• อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าตัณหาเจริญเพราะมิจฉาทิฏฐิในปิยรูป - สาตรูป
    สัทธรรมลำดับที่ : 321
    ชื่อบทธรรม :- ตัณหาเจริญเพราะมิจฉาทิฏฐิในปิยรูป - สาตรูป
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=321
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ตัณหาเจริญเพราะมิจฉาทิฏฐิในปิยรูป - สาตรูป
    --ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์พวกใด
    ในกาลอดีตก็ตาม, ในกาลอนาคตก็ตาม, ในกาลนี้ก็ตาม,
    ย่อม เห็นสิ่งอันเป็นที่รักที่สนิทใจ (ปิยรูป-สาตรูป) ในโลก
    http://etipitaka.com/read/pali/16/132/?keywords=ปิยรูปํ+สาตรูปํ
    โดยความเป็นของเที่ยง
    โดยความเป็นสุข
    โดยความเป็นตัวตน
    โดยความเป็นของไม่เสียบแทง
    โดยความเป็นของเกษม ;
    สมณะหรือพราหมณ์พวกนั้น #ย่อมทำตัณหาให้เจริญ.
    เมื่อทำตัณหาให้เจริญอยู่ ก็ทำอุปธิให้เจริญ.
    เมื่อทำอุปธิให้เจริญอยู่ ก็ทำทุกข์ให้เจริญ.
    เมื่อทำทุกข์ให้เจริญอยู่สมณะหรือพราหมณ์พวกนั้น
    ย่อมไม่หลุดพ้นจากความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศก ความร่ำไรรำพัน
    ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจ ;
    เราตถาคต ย่อมกล่าวว่า “#พวกเหล่านั้นย่อมไม่หลุดพ้นจากทุกข์”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน
    ถ้วยดื่มสำริดมีเครื่องดื่มใส่อยู่แล้วชนิดหนึ่ง
    สมบูรณ์ด้วยสี กลิ่น และรส แต่ว่ามียาพิษปนติดอยู่.
    ครั้งนั้น มีบุรุษผู้หนึ่งซึ่งกำลังร้อนจัด มีความร้อนระอุไปทั้งตัว
    เหน็ดเหนื่อย คอแห้ง ระหายน้ำ มาถึงเข้า.คนทั้งหลายบอกแก่บุรุษนั้นว่า
    “นี่แน่ท่านผู้เจริญ ! ถ้วยดื่มสำริดใบนี้ มีเครื่องดื่ม
    สมบูรณ์ด้วยสี กลิ่น และรส สำหรับท่าน,
    แต่ว่ามียาพิษปนติดอยู่, ถ้าหากท่านต้องการดื่มก็ดื่มได้,
    เมื่อท่านกำลังดื่ม จักติดใจมันด้วยสีของมันบ้าง ด้วยกลิ่นของมันบ้าง ด้วยรสของมันบ้าง ; แต่ว่า ครั้นดื่มเข้าไปแล้ว ท่านจักถึงความตาย
    หรือได้รับทุกข์เจียนตายเพราะเหตุนั้น”
    ดังนี้.
    บุรุษนั้น ไม่ทันจะพิจารณาถ้วยดื่มสำริดอันนั้น
    (ว่าจะควรดื่มหรือไม่ควรดื่ม อย่างไร เป็นต้น)
    รีบดื่มเอาๆ ไม่ยอมวาง.
    บุรุษนั้น ก็ถึงความตาย หรือ ได้รับทุกข์เจียนตาย เพราะเหตุนั้น.
    ฉันใดก็ฉันนั้น ที่สมณะหรือพราหมณ์พวกใด
    ในกาลอดีตก็ตาม,
    ในกาลอนาคตก็ตาม,
    ในกาลนี้ก็ตาม,
    ย่อมเห็นสิ่งอันเป็นที่รักที่สนิทใจในโลก
    โดยความเป็นของเที่ยง
    โดยความเป็นสุข
    โดยความเป็นตัวตน
    โดยความเป็นของไม่เสียบแทง
    โดยความเป็นของเกษม ;
    สมณะหรือพราหมณ์พวกนั้น ย่อมทำตัณหาให้เจริญ.
    เมื่อทำตัณหาให้เจริญอยู่ ก็ทำอุปธิให้เจริญ.
    เมื่อทำอุปธิให้เจริญอยู่ ก็ทำทุกข์ให้เจริญ.
    เมื่อทำทุกข์ให้เจริญอยู่สมณะหรือพราหมณ์
    "พวกนั้น ย่อมไม่หลุดพ้นจากทุกข์”
    ดังนี้.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/106-107/259-260.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/106/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑๓๒-๑๓๓/๒๕๙-๒๖๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/132/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=321
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22&id=321
    ลำดับสาธยายธรรม : 22 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_22.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าตัณหาเจริญเพราะมิจฉาทิฏฐิในปิยรูป - สาตรูป สัทธรรมลำดับที่ : 321 ชื่อบทธรรม :- ตัณหาเจริญเพราะมิจฉาทิฏฐิในปิยรูป - สาตรูป https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=321 เนื้อความทั้งหมด :- --ตัณหาเจริญเพราะมิจฉาทิฏฐิในปิยรูป - สาตรูป --ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์พวกใด ในกาลอดีตก็ตาม, ในกาลอนาคตก็ตาม, ในกาลนี้ก็ตาม, ย่อม เห็นสิ่งอันเป็นที่รักที่สนิทใจ (ปิยรูป-สาตรูป) ในโลก http://etipitaka.com/read/pali/16/132/?keywords=ปิยรูปํ+สาตรูปํ โดยความเป็นของเที่ยง โดยความเป็นสุข โดยความเป็นตัวตน โดยความเป็นของไม่เสียบแทง โดยความเป็นของเกษม ; สมณะหรือพราหมณ์พวกนั้น #ย่อมทำตัณหาให้เจริญ. เมื่อทำตัณหาให้เจริญอยู่ ก็ทำอุปธิให้เจริญ. เมื่อทำอุปธิให้เจริญอยู่ ก็ทำทุกข์ให้เจริญ. เมื่อทำทุกข์ให้เจริญอยู่สมณะหรือพราหมณ์พวกนั้น ย่อมไม่หลุดพ้นจากความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจ ; เราตถาคต ย่อมกล่าวว่า “#พวกเหล่านั้นย่อมไม่หลุดพ้นจากทุกข์” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน ถ้วยดื่มสำริดมีเครื่องดื่มใส่อยู่แล้วชนิดหนึ่ง สมบูรณ์ด้วยสี กลิ่น และรส แต่ว่ามียาพิษปนติดอยู่. ครั้งนั้น มีบุรุษผู้หนึ่งซึ่งกำลังร้อนจัด มีความร้อนระอุไปทั้งตัว เหน็ดเหนื่อย คอแห้ง ระหายน้ำ มาถึงเข้า.คนทั้งหลายบอกแก่บุรุษนั้นว่า “นี่แน่ท่านผู้เจริญ ! ถ้วยดื่มสำริดใบนี้ มีเครื่องดื่ม สมบูรณ์ด้วยสี กลิ่น และรส สำหรับท่าน, แต่ว่ามียาพิษปนติดอยู่, ถ้าหากท่านต้องการดื่มก็ดื่มได้, เมื่อท่านกำลังดื่ม จักติดใจมันด้วยสีของมันบ้าง ด้วยกลิ่นของมันบ้าง ด้วยรสของมันบ้าง ; แต่ว่า ครั้นดื่มเข้าไปแล้ว ท่านจักถึงความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตายเพราะเหตุนั้น” ดังนี้. บุรุษนั้น ไม่ทันจะพิจารณาถ้วยดื่มสำริดอันนั้น (ว่าจะควรดื่มหรือไม่ควรดื่ม อย่างไร เป็นต้น) รีบดื่มเอาๆ ไม่ยอมวาง. บุรุษนั้น ก็ถึงความตาย หรือ ได้รับทุกข์เจียนตาย เพราะเหตุนั้น. ฉันใดก็ฉันนั้น ที่สมณะหรือพราหมณ์พวกใด ในกาลอดีตก็ตาม, ในกาลอนาคตก็ตาม, ในกาลนี้ก็ตาม, ย่อมเห็นสิ่งอันเป็นที่รักที่สนิทใจในโลก โดยความเป็นของเที่ยง โดยความเป็นสุข โดยความเป็นตัวตน โดยความเป็นของไม่เสียบแทง โดยความเป็นของเกษม ; สมณะหรือพราหมณ์พวกนั้น ย่อมทำตัณหาให้เจริญ. เมื่อทำตัณหาให้เจริญอยู่ ก็ทำอุปธิให้เจริญ. เมื่อทำอุปธิให้เจริญอยู่ ก็ทำทุกข์ให้เจริญ. เมื่อทำทุกข์ให้เจริญอยู่สมณะหรือพราหมณ์ "พวกนั้น ย่อมไม่หลุดพ้นจากทุกข์” ดังนี้.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/106-107/259-260. http://etipitaka.com/read/thai/16/106/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑๓๒-๑๓๓/๒๕๙-๒๖๐. http://etipitaka.com/read/pali/16/132/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=321 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22&id=321 ลำดับสาธยายธรรม : 22 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_22.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ตัณหาเจริญเพราะมิจฉาทิฏฐิในปิยรูป - สาตรูป
    -ตัณหาเจริญเพราะมิจฉาทิฏฐิในปิยรูป - สาตรูป ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์พวกใด ในกาลอดีตก็ตาม, ในกาลอนาคตก็ตาม, ในกาลนี้ก็ตาม, ย่อม เห็นสิ่งอันเป็นที่รักที่สนิทใจ (ปิยรูปสาตรูป) ในโลก โดยความเป็นของเที่ยง โดยความเป็นสุข โดยความเป็นตัวตน โดยความเป็นของไม่เสียบแทง โดยความเป็นของเกษม ; สมณะหรือพราหมณ์พวกนั้น ย่อมทำตัณหาให้เจริญ. เมื่อทำตัณหาให้เจริญอยู่ ก็ทำอุปธิให้เจริญ. เมื่อทำอุปธิให้เจริญอยู่ ก็ทำทุกข์ให้เจริญ. เมื่อทำทุกข์ให้เจริญอยู่สมณะหรือพราหมณ์พวกนั้น ย่อมไม่หลุดพ้นจากความเกิด ความแก่ ความตาย ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจ ; เราตถาคต ย่อมกล่าวว่า “พวกเหล่านั้น ย่อมไม่หลุดพ้นจากทุกข์” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน ถ้วยดื่มสำริดมีเครื่องดื่มใส่อยู่แล้วชนิดหนึ่ง สมบูรณ์ด้วยสี กลิ่น และรส แต่ว่ามียาพิษปนติดอยู่. ครั้งนั้น มีบุรุษผู้หนึ่งซึ่งกำลังร้อนจัด มีความร้อนระอุไปทั้งตัว เหน็ดเหนื่อย คอแห้ง ระหายน้ำ มาถึงเข้า. คนทั้งหลายบอกแก่บุรุษนั้นว่า “นี่แน่ท่านผู้เจริญ ! ถ้วยดื่มสำริดใบนี้ มีเครื่องดื่ม สมบูรณ์ด้วยสี กลิ่น และรส สำหรับท่าน, แต่ว่ามียาพิษปนติดอยู่, ถ้าหากท่านต้องการดื่มก็ดื่มได้, เมื่อท่านกำลังดื่ม จักติดใจมันด้วยสีของมันบ้าง ด้วยกลิ่นของมันบ้าง ด้วยรสของมันบ้าง ; แต่ว่า ครั้นดื่ม เข้าไปแล้ว ท่านจักถึงความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตายเพราะเหตุนั้น” ดังนี้. บุรุษนั้น ไม่ทันจะพิจารณาถ้วยดื่มสำริดอันนั้น (ว่าจะควรดื่มหรือไม่ควรดื่ม อย่างไร เป็นต้น) รีบดื่มเอาๆ ไม่ยอมวาง. บุรุษนั้น ก็ถึงความตาย หรือ ได้รับทุกข์เจียนตาย เพราะเหตุนั้น. ฉันใดก็ฉันนั้น ที่สมณะหรือพราหมณ์พวกใด ในกาลอดีตก็ตาม. ในกาลอนาคตก็ตาม, ในกาลนี้ก็ตาม, ย่อมเห็นสิ่งอันเป็นที่รักที่สนิทใจในโลก โดยความเป็นของเที่ยง ....ฯลฯ.... ย่อมไม่หลุดพ้นจากทุกข์” ดังนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​มัชฌิมาปฏิปทาลำดับพื้นฐานเป็นการเริ่มต้นสำคัญ
    สัทธรรมลำดับที่ : 690
    ชื่อบทธรรม : -มัชฌิมาปฏิปทาลำดับพื้นฐาน
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=690
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --มัชฌิมาปฏิปทา ๓ ลำดับ

