จะทำให้ AI สามารถเรียกใช้ฟังก์ชันของแอปได้อย่างปลอดภัยและมีการควบคุม. อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าหากไม่มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด อาจเกิดการโจมตีรูปแบบใหม่ เช่น prompt injection หรือ tool poisoning.

    Copilot Vision: ผู้ช่วยที่มี “ตา”
    Copilot Vision เป็นฟีเจอร์ที่ให้ AI “มองเห็น” สิ่งที่อยู่บนหน้าจอของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน เพื่อช่วยอธิบายหรือแนะนำขั้นตอนการใช้งานแบบเรียลไทม์. Microsoft ยืนยันว่า Vision จะไม่เก็บข้อมูลภาพหรือเสียงหลังจบเซสชัน แต่ผู้ใช้บางส่วนยังคงกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและการถูกติดตามโดยไม่ตั้งใจ.

    กระแสต้านจากผู้ใช้
    แม้ Microsoft จะมองว่า Agentic OS คืออนาคต แต่ผู้ใช้จำนวนมากกลับไม่เห็นด้วย. บนโซเชียลมีเดียมีเสียงวิจารณ์ว่า Windows ควรแก้ไขปัญหาพื้นฐาน เช่น UI ที่ไม่เสถียรและบั๊กต่าง ๆ ก่อนจะเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ทำให้ระบบ “บวม” และซับซ้อนขึ้น. บางคนถึงขั้นประกาศเลิกใช้ Windows และหันไปใช้ Linux หรือ macOS แทน.

    Windows Agentic OS กำลังมา
    เปลี่ยน Windows 11 ให้เป็นแพลตฟอร์ม AI-first
    ใช้ Copilot Vision และ MCP เป็นแกนหลัก

    Model Context Protocol (MCP)
    เชื่อมต่อ AI agents กับแอป Windows ได้โดยตรง
    เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสร้าง agentic experiences

    Copilot Vision
    ให้ AI “เห็น” หน้าจอและช่วยผู้ใช้แบบเรียลไทม์
    ไม่เก็บข้อมูลภาพหรือเสียงหลังจบเซสชัน

    ความเสี่ยงและข้อกังวล
    อาจเกิดการโจมตีใหม่ เช่น prompt injection หรือ credential leakage
    ผู้ใช้กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและระบบที่บวมเกินไป
    กระแสต้านแรงบนโซเชียลมีเดีย ถึงขั้นมีผู้ใช้ย้ายไป Linux/macOS

    https://securityonline.info/windows-agentic-os-revealed-microsoft-aims-to-transform-windows-11-into-an-ai-first-platform/
    🪟 Microsoft กำลังผลักดัน Windows 11 ให้กลายเป็น Agentic OS Microsoft กำลังผลักดัน Windows 11 ให้กลายเป็น Agentic OS ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ผ่าน Copilot Vision และ Model Context Protocol (MCP) แต่แนวคิดนี้กำลังเผชิญกระแสต้านจากผู้ใช้จำนวนมากที่กังวลเรื่องความซับซ้อน ความบวมของระบบ และความปลอดภัย. 🖥️ Windows Agentic OS: ยุคใหม่ของระบบปฏิบัติการ Microsoft เปิดตัวแนวคิด Agentic OS โดยมีเป้าหมายให้ Windows 11 ไม่ใช่แค่ระบบปฏิบัติการทั่วไป แต่เป็นแพลตฟอร์มที่ AI สามารถ “เข้าใจเจตนา” ของผู้ใช้และทำงานแทนได้ เช่น การจัดการไฟล์ การเปิดแอป หรือแม้แต่การวิเคราะห์ข้อมูลบนหน้าจอผ่าน Copilot Vision. ฟีเจอร์นี้จะทำให้ Windows สามารถ “เห็น” และ “ช่วยคิด” ได้มากกว่าที่เคย. 🔗 Model Context Protocol (MCP): กุญแจเชื่อมต่อ AI กับแอป หัวใจสำคัญของ Agentic OS คือ MCP ซึ่งเป็นโปรโตคอลมาตรฐานที่เปิดโอกาสให้ AI agents เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Windows ได้โดยตรง เช่น Word, Excel หรือแม้แต่แอป third-party. MCP จะทำให้ AI สามารถเรียกใช้ฟังก์ชันของแอปได้อย่างปลอดภัยและมีการควบคุม. อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าหากไม่มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด อาจเกิดการโจมตีรูปแบบใหม่ เช่น prompt injection หรือ tool poisoning. 👁️ Copilot Vision: ผู้ช่วยที่มี “ตา” Copilot Vision เป็นฟีเจอร์ที่ให้ AI “มองเห็น” สิ่งที่อยู่บนหน้าจอของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน เพื่อช่วยอธิบายหรือแนะนำขั้นตอนการใช้งานแบบเรียลไทม์. Microsoft ยืนยันว่า Vision จะไม่เก็บข้อมูลภาพหรือเสียงหลังจบเซสชัน แต่ผู้ใช้บางส่วนยังคงกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและการถูกติดตามโดยไม่ตั้งใจ. ⚡ กระแสต้านจากผู้ใช้ แม้ Microsoft จะมองว่า Agentic OS คืออนาคต แต่ผู้ใช้จำนวนมากกลับไม่เห็นด้วย. บนโซเชียลมีเดียมีเสียงวิจารณ์ว่า Windows ควรแก้ไขปัญหาพื้นฐาน เช่น UI ที่ไม่เสถียรและบั๊กต่าง ๆ ก่อนจะเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ทำให้ระบบ “บวม” และซับซ้อนขึ้น. บางคนถึงขั้นประกาศเลิกใช้ Windows และหันไปใช้ Linux หรือ macOS แทน. ✅ Windows Agentic OS กำลังมา ➡️ เปลี่ยน Windows 11 ให้เป็นแพลตฟอร์ม AI-first ➡️ ใช้ Copilot Vision และ MCP เป็นแกนหลัก ✅ Model Context Protocol (MCP) ➡️ เชื่อมต่อ AI agents กับแอป Windows ได้โดยตรง ➡️ เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสร้าง agentic experiences ✅ Copilot Vision ➡️ ให้ AI “เห็น” หน้าจอและช่วยผู้ใช้แบบเรียลไทม์ ➡️ ไม่เก็บข้อมูลภาพหรือเสียงหลังจบเซสชัน ‼️ ความเสี่ยงและข้อกังวล ⛔ อาจเกิดการโจมตีใหม่ เช่น prompt injection หรือ credential leakage ⛔ ผู้ใช้กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและระบบที่บวมเกินไป ⛔ กระแสต้านแรงบนโซเชียลมีเดีย ถึงขั้นมีผู้ใช้ย้ายไป Linux/macOS https://securityonline.info/windows-agentic-os-revealed-microsoft-aims-to-transform-windows-11-into-an-ai-first-platform/
    SECURITYONLINE.INFO
    Windows Agentic OS Revealed: Microsoft Aims to Transform Windows 11 into an AI-First Platform
    Microsoft revealed plans for an "Agentic OS," transforming Windows 11 into an AI-first platform using the Model Context Protocol (MCP) to let AI agents interact with native apps.
    0 Comments 0 Shares 0 Views 0 Reviews
  • มัลแวร์บน macOS ผ่านไฟล์ AppleScript