    ก. มัชฌิมาปฏิปทา (พื้นฐานทั่วไป)
    --ภิกษุ ท. ! มีสิ่งที่แล่นดิ่งสุดโต่งอยู่สองอย่าง ที่บรรพชิตไม่ควรข้องแวะด้วย
    สิ่งที่แล่นดิ่งไปสุดโต่งนั้น คืออะไร ?
    คือ การประกอบตนพัวพันอยู่ด้วยความใคร่ในกามทั้งหลาย (กามสุขัลลิกานุโยค)
    อันเป็นการกระทำที่ยังต่ำ เป็นของชาวบ้าน เป็นของคนชั้นบุถุชน ไม่ใช่ของพระอริยเจ้า ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ;
    และ การประกอบความเพียรในการทรมานตนให้ลำบาก (อัตตกิลมถานุโยค)
    อันนำมาซึ่งความทุกข์ ไม่ใช่ของพระอริยเจ้า ไม่ประกอบด้วยประโยชน์.
    --ภิกษุ ท. ! #มัชฌิมาปฏิปทา (ข้อปฏิบัติเป็นทางสายกลาง)
    ที่ไม่ดิ่งไปหาสุดโต่งสองอย่างนั้น เป็นข้อปฏิบัติที่ตถาคตได้ตรัสรู้เฉพาะแล้ว
    เป็นข้อปฏิบัติทำให้เกิดจักษุ เป็นข้อปฏิบัติทำให้เกิดญาณ
    เป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้อันยิ่ง เพื่อความตรัสรู้พร้อม เพื่อนิพพาน.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/528/?keywords=นิพฺพานาย