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแฮกเกอร์เริ่มใช้ไฟล์ AppleScript (.scpt) เป็นเครื่องมือใหม่ในการแพร่กระจายมัลแวร์ โดยปลอมตัวเป็นเอกสาร Word, PowerPoint หรือแม้แต่ตัวติดตั้ง Zoom และ Teams SDK. เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์เหล่านี้ใน Script Editor.app และกดรัน (⌘+R) โค้ดที่ซ่อนอยู่ก็จะถูกทำงานทันที.

    เทคนิคการหลอกลวงที่แนบเนียน
    ไฟล์ .scpt ถูกออกแบบให้มี คอมเมนต์ปลอมและบรรทัดว่างจำนวนมาก เพื่อดันโค้ดอันตรายลงไปด้านล่าง ทำให้ผู้ใช้ไม่เห็นเนื้อหาที่แท้จริง. นอกจากนี้ยังมีการใช้ ไอคอนปลอม เพื่อทำให้ไฟล์ดูเหมือนเอกสารหรือโปรแกรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Apeiron_Token_Transfer_Proposal.docx.scpt หรือ Stable1_Investment_Proposal.pptx.scpt.

    การแพร่กระจายสู่มัลแวร์เชิงพาณิชย์
    เดิมทีเทคนิคนี้ถูกใช้โดยกลุ่ม APT ระดับสูง แต่ปัจจุบันเริ่มถูกนำมาใช้ใน มัลแวร์เชิงพาณิชย์ เช่น Odyssey Stealer และ MacSync Stealer. การแพร่กระจายนี้แสดงให้เห็นถึงการ “ไหลลง” ของเทคนิคขั้นสูงสู่กลุ่มผู้โจมตีทั่วไป ทำให้ภัยคุกคามต่อผู้ใช้ macOS เพิ่มขึ้นอย่างมาก.

    ความเสี่ยงที่ผู้ใช้ต้องระวัง
    แม้ Apple จะปรับปรุงระบบ Gatekeeper เพื่อลดช่องโหว่ แต่ไฟล์ .scpt ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับได้ และบางตัวอย่างยังไม่ถูกตรวจพบใน VirusTotal. สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว.