    --ภิกษุ ท. ! มัชฌิมาปฏิปทานั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! มัชฌิมาปฏิปทานั้น คือข้อปฏิบัติอันเป็นหนทางอันประเสริฐ ประกอบอยู่ด้วยองค์แปดประการ นี้แล ; กล่าวคือ
    ความเห็นที่ถูกต้อง (สัมมาทิฏฐิ) ความดำริถูกต้อง (สัมมาสังกัปโป),
    การพูดจาที่ถูกต้อง (สัมมาวาจา) การทำงานที่ถูกต้อง (สัมมากัมมันโต)
    การอาชีพที่ถูกต้อง (สัมมาอาชีโว),
    ความพากเพียรที่ถูกต้อง (สัมมาวายาโม) ความรำลึกที่ถูกต้อง (สัมมาสติ)
    ความตั้งจิตมั่นคงที่ถูกต้อง (สัมมาสมาธิ).
    --ภิกษุ ท. ! นี้แล มัชฌิมาปฏิปทานั้น.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/419/1664.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/419/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%96%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๒๘/๑๖๖๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/528/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%96%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=690
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=49&id=690
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=49
    ลำดับสาธยายธรรม : 49 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_49.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​มัชฌิมาปฏิปทาลำดับพื้นฐานเป็นการเริ่มต้นสำคัญ สัทธรรมลำดับที่ : 690 ชื่อบทธรรม : -มัชฌิมาปฏิปทาลำดับพื้นฐาน https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=690 เนื้อความทั้งหมด :- --มัชฌิมาปฏิปทา ๓ ลำดับ ก. มัชฌิมาปฏิปทา (พื้นฐานทั่วไป) --ภิกษุ ท. ! มีสิ่งที่แล่นดิ่งสุดโต่งอยู่สองอย่าง ที่บรรพชิตไม่ควรข้องแวะด้วย สิ่งที่แล่นดิ่งไปสุดโต่งนั้น คืออะไร ? คือ การประกอบตนพัวพันอยู่ด้วยความใคร่ในกามทั้งหลาย (กามสุขัลลิกานุโยค) อันเป็นการกระทำที่ยังต่ำ เป็นของชาวบ้าน เป็นของคนชั้นบุถุชน ไม่ใช่ของพระอริยเจ้า ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ; และ การประกอบความเพียรในการทรมานตนให้ลำบาก (อัตตกิลมถานุโยค) อันนำมาซึ่งความทุกข์ ไม่ใช่ของพระอริยเจ้า ไม่ประกอบด้วยประโยชน์. --ภิกษุ ท. ! #มัชฌิมาปฏิปทา (ข้อปฏิบัติเป็นทางสายกลาง) ที่ไม่ดิ่งไปหาสุดโต่งสองอย่างนั้น เป็นข้อปฏิบัติที่ตถาคตได้ตรัสรู้เฉพาะแล้ว เป็นข้อปฏิบัติทำให้เกิดจักษุ เป็นข้อปฏิบัติทำให้เกิดญาณ เป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้อันยิ่ง เพื่อความตรัสรู้พร้อม เพื่อนิพพาน. http://etipitaka.com/read/pali/19/528/?keywords=นิพฺพานาย --ภิกษุ ท. ! มัชฌิมาปฏิปทานั้น เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! มัชฌิมาปฏิปทานั้น คือข้อปฏิบัติอันเป็นหนทางอันประเสริฐ ประกอบอยู่ด้วยองค์แปดประการ นี้แล ; กล่าวคือ ความเห็นที่ถูกต้อง (สัมมาทิฏฐิ) ความดำริถูกต้อง (สัมมาสังกัปโป), การพูดจาที่ถูกต้อง (สัมมาวาจา) การทำงานที่ถูกต้อง (สัมมากัมมันโต) การอาชีพที่ถูกต้อง (สัมมาอาชีโว), ความพากเพียรที่ถูกต้อง (สัมมาวายาโม) ความรำลึกที่ถูกต้อง (สัมมาสติ) ความตั้งจิตมั่นคงที่ถูกต้อง (สัมมาสมาธิ). --ภิกษุ ท. ! นี้แล มัชฌิมาปฏิปทานั้น.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/419/1664. http://etipitaka.com/read/thai/19/419/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%96%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๒๘/๑๖๖๔. http://etipitaka.com/read/pali/19/528/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%96%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=690 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=49&id=690 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=49 ลำดับสาธยายธรรม : 49 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_49.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - มัชฌิมาปฏิปทา ๓ ลำดับ
    -มัชฌิมาปฏิปทา ๓ ลำดับ ก. มัชฌิมาปฏิปทา (พื้นฐานทั่วไป) ภิกษุ ท. ! มีสิ่งที่แล่นดิ่งสุดโต่งอยู่สองอย่าง ที่บรรพชิตไม่ควรข้องแวะด้วย สิ่งที่แล่นดิ่งไปสุดโต่งนั้น คืออะไร ? คือ การประกอบตนพัวพันอยู่ด้วยความใคร่ในกามทั้งหลาย (กามสุขัลลิกานุโยค) อันเป็นการกระทำที่ยังต่ำ เป็นของชาวบ้าน เป็นของคนชั้นบุถุชน ไม่ใช่ของพระอริยเจ้า ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ; และ การประกอบความเพียรในการทรมานตนให้ลำบาก (อัตตกิลมถานุโยค) อันนำมาซึ่งความทุกข์ ไม่ใช่ของพระอริยเจ้า ไม่ประกอบด้วยประโยชน์. ภิกษุ ท. ! มัชฌิมาปฏิปทา (ข้อปฏิบัติเป็นทางสายกลาง) ที่ไม่ดิ่งไปหาสุดโต่งสองอย่างนั้น เป็นข้อปฏิบัติที่ตถาคตได้ตรัสรู้เฉพาะแล้ว เป็นข้อปฏิบัติทำให้เกิดจักษุ เป็นข้อปฏิบัติทำให้เกิดญาณ เป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้อันยิ่ง เพื่อความตรัสรู้พร้อม เพื่อนิพพาน. ภิกษุ ท. ! มัชฌิมาปฏิปทานั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! มัชฌิมาปฏิปทานั้น คือข้อปฏิบัติอันเป็นหนทางอันประเสริฐ ประกอบอยู่ด้วยองค์แปดประการ นี้แล ; กล่าวคือ ความเห็นที่ถูกต้อง (สัมมาทิฏฐิ) ความดำริถูกต้อง (สัมมาสังกัปโป) การพูดจาที่ถูกต้อง (สัมมาวาจา) การทำงาน ที่ถูกต้อง (สัมมากัมมันโต) การอาชีพที่ถูกต้อง (สัมมาอาชีโว) ความพากเพียรที่ถูกต้อง (สัมมาวายาโม) ความรำลึกที่ถูกต้อง (สัมมาสติ) ความตั้งใจมั่นคงที่ถูกต้อง (สัมมาสมาธิ). ภิกษุ ท. ! นี้แล มัชฌิมาปฏิปทานั้น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​เวทนาโดยปัจจัยสี่สิบเอ็ดชนิด
    สัทธรรมลำดับที่ : 1057
    ชื่อบทธรรม :- เวทนาโดยปัจจัยสี่สิบเอ็ดชนิด
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1057
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --เวทนาโดยปัจจัยสี่สิบเอ็ดชนิด
    --ภิกษุ ท. ! เราได้อยู่แล้วโดยประเทศแห่งวิหารธรรม
    อย่างเดียวกันกับ วิหารธรรมที่เราเคยอยู่แล้วเมื่อตรัสรู้แล้วใหม่ๆ.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/17/?keywords=วิหาเรน+ปฐมาภิสมฺพุทฺโธ
    เมื่ออยู่โดย วิหารธรรมอย่างนี้ เราย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า :-
    “+--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ มิจฉาทิฏฐิ บ้าง;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาทิฏฐิบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ สัมมาทิฏฐิ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาทิฏฐิบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ มิจฉาสังกัปปะ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาสังกัปปะบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ สัมมาสังกัปปะ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาสังกัปปะบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ มิจฉาวาจา บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาวาจาบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ สัมมาวาจา บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาวาจาบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ มิจฉากัมมันตะ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉากัมมันตะบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ สัมมากัมมันตะ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมากัมมันตะบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ มิจฉาอาชีวะ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาอาชีวะบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ สัมมาอาชีวะ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาอาชีวะ บ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ มิจฉาวายามะ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาวายามะ บ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ สัมมาวายามะ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาวายาะบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ มิจฉาสติ บ้าง ;
    +- ความเข้าไป สงบรำงับ แห่งมิจฉาสติบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ สัมมาสติ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาสติบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ มิจฉาสมาธิ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาสมาธิบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ สัมมาสมาธิ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาสมาธิบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ ฉันทะ บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งฉันทะบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ วิตก บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งวิตกบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ สัญญา บ้าง ;
    +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัญญาบ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ ฉันทะ วิตก และสัญญา ที่ยังไม่เข้าไปสงบรำงับ บ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ ฉันทะ วิตก และสัญญา ที่เข้าไปสงบรำงับแล้ว บ้าง ;
    +--เวทนาย่อมมี
    เพราะปัจจัยคือ การบรรลุถึงฐานะที่ได้พยายามเพื่อจะบรรลุถึง บ้าง”
    ดังนี้.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/13/50.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/13/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๗/๕๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/17/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1057
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=92&id=1057
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=92
    ลำดับสาธยายธรรม : 92 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_92.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​เวทนาโดยปัจจัยสี่สิบเอ็ดชนิด สัทธรรมลำดับที่ : 1057 ชื่อบทธรรม :- เวทนาโดยปัจจัยสี่สิบเอ็ดชนิด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1057 เนื้อความทั้งหมด :- --เวทนาโดยปัจจัยสี่สิบเอ็ดชนิด --ภิกษุ ท. ! เราได้อยู่แล้วโดยประเทศแห่งวิหารธรรม อย่างเดียวกันกับ วิหารธรรมที่เราเคยอยู่แล้วเมื่อตรัสรู้แล้วใหม่ๆ. http://etipitaka.com/read/pali/19/17/?keywords=วิหาเรน+ปฐมาภิสมฺพุทฺโธ เมื่ออยู่โดย วิหารธรรมอย่างนี้ เราย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า :- “+--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาทิฏฐิ บ้าง; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาทิฏฐิบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาทิฏฐิ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาทิฏฐิบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาสังกัปปะ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาสังกัปปะบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาสังกัปปะ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาสังกัปปะบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาวาจา บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาวาจาบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาวาจา บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาวาจาบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉากัมมันตะ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉากัมมันตะบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมากัมมันตะ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมากัมมันตะบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาอาชีวะ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาอาชีวะบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาอาชีวะ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาอาชีวะ บ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาวายามะ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาวายามะ บ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาวายามะ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาวายาะบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาสติ บ้าง ; +- ความเข้าไป สงบรำงับ แห่งมิจฉาสติบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาสติ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาสติบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาสมาธิ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาสมาธิบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาสมาธิ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาสมาธิบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ ฉันทะ บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งฉันทะบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ วิตก บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งวิตกบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัญญา บ้าง ; +- ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัญญาบ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ ฉันทะ วิตก และสัญญา ที่ยังไม่เข้าไปสงบรำงับ บ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ ฉันทะ วิตก และสัญญา ที่เข้าไปสงบรำงับแล้ว บ้าง ; +--เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ การบรรลุถึงฐานะที่ได้พยายามเพื่อจะบรรลุถึง บ้าง” ดังนี้.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/13/50. http://etipitaka.com/read/thai/19/13/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๗/๕๐. http://etipitaka.com/read/pali/19/17/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1057 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=92&id=1057 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=92 ลำดับสาธยายธรรม : 92 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_92.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เวทนาโดยปัจจัยสี่สิบเอ็ดชนิด
    -(ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ข้อเท็จจริงอันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง กล่าวคือ ต้อง มีการเสวยเวทนาจริงๆ จึงจะเห็นทุกขอริยสัจที่เกิดจากตัณหาอันเกิดจากเวทนานั้น และความที่ ทุกข์ดับไปในขณะที่ตัณหาดับไปในเวทนานั้น ในเมื่อจิตประกอบอยู่ด้วยธัมมสมังคีแห่งอัฏฐัง คิกมรรค โดยอัตโนมัติ; ดังนั้น ถ้าปราศจากเวทนาเสียเพียงอย่างเดียวแล้ว อริยสัจสี่ก็ยัง มิได้เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง; ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวได้ว่า “อริยสัจ ทรงบัญญัติสำหรับสัตว์ที่อาจเสวย เวทนา” ดังนี้ โดยนัยดังที่พระพุทธองค์ตรัสแล้วข้างบน). เวทนาโดยปัจจัยสี่สิบเอ็ดชนิด ภิกษุ ท. ! เราได้อยู่แล้วโดยประเทศแห่งวิหารธรรม อย่างเดียวกันกับวิหารธรรมที่เราเคยอยู่แล้วเมื่อตรัสรู้แล้วใหม่ๆ. เมื่ออยู่โดยวิหารธรรมอย่างนี้ เราย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า : “เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาทิฏฐิ บ้าง; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาทิฏฐิบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาทิฏฐิ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาทิฏฐิบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาสังกัปปะ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาสังกัปปะบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาสังกัปปะ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาสังกัปปะบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาวาจา บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาวาจาบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาวาจา บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาวาจาบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉากัมมันตะ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉากัมมันตะบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมากัมมันตะ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมากัมมันตะบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาอาชีวะ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาอาชีวะบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาอาชีวะ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาอาชีวะ บ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาวายามะ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาวายามะ บ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาวายามะ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาวายาะบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาสติ บ้าง ; - ความเข้าไป สงบรำงับ แห่งมิจฉาสติบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาสติ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาสติบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ มิจฉาสมาธิ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งมิจฉาสมาธิบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัมมาสมาธิ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัมมาสมาธิบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ ฉันทะ บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งฉันทะบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ วิตก บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งวิตกบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ สัญญา บ้าง ; - ความเข้าไปสงบรำงับ แห่งสัญญาบ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ ฉันทะ วิตก และสัญญาที่ยังไม่เข้าไปสงบรำงับ บ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ ฉันทะ วิตก และสัญญา ที่เข้าไปสงบรำงับแล้ว บ้าง ; เวทนาย่อมมี เพราะปัจจัยคือ การบรรลุถึงฐานะที่ได้พยายามเพื่อจะบรรลุถึง บ้าง” ดังนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/SwWfeFQ0xxk?si=ZB4pTI7ZpgfINV6B
    https://youtu.be/SwWfeFQ0xxk?si=ZB4pTI7ZpgfINV6B
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/w5kz822Q9_Y?si=osoVz3IbRzPWy8pg
    https://youtube.com/shorts/w5kz822Q9_Y?si=osoVz3IbRzPWy8pg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/EMT0JsFwC38?si=ujsvLDunA7zpBKa9
    https://youtu.be/EMT0JsFwC38?si=ujsvLDunA7zpBKa9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/q0fIVhEASNs?si=bZDdgjuzF5vmcl4C
    https://youtu.be/q0fIVhEASNs?si=bZDdgjuzF5vmcl4C
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกๆความสำเร็จ...มีราคาต้องแลกมาเสมอ
    Cr.Wiwan Boonya
    ทุกๆความสำเร็จ...มีราคาต้องแลกมาเสมอ Cr.Wiwan Boonya
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดมาแล้วมีบุญมามากน้อยไม่รู้ วันนี้ก็รู้ว่าต้องสร้างบุญให้มาก โลกมีทุกข์มีสงครามมาก..
    เกิดมาแล้วมีบุญมามากน้อยไม่รู้ วันนี้ก็รู้ว่าต้องสร้างบุญให้มาก โลกมีทุกข์มีสงครามมาก..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ศาสนาไม่เคยฝากไว้ที่วัด...