    การใช้ AppleScript (.scpt) ในการแพร่มัลแวร์
    ปลอมเป็นเอกสาร Word/PowerPoint หรือโปรแกรมติดตั้ง Zoom, Teams
    เปิดใน Script Editor และรันโค้ดได้ทันที

    เทคนิคการซ่อนโค้ด
    ใช้บรรทัดว่างและคอมเมนต์ปลอมเพื่อซ่อนโค้ดจริง
    ใช้ไอคอนปลอมให้ดูเหมือนเอกสารหรือแอปถูกต้อง

    การแพร่กระจายสู่มัลแวร์เชิงพาณิชย์
    จาก APT สู่มัลแวร์ทั่วไป เช่น Odyssey Stealer และ MacSync Stealer
    เพิ่มความเสี่ยงต่อผู้ใช้ macOS ทั่วไป

    ความเสี่ยงและคำเตือน
    ไฟล์ .scpt บางตัวไม่ถูกตรวจพบใน VirusTotal
    ผู้ใช้เสี่ยงเปิดไฟล์ปลอมโดยไม่รู้ตัว
    องค์กรอาจถูกโจมตีหากไม่มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด

    https://securityonline.info/macos-threat-applescript-scpt-files-emerge-as-new-stealth-vector-for-stealer-malware/
    🖥️ มัลแวร์บน macOS ผ่านไฟล์ AppleScript นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแฮกเกอร์เริ่มใช้ไฟล์ AppleScript (.scpt) เป็นเครื่องมือใหม่ในการแพร่กระจายมัลแวร์ โดยปลอมตัวเป็นเอกสาร Word, PowerPoint หรือแม้แต่ตัวติดตั้ง Zoom และ Teams SDK. เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์เหล่านี้ใน Script Editor.app และกดรัน (⌘+R) โค้ดที่ซ่อนอยู่ก็จะถูกทำงานทันที. 📂 เทคนิคการหลอกลวงที่แนบเนียน ไฟล์ .scpt ถูกออกแบบให้มี คอมเมนต์ปลอมและบรรทัดว่างจำนวนมาก เพื่อดันโค้ดอันตรายลงไปด้านล่าง ทำให้ผู้ใช้ไม่เห็นเนื้อหาที่แท้จริง. นอกจากนี้ยังมีการใช้ ไอคอนปลอม เพื่อทำให้ไฟล์ดูเหมือนเอกสารหรือโปรแกรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Apeiron_Token_Transfer_Proposal.docx.scpt หรือ Stable1_Investment_Proposal.pptx.scpt. 🚨 การแพร่กระจายสู่มัลแวร์เชิงพาณิชย์ เดิมทีเทคนิคนี้ถูกใช้โดยกลุ่ม APT ระดับสูง แต่ปัจจุบันเริ่มถูกนำมาใช้ใน มัลแวร์เชิงพาณิชย์ เช่น Odyssey Stealer และ MacSync Stealer. การแพร่กระจายนี้แสดงให้เห็นถึงการ “ไหลลง” ของเทคนิคขั้นสูงสู่กลุ่มผู้โจมตีทั่วไป ทำให้ภัยคุกคามต่อผู้ใช้ macOS เพิ่มขึ้นอย่างมาก. ⚡ ความเสี่ยงที่ผู้ใช้ต้องระวัง แม้ Apple จะปรับปรุงระบบ Gatekeeper เพื่อลดช่องโหว่ แต่ไฟล์ .scpt ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับได้ และบางตัวอย่างยังไม่ถูกตรวจพบใน VirusTotal. สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว. ✅ การใช้ AppleScript (.scpt) ในการแพร่มัลแวร์ ➡️ ปลอมเป็นเอกสาร Word/PowerPoint หรือโปรแกรมติดตั้ง Zoom, Teams ➡️ เปิดใน Script Editor และรันโค้ดได้ทันที ✅ เทคนิคการซ่อนโค้ด ➡️ ใช้บรรทัดว่างและคอมเมนต์ปลอมเพื่อซ่อนโค้ดจริง ➡️ ใช้ไอคอนปลอมให้ดูเหมือนเอกสารหรือแอปถูกต้อง ✅ การแพร่กระจายสู่มัลแวร์เชิงพาณิชย์ ➡️ จาก APT สู่มัลแวร์ทั่วไป เช่น Odyssey Stealer และ MacSync Stealer ➡️ เพิ่มความเสี่ยงต่อผู้ใช้ macOS ทั่วไป ‼️ ความเสี่ยงและคำเตือน ⛔ ไฟล์ .scpt บางตัวไม่ถูกตรวจพบใน VirusTotal ⛔ ผู้ใช้เสี่ยงเปิดไฟล์ปลอมโดยไม่รู้ตัว ⛔ องค์กรอาจถูกโจมตีหากไม่มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด https://securityonline.info/macos-threat-applescript-scpt-files-emerge-as-new-stealth-vector-for-stealer-malware/
    SECURITYONLINE.INFO
    macOS Threat: AppleScript (.scpt) Files Emerge as New Stealth Vector for Stealer Malware
    A new macOS threat uses malicious AppleScript (.scpt) files, disguised as documents/updates, to bypass Gatekeeper and execute stealers like MacSync and Odyssey, exploiting user trust.
    0 Comments 0 Shares 0 Views 0 Reviews