    แต่ฝากไว้ในใจ "ชาวบ้าน"

    ไม่มีใครเกิดมาเป็นพระ
    ทุกคนเริ่มจาก “ฆราวาส”
    และ “พระจะเป็นอย่างไร”
    ก็ขึ้นอยู่กับ “ฆราวาสแบบไหน” ที่เขาเคยเป็นมา

    ในยุคที่ เราฝากความดีไว้กับพระไม่ได้
    เพราะมีชาวบ้านใจร้ายไปบวชเป็นพระ
    เราจึงต้องเริ่มฝากความดีไว้กับฆราวาส...ก่อน

    อยากให้พระมีวินัย
    อย่าถวายกิเลสให้ท่าน

    อยากให้พระสอนธรรม
    จงเลิกไถ่ถามเลขเด็ด

    อยากให้วัดร่มเย็น
    จงอย่าหอบเรื่องโลกไปวางในวัด

    อยากให้พระมีธรรม
    จงเป็นฆราวาสที่ฝึกธรรมไว้ในใจ

    เพราะพระพุทธเจ้าฝากพระศาสนา
    ไว้กับคนทั้งสี่ประเภท — ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
    ไม่ใช่แค่ “ผ้าเหลือง”

    ถ้าอยากเห็นพระในอนาคต
    เป็นพระที่ดี...
    เราต้องเป็นฆราวาสที่ดี วันนี้

    ธรรมะไม่ใช่ของสูงบนหิ้ง
    แต่คือเครื่องมือประจำบ้าน
    ไว้แก้ทุกข์ เติมสุข
    ให้ชีวิตทุกวัน...ดีขึ้นเรื่อย ๆ

    วันนี้…คุณเลือกอยู่ใน “บริษัทพุทธ”

    เพื่อ “สร้างศาสนา” หรือ “ทำลายศาสนา”?
    หลักฐานมีอยู่ในมือถือคุณแล้วทั้งหมด...

    🪷 เพราะถ้าคุณไม่ดูแลศาสนา
    อย่าแปลกใจ…
    ถ้าต้องเผชิญวันตาย
    โดยไม่มี “หลัก” ให้ยึด
    ไม่มี “ธรรม” ให้เกาะ
    ไม่มีแม้แต่ “ฟางเส้นสุดท้าย” ให้ใจจับ!

    #ศาสนาในมือฆราวาส
    #ธรรมะในบ้าน
    #สร้างไม่ใช่แค่ด่า
    #ธรรมะไม่ใช่แค่ผ้าเหลือง
    #ชาวพุทธต้องมีส่วนร่วม
    🌿 ศาสนาไม่เคยฝากไว้ที่วัด... แต่ฝากไว้ในใจ "ชาวบ้าน" ไม่มีใครเกิดมาเป็นพระ ทุกคนเริ่มจาก “ฆราวาส” และ “พระจะเป็นอย่างไร” ก็ขึ้นอยู่กับ “ฆราวาสแบบไหน” ที่เขาเคยเป็นมา ในยุคที่ เราฝากความดีไว้กับพระไม่ได้ เพราะมีชาวบ้านใจร้ายไปบวชเป็นพระ เราจึงต้องเริ่มฝากความดีไว้กับฆราวาส...ก่อน อยากให้พระมีวินัย อย่าถวายกิเลสให้ท่าน อยากให้พระสอนธรรม จงเลิกไถ่ถามเลขเด็ด อยากให้วัดร่มเย็น จงอย่าหอบเรื่องโลกไปวางในวัด อยากให้พระมีธรรม จงเป็นฆราวาสที่ฝึกธรรมไว้ในใจ เพราะพระพุทธเจ้าฝากพระศาสนา ไว้กับคนทั้งสี่ประเภท — ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ไม่ใช่แค่ “ผ้าเหลือง” ✨ ถ้าอยากเห็นพระในอนาคต เป็นพระที่ดี... เราต้องเป็นฆราวาสที่ดี วันนี้ ธรรมะไม่ใช่ของสูงบนหิ้ง แต่คือเครื่องมือประจำบ้าน ไว้แก้ทุกข์ เติมสุข ให้ชีวิตทุกวัน...ดีขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้…คุณเลือกอยู่ใน “บริษัทพุทธ” เพื่อ “สร้างศาสนา” หรือ “ทำลายศาสนา”? หลักฐานมีอยู่ในมือถือคุณแล้วทั้งหมด... 🪷 เพราะถ้าคุณไม่ดูแลศาสนา อย่าแปลกใจ… ถ้าต้องเผชิญวันตาย โดยไม่มี “หลัก” ให้ยึด ไม่มี “ธรรม” ให้เกาะ ไม่มีแม้แต่ “ฟางเส้นสุดท้าย” ให้ใจจับ! #ศาสนาในมือฆราวาส #ธรรมะในบ้าน #สร้างไม่ใช่แค่ด่า #ธรรมะไม่ใช่แค่ผ้าเหลือง #ชาวพุทธต้องมีส่วนร่วม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/9IfEIEYA_Y0?si=xQ-MPf40WTtXwaha
    https://youtu.be/9IfEIEYA_Y0?si=xQ-MPf40WTtXwaha
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันจันทร์ที่ 21 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2568
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันจันทร์ที่ 21 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2568 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • It's a beautiful holiday, let's go on a trip.
    It's a beautiful holiday, let's go on a trip.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • How To Use “Lay” vs. “Lie” Correctly Every Time

    The difference between the verbs lay and lie is one of English’s most confusing questions. Both words involve something or someone in a horizontal position, but where the two words differ has to do with who or what is horizontal—the subject of the verb (the one doing the action) or the direct object (the person or thing being acted upon).

    In this article, we’ll break down the difference between lay and lie, including the past tense forms and the phrases lay down, lie down, and laid down.

    Quick summary

    Lay means to place or put (Lay that here). The word lay is also the past tense form of the sense of lie that means to recline, as in I lay in bed yesterday. Lay down can mean to place down (Lay down your bags), but it can also be the past tense of lie down, as in I lay down for a few hours. A nonstandard but common use of lay is to mean the same thing as the present tense of lie, as in I just want to lay in bed for a few more minutes or I laid down for a few hours. It’s best to avoid this use (and the confusion it can cause) in formal contexts.

    Is it lay or lie?

    Lay commonly means to put or place someone or something down, as in Lay the bags on the table or I’m going to lay the baby in the crib. It’s a transitive verb, meaning it requires a direct object (I lay the quilt on the couch; I lay the book on the table).

    The sense of lie that’s often confused with lay means to be in or get into a reclining position—to recline, as in I just want to lie in bed for a few more minutes. Lie is an intransitive verb, meaning it does not take a direct object (Don’t just lie there).

    Lay is typically used with an object, meaning someone or something is getting laid down by someone. In contrast, lie is something you do yourself without any other recipients of the action.

    If you’re the one lying comfortably on your back, you want the verb lie, but if you can replace the verb with place or put (Please place the book on the table), then use the verb lay (Please lay the book on the table).

    Though this use is considered nonstandard, lay is commonly used to mean the same thing as this sense of lie, as in I just want to lay in bed for a few more minutes. Although lay and lie are often used interchangeably in casual communication, it’s best to use them in the standard way in more formal contexts.

    lay vs. lie in the past tense

    The confusion between the two words is largely due to the fact that lay is also the irregular past tense form of this sense of lie, as in I lay in bed yesterday morning wishing I could go back to sleep. (In contrast, when lie is used as a verb meaning to tell an untruth, its past tense is simply lied.) The past tense of lay as in “put or place down” is laid, as in I laid the bags on the table.

    The past participle forms of lay and lie (formed with the helping verb have) are also distinct: lay maintains its past form laid, but lie becomes lain, as in I have lain in bed for the past three hours.

    The continuous tense (-ing form) of this sense of lie is the same as the untruth sense: lying, as in I am lying in bed right now.

    Review all the different verb tenses right here!

    lay down or lie down

    The “recline” sense of lie is commonly used in the verb phrase lie down, as in I was feeling tired so I decided to lie down. Using the phrase lay down to mean the same thing is considered nonstandard, but it’s also very common.

    Lay down is also used as a verb phrase meaning about the same thing as lay, as in You can lay down your bags on the table (or You can lay your bags down on the table).

    How to use lay and lie in a sentence

    A good way to remember which one to use is to think about whether you could replace the word with put or recline. If you can replace it with put, you want to use lay, as in Please lay (put) the bags on the table. If you could replace the word with recline, you want to use lie, as in I just want to lie (recline) in bed for a few more minutes.

    Here are several examples of how to correctly use lay and lie in a sentence, including examples with the past tense of both words and both used in the same sentence.

    - I feel like I need to lie down.
    - Please lay the groceries on the table.
    - I laid all of the ingredients on the kitchen counter last night.
    - Last night, I lay awake for hours, unable to sleep.
    - I had just lain down to go to sleep when I heard a noise.
    - I’m looking for the book that you had laid on the bedside table.
    - He said he was just going to lay the blanket on the grass and lie on it for a few minutes, but he lied. After he laid the blanket down, he lay on it for two hours!

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    How To Use “Lay” vs. “Lie” Correctly Every Time The difference between the verbs lay and lie is one of English’s most confusing questions. Both words involve something or someone in a horizontal position, but where the two words differ has to do with who or what is horizontal—the subject of the verb (the one doing the action) or the direct object (the person or thing being acted upon). In this article, we’ll break down the difference between lay and lie, including the past tense forms and the phrases lay down, lie down, and laid down. Quick summary Lay means to place or put (Lay that here). The word lay is also the past tense form of the sense of lie that means to recline, as in I lay in bed yesterday. Lay down can mean to place down (Lay down your bags), but it can also be the past tense of lie down, as in I lay down for a few hours. A nonstandard but common use of lay is to mean the same thing as the present tense of lie, as in I just want to lay in bed for a few more minutes or I laid down for a few hours. It’s best to avoid this use (and the confusion it can cause) in formal contexts. Is it lay or lie? Lay commonly means to put or place someone or something down, as in Lay the bags on the table or I’m going to lay the baby in the crib. It’s a transitive verb, meaning it requires a direct object (I lay the quilt on the couch; I lay the book on the table). The sense of lie that’s often confused with lay means to be in or get into a reclining position—to recline, as in I just want to lie in bed for a few more minutes. Lie is an intransitive verb, meaning it does not take a direct object (Don’t just lie there). Lay is typically used with an object, meaning someone or something is getting laid down by someone. In contrast, lie is something you do yourself without any other recipients of the action. If you’re the one lying comfortably on your back, you want the verb lie, but if you can replace the verb with place or put (Please place the book on the table), then use the verb lay (Please lay the book on the table). Though this use is considered nonstandard, lay is commonly used to mean the same thing as this sense of lie, as in I just want to lay in bed for a few more minutes. Although lay and lie are often used interchangeably in casual communication, it’s best to use them in the standard way in more formal contexts. lay vs. lie in the past tense The confusion between the two words is largely due to the fact that lay is also the irregular past tense form of this sense of lie, as in I lay in bed yesterday morning wishing I could go back to sleep. (In contrast, when lie is used as a verb meaning to tell an untruth, its past tense is simply lied.) The past tense of lay as in “put or place down” is laid, as in I laid the bags on the table. The past participle forms of lay and lie (formed with the helping verb have) are also distinct: lay maintains its past form laid, but lie becomes lain, as in I have lain in bed for the past three hours. The continuous tense (-ing form) of this sense of lie is the same as the untruth sense: lying, as in I am lying in bed right now. Review all the different verb tenses right here! lay down or lie down The “recline” sense of lie is commonly used in the verb phrase lie down, as in I was feeling tired so I decided to lie down. Using the phrase lay down to mean the same thing is considered nonstandard, but it’s also very common. Lay down is also used as a verb phrase meaning about the same thing as lay, as in You can lay down your bags on the table (or You can lay your bags down on the table). How to use lay and lie in a sentence A good way to remember which one to use is to think about whether you could replace the word with put or recline. If you can replace it with put, you want to use lay, as in Please lay (put) the bags on the table. If you could replace the word with recline, you want to use lie, as in I just want to lie (recline) in bed for a few more minutes. Here are several examples of how to correctly use lay and lie in a sentence, including examples with the past tense of both words and both used in the same sentence. - I feel like I need to lie down. - Please lay the groceries on the table. - I laid all of the ingredients on the kitchen counter last night. - Last night, I lay awake for hours, unable to sleep. - I had just lain down to go to sleep when I heard a noise. - I’m looking for the book that you had laid on the bedside table. - He said he was just going to lay the blanket on the grass and lie on it for a few minutes, but he lied. After he laid the blanket down, he lay on it for two hours! © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เซเลนสกีกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ต้องการให้มีการประชุมกับฝ่ายรัสเซียอีกครั้งในสัปดาห์หน้า การเจรจาต้องเกิดขึ้นโดยเร็ว และต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดการหยุดยิง
    เซเลนสกีกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ต้องการให้มีการประชุมกับฝ่ายรัสเซียอีกครั้งในสัปดาห์หน้า การเจรจาต้องเกิดขึ้นโดยเร็ว และต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดการหยุดยิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดหน้า!?!

    ในที่สุด อาลีเยฟ ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจานก็เปิดเผยตัวตนที่หลบซ่อนอยู่ เขากล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนว่า "ยูเครนไม่ควรยินยอมให้มีการยึดครองต่อไป และอย่ายอมแพ้!"

    "ครั้งหนึ่งผมเคยมีโอกาสตอบคำถามจากตัวแทนของยูเครนในงานสัมมนาเมื่อหลายปีก่อน คำถามนั้นก็คล้ายๆ กัน และคำตอบของผมก็คงไม่ต่างจากที่ผมเคยพูดไว้ เรื่องนี้สอดคล้องกับความปรารถนาของชาวยูเครนที่จะไม่ยอมรับการยึดครอง นี่คือคำแนะนำหลักจากผม นี่คือสิ่งที่ยูเครนต้องสู้ต่อไป"
    เปิดหน้า!?! ในที่สุด อาลีเยฟ ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจานก็เปิดเผยตัวตนที่หลบซ่อนอยู่ เขากล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนว่า "ยูเครนไม่ควรยินยอมให้มีการยึดครองต่อไป และอย่ายอมแพ้!" "ครั้งหนึ่งผมเคยมีโอกาสตอบคำถามจากตัวแทนของยูเครนในงานสัมมนาเมื่อหลายปีก่อน คำถามนั้นก็คล้ายๆ กัน และคำตอบของผมก็คงไม่ต่างจากที่ผมเคยพูดไว้ เรื่องนี้สอดคล้องกับความปรารถนาของชาวยูเครนที่จะไม่ยอมรับการยึดครอง นี่คือคำแนะนำหลักจากผม นี่คือสิ่งที่ยูเครนต้องสู้ต่อไป"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "อยู่ยากขึ้นทุกที"

    หญิงชาวยูเครนรายหนึ่งกำลังไล่ทำร้ายผู้ชายในโอเดสซา และตะโกนไล่พวกเขาให้ไปเข้าร่วมกองทัพ เพื่อต่อสู้กับรัสเซีย
    "อยู่ยากขึ้นทุกที" หญิงชาวยูเครนรายหนึ่งกำลังไล่ทำร้ายผู้ชายในโอเดสซา และตะโกนไล่พวกเขาให้ไปเข้าร่วมกองทัพ เพื่อต่อสู้กับรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เครื่องบินโบอิ้ง 767 ของสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ส ที่มุ่งหน้าไปยังแอตแลนตา ต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินลอสแอนเจลิสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่าเครื่องยนต์เกิดเพลิงไหม้ออกมาจากเครื่องยนต์ตัวหนึ่ง

    รายงานระบุว่า เครื่องบินลงจอดได้อย่างปลอดภัยที่สนามบินลอสแอนเจลิส

    ตามรายงานของสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ส สาเหตุของเพลิงไหม้ยังไม่ชัดเจน และสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) กำลังสอบสวนเหตุการณ์นี้

    โบอิ้ง คือบริษัทผลิตเครื่องบินที่ทรัมป์กำลังกดดันให้หลายประเทศสั่งซื้อ ซึ่งรวมอยู่ในการเจรจาด้านมาตรการภาษีของสหรัฐ
    เครื่องบินโบอิ้ง 767 ของสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ส ที่มุ่งหน้าไปยังแอตแลนตา ต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินลอสแอนเจลิสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่าเครื่องยนต์เกิดเพลิงไหม้ออกมาจากเครื่องยนต์ตัวหนึ่ง รายงานระบุว่า เครื่องบินลงจอดได้อย่างปลอดภัยที่สนามบินลอสแอนเจลิส ตามรายงานของสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ส สาเหตุของเพลิงไหม้ยังไม่ชัดเจน และสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) กำลังสอบสวนเหตุการณ์นี้ โบอิ้ง คือบริษัทผลิตเครื่องบินที่ทรัมป์กำลังกดดันให้หลายประเทศสั่งซื้อ ซึ่งรวมอยู่ในการเจรจาด้านมาตรการภาษีของสหรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • https://youtu.be/yWmQA8sP4Kg?si=RrKvx5RVOKK1m4CB
    https://youtu.be/yWmQA8sP4Kg?si=RrKvx5RVOKK1m4CB
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลมอนเขาใหญ่จากเพื่อนบ้าน
    ต้นเราฝากฟ้าดินยังไม่มีผลเลย
    เลมอนเขาใหญ่จากเพื่อนบ้าน ต้นเราฝากฟ้าดินยังไม่มีผลเลย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..น่าอนาถสถานะสัมมาอาชีพของคนไทยเราที่ตกเป็นเหยื่อเจ้าสัวนายทุนผู้ละโมบโลภผลประโยชน์ต่อผู้ต่อสู้ต่อผู้บุกเบิกในแบบคนบ้านๆประชาชนคนไทยน้อยต้นทุนน้อยเงินลงทุนสนับสนุนเพื่อแสวงหาความอยู่รอดหรืออิสระทางการดำเนินชีวิตบนสังคมชุมชนไทยเราและชุมชนโลกเราจริง.
    ..ประชาชนคนไทยเราไม่สมควรเป็นผู้ร้องขอ,แต่เป็นผู้ได้รับโอกาสจริงเมื่อแจ้งความประสงค์มา.
    ..ธนาคารกลางของภาคประชาชนไทยเราจึงสมควรถือกำเนิดขึ้นจริงอย่างจริงจัง,แยกออกต่างหากชัดเจนจากธนาคารกลางของเอกชนที่กำกับดูแลเอกชน ปกป้องผลประโยชน์กำไรของธนาคารเอกชนโดยมาก เอื้อทำให้ธนาคารเอกชนมีผลประกอบการกำไรผิดปกติในขณะที่ภาคกิจการธุรกิจอื่นต่างล้มหายตายจากในวิกฤติเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนพิสูจน์ชัดเจนว่าธนาคารกลางกำลังทำเพื่อใคร อ้างประชาชนบังหน้าโดยความจริงคือกำไรของธนาคารเพิ่มขึ้นจากเงื่อนไขกติกากฎระเบียบที่ตนควบคุมประกาศใช้เพื่อเอื้ออำนวยรายได้สาระพัพทางแก่ธนาคารเอกชน ง่ายๆเช่น ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นิดหน่อยตามข่าวปลายปีหรือต้นปีนี้ สะท้อนถึงกำไรรายได้ผลประกอบการธนาคารอย่างมีนัยยะชัดเจนทันที ข้อมูลบริษัทในตลาดหุ้นโชว์ผลประกอบการชัดเจนเป็นหลักฐานว่าเขียวเกือบทุกๆแบงค์ในกระดานก็ว่า,สวนทางกับภาคอุตสาหกรรมอื่นอย่างมีนัยยะผิดปกติชัดเจน,และธนาคารกลางแห่งประเทศไทยจริงๆต้องถูกสั่งการโดยรัฐบาลได้ควบคุมได้ทางตรงสั่งดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ให้เป็นไปทิศทางเดียวกันกับประชาชนของประเทศ เจริญก็เจริญด้วยกัน พังพินาศก็พังด้วยกัน,รัฐบาลสั่งคุ้มครองทางเงินควบคุมทางการเงินได้ทั้งประเทศ,กำหนดมูลค่าเงินและทิศทางการเงินได้จริง,จะมามุกอ้างบริหารงานอิสระตัดตอนมิให้รัฐบาลมาสร้างความเสียหายทางระบบเงินของประเทศไม่ได้ จะอ้างแบบนั้นไม่ได้ ส่วนรัฐบาลใดชั่วเลวนั่นอีกปัญหาหนึ่งคนละส่วนละประเด็นมิติของปัญหาใหญ่,เช่นรัฐบาลสามารถประกาศหยุดลอยตัวอัตราแลกเปลี่ยนได้,คงที่ที่1฿:25$ก็ได้หรือ1฿:35$เป็นอัตราคงที่ก็ได้,หรือกำหนดคงที่เทียบอัตราทองคำพื้นฐานได้ที่ไม่ปั่นราคาทองคำแบบปัจจุบัน,ไม่ต้องมาพยุงอัตราแลกเปลี่ยนใดๆอีก,ล็อกการปั่นราคาเก็งกำไรก็ได้ในสายตาพวกเล่นกำไรค่าเงินนั้นๆ1บาทล็อกเงินหยวนที่1หยวนก็ได้คือ1:1 , 1บาทต่อ1หยวนเลย,1บาทต่อ1เหรียญดอลล่าร์จะเป็นอะไรเพราะเหี้ยเงินกระดาษไร้ทองคำค้ำประกันเงินดอลล่าร์อะไรเลยแค่เครดิตชื่อว่าประเทศอเมริกานำหน้าเท่านั้น,เสือกพิมพ์ตัวเองเสรีเป็นว่าตามใจตนใช้ไม่ได้ ตังQEคือหลักฐานชัดเจน,จดอลล่าร์ไร้ค่าเป็นเศษกระดาษในปัจจุบัน ผีบ้าอะไรชาติอื่นถ้าเป็นแบบนี้ค่าเงินถูกลดค่าแล้ว เงินดอลล่าร์จริงๆสมควรถูกลดค่าลดเครดิตไปนานแล้ว อาจ1บาทต่อ0.0001ดอลล่าร์โน้น.
    ..ธนาคารกลางถือกำเนิดจากแนวคิดตระกูลอีลิทdeep stateซาตานฝ่ายมืดก็ด้วย เพื่อควบคุมประเทศต่างๆทั่วโลกผ่านระบบตัง,มิให้อำนาจปกครองในแต่ละประเทศมาทำให้เครือข่ายสำนักงานมันขัดจังหวะสั่งการได้เพื่อดำเนินนโยบายใดๆของพวกมันประสานงานกันอย่างราบรื่น,จึงห้ามอำนาจฝ่ายการเมืองการปกครองใดๆย่อมาไทยคือห้ามมาแทรกแซงสำนักงานdeep stateกูนะจะเสียกระบวนควบคุมมนุษย์ในแต่ละประเทศนั้นๆผ่านกลไกระบบตังกูที่ควบคุมครอบงำไว้,และหน้าที่ของทุกๆธนาคารทั่วโลกทำกำไรให้มากๆจากนั้นส่งส่วยส่งตังโอนมาให้สำนักงานdeep stateโลกสากลทันทีที่ต่างประเทศ,ยิ่งตอนนี้ตังขาดมือพวกมรึงธนาคารกลางและลูกน้องธนาคารทั้งหมดต้องทำยอดทำตังส่งตังมาให้กูมากๆมันว่า,กล่องดวงใจมันคือธนาคารกลางในไทยหรือธนาคารกลางทั่วโลกก็ว่า,
    ..เมื่อเรามีนายกฯดีๆเข้ามาจึงต้องเด็ดขาดทิังธนาคารกลางของdeep stateไป ตั้งธนาคารกลางของคนไทยจริงของภาคมหาประชาชนคนไทยจริงขึ้นมาแทนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนทุนสัมมาอาชีพคนไทยทุกๆคนเป็นตัวเชื่อมเงินทุนจริง มิใช่เหี้ยมาออกรายการขอทานแบบนี้,เหยียบหยามประชาชนประชาชนคนไทยเราชัดเจน,และจริงๆคนไทยเราทุกๆคนร่ำรวยมาก มีปัจจัยซื้อหาวัตถุดิบสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยเราและชาวโลกได้สบาย รวมกลุ่มระดมทุนก็ได้อีก,เพราะเฉลี่ยคนไทยเราทุกๆคน มีมูลค่ากว่า400-1,000ล้านบาทต่อคนในบัญชีทางการเงินได้สบายๆเมื่อประเมินมูลค่าทรัพยากรมีค่ามากมายเต็มแผ่นดินไทย,ไม่นับรวมผลงานสร้างสรรคสร้างรายได้ต่อยอดนวัตกรรมและฝีมือด้านอื่นสาระพัดตรึมอีก,อาจรวมกันจริงๆขั้นต่ำกว่า2,000ล้านบาทต่อคนไทยสบายๆ,
    ..เราสามารถสร้างฮับเงินทุนสัมมาอาชีพเพื่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเริ่มกิจการแต่ละคนของคนไทยเราทุกๆคนได้,ที่ไม่สร้างทำเพราะต้องการไม่ให้คนไทยพึ่งพาตนเองได้ต้องไปพึ่งพาพวกมัน ไปขอตังมาลงทุนกิจการจากพวกมันหรือยึดกิจการมรึงเสียเลยขาดตัวก็ว่า,แล้วเหยียบไว้แบบพลังงานเทสล่า พลังงานไฮโดรเจนใช้แค่พลังงานน้ำก็ขับขี่รถยนต์ไปมาได้ พลังงานแม่เหล็กที่บินขึ้นลงทางแนวดิ่งสบายและไร้ขีดจำกัด,ทั้งโลกสร้างพลังงานฟรีได้แต่มันปกปิดไว้ อยากทำขายให้คนเอาตังจึงเป็นที่มาของdeep stateในมุมมองที่ไปที่มาอีกแง่หนึ่งของมันก็ว่า,คนร่ำรวยเกือบทั้งหมดบนโลกล้วนขี้ข้าdeep stateเข้ารีตกับลัทธิตาเดียว ตังมากมายมันจะโอนมาเต็มบัญชีเลยล่ะ และต้องทำตามคำสั่งตลอดเวลาด้วย,ธนาคารกลางเราก็ไม่เว้น,มีธนาคารกลางตั้งนานทำไมประชาชนยังยากจนมากมาย บัตรคนจนเพิ่มขึ้น อยู่แต่ธนาคารเอกชนทำไมกำไรกันสบายดี,ร่ำรวยรายได้กันจริงๆ,แก๊งดูดตังมันไม่สามารถดูดตังประชาชนได้หรอกถ้าธนาคารไม่อำนวยสร้าง จะมีข้อมูลจนดูดตังได้โน้น,ดูดได้จริง,ก่อนโอนออกนอกประเทศธนาคารต้องตรวจสอบก่อนด้วยมีหลักฐานบัญชีปลายทางบัญชีต้นทางหมด ใครอยู่ที่ไหน หน้าตาเป็นแบบใดดึงออกมาดูได้หมด,ตลอดสามารถระบุชัดเจนเงื่อนไขการมีบัญชีธนาคารก็ได้ ว่า1บัตรประชาชนคนไทย สามารถมีได้แค่1บัญชีธนาคารได้แค่นั้นมีแค่1เบอร์มือถือด้วย,จะตัดตอนเปิดบัญชีหลายบัญชีทันที,ตัดตอนเบอร์มิจฉาชีพด้วยสแกนตรวจจับพบตัวในไทยได้ง่าย ตัดตอนมีซิมหลายเบอร์นั้นเอง,ฟอกเงินก็ตรวจสอบง่าย ใครมีตังมากน้อยจะกลัวอะไร มี10ล้ายล้านบาทในบัญชีเดียวจะกลัวอะไร กลัวหนีภาษีไม่ได้ฟอกเงินสลับเปลี่ยนบัญชีไม่ได้,คือเริ่มต้นทำก็ไม่สุจริตซื่อสัตย์นั้นเอง,กสทช.ก็อัพเรเวลระบบเสีย ผูกระบบโชว์ชื่อนามสกุลคนโทรเข้าเครื่องปลายทางอัตโนมัติด้วยแม้เครื่องปลายทางไม่ได้บันทึกชื่อสกุลนั่นไว้ในเครื่องเข้า,ใครโทรมานะบบตรวจจับโชว์ชื่อสกุลทันที นี้อะไรแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาก็ไม่รู้ ใครโทรมาก็โชว์ผีบ้าแต่เบอร์แต่ตัวเลข,ซื้อซิมก็ใช้บัตรประชาชนชื่อนามสกุลจริงซื้อ,กสทช.ต้องอัพระบบใหม่หมด,มือถือต้องเปลี่ยนให้รองรับก็ต้องเปลี่ยน,แจกแลกฟรีก็ได้เพื่อมือถือเครื่องนั้นรันกับระบบได้ ทำโปรแกรมได้ดั่งที่ว่า,ใช้ซิมกดฉนวนระเบิดภาคใต้ก็จะจบไปซิมห่าเหวอะไรเลอะเทอะล้นตลาดหมด,
    ..จึงต้องมีธนาคารกลางของภาคประชาชนจริงๆมิใช่ของธนาคารเอกชน มิใช่ของdeep state,
    ..ธนาคารภาคประชาชนจะเป็นอนาคตที่สดใสทันทีแิดตั้งแต่ต้นก่ประชาชน,มิใช่สดใสแก่ธนาคารเอกชนนายทุนสมคบคิดกับธนาคารเอกชนนั้นๆมันก็ช่วยเหลือเจ้าสัวอาเสี่ยอาเหี้ยมันกันเองนั้นล่ะเป็นหลัก ประชาชนทั่วไปเข้าไปใช้บริการก็แค่พบหมาตายเท่านั้นไร้ค่าไร้ความหมายราคาแก่พวกๆมัน,อ้างประชาชนรับใบอนุญาตประกอบการหาแดกแค่นั้นล่ะ,ประชาชนคือเหยื่อให้มัน,หนีัคือสิ่งที่มันมอบให้.จากนั้นความโกลาหลดิ้นรนบ้าคลั่งขาดสติจะตามมา,แล้วก็ไม่นาน สส.สว.ข้าราชการทั้งระบบมันจะซื้อด้วยเงินในระบบมันสิ้น,ขาดตังลงแดงขาดใจทันทีก็ว่า.ครอบครัวทั้งหมดพังพินาศทันทีเมื่อขาดตัง,สามีภรรยาทะเลาะกันสิ้น,ญาติพี่น้องทะเลาะกันก็เพราะมันคือตัง,ค่าใช้จ่ายสาระพัดต้องกำจัดปัญหาด้วยตังนั้นเอง,เด็กๆไปโรงเรียนต้องใช้ตัง,ค่ารักษายามเจ็บไข้ได้ป่วยต้องใช้ตัง,นี้คือผลของการที่ให้มีธนาคารกลางของdeep stateในประเทศไทยเรา,แต่ไม่มีธนาคารกลางจริงๆของภาคประชาชนไทยตนเอง,เราปกครองจากการเขียนแม่พิมพ์จากการเขียนแบบแปลงที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้น,จึงต้องฉีกทิ้งมันทั้งหมดทันที,แล้วทำการเขียนใหม่ให้เป็นคุณแก่ภาคประชาชนเราจริงๆ.


    ..https://youtube.com/watch?v=M2USTwH-07k&si=40fTL6CmVqQ2GYHm
    ..น่าอนาถสถานะสัมมาอาชีพของคนไทยเราที่ตกเป็นเหยื่อเจ้าสัวนายทุนผู้ละโมบโลภผลประโยชน์ต่อผู้ต่อสู้ต่อผู้บุกเบิกในแบบคนบ้านๆประชาชนคนไทยน้อยต้นทุนน้อยเงินลงทุนสนับสนุนเพื่อแสวงหาความอยู่รอดหรืออิสระทางการดำเนินชีวิตบนสังคมชุมชนไทยเราและชุมชนโลกเราจริง. ..ประชาชนคนไทยเราไม่สมควรเป็นผู้ร้องขอ,แต่เป็นผู้ได้รับโอกาสจริงเมื่อแจ้งความประสงค์มา. ..ธนาคารกลางของภาคประชาชนไทยเราจึงสมควรถือกำเนิดขึ้นจริงอย่างจริงจัง,แยกออกต่างหากชัดเจนจากธนาคารกลางของเอกชนที่กำกับดูแลเอกชน ปกป้องผลประโยชน์กำไรของธนาคารเอกชนโดยมาก เอื้อทำให้ธนาคารเอกชนมีผลประกอบการกำไรผิดปกติในขณะที่ภาคกิจการธุรกิจอื่นต่างล้มหายตายจากในวิกฤติเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนพิสูจน์ชัดเจนว่าธนาคารกลางกำลังทำเพื่อใคร อ้างประชาชนบังหน้าโดยความจริงคือกำไรของธนาคารเพิ่มขึ้นจากเงื่อนไขกติกากฎระเบียบที่ตนควบคุมประกาศใช้เพื่อเอื้ออำนวยรายได้สาระพัพทางแก่ธนาคารเอกชน ง่ายๆเช่น ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นิดหน่อยตามข่าวปลายปีหรือต้นปีนี้ สะท้อนถึงกำไรรายได้ผลประกอบการธนาคารอย่างมีนัยยะชัดเจนทันที ข้อมูลบริษัทในตลาดหุ้นโชว์ผลประกอบการชัดเจนเป็นหลักฐานว่าเขียวเกือบทุกๆแบงค์ในกระดานก็ว่า,สวนทางกับภาคอุตสาหกรรมอื่นอย่างมีนัยยะผิดปกติชัดเจน,และธนาคารกลางแห่งประเทศไทยจริงๆต้องถูกสั่งการโดยรัฐบาลได้ควบคุมได้ทางตรงสั่งดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ให้เป็นไปทิศทางเดียวกันกับประชาชนของประเทศ เจริญก็เจริญด้วยกัน พังพินาศก็พังด้วยกัน,รัฐบาลสั่งคุ้มครองทางเงินควบคุมทางการเงินได้ทั้งประเทศ,กำหนดมูลค่าเงินและทิศทางการเงินได้จริง,จะมามุกอ้างบริหารงานอิสระตัดตอนมิให้รัฐบาลมาสร้างความเสียหายทางระบบเงินของประเทศไม่ได้ จะอ้างแบบนั้นไม่ได้ ส่วนรัฐบาลใดชั่วเลวนั่นอีกปัญหาหนึ่งคนละส่วนละประเด็นมิติของปัญหาใหญ่,เช่นรัฐบาลสามารถประกาศหยุดลอยตัวอัตราแลกเปลี่ยนได้,คงที่ที่1฿:25$ก็ได้หรือ1฿:35$เป็นอัตราคงที่ก็ได้,หรือกำหนดคงที่เทียบอัตราทองคำพื้นฐานได้ที่ไม่ปั่นราคาทองคำแบบปัจจุบัน,ไม่ต้องมาพยุงอัตราแลกเปลี่ยนใดๆอีก,ล็อกการปั่นราคาเก็งกำไรก็ได้ในสายตาพวกเล่นกำไรค่าเงินนั้นๆ1บาทล็อกเงินหยวนที่1หยวนก็ได้คือ1:1 , 1บาทต่อ1หยวนเลย,1บาทต่อ1เหรียญดอลล่าร์จะเป็นอะไรเพราะเหี้ยเงินกระดาษไร้ทองคำค้ำประกันเงินดอลล่าร์อะไรเลยแค่เครดิตชื่อว่าประเทศอเมริกานำหน้าเท่านั้น,เสือกพิมพ์ตัวเองเสรีเป็นว่าตามใจตนใช้ไม่ได้ ตังQEคือหลักฐานชัดเจน,จดอลล่าร์ไร้ค่าเป็นเศษกระดาษในปัจจุบัน ผีบ้าอะไรชาติอื่นถ้าเป็นแบบนี้ค่าเงินถูกลดค่าแล้ว เงินดอลล่าร์จริงๆสมควรถูกลดค่าลดเครดิตไปนานแล้ว อาจ1บาทต่อ0.0001ดอลล่าร์โน้น. ..ธนาคารกลางถือกำเนิดจากแนวคิดตระกูลอีลิทdeep stateซาตานฝ่ายมืดก็ด้วย เพื่อควบคุมประเทศต่างๆทั่วโลกผ่านระบบตัง,มิให้อำนาจปกครองในแต่ละประเทศมาทำให้เครือข่ายสำนักงานมันขัดจังหวะสั่งการได้เพื่อดำเนินนโยบายใดๆของพวกมันประสานงานกันอย่างราบรื่น,จึงห้ามอำนาจฝ่ายการเมืองการปกครองใดๆย่อมาไทยคือห้ามมาแทรกแซงสำนักงานdeep stateกูนะจะเสียกระบวนควบคุมมนุษย์ในแต่ละประเทศนั้นๆผ่านกลไกระบบตังกูที่ควบคุมครอบงำไว้,และหน้าที่ของทุกๆธนาคารทั่วโลกทำกำไรให้มากๆจากนั้นส่งส่วยส่งตังโอนมาให้สำนักงานdeep stateโลกสากลทันทีที่ต่างประเทศ,ยิ่งตอนนี้ตังขาดมือพวกมรึงธนาคารกลางและลูกน้องธนาคารทั้งหมดต้องทำยอดทำตังส่งตังมาให้กูมากๆมันว่า,กล่องดวงใจมันคือธนาคารกลางในไทยหรือธนาคารกลางทั่วโลกก็ว่า, ..เมื่อเรามีนายกฯดีๆเข้ามาจึงต้องเด็ดขาดทิังธนาคารกลางของdeep stateไป ตั้งธนาคารกลางของคนไทยจริงของภาคมหาประชาชนคนไทยจริงขึ้นมาแทนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนทุนสัมมาอาชีพคนไทยทุกๆคนเป็นตัวเชื่อมเงินทุนจริง มิใช่เหี้ยมาออกรายการขอทานแบบนี้,เหยียบหยามประชาชนประชาชนคนไทยเราชัดเจน,และจริงๆคนไทยเราทุกๆคนร่ำรวยมาก มีปัจจัยซื้อหาวัตถุดิบสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยเราและชาวโลกได้สบาย รวมกลุ่มระดมทุนก็ได้อีก,เพราะเฉลี่ยคนไทยเราทุกๆคน มีมูลค่ากว่า400-1,000ล้านบาทต่อคนในบัญชีทางการเงินได้สบายๆเมื่อประเมินมูลค่าทรัพยากรมีค่ามากมายเต็มแผ่นดินไทย,ไม่นับรวมผลงานสร้างสรรคสร้างรายได้ต่อยอดนวัตกรรมและฝีมือด้านอื่นสาระพัดตรึมอีก,อาจรวมกันจริงๆขั้นต่ำกว่า2,000ล้านบาทต่อคนไทยสบายๆ, ..เราสามารถสร้างฮับเงินทุนสัมมาอาชีพเพื่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเริ่มกิจการแต่ละคนของคนไทยเราทุกๆคนได้,ที่ไม่สร้างทำเพราะต้องการไม่ให้คนไทยพึ่งพาตนเองได้ต้องไปพึ่งพาพวกมัน ไปขอตังมาลงทุนกิจการจากพวกมันหรือยึดกิจการมรึงเสียเลยขาดตัวก็ว่า,แล้วเหยียบไว้แบบพลังงานเทสล่า พลังงานไฮโดรเจนใช้แค่พลังงานน้ำก็ขับขี่รถยนต์ไปมาได้ พลังงานแม่เหล็กที่บินขึ้นลงทางแนวดิ่งสบายและไร้ขีดจำกัด,ทั้งโลกสร้างพลังงานฟรีได้แต่มันปกปิดไว้ อยากทำขายให้คนเอาตังจึงเป็นที่มาของdeep stateในมุมมองที่ไปที่มาอีกแง่หนึ่งของมันก็ว่า,คนร่ำรวยเกือบทั้งหมดบนโลกล้วนขี้ข้าdeep stateเข้ารีตกับลัทธิตาเดียว ตังมากมายมันจะโอนมาเต็มบัญชีเลยล่ะ และต้องทำตามคำสั่งตลอดเวลาด้วย,ธนาคารกลางเราก็ไม่เว้น,มีธนาคารกลางตั้งนานทำไมประชาชนยังยากจนมากมาย บัตรคนจนเพิ่มขึ้น อยู่แต่ธนาคารเอกชนทำไมกำไรกันสบายดี,ร่ำรวยรายได้กันจริงๆ,แก๊งดูดตังมันไม่สามารถดูดตังประชาชนได้หรอกถ้าธนาคารไม่อำนวยสร้าง จะมีข้อมูลจนดูดตังได้โน้น,ดูดได้จริง,ก่อนโอนออกนอกประเทศธนาคารต้องตรวจสอบก่อนด้วยมีหลักฐานบัญชีปลายทางบัญชีต้นทางหมด ใครอยู่ที่ไหน หน้าตาเป็นแบบใดดึงออกมาดูได้หมด,ตลอดสามารถระบุชัดเจนเงื่อนไขการมีบัญชีธนาคารก็ได้ ว่า1บัตรประชาชนคนไทย สามารถมีได้แค่1บัญชีธนาคารได้แค่นั้นมีแค่1เบอร์มือถือด้วย,จะตัดตอนเปิดบัญชีหลายบัญชีทันที,ตัดตอนเบอร์มิจฉาชีพด้วยสแกนตรวจจับพบตัวในไทยได้ง่าย ตัดตอนมีซิมหลายเบอร์นั้นเอง,ฟอกเงินก็ตรวจสอบง่าย ใครมีตังมากน้อยจะกลัวอะไร มี10ล้ายล้านบาทในบัญชีเดียวจะกลัวอะไร กลัวหนีภาษีไม่ได้ฟอกเงินสลับเปลี่ยนบัญชีไม่ได้,คือเริ่มต้นทำก็ไม่สุจริตซื่อสัตย์นั้นเอง,กสทช.ก็อัพเรเวลระบบเสีย ผูกระบบโชว์ชื่อนามสกุลคนโทรเข้าเครื่องปลายทางอัตโนมัติด้วยแม้เครื่องปลายทางไม่ได้บันทึกชื่อสกุลนั่นไว้ในเครื่องเข้า,ใครโทรมานะบบตรวจจับโชว์ชื่อสกุลทันที นี้อะไรแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาก็ไม่รู้ ใครโทรมาก็โชว์ผีบ้าแต่เบอร์แต่ตัวเลข,ซื้อซิมก็ใช้บัตรประชาชนชื่อนามสกุลจริงซื้อ,กสทช.ต้องอัพระบบใหม่หมด,มือถือต้องเปลี่ยนให้รองรับก็ต้องเปลี่ยน,แจกแลกฟรีก็ได้เพื่อมือถือเครื่องนั้นรันกับระบบได้ ทำโปรแกรมได้ดั่งที่ว่า,ใช้ซิมกดฉนวนระเบิดภาคใต้ก็จะจบไปซิมห่าเหวอะไรเลอะเทอะล้นตลาดหมด, ..จึงต้องมีธนาคารกลางของภาคประชาชนจริงๆมิใช่ของธนาคารเอกชน มิใช่ของdeep state, ..ธนาคารภาคประชาชนจะเป็นอนาคตที่สดใสทันทีแิดตั้งแต่ต้นก่ประชาชน,มิใช่สดใสแก่ธนาคารเอกชนนายทุนสมคบคิดกับธนาคารเอกชนนั้นๆมันก็ช่วยเหลือเจ้าสัวอาเสี่ยอาเหี้ยมันกันเองนั้นล่ะเป็นหลัก ประชาชนทั่วไปเข้าไปใช้บริการก็แค่พบหมาตายเท่านั้นไร้ค่าไร้ความหมายราคาแก่พวกๆมัน,อ้างประชาชนรับใบอนุญาตประกอบการหาแดกแค่นั้นล่ะ,ประชาชนคือเหยื่อให้มัน,หนีัคือสิ่งที่มันมอบให้.จากนั้นความโกลาหลดิ้นรนบ้าคลั่งขาดสติจะตามมา,แล้วก็ไม่นาน สส.สว.ข้าราชการทั้งระบบมันจะซื้อด้วยเงินในระบบมันสิ้น,ขาดตังลงแดงขาดใจทันทีก็ว่า.ครอบครัวทั้งหมดพังพินาศทันทีเมื่อขาดตัง,สามีภรรยาทะเลาะกันสิ้น,ญาติพี่น้องทะเลาะกันก็เพราะมันคือตัง,ค่าใช้จ่ายสาระพัดต้องกำจัดปัญหาด้วยตังนั้นเอง,เด็กๆไปโรงเรียนต้องใช้ตัง,ค่ารักษายามเจ็บไข้ได้ป่วยต้องใช้ตัง,นี้คือผลของการที่ให้มีธนาคารกลางของdeep stateในประเทศไทยเรา,แต่ไม่มีธนาคารกลางจริงๆของภาคประชาชนไทยตนเอง,เราปกครองจากการเขียนแม่พิมพ์จากการเขียนแบบแปลงที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้น,จึงต้องฉีกทิ้งมันทั้งหมดทันที,แล้วทำการเขียนใหม่ให้เป็นคุณแก่ภาคประชาชนเราจริงๆ. ..https://youtube.com/watch?v=M2USTwH-07k&si=40fTL6CmVqQ2GYHm
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